ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
อาจารย์คือที่สุด ลูกพ้นแล้วจิตว่างเปล่าโล่งแล้ว ขอบคุณอาจารย์มากๆเลยค่ะ
สาธุครับ
คลิปชุดนี้เหมาะสำหรับการบรรลุธรรม นกมีปีก "ยืนขาเดียว" อยู่ใกล้หน้าผา แล้วรู้ตัวเองว่าตัวเองมีปีก (มีเหตุและผล)
น้อมกราบสาธุในพระธรรมอันประเสริฐครับ ท่านอาจารย์กล่าวถูกต้องครับ ผมยอมรับอย่างสุดจิตสุดใจเลยว่า ใจผมหลุดพ้นได้เพราะการฟังธรรมด้วยศรัทธาล้วนๆเลย หายสงสัยเพราะการฟังธรรมไปด้วยดูจิตไปด้วย กราบสาธุครับ
จะบรรลุหรือไม่แบบไหนถ้ามันหลุดแล้วเข้าใจแจ่มแจ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจารย์ชี้นำมานั้นแล้วแล้วเราหลุดออกจากการสมมุติทั้งหมดแล้วยังจะต้องมีอะไรสงสัยกันอีกหรือค่ะ เราต้องเอาสติปัญญาของตัวเองพิจารณาว่ามันสำเร็จด้วยตัวเองรู้ได้ด้วยตัวเองโกโหกตัวเองได้ด้วยหรือค่ะถ้ามันจริงมันก็แจ้งจิตแจ้งใจตัวเองอยู่ไม่ไช่หรือค่ะ ตอนแรกไม่มีอดีตและอนาคต ฟังอาจารย์จนไม่มีตัวมีตนแล้วจริงๆ แล้วยังต้องสงสัยในตัวอาจารย์ได้อีกหรือ สาธุๆค่ะขอกราบอาจารย์จากหัวใจเลยค่ะ
น้อมกราบสาธุๆๆอนุโมทามิเจ้าค่ะ🌞🙏🙏🙏🌝🇸🇪💓💓💓🇹🇭
เป็นแค่นิพพาน อ.อริยเจ้า❤❤
สรัทธามั่น ในปัญญา การตรัสรู้ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กาลามสูตร ใช้ได้ตลอดเวลา-อย่าคิดว่าสิ่งนี้ที่พูดมา เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่า สาธุ
ฟังธรรม 5.14 -6.05 น. 11 ธค. 67 สาธุ
ท่านกล่าวมาถูกต้อง สำหรับท่านที่มีความตั้งใจดูจิตบรรลุธรรมได้ง่ายเปรียบเสมือนนกที่พร้อมบินก็บินได้ทันที สาธุ
ช่างหน้าเศร้าใจยิ่งนัก ที่มีคนเหมารวม จิตว่าง กับความว่างที่เกิดจากสมาธิสงบจากฌาน เป็นแบบเดียวกัน จิตว่าง ไร้ตัวตน เป็นผลเกิดขึ้นที่ จิต จากการปฏิบัติที่ถูกตรง ความว่างจากสมาธิสงบ สมถะ เกิดที่ขันธ์ 5 เท่าที่ผมฟังมาเกินร้อยคลิป จิตว่างที่ท่านอาจารย์อุดรแนะนำ เป็นผลที่ จิต มิใช่ความว่างที่ ขันธ์เกิดจากสมถะ นะครับ ผู้ที่เปิดใจฟัง วางของเดิมไว้บนหิ้งก่อน ก็จะสามารถเข้าใจได้ครับ
สาธุ สาธุค่ะ
ใช่ค่ะเพราะจริตของจิตตรงกันจึงแนะเราได้ สาธุๆๆค่ะ
ใช่ค่ะผู้ที่แจ้งประจักษ์เท่านั้นที่จะเข้าใจ
ว่างเกิดจากสมาธิณานมันชั่วขณะเท่านั้นพอออกจากสมาธิฌานแ้วจิตก็ไม่ว่างวุ่นวายเหมือนเดิมจิตที่ว่างเกิดจากการเห็นจิตจะว่างจากโลภโกรธหลงตลอดอนันตกาลจร้า
นั่นสิเพื่อนมาปฏิบัติที่นี่จิตว่างสงบไร้ตัวตนบอกว่าจบแล้วไม่มาเกิดแล้วหลงไปใหญ่แล้ว
ขอน้อมกราบคุณครูบาอาจารย์คะ ทุกวันนี้ทุกข์ไม่สามารถหยั่งลงจิตได้อีกแล้ว ทุกสิ่งเพียงแค่สภาวะเกิดดับตามเหตุจริงๆคะ
น้อมกราบสาธุ ค่ะ
ขอน้อมจิตกราบท่านอาจารย์สาธุค่ะ
สาธุกับทุกๆท่านที่ได้แจ้งประจักษ์กับจิตที่หลุดพ้นเช่นเดียวกันค่ะ
