What is the right mindfulness development without intention?
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 12 ส.ค. 2023
- Cultivating the right consciousness must not hinder unintended actions. Don't go into the mind. Not forbidding thoughts If there is an intention to act, the mind arises, arises, and records the birth. in order to continue the cycle of birth and death
![CAMPปลิ้น | EP.76[1/2] โจโฉเปิดป่าโหดรับโอ๊ต-ป๊อบ รอบนี้พี่เอาจริง!](http://i.ytimg.com/vi/pNg5O7Pf-a0/mqdefault.jpg)
ขอให้ผู้ที่ได้เข้ามาดูทุกท่าน ได้สมาธิ ได้ตื่นรู้แจ้งเห็นจริงด้วยเถิด สาธุ
ความเพียรครับ เลยต้องบังคับ ปล่อยจิตตามสบายมันคอยแต่จะนอกลู่นอกทาง จำเป็นต้องเพ่งกำหนดรู้
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
สาธุๆค่ะ
ขอขอบคุณค่ะ
ขอบคุนครับบบ❤❤❤❤
ขอบคุณคะ
สาธุครับ
ขอบคุณนะคะ เห็นแนวทางปฏิบัติกระจ่างเลยค่ะ
สาธุค่ะ
ทุกท่านที่เจริญสมถะหรืออานาปานสติ อย่าลืมนะครับ นิวรณ์๕อย่าให้เข้ากวนจิต มันจะพาให้สมาธิถอยหลังไม่ก้าวหน้า
สาธุสาธุครับท่านอาจารย์
มหาพรศักดิ์ครับ
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
ขอบคุณมากๆนะคะ ที่ทำคลิปชี้ทางปฏิบัติให้เป็นแนวทางที่ถูกต้องสำหรับผู้ไม่รู้เหมือนเราคะ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻
สอนดีมากคะ จะลองปฎิบัติดู ได้ผลยังไงเดี๋ยวมาบอกคะ
ขอบคุณที่แนะนำนะคะ พอเกิดอารมณ์เบื่อหน่ายหญิงจะไม่ได้เข้าไปดูไปสังเกตอาการเลยค่ะปล่อยจิตปล่อยใจไหลตามอารมณ์
ขอบคุณค่ะ
ใกล้กันมาก อรัญญี และ อากิญจัญญา
🙏🙏🙏
ผู้รู้ กับ ผู้ถูกรู้
สาทุครับท่านโยคาวจรที่แนะนำสัมมาสติให้ผู้สนใจพ้นทุกข์ ผมเองตั้งใจรักษาศีล5ให้ได้ตลอด แต่สมาธิถือว่ายังเป็นผู้มาใหม่ อยากให้แชร์ธรรมะดีๆออกมาเรื่อยๆนะครับ
กราบขอบพระคุณครับ
เจอเวปท่านตอนทุกข์จริงๆค่ะ ทำอยู่ นั่งนิ่งๆนั่งเฉยๆ
เจริญสมาธิให้เป็นประจำทุกวัน ให้เสมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และที่สำคัญ ปรุงแต่งให้น้อย ใช้เท่าที่จำเป็น ใช้ความคิดอย่างควบคุม ไม่ปรุงแต่งฟุ้งซ่าน และไม่มีประโยชน์
รู้ในสิ่งที่ควรรู้ เจตนาในสิ่งที่ควรเจตนา ถือเป็นสัจจะธรรมโดยแท้
บางสิ่งไม่ควรรู้ ก็ให้ตัดเสียที่จะรู้ บางสิ่งไม่ควรเจนาก็ตัดเสียไม่ควรเจตนา
การดับรู้ในสิ่งที่ไม่ควรรู้ ก็คือการเอาเจตนาที่ถูกที่ควร มาใช้ ดับเจตนาในการรู้ที่ไม่ถูกไม่ควร
เพราะเจตนาคือการวางเป้าหมาย ดังนั้นเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ เป้าหมายนั้นถูกใคร่ควรมาดีแล้วหรือไม่ ? และควรไหมเหมาะสมไหมกับสถานการณ์ ถ้ายังไม่ควรก็ให้อย่าดันทุรังที่จะวางเจตนาที่จะกระทำเป้าหมายนั้น การละตรงนั้นได้ถือเป็นการเจตนาไปในสิ่งที่ควรกระทำ ณ เวลานี้มากกว่า ดังนั้นไม่ได้อยู่ที่ไม่เจตนา แต่อยู่ที่เจตนาอย่างมืออาชีพที่ช่ำชองรู้จริงถึงสัจจะธรรมที่เป็นเป้าหมายของความหลุดพ้นจริงได้แค่ไหนต่างหาก
