ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ถ้ามะเมี้ยะเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา ต่อให้อาจารย์ไปถึงมะละแหม่ง ผมก็คิดว่าไม่น่าจะมีประวัติหรือหลักฐานอะไร ต่อให้มะเมี้ยะกลับไปแล้ว มะเมี้ยะไปบวชชี ยิ่งทำตัวเงียบๆ ไม่ได้จะบอกใครว่า ตัวเองเป็นภรรยาเจ้าน้อย ส่วนการเอามะเมี้ยะ คนพม่า อยู่ในอาณัติของอังกฤษ ผมว่า ผญ.ตัวเล็กๆคนหนึ่งที่อังกฤษไม่รู้จักด้วยซ้ำ การมาเมืองไทยของมะเมี้ยคงไม่ได้อยู่ในสายตาอังกฤษเลยด้วยซ้ำไป
เห็นด้วยค่ะ ถ้ามะเมี๊ยะไปบวชชีจริง คงไม่มีครอบครัวมีลูกหลานให้ได้พูดถึง ผ่านมาร้อยกว่าปีคงยากที่จะสืบหามากๆค่ะ
ใช่ค่ะ
รายการดังรานการหนึ่งในบ้านเราเขาเคยไปถ่ายทำดูแล้ว แม่ชีที่เขาลือไปทีมีรูปว่านั้น ไม่ได้ชื่อว่ามะเมี๊ยะ นะคะ คนคิดแะติดปะต่อไปเองค่ะ
เมื่อไม่มีอะไรยืนยันว่ามีตัวตน เราควรเชื่อว่าไม่มีไว้ก่อนมั้ยครับ
ต้อง ทำความ เข้าใจ บริบท การเมือง ระหว่าง ประเทศ ช่วงนั้นด้วย..ยุคล่า อาณานิคม ยัง ทรงอิทธิพล อยู่..อังกฤษ เคย คิด จะผนวก ดินแดนล้านนา มาอยู่ ใต้อาณัติ จากประวัติศาสตร์ พม่า เคยครอง เชียงใหม่ 200 กว่าปี..ฉะนั้น ย่อม มีเหตุผล พอ ที่ เจ้านายฝ่ายเหนือ จะห่วงใย ถึง ประเด็นนี้ ( หมายถึง ทั้ง จะเป็น ข้ออ้าง ที่มีน้ำหนัก ใน การ ไม่รับ มะเมี๊ยะ )
ขอแย้ง ประเด็น ที่ อ. ว่าวิธีปลอมตัว ของมะเมี๊ยะ ที่บอกว่า ตัดผมสั้น...รู้ได้งัยล่ะครับว่า มะเมี๊ยะ ตัดผมให้สั้น เหมือนผู้ชาย ...มันมีวิธีอื่นตั้งเยอะ ที่ไม่จำเป็นต้องตัดผมสั้นนี่ครับ อาจจะม้วนผมพันผมใส่หมวกอะไรก้อได้นี่ครับ เพื่อปกปิดหรือปลอมตัวให้เหมือนผู้ชายมากที่สุด...
ประเด็นนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ใช่ในละคร ก็เห็นอยู่ว่าไม่ได้ตัดผมสั้นเพียงม้วนผมตกแต่งให้ดูเหมือนสั้นคล้ายผู้ชายมากกว่าค่ะ
อันนี้ความรักนี่มันยิ่งไหญ่นะอะไรก็ทำได้แต่เป็นเรื่องจริงมีส่วน
ใครบอกมึง ว่า ตัดผมสั้นควาย....
จากการที่ฟังเจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ น่าเชื่อก็กว่าอ.สมฤทธิ์ท่านได้บอกว่า ท่านแม่ของท่านบอกว่าเจ้าน้อยไปแอบชอบพอกันกับสาวพม่าแล้วแอบเอากลับมา และด้วยการสืบสันต์ติวงค์ต้องเป็นองค์ต่อไปคือเจ้าน้อยเรื่องคนสมัยก่อนเนาไม่สามารถจะไปบอกได้ว่าอำนาจจะจบลงเมื่อได พราะฉนั้นอาจารย์ก็ไม่สามารถหยั่งรุ้ในเพลงไม่ได้บอกว่ามะตัดผมมาเชียงใหม่ผมเลือกที่จะเชื่อแม่เข้าดวงเดือน ณเชียงใหม่มากกว่าว่ามะเมี๊ยะมีอยุ่จริง
ผมชอบรายการ" ประวัติศาสตร์นอกตำรา"มากจริงๆ มันทำให้เราเกิดการวิเคราะห์คิดอะไรให้เป็นเหตุและผลต้องไม่ใช่การเรียนรู้แค่จากการที่คนเขียนตำราเขาอยากให้เราเชื่อแบบนั้นเท่านั้นถ้าอ้างอิงศาสนาก็จะตรงกับ"หลักกาลามสูตร"ของพระพุทธเจ้าที่สอนให้เราอย่าเชื่ออะไรในทันทีและอย่าพึ่งเชื่อเพราะคนๆนั้นเป็นอาจารย์หรือตรงกับทฤษฎีที่มีอยู่
แม้แต่ เพลงเอกในเรื่อง พันท้ายนรสิงห์ "น้ำตาแสงไต้" ....นวลเจ้าพี่เอย...... อีนวล เป็นเพียงตัวละครที่เสด็จองค์ชายใหญ่ทรงแต่งขึ้นเพื่อใช้แสดงละครเรื่องพันท้ายนรสิงห์ ให้เนื้อหามีรสชาด มิได้มีตัวตนใด ๆ ทั้งสิ้น เสด็จองค์ชายใหญ่(พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล) เคยไปวัดพันท้าย ฯ เห็นศาลอีนวล ท่านตรัสว่า กูอยากตบกบาลไอ้คนตั้งศาลนัก ก็อีนวลนั้นกูแต่งขึ้นมาเองเอาไว้แสดงละคร มันไม่มีตัวตนจริง ๆ หรอก ก็เหมือน ขวัญเรียมแห่งทุ่งบางกะปิของไม้เมืองเดิมนั่นเอง ที่ดันทะลึ่งมีศาลขวัญ-เรียมด้วย
คนละเรื่อง คนละบริบท
ความจริง กับ วัฒนธรรม
ผมสรุปว่าหาไม่เจอ เพราะการที่เราค้นหาหลักฐานบางอย่างไม่เจอนั้นไม่ได้แปลว่ามันไม่มีนะครับ ที่สำคัญเราต้องรอบคอบและใช้วิธีเหมาะสมโดยเฉพาะการไปหาหลักฐานและร่องรอยทางประวัติศาสตร์ ของสามัญชน เอาแค่บรรพบุรุษของเรา 100 ปีที่ผ่านมามีใครบ้าง เป็นลูกใครมีพี่น้องกี่คน มันก็ยากแล้ว
เห็นด้วยค่ะ ฟังจากเจ้าแม่ให้สัมภาษณ์ฟังกี่รอบก็คิดว่าเป็นเรื่องจริง
คุณไปถามหามะเมียะ สาวพม่าทุกคนคือมะเมียะ นั่นหรือเปล่าที่คุณหาไม่เจอ
@@kul_ver เพราะเกิดไม่ทันไงครับเลยต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ไม่มีใครเกิดทันยุคโรมันหรอก
ผมเป็นคนมอญแท้ๆครับุ..แล้วก็อยู่รัฐมอญด้วย...ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง ของมะเมี๊ยะ มีอยู่จริงครับ ขนาดนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่เท่าไหร่อันนี้ผมจำไม่ได้...แล้วที่บอกกันว่า..เรื่องนี้ คือแต่งขึ้นมา...ผมอยากจะทราบว่า...แล้วเรื่องของบางระจัน...ศาลพันท้ายนรสิงห์..มันคือเรื่องจริงมั้ยครับ..ทั้งๆที่..เกิดขึ้นมาโดยแผ่นดินสยามเป็นแน่แท้...แต่กลับหาหลักฐานการเป็นเรื่องจริงมิได้...สรุปคือว่า...เรื่องบางเรื่อง..ที่ผ่านมาแล้วเป็นร้อยกว่าปี แล้วหาหลักฐานไม่เจอ ใช่ว่าจะไม่เป็นเรื่องจริงนะครับ...ขนาดประวัติศาสตร์มอญแท้ๆ พม่ายังเอามาเสริมปรุงแต่งขึ้นใหม่ทั้งนั้น..แต่อันความเป็นจริงแล้ว...ผู้ชนะเท่านั้น..ที่จะเป็นผู้เขียนลงไปในประเทศของตน...ขอบคุณนะครับ ที่มีคนเข้ามาอ่านในครั้งนี้...จะจริงหรือเท็จ..ทุกคนมีสิทธิคิด วิเคราะห์ แยกแยะ โดยที่ยอมรับซึ่งกันและกันนะครับ สวัสดีฯ
ขอบคุณครับสำหรับความคิดเห็นผมก็คนมอญเหมือนกันครับ
1+
ป้าเชื่อค่ะว่ามีอยู่จริง
วังเข้าแก้วเนาวรัฐก็อยู่ที่วัดทุ่งเสียว ตลาดทุ่งเสี้ยว อ.สันป่าตอง
55555 เรื่องแต่งกึ่งจริงครับ
เจ้าน้อย คือ หล่อ ระดับดาราเลย สุดจริง เห็นครั้งแรกแล้วอึ้ง
เขาเลยว่าหนุ่มเชีบงใหม่หน้าตาดีค่ะ
เจ้าน้อยคือหล่อมาก
สงสารมะเมีอะมีจริงหรือเปล่า
ทำตัวเป็นผู้รู้เกิน เที่ยวไปฟันธงไปหมด เก่งจังเลย