น้อมกราบนมัสการสาธุเจ้าคะ
กราบสาธุในธรรมของท่านอาจารย์ครับ
นิพพาน ปล่อยวาง จิต มโน วิญญาณ อ.อริยเจ้า
อยุทีไหน
น้อมกราบสาธุในธรรมเจ้าค่ะ
ท่านทั้งหลาย การดูจิตให้เห็นสภาวะ จิต โล่ง ๆ นิ่ง ๆเป็นการเริ่มต้นในการปฏิบัติธรรมที่ดี อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถละกิเลสได้ขอให้พิจารณาถึง มรรควิธีในการเข้าถึงนิพพาน จะต้องสามารถละกิเลสได้ มิใช่การอยู่นิ่ง ๆ โล่ง ๆ ของจิต แล้วจะสามารถบรรลุได้การเข้าถึง "อรหันต์" คือ ห่างไกลจากกิเลส (อรหํ แปลว่า ไกลหรือพ้นจากกิเลส)จำเป็นจะต้องเดินวิสสนากรรมฐานต่อไปอีก เพื่อให้จิตละสังโยชน์ต่าง ๆ โดยวิถึแห่งอริยมรรคมิใช่จะสามารถเข้าถึงนิพพานในระยะเวลาอันสั้นได้ ดูจากประวัติของพระอริยเจ้าในไทยแต่ละท่าน ต้องผ่านการปฏิบัติวิปัสสนามานานพอสมควร การจะสำเร็จมรรคผลได้ในระยะเวลาอันสั้น มิใช่จะเป็นไปไม่ได้ แต่จะเกิดขึ้ตเฉพาะ"อุคฆฏิตัญญู" คือ ท่านที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำเมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที ซึ่งในปัจจุบัน หาได้ยากแล้วพึงสังเกตว่า การที่จิตอยู่ในสภาวะนิ่ง ๆ โล่ง ๆ จะนำไปถึงการดับทุกข์ได้หรือไม่หากท่านมีความเชื่อมั่นและศรัทธาว่า "ทำได้" จงปฏิบัติตามแนวทางนี้ต่อไปเถิด.....
จิตหลุดพ้น บรรลุธรรม อ.อริยเจ้า
กราบสาธุค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ 🙏🙏🙏
คนที่บอกว่าหลงไปเเล้วครับ:ท่านกำลังเข้าใจผิดนะ:อาจารย์อุดรท่านพูดสภาวะเจโตวิมุต:เเต่สิ่งที่ท่านเข้าใจคือสภาวะของปัญญาวิมุต:ที่ปัญญาออกมาจากจิตหนึ่งหรือเจโตวิมุตอีกที:จิตจึงจะเป็นจิตพุทธะนะครับ:ที่ผมเคยฟังธรรมมานะครับ
น้อมกราบสาธุในธรรมเจ้าค่ะ🎉จิตจบแล้วบ่อได้มาเกิดอีกแล้วชาตินี้คือชาติสุดท้ายเจ้าค่ะ🎉8/7/2565🎉
🙏🏻🙏🏻🙏🏻❤❤❤
ติดตามแล้วครับ
🙏🙏🙏
**** "สัมมาวิมุติ ความหลุดพ้นที่ถูกต้อง" **** มีท่านผู้รู้เคยกล่าวว่า "แก่นศาสนามันคล้ายกับแก่นไม้ไผ่"ไม้ไผ่นี่ ข้างในมันเป็นโพรง มันไม่มีแก่นให้เห็นหรอก แต่ที่ท่านกล่าวไว้เช่นนั้น เพราะต้องการเปรียบเทียบให้เห็นโดยสมมุติ จะได้ง่ายต่อการเข้าใจวิมุติไอ้ความเป็นโพรง แบบไม่มีแก่นนี่แหละ ถ้าเข้าใจโดยไม่อิงสมมุตินะ มันก็สามารถเข้าใจวิมุติได้แต่ถ้ากระโดดข้ามสมมุติไม่พ้น ยังไงก็ติด!ความมี ความไม่มี ความเป็น ความไม่เป็น สิ่งเหล่านี้มันคือสมมุติทั้งหมดนั่นแหละ เข้าใจมั้ย?!เวลาภาวนาไปถึงจุดที่ควรจะเข้าใจ มันต้องปล่อยทั้งหมด มันถึงจะเป็นของจริงไม่ใช่ปล่อยอันหนึ่ง แล้วไปยึดอันหนึ่ง หรือปล่อยสภาวะหยาบ แล้วไปยึดสภาวะละเอียดคำว่า "วิมุติๆ" นี่ มันไม่ใช่ทฤษฎี ที่จะสามารถเข้าใจได้ด้วยปัญญาแบบสามัญตรงนี้ครูบาอาจารย์ท่านเน้นมาก ปัญญาที่เจือปนด้วยความเห็นและความจำเดิมๆของเรานี่ มันไม่มีทางใช้ได้เลยอย่างที่หลวงปู่บุดดาท่านพูดไว้.."