รำศุภลักษณ์อุ้มสม
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 12 ก.ย. 2018
- การแสดงนาฏศิลป์จากโครงการ ศิลปิน ศิลปะ ศิลปากร วัน อังคาร ที่ 11 กันยายน พ.ศ.2561 ณ โรงละครแห่งชาติ
การแสดงชุด รำศุภลักษณ์อุ้มสม เป็นการแสดงรำคู่ที่อยู่ในการแสดงละครใน เรื่องอุณรุท ตอนศุภลักษณ์อุ้มสม บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เนื้อเรื่องกล่าวถึง หลังจากที่พระไทรเทพารักษ์ได้อุ้มสมพระอุณรุทกับนางอุษา ณ ปราสาทเมืองรัตนา เมื่อรุ่งสางพระไทรก็ได้อุ้มพระอุณรุทกลับไปยังที่ประทับในป่าตามเดิม ฝ่ายนางอุษาเมื่อตื่นขึ้นมาไม่พบพระอุณรุทก็เกิดความเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก นางศุภลักษณ์พระพี่เลี้ยงจึงได้ทูลอาสาเหาะไปตามหาและได้วาดรูปเทวดาและกษัตริย์ทั่วทุกเมืองเพื่อนำรูปวาดนั้นมาให้นางอุสาได้เลือกดูว่าใครคือบุรุษที่พระไทรอุ้มมา นางอุษาเมื่อดูรูปวาดแล้วก็ยังไม่พบบุรุษผู้นั้น นางศุภลักษณ์จึงทูลว่ามีอีกหนึ่งบุรุษนามว่า พระอุณรุท เป็นโอรสท้าวไกรสุท ประทับอยู่ยังเมืองณรงกา นางจึงทูลลาเพื่อไปวาดรูปพระอุณรุทมาถวาย เมื่อนางอุษาได้เห็นรูปพระอุณรุทก็จำได้ว่าเป็นบุรุษที่เข้ามาหานางในคืนนั้น นางศุภลักษณ์จึงทูลอาสาเหาะออกมายังเมืองณรงกาเพื่อทูลเชิญพระอุณรุทให้มาพบนางอุษา ก่อนจะออกจากเมืองรัตนานางอุษาได้มอบผอบใส่ผ้าสไบและธำมรงค์ของนางให้นางศุภลักษณ์ติดไปเป็นเครื่องยืนยันด้วย เมื่อนางศุกลักษณ์เหาะมาถึงเมื่องณรงกาก็ตรงเข้าไปเฝ้าพระอุณรุทที่บรรทมหลับอยู่และได้เปิดผอบที่นางอุษาให้มา ลมก็พัดเอากลิ่นของนางอุษาจากผ้าสไบหอมฟุ้งไปทั้งห้องบรรทม ครั้นพระอุณรุทได้กลิ่นก็จำได้ทรงตื่นบรรทมขึ้นมาเห็นนางศุภลักษณ์ที่หมอบเฝ้าอยู่ นางศุภลักษณ์จึงกราบทูลเรื่องราวทุกอย่างและทูลเชิญพระอุณรุทให้เสด็จไปพบนางอุษา พระอุณรุทได้ฟังดังนั้นก็ทรงดีพระทัยมาก ทรงสรงน้ำและฉลองพระองค์อย่างงดงามเหาะออกมากับนางศุภลักษณ์ในคืนนั้น
นำแสดงโดย
พระอุณรุท - อ.พัชรา บัวทอง นาฏศิลปินอาวุโส (ละครพระ) กลุ่มนาฏศิลป์ สำนักการสังคีต ได้รับการถ่ายทอดท่ารำจาก อ.เฉลย ศุขะวณิช ศิลปินแห่งชาติ
นางศุภลักษณ์ - อ.อุษา แดงวิจิตร นาฏศิลปินอาวุโส (ละครนาง) กลุ่มนาฏศิลป์ สำนักการสังคีต ได้รับการถ่ายทอดท่ารำจากอ.เฉลย ศุขะวณิช ศิลปินแห่งชาติ ในความควบคุมของอ.จินดารัตน์ จารุสาร
กระบวนท่ารำ เป็นการคู่ตีสัมพันธ์บทระหว่างตัวพระกับตัวตัวนางที่ปฏิบัติท่ารำในลักษณะสอดผสานท่าให้เป็นหนึ่งเดียวกันในท่ารำเดียวกัน เช่น ในช่วงทำนองเพลงเชิดฉิ่งและเพลงเชิดในตอนท้าย การรำตีบทและตีสัมพันธ์บทตามคำร้องในทำนองเพลงบลิ่มและเบ้าหลุด ที่บรรยายถึงการเดินทางมาในอากาศยามค่ำคืนโดยมีนางศุภลักษณ์โอบอุ้มองค์พระอุณรุทมา เมื่อแสงพระจันทร์และแสดงดาวจับต้ององค์พระอุณรุทก็ทำให้พระองค์งดงามสง่ากว่าดวงจันทร์และดวงดาว ราวกับพระพรหมที่ทรงราชหงส์พาหนะเหาะผ่านมา
ปี่พาทย์ทำเพลงเชิดฉิ่ง
ร้องเพลงบลิ่ม
เลื่อนลอยมากลางนภากาศ โอภาสงามแข่งแขไข
แสงจันทร์จับองค์ภูวไนย วิไลล้ำกว่านวลจันทรา
สีดาวจับเครื่องพระโฉมฉาย อร่ามพรายกว่าดาวในเวหา
นวลพระองค์จับทรงกัลยา รจนางามเนื้อนวลผจง
ร้องเพลงเบ้าหลุดชั้นเดียว
งามนางเป็นพาหนะรอง ทำนองดั่งนางราชหงส์
งามภูวนาถนั่งดำรงทรง ดั่งองค์พรหเมศวร์ฤทธี
ดั้นหมอกออกเมฆมาไวไว เทเวศร์อวยชัยอึงมี่
รีบเร่งเร็วมาในราตรี หมายมุ่งบุรีรัตนา
ปี่พาทย์ทำเพลงเชิด
4:28
ความน่ารักของครูทั้งสองท่าน ช่วยกันดึงช่วยกันฉุดกันขึ้น น่ารักจัง เลย
ไป
ปี่พาทย์ทำเพลงเชิดฉิ่ง
ร้องเพลงปะหลิ่ม
เลื่อนลอยมากลางนภากาศ โอภาสงามแข่งแขไข
แสงจันทร์จับองค์ภูวไนย วิไลล้ำกว่านวลจันทรา
สีดาวจับเครื่องพระโฉมฉาย อร่ามพรายกว่าดาวในเวหา
นวลพระองค์จับทรงกัลยา รจนางามเนื้อนวลผจง
ร้องเพลงเบ้าหลุด
งามนางเป็นพาหนะรอง ทำนองดั่งนางราชหงส์
งามภูวนาทนั่งดำรงทรง ดังองค์พรหมเมศฤทธี
ดั้นหมอกออกเมฆมาไวไว เทเวศอวยชัยอึงมี่
รีบเร่งเร็วมาในราตรี หมายมุ่งบุรีรัตนา
ปี่พาทย์ทำเพลงเชิด
เพิ่งได้เห็นคลิปนี้..ครูแป๋งเป็นตัวพระที่รำได้สง่างามมากค่ะ ครูอุษาก็เป็นนางที่รำสวยงามมากเช่นกัน