วิเคราะห์ผิด 1.เขาคาดหวังเจ้าน้อยเป็นเจ้าเมือง2.เขารักษาวัฒนธรรม ห้ามคบสามัญชน3.เหตุที่เกิด ความชัดเจนของสยาม ยังไม่ได้ยุบเจ้าเมือง4.พ่อแม่เจ้าน้อย หมั้นคนที่เหมาะสม ให้ลูก5.ประวัติศาสตร์บอกแค่ว่าปลอมตัวเป็นชายเพื่อมาหาเจ้าน้อย(ปลอมตัวคือปกปิดผม) ไม่ได้ตัดสั้น6.ผมว่าคุณดัดแปลงประวัติศาสตร์7.เจ้าน้อยตาย มะเมี๊ยะถึงบวชตลอดชีวิต8.โกฎที่ไปขูด ไปขูดให้เจออันที่เป็นของมะเมี๊ยะ::กล้าท้า มีจริง::คุณพูดผิด กล้าท้า
อินจัด555
เห็นด้วยทุกข้อ ผู้ชายล้านนามีผ้าโพกศีรษะเก็บผมได้ง่าย ไม่ใช่คนสยามจะได้ตัดผมสั้น และธรรมเนียมการสยายผมเช็ดเท้าสามีเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของคนล้านนา ซึ่งทางมอญหรือพม่าอาจปฏิบัติเช่นเดียวกัน ตอนที่เจ้าดาราเดินทางกลับมาเชียงใหม่ก็ได้ทำเช่นเดียวกันกับรัชกาลที่ 5
เจ้าน้อย ไปเรียน พม่า จริงเจ้าน้อย มีรักแรก กับสาวพม่า จริงสาวพม่า ตามมา จริงสาวพม่า ชื่อมะเมี๊ย ไม่จริง
จะมีจริงได้ไง มะเมี๊ยะเป็นคำใช้เรียกผู้หญิงไม่ใช่หรอคะ มันไม่ใช่ชื่อคน
อีกหน่อยเจ้าน้อย หนีไปบวชที่นครศรีธรรมราชเจ้าน้อย หนีไปเป็นสายลับที่อังกฤษมโนไปเรื่อยๆ
ขอทราบ เอกสารโบราณ บันทึก แหล่งอ้างอิงหน่อย
คึดว่าสาวพม่าแยกหนี้กลับไปบวช คงไม่ใช่เพราะอังกฤษหรอก อาจเป็นเพราะคนในครอบครัวเจ้าน้อยเองไม่ชอบเพราะนางเป็นพม่า ชาวบ้านๆธรรมดา
เหมือนกับละครในปัจจุบัน บุพเพสันนิวาส เป็นนิยายที่ถูกแต่งจากเหตุการณ์จริงมีตัวตนจริง แต่เสริมตัวละครในความคิดของผู้แต่งเข้าไป ออกมาเป็นนิยายหนึ่งเรื่อง
สามก๊ก ก็ใช่นะ บุคคลที่มีจริง บุคคลที่แต่งขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดจริง เหตุการณ์ที่แต่งขึ้น
ศรีปราชญ์ไม่มีตัวตน เป็นชื่อตำแหน่ง คนยังคิดว่ามีจริงอยู่เลย
ต้องมีบ้างแหละ ในเมื่อเชียงใหม่ใกล้ชิดกับพม่าขนาดนั้น ความสัมพันธ์ชายหญิงย่อมมีอยู่แล้ว ไม่มากก็น้อย ยิ่งเจ้าน้อยไปเรียน คิดว่าช่วงวัยนี้เรื่องความรักต้องมีบ้าง แต่หนังสืออาจจะเติมแต่งให้เรื่องดูสมบูรณ์ มองตามหลักความเป็นจริงนะ นี่ดูมาบ้างก็ไม่เชื่อว่าคนชื่อมะเมียะมีอยู่จริง แตเจ้าน้อยคงมี ผญ.พม่าเข้ามาในชีวิตบ้างแหละ
คิดเช่นนั้นค่ะ
พิเชษฐ ตันตินามชัย นักประวัติศาสตร์ล้านนา เคยสัมภาษณ์น้องสาวแท้ๆ สองท่านของเจ้านางบัวนวล สิโรรส ได้แก่ เจ้านางแสงสว่าง และเจ้านางบุษบรรณ สิโรรส เมื่อสองทศวรรษก่อน เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่าจริงเท็จประการใด ได้คำตอบจากทั้งสองท่านว่า“ย่าเคยได้ยินเจ้าพ่อ (เจ้าสุริยวงศ์คำตั๋น) พูดให้ย่าฟังว่า เจ้าหลวงมาสู่ขอพี่บัวนวลให้หมั้นกับเจ้าน้อยก่อนไปเรียนหนังสือที่เมืองพม่า จะปฏิเสธก็คงไม่งาม เพราะท่านเป็นถึงลูกชายเจ้าราชวงศ์ เมื่อกลับมาเชียงใหม่ เจ้าน้อยพาเมียมาด้วย พี่บัวนวลโกรธ และไปบอกให้เจ้าพ่อไปขอถอนหมั้น”ถ้าเช่นนั้น เรื่องราวที่ถกเถียงกันมากว่าเจ้าน้อยศุขเกษมเคยมีคู่หมั้นและถูกถอนหมั้นเพราะมะเมียะ เป็นจริงละหรือ? ก็คงได้คำตอบ ณ ที่นี้แล้วว่า เป็นเรื่องจริง เนื่องจากผู้ยืนยันคือน้องสาวแท้ๆ ของผู้ขอถอนหมั้นต่อไปก็คือประเด็นชีวิตของเจ้าน้อยศุขเกษม ภายหลังจากที่มะเมียะถูกส่งตัวกลับไปแล้ว ได้สมรสกับสตรีที่ชื่อ “เจ้านางบัวชุม” นั้นมีความเป็นมาอย่างไร ....... ฯลฯ **** ปริศนาโบราณคดี : ‘มะเมียะ’ ยังมีตัวตนอยู่จริงไหม? เมื่อถอดเรื่องราวดราม่าออก (3) / เพ็ญสุภา สุขคตะ www.matichonweekly.com/column/article_400487
ผมว่าเรื่องนี้อาจจะมีเรื่องจริงส่วนหนึ่ง เรื่องแต่งเติมส่วนหนึ่ง สาวพม่าคนนั้นอาจจะมีจริงแต่เธอคงไม่ใช้ชื่อว่า มะเมี้ยะ อาจจะเป็นชื่ออื่น ชื่อที่ได้มานี้อาจจะเกิดจากปากต่อปากจนเพี้ยนกันไปก็ได้ พอไปหาหลักฐานโดยใช้ชื่อนี้เป็นที่ตั้งมันก็เลยไม่มี และมันก็คงไม่ใช่เรื่องอะไรที่ชาวมะละแหม่งจะต้องจดต้องจำกันถึงขนาดนั้นกระมังครับ การที่ใครจะรักกะใครสักคนหนึ่ง ถึงแม้คนๆนั้นจะมีศักดิ์เป็นถึงเจ้าชายจากเชียงใหม่ก็ตาม มันก็อาจจะเป็นเรื่องพูดกันอยู่สักพัก แต่มันคงจะไม่อยู่ยงจนถึงขนาดเป็น 80 - 100 ปีเป็นแน่ มันก็เลยเหลือแค่ตำนานเล่ากันมาอย่างที่เห็นที่ทราบกัน แต่อย่างไรผมก็ชอบมากๆนะตำนานรักเรื่องนี้ ยังอินกับมันเสมอครับ.
ปริศนาโบราณคดี : ‘มะเมียะ’ ยังมีตัวตนอยู่จริงไหม? เมื่อถอดเรื่องราวดราม่าออก (3) / เพ็ญสุภา สุขคตะ www.matichonweekly.com/column/article_400487
เห็นด้วยครับ
ช่องนี้ดีมากคับ อ พยายามหาหลักฐานมาหักล้างความคิดความเชื่อที่มีมาช้านาน สังคมไทยควรเปิดพื้นที่ถกเถียงทางประวัติศาสตร์ เมื่อเราค้นคบหลักฐานใหม่ๆๆ
อาจารย์ก็สรุปความเห็นแบบไม่มีหลักฐานเด็ดๆอะไรมารฮงรับ แค่ไปเที่ยวถามโน้นนี่ จับแพะชนแกะ อ่านความเห็นหลายคนแล้วอยากให้อาจารย์ลองศึกษาอีกสักครั้งครับ ทั้งพยานทางญาติพี่น้องเจ้าน้อย/บุคคลที่ยังพอมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน
เขาเดินทางไปสืบค้นหาข้อมูลใช้ต้นทุนใช้เวลา ใช้ความอดทนกว่าจะได้มา คุณฟังไม่เข้าใจ ฟังด้วย ทัศนคติที่เป็นลบแล้วบอกว่าเขาจับแพะชนแกะ มันช่างเป็นความคิดที่โง่เง่ามากๆ คนอย่างคุณนี่ไม่น่าคบหาสมองน้อยบ้องตื้น คิดลบออกทะเลขวางโลก ถ้าผมเป็นคุณผมอายตัวเองนะไม่ต้องอายใครเลย
คุณเป็นเทวดาหรือครับที่จะมาสรุปอะไรเอาง่ายๆ เรื่องมันนานแค่ไหนแล้ว มันจะทิ้งหลักฐานอะไรมากมาย ข้อมูลแค่นี้ ข่อมูลจากการประเมินโดยคุณคนเดียว
ใช่ครับ เราไม่ควรเอาความเห็นเราไปตัดสินบางอย่างที่เราไม่สามารถสืบค้นหลักฐานได้ว่าไหม เอาแค่ไปสืบค้นบรรพบุรุษตัวเองเมื่อร้อยกว่าปีมา ดูสิว่าจะได้ข้อมูลไหม
แล้วคุณเป็นเทวดาหรือครับที่บอกว่ามันเป็นเรื่องจริง เอาหลักฐานมาอ้างอิงให้ทราบได้ไหมครับ หรือข้อมูลมาอ้างอิงแบบที่เป็นหลักฐานแบบแน่นอน เรื่องยิ่งยาวนาน ยิ่งบิดเบือน ยิ่งเป็นไปตามกาลเวลา กลายเป็นนิทาน
@@PPK018 แล้วคุณ ละ?