และอย่าได้พูดถึงความหลุดพ้น เอาแค่กระทำในสิ่งที่ถูกที่ควรให้ได้มากที่สุด โดยรู้จักความเหมาะสมที่จะกระทำ แค่นี้ก็นับว่าดีที่สุดแล้ว เพราะความหลุดพ้นต้องผ่านจากตรงนั้นเป็นปฐม การกระทำคุมได้กี่เปอร์เซ็นต์ ตรงนี้คือพื้นฐาน ถ้าพื้นฐานถูกละเลยไม่กระทำให้มั่นคงขึ้นมาก่อน ยอดยิ่งสูงกิ่งก้านความรู้ยิ่งแผ่กว้างออกไปไพศาลเท่าไร ต้นมันก็จะยิ่งโค่นล้มลงไปง่ายขึ้นเพราะพื้นฐานมันอ่อนแอ พอเล่นในสิ่งที่ทั้งสูงชนิดสุดยอดในเอกภพและหนักชนิดรวมกรรมในจักรวาลทุกชาติภพมาไว้ในชาติเดียว มันจะรับได้หรือ ? เพราะฉนั้นคนรู้จริงในเรื่องแบบนี้เขาจะไม่พูดว่าจะไปนิพพาน แต่จะพูดว่า รู้ตนมีสติ รับความจริงเหล่านั้น รู้ความจริงเหล่านั้น แล้วเลือกทำความจริงเหล่านั้น ให้มันถูกให้มันควรอย่างมีสติ วางเจตนาไว้ที่ความจริงของโลก และความจริงของธรรม ตีรวมกันจนตนสามารถถึงความจริงของตัวเอง เอาแค่เสต็ปแรกนี้ให้ผ่านไปให้ได้ก่อน ถ้าผ่านได้แล้ว เราก็จะเห็นได้ว่าทุกอย่างก็ไม่จำเป็นต้องพูดต้องแสดง เพราะมันยากเกินจะอธิบายด้วยปัญญา และมันจะเหลือแค่การกระทำเท่านั้นที่จะเป็นสิ่งอธิบาย
ธรรม ของท่านลึกซึ้งยิ่งนัก. เพลง กระบี่ไร้เทียมทาน🙂😀😀
@@hermit_Chanel ข้าน้อยมิบังอาจที่จะเอื้อนเอ่ยว่าธรรมนี้เป็นของตน แต่แท้จริงแล้วมันเป็นสัจจะของโลกุตระธรรม เพียงความเข้าใจเล็กน้อยที่เอื้อนเอ่ยในสัจจะนี้ที่ข้าน้อยมีให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจจึงยังมิอาจหาญเทียบได้กับความยิ่งใหญ่แลลึกซึ้งของขุนเขาแห่งสัจจะในโลกุตระธรรม จึงยังมิอาจรับคำชมนี้ได้
@@Prasa_Yiaedin 😃
รบกวนสอบถามครับ ตอนนี้ผมกำลังฝึกทำให้จิตว่างไม่คิดปรุงแต่งอะไรปล่อยให้จิตว่างบางครั้งก็นั่งทำจิตว่างๆตอนบ่ายๆนั่งไปเรื่อยๆก็สับปะงกอยู่แบบนั้นทั้งๆที่ไม่ได้ง่วงนอนเลยรู้ตัวตลอดแบบนี้ต้องทำอย่างไรดีครับ แต่จิตก็เริ่มดีขึ้นครับปล่อยว่างไปได้เยอะไม่คิดปรุงแต่งอะไรขึ้นมาเหมิอนเมื่อก่อนครับ
🤍🕯️ครับขอเป็นกำลังใจนะครับ🙏🌈🧘🌟
ลองเดิน กลับไปกลับมา สองวัน แล้วค่ะ สาธุค
มีผลออกมาไหมคะกำลังจะลองทำเหมือนกัน
สวัสดีค่ะ ได้ฟังแนวทางปฏิบัติแล้วรู้สึกชอบค่ะได้พัฒนาการปฏิบัติของตัวเองให้ดียิ่งๆขึ้นไป อยากสอบถามอาจารย์ของท่านชื่อและวัดอะไรจะได้ไปกราบน้อมรับบารมีค่ะ
จริงค่ะจิตมันว่างของมันเองภ้าจะไปกำหนดให้มันว่า/ไม่ว่างหรอกค่ะขอบคุณนะคะ
ฉันเคยเห็นเปรตสามตนคุ้ยดินอยูตลอดเวลาอยากถามว่าเขามีวิบากกรรมอะ
ไรคะ
ค่ะ..ทำงานบ้านอยู่ค่ะ..อยู่จะมีอาการง่วงนิดแต่จิตเราอยากปล่อยทุกอย่างในมือแล้วกำหนดเลยค่ะ
ก็จะนิ่งได้ไม่เกิน10.นาทีค่ะ
พอลืมตาตัวเรารู้สึกสบายนิดนิดค่ะ.แต่มีพลังทำงานดีกว่าเก่าค่ะ
เมื่อจิตที่เคยฝึกสั่งสมมาเรื่อยๆเป็นระยะเวลาเหมือนน้ำทีละหยดๆนานเข้านานเข้า จนเกิดความเคยชิน พอชินซะแล้ว จากที่เคยกำหนด คอยควบคุม เสมือนเครื่องยนต์ที่ต้องคอยสตาร์ทติดใหม่อยู่เรื่อยๆ แต่เดี๋ยวนี้เป็นการวางเครื่องยนต์ใหม่เป็นเครื่องที่ทำงานโดยอัตโนมัติ วิธีสังเกตว่าได้หรือไม่ได้ ผิดหรือถูก ให้ดูที่การบาดเจ็บของอารมณ์ ตึงประสาทความคิด รู้สึกฝืนกดดันมีแรงต้านต่อสู้ หรือไม่ถ้ามีก็ยังไม่ถูกทาง แต่ถ้ากระบวนการนั้น เป็นไปด้วยความโล่งเบารู้แบบ สบายๆ ผ่อนคลายประสาท เป็นธรรมชาติเช่นนั้นเองก็ถือเป็นอันว่าถูกต้องและถูกทาง อันนี้ผมเข้าใจถูกหรือไม่ครับท่าน ขอท่านผู้นำเสนอช่วยติเตือนให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ❤
ที่อธิบายมาก็ถูกนะครับ ถ้ามีความตั้งใจ ที่จะเจริญสติ แต่ไม่กดไม่เพ่ง จนเกินไป มันก็จะเบา. และสบายมาก. มันก็สามารถสร้างฌานให้เกิดได้
แต่คำว่าไม่มีเจตนาเนี่ย ต้องอาศัยชั่วโมงบินจริงๆครับ คือไม่มีความตั้งใจที่จะ กำหนด ที่จะรู้ แต่มันก็รู้อยู่ มีสติอยู่
สติตัวจริงๆแม้ไม่มีความตั้งใจที่จะกำหนดมัน มันก็มีของมันอยู่ได้.
