@@BBP_BKK ใช่ครับ ชอบคำนี้มากๆเลย “You get what you deserve” สุดท้ายแล้วก็เป็นเพราะสิ่งที่ใครสักคนเห็นว่าถูกต้องสำหรับตัวเอง ทำให้เกิดผลกระทบตามมาเป็นความสูญเสียจากสิ่งที่ตัวเองตัดสิน เป็นจุดกำเนิดเรื่องราวและจุดจบของทั้งสองภาคได้แบบเพอร์เฟคจริงๆ 👏🏻 ยุคนี้จะมีแต่คนที่บอกให้เราเชื่อหัวใจตัวเองแต่ไม่ค่อยมีใครกำชับว่าต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของมนุษยธรรม ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนแต่มันจะสร้างความเคยชินให้กับวิจารณญาณของเราจนเกิดการละเลยสามัญสำนึกขั้นพื้นฐานไปและตัดสินใจทำเรื่องแย่ๆได้อย่างไม่ยากเย็น
คุยกับจิตแพทย์ 'อาการโจ๊กเกอร์ (อาเธอร์) 'สามารถเกิดกับคนทั่วไปได้ไหม th-cam.com/video/ReXoEWis1do/w-d-xo.htmlsi=yluglOxQ5K7qPabt
หวังว่าหน้าจากนี้สตูดิโอต่าง ๆ จะมีสติและนึกถึงหนังเรื่องนี้เอาไว้เป็นตัวอย่างเลยว่า ถ้าเขาบอกว่าทำออกมาจบในภาคเดียวก็คือภาคเดียว อย่าเห็นแก่เงินจนไปบังคับให้เขาทำภาคต่อทั้ง ๆ ที่ไม่ได้อยากทำ
ยังดีนะที่ Joker (2019) ทำกำไรไปแบบถล่มทลาย ก็เลยต่อให้ Joker: Folie à deux จะไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียวก็ไม่ขาดทุน
คิดผิดตั้งแต่ดันทำเป็นหนังมิวสิคัลนี่ล่ะครับ ถ้าทำเป็นหนังปกติ มีพล็อตเรื่องประมาณว่าหลังจากโจ๊กเกอร์ติดคุกผ่านไป 8ปี บรู๊ซเวย์ในวัยรุ่นหาทางแก้แค้นโจ๊กเกอร์ที่เป็นสาเหตุให้พ่อตัวเองต้องโดนฆ่าตาย แบบนี้จะถูกใจแฟนหนังมากกว่าครับ
เอาจริงถ้าทำแนวนั้นผมในฐานะแฟนโจ๊กเกอร์ 2019 ผมก็ไม่อยากดูนะครับ😢 มิวสิคคัลผมยังรู้สึกน่าสนใจกว่า เพราะดนตรีคือส่วนประกอบของอาเธอร์เฟล็คจริงๆ ในภาคแรก ฉากห้องน้ำภาคแรกก็เกิดเพราะวาคีนได้ฟังเพลงของ hildur ที่เป็นComposerของเรื่อง แกถึงตัดสินใจเต้นรำขค้นมาในฉากนั้น ตอนถ่ายทำ
ใช่แน่
โจ๊กเกอร์ไม่ได้ฆ่านะครับ
😂 ท๊อดด์ แกบอกแล้วครับว่าแกไม่ได้ทำหนังตามคอมมิค ดังนั้นไม่มีแบทแมนในหนังแกแน่ แกบอกไม่สนใจคอมมิคแกไม่อ่านการ์ตูนด้วย แค่ทำหนังอิงมาจากคอมิคเฉยๆ .......งงไหม ถ้างงวนกลับไปอ่านอีกรอบ 😅
😂อู้ยยย....เบื้องหลัง แซ่บส์กว่าตัวหนังจริงๆอีกนะฮ้าา
เอาจริงภาคแรกก็งั้นๆนะถ้าไม่ได้การแสดงของวาควิน บอกเลยว่าจืดสนิท!!!