@@โรนินรัตติกาล ผมคือผู้ศึกษาประวิติศาสตร์โดยอ้างจากหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ครับ
@@PPK018 พิสูจน์ได้ ตามน้ำลาย ของนักวิชาการ คนนี้ นะรึ?..( จากปากคำ ของน้องสาว ผู้เป็นคู่หมั้นคู่หมาย ของ เจ้าศุขเกษม ก่อนไปเรียนที่พม่า..ถึงเหตุที่พี่สาวถอนหมั้น เจ้าศุขเกษม ว่า " เพราะ เจ้าศุขเกษม พาเมีย พม่า กลับมา)...การปลอมเป็นชาย ของมะเมี๊ยะ..นักวิชาการ ตีความว่า ตัดผมสั้น...คุณเชื่อรึ? ..55555 ยุคนั้น หญิงสาวพม่าไว้ผมยาว เป็นเมตร ใครจะตัด ? ทำไม ไม่คิดว่า แค่ขมวดมวยผมไว้ แล้วโผกผ้าปิด..จะสมเหตุสมผลกว่า...ทั้งยังสอดคล้อง กับ... ก่อนมะเมี๊ยะ จะจากลา เจ้าศุขเกษม มะเมี๊ยะ สยายผมยาว ออกเช็ดเท้า เจ้าศุขเกษม ( มะเมี๊ยะ อยู่ เชียงใหม่ประมาณ 1 เดือน ถ้ามะเมี๊ยะ ตัดผม..ผมจะไม่ยาว) หมายเหตุ การตีความ ว่า มะเมี๊ยะ ปลอมเป็นชาย แล้วตัดผมสั้น นั้น ไม่สมเหตุสมผล กับ บริบท สังคมยุคนั้น ที่หญืงสาวนิยมไว้ผมยาว และจะรักผม มาก ส่วนผู้ชาย ก็มีผมค่อนข้างยาวเช่นกัน
คุณกำลังสมมุติ
ชอบใจ ช่วง 15.25 จบคลิปได้ดี ไม่หักหาญน้ำใจกัน
11:10 "ในหนังสือ นักวิชาการต่างๆ เจ้ายายก็ไม่รู้เขาไปสืบค้นที่ไหนมา ถึงได้เล่าเป็นนิยายเป็นฉากๆ เราก็ไม่เข้าใจ" แค่เรื่องความรักปกติของหนุ่มสาว มันก็เล่ากันปากต่อปาก ใครมันจะจารึกไว้ในประวัติศาสตร์กัน
คุณไปหาข้อมูลดีๆ ตอนหลังเจ้ายาย ท่านก็ออกมาพูดแล้วว่า ถ้าไม่ได้อยู่ในยุคสมัยท่านแค่ฟังมาจากเจ้าพ่อเจ้าแม่ ผมไม่ได้ปีนเกลียวนะ คุณคิดว่าพ่อแม่ของคุณ ที่พูดมาทั้งหมดเชื่อถือได้กี่เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่เด็กๆที่เราเติบโตมา มันจะมาสู้อะไรกับนักวิชาการที่เขา ค้นหาข้อมูลมา ข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ คุณต้องคิดให้ดี ต้องฟังแล้วหาข้อมูล กี่อย่างที่คนในครอบครัวเราแม้แต่ปู่ย่าตายาย พูดออกมา มันมีกี่เปอร์เซ็นต์ที่เชื่อถือได้ แล้วก็พูดต่อๆกันมา พระพุทธเจ้าท่านยังสอนไว้ในกาลามสูตรว่าทุกอย่างต้องค้นคว้าด้วยตัวเอง ขนาดตัวท่านเองท่านยังบอกไม่ให้เชื่อเลย
@@slashgnr.1980 ก็อย่างที่บอกถ้ามันเป็นแค่เรื่องความรักของหนุ่มสาวมันจะเป็นข้อมูลทางวิชาการข้อมูลทางประวัติศาสตร์ยังไง? ไดอารี่ของเจ้าน้อยงี้เหรอก็ไม่มี มันไม่มีข้อมูลอะไรยืนยันตั้งแต่แรก เพราะแบบนั้นนักวิชาการถึงได้ใช้นิยายเป็นตัวตั้งไง กลับไปที่คำพูดของเจ้ายายที่ผมเม้นต์ไว้ตอนแรก "ในหนังสือ นักวิชาการต่างๆ เจ้ายายก็ไม่รู้เขาไปสืบค้นที่ไหนมา ถึงได้เล่าเป็นนิยายเป็นฉากๆ เราก็ไม่เข้าใจ" นี่คือสิ่งที่ผมจะบอก ทั้งหนังสือนิยายที่มโนมาจากเรื่องเล่า ยิ่งนักวิชาการที่ไปหาข้อมูลมายันกับนิยายยิ่งเลอะเทอะไปกันใหญ่
มะเมี๊ยะ เป็นสาวแม่ค้า.... จะมีบันทึก ชีวิตของสาวแม่ค้า ลงในพงศาวดารพม่าหราครับ แหม...ไปตามหาหลักฐานถึงพม่าเลยทีเดียวส่วนเรื่องผม ใช้วิธีเกล้าผม/โพกผมหรือใส่หมวกก็น่าจะได้นะส่วนตัวเชื่อเรื่องเล่านี้นะครับ
+1
นิยายก็คือนิยาย ผู้ดำเนินรายการก็ใช้การวิเคราะห์เอาเองสรุปไม่มีข้อมูลใดตรงถูกต้อง การอ้างว่าหาข้อมูลเองก็ไม่ได้บอกว่ามันถูกต้อง คาดเดากับคิดฝ่ายเดียวไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เดาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คาดเดาว่าตัดผมเหมือนชาย อันนี้คือคิดเอาเองคนฟังที่คิดตามกับศึกษามาไม่เหมาะที่จะสรุปตามรายการนี้ เพราะทุกประเด็นคือพูดด้วยการวิเคราะห์เอง
ผมติดตาม คลิปที่อาจารย์บรรยายหลายคลิป อาจารย์คือผู้ทรงคุณค่าแก่สังคม ผู้ใดได้ฟัง จะมองเห็นอะไรๆ แจ่มแจ้ง เป็นกำลังใจครับ.
ยังไงซะตำนานรักของ มะเมียะ เจ้าน้อยศุขเกษม จะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป 😭
เราเชื่อคนเชียงใหม่มากกว่า
เราเขื่อคุณจรัญเชื่อผู้ใหญ่ที่เกิดก่อนเรา
ชอบรายการนี้ มีการวิเคราะห์ นี่แหละวิธีทางประวัติศาสตร์ของจริง ที่เคยเรียนมา
ก็ใช่นะแต่ความจริงบางอย่างน่าคิดเอาว่าต้องไม่เชื่อไว้ด้วย.เรื่องบางเรื่องคนละเรื่องกับประวัติศาตร์นักวิชาการเองก็เถอะเหมือนนักสืบแหละ..ตามทางเขาแต่บางเรื่องพระอริยะเจ้า(เชื่อโดยส่วนตัว).หลวงพ่อจรัญ.หลวงพ่อฤษี(วัดท่าซุง)..ท่านรู้มากชัดเจนแต่คนละเรื่องเดียวกันกับนักวิชาการนักค้นคว้าๆแบบของเขาแต่ฟังจากหลวงพ่อมองตามพอจะเห็นความแตกต่างว่า"คนแต่ก่อนสัจจะถือเป็นชีวิต". เชื่อท่านเต็มร้อย.ท่านรู้ในเรื่องที่จริงจึงจะเล่าด้วยไม่มีอคติไม่มีความหวังคาดหมายหมกมุ่นในความอยากท่านค้นหาความหลุดพ้นอย่างเดียวจิตขนาดนั้นทำไมท่านจะไม่รู้เรื่องจริง(บางท่านศิษย์ท่านยังรู้แต่ท่านเหล่านี้จะเงียบเล่าไห้ฟังก็แค่ลูกหลานสนิทพระคุณเจ้าเช่นกันไม่ใช่จะเล่าเล่นๆหรือหวังสิ่งใด.นิทานเรื่องเล่าของหลวงพ่อวัดอัมพวันจงรู้เถอะ"เรื่องจริง".แต่ท่านมาในแนวเล่าอาจจะกลัวคนตกนรก.เพราะไม่เชื่อท่านจึงกันไว้เป็นเรื่องเล่า.แต่ทุกคนที่เป็นศิษย์ท่านย่อมรู้"อ่านแล้วรู้แล้วทำตามคำสอน"..แต่คนที่ไม่เชื่อก็จงอ่านเล่นไห้สนุก..วิจารณ์ไม่บาป.เพราะองค์ท่านกันไว้แล้วว่า"เรื่องเล่า"จากป่า.แต่เราแล้ว..🙏🙏🙏🙏ที่ได้รู้จากท่านทั้งสองแต่จริงๆมากกว่านั้น.🙏🙏
เรื่องราวนี้มีเค้าโครงเรื่องจริงเพียงบางส่วนแต่ถูกนำมาแต่งเติมเสริมแต่งจนกลายเป็นนิยายรักโรแมนติกดราม่าเจ้าน้อยศุขเกษมถูกส่งไปเรียนที่พม่าจริงมีเมียเป็นชาวพม่าจริงแต่เมียพม่าไม่ได้มีชื่อว่าหม่าเมี๊ยะและเรื่องราวส่วนใหญ่ก็ถูกแต่งเติมจนเป็นนิยาย
ผมว่าคงจะเป็นเรืองบางแต่แตงใส่ไขมากไป
อาจเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นให้อ่านสนุกๆ แต่มีการแต่งเติมเป็นตุเป็นตะ เหมือนเรื่องคนไทยมาจากเทือกเขาอัลไต
ใช่ครับ ผมว่าเหตุผลที่ไม่มีข้อมูลของมะเมียะอยู่ในพม่าอาจเพราะว่ามะเมียะเป็นคนสามัญชน เอาง่ายๆคือเป็นลูกตาสีตาสาไม่มีใครสนใจ ไปอยู่กินกับเจ้าต่างประเทศอีก สมัยนั้นคนมะละแหม่งจะรู้จักเจ้าเมืองเชียงใหม่กันเป็นอย่างดีมั้ยก็ไม่รู้ คงจะเป็นคนธรรมดามากๆ ไม่มีใครสนใจ เรื่องราวก็เลยหายไปตามกาลเวลา
ผม แสดง ความคิดเห็น ..ไว้..แต่ เมื่อ กลับ มา ดู.ใหม่...ถูกลบ ...
ต้องเก็บมาเป็นข้อมูล เข้าคลังความรู้ใส่สมอง ว่า เรื่องนี้ อาจเป็นความเชื่อ หรือ อาจเป็นความจริง ก็ได้ทั้งนั้นไม่ใช่มาดูคลิบนี้ เขายืนยันว่า เขาไปตามหาข้อมูลข่าวสารแล้วไม่เจอ เขาจึงสรุปว่า เป็นความเชื่อ ไม่ใช่จริง หากเราเชื่อตามเขาทันที เราก็หูเบาเราควรฟังหูไว้หู จะงามกว่าไหม
มะเมี๊ยะ..น่าจะมีตัวตน อยู่จริง เมื่อประมาณ 2 ปี ที่แล้ว มี ยูทูปเปอร์ ชาว อ.เชียงของ จ.เชียงราย ไปสืบค้น ข้อมูล มะเมี๊ยะ ที่ มะละแหม่ง..มีรูป หญิงสาวที่น่าเชื่อ ว่า อาจจะเป็น มะเมี๊ยะ..และ ญาติ มะเมี๊ยะ พาไปถ่ายรูป บ้าน มะเมี๊ยะ เป็น บ้านเก่า 2 ชั้น แบบตึกฝรั่ง ซึ่งบ่งบอก ว่า ( หากจริง) มะเมี๊ยะ ก็ มิใช่ สาวแม่ค้า แบบ ชาวบ้านธรรมดาๆ โดยทั่วไป * ประเด็น ทรงผม ของ มะเมี๊ยะ ก็ ขอมองต่างมุม จาก นักวิชาการ ท่านี้...มะเมี๊ยะ ปลอมเป็นชาย ก็แค่ ขมวดมวยผม ไว้ แล้วโผกผ้า ปิดไว้ ก็พอ และที่สำคัญ สาว มะละแหม่ง ยุคนั้น ก็ นิยม ไว้ผมยาว ไม่ตัด
แล้วเจ้า บัวนวล คู่หมั้นของเจ้าน้อยละค่ะ เคยอ่านเจอบอกว่าเรื่องของมะเมี๊ยะ เจ้าบัวนวลเป็นคนเอามาเล่า อาจารย์ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่าจริงหรือไม่ และถ้าเป็นเรื่องไม่จริง ทำไมเชียงใหม่ถึงไม่หยุดเรื่องนี้ปล่อยให้เล่ากันจนเป็น100ปีแถมใช้รูปเจ้าน้อยอีกด้วย ทำไมญาติเจ้าน้อยไม่ห้ามในการใช้รูป
เป็นการเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ มองด้านเดียวตัวแปรมีมากแต่ต้องการหาเหตุเพื่อจะสรุปตามที่ตัวเองตั้งธงไว้
น่าจะตั้งใจ บิดเบือน
แล้วเชื่อได้ใดว่าเป็นเรื่องจริง 5555
มาตามคำขอที่สัญญาไว้จริงด้วย ขอบคุณน้าาาา ใส่ใจผู้ชมแบบนี้ไม่ให้รักได้ไง รักช่องนี้ตี้สุดดดด
จัดให้ FC ค่ะ
ตำนานความรักที่สวยงาม.....คือความจริง....ที่ถูกปกปิด.....ท่านทั้งสองเท่านั้นที่รู้และครองรักบนสวรรค์ด้วยกัน.....
