การแสดงละครใน เรื่องอิเหนา ตอนอิเหนา จินตะหรา มาหยารัศมี สการะวาตีชมสวน
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 2 ก.พ. 2024
- การแสดงนาฏศิลป์ไทย ภายในงานเฉลิมพระเกียรติ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ประจำปี ๒๕๖๗ ณ โรงละครกลางแจ้งกฤษฎารณฤทธิ์ อุทยานพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม วัน เสาร์ ที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๗
บทละครใน เรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงพระราชนิพนธ์เป็นกลอนบทละครสำหรับใช้แสดงละครใน โดยทรงศึกษารวบรวมข้อมูลมาจากบทละครพระนิพนธ์ใน เจ้าฟ้าหญิงกุณฑลและเจ้าฟ้าหญิงมงกุฎ พระราชธิดาในพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระมหากษัตริย์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ทั้งสิ้น ๔๕ เล่มสมุดไทย เมื่อพระราชนิพนธ์เสร็จ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้คณะละครในผู้ชาย ในสมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษมนตรี ที่ได้รับตกทอดมาจาก สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ พระเชษฐาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ นำบทละครในเรื่องอิเหนาที่ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นมาใหม่นี้ ลองนำไปประดิษฐ์ท่ารำและทดลองแสดง จนมีนักแสดงที่มีชื่อเสียงขึ้นมาถึงสองท่าน ได้แก่ ครูทองอยู่ อิเหนา ครูรุ่ง บุษบา และโปรดเกล้าฯให้ละครของกรมหลวงพิทักษมนตรีเข้ามาสอนกระบวนท่ารำละครเรื่องอิเหนานี้แก่ละครหลวงในพระองค์
เรื่องอิเหนาแต่เดิมนั้นเป็นนิทานที่เล่ากันมากในประเทศชวา (อินโดนีเซีย) บางที่เรียกนิทานปันหยี เป็นนิทานอิงประวัติศาสตร์ มีเค้าโครงเรื่องจากพงศาวดารชวา มีมากมายหลายสำนวน นิทานอิเหนาสันนิษฐานว่าเข้ามาในประเทศไทยสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย โดยหญิงเชลยปัตตานีผู้เป็นข้าหลวงรับใช้เจ้าฟ้ากุณฑล และเจ้าฟ้ามงกุฎ พระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ซึ่งได้เล่าถวาย จากนั้นพระราชธิดาทั้งสองทรงแต่งเป็นบทละครเรียกว่าอิเหนาเล็ก (อิเหนา) และ อิเหนาใหญ่ (ดาหลัง) ดังมีบันทึกไว้ในพระราชนิพนธ์อิเหนาของพระบาทสมเด็จ พระพุทธเลิศหล้านภาลัยเป็นเพลงยาวในตอนท้ายตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
ในปีพ.ศ. ๒๔๕๙ วรรณคดีสโมสรในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ยกย่องให้บทละครใน เรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ว่าเป็นยอดแห่งบทละครรำ เพราะเป็นหนังสือที่แต่งดี มีลีลาภาษาที่ สละสลวยและงดงาม ทั้งยังให้ความรู้ด้านประเพณีไทยโบราณอีกด้วย