ไม่มีใครเกิด ไม่มีใครแก่ ไม่มีใครตาย ไม่มีใครเจ็บ นั่นแหละเป็นแก่นศาสนา"ตรงนี้หลวงปู่ท่านพูดแบบผู้แจ่มแจ้งสมมุติและวิมุติแล้วนะ ท่านพูดสื่อออกมาเพื่อให้เข้าใจวิมุติ โดยใช้สมมุติเป็นตัวตั้ง ธรรมะข้อนี้ลึกซึ้งยิ่งนัก ถ้าเรากระโดดข้ามสภาวะแห่งสมมุติไม่พ้นนี่ ยังไงก็ติดในกรอบแห่งสมมุติอยู่ตลอดประสบการณ์แห่งสภาวะเฉพาะหน้าอันเป็นปัจจุบันขณะเท่านั้น ที่จะช่วยทำให้แจ่มแจ้งคำว่าวิมุติได้โดยไม่ต้องอธิบาย"ปัจจุบันขณะ" ที่ไม่เจือปนด้วยเหตุผลแห่งสมมุติใดๆนี่แหละ คือ "ปัจจุบันธรรม อันเป็นสัมมาวิมุติ" ที่พระพุทธเจ้าต้องการให้เราเข้าถึง เข้าใจมั้ยนี่?!!!#ธรรมะบรรยายโดยอาจารย์อุดร อาจารย์ฆราวาสผู้สอนกรรมฐาน ณ สถานปฏิบัติธรรมป่าทำเลธรรม
🙇🙇🙇
🌸🙏🏻🌸
หลงไปกันแล้วครับการเห็นจิตจนจิตนิ่งว่าง เป็นอรูปฌาน เป็นสมถะแล้วถอยออกมา กลับมาดูจิตใหม่ จิตก็ยังเข้าสมถะเหมือนคนเดินชนกำแพง ชนแล้วชนอีก แล้วเข้าใจว่าถึงที่สุดของการปฏิบัติ เพราะจิตไม่ได้ไปไหนจิตเข้าสมาธิแล้ววิปัสสนา คือจิตเป็นธรรมชาติ รับรู้อารมณ์ต่าง ๆเห็นการเกิดดับ เห็นไตรลักษณ์ เห็นจนเกิดความเบื่อหน่าย(นิพพิทา) เกิดอตัมมยตา(ท่านพุทธทาสแปลว่า กูไม่เอากับมึงอีกแล้ว)เกิดการสลัดออก ละ วาง ทุกสิ่ง เห็นโลกตามความเป็นจริงไม่ยึดถือแต่ อ.อุดร บอกว่าจิตว่างเป็นอนัตตา ไม่มีตัวตน ก็ใช่อยู่แต่เป็นเพราะสมาธิที่กั้นไม่ให้มีอะไรเข้ามาครอบจิต จิตจึงว่างในสมัยพุทธกาล อาราฬดาบสอุทกดาบส ได้ฌาน ๗,๘ ทั้งสองท่านเข้าใจว่าบรรลุธรรมแล้ว เพราะจิตว่าง ไม่มีกิเลสเข้าครอบจิตได้เป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างยิ่งอยากจะให้พิจารณา อาณาปนสติว่า จิตเป็นธรรมชาติ จิตเห็นลมหายใจ จิตเห็นเวทนา จิตเห็นจิต จิตเห็นธรรม แล้วทุกสิ่งมีการเกิดดับเห็นไตรลักษณ์ เกิดนิพพิททา แต่จิิตของ อ.อุดรเป็นจิตว่าง ไม่เห็นอะไรเลยแล้วจิตจะเกิดนิพพิทาได้อย่างไร ไม่เห็นแม้กระทั่งไตรลักษณ์ลองพิจารณาดู อย่าชักจูงให้คนอื่หลงผิดเหมือนอาราฬดาบสอุทกดาบส
มิได้หลงตามที่คุณกล่าว มิใช่สมถะฌาน7-8ด้วย คุณคงจะฟังแล้วเข้าใจไม่ตรง ตามท่านอาจารย์อุดรสอน ธรรมะจากจิตสู่จิต ลองเปิดจิตฟังอีกนะครับ และสามารถพิสูจน์ได้ด้วยภาคปฏิบัติครับ ท่านใดกล้าพิสูจน์ปฏิบัติตาม ผลสำเร็จจะเกิดขึ้นครับ
ท่านออกเรือไปซะไกลเลย