คนสมัยก่อน เรียก สาวพม่าว่า มะเมี้ย หนุ่มพม่าว่า หม่อง ไม่ใช่ชื่อจริงๆของบุคคลนั้น นะครับ
น่าจะใช่
แปลว่า...ต้องมีตัวตนจริง แต่เรียกมะเมียะ เหรอค่ะ ทำไมไม่เรียกชื่อนามเลยค่ะ แปลกจัง
@@พรรณนาราษณ์พริ้งจํารัสกุล ผู้ใหญ่บางท่านก็จะเรียกแบบนี้มันง่ายๆที่จะเรียก มั่งครับ
@@พรรณนาราษณ์พริ้งจํารัสกุล เหมือนเรียกนาง เหนียง แม่สาว นังหนู
คิดว่า ผู้วิจัย ไม่ทราบเหรอ
ชอบรายการนี้มาก ที่นำเสนอข้อมูลหลายด้าน พร้อมหลักฐานของแต่ละฝ่าย คนดูคิดตาม และตัดสินใจเอาเอง เรื่องมะเมี๊ยะ ก็มีอีกคลิป ที่เป็นฝ่ายสนับสนุน ก็ต้องคิดตามไป แต่อย่างไรก็ตาม รู้สึกเห็นใจคนเหนือ ที่ถูกสยามกลืนวัฒนธรรม และจัดการจนเปลี่ยนไปหมด และเหตุการณ์นี้ก็เพิ่งเกิดมาไม่นาน และก็ยังไม่มีการสอน ให้คนภาคอื่นทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง สลด
ชอบรายการนี้มาก ชอบอาจารย์ท่านนี้ด้วย อธิบายเข้าใจง่ายมีเหตุผล วิเคราะห์ดีมากค่ะ
ทำไมเราฟังอาจารย์แล้วเหมือนดูอาจารย์โง่ๆยังไงไม่รู้ ตลกที่บอกว่าไปหาหลักฐานและไม่เจอร่องรอย5555 มันไม่มีทางเจออยู่แล้วครับตั้งร้อยกว่าปี มะเมี๊ยะก็คนธรรมดา สมัยก่อนถ้าย้ายไปอยู่ที่ใหม่ก็หาขี้กันไม่เจอแล้ว พม่าเขาไม่ค่อยบันทงบันทึกเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ตลกที่ไปตามหาลูกหลานของมะเมี๊ย อาจารย์เป็นใคร? คนำม่าด้วยกันยังหากันไม่ได้เลย5555
มะเมี้ยะมีจริงครับ คลิปใหม่ออกมาละ จากวงในเลย
ขออนุญาติแสดงความคิดเห็นครับตามที่ได้ฟังเจ้าดวงเดือนท่านได้พูดไว้เป็นภาษาเหนือซึ่งแปลเป็นภาษาภาคกลาง..ดังนี้ครับ....เจ้าลุง(เจ้าน้อยสุขเกษม)ถูกส่งไปตอนอายุ15ปีแล้วไปเที่ยวตลาดไปเจอแม่ค้าหน้าตาดีก็เกิดชอบพอกัน เป็นข่าวจากเชียงตุง..อันนี้ถามเจ้าพ่อเจ้าแม่แล้วนะ..(ประโยคนี้หมายถึงท่าน(เจ้าดวงเดือน)น่าจะสอบถามเจ้าพ่อเจ้าแม่ของท่านแล้วก็คงจะเล่าให้ฟัง)..ซึ่งพอเจ้าแก้วนวรัฐทราบว่าลูกชายไปติดสาวก็คงจะบ่นว่า...ส่งไปเรียนหนังสือซึ่งจะต้องกลับมาสืบราชกุล แต่ไปเมา(ติด)สาว เกิดมีท้องมีใส้ขึ้นมาจะทำยังไง.อย่างงี้ถ้าไม่เรียนก็เอากลับมา....ตอนกลับมาก็พาสาวกลับมาด้วยโดยปลอมเป็นผู้ชาย แต่พอมาแล้วก็อยู่ด้วยกันไม่ได้...ก็เลยต้องส่งผู้หญิงกลับ ..ผมขออนุญาติตีความว่าเรื่องนี้มีมูลความจริงครับ..แต่เรื่องตรอมใจหรือเรื่องคร่ำครวญในความรักคงเป็นเรื่องที่เค้าแต่งกันขึ้นมาน่ะครับ....ผมแสดงความคิดเห็นเฉยๆนะครับผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ
เป็นข่าวจากเชียงตุง ?เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเชียงตุง เจ้าน้อยไปเรียนที่เมืองมะละแหม่ง เป็นโรงเรียนทหารยังเหลืออาคารอยู่รายการหนังพาไปถ่ายมา ส่วนตัวก็เชื่อแบบคุณ ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย ไม่งั้นบั้นปลายชีวิตทำไมท่านเป็นแบบนั้น
น่า จะเป็นเรื่องจริง ..เมื่อ ประมาณ 7 ปี ที่แล้ว ยูทูปเปอร์ ชาวเชียงราย ไปสืบค้น หา มะเมี๊ยะ ..มีทั้งรูป ที่น่าเชื่อ ว่า เป็น มะเมี๊ยะ และ ญาติ ของ สาว ที่น่าจะเป็น มะเมี๊ยะ พาไปถ่าย บ้านเก่า 2 ชั้น ทรงตึก ฝรั่ง. ของครอบครัว มะเมี๊ยะ .* ถ้าจริง มะเมี๊ยะ ก็ มิใช่ สาวแม่ค้า มวนยา ธรรมดาๆ โดย ทั่วไป
ฮ๊อตเซียปิดความคิดเห็น คงโดนเยอะ อย่าเพิ่งเชื่อหลักฐานที่งอกออกมาเรื่อยๆ
@@gitnomad 55555.. ขอบคุณ ที่บอก..แต่ ส่วนตัวลึกๆ ผม เชื่อ ว่า ..มะเมี๊ยะ เป็น เรื่องจริง เพียงแต่ ข้อมูล อาจคลาดเคลื่อน หรือ มี การเสริมแต่ง * ปกติ ผม ก็ ติดตาม ช่อง ประวัติศาสตร์ นอกตำรา และ ส่วนมาก ก็ มักจะเห็นด้วย กับ นักวิชาการ ท่านนี้ แต่ เรื่อง มะเมี๊ยะ ..ผม มอง ต่างมุม * กรณี เรื่อง ทรง ผม มะเมี๊ยะ ..มะเมี๊ยะ จะปลอม เป็น ผู้ชาย ก็เพียงแค่ เกล้ามวยผม ..มัดไว้ แล้ว โพก ผ้าปิด จะน่าเป็นจริง กว่า เพราะ ยุคนั้น สาวๆเมือง มะละแหม่ง ก็ มี ประเพณี นิยม ..รัก การไว้ผมยาว ไม่ตัด ..* การ นำ มุมมอง ปัจจุบัน ไป ตีความ อดีต บางครั้ง ก็ สะท้อน มายาคติ..รึ อคติ บางอย่าง ( กรณี ที่ มอง ว่า หาก มะเมี๊ยะ ปลอมเป็นชาย ต้องตัดผมสั้น..จะทำให้ เหตุ และ ผล โดยรวม ของ นักวิชาการ ท่านนี้ ลดคุณค่าลง)
@@โรนินรัตติกาล ใช่ค่ะ ผู้ชายพม่าสมัยก่อนก็ไว้ผมยาวกันนะคะ ไม่ได้ตัดผมสั้นเหมือนผู้ชายไทยสมัยก่อนค่ะ
อาจารย์ครับ ถ้าย้อนไปสมัยถ้าเป็นจริง ในเมืองมะละแม่ง เจ้าน้อยไปเรียนโดยไม่ได้ประกาศว่าเป็นเจ้าเชียงใหม่ ใครคนเชื่อว่าเป็นชาวล้านนาธรรมดาๆเท่านั้น และเรื่องราวที่ชายหนุ่มคบหญิงสาว ใครๆจะไปจดจำ เพราะเป็นคนธรรมดา และการแอบติดตามมากับเจ้าน้อยก็เป็นแบบลับๆ ชาวเมืองไม่ได้สนใจ ใครจะเก็บมาจำ ถ้าสมมุติว่า มีพิธีแต่งงานแบบประกาศว่า นี่เจ้าน้อยเจ้าชายเมื่องเชียงใหม่แต่งกับสาวพม่า เออแบบนี้ ประชาชนจะจดจำและเก็บมาเล่า แต่ในเรื่องตำนาน เจ้าน้อยไม่ได้ประกาศตัวว่าเป็นเจ้าให้คนมะละแม่งรู้ ฉนั้นๆ ไม่มีใครจดจำแน่นอน และเมื่อมะเมี๊ยะกลับมะละแม่ง นางก็คงจะอับอายที่ถูกทิ้ง จนไม่อยากเผยแพร่เรื่องแบบนี้กับใคร ฉนั้น เรื่องจึงไม่มีอะไรพิเศษให้ชาวเมืองจดจำ....ไม่เหมือนที่เชียงใหม่ที่ขาสวเจ้าน้อยเอาสาวพม่ามาเป็นเมีย พอชาวเมืองรู้เลยพูดกันทั่ว มันเลยมีเรื่องเล่าไงครับอาจารย์ ต้องเข้าใจประเด็นนี้ การที่อาจารย์ไปพม่าเพื่อสืบหามะเมี๊ยะ แล้วไม่ได้เบาะแส นั่นเพราะการคบหากันของมะเมี๊ยกับเจ้าน้อยเป็นเหมือนคนธรรมดาที่คบกัน ไม่มีเรื่องใหญ่ให้เล่าไงครับ......อาจารย์ลืมนึกถึงตรงนี้ครับ
ใช่ครับ เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ
เห็นด้วยค่ะ เรื่องมันผ่านมาร้อยกว่าปีแล้ว คนร่วมสมัยกัยผู้หญิงมอญหรือพม่าคนนั้นก็ตายไปหมดแล้ว ชาวบ้านธรรมดาใครจะไปจดจำ คนที่ถามหาจดหมายเหตุยิ่งแล้วใหญ่ เรื่องเจ้าน้อยได้เมียตอนไปเรียนต่างบ้านต่างเมืองเป็นเรื่องน่าอับอาย เป็นโครงกระดูกในตู้ ทุกคนเงียบ ด้วยหวังจะให้เรื่องมันเงียบไป มันกลับมาดังเพราะคุณจรัลนำมาแต่งเป็นเพลง คุณจรัลได้ฟังเรื่องราวมาจากแม่ ซึ่งนามสกุลเดิมคือ ณ เชียงใหม่ เจ้าดวงเดือนก็เคยยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง
ชอบมาก เป็นกำลังใจให้ทุกคลิปครับ สุดยอด
ติดตามครับ... ได้ความรู้มากๆครับ..