ใช่ 😂
เห็นด้วยเลย
จริงดูไม่เห็นจะดิ่งไรเลย ได้การแสดงล้วนๆ
ใช่ครับ ผมว่าแย่เลย ref taxi driver กับ king com มา แล้วทุกอย่างเหมือนกันหมด แต่โชคดีคนเบียวชอบเยอะ😂😂😂
+++ ครับ
ผมว่าที่คนส่วนใหญ่ไม่ชอบหนังเรื่องนี้เพราะผิดหวังที่ joker ไม่ได้เป็นแบบที่เขาคิด เหมือนที่หนังจะสื่อเลยว่า Joker ก็คือ Arthur ตั้งแต่แรกไม่ได้มี2บุคลิกอะไรเลย ”ผมยังเป็นผมคนเดิมที่คุณตกหลุมรัก” “ในโลกนี้ไม่มีJokerหรอก” พอคนดูผิดหวังแล้วก็สาดเสียเทเสียเหมือนตอนจบของหนังที่ตัวประกอบที่เหมือน “เจอโรม” จาก Gotham มาลงโทษ Arthur ให้ได้รับสิ่งที่ตัวเองคิดว่าเขาสมควรได้รับ
ผมชอบนะหนังมันมีความหมายลึกซึ้งมากๆ สำรวจความเป็นมนุษย์ของคนดูเลย ว่ามีความเข้าใจความเห็นใจคนอื่นแค่ไหน ส่วนที่เป็นหนังมิวสิคอลผมว่ามันก็ดีนะ มันมีน้อย แล้วยิ่งเป็นมิวสิคอลที่สำรวจความเป็นมนุษย์แบบนี้ยิ่งน้อยเข้าไปอีก ที่1ในใจเลยคือ Les Misérables แต่ที่มิวสิคอลที่คนชอบจะเป็นแนวดราม่าอย่าง Lalaland ,The greatest showman ซะมากกว่า
Joker นี่คือตัวอย่างของ หนังที่ดีไม่ต้องเป็นหนังที่สนุกก็ได้ เหมือนหนัง 127hours คนติดซอกหิน หนังน่าเบื่อที่ได้รางวัลเพราะเป็นหนังที่สำรวจความเป็นมนุษย์ของคนดูว่าคุณเข้าใจความรู้สึกของตัวละครในตอนนั้นของเรื่องรึเปล่า มีความเป็นจิตวิทยาสูง ผมเห็นเยอะเลยที่คนดูไม่เก็ทตั้งแต่ตอนที่ดู ต้องออกมาดูคำวิจารณ์ของคนอื่นถึงจะเก็ทข้อความที่หนังจะสื่อ joker ภาคนี้หนังสื่อกับคนดูได้ครบทุกมุมมองของตัวละคร แต่ซีนที่เป็น Musical ไม่เหมือนเรื่องอื่นๆที่จะเป็นการร้องเพลงขึ้นมาในฉากของเนื้อเรื่องเลยแต่เรื่องนี้เป็นเพลงที่อยู่ในความคิดในหัวของตัวละครแทน เป็นบทและการลำดับเหตุการณ์ได้เข้ากับความรู้สึกของตัวละคร ทุกการตัดสินใจของตัวละครตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นมนุษย์ในชีวิตจริง ไม่มีภาพความเป็นตัวละครคอมิคเหลืออยู่เลย ทุกเพลงที่ตัดเข้ามาคือแสดงถึงความคิดในหัวของตัวละครตอนนั้นเลย ฉากที่ลีคุยกับอาเธอร์ผ่านกระจกแล้วร้อง close to you ขึ้นมาได้ถูกเวลาและเหมาะมาก กับฉากที่ Arthur หมดความอดทนแล้วร้อง The joker ขึ้นมา นี่ขนลุกเลย แบบ Prince of crime มาแล้ว กับฉากสุดท้ายของ Arthur ตอนร้องท่อนสุดท้ายของ Gonna build a mountain ว่า “I want a fine young son to take my place” แล้วตัดภาพมาที่ปัจจุบันนี่คือนึกถึง เจอโรม จากซีรี่ย์ Gotham เลย Joker legacy คือ son of madness ที่จะขยายต่อไปเป็น the clown,the comedian,the criminal ได้ด้วย คือท็อด ฟิลลิป เข้าใจ lore ของตัวละคร joker มากๆ แล้วยังสื่อออกมาได้ครบถ้วนเลย “ในโลกนี้มันไม่มี joker หรอก ที่มีก็แพงแต่คนธรรมดาคนนึงตรงนี้ที่โลกผลักใสให้เขาเป็นตัวตลกเพื่อจะปิดบังทุกสิ่งที่เลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นกับคนๆนึงให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอาชญากรรมที่ทำให้เกิดฆาตกรขึ้นมาก็เท่านั้น” 👏🏻💯♦️♠️