@@hermit_Chanel ขอบคุณมากครับ แล้วผมจะตั้งใจปฏิบัติต่อครับ
สวัสดีครับ ใช่ท่านเดียวกับ ช่อง ฤาษีสอนธรรมไหมครับ เพราะผมเคยฟังช่องนั้น แต่มีคลิปเดียว ยังนึกเสียดาย ถ้าใช่ถือว่าเป็นบุญมากที่มาพบอีก
อยากฟังเรื่อง " ผีอำ " ครับ ว่ามีจริงไหม ผี มาอำ แทรกจิตเราในขณะตกภวังค์ ได้ด้วยหรอ หรือจริงๆ เป็นแค่อาการทางสมองครับ
ทำหัวข้อนี้หน่อยได้ไหมครับ 🙏🏻😀
🤍🕯️ครับนั้น,อาจ,เป็นฮาการ,จิตรวม,รึเปล่านะครับ,เพราะท่านพระอจ.สมภพท่านเคยกว่าใว้น่ะครับ ว่าใหม่ใช่,ผีอำน่ะครับ,สาการครับ🙏😅🌟🧘
การเจริญสตินั้นที่ฟังอยู่นี่ก็วนอยู่ในอ่างนะ การเจริญสติถ้าเป็นพุทธก็ต้องเป็นสติปัฏฐาน4 ที่มีกายเวทนาจิตแล้วธรรม นักพรตนิรนามอาจไม่เคยบวชถึงไม่พูดถึงกรรมฐาน5ที่พระพุทธเจ้าให้ในไว้ในวันบวชโดยผ่านอุปัชฌาย์คือผมขนเล็บฟันหนังคืออะไรคือกายนี่เองพระพุทธเจ้าให้เอาจิตไว้ที่กายดูผมขนเล็บฟันหนังและอาการ32ไว้ถ้าเอาจิตไว้ที่อื่นแล้วมารทั้งหลายก็จับพวกเธอได้ฉะนั้นสติปัฏฐาน4ที่มีในมรรค8นั้นเป็นทางสายกลางที่จะเดินไปความหลุดพ้นจากการเกิด สติปัฏฐาน4ที่เป็นสัมมาสติและมีความเพียรชอบหรือสัมมาวายามะคอยเกื้อกูลกันปฏิบัติจนหมดกิเลสหมดกิเลสได้อย่างไรก็สติปัฏฐาน4โดยเห็นตัวเองเป็นอสุภอยู่ตลอดเวลา ขอเน้นว่าเห็นเมื่อปฏิบัติสติปัฏฐาน4นี่จะเป็นไปเพื่อเปิดดวงตาในดังนั้นเมื่อดวงตาในเห็นตัวเองก็คือดวงตาเห็นธรรมนั้นหมายถึงโสดาบันแล้วโสดาบันนั้นปิดนรกได้แล้วนั้นเอง
อธิบายมานี่คือไปอ่านหนังสือมาหรือว่าทำเองได้แล้ว😃
มันก็คือมหาสติปัฏฐาน 4 นั่นแหละครับ แต่มันเป็นเจโตวิมุต
แล้วคลิปนี้ ก็อธิบายแค่เจเจวิมุติ เท่านั้น จึงไม่ได้พูดถึง กาย เวทนา จิต ธรรม
ทำไมต้องสติ ที่ไร้เจตนา ?..รู้ไหม
นักภาวนาในสมัยปัจจุบันนี้ เจริญมาหาสติปัฏฐาน 4. แบบมีตัวตนเข้าไปแทรกแซง มีเจตนาเข้าไปแทรกแซง เช่น สติจะต้องต่อเนื่อง ห้ามไหล ห้ามปรุง หรือเมื่อไหลไปปรุงแล้ว มีการ ตั้งใจดึงสติกลับ มีการเพ่งไว้ มีการจ้องดูเวทนา. แบบนี้เป็นต้น เรียกว่าการเจริญสติที่มี เจตนา มันผิดวิธีครับ
นั่นก็คือ เหตุผล ที่ผมมาชี้ให้เห็น และทำคลิปนี้ การเจริญสตินั้นต้องไร้เจตนาไม่เข้าไปแทรกแซงจิต. ก็คือ คลิปนี้ครัย
เมื่อได้หลักการเจริญสติที่ถูกต้อง ในเบื้องต้นแล้ว ก็เป็นจุดเริ่มต้น ในการเดินวิปัสสนา ต่อไป
@@hermit_Chanelท่านครับขอสอบถามวิธีการสลัดขันธ์5ของพระอรหันต์ได้ไหมครับทำยังไง พอดีผมเพิ่งรู้ว่ามันมีวิธีทำฤทธิ์ของพระอรหันต์ โดยกรสลัดขันธ์5ด้วย ผมก็งุ้นอยู่ในการเข้าฌานมันไม่ได้สักที ได้แค่ปิติตัวส่ายเอง เลยอยากสอบถามวิธีการสลัดขันธ์ได้ไหมครับ ผมขอติดต่อท่านส่วนตัวได้ไหมครับ. ขอความกรุณาด้วยครับ🙏🙏🙏
@@mmt9689 ให้ดูสภาวะเหล่านี้มีเกิดขึ้นในตนหรือยัง
หากไม่มีเกิดขึ้นในตน นั่นหมายถึงยังไม่เข้าถึงธรรมตามลำดับ