ออกเสียงภาษาไทยได้ดีมากอาจารย์. ฟังเเล้วสบายหูหลักๆคือได้ความรู้อย่างยิ่งบวด
น่าสนใจมากค่ะ เราว่าก็อาจจะมีตัวตนจริงแต่อาจจะไม่ได้ดราม่าน้ำตาท่วมแบบในหนังสือกับละคร
ชอบอาจารย์มากครับ ติดตามตลอด
น่าสงสารมะเมียะ กาลเวลาผ่านมาเป็นร้อยปีแล้วก็ยังไม่ถูกยอมรับว่ามีตัวตน
ก็ไม่มีตัวตนจะให้ยอมรับได้อย่างไรครับ เพราะชื่อมะเมี๊ยะ มาจากชื่อชาวพม่าหน้าปากซอยของคุณปราณี
ในหนังสือเพ็ชร์ลานนาของคุณปราณี ศิริธร ณ พัทลุง กล่าวไว้ค่อนข้างยาว สรุปใจความได้ว่าก่อนที่เจ้าน้อยศุขเกษมจะเดินทางไปศึกษาต่อที่มะละแหม่ง เจ้าพ่อ (เจ้าแก้วนวรัฐ ขณะเป็นเจ้าราชวงศ์อินทแก้ว) ได้หมั้นหมายเจ้านางบัวนวลให้กับเจ้าน้อยศุขเกษม เมื่อเรียนจบค่อยแต่งงานกัน แต่เมื่อเจ้านางบัวนวลทราบเรื่องว่าเจ้าน้อยศุขเกษมนำภริยาชาวพม่ากลับมาด้วย จึงได้ขอถอนหมั้นทันทีพิเชษฐ ตันตินามชัย นักประวัติศาสตร์ล้านนา เคยสัมภาษณ์น้องสาวแท้ๆ สองท่านของเจ้านางบัวนวล สิโรรส ได้แก่ เจ้านางแสงสว่าง และเจ้านางบุษบรรณ สิโรรส เมื่อสองทศวรรษก่อน เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่าจริงเท็จประการใด ได้คำตอบจากทั้งสองท่านว่า“ย่าเคยได้ยินเจ้าพ่อ (เจ้าสุริยวงศ์คำตั๋น) พูดให้ย่าฟังว่า เจ้าหลวงมาสู่ขอพี่บัวนวลให้หมั้นกับเจ้าน้อยก่อนไปเรียนหนังสือที่เมืองพม่า จะปฏิเสธก็คงไม่งาม เพราะท่านเป็นถึงลูกชายเจ้าราชวงศ์ เมื่อกลับมาเชียงใหม่ เจ้าน้อยพาเมียมาด้วย พี่บัวนวลโกรธ และไปบอกให้เจ้าพ่อไปขอถอนหมั้น”ถ้าเช่นนั้น เรื่องราวที่ถกเถียงกันมากว่าเจ้าน้อยศุขเกษมเคยมีคู่หมั้นและถูกถอนหมั้นเพราะมะเมียะ เป็นจริงละหรือ? ก็คงได้คำตอบ ณ ที่นี้แล้วว่า เป็นเรื่องจริง เนื่องจากผู้ยืนยันคือน้องสาวแท้ๆ ของผู้ขอถอนหมั้นต่อไปก็คือประเด็นชีวิตของเจ้าน้อยศุขเกษม ภายหลังจากที่มะเมียะถูกส่งตัวกลับไปแล้ว ได้สมรสกับสตรีที่ชื่อ “เจ้านางบัวชุม” นั้นมีความเป็นมาอย่างไร..................ฯลฯ ******** ปริศนาโบราณคดี : ‘มะเมียะ’ ยังมีตัวตนอยู่จริงไหม? เมื่อถอดเรื่องราวดราม่าออก (3) / เพ็ญสุภา สุขคตะ www.matichonweekly.com/column/article_400487
ต
รายการดีมากๆ ครับอยากให้ดูเยอะๆ
อาจมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ขอบอกคุณ เรื่องมัน100กว่าปีแล้ว ถ้ามีจริงหลักฐานจริง คงหายากมาก เพราะคนมากมาย และมีการย้ายถิ่นฐานไปมา และคุณ สืบไม่เก่งพอ คุณไม่ใช่นักสืบ และสืบหาอย่างจริงจังพอ ต้องใช้กำลังคน และมีหน่วยงานช่วย สอบถามข้อมูล เป็นวงกว้าง แต่ที่คุณไปถาม หามา บอกตรง เหมือนเล่นขายของ ขนาดเจดียุทธหัตถี ของจริง ทุกวันนี้ ยังมีถกเถียงและสงสัย กันเลยว่ามันใช่ที่จริงหรือไม่ ขนาดผ่านมาไม่กี่ร้อยปี และมีคำสั่งจากรัฐ ให้ตามหาทุ่งที่มหาอุปราชสิ้น โดยใช้คน และหน่วยงานมากมาย ยังไม่พบความจริง100%เลย ยังมีข้อสงสัยอยู่ ถึงทุกวันนี้ ว่ามันใช่จริงไหม และมี 2 ที่ด้วยซ้ำ นักวิชาการปัจจุบันก็ยังถกเถียงกันอยู่เลย ทุกวันนี้ ว่าทั้ง2ที่ ที่น่าจะใช่อาจไม่ใช่สถานที่จริงด้วยซ้ำ ขนาดอยู่ในไทยภาคกลางใกล้นี่เอง ยังสืบยากเลย...อยากเชื่ออะไร ก็เชื่อเถอะ เอาที่สบายใจ...จบ.ครับ.
ผมชอบประวัติศาสตร์นอกตำรา
เรื่องในหนังสือคงจะแต่งเติมไปเยอะชื่อมะเมียะในหนังสือผู้แต่งก็บอกแล้วว่าเป็นนามสมมุติเคยฟังเจ้าที่เป็นเครือญาติของเจ้าน้อยศุขเกษมเล่าจากที่ท่านฟังผู้ใหญ่มาท่านว่า "มะเมียะ" ที่ว่าเนี่ยไม่ได้มาอยู่กินกันที่เชียงใหม่และนางเป็นลูกครึ่งฝรั่งเจ้าน้อยก็ไม่ได้เสียใจขนาดตรอมใจตายแต่ตายเพราะพิษสุราเรื้อรังหลังจากแต่งงานมีชีวิตใหม่ไปหลายปีแล้วไม่มีเรื่องสยายผมหรือไปบวชชีซึ่งถ้าเรื่องจริงเป็นไปตามที่ว่ามันก็จะสมเหตุผลกว่าสมัยนั้นมีเมียมอญพม่าไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ถ้าเป็นลูกครึ่ง ซึ่งอาจจะนับถือศาสนาอื่นด้วยเนี่ย ถูกกีดกันแน่เรื่องจริงก็อาจจะมีแค่เจ้าน้อยฯมีคู่รักต่างชาติ ที่แต่งงานอยู่กินกันในประเทศไม่ได้เท่านั้นเอง
น่าจะเป็นลูกครึ่งอย่างว่าแต่สาวมอญก็สวยมากเหมือนกัน
ข้อเท็จจริงอีกมุมก็คือว่า1.ข้อมูลชุดนี้คุณปราณีได้เค้าโครงเรื่องมาจากเจ้าอินทนนท์ บุคคลร่วมสมัยกับเจ้าหน้อยศุขเกษม ว่ามีหญิงสาวพม่าติดตามมาด้วยแต่เธอไม่ได้ชื่อมะเมี้ยะ 2.กรณีการสมรสของเจ้าอินทนนท์กับเจ้านางสุคันธามีความแตกต่างจากคู่เจ้าหน้อยศุขเกษมตรงที่เจ้านางสุคันธาเป็นคนไทใหญ่ไม่ใช่พม่า และสู่ขอถูกต้องตามธรรมเนียม ขณะที่มะเมี้ยะลักลอบหนีตามกันมาหรือเข้านอกออกเมืองแบบผิดกฏหมายโดยเกี่ยวข้องกับเจ้าชายเชียงใหม่ที่อาจสร้างความยุ่งยากภายหลัง3.การสืบทอดตำแหน่งเจ้าหลวง ยุคเจ้าแก้วนวรัฐเป็นรัฐสมัยใหม่ที่เริ่มมีโปเจียมจากพ่อสู่ลูก ซึ่งเจ้าหน้อยศุขเกษมมีสิทธิธรรมสูงกว่าคนอื่น ดังเห็นว่ามีการสืบเครื่องราชสายตระกูลที่เป็นมาถึงปัจจุบัน ดังนั้นหากพิจารณาข้อเท็จจริงก็อาจกล่าวได้ว่ามีเค้าโครงเรื่องจริงอยู่บ้างแต่อาจไม่ใช่ตามรายละเอียดเหมือนที่ทราบกัน
ขออนุญาตเสริม เจ้าอินทนนท์เป็นน้องชายต่างแม่ของเจ้าน้อยศุขเกษม แต่งงานกับเจ้านางสุคันธา ณ เชียงตุงเจ้านางไม่ใช่ไทใหญ่ แต่เป็นไทเขินกรณีการแต่งงานของพี่ชายน้องชายต่างกันคือ เจ้าน้อยกับสาวพม่าในการปกครองของอังกฤษ และเจ้าน้อยเป็นว่าที่เจ้าหลวงเจ้าดารารัศมีอยู่ในกรุงเทพไม่เห็นด้วย ส่วนกรณีน้องชาย เชียงใหม่เชียงตุงเป็นญาติกัน ง่ายกว่า
ผมได้รับรู้เรื่องมะเมี้ยะครั้งแรกจากเพลงของจรัล มโนเพ็ชร ที่ขับร้องโดยคุณสุนทรี เวชานนท์ รวมทั้งเรื่อง "มิดะ" ที่ชาวเขาเผ่าอาข่า ปฎิเสธเรื่องราวตามเนื้อหาในเพลงว่าไม่มีจริง
ฟังเสร็จ หลับตา แล้วลืมมันไปซะ (ลืมสิ่งที่คนอื่นเขียนให้เป็นเราแต่จงเขียนสิ่งที่เรากำลังเป็น) นั้นละคือความสุขของชีวิตมนุษย์
ต้องยึดถือตามที่ว่า "ในโลกมี2อย่าง ความจริง กับความเชื่อ และเราต้องเคารพทั้ง2อย่าง โดยเฉพาะความเชื่อที่เชื่อว่าจริง" แด่ตำนานความรัก เจ้าน้อยศุขเกษม ...
ค
อาจารย์หาข้อมูลครบหรือเปล่า เคยดูสารคดีเค้ายังเจอหลักฐานกัน
คนพม่าบ้างคนบอกว่ามีจริง
ทำไมบางคนยังเจอบ้านมะเมี๊ยะอยู่เลยคะ
ขอบคุณมากที่ จะ สัมฤทธิ์ ลือชัย สืบค้นมาเล่าสู่กันฟัง
ไม่มีตัวตนหรือไม่มีหลักฐานยืนยันตัวตน อาจจะมีตัวตน แต่นักประวัติหาไม่เจอ เลยสรุปว่าไม่มีตัวตน
มีตัวตนแต่รายละเอียดไม่เหมือนกัน เพราะเขาเขียนเป็นนวนิยาย ส่วนคนทำคลิปที่อ้างว่าไม่มีตัวตน เป็นคนโง่ ศึกษาไม่ลึกแล้วนำมาพูด
@@chawalitpetnamsin1320 คุณฉลาดกว่าเค้าอ่ะดิ
ก่อนหน้านี้ นักวิชาการท่านหนึ่งก็ออกมาบอกว่า นางนพมาศ ไม่มีจริง คราวนี้ ท่านนี้มาบอกอีกว่า มะเมียะ ไม่มีจริงอีก คือเรื่องราวในอดีตรคงจะหายไปๆ จนไม่เหลืออะไรเลย เลิกดูรายการนี้ตั้งแต่เห็นนักวิชาการอีกท่าน ความเอียง ความอคติ
ก็แค่ความรักในช่วงหนึ่งของชายหญิงคู่หนึ่ง สุดท้ายท่านก็มีคู่ครอง’ที่เป็นตัวเป็นตน’ของท่าน ไม่เห็นมีความสลักสำคัญไปมากกว่านั้น
ผมว่ามีจริงครับ
ผู้ชายล้านนาสมัยก่อน พม่าก่อมีวัฒนธรรมไว้ผมยาว โพกหัวนะครับ ลุง เอาคนๆเดียวมาตัดสินว่าประวัติศาสตร์เรื่องนั้นนี้ เป็นเรื่องจริงไม่จริงใช้ไม่ได้นะครับ
ผมมีความคิดที่แย้งกับอาจารย์ ถ้านึกในเรื่องการเมืองสมัยนั้นต้องการไม่ให้เกิดเรื่องวุ่นวายต้องการปิดข่าว ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ยิ่งไปหาที่มะละเหม่ง ยิ่งหาไม่เจอเนื่องจากถ้าบวชชีคงปลีกวิเวก ก็ยิ่งไม่มีตัวตนไปใหญ่
อาจารย์ตอนหนุ่มๆหน้าตาดีๆมากครับ
มีจริงเจ้า
The story is famous in Myanmar too !!