เห็นด้วยครับ ชอบหนังเรื่องนี้เหมือนกัน ส่วนตัวผมคิดเองเล่นๆว่า ถ้าตั้งชื่อหนัง 2 เรื่องนี้ใหม่ ผมจะให้ภาคแรกชื่อ Joker กับภาคสองชื่อ Arthur Fleck ภาคแรกไว้สำหรับคนรัก Joker อยากได้ความเดือด ความสะใจ ความดิบเถื่อน ส่วนภาคสองไว้สำหรับคนรัก Arthur Fleck ซึ่งเป็นแค่คนธรรมดาน่าสงสาร เป็น loser ที่แปลกๆฟุ้งๆ ชอบใจลอย สมาธิสั้น (ก็เลยมีดนตรีในหัวโผล่มาอยู่เรื่อย) ทั้งสองภาคไม่ใช่หนังภาคต่อ แต่เป็นหนังภาคคู่ขนาน เป็นหนังคู่ที่เล่าเรื่องราวสองด้านของคนคนเดียวกัน
ผู้คนเกือบทั้งเรื่องมองตัว Joker ทั้งคนที่เกลียดชัง Joker และคนที่สรรเสริญ Joker ต้องการให้ Arthur เป็น Joker ในทางกลับกัน ทนายกับเพื่อนคนแคระ ก็มองแค่ Arthur ไม่ต้องการ Joker โดยเฉพาะทนายนี่ พยายามจะสรุปว่า Arthur เป็นโรคสองบุคลิกเสียให้ได้ ทุกคนเลือกไปฝั่งใดฝั่งหนึ่ง แต่ไม่มีสักคนที่จะมองความต้องการที่แท้จริงของ Arthur ว่าจริงๆแล้ว Joker และ Arthur ก็คือคนเดียวกันนั่นแหล่ะ คนที่บอบช้ำถูกกระทำจากสังคมจนเก็บกด จนระเบิดความบ้าคลั่งออกมา และสุดท้ายแล้วก็ยังเป็นคนไร้พลัง ที่ต้องอยู่ภายใต้ระบบ ต้องมาเข้าคุกถูกคุมขังจากความผิดที่ตัวเองก่อไม่ต่างจากคนอื่น เป็นคนธรรมดาที่ก็แค่ต้องการความรัก ต้องการการยอมรับ ต้องการครอบครัว ต้องการเพื่อน ต้องการชีวิตที่ปกติ
ชอบฉากจบสุดท้ายที่ปิดฉากความเป็นหนังภาคคู่ขนานได้อย่างสมบูรณ์ คือ คนที่เป็น idol (ภาคที่แล้วคือ Murray พิธีกร ส่วนภาคนี้คือ Joker) เมื่อความจริงเปิดเผยว่าคุณก็ไม่ได้เป็นอย่างที่สาวกแฟนคลับอยากให้เป็น "คุณก็จะได้รับสิ่งที่คุณสมควรได้รับ!" "You get what you deserve!" นั่นคือความตาย เป็นฉาก climax ของทั้งสองภาค ที่เป็นฉากเดียวกันจากสองฝั่งของมุมมองอย่างกับวางไว้แล้วตั้งแต่ภาคแรก
@@BBP_BKK ใช่ครับ ชอบคำนี้มากๆเลย “You get what you deserve” สุดท้ายแล้วก็เป็นเพราะสิ่งที่ใครสักคนเห็นว่าถูกต้องสำหรับตัวเอง ทำให้เกิดผลกระทบตามมาเป็นความสูญเสียจากสิ่งที่ตัวเองตัดสิน เป็นจุดกำเนิดเรื่องราวและจุดจบของทั้งสองภาคได้แบบเพอร์เฟคจริงๆ 👏🏻 ยุคนี้จะมีแต่คนที่บอกให้เราเชื่อหัวใจตัวเองแต่ไม่ค่อยมีใครกำชับว่าต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของมนุษยธรรม ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนแต่มันจะสร้างความเคยชินให้กับวิจารณญาณของเราจนเกิดการละเลยสามัญสำนึกขั้นพื้นฐานไปและตัดสินใจทำเรื่องแย่ๆได้อย่างไม่ยากเย็น
สุดท้ายต้องชี้นิ้วไปที่ผกก.ท็อดด์ ฟิลลิป อย่างที่พี่จีนว่า ทำหนังแบบไม่สนห่านอะไรคนดูเลย เอาจริง ๆ หนังมันร้องเพลงมากกว่าหนังอินเดียเสียอีกนะ
แต่พาร์ทที่ไม่ร้องเพลงนี่มันแข็งแรงนะ และสานต่อชีวิตอาเธอร์ หลังกลายเป็นไอคอน "โจ๊กเกอร์" ได้ดีมาก ๆ
แค่ได้ชื่อว่าหนังแนวมิวสิคัล หลายคนก็ไม่คิดจะดูแล้ว ผมล่ะคนนึงที่โคตรไม่ชอบหนังแนวนี้ ทนดูฉากร้องเพลงไม่ได้เพราะมันดูโลกสวยและ ปญอ เกิน 😅
@@Kay_Surasak คือภาคแรกมาทรงดราม่าจิตวิทยาหนักอึ้ง พอภาคนี้เป็นมิวสิคัลจิตวิทยา มันคนะเรื่องคนละแนวเลย ออกมาฟุ้งฝัน ลอย ๆ เหมือนคนเสพยาแล้วอยู่ในภวังค์ ผมดูหนังมิวสิคัลได้นะครับ แต่...มันต้องไม่ใช่แบบนี้