๑๐. อาสวักขยสูตร
[๗๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการนี้
อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นอาสวะทั้งหลาย
ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน
คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นว่าไม่งามในกาย ๑
มีความสำคัญว่าเป็นของปฏิกูลในอาหาร ๑
มีความสำคัญว่าไม่น่ายินดีในโลกทั้งปวง ๑
พิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยงในสังขารทั้งปวง ๑
เข้าไปตั้งมรณสัญญาไว้ในภายใน ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการนี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว
ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ฯ
อธิบาย
---
คำว่า เข้าไปตั้งมรณสัญญาไว้ในภายใน
ได้แก่ สภาวะจิตดวงสุดท้ายหรือมรณะ ซึ่งไม่มีเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
เวลาสภาวะมีเกิดขึ้น ไตรลักษณ์มีเกิดขึ้นก่อน เวทนากล้าแสนสาหัส
จิตปล่อยวางจากความยึดมั่นถือมั่นในสภาวะที่มีเกิดขึ้น
สภาวะจิตดวงสุดท้ายมีเกิดขึ้นต่อ แล้วดับ
หากมีเกิดขึ้นตามจริง เพียงยังคงปฏิบัติต่อเนื่อง
อย่ายึดมั่นถือมั่นในสภาวะที่มีเกิดขึ้น อย่าให้ตัณหาและทิฏฐิที่มีอยู่ครอบงำได้
หากปล่อยให้ตัณหาความอยากเป็นและทิฏฐิ ตนเป็น ครอบงำ
ทำให้สภาวะจะจมแช่เพียงแค่นั้น
เพราะสภาวะจิตดวงสุดท้ายไม่ได้มีเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
แล้วไม่ใช่มรณะแล้วไปเที่ยวสวรรค์ นรก พอฟื้นกลับมานำสิ่งที่ตนเห็นมาเล่า
ก็นี่แหละคับถึงได้เลิกฟังเทศน์..ปวดหัว😂😂😂..
เคยดูไปเรื่อยพบความว่างทำไงต่อค่ะ
การเจริญสติแบบจิตว่าง
th-cam.com/video/HPFO6HXg1Ug/w-d-xo.html
ขอบคุณนะคะได้คำชี้แนะที่ดีมากขออนุโมทนาบุญด้วย
อยากติดต่อสอบถามช่องทางไหนได้บ้างครับ
ตัวอย่างของผู้ปฏิบัติที่เจริญสติ ครั้งแรกใช้คำบริกรรมจนจำคำบริกรรมได้ ไม่ลืม จากเคยใช้คำบริกรรม ไม่ต้องใช้คำบริกรรม
เดิน 60 นั่ง 70 วันที่ 25/11/23 เดินระยะสี่ไม่ใช้คำบริกรรม (กลับบ้าน ทำ 1 รอบ)
ยืนหนอห้าครั้ง รู้ฝ่าเท้าสองข้างเองตึงๆ หยุดก่อน รอซักพักจน รู้ว่าฝ่าเท้าทั้งสองข้างเหยียบพื้นอยู่ หยุดก่อน
รอซักพักจนรู้สึกเท้าขวาที่เหยียบพื้นอยู่ชัดขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
ค่อยยกส้นเท้าขึ้นช้าๆปลายเท้ายังแตะพื้นแล้วหยุดก่อน
ค่อยๆยกปลายเท้าขึ้นเหนือพื้น หยุดค้างไว้ แล้วเคลื่อนเท้าไปข้างหน้า
เหยียบฝ่าเท้าลงที่พื้นเต็มเท้า รู้สึกฝ่าเท้ากระทบพื้น
แล้วไปรู้ที่เท้าซ้ายตึงๆขมวดขึ้นมาเอง หยุดก่อน
ค่อยๆยกส้นเท้าซ้ายขึ้นช้าๆ ปลายเท้ายังแตะพื้น รู้สึกที่ปลายเท้าที่แตะพื้น
ค่อยๆยกปลายเท้าขึ้นเหนือพื้น หยุดค้างไว้ แล้วเคลื่อนเท้าไปข้างหน้า