ขอตอบคอมเม้นท์ของคุณนะค่ะ การฟังก็ดี!! การเห็นก็ดี!!! และการเป็นก็ดียังเป็นสิ่งที่อยุ่ข้างนอก แต่ก็อาศัยอยุ่ร่วมกัน แต่มีสิ่งที่มีอยุ่หรือไม่มีอยุ่ มันจะเรียกอะไรก็ชั่งเถิด แต่มันก็มีอยุ่ อาศัยการเฝ้าสังเกตุและเห็นอยุ่บ่อยๆ แล้วความจริงก็จะจังๆๆ มันจะเรียกว่าอะไรก็สุดแท้เถอะ!!! ขอโทษนะค่ะคุณคงจะติดสมมุติจนแยกไม่ออก? ฉันคนหนึ่งที่ไม่ใด้พูดเอาใจใครทั่งนั้นและไม่สงสัยคำสอนของอาจารย์ท่านนี้เอาตัวเองมาพิสูทให้มันจังๆๆหน่อยไหมค่ะ อย่าเก่งปริยัติ ขอเก่งปฏิบัติจะไม่มีคำว่าสงสัยในอาจารย์ท่านนี้? ที่ตอบนี้ก็ตอบแบบสมมุติ คำว่าวิมุตมันเอามาตอบไม่ใด้จะดีกว่ามัย!!! ไม่เข้าใจอะไรเชิญที่นี้มีคำตอบป่าทำเลธรรมนะค่ะ คุณคงจะติดคำภีร์ใบลานมากๆกรุณาฟังให้มากปฎิบัติให้ตรงจุด แล้วคุณจะแจ้งแก่ใจนะค่ะ ความไม่เข้าใจของคุณอาจจะเป็นผลกระทบและปิดโอกาสของอีกหลายๆท่านนะค่ะขอบคุณค่ะ
ผมไม่ได้เรียนปริยัติผมฟังจากหลวงปู่มั่น หลวงพ่อพุทธทาสเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวิริยังค์ ฟังหลวงพ่อปราโมชย์ฟัง อ.ประเสริฐ อุทัยเฉลิม พระอาจารย์นวลจันทร์ทุกท่านพูดแนวทางเดียวกัน อย่าหลงติดในความว่างจิตตามดูจิตที่เป็นธรรมชาติ การเพ่งดูจิตไม่ใช่วิปัสสนาถ้าดูจิตแล้ว ดูแล้วดูอีก ผลที่ได้เป็นความว่าง เป็นสมถะเหมือนคนเดินชนกำแพง ชนแล้วชนอีก ชนอยู่นั่นแหละแล้วสรุปว่า ถึงที่สุดของทางแล้วไปไหนต่อไม่ได้แล้วบรรลุธรรมแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะอย่างน้อยจิตก็สงบ ดีกว่าฟุ้งซ่านอยู่กับความว่างต่อไป แล้วไปเกิดเป็นอรูปพรหมมีอายุเป็ยพัน ๆ หมื่น ๆ กัปป์ ขออนุโมทนาด้วย ผมเองปฏิบัติมา เจอทั้งความว่าง ความสงบเห็นว่าเข้าใจผิด จึงทักท้วง ถ้าคิดว่าผมเข้าใจผิดก็ไม่เป็นไร แต่อยากจะแนะนำว่า ลองไปหาอาจารย์ท่านอื่น ๆ
@@เจษฎาจารุศรีบุญชัย องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธะเจ้าท่านกล่าวว่า เมื่อเราพายเรือข้ามฝั่งแล้วจอดเรือไว้เสียไม่ต้องแบกไปด้วย ตำราก็เช่นกันเมื่ออ่านเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วก็ทิ้งไปซะ อาจารย์ทุกท่านที่ท่านกล่าวมาท่านก็ทิ้งไปหมดแล้วเหลือแต่ศิษย์ที่ยังไม่รู้ก็ยังแบกมันไว้ซะทุกตัวอักษร (ขออภัยค่ะ ที่พิมพ์ขึ้นมาดิฉันก็ผิดตั้งแต่อักษรตัวแรกแล้ว 🙏🏻)
น้อมกราบสาธุในธรรมเจ้าค่ะ
น้อมกราบสักการะสาธุสาธุสาธุท่านเจ้าค่ะ
กราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์มหาอุดร สาธุ ครับ
กราบสาธุๆๆท่านอาจารย์เจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุครับ
น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุๆๆในธรรมเจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
🙏กราบสาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุๆๆคะ
น้อมกราบท่านอาจารย์ค่ะ🙏🙏🙏
น้อมกราบสาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุธรรมท่านอาจรรย์เจ้าค่ะสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุค่ะ🙏
น้อมกราบสาธุครับผม
น้อมกราบสาธุๆๆค่ะ
อาจารย์คือที่สุด ลูกพ้นแล้วจิตว่างเปล่าโล่งแล้ว ขอบคุณอาจารย์มากๆเลยค่ะ