@@Kay_Surasak คิดเหมือนกัน พอรู้ว่าเป็นมิสสิคเคิ้ลไม่อยากดูเลย
ง่ายๆคือ พระเอกอยากเป็นตัวเองซึ่งคืออาเทอร์เฟรกไม่ไช่คนอื่นเขามากำหนดให้เป็นโจกเกอร์ แต่สิ่งที่ผกกต้องการทำคือทำมันออกมาให้เป็นแบบนี้ แต่คนดูไม่ได้ต้องการให้ออกมาเป็นแบบนี้ครับ
ยังไงไม่รู้นะ แต่เรื่องนี้ทำให้นึกถึงตอนไทก้า ไวติติที่หลังจากธอร์ 4 ฉายไปแล้ว แกก็มีให้สัมภาษณ์แนวๆว่า แกไม่มีแพชชั่เลย ทำไมค่ายยังให้กุทำต่ออีกเนี่ย 55555
ก็ไม่ต่างกะแมทริกที่ภาค 4 งอกขึ้นมาด้วยความสตูดิโอโลภ
@@P_Miruvor ช่ายยยย
ภาคแรกคนที่ไปดูแล้วไม่ได้ว้าวก็เยอะอยู่นะ ซื้อตั๋วไปดูเพราะกระแสเฉยๆ
จริงคับ แบบนี้มีเยอะเลยขอบอก เพื่อนในห้องเรียนไปดูหลายคนก้เฉยๆ แต่มันเปนกระแสเยอะ
ภาคแรกที่กระแสมันดังเพราะคนพูดถึง "การแสดงของวาคิน" มากกว่าเรื่องของ "บท" หนังที่เล่าเรื่องของชนชั้นนี่มีเป็นสิบเรื่องละ แต่ที่เรื่องนี้มันต่างคือมันดันอยู่ใน Gotham แค่นั้นเลย สรุปคือภาคแรกดังเพราะการแสดงไม่ใช่บท
ผมก็หนึ่งในนั้นนะดูแล้วก็ไม่ได้อินขนาดนั้นนะแต่เห็นกระแสมาเยอะเลยไปดู
ผมก็แอบรู้สึกว่า ผกก.เขาอยากทำแค่ภาคแรก ไม่ได้อยากทำต่อแล้ว แต่ให้ทุนทำมาก็ทำก็ได้ๆ เซ้าซี้จริง
ไม่สนใจรายได้ไม่สนใจอะไรขอแค่ทำให้เสร็จๆเท่าที่อยากทำ🤔
อยู่เป็นเพื่อนกัปตันแมวเวล กำไรภาคแรกมาทบขาดทุนภาคนี้แล้วแยกย้ายกันไป จบปิ้ง😂
ผมคิดว่า ตอนภาค 1 มันมีปัญหาใหญ่เลยคือ คนดูดันเชิดชูความรุนแรงของหนัง ภาคนี้ฟิลิปส์เลยตั้งใจเขียนพล็อตให้แก้ปัญหานั้นโดยเฉพาะ คือทำให้คนไม่ชอบโจ๊กเกอร์ และมันได้ผลสุด ๆ
สำหรับผม ผมไม่เชื่อว่ากาก้าเป็นฮาร์ลีย์ เหมือนดูเลดี้กาก้า มาร้องเพลงในหนังให้ฟัง
แกตั้งใจส่งไม้ต่อให้โจ็กเกอร์คนใหม่ แบบภาคนี่ให้ด่ายับ แล้วตบด้วยภาค3ที่ยิ่งใหญ่ ...รึเปล่า😆😆
ความรู้สึกเหมือนเรื่อง Speed (1994) เลย ภาคแรกอย่างตำนาน ภาคหลังอย่างตำแย
้อิริค เทน ฮาก แห่งวงการภาพยนตร์
🥰🥰🎉🎉🎉
หนังเนื้อเรื่องไม่เลวอยู่ครับ แต่ในส่วนของเพลง สัดส่วนมันมากเกินไปและขัดจังหวะหนังเยอะมาก ถ้าลดส่วนนี้ไปเพิ่มเนื้อเรื่อง มันอาจจะดีกว่า
ถ้ามันผิด ผมว่าก็ผิดที่ผกก. นะ ผกก. จะไม่ทำก็ได้ แต่ก็เลือกที่จะทำ แถมยังสั่งอีกว่า ห้ามคนอื่นเข้ามายุ่ง แถมยังใช้ทุนได้เต็มที่อีก ก็ต้องเห็นใจ WB ด้วย เพราะเขาก็ไม่ได้ก้าวก่ายอะไรแล้ว ประมาณว่า โอเค กูให้สิทธิ์มึงเต็ฒที่ ไม่งั้นเดี๋ยวชาวเน็ตด่ากูอีกถ้าหนังไม่ดี (ทั้ง ๆ ที่การเป็นหนัง Musical สำหรับค่ายหนังคือไม่มีใครอยากทำ แต่ยังให้ผกก.ทำ เพราะตามใจสุดๆแล้ว) พอมันเจ๊ง ตอนนี้ มันก็โทษที่ตัว Todd เองแล้ว เพราะ WB ไม่ได้เข้ามายุ่ง
เพราะเปลี่ยนแนวเป็นหนังเพลงนั่นแหละ คนต้องการดราม่าที่เข้มข้นไม่แพ้ภาคแรก แต่กลับผิดหวัง
เอาหนังใหญ่มาทำเล่น แถมจะปูทางให้โจ๊กเกอร์คนต่อไปแบบไม่ได้ปูอะไรเลย 😆😆😆
เคยได้ยินว่า ผกก.แกไม่ได้อยากทำต่อแล้วแต่ค่ายหนังอยากให้ทำต่อนี่จริงมั้ยครับ? ถ้าจริงนี่คือเหมือน ผกก.คงสักแต่ทำให้มันจบๆไป