เหยียบฝ่าเท้าลงที่พื้นเต็มเท้ารู้สึกฝ่าเท้าสัมผัสพื้นเย็นนิดหน่อยแล้วตึงนิดๆ
เดินจนสุดทางหยุดก่อน รู้ฝ่าเท้าสองข้างเองตึงๆมีความคิดแทรก
หลับตาบริกรรมรู้หนอถี่ๆหายใจเข้าออกลึกๆหยุดคิดแล้วหยุดอยู่สักพัก
ค่อยกำหนดยืนหนอห้าครั้ง รู้ฝ่าเท้าสองข้างเองตึงๆ รู้สึกฝ่าเท้าเหยียบพื้นอยู่
รู้เท้าขวาที่เหยียบพื้นอยู่ ค่อยๆกลับเท้าขวา กลับเสร็จรู้สึกที่เท้าขวาที่เหยียบพื้นอยู่
รู้เท้าซ้ายตึงขมวดขึ้นมา ค่อยๆกลับเท้าซ้าย กลับเสร็จรู้สึกเท้าซ้าย
กลับเท้าต่อจนครบหยุดก่อน รู้ฝ่าเท้าสองข้างเอง รู้สึกฝ่าเท้าสองข้างเหยียบพื้นอยู่
กำหนดยืนหนอห้าครั้ง รู้ฝ่าเท้าสองข้างเอง หยุดก่อน ยังรู้ฝ่าเท้าทั้งสองข้างที่เหยียบพื้นอยู่เท่าๆกัน
บริกรรมรู้หนอที่เท้าขวามากกว่าสามครั้งรู้สึกเท้าขวาเริ่มชัดขึ้น ค่อยกำหนดเดินต่อ
ระหว่างเดินมีความคิด หยุดหลับตา บริกรรมรู้หนอถี่ๆหายใจเข้าออกลึกๆ ตามหลังหยุดคิดเดินต่อ
เดินจนหมดเวลายืนหนอห้าครั้งรู้ฝ่าเท้าสองข้างที่เหยียบพื้นอยู่ นั่งลง รู้จิตพูด รู้การหายใจ รู้ฝ่าเท้าสองข้างตึงๆ รู้ท้องขยับ
นั่งไปนานๆ มีสีนิดหน่อยสีเขียว มีความปวดขาซ้ายและสะโพกบีบคั้น แต่บางครั้งก็เหมือนจะปวดน้อยลงบางครั้งก็ปวดบีบคั้นขึ้น ปวดบีบคั้นไปเรื่อยๆ จนสักพักความปวดก็เปลี่ยนไปเหมือนจะปวดเหมือนจะไม่ปวด แล้วก็เหมือนหายปวดของมันไปเอง นั่งจนหมดเวลาแผ่เมตตาอธิษฐานจิต มีสีม่วงนิดๆ ลืมตา
5 / 12 / 23 เดิน 60 นั่ง 88 รอบที่ 2 เดินระยะสี่ไม่ใช้คำบริกรรม
ยืนหนอห้าครั้ง รู้ฝ่าเท้าสองข้างที่เหยียบพื้นอยู่ตึงนิดๆ
เท้าขวาจะชัดกว่าเท้าซ้ายเล็กน้อย จะชัดขึ้นที่ใจกลางฝ่าเท้าที่เหยียบพื้นอยู่
ค่อยๆ ยกส้นเท้าขวาขึ้นช้าๆ ปลายเท้ายังแตะพื้นจะรู้สึกที่เท้าขวาตึงๆ
ค่อยๆ ยกปลายเท้าลอยขึ้นเหนือพื้นแล้วหยุดค้างไว้ แล้วเคลื่อนเท้าไปข้างหน้าเหยียบฝ่าเท้าลงที่พื้นเต็มเท้า รู้สึกฝ่าเท้ากระทบพื้นตึงๆ
แล้วก็รู้เท้าซ้ายที่เหยียบพื้นอยู่ค่อยๆ ตึงขึ้นมา ค่อยๆ ยกส้นเท้าซ้ายขึ้นช้าๆ ปลายเท้ายังแตะพื้น รู้สึกที่ฝ่าเท้าตึงๆ
ค่อยๆยกปลายเท้าลอยขึ้นเหนือพื้นหยุดค้างไว้ ค่อยๆเคลื่อนเท้าไปข้างหน้า เหยียบฝ่าเท้าลงที่พื้นเต็มเท้า รู้สึกฝ่าเท้าสัมผัสพื้นแล้วเย็นนิดหน่อยแล้วตึงๆ ขึ้นมา
เดินไปจนสุดทางรู้ฝ่าเท้าสองข้างที่เหยียบพื้นอยู่เอง
กำหนดยืนหนอห้าครั้ง รู้ฝ่าเท้าสองข้างที่เหยียบพื้นอยู่
เท้าขวาที่เหยียบพื้นอยู่ชัดขึ้นเล็กน้อย ค่อยๆ กลับเท้าขวา
กลับเสร็จรู้สึกที่ฝ่าเท้าขวาที่เหยียบพื้นอยู่ เท้าซ้ายที่เหยียบพื้นอยู่ค่อยๆดึงๆ
ค่อยกลับเท้าซ้ายกลับเสร็จ รู้สึกที่ฝ่าเท้าซ้ายที่เหยียบพื้นอยู่
กลับเท้าต่อจนครบข้างหยุดก่อน รู้สึกฝ่าเท้าทั้งสองข้างที่เหยียบพื้นอยู่ตึงๆ