เพิ่งติดตามช่องครับ ชอบดูมาก..
เขาไม่ได้บอกตรงใหนว่าตัดผมสั้น เขาเขาคลุมผมแปลงเป็นชายรึปล่าว
อ๋อ คนเล่าอิงจากหนังสือมั้ง
เรื่องผมอาจจะแบบคุณว่าแต่มีหลักฐานอื่นมาลบล้าง สรุปคือเรื่องแต่งอยู่ดี
1ประเด็น เรื่องผมเป็นแค่ข้อคิดเห็นของอาจารย์ ในเชิงวิชาการคุณควรจะเก็บใส่กระเป๋าความรู้ ไม่ใช่มาจบผิดแต่ละประเด็น แล้วมาบอกว่ามันเป็นเรื่องจริง
@@ครัวคนง่าว ประเด็น เรื่อง ผมตัดสั้น ก็ มอง ได้ ว่า นักวิชาการ ตีความหมาย ต่างไป..และ ไม่มีน้ำหนักพอ.. จึง อาจ รวม ถึง มุมมอง ในประเด็น อื่น ที่ อาจ ตีความ หมาย คลาดเคลื่อน * เคย มีผู้ สัมภาษณ์ น้องสาว ของเจ้า นางนวล คู่หมั้น ของเจ้าน้อย ก่อนไปเรียน พม่า ..ถึง เหตุ ผล ที่ เจ้านางนวล ถอนหมั้น เจ้าน้อย ก็ เพราะ...เจ้าน้อย กลับ มาจากพม่า ..พาเมีย มาด้วย..ฉะนั้น มะเมี๊ยะ ย่อม มีตัวตน จริง.. มากกว่า เรื่อง แต่ง?( การปลอมเป็นชาย แค่ขมวดมวยผม แล้ว โผกผ้าไว้ ก็ไม่แปลก แต่ประการใด)
@@ครัวคนง่าว ใช่ค่ะ ถ้าอาจารย์ได้ศึกษาศาสตร์จริง ชายพม่าสมัยก่อนก็ไว้ผมยาวค่ะ
ฟังแล้วกลับมาฟังอีก ชีวิตหนึ่งถ้าได้เจอผู้หญิงแบบมะเมี้ยคนจะไม่เสียชาติก่อนแล้วสำหรับผู้ชายคนหนึ่ง
ไม่เจอ ไม่ได้แปลว่าไม่มี วิชาการจริงต้องพูดว่า ยังหาหลักฐานยืนยันไม่ได้ ไม่ใช่ไปฟันธงว่าไม่มี ที่สำคัญ วิธีการให้เหตุผลของ อจ อาจจะแปลกๆนิดนึงตรงที่ ไปเอาเนื้อเพลงมาตัดสิน สยายผมลงเช็ดบาทบาทา บางทีคนเขียนเพลงเขาก็จินตนาการไปเรื่อยน่ะครับ
บอกว่าปลอมเป็นผู้ชายหนีตามมา ผู้ชายพม่าโบราณไม่ได้ตัดผมนะครับใช้ม้วนๆแล้วพันผ้าทับใว้ (สยายผมลงเช็ดบาทบาทา)ไม่ได้ปล่อยยาวให้คนทั่วไปเห็น
เจ้าน้อยอย่างหล่อครับ
เคยดูเรื่องราวนี้จากหนังพาไป พี่ยอดพี่บอลก็พาไปหาตำนานที่พม่าเช่นกันแต่ก็ไม่เจออะไรเลย
เหมือนผมเลย ตอนจบ เพลงเพราะมากๆ
@@สงครามไม่ได้ช่วยอะไร จริงค่ะ
ไม่เจอไม่ได้หมายถึงไม่มีว่าไหม
รักแท้มีอยู่จริง
อย่าเชื่อที่เป็นอาจารย์เราเชื่อผู้เฒ่าเล่าต่อมากกว่าเอกสารบ่างอย่างไม่มีหรอกเรื่องแบบนี้มันเกี่ยวกับรักต้องห้ามตัวอย่างเช่น เมื่อหลายสิบปีก่อนคนไปเรียนเมีองนอกไปเอาเมียฝั่งทางบ้านก็จะไม่ค่อยพอใจ แล้วเรื่องมะเมี๊ยะก็ทำนองเดียวกัน จะให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ เป็นผมคงไม่บันทึกไว้หรอกครับ
ใช่ครับถ้ามะเมี๊ยะเป็นเจ้าหญิงทางพม่าก็จะมีหลักฐานว่าไหม
ชอบ อจ มากครับ
ความจริงประเทศนี้มีอะไรเป็นความจริงบ้าง นักวิชาการอิสระย่อมรู้ดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมืองนี้มันคือปรสิตที่เกาะกินความเป็นจริงทั้งสิ้น
สนุกครับติดตามตลอด
อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับท่านอาจารย์1.เรื่องการเมือง-ส่วนกลางสยามไม่ปลื้มแน่ที่ลูกอุปราชเชียงใหม่ ไปเรียนพม่า แล้วดันเอาสาวพม่ามาเป็นเมียอีก คนที่เดือดร้อนคือพ่อแม่ของเจ้าน้อย ถ้าเกิดเผลอไปมีลูกมีเต้าด้วยกันอีกจะยุ่งไปใหญ่ อาจสั่นคลอนไปถึงยศถาบรรดาศักดิ์, หน้าที่การงานเอาได้ จึงต้องรีบส่งตัวมะเมี๊ยะกลับด่วนเพราะล้าานาแต่นมนานเป็นพันธมิตรพม่ามาตลอด พูดง่ายๆอนาคตสยามกลัวล้านนาร่วมพม่าประกาศอิสระภาพ เหมือนช่วงนั้นจะเป็นช่วงคาปเกี้ยวเรื่องกบฏเงี้ยวอีก ขนาดเจ้าดารารัศมี พ่อท่านเสีย ทางกษัตริย์สยามยังไม่ยอมให้มาเผ่าศพพ่อท่านเลยคับ เหตุเพราะกลัวเจ้าทางเหนือถือโอกาสนี้รวมตัวกันแข็งข้อ โดยเริ่มจากจับเจ้าดารารัศมีเป็นตัวประกันก่อน.. (2.ไม่ให้เอิกเกริกมากนักเจ้าแก้วนวรัตน์จึงมิให้เจ้าน้อยออกตัวให้เด่นมากนักยามอยู่ม่ะล่ะแมง อาจจะด้วยเรื่องการเมืองที่กล่าวข้างต้นอีกทั้งเรื่องส่วนตัวของเจ้าน้อยเอง ก็มิควรแพ่งพาย ประมาณเรื่องของเราถ้าจะให้ดีให้เงียบที่สุด จึงไม่น่าแปลกที่จะไม่เป็นทอกค์ออฟเดอะทาวน์ ณ ที่แห่งนั้น ยิ่งมะเมี้ยเองก็เป็นลูกแม่ค้าขายบุรี คงไม่ใช่คนเด่นคนดังอะไรที่ชาวบ้านจะรู้จักทุกคน หรือ ชื่อของมะเมี้ยะที่เราเรียกกันที่พม่าเขาอาจไม่ชื่อมะเมี๊ยะก็ได้)-ส่วนเรื่อง เอาผมเช็ดบาทาอะไรนั่น เขาอาจจะแค่ก้มกราบเท้าลาสามี ก็ได้แต่เพื่อนอรรถรถของนักประพันธ์ที่ต้องเอาเรื่องจริงมาแต่งเป็นเพลง ก็คงจะใส่ไข่ใส่นมบ้างเป็นธรรมดา เพื่อให้ถ่ายทอดออกมาให้สมกับเป็นเพลงรักสุดซึ้ง จนลืมคิดไปว่าเออตอนแรกกูเขียนว่าตัดผมสั้น แค่สองเดือนเอาผมเช็ดบาทาซะละ แต่ในแง่ของคนฟังท่อนนี้คือดีที่สสุด3.อันนี้ น่าจะตามรอยได้ง่ายกว่าห่อไปถึงพม่านะคับ ได้ข่าวว่าหลังจากมะเมี๊ยะกลับไป เจ้าน้อยแต่งงานใหม่ เมาเหล้า จิตใจห่อเหี่ยว ล่ะเมอเพ้อถึงแต่มะเมี๊ยะจนตายแต่ในความเป็นจริง หลังจากที่ท่านแยกทางกับมะเมี๊ยะและกินเหล้าเป็นจริงๆจังๆเป็นเวลากว่า10กว่าปีนิดๆมั้งผมจำไม่ได้กว่าที่ท่านจะตาย อย่างน้อย เมีย, ลูก, เพื่อน, ญาติ, พี่น้อง, และคนรอบข้าง คงรับรู้ไม่มากก็น้อยถถึงผลกระทบที่ท่านเป็นแบบนี้เพราะอะไรและเพราะใครหากท่านตรอมใจจนตายเพราะคิดถึงมะเมี๊ยะก็แสดงว่ามะเมี๊ยะมีอยู่จริง
เพื่อนเรายุ่เชียงใหม่แถวอ.แม่ริมบอกเป็นเรื่องจริงเรื่องเล่าสืบต่อมาจากทวดเพียงแต่เธอไม่ได้เป็นที่สนใจในสมัยนั้นและก้อไม่มีใครอยากกล่าวถึงและคงไม่ได้ชื่อมะเมี๊ยะๆคือคำใช้เรียกสาวพม่า
เจ้าน้อยรูปงามมาก #ปล่อยให้เป็นตำนานรักต่อไปเถอะค่ะ ถ้ามันไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายกับใคร
เราก็ชอบมากๆเรื่องในตำนาน จริงหรือไม่เราก็ชอบแบบฝังจิต ฝังใจอย่างมากๆ
ผมอยู่มะละแม่งครับ แลกเปลี่ยนข้อมูลได้ครับ (ข้อมูลเหมือนมติชนครับ)
เจอ หญิงพม่า เป็็นเพื่อนร่วมงานกัน เขาเล่าจากผู้ใหญ่ ให้ฟังว่า มีผู้หญิงพม่า รักกับชายไทย ซึ่งเป็นคนมีหน้ามีตา ความรักถูกกีดกั้นจนต้องใด้ย้ายกลับพม่า นางเสียใจมาก นางมีลูกสาว ซึ่งคลอดต่อมา นางย้ายจากเมืองที่นางเคยอยู่ ไปที่อื่น เด็กสาวที่เกิดมา คนพม่าเรียกว่า "เจ้าหญิง" มีชื่อเรียกด้วย แต่เราจำไม่ใด้แล้วว่าชื่ออะไร เจ้าหญิงอะไร
กลับไปถามเพื่อนใหม่อีกครั้งสิคะ
@@แสงสุรีปลื้มใจ มันไม่ง่ายยังนั่นครับ พม่าอ่ะถ้าย้ายที่อยู่ไปจากเดิม จะตามหาได้ยากมากๆครับ ต่อให้เป็นญาติเราก็เถอะ ถึงจะไปถามเพื่อนเขาอีกรอบเขาก็ไม่รู้จริงๆหรอกว่าย้ายไปไหนและเรื่องราวมันเป็นยังไง อีกอย่างพม่าไม่ค่อยบันทึกเรื่องราวอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ต่อให้เป็นอาจารย์เก่งแค่ไหนก็ไปหาหลักฐานไม่เจอหรอกครับ .ผมคนพม่าเกิดเมืองนั้นเลย
@@Nida062 หรอคะ พม่าพิมพ์ไทยเก่งจังวู้วววว
@@Yadaary. မင်းယုံနိုင်မယ်လို့ ငါမထင်ထားဘူး ဒါမဲ့တခုတော့ပြောချင်တယ် မင်းမေစပလိုးချင်တယ် မင်းေမသိစေချင်တယ်ကွာ
เจ้าชายไทย หล่อมากกก
แต่ที่แน่ๆเจ้าศุขเกษมหล่อมากคะ
และการติดชื่อหน้ากู่อัฐิก็เช่นเดียวกันถ้าเราทำเพื่อบ้านเมืองเป็นสุขเราก็สามารถเอาชื่อใครมาสวมแทนก็ได้ แต่การบอกกล่าวของผู้ที่อยู่ในเหตุการนั้นย่อมไม่โกหกเพราะเรื่องการเมืองมันจางหาย ความจริงก็ย่อมปรากฎขึ้นมาอย่างชัดเจนเพราะอะไรนั่นหรือเพราะเป็นการให้เกียรติความรักของท่านทั้งสองว่าเป็นสิ่งที่น่ายินดีแต่ด้วยการเมืองจึงทำให้ต้องแยกจากกัน การที่คนเราจะสรุปหรือคัดค้านเราต้องอิงสาเหตุของในแต่ละยุคและการเรียกเผ่าพันธุ์ของแต่ละประเทศด้วยอย่าแต่หักล้างประวัติศาสตร์จนทำให้คนรุ่นหลังลังเล มันจะทำให้ อ.เอง ที่ใครจะไม่เชื่ออีกต่อไปเพราะการเดาสุ่ม
ผมอยู่เชียงใหม่...สาวพม่าหลายคนสวยคมมากคับ....