จริงครับ เพราะ ผกก.บอกเองเลยว่ามันจบตั้งแต่ภาคแรกแล้ว แต่ WB ไปอ้อนวอนแกให้ทำต่อ
ผมว่า ผกก. คงไม่สักแต่ทำหรอกครับถ้าแบบนั่นจะเสียชื่อตัวเองและเสียอนาคตในสายอาชีพตัวเอง รอตามข่าวเรื่อยๆก่อนครับ
เหมือน the matrix 4 ใช่ไหมไม่อยากทำต่อ
@@wichanaothaworn9441 Matrix 4 เหมือนผกก.แกมีเรื่องอยากจะเล่า แต่มันดันไม่เวิร์คนี่แหละ 🤣🤣🤣
กำไรแล้ว นายทุนอยากให้ทำตีอ🤑🦹
ทำโจ๊กเกอร์พังของแท้เลยครับ😢
วานเนอร์เคยโดนด่าเรื่องบอร์ดแทรกแทรกผู้กำกับเยอะเกิน เฮียเจมส์แกก็เคยได้รับอิสระในการทำเยอะ แถมทอดส์แกก็ทำกำไรมา เหล่านี้เลยคงจะเป็นเหตุให้กล้าทำสัญญาแบบนั้นขึ้นมา
ผมว่าทั้ง ท็อดและวาคิน เค้าเคยประกาศแล้วว่าทำภาคเดียว ประกาศชัดเจน ไม่มีภาคต่อแต่ทางค่ายบังคับ เลยแก้คืนด้วยเงื่อนไข ห้ามใครยุ่ง ครับ
มันมองได้หลายมุมนะคับ อย่างตัววาคิน แกก็ไม่ได้จะดีนะ ตัวแกมีความติ้ดสูงมาก ทั้งไปยอกว่าอยากทำหนังกับผู้กำกับท่านนึง พอเขาเอางานไปขายเพื่อหาเงินพอได้และจะเริ่มถ่ายทำก็ไปยกเลิกเขาบอกไม่อยากเล่นแล้ว ความเอาแต่ใจมันก็ส่งผลทำให้คนไม่ชอบทำไมทำนิสัยแบบนี้ หรือจะมองทางค่ายที่เป็นคนทำก็ได้ แต่ผมมองว่า เราไม่รู้หรอก แต่การที่ทำออกมาคนที่เสียเงินไปดูเขาไม่รู้หรอกว่าทำมาเพื่อจะตอกหน้าค่ายหนังหรืออะไรเขาเสียตังเข้าไปเพื่อดูในสิ่งที่ตัวเองรักและอยากดู ก็เหมือนพี่จีนพูดอะเหมือนชูนิ้วกลางใส่คนดูอะ
ตลกตรงฟังจนจบแล้วได้ข้อสรุปว่า "มันชิบหายเพราะไม่มีใครห้ามใคร" นี่เอง 555555+
ไม่ใช่joker มันเป็นหนังของ อาเธอร์ คนธรรมดาที่ต้องมาเป็น joker
ยุคนี้ยังมีคนอยากดูหนังเพลงอยุ่อีกหรอครับ เสี่ยงมาก ๆ เลย
เราเป็นแฟนคลับเลดี้กาก้าเสียดายมากค่ะ มีฉากหลายฉากที่ตัดออกในหนังเรื่องนี้ รู้สึกว่าบทกาก้าก็น้อยดูไม่เคลียร์
อันนี้จริงครับ รู้สึกว่ากาก้ามาทำไมไม่รู้555 อยากเห็นมากกว่านี้
แทนที่จะฝันให้โชค ฝันให้เจ๊งซะงั้น5555
เคยดูหนังอินเดียมีเพลงแค่10นาทีก็รำคาญจะแย่แล้ว มนุษย์ทุกคนใช่ว่าจะชอบการร้องเพลงกันทุกคน🫤
แล้วเลดี้ กาก้าไม่โดนด้วยหรือครับ
เจ๊ง เรียบร้อย จบๆไปซะ
12:43 นึกภาพฉากตัดสินความผิด อาเธอร์ เฟล็ค แล้วศาลระเบิดปรากฎว่าคนมาช่วย เฟล็ค ดันเป็น Rocket Raccoon กะ Groot ก็ฮาแล้วครับ😂
เพราะผู้กำกับล้วนๆเลยครับ โทษใครไม่ได้ โตแล้ว ไม่ใช่เด็กๆที่ต้องให้ใครมาคอยบอก คนตัดสินใจยังไงก็คือผู้กำกับ กรณีเดียวที่ผู้กำกับจะไม่ผิดคือค่ายบลีฟมาเองว่าต้องการแบบนี้แล้วผู้กำกับต้องทำตามที่ค่ายต้องการแล้วออกมาเจ๊ง อันนึงถึงโทษค่ายได้
เรื่องโลเคชั่นอันนี้เข้าใจเลย ผู้กำกับเห็นแก่ตัวเลยกรณีนี้ ไม่สนอะไรทั้งนั้นเอาตามใจตัวเองสุดๆ ขนาดจูราสสิคเวิร์ลภาคล่าสุดมาถ่ายที่ไทยเพราะช่วงนั้นค่าเงินบาทไทยอ่อน เงินดอลล่าเอามาแลกเงินไทยคือได้เงินบาทเยอะ สบายๆเลยในการถ่ายทำที่ไทย ประหยัดงบไปเยอะมาก