สาธุครับ
คลิปชุดนี้เหมาะสำหรับการบรรลุธรรม นกมีปีก "ยืนขาเดียว" อยู่ใกล้หน้าผา แล้วรู้ตัวเองว่าตัวเองมีปีก (มีเหตุและผล)
น้อมกราบสาธุในพระธรรมอันประเสริฐครับ ท่านอาจารย์กล่าวถูกต้องครับ ผมยอมรับอย่างสุดจิตสุดใจเลยว่า ใจผมหลุดพ้นได้เพราะการฟังธรรมด้วยศรัทธาล้วนๆเลย หายสงสัยเพราะการฟังธรรมไปด้วยดูจิตไปด้วย กราบสาธุครับ
จะบรรลุหรือไม่แบบไหนถ้ามันหลุดแล้วเข้าใจแจ่มแจ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจารย์ชี้นำมานั้นแล้วแล้วเราหลุดออกจากการสมมุติทั้งหมดแล้วยังจะต้องมีอะไรสงสัยกันอีกหรือค่ะ เราต้องเอาสติปัญญาของตัวเองพิจารณาว่ามันสำเร็จด้วยตัวเองรู้ได้ด้วยตัวเองโกโหกตัวเองได้ด้วยหรือค่ะถ้ามันจริงมันก็แจ้งจิตแจ้งใจตัวเองอยู่ไม่ไช่หรือค่ะ ตอนแรกไม่มีอดีตและอนาคต ฟังอาจารย์จนไม่มีตัวมีตนแล้วจริงๆ แล้วยังต้องสงสัยในตัวอาจารย์ได้อีกหรือ สาธุๆค่ะขอกราบอาจารย์จากหัวใจเลยค่ะ
น้อมกราบสาธุๆๆ
อนุโมทามิเจ้าค่ะ
🌞🙏🙏🙏🌝
🇸🇪💓💓💓🇹🇭
เป็นแค่นิพพาน อ.อริยเจ้า❤❤
สรัทธามั่น ในปัญญา การตรัสรู้ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กาลามสูตร ใช้ได้ตลอดเวลา-อย่าคิดว่าสิ่งนี้ที่พูดมา เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่า สาธุ
ฟังธรรม 5.14 -6.05 น. 11 ธค. 67 สาธุ
ท่านกล่าวมาถูกต้อง สำหรับท่านที่มีความตั้งใจดูจิตบรรลุธรรมได้ง่ายเปรียบเสมือนนกที่พร้อมบินก็บินได้ทันที สาธุ
ช่างหน้าเศร้าใจยิ่งนัก ที่มีคนเหมารวม จิตว่าง กับความว่างที่เกิดจากสมาธิสงบจากฌาน เป็นแบบเดียวกัน
จิตว่าง ไร้ตัวตน เป็นผลเกิดขึ้นที่ จิต จากการปฏิบัติที่ถูกตรง
ความว่างจากสมาธิสงบ สมถะ เกิดที่ขันธ์ 5
เท่าที่ผมฟังมาเกินร้อยคลิป จิตว่างที่ท่านอาจารย์อุดรแนะนำ เป็นผลที่ จิต มิใช่ความว่างที่ ขันธ์เกิดจากสมถะ นะครับ
ผู้ที่เปิดใจฟัง วางของเดิมไว้บนหิ้งก่อน ก็จะสามารถเข้าใจ
ได้ครับ
สาธุ สาธุค่ะ
ใช่ค่ะเพราะจริตของจิตตรงกันจึงแนะเราได้ สาธุๆๆค่ะ
ใช่ค่ะผู้ที่แจ้งประจักษ์เท่านั้นที่จะเข้าใจ
ว่างเกิดจากสมาธิณานมันชั่วขณะเท่านั้นพอออกจากสมาธิฌานแ้วจิตก็ไม่ว่างวุ่นวายเหมือนเดิมจิตที่ว่างเกิดจากการเห็นจิตจะว่างจากโลภโกรธหลงตลอดอนันตกาลจร้า
นั่นสิเพื่อนมาปฏิบัติที่นี่จิตว่างสงบไร้ตัวตนบอกว่าจบแล้วไม่มาเกิดแล้วหลงไปใหญ่แล้ว
ขอน้อมกราบคุณครูบาอาจารย์คะ ทุกวันนี้ทุกข์ไม่สามารถหยั่งลงจิตได้อีกแล้ว ทุกสิ่งเพียงแค่สภาวะเกิดดับตามเหตุจริงๆคะ
น้อมกราบสาธุ ค่ะ
ขอน้อมจิตกราบท่านอาจารย์สาธุค่ะ
สาธุกับทุกๆท่านที่ได้แจ้งประจักษ์กับจิตที่หลุดพ้นเช่นเดียวกันค่ะ
น้อมกราบนมัสการสาธุเจ้าคะ
กราบสาธุในธรรมของท่านอาจารย์ครับ
นิพพาน ปล่อยวาง จิต มโน วิญญาณ อ.อริยเจ้า