การแสดงละครใน เรื่องอิเหนา ตอนอิเหนา นางจินตะหรา นางสะการะวาดี และนางมาหยารัศมี หรือตอนนางจินตะหราพาอิเหนาไปชมสวนนี้ เนื้อเรื่องกล่าวถึงหลังจากที่ อิเหนาพระราชโอรสท้าวกุเรปัน เมื่อครั้งท้าวกุเรปันบัญชาให้อิเหนาคุมเครื่องสักการะไปเคารพพระศพพระอัยยิกา ณ เมืองหมันหยา อิเหนาจึงได้พบกับนางจินตะหรา พระราชธิดาของท้าวหมันหยา อิเหนาหลงรักนางจินตะหราจนไม่ยอมกลับเมือง จนท้าวกุเรปันต้องเรียกตัวกลับโดยอ้างว่าประไหมสุหรีทรงครรภ์แก่แล้ว แต่เมื่อประไหมสุหรีประสูติพระธิดาวิยะดาแล้วอิเหนาก็ออกอุบาย ขอออกประพาสป่าโดยปลอมเป็นโจรป่าชื่อว่า ปันหยี ระหว่างเดินทางเข้าเมืองหมันหยา ปันหยีได้ฆ่าระตูบุศสิหนาตาย ระตูปันจะรากันและระตูปักมาหงันพี่ชายระตูบุศสิหนาขอยอมสวามิภักดิ์และยกโอรส ธิดา ได้แก่ นางสะการะวาดี นางมาหยารัศมี และสังคามาระตา แก่ปันหยี เมื่ออิเหนาเสด็จเข้าเมืองหมันหยาและได้นางจินตะหราเป็นชายาแล้วก็เล่าความเบื้องหลังที่ได้สองราชธิดาและโอรสมาจากสองระตู นางจินตะหรานึกสงสารจึงรับสองนางและสังคามาระตาเข้าเมือง อิเหนาได้จินตะหราเป็นชายา พร้อมกับนางมาหยารัศมีกับนางสะการะวาดีเป็นพระชายารอง และรับสังคามาระตาเป็นพระอนุชา หลังจากนั้นอิเหนาก็ประทับอยู่กับสามนางยังเมืองหมันหยาไม่ยอมเสด็จกลับเมืองกุเรปันตามคำสั่งพระราชบิดาและยังบอกตัดตุนาหนังกับนางบุษบา พระราชธิดาท้าวดาหา วันหนึ่งนางจินตะหนาได้ทูลเชิญอิเหนาให้เสด็จไปยังสะตาหมัน(พระราชอุทยาน)ด้วยถึงช่วงฤดูที่พรรณพฤกษากำลังออกดอกเบ่งบาน พร้อมด้วยนางสะการะวาดี นางมาหยารัศมี และสังคามาระตา อิเหนาจึงได้ตรัสสั่งสังคามาระตาให้ไปจัดเตรียมขบวนเสด็จ แล้วทั้งหมดก็ได้เสด็จประพาสยังสะตาหมันเมืองหมันยาจนเย็นย่ำจึงเสด็จกลับ
รูปแบบการแสดง
เป็นการแสดงละครในที่มีท่ารำงาม นักแสดงงาม และคำร้องทำนองงาม ตามแบบแผนของละครใน กระบวนท่ารำเป็นการรำตีบทตามคำร้อง และตีสัมพันธ์บทระหว่างตัวละครที่บรรยายถึงความงามของสะตาหมันหรือพระราชอุทยานของเมืองหมันหยาที่มีพันธุ์พฤกษาเบ่งบาน และบรรยายถึงเหตุการณ์ที่อิเหนาเที่ยวชมอุทยานไปกับพระราชชายาทั้งสามจนเย็นย่ำจึงเสด็จกลับวัง
อำนวยการแสดง โดย นางประกอบ ลาภเกษร
ปรับปรุงบท โดย นายประเมษฐ์ บุณยะชัย ศิลปินแห่งชาติ
บรรจุเพลง โดย นางสาวทัศนีย์ ขุนทอง ศิลปินแห่งชาติ
นำแสดงโดย
อิเหนา - นางสาวนภัสวรรณ สือสกุล
จินตะหรา - นางสาววิชญาพร สุขเกษม
มาหยารัศมี - เด็กหญิงชนานันท์ สังเรืองเดช
สะการะวาดี - เด็กหญิงธนพร โตเงิน
สังคามาระตา - เด็กหญิงอินธีวรา แสนสุดสวาท
และยุวศิลปิน ในอุปถัมภ์ของมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ ฯ
*บทการแสดงอยู่ในคอมเมนต์นะจ๊ะ จำนวนคำยาวเกิน / หรือ
/ 1567041067169967
สวยงามค่ะ ขอบคุณที่ลงคลิปให้ดู ขอชื่นชมครูผู้สอนและลูกศิษย์ที่ตั้งใจร้ำเรียนและแสดงได้สวยงามมาก
ขอบคุณมากค่ะที่ลงคลิปให้ชม
ขอบคุณครับ
ขอบพระคุณมากครับที่ลงคลิปให้รับชมย้อนหลัง
บทการแสดงละครใน เรื่องอิเหนา ตอนอิเหนา
-ฉากพระตำหนักของอิเหนาในเมืองหมันหยา-
- ปี่พาทย์ทำเพลงวา -