กำหนดยืนหนอห้าครั้งรู้สึกฝ่าเท้าสองข้างที่เหยียบพื้นอยู่ตึงๆ เท้าขวาจะชัดกว่าเท้าซ้ายเล็กน้อย หยุดซักพักค่อยๆกำหนดเดินต่อที่เท้าขวา
ระหว่างเดินมีความคิดแทรก ช่วงหลังๆของการเดินจะเริ่มฟุ้งบ่อยขึ้น
พอรู้ตัวก็จะหยุดหลับตาบริกรรมรู้หนอถี่ๆ ซ้ำๆหลายๆ ครั้งจนหยุดคิด กลับมารู้ที่ฝ่าเท้าสองข้างที่เหยียบพื้นอยู่ตึงๆ หายใจเข้าออกลึกๆตามหลัง แล้วค่อยเดินต่อ
เดินจนหมดเวลายืนหนอห้าครั้งรู้ฝ่าเท้าสองข้างตึงๆ รู้สึกฝ่าเท้าเหยียบพื้นอยู่นั่งลง
นั่งจิตพูดหรือคิดอะไรของมันเองคลอๆ รู้การหายใจ รู้ฝ่าเท้า รู้ท้องขยับ พอนั่งไปสักพักส่วนใหญ่จะรู้ที่จิตพูดหรือคิด
แล้วก็รู้ว่ามีกายนั่ง รู้สึกฝ่าเท้า แต่ฝ่าเท้าจะไม่ได้รู้ตลอดเวลา บางช่วงก็จะชัดมากบางช่วงก็เหมือนไม่ได้สนใจฝ่าเท้า แต่ส่วนใหญ่ก็จะรู้ฝ่าเท้าอยู่เรื่อยๆ มีสีม่วงบางช่วง นั่งจนหมดเวลาแผ่เมตตาอธิฐานจิตมีสีม่วงอธิฐานจบลืมตา
ขอบคุณมากค่ะหาแนวทางปฏิบัติเจอคลิปอาจารย์พอดีขอให้เจริญในศลีในธรรมถ้ามีบุญสัมพันธ์คงได้เจอกราบขอบคุณอีกครั้งค่ะสาธุๆๆๆค่ะ
อาจารย์ท่านเป็น ฆาราวาส(ฤษี) หรือเป็นนักบวชครับ
อาจารย์ของผมเป็นพระครับ
ส่วนผมเป็นฆราวาส
ฝึกดูลมมานสนไม่ไปไหนเลย
จริงๆภาษาวิปัสสนาเขาเรียกว่ากำหนดรู้ โดยไม่ปรุงแต่งว่าชอบหรือไม่ชอบ ใช้คำว่าไร้เจตนามันเลยดูฟังแปลกๆผิดถูกอย่างไรก็คุยกันได้ครับ คนที่ฝึกเย็นหนอรู้หนอ😊น่าจะง่ายกว่า
การกำหนดรู้ ผลของมันมันจะมีอยู่ 2 แบบ แบบแรกคือแบบที่ผิด อย่างเช่น ไปเพ่งไว้ หรือไม่อยากให้สติมันขาด หรือไปพยายามละความคิด แบบนี้เรียกว่ามีเจตนาเข้าไปแทรกแซง กระบวนการของจิต
สติที่ไร้เจตนาก็คือไม่มีการกระทำใด ๆ มีหน้าที่แค่รู้ สติจะขาดก็ไม่ห้าม จิตจะไหลไปปรุงก็ไม่ห้าม ตอนจิตจะกลับมาก็ไม่พยาม ๆ ดึงกลับมา
ไม่มีความพยายามแม้แต่น้อยนิด. ว่าจะต้องคอยเจริญสติไว้ คอยกำหนดไว้
การที่จิตไหลไปปรุง มันเป็นกระบวนการความคิดธรรมชาติ ที่เกิดจากผัสสะ เรามีหน้าที่แค่วางเฉย และไม่ต่อยอดในการปรุงนั้น ความคิดทั้งหลายมันจะดับไปเอง
จะทำยังไงคะไม่ให้หลับขอบคุณค้า
ทำสมาธิตอนไม่ง่วงครับตอนนอนเต็มที่แล้ว
ติดพุทโธ พอว่าง หรือทำอะไรอย่ บางทีมันมันก็นึกขึ้นมาเอง เป็นอะไรไหมคับ
วางเฉยเดี๋ยวก็หายไปเองครับ ความคิดมีอยู่ตลอดเวลา แต่เราไม่ตาม มันก็จะดับไปเอง มันเกิดๆดับๆตลอดเวลา ให้เรามีสติรู้อยู่กับความว่างๆ
ผู้เข้าชมใหม่
ถัาขันห้าระเบิดแล้วเราจะทำยังไงต่อที่จะเอาขันห้าเข้ามาใกายใหม่
ขันธ์ 5 ที่ระเบิดออกไปแล้วมันก็สามารถน้อมกลับมาหุ้มใหม่ได้ สามารถไล่ออกได้ หรือจะดับทีละตัวแบบพระเข้านิโรธสมาบัติก็ได้
ขอสอบถามค่ะ การทำสมาธิด้วยเสียงเพลงและเสียงนำสมาธิ โดยจิตจดจ่อที่เสียงนั้น ควรหรือไม่คะ ขอบคุณค่ะ🙏
สมาธิแบบนั้นมันก็เป็นสมาธิทั่วๆไป สมมุติว่าผมกำลังขับรถไป แล้วก็มีสมาธิจดจ่ออยู่กับการขับรถ