"มะเมี่ยะ" อาจจะไม่มีตัวตนอยู่จริง แต่สาวพม่าที่เจ้าชายสุขเกษมไปตกหลุมรักมีอยู่จริง เหมือนหนุ่มสาววัยรุ่นที่ไปปิ้งกับผู้หญิงสวยๆ ตอนนั้นเจ้าชายอายุแค่ 19ปี เรื่องราาวอาจจะมีเค้าโครงจริงจากชีวิตจริง ที่หนุ่มๆวัยรุ่นทุกคนเคยเป็น ที่เวลาไปร่ำเรียนที่ไหนนานๆ แล้วเจอผู้หญิงสวยๆที่ถูกใจก็จะจีบกัน แต่ที่คนเอามาเขียนเขาอาจจะใส่เพิ่มเติมเรื่องราวให้น่าติดตามประกอบกับเพิ่มสถานที่จริงซึ่งอาจจะหาหลักฐานและข้อพิสุจน์อะไรไม่ได้ แต่เชื่อแน่นอนว่าเจ้าชายสุขเกษมน่าตาดี รูปหล่อแน่นอน ดูจากรูปและหลักฐานที่เราเห็นจากภาพขาวดำ แม้จะเป็นภาพเก่าๆโบราณๆ แต่สมัยนั้นถ้าหน้าตาแบบนั้น ถือว่าหล่อมาก ประกอบกับเจ้าชายสุขเกษม เป็นลูกคนร่ำรวย เป็นคนชั้นสูง มียศศักดิ์ จะเลือกผุ้หญิงกี่คนก็ได้ ถ้าเปรียบเทียบในสมัยนี้ก็ถือว่าเจ้าชายสุขเกษมมีครบทุกอย่าง ทั้งหน้าตาดี ร่ำรวย มียศศักดิ์ ลูกคนมียศศักดิ์ แน่นอนว่าก็ต้องมีผู้หญิงมาชอบเยอะ เจ้าชายสุขเกษมต้องเลือกได้ และมะเมี๊ยะ อาจะเป็นผู้หญิงพม่า หนึ่งในผู้หญิงที่เจ้าชายจีบๆ และไม่แน่อาจจะแอบอยู่กินกันฉันสามีภรรยาในเมืองพม่า ( น้ำตาลใกล้มด มันจะเหลือเหรอ ) ซึงระยะเวลาเรียนที่พม่า5ปี เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าชายจะไม่มีเรื่องผู้หญิงเลย หน้าดี หล่อเหล่า รวย มีเงิน มีครบทุกอย่างขนาดนั้น เป็นไม่ได้แน่นอนที่เจ้าชายจะไม่มีเรื่องผู้หญิงเลย เรื่องต้องมีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง แต่อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด เชื่อว่าเรื่องราวของเจ้าชายสุขเกษมกับผู้หญิงพม่ามีจริงแน่นอน แต่ผู้หญิงคนนั้นอาจจะไม่ได้ชื่อ"มะเมี๊ยะ" เป็นไปไม่ได้ว่าเจ้าชายไม่ได้มีผู้หญิงเลย หน้าตาดีและรวยขนาดนั้น สรุป คุณค้นคว้าไม่ตรงประเด็นแล้วมาสรุปเอาเอง.
ในฐานะผมเป็นคน หม้อละแม็ง ผมถูกใจกับ comment นี้ครับ
ใช่ครับ หน้าตาแบบนั้น ในสมัยนั้นถือว่าหล่อมาก
ขนาดผ่านมาร้อยกว่าปีเรายังหลงความหล่อของเจ้าน้อยเลยค่ะ
สมมุติฐานนี้น่าสนใจ รักของวัยรุ่นช่างน่าหลงไหล
เป็นนิยาย เพื่อความบันเทิง ..เข้าใจได้
เจ้าหน้อยศุขเกษม หล่อมากกกกกกกก
ฟังหูไว้หู ถ้าให้เดาอาจเป็นแฟนกันตอนไปเรียน ที่เหลือแต่งเพื่อความบันเทิง
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงครับ และเชื่ออีกว่าเป็นเรื่องจริง และเรื่องจริงเรื่องนี้ มันตั้งร้อยปีไปแล้ว หลักฐานบางอย่างลบเลือนและหายไปตามกาลเวลา...มะเมี๊ยะ เป็นแค่ ญ สาวเล็ก ไม่มีความสำคัญอะไร และเธอ ก้อไม่ได้ชื่อว่า มะเมี๊ยะ เธอมีชื่ออื่น แต่ เธอ ไปบวชชี ปกปิดและลืมเลือนเรื่องเก่าๆ มีแต่ เรื่องราวของเจ้าน้อยเท่านั้นและเจ้าน้อยและพระญาติสนิทเท่านั้นที่รู้เรื่องราว....และช่วยกันปิดเพื่อไม่ให้มีมลทินต่อกัน จบครับ...ใครเชื่อก้อเชื่อไป ใครไม่เชื่อก้อไม่ต้องไปปวดหัวครับ เรื่องมันเป็นอดีตไปแล้ว จดจำแต่เรื่องราวดีๆและนำมาสอนตัวสอนใจเราก้อพอนะครับ อย่าซีเรียส555
"ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ใจขื่นขม ระทมชั่วนิรันดร์"
จากเรื่องกระบี่วงพระจันทร์ หรือเดชไอ้ด้วน คำนี้คุ้นๆ
ตือโป๊ยก่าย ชอบพูด
มาได้ถูกวันพอดี วันแห่งความรัก (ที่แต่งขึ้น)
เขาว่าแต่งขึ้น เราเลยเชื่อตามเขา ว่า แต่งจริงๆบ้าไปแล้วมั้งทำไมไม่ฟังหูไว้หู เอามาเป็นข้อมูลไว้ก่อน
กราบขออภัยนะคะ อาจารย์ท่านนี้เหมือนเล่าด้วยอคติ เทปพระนเรศวรกับเวียงแหง ก็ด้วยแต่ก็ขอบพระคุณสาระข้อมูลดีๆค่ะ
บอกเลยว่าทุกคลิปครับ เหมือนแกพยายามพูดให้คนอื่นเชื่อในแบบที่แกเชื่อมากกว่าพูดโดยวิเคราะห์จากหลักฐานทางประวัติศาตร์ ผมเห็นมาหลายคลิปแล้วล่ะสรุปดูไม่จบเลยสักคลิปเพราะดูแล้วเหมือนแกจะเพ้อเจ้ออะไรของแกก็ไม่รู้ไปคนเดียว ปล.ลุงคนนี้ไม่ใช่อาจารย์ครับแกเป็นเพียงแค่นักวิชาการอิสระ
ชอบรายการปวศ นอกตำรามากๆ และรายการตอนนี้ทำให้เราอยากไปเมืองมะละแหม่งมากๆ
ข้อยบ่เชื่อเจ้าดอก ขอยว่าเพิ่นมีตัวตนอีหลี และเป็นเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้น ปล่อยให้เป็นเรื่องอมตะของชาวเหนือเต๊อะ จะหักล้างไปยะหยัง
เจ้าน้อยกับมะเมี๊ยะ(สาวพม่า) มีจริง การเมืองในช่วงนี้ หัวเมืองฝ่ายเหนือมีกำลังเข้มแข็ง พร้อมจะแข็งเมืองได้ทุกเมื่อหากขอกำลังอังกฤษในพม่าช่วย สยามก็ซวย มองได้อีกอย่าง เจ้าน้อยกับมะเมี๊ยะไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นการจัดฉากจากสายลับสยาม เพื่อความชอบธรรมในการกระชับอำนาจ และเมื่อเจ้าน้อยตาย บัลลังค์ฝ่ายเหนือก็สั่นคลอนและนำมาซึ่งการครอบครองเชียงใหม่อย่างเบร็จเส็จเด็ดขาดของสยามในกาลต่อมา
ดูในวันวาเลนไทน์ ถูกวันถูกเวลามากน่าจะจัดเวทีถกกับฝ่ายสนับสนุน โชว์หลักฐานกันทั้งสองฝ่ายน่าจะดีนะครับ
ชัดเจนครับ เหมือนโกโบริ
ชอบรายการนี้มาก มีสาระและประโยชน์ ขอติดตามนะครับ😘
ผมเป็นFCจารย์เลยครับ อี้ก้าาา เมาะขนาด
มะเมี้ยะ ชื่ินี้มีคำแปลมั้ยคะ ?