(นักแสดงทุกคนออกถวายบังคม สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี)
(อิเหนา สังคามาระตา และสี่พี่เลี้ยงเข้านั่งในฉาก นักแสดงแสดงอื่น ๆ เข้าโรง)
(อิเหนาประทับบนตั่ง มีสังคามาระตา และสี่พระพี่เลี้ยงอยู่เฝ้าตามที่)
- ร้องเพลงสะดายง -
เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีเรืองสี
เนาในหมันหยาธานี ภูมีมีสุขทุกเวลา
- ร้องเพลงร่าย -
คิดใคร่ไปประพาสชมสวน ที่เลือกล้วนแต่พรรณบุปผา
จึงตรัสเรียกสังคามาระตา ให้จัดเตรียมโยธาพร้อมไว้
-ร้องเพลงสามเส้า-
เมื่อนั้น สังคามาระตาอัชฌาสัย
ถวายบังคมลาคลาไคล ออกไปสั่งความตามบัญชา
(สังคามาระตารับคำสั่งเข้าโรง อิเหนาเสด็จจากที่ประทับสอดสร้อยมาลาเข้าโรงพร้อมสี่พี่เลี้ยง)
- ปี่พาทย์ทำเพลงระบำทวยหาญ -
(กิตาหยัน(เสนา) ออกระบาทวยหาญจนจบกระบวนท่าแล้วเข้าโรง)
-ฉากสะตาหมันเมืองหมันหยา-
- ปี่พาทย์ทําเพลงกระบอกทอง -
-อิเหนาเสด็จออกกับสามนาง พร้อมด้วยสังคามาระตา พระพี่เลี้ยงและกำนัล-
- ร้องเพลงกระบอกทอง -
ครั้นเรืองรุ่งแสงอโณทัย ภูวไนยแสนสุขสรรหรรษา
จึงชวนสามทรามวัยไคลคลา เสด็จมายังสวนมาลี
- ปี่พาทย์ทําเพลงเสมอ -
(อิเหนา นางจินตะหรา นางสะการะวาดี และนางมาหยารัศมี รำเพลงหน้าพาทย์เสมอตามกระบวนท่าจนจบเพลงอยู่ตามที่ มีสังคามาระตา พระพี่เลี้ยง นางกำนัล และทหารตามเสด็จเฝ้าอยู่ ท้ายเพลงเสมอ ทั้งสี่รำเข้าสะตาหมัน มีขบวนพระพี่เลี้ยงกำนัลตามเสด็จ)
- ร้องเพลงอาถรรพ์ -
ชี้ชวนนวลนางพลางประพาส ชมพรรณรุกขชาติในสวนศรี
บ้างระบัดผลัดใบเขียวขจี บ้างคลายคลี่ยอดแย้มแกมผกา
พระโฉมยงทรงเก็บกุหลาบเทศ ประทานองค์อัคเรศจินตะหรา
ทำเทียมเลียมลอดสอดคว้า กัลยาบังอรค้อนคม
พระทรงสอยสร้อยฟ้าสาระภี ให้มาหยารัศมีแซมผม
เลือกเก็บดอกลำดวนชวนชม ใส่ผ้าห่มให้สการะวาตี
- ปี่พาทย์ทำเพลงฉิ่ง/ฉิ่งตรัง -
-ร้องเพลงฝรั่งควง-
ครั้นคลายแสงสีรวีวร ทินกรจำรัสรัศมี
จึงชวนชวนสามสุดานารี จรลีจากที่อุทยาน
พรั่งพร้อมรอเฝ้าเหล่ากำนัล เสนากิดาหยันทวยหาญ
แห่แหนเป็นขนัดจัดการ คืนเข้าราชฐานวังใน
- ปี่พาทย์ทำเพลงเชิด -
(ทั้งหมดรำตามกระบวนท่าแล้วกลับเข้าฉาก)
จบการแสดง
❤❤❤❤❤
ละครในคือใช้ตัวแสดงหญิงล้วนใช่ไหมครับ
ใช่ค่ะ แต่ในยุคต้นกรุง ละครในหรือละครหลวงที่นักแสดงเป็นหญิงล้วนมีได้เฉพาะพระมหากษัตริย์ ละครหลวงในชั้นเจ้านายจึงใช้นักแสดงชายล้วน แต่ก็ยังแสดงตามแบบแผนของละครในทุกประการคือ รำงาม ผู้แสดงงาม คำร้องทำนองงาม แต่พักหลังช่วงร.3ทรงให้เลิกเล่นละครหลวง จึงเกิดการประสมโรงชายหญิงกันขึ้น ละครหลวงที่เอาละครหลวงออกไปฝึกหัดนอกเขตพระราชฐานก็มาก เลยเล่นละครหลวงชายจริงหญิงแท้ หรือหญิงล้วนกันทั้งในวังและนอกวัง จนมายุคกองการสังคีต ตอนที่อ.ธนิต อยู่โพธิ์ท่านมาดำรงค์ตำแหน่งผู้อำนวยการ ท่านได้รื้อฟื้นการแสดงต่าง ๆ กันขึ้นมาใหม่ แล้วได้จัดทำแบบแผนให้เป็นมาตรฐานว่าละครในต้องใช้นักแสดงเป็นหญิงล้วนอีกครั้งหนึ่งค่ะ