ซึ่งทุกคนก็มีสมาธิชนิดนี้อยู่แล้ว โดยปกติชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะทำงานทำการ สมาธิจดจ่ออยู่กับงานนั้น
การนั่งภาวนามันจะได้สมาธิชนิดจิต ตั้งมั่น มันเป็นการฝึกในรูปแบบซึ่งให้ผลมากกว่า
@@hermit_Chanel ขอบคุณมากค่าาา🙏🏼
อ.ครับ ผมจะขอแอดไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการฝึกได้ไหมครับ
มีครอบครัวแล้วฝึกเพื่อบุญกุศณได้หรือเปล่า
ได้ครับ. ฝึกให้ไวเลย. สติ. สมาธิ. นี่ยอดบุญเลยครับ
เวลาเดินจงกรมกำหนดแบบไหนครับ
ให้มีสติรู้ว่างๆ ในเวลาเดินจงกรม และในชีวิตประจำวันด้วย ครับ
ฌาน4 อารมณ์ประมาณไหนคับ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ใช่ฌาน4 หรือป่าว
ว่างกับรู้รวมเป็นหนึ่ง. แต่กว่าจะไปถึงชั้น 4 ได้ มันจะผ่านชั้น 1 2 3 ไปก่อน ซึ่งก็ยากแสนสาหัส ผมก็ฝึกเป็น 10 ปีกว่าจะเข้าถึงฌาน 4 ได้เป็นครั้งแรก
แต่ก็อย่าไปย่อท้อ เราต้องฝึกไปเรื่อยๆแหละครับ ค่อยๆพัฒนาไปเรื่อยๆ
สอบถามครับ ฌาน 5678 ต่างจาก ฌาน 4 อย่างไงครับ
เอาไว้จะทำคลิปให้ฟังนะครับ
@@hermit_Chanel❤
รอติดตามอจ.คะ ชอบสมาธิดำเนินจิตได้ความสว่างเบากายเบาใจสดชื่นตลอดผ่านเวทนามาได้เข้าออกสมาธิได้คล่องแต่ไม่รุ้วิธีควรพัฒนาเดินจิตไปทางใดต่อไป
ไม่ปรุงต่อกับละนี่ต่างกันไงครับจารย์
ตอนแรก ๆ ของการฝึก. ความคิดเกิดขึ้นก็ให้ตั้งใจละไปก่อน พอชำนาญมากๆแล้ว มันไม่ต้องละ มันจะเกิดเองดับเอง
แต่ความคิดมันก็ยังผุดเกิดขึ้นอยู่. เพราะมันเกิดจากผัสสะ มันคิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตลอดเวลา แต่ไม่ใช่เราคิด
เมื่อมันคิดขึ้นเอง ผุดขึ้นเอง เราอย่าไปต่อยอดความคิดนั้น วางเฉยแล้วปล่อยให้มันดับลงไปเอง จึงไม่มีใครเข้าไปละ ถึงเราไม่เข้าไปล่ะ. มันก็ดับอยู่แล้ว. มันเกิดเพื่อจะดับตัวมันเองอยู่แล้ว
@@hermit_Chanel เหมือนเหม่อลอยไหมครับจารย์อันนั้นถนัดเลยนะ
รู้ซื่อๆ
แม่นแล้วครับ. รู้ซื่อ ๆ รู้อย่างที่มันเป็น
เรียนถามค่ะ..การเดินจงกลมต้องเดินเวลาเดิมของทุกวันหรือว่างช่วงไหนเดินได้ไหมค่ะแต่ต้องเดินวันละ1ชั่วโมง.ขอบพระคุณมากค่ะ
@@user-px6ok6hy3j ได้ครับประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับกิจวัตรประจำวันของเรา เพราะแต่ละคนมีเวลาไม่เท่ากัน
@@user-px6ok6hy3j เดินจงกลม ก็เหมือนนั่งสมาธิอ่ะครับ ทำให้รู้สึกกายรู้สึกใจ เดินตอนไหนก็ได้ครับ ทำเหมือนนักบอล มีเวลาซ้อม มีเวลาแข่ง เดินในรูปแบบ กำหนดว่าเวลานี้เราจะเดิน กี่นาที เหมือนซ้อมบอลอ่ะครับ พอเวลาใข้ชีวิตประจำวัน ก็เหมือนแข่งบอล เดินไปไหนก็รู้สึกกายรู้สึกใจไว้
@@hermit_Chanel ขอบพระคุณมากค่ะ
ไม่เจตนารู้นี้หาคนสอนน้อยมาก
เมื่อ 15 ปีก่อนเข้ากรุงใหม่ๆเคยไปฝึกนั่งสมาธิแบบธรรมกาย ( ฝึกแบบเอาจิตไว้ที่ศูนย์กลางกาย เป็นมือใหม่ ยังไม่เกิดผลลัพธ์ใดๆทั้งสิ้น )