อยุทีไหน
น้อมกราบสาธุในธรรมเจ้าค่ะ
ท่านทั้งหลาย การดูจิตให้เห็นสภาวะ จิต โล่ง ๆ นิ่ง ๆ
เป็นการเริ่มต้นในการปฏิบัติธรรมที่ดี อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถละกิเลสได้
ขอให้พิจารณาถึง มรรควิธีในการเข้าถึงนิพพาน จะต้องสามารถละกิเลสได้
มิใช่การอยู่นิ่ง ๆ โล่ง ๆ ของจิต แล้วจะสามารถบรรลุได้
การเข้าถึง "อรหันต์" คือ ห่างไกลจากกิเลส (อรหํ แปลว่า ไกลหรือพ้นจากกิเลส)
จำเป็นจะต้องเดินวิสสนากรรมฐานต่อไปอีก เพื่อให้จิตละสังโยชน์ต่าง ๆ โดยวิถึแห่งอริยมรรค
มิใช่จะสามารถเข้าถึงนิพพานในระยะเวลาอันสั้นได้ ดูจากประวัติของพระอริยเจ้าในไทยแต่ละท่าน ต้องผ่านการปฏิบัติวิปัสสนามานานพอสมควร
การจะสำเร็จมรรคผลได้ในระยะเวลาอันสั้น มิใช่จะเป็นไปไม่ได้ แต่จะเกิดขึ้ตเฉพาะ
"อุคฆฏิตัญญู" คือ ท่านที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำเมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที ซึ่งในปัจจุบัน หาได้ยากแล้ว
พึงสังเกตว่า การที่จิตอยู่ในสภาวะนิ่ง ๆ โล่ง ๆ จะนำไปถึงการดับทุกข์ได้หรือไม่
หากท่านมีความเชื่อมั่นและศรัทธาว่า "ทำได้" จงปฏิบัติตามแนวทางนี้ต่อไปเถิด.....
จิตหลุดพ้น บรรลุธรรม อ.อริยเจ้า
กราบสาธุค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ 🙏🙏🙏
คนที่บอกว่าหลงไปเเล้วครับ:ท่านกำลังเข้าใจผิดนะ:อาจารย์อุดรท่านพูดสภาวะเจโตวิมุต:เเต่สิ่งที่ท่านเข้าใจคือสภาวะของปัญญาวิมุต:ที่ปัญญาออกมาจากจิตหนึ่งหรือเจโตวิมุตอีกที:จิตจึงจะเป็นจิตพุทธะนะครับ:ที่ผมเคยฟังธรรมมานะครับ
น้อมกราบสาธุในธรรมเจ้าค่ะ🎉จิตจบแล้วบ่อได้มาเกิดอีกแล้วชาตินี้คือชาติสุดท้ายเจ้าค่ะ🎉8/7/2565🎉
สาธุครับ
🙏🏻🙏🏻🙏🏻❤❤❤
ติดตามแล้วครับ
🙏🙏🙏
**** "สัมมาวิมุติ ความหลุดพ้นที่ถูกต้อง" ****
มีท่านผู้รู้เคยกล่าวว่า "แก่นศาสนามันคล้ายกับแก่นไม้ไผ่"
ไม้ไผ่นี่ ข้างในมันเป็นโพรง มันไม่มีแก่นให้เห็นหรอก แต่ที่ท่านกล่าวไว้เช่นนั้น เพราะต้องการเปรียบเทียบให้เห็นโดยสมมุติ จะได้ง่ายต่อการเข้าใจวิมุติ
ไอ้ความเป็นโพรง แบบไม่มีแก่นนี่แหละ ถ้าเข้าใจโดยไม่อิงสมมุตินะ มันก็สามารถเข้าใจวิมุติได้
แต่ถ้ากระโดดข้ามสมมุติไม่พ้น ยังไงก็ติด!
ความมี ความไม่มี ความเป็น ความไม่เป็น สิ่งเหล่านี้มันคือสมมุติทั้งหมดนั่นแหละ เข้าใจมั้ย?!
เวลาภาวนาไปถึงจุดที่ควรจะเข้าใจ มันต้องปล่อยทั้งหมด มันถึงจะเป็นของจริง
ไม่ใช่ปล่อยอันหนึ่ง แล้วไปยึดอันหนึ่ง หรือปล่อยสภาวะหยาบ แล้วไปยึดสภาวะละเอียด
คำว่า "วิมุติๆ" นี่ มันไม่ใช่ทฤษฎี ที่จะสามารถเข้าใจได้ด้วยปัญญาแบบสามัญ
ตรงนี้ครูบาอาจารย์ท่านเน้นมาก ปัญญาที่เจือปนด้วยความเห็นและความจำเดิมๆของเรานี่ มันไม่มีทางใช้ได้เลย
อย่างที่หลวงปู่บุดดาท่านพูดไว้..