ไม่ฉายรอบทดสอบ อันนี้ชัดเจนว่าผู้กำกับไม่ต้องการฟังความเห็นจากใคร ผลงานตัวเองดีที่สุดในจักรวาล นี่แหละคือความอีโก้ของพวกอารมณ์ศิลปิน ผลงานตัวเองดีที่สุดใครมาด่ามาวิจารณ์ไม่ได้ มีผู้กำกับแบบนี้ทั่วโลกในไทยก็มี ยังดีที่เขาไม่เอาความสำเร็จในอดีตมาอ้าง ความสำเร็จในอดีตเอามาอ้างความสำเร็จในปัจจุบันไม่ได้ พวกหนังที่รายได้เปิดตัวสูงมักมาจากความน่าสนใจของคนดูที่สนใจเรื่องนั้น แต่รายได้จริงๆเกิดจากการดูซ้ำ ถ้าหนังไม่ดี คนไม่ดูซ้ำ เจ๊งแน่นอน คนดูดูคนละรอบแล้วเลิกแถมกระแสวิจารณ์จากคนพวกนี้อาจทำให้คนที่กำลังจะไปดูอาจตัดสินใจไม่ไปดูดีกว่า
ความสำเร็จของภาคแรก เผลอๆฟลุ๊คด้วย เพราะตอนทำไม่มีอะไรการันตีว่าจะประสบความสำเร็จขนาดนั้น มันผิดแปลกจากสิ่งที่โจ๊กเกอร์เป็นในหนังเรื่องก่อนๆ แต่คนดูดันชอบเลยประสบความสำเร็จมาก ผู้กำกับเลยได้ใจเลยทีนี้ คิดว่าคนดูติดละ ชื่อนี้ กำกับเรื่องอะไรก็ดี ยังไม่ใช่ระดับ เจมส์ คาเมร่อน หรือ คริสโตเฟอร์ โนแลน แต่ผู้กำกับท็อดคงคิดว่าตัวเองไปอยู่ในระดับนั้นละ มีหนังพันล้านซะอย่าง
จะเป็นผู้กำกับ ถ้าไม่เก่งรอบด้านรอบรู้ทุกเรื่อง ควรฟังเสียงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคนอื่นๆ ฝ่ายอื่นๆมีที่เขาทำงานเฉพาะด้านนั้น ถ้าไม่ฟังเอาแต่ใจก็เละ
ผมว่ามันไม่ใช่ตั้งแต่ Musical หรอกครับ จริงๆ คือ พลาดตรงไม่ทำ screen test ก่อนครับ อันนี้ถือว่าประมาทมากครับ
อันนี้น่าสนใจครับๆ เพราะส่วนตัวผมชอบภาคนี้นะ ถึงมันจะจืดกว่าภาคแรก แต่ประเด็นที่เขาเล่ามันน่าสนใจไม่แพ้กันเลยนะ
สำหรับผมเพราะเป็นแนว Musical นี่แหละที่ทำให้ไม่คิดจะดู โคตรไม่ชอบหนังแนวนี้ ฉากร้องเพลงมันดูโลกสวย หรือไม่ก็ดู ปญอเกินจะทนดูได้ไหว
คำที่ผมจำได้ในหนังคือ เค้ารักในการสเเดงของฉันไม่ได้รักในตัวตนของฉัน
สนูดิโอครับ ที่อยากทำภาคต่อ ทั้งๆที่มันจบไปแล้ว มันสมบูรณ์ในแบบของมันแล้ว
ภาคนี้ถูกจริตสุดๆโคตรชอบบ
อีโก้จัดก็ตามนั้น...ดีใจด้วยทอดด์
มีคนบอกจะได้เยอะกว่าภาคแรกอีก เพราะมีเลดี้กาก้า 55555 ผมบอกเลยได้เท่าเดิมยังยากเลย ก็เป็นไปตามนั้น
หนังดีจะตาย นี่คือโจ๊กเกอร์ในความเป็นจริง ต้องมองว่านี่ไม่ใช่จักรวาลซุปเปอร์ฮีโร่ นี่คือโลกธรรมดา โจ๊กเกอร์ก็มนุษย์คนนึงนะเว้ยจะให้แหกคุกแบบเว่อร์ๆเหมือนภาคก่อนๆหรอ เลือกเล่าทางนี้คือทางที่สมบูรณ์แบบที่สุด และคือมนุษย์ในชีวิตจริงที่สุดแล้ว
ผมก็คิดแบบนั้น
ถ้าจะทำแบบนี้ก็อย่าหยิบชื่อโจ๊กเกอร์มาทำครับมันเสียของ สร้างตัวละครวายร้ายขึ้นมาสักคนแทนแล้วก็นำเสนอไอเดียลงไปได้เลย โดยที่มันไม่เสียภาพพจน์ของโจ๊กเกอร์ที่หลายๆคนคุ้นเคยละถ้าแป๊กกระแสโจมตีก็คงไม่ค่อยมี ที่คุณสื่อมาผมเข้าใจนะ แต่ความคาดหวังคนส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการแบบนี้
@@leonidas5647อันนี้จริง คนดูไม่ได่หวังให้มันเว่อวัง แต่คาแรคเตอร์ joker มันคือตัวแทนของความฉลาด จิตหลุดๆ หรือความโกลาหล อันนี้มันหลุดคาแรคเตอร์ไปเยอะ ภาคแรกยังพอดูมีทรง
คนไม่ได้อยากได้โจ๊กเกอร์ที่สมจริง แต่คนอยากได้โจ๊กเกอร์ที่เป็นโจ๊กเกอร์😂
บ้าแล้ว ไม่ได้อยากดูหนังแบบนี้
โจ๊กเกอร์ก็คน? ใครสนเรื่องพวกนั้น
เหมือนหนังจิตเวชอ่ะครับ 🥱
คนเราบางคน ยื่งใหญ่ ยิ่งโต ก็ยิ่งดื้อ ไผเตือนก็บ่สน ก็จะทำอย่างนี้ละใครจะทำไม...