ต่อมาลาพักร้อน ไปบวชชีพราหมณ์ที่วัดอัมพวัน ( หลวงพ่อจรัญ ) สาย...หนอ. ถ้าเห็นนิมิตรอะไรให้บอกตัวเองว่า เห็นหนอ
วันแรกรอบเช้าที่นั่งสมาธิ เราไม่เคยชินกับคำว่าหนอ...แต่เคยชินกับคำว่า พุธโท ( สัมมาอรหัง ก้อไม่ชิน หนอก้อไม่ชิน ) ผมแผลงครูผู้สอนกรรมฐานไปตามความเคยชินส่วนตัว คือ บริกรรมคำว่าพุทโธ ดูลมหายใจเข้าออก +ควบรวมวิธีที่ธรรมกายสอนคือ หลับตาแต่อย่าให้สนิท (หลับตาเหมือนพระพุทธรูป พริ้มพรายไม่เห็นภาพภายนอกเห็นแต่แสงเรืองๆจากภายนอก )
นั้งกรรมฐานไปได้น่าจะประมาณ 15 นาที ตัวเริ่มเบา ไม่มีเวทนาปวดเมื่อยเหมือนก่อนที่เคยมา เห็นแสงสีม่วงเหมือนพายุหมุนวนอ่อนๆ แล้วเปลี่ยนเป็นเขียว เป็นแดง เป็นเหลืองทอง
เมื่อถึงการมองเห็นแสงเหลืองทอง เป็นภาวะที่รู้สึกเหมือนว่า ไม่มีตัวตนแล้ว หยุดนิ่ง ไม่มีหายใจ ไม่มีการบริกรรมภาวนาใดๆ แต่รู้แค่ว่าเราเห็นเราเฝ้ามอง ต่อมาเห็นแสงสว่างเล็กๆที่ไกลสุด แล้วแสงนั้นสว่างจ้า เข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว และมีพระพุทธรูปทองคำ ลอยเข้ามาใกล้ใหญ่ขึ้นโตขึ้น สว่างมากยิ่งกว่ากลางวัน พระพุทธรูปหมุนรอบตัวเอง
ธรรมกายเค้าเคยพูดไว้ว่าเห็นนิมิตรองค์พระใสๆหมุนรอบตัว แต่ผมเห็นนิมิตรเป็นพระทองคำหมุนรอบตัวแล้วขยายใหญ่ขึ้นสว่างขึ้น
จู่ๆ...ผมก้อนึกขึ้นมาได้ว่า ( เริ่มมีตัวตน ) ครูฝึกสอนกรรมฐานสอนว่าเห็นอะไร ให้กำหนดจิตว่า เห็นหนอ
ฉับพลัน นิมิตรที่ผมเห็น ดับวูบ มืดมิด ตัวหนักทันทีทันใด เหมือนใครเอาภูเขามาทับเราทั้งตัว ปวดเมื่อยไปถึงกะดูกทั้งร่างกาย จนต้องถอยออกจากการนั่งกรรมฐานก่อนกำหนดเวลา
สายธรรมกายเวลาเห็นองค์พระเค้าจะให้เพ่งมองเข้าไปอย่างสบายๆ แต่สายหนอ สอนว่า นิมิตรที่เห็นอาจเป็นมารมาหลอก ให้เห็นหนอเข้าไว้
เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ผมมีนิมิตรใหญ่และชัดเจนมากสำหรับผม ค่อจากนั้นก้อไม่มีวาสนามาฝึกทางธรรมอีกเลย
ผมไม่รู้จะคุยเรื่องนี้กับใคร...เพียงแต่อยากจะนำประสบการณ์บางอย่างมาเล่าสู่กันฟังบาง555...
ทีฟังคลิปมาทั้งหมดผมเข้าใจน่ะ..ว่าอย่าเอาตัวตนไปแทรกแซง หรือควบคุมบริหารจัดการ ให้เป็นไปตามใจเราในสมาธิ
ช่วงนี้ผมมีโอกาสจะได้เข้าไปนับหนึ่งฝึกสมาธิใหม่อีกครั้ง...ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ คลาดพลูครับ❤❤❤❤❤❤❤❤😂😂😂
สวัสดีครับ ผมฝึกทำสมาธินานแล้ว ผมมีปัญหาขอความกรุณา ตอบคำถาม ผมเคยเข้าณานได้ นานมาแล้ว แต่ขณะนี้เข้าณานไม่ได้ ผมทำสมาธิ ทุกวัน เวลา ตี 3 ,4 ตี
โฟกัสอยู่ที่ลมที่เดียว ไม่ไปรู้ที่อื่นเลย ครับทำบ่อยๆ ทำทุกวัน พอมันนิ่งได้ที่มันจะเข้าเองครับ แต่ก่อนนั่งไม่ต้องมีความคาดหวังอยากจะได้อะไร ให้ทำจิตสบายๆ ไม่เพ่งไม่รักษา
ขอขอบคุณมากๆครับผม.
สาธุครับ
สาธุค่ะ