"ไม่มีใครเกิด ไม่มีใครแก่ ไม่มีใครตาย ไม่มีใครเจ็บ นั่นแหละเป็นแก่นศาสนา"
ตรงนี้หลวงปู่ท่านพูดแบบผู้แจ่มแจ้งสมมุติและวิมุติแล้วนะ
ท่านพูดสื่อออกมาเพื่อให้เข้าใจวิมุติ โดยใช้สมมุติเป็นตัวตั้ง
ธรรมะข้อนี้ลึกซึ้งยิ่งนัก ถ้าเรากระโดดข้ามสภาวะแห่งสมมุติไม่พ้นนี่ ยังไงก็ติดในกรอบแห่งสมมุติอยู่ตลอด
ประสบการณ์แห่งสภาวะเฉพาะหน้าอันเป็นปัจจุบันขณะเท่านั้น ที่จะช่วยทำให้แจ่มแจ้งคำว่าวิมุติได้โดยไม่ต้องอธิบาย
"ปัจจุบันขณะ" ที่ไม่เจือปนด้วยเหตุผลแห่งสมมุติใดๆนี่แหละ คือ "ปัจจุบันธรรม อันเป็นสัมมาวิมุติ" ที่พระพุทธเจ้าต้องการให้เราเข้าถึง เข้าใจมั้ยนี่?!!!
#ธรรมะบรรยายโดยอาจารย์อุดร อาจารย์ฆราวาสผู้สอนกรรมฐาน ณ สถานปฏิบัติธรรมป่าทำเลธรรม
🙇🙇🙇
🌸🙏🏻🌸
หลงไปกันแล้วครับ
การเห็นจิตจนจิตนิ่งว่าง เป็นอรูปฌาน เป็นสมถะ
แล้วถอยออกมา กลับมาดูจิตใหม่ จิตก็ยังเข้าสมถะ
เหมือนคนเดินชนกำแพง ชนแล้วชนอีก แล้วเข้าใจว่า
ถึงที่สุดของการปฏิบัติ เพราะจิตไม่ได้ไปไหนจิตเข้าสมาธิแล้ว
วิปัสสนา คือจิตเป็นธรรมชาติ รับรู้อารมณ์ต่าง ๆ
เห็นการเกิดดับ เห็นไตรลักษณ์ เห็นจนเกิดความเบื่อหน่าย
(นิพพิทา) เกิดอตัมมยตา(ท่านพุทธทาสแปลว่า กูไม่เอากับมึงอีกแล้ว)
เกิดการสลัดออก ละ วาง ทุกสิ่ง เห็นโลกตามความเป็นจริงไม่ยึดถือ
แต่ อ.อุดร บอกว่าจิตว่างเป็นอนัตตา ไม่มีตัวตน ก็ใช่อยู่
แต่เป็นเพราะสมาธิที่กั้นไม่ให้มีอะไรเข้ามาครอบจิต จิตจึงว่าง
ในสมัยพุทธกาล อาราฬดาบสอุทกดาบส ได้ฌาน ๗,๘ ทั้งสองท่านเข้าใจว่า
บรรลุธรรมแล้ว เพราะจิตว่าง ไม่มีกิเลสเข้าครอบจิตได้
เป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างยิ่ง
อยากจะให้พิจารณา อาณาปนสติว่า จิตเป็นธรรมชาติ จิตเห็นลมหายใจ
จิตเห็นเวทนา จิตเห็นจิต จิตเห็นธรรม แล้วทุกสิ่งมีการเกิดดับ
เห็นไตรลักษณ์ เกิดนิพพิททา
แต่จิิตของ อ.อุดรเป็นจิตว่าง ไม่เห็นอะไรเลย
แล้วจิตจะเกิดนิพพิทาได้อย่างไร ไม่เห็นแม้กระทั่งไตรลักษณ์
ลองพิจารณาดู อย่าชักจูงให้คนอื่หลงผิดเหมือนอาราฬดาบสอุทกดาบส
มิได้หลงตามที่คุณกล่าว มิใช่สมถะฌาน7-8ด้วย คุณคงจะฟังแล้วเข้าใจไม่ตรง ตามท่านอาจารย์อุดรสอน ธรรมะจากจิตสู่จิต ลองเปิดจิตฟังอีกนะครับ และสามารถพิสูจน์ได้ด้วยภาคปฏิบัติครับ ท่านใดกล้าพิสูจน์ปฏิบัติตาม ผลสำเร็จจะเกิดขึ้นครับ
ท่านออกเรือไปซะไกลเลย
ขอตอบคอมเม้นท์ของคุณนะค่ะ การฟังก็ดี!! การเห็นก็ดี!!! และการเป็นก็ดียังเป็นสิ่งที่อยุ่ข้างนอก แต่ก็อาศัยอยุ่ร่วมกัน แต่มีสิ่งที่มีอยุ่หรือไม่มีอยุ่ มันจะเรียกอะไรก็ชั่งเถิด แต่มันก็มีอยุ่ อาศัยการเฝ้าสังเกตุและเห็นอยุ่บ่อยๆ แล้วความจริงก็จะจังๆๆ มันจะเรียกว่าอะไรก็สุดแท้เถอะ!!! ขอโทษนะค่ะคุณคงจะติดสมมุติจนแยกไม่ออก? ฉันคนหนึ่งที่ไม่ใด้พูดเอาใจใครทั่งนั้นและไม่สงสัยคำสอนของอาจารย์ท่านนี้เอาตัวเองมาพิสูทให้มันจังๆๆหน่อยไหมค่ะ อย่าเก่งปริยัติ ขอเก่งปฏิบัติจะไม่มีคำว่าสงสัยในอาจารย์ท่านนี้? ที่ตอบนี้ก็ตอบแบบสมมุติ คำว่าวิมุตมันเอามาตอบไม่ใด้