ผกก.อยากโชว์ท่ายาก 😂 นึกว่าเป็นเบอร์ใหญ่ ๆ ทำภาคแรกได้เงิน จะทำอะไรก็ได้ แล้วภาคแรกมีพิมพ์เขียวอย่าง taxi driver ถ้าไม่นับการแสดง วาคีน นี่หนังจืดเหมือนกันนะครับ โถว ๆๆ พ่อโนแลนด์ พ่อสปีลเบิก พ่อเจมส์ คาเมรอน
ลองมาทำเป็นหมอลำ จะรุ่งกว่าเด้ออาเดอ เด้อๆอาเดอ 🎶🎶 😂😂
พวก e3
😅😅😅
ดูแกติสต์แตกอะ
คือบอกแล้วคิดมาจบในตัวยังจะตื๊อให้ทำภาค 2 ช่ะ ด้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เด๋วจัดห้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ลองของ ใช่ไหม 😅😅
ควรเจ๊ง มากๆ ดูถูกคนดูเกิน ไม่นับเป็นภาคต่อ
Deadpool ยังสำเร็จในเรื่องมิวสิคัลมากกว่า คลิปเต้นยังมีจนถึงวันนี้
ผู้บริหารใหญ่ของ วอร์เนอร์คนเดียวเลยจะอ้างอะไรก็ไม่ได้ไอ้สามคนที่ว่ามันแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
เขาไม่อยากทำไปบังคับเขาทำ😅😅😅😅
ผู้กำกับเมืองนอกด่าได้ วิจารณ์ความผิดพลาด วิจารณ์การทำงานที่ไม่เวิร์คของเขาได้
แต่ผู้กำกับไทยนี่ ต้องมีมารยาทกับเขานะครับบบบ หัวเราะเยาะแบบหนังฮอลลีวูดนี่เดี๋ยวโดนฟ้องหัวโตเลย 555555555555
ผมว่าค่ายครับ เพราะเขาไม่ได้อยากจะทำภาคต่อ บังคับ เอาเงินมาล่อก็เลยทำ ส่ง ๆ
ภาคแรกให้ วาคิน MVP
หนังดังแพ้หนังบ้านๆแบบสัปเหร่อซะงั้น
ทำมิวสิคคัลก็ โอเคนะ ถ้าใส่แบบหนังอินเดีย
ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวพอลง Netflix วัยรุ่น Netflix จะพากันเบียว Joker จนมันดังอีกรอบเองครับ😂
หนังเฉพาะกลุ่มคนที่เข้าใจ
เรื่องฝีมือนักแสดงคงไม่มีใครกล้ากังขาแน่ๆอยู่ละ แต่หลักๆคือถ้าไม่ทะลึ่งทำออกมาแนวมิวสิคัลอาจจะไม่มีคนแอนตี้ขนาดนี้ก็ได้มั้ง ในความคิดผมนะคือหนังมันไม่ควรเป็นมิวสิคัลอ้ะสำหรับผม.😊
อาถรรพ์โจ็กเกอร์ เริ่มทำงานแล้ว😅
โจ๊กเกอร์ The dark night ทำมาตรฐานไว้สูงมาก
เอาจริงๆนะ เขาทำให้ดูก็ดูไปเถอะจะไปซีเรียสอะไรนักหนาเขาไม่ได้บังคับให้ดูสักหน่อยเขาเจ้งก็เรื่องของเขาพวกคุณไม่ได้เจ๋งสักหน่อย
สงสัยทอดเขาไม่อยากสร้างภาค 2 หรือเปล่า ดูแล้วเหมือนไม่เต็มใจสร้างสร้างให้มันเจ้งๆซะเลย
เรื่องนี้ไม่มีใครผิดเลย ผู้กำกับเค้าก็อยากทำไปแบบนี้ ผิดที่คนดูไปขาดหวังจากหนังมากเกินไปถ้าไม่ขาดหวังจะไม่ผิดหวังเช่นผมเข้าไปดูแล้วกลับออกมาอารมณ์เดียวกับฮารี่ควีนเลย 555
ไม่มีคนค้านเลยหรอ จากภาคแรกแนวหม่นๆ ใช้จิตวิทยา และล่าความกดดันของคนสติไม่ปกติที่อยู่ในสังคมและการเมือง ภาคนี้คือ คนละเรื่องกันเลย
เอาโจ๊กเกอร์มาฆ่าแท้ๆ หนังห่วยแตกแบบนี้กล้าทำออกมาฉายได้ไง
มันไม่มีอะไรเสียหายในมุมที่มันเป็นหนังรางวัล ซึ่งมันก็ทรงหนังรางวัลตั้งแต่ภาคแรกแล้วครับ แต่กระแสดีขึ้นมาซะงั้น
ทำไมถึงทำเป็นมิวสิคัลก็ไม่รู้ เปลี่ยนแนวไปเรื่อย พอคาดหวังให้ได้เหมือนภาคแรกดันทำให้ผิดหวัง
ผมว่าภาคนี้เขาคงไม่ได้อยากให้เหมือนภาคแรกอยู่แล้วครับ ผกก.ต้องรู้ดีอยู่แล้วว่าประสบการณ์แบบภาคแรกมันหาไม่ได้แล้ว
เอาดีๆ ภาคนี้ในใจอยากไปดูน่ะ แต่พอรู้ว่าเป็นมิวสิคเคิล ผมพอเลย
ชอบหน้าปก แบรดลีย์ คูเปอร์ บอกว่า “ กูด้วยเหรอ” 555 😂😂😂 ก็จริงเนอะ 😂😂😂โดนหางเลขแบบ งง งง
แบรดลีย์คูเปอร์ ผิดเฉย 😂😂
เอ็นดูคูเปอร์555
ผู้กำกับ ผิดพลาด ตัดสินใจพลาด 100%
คนเขาจะดูหนังไม่ได้ดูละครเพลง มั๊งครับ
จะมี รีวิว Transformers One ไหมครับ?
ดีแล้วให้ลงแค่นี้
พอบอกว่าBC ผิดนี่ ผมส่ายหัวแล้วหันควับเลย เหมือนรายการตลกในบ้านเราเลย
พากนี้เข้าไม่ถืงจริงๆ😅
เขาบอกจะทำภาคเดียวจบ ผมก็ดูภาคเดียวจบ555 ภาคนี้เลยไม่ดู😂
ภาคแรกก็ใช่ว่าจะดี แค่ตีข่าวโฆษณากันเยอะจนคนแห่ไปดู พอดูแล้วมันก็ไม่ได้ดีอะไรไง พอดีภาคนี้เลยคิดว่าจะไปดูอีกทำไม วาควินแสดงดีจริง แต่แล้วไงถ้าหนังมันไม่สนุก
จุ๊จุ๊ เอาใหม่ภาคนี้ไม่นับ 555
อีโก้จีดก็สมน่ำหน้าจ้าาา
แต่สีสวยมากทั้งเรื่อง
จะรอดู superman อีกเรื่อง เจมสกัน มั่นหน้านัก
ใครชอบดูหนังแบบนี้
ถ้าท็อด ไม่ซื้อไอเดียนี้ตั้งแรก
ส่วนหนึ่งมันก็ใช่ที่ว่าการที่สร้างหนังออกมาไม่สนคนดู ไม่สอดคล้องกับเนื้อหาในภาคแรกหรือว่าไม่สอดคล้องกับเนื้อหาที่มันควรจะเป็น นอกเรื่องนอกประเด็นจนเกินไป มันเลยทำให้ภาค 2 ออกมาแย่ แต่ชุดหนังบางเรื่องต้องใช้เวลาในการเล่าเรื่อง แต่ลักษณะแบบนี้มันเหมาะจะเป็น series มากกว่า เพราะว่ามันเน้นหนักไปทางการสื่ออารมณ์ ผ่านตัวละครจนเกินไปแต่ว่าเนื้อเรื่องไม่ค่อยมีอะไร มันก็ควรจะ ออกมาเป็นลักษณะ Series ถ้าว่าอยากจะรวบรัดเป็นหนัง มันก็ควรจะมีความเข้มข้นในตัวของมัน แบบชัดเจน
ยังไม่ได้ดูเลย มีแต่ธี่หวดจนมันออกโรง 😅
เสียดายของมากกกกกกก
5:46 โคตรชอบเลย!
Joker มันต้อง Nolan สิ
แค่ได้ชื่อว่าหนังมิวสิคัลผมก็ไม่คิดจะดูแล้ว และจะไม่ขอเปิดใจดูด้วย เพราะที่เคยดูหนังแนวนี้มาคือมันดูโลกสวยเกินไป(อาจจะติดตามาจากหนังของค่าย Disney)
แล้วหนัง Joker ภาค 1 ทำมาแบบเนื้อเรื่องดาร์คแบบเข้มๆเลย แต่พอภาค 2 ดันมาทำแนวมิวสิคัลโลกสวยซะงั้น บอกตรงๆว่า *รับไม่ได้จริงๆ*
ทุนสัก 100 กำลังดี กระโดดไกลเกินคาด
ขอบคุณครับ
ผีชุดดำผิดครับ เชื่อผม ผมฟังพี่ยักษ์มา
รีวิวหนังเรื่องนี้หน่อยครับพี่ Wild robot ผมว่าดีกว่า tranformer one เยอะเลย
ขอโทษด้วยนะครับ ผมไม่ชอบเลดี้กาก้า
ยังงี้ถ้าเฮียวาคินฝันถึงพี่ชายริเวอร์ Joker ไม่กลายเป็นหนังผีไปเลยหรอครับ 😅
วาคีน ฟีนิกซ์
ผมพูดเสมอ คนอยากดู Snyder ต่อ
เนี่ยแหละอีโก้ เวลาดังแล้วไม่ฟังใครเลย เสียดายมากๆ ภาค1ทำดีมากกก อุตส่าห์เอาใจช่วยภาค2 ให้ทำรายได้ดีกว่าเดิม เอามาทำมิวสิคคัลเฉย บทเรียนราคาแพง
ยิ่งกว่าดูหนังอินเดีย