จะดีกว่ามัย!!! ไม่เข้าใจอะไรเชิญที่นี้มีคำตอบ
ป่าทำเลธรรมนะค่ะ คุณคงจะติดคำภีร์ใบลานมากๆกรุณาฟังให้มากปฎิบัติให้ตรงจุด แล้วคุณจะแจ้งแก่ใจนะค่ะ ความไม่เข้าใจของคุณอาจจะเป็นผลกระทบและปิดโอกาสของอีกหลายๆท่านนะค่ะขอบคุณค่ะ
ผมไม่ได้เรียนปริยัติ
ผมฟังจากหลวงปู่มั่น หลวงพ่อพุทธทาส
เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวิริยังค์ ฟังหลวงพ่อปราโมชย์
ฟัง อ.ประเสริฐ อุทัยเฉลิม พระอาจารย์นวลจันทร์
ทุกท่านพูดแนวทางเดียวกัน อย่าหลงติดในความว่าง
จิตตามดูจิตที่เป็นธรรมชาติ การเพ่งดูจิตไม่ใช่วิปัสสนา
ถ้าดูจิตแล้ว ดูแล้วดูอีก ผลที่ได้เป็นความว่าง เป็นสมถะ
เหมือนคนเดินชนกำแพง ชนแล้วชนอีก ชนอยู่นั่นแหละ
แล้วสรุปว่า ถึงที่สุดของทางแล้วไปไหนต่อไม่ได้แล้ว
บรรลุธรรมแล้ว
แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะอย่างน้อยจิตก็สงบ ดีกว่าฟุ้งซ่าน
อยู่กับความว่างต่อไป แล้วไปเกิดเป็นอรูปพรหม
มีอายุเป็ยพัน ๆ หมื่น ๆ กัปป์ ขออนุโมทนาด้วย
ผมเองปฏิบัติมา เจอทั้งความว่าง ความสงบ
เห็นว่าเข้าใจผิด จึงทักท้วง ถ้าคิดว่าผมเข้าใจผิด
ก็ไม่เป็นไร แต่อยากจะแนะนำว่า ลองไปหาอาจารย์
ท่านอื่น ๆ
@@เจษฎาจารุศรีบุญชัย องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธะเจ้าท่านกล่าวว่า เมื่อเราพายเรือข้ามฝั่งแล้วจอดเรือไว้เสียไม่ต้องแบกไปด้วย ตำราก็เช่นกันเมื่ออ่านเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วก็ทิ้งไปซะ อาจารย์ทุกท่านที่ท่านกล่าวมาท่านก็ทิ้งไปหมดแล้วเหลือแต่ศิษย์ที่ยังไม่รู้ก็ยังแบกมันไว้ซะทุกตัวอักษร (ขออภัยค่ะ ที่พิมพ์ขึ้นมาดิฉันก็ผิดตั้งแต่อักษรตัวแรกแล้ว 🙏🏻)
น้อมกราบสาธุในธรรมเจ้าค่ะ
น้อมกราบสักการะสาธุสาธุสาธุท่านเจ้าค่ะ
กราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์มหาอุดร สาธุ ครับ
กราบสาธุๆๆท่านอาจารย์เจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุครับ
น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุๆๆในธรรมเจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
🙏กราบสาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุๆๆคะ
🙏🙏🙏
🙏🙏🙏
น้อมกราบท่านอาจารย์ค่ะ🙏🙏🙏
น้อมกราบสาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุธรรมท่านอาจรรย์เจ้าค่ะสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุค่ะ🙏
กราบสาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุครับผม
น้อมกราบสาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุๆๆค่ะ
น้อมกราบสาธุค่ะ