ถ้ามะเมี้ยะเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา ต่อให้อาจารย์ไปถึงมะละแหม่ง ผมก็คิดว่าไม่น่าจะมีประวัติหรือหลักฐานอะไร ต่อให้มะเมี้ยะกลับไปแล้ว มะเมี้ยะไปบวชชี ยิ่งทำตัวเงียบๆ ไม่ได้จะบอกใครว่า ตัวเองเป็นภรรยาเจ้าน้อย ส่วนการเอามะเมี้ยะ คนพม่า อยู่ในอาณัติของอังกฤษ ผมว่า ผญ.ตัวเล็กๆคนหนึ่งที่อังกฤษไม่รู้จักด้วยซ้ำ การมาเมืองไทยของมะเมี้ยคงไม่ได้อยู่ในสายตาอังกฤษเลยด้วยซ้ำไป
เห็นด้วยค่ะ ถ้ามะเมี๊ยะไปบวชชีจริง คงไม่มีครอบครัวมีลูกหลานให้ได้พูดถึง ผ่านมาร้อยกว่าปีคงยากที่จะสืบหามากๆค่ะ
ใช่ค่ะ
รายการดังรานการหนึ่งในบ้านเราเขาเคยไปถ่ายทำดูแล้ว แม่ชีที่เขาลือไปทีมีรูปว่านั้น ไม่ได้ชื่อว่ามะเมี๊ยะ นะคะ คนคิดแะติดปะต่อไปเองค่ะ
เมื่อไม่มีอะไรยืนยันว่ามีตัวตน เราควรเชื่อว่าไม่มีไว้ก่อนมั้ยครับ
ต้อง ทำความ เข้าใจ บริบท การเมือง ระหว่าง ประเทศ ช่วงนั้นด้วย..ยุคล่า อาณานิคม ยัง ทรงอิทธิพล อยู่..อังกฤษ เคย คิด จะผนวก ดินแดนล้านนา มาอยู่ ใต้อาณัติ จากประวัติศาสตร์ พม่า เคยครอง เชียงใหม่ 200 กว่าปี..ฉะนั้น ย่อม มีเหตุผล พอ ที่ เจ้านายฝ่ายเหนือ จะห่วงใย ถึง ประเด็นนี้ ( หมายถึง ทั้ง จะเป็น ข้ออ้าง ที่มีน้ำหนัก ใน การ ไม่รับ มะเมี๊ยะ )
ขอแย้ง ประเด็น ที่ อ. ว่าวิธีปลอมตัว ของมะเมี๊ยะ ที่บอกว่า ตัดผมสั้น...รู้ได้งัยล่ะครับว่า มะเมี๊ยะ ตัดผมให้สั้น เหมือนผู้ชาย ...มันมีวิธีอื่นตั้งเยอะ ที่ไม่จำเป็นต้องตัดผมสั้นนี่ครับ อาจจะม้วนผมพันผมใส่หมวกอะไรก้อได้นี่ครับ เพื่อปกปิดหรือปลอมตัวให้เหมือนผู้ชายมากที่สุด...
ประเด็นนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ใช่ในละคร ก็เห็นอยู่ว่าไม่ได้ตัดผมสั้นเพียงม้วนผมตกแต่งให้ดูเหมือนสั้นคล้ายผู้ชายมากกว่าค่ะ
อันนี้ความรักนี่มันยิ่งไหญ่นะอะไรก็ทำได้แต่เป็นเรื่องจริงมีส่วน
ใครบอกมึง ว่า ตัดผมสั้น
ควาย....
จากการที่ฟังเจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ น่าเชื่อก็กว่าอ.สมฤทธิ์
ท่านได้บอกว่า ท่านแม่ของท่านบอกว่าเจ้าน้อยไปแอบชอบพอกันกับสาวพม่าแล้วแอบเอากลับมา และด้วยการสืบสันต์ติวงค์ต้องเป็นองค์ต่อไปคือเจ้าน้อยเรื่องคนสมัยก่อนเนาไม่สามารถจะไปบอกได้ว่าอำนาจจะจบลงเมื่อได พราะฉนั้นอาจารย์ก็ไม่สามารถหยั่งรุ้ในเพลงไม่ได้บอกว่ามะตัดผมมาเชียงใหม่ผมเลือกที่จะเชื่อแม่เข้าดวงเดือน ณเชียงใหม่มากกว่าว่ามะเมี๊ยะมีอยุ่จริง
ผมชอบรายการ" ประวัติศาสตร์นอกตำรา"มากจริงๆ มันทำให้เราเกิดการวิเคราะห์
คิดอะไรให้เป็นเหตุและผล
ต้องไม่ใช่การเรียนรู้แค่จากการที่คนเขียนตำราเขาอยากให้เราเชื่อแบบนั้นเท่านั้น
ถ้าอ้างอิงศาสนาก็จะตรงกับ
"หลักกาลามสูตร"ของพระพุทธเจ้า
ที่สอนให้เราอย่าเชื่ออะไรในทันที
และอย่าพึ่งเชื่อเพราะคนๆนั้นเป็นอาจารย์
หรือตรงกับทฤษฎีที่มีอยู่
แม้แต่ เพลงเอกในเรื่อง พันท้ายนรสิงห์ "น้ำตาแสงไต้" ....นวลเจ้าพี่เอย...... อีนวล เป็นเพียงตัวละครที่เสด็จองค์ชายใหญ่ทรงแต่งขึ้นเพื่อใช้แสดงละครเรื่องพันท้ายนรสิงห์ ให้เนื้อหามีรสชาด มิได้มีตัวตนใด ๆ ทั้งสิ้น เสด็จองค์ชายใหญ่(พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล) เคยไปวัดพันท้าย ฯ เห็นศาลอีนวล ท่านตรัสว่า กูอยากตบกบาลไอ้คนตั้งศาลนัก ก็อีนวลนั้นกูแต่งขึ้นมาเองเอาไว้แสดงละคร มันไม่มีตัวตนจริง ๆ หรอก ก็เหมือน ขวัญเรียมแห่งทุ่งบางกะปิของไม้เมืองเดิมนั่นเอง ที่ดันทะลึ่งมีศาลขวัญ-เรียมด้วย
คนละเรื่อง คนละบริบท
ความจริง กับ วัฒนธรรม
ผมสรุปว่าหาไม่เจอ เพราะการที่เราค้นหาหลักฐานบางอย่างไม่เจอนั้นไม่ได้แปลว่ามันไม่มีนะครับ ที่สำคัญเราต้องรอบคอบและใช้วิธีเหมาะสมโดยเฉพาะการไปหาหลักฐานและร่องรอยทางประวัติศาสตร์ ของสามัญชน เอาแค่บรรพบุรุษของเรา 100 ปีที่ผ่านมามีใครบ้าง เป็นลูกใครมีพี่น้องกี่คน มันก็ยากแล้ว
เห็นด้วยค่ะ ฟังจากเจ้าแม่ให้สัมภาษณ์ฟังกี่รอบก็คิดว่าเป็นเรื่องจริง
คุณไปถามหามะเมียะ สาวพม่าทุกคนคือมะเมียะ นั่นหรือเปล่าที่คุณหาไม่เจอ
@@kul_ver เพราะเกิดไม่ทันไงครับเลยต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ไม่มีใครเกิดทันยุคโรมันหรอก
ผมเป็นคนมอญแท้ๆครับุ..แล้วก็อยู่รัฐมอญด้วย...ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง ของมะเมี๊ยะ มีอยู่จริงครับ ขนาดนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่เท่าไหร่อันนี้ผมจำไม่ได้...แล้วที่บอกกันว่า..เรื่องนี้ คือแต่งขึ้นมา...ผมอยากจะทราบว่า...แล้วเรื่องของบางระจัน...ศาลพันท้ายนรสิงห์..มันคือเรื่องจริงมั้ยครับ..ทั้งๆที่..เกิดขึ้นมาโดยแผ่นดินสยามเป็นแน่แท้...แต่กลับหาหลักฐานการเป็นเรื่องจริงมิได้...สรุปคือว่า...เรื่องบางเรื่อง..ที่ผ่านมาแล้วเป็นร้อยกว่าปี แล้วหาหลักฐานไม่เจอ ใช่ว่าจะไม่เป็นเรื่องจริงนะครับ...ขนาดประวัติศาสตร์มอญแท้ๆ พม่ายังเอามาเสริมปรุงแต่งขึ้นใหม่ทั้งนั้น..แต่อันความเป็นจริงแล้ว...ผู้ชนะเท่านั้น..ที่จะเป็นผู้เขียนลงไปในประเทศของตน...ขอบคุณนะครับ ที่มีคนเข้ามาอ่านในครั้งนี้...จะจริงหรือเท็จ..ทุกคนมีสิทธิคิด วิเคราะห์ แยกแยะ โดยที่ยอมรับซึ่งกันและกันนะครับ สวัสดีฯ
ขอบคุณครับสำหรับความคิดเห็นผมก็คนมอญเหมือนกันครับ
1+
ป้าเชื่อค่ะว่ามีอยู่จริง
วังเข้าแก้วเนาวรัฐก็อยู่ที่วัดทุ่งเสียว ตลาดทุ่งเสี้ยว อ.สันป่าตอง
55555 เรื่องแต่งกึ่งจริงครับ
เจ้าน้อย คือ หล่อ ระดับดาราเลย สุดจริง เห็นครั้งแรกแล้วอึ้ง
เขาเลยว่าหนุ่มเชีบงใหม่หน้าตาดีค่ะ
เจ้าน้อยคือหล่อมาก
สงสารมะเมีอะมีจริงหรือเปล่า
ทำตัวเป็นผู้รู้เกิน เที่ยวไปฟันธงไปหมด เก่งจังเลย
วิเคราะห์ผิด 1.เขาคาดหวังเจ้าน้อยเป็นเจ้าเมือง
2.เขารักษาวัฒนธรรม ห้ามคบสามัญชน
3.เหตุที่เกิด ความชัดเจนของสยาม ยังไม่ได้ยุบเจ้าเมือง
4.พ่อแม่เจ้าน้อย หมั้นคนที่เหมาะสม ให้ลูก
5.ประวัติศาสตร์บอกแค่ว่าปลอมตัวเป็นชายเพื่อมาหาเจ้าน้อย(ปลอมตัวคือปกปิดผม) ไม่ได้ตัดสั้น
6.ผมว่าคุณดัดแปลงประวัติศาสตร์
7.เจ้าน้อยตาย มะเมี๊ยะถึงบวชตลอดชีวิต
8.โกฎที่ไปขูด ไปขูดให้เจออันที่เป็นของมะเมี๊ยะ
::กล้าท้า มีจริง::
คุณพูดผิด กล้าท้า
อินจัด555
เห็นด้วยทุกข้อ ผู้ชายล้านนามีผ้าโพกศีรษะเก็บผมได้ง่าย ไม่ใช่คนสยามจะได้ตัดผมสั้น และธรรมเนียมการสยายผมเช็ดเท้าสามีเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของคนล้านนา ซึ่งทางมอญหรือพม่าอาจปฏิบัติเช่นเดียวกัน ตอนที่เจ้าดาราเดินทางกลับมาเชียงใหม่ก็ได้ทำเช่นเดียวกันกับรัชกาลที่ 5
เจ้าน้อย ไปเรียน พม่า จริง
เจ้าน้อย มีรักแรก กับสาวพม่า จริง
สาวพม่า ตามมา จริง
สาวพม่า ชื่อมะเมี๊ย ไม่จริง
จะมีจริงได้ไง มะเมี๊ยะเป็นคำใช้เรียกผู้หญิงไม่ใช่หรอคะ มันไม่ใช่ชื่อคน
อีกหน่อย
เจ้าน้อย หนีไปบวชที่นครศรีธรรมราช
เจ้าน้อย หนีไปเป็นสายลับที่อังกฤษ
มโนไปเรื่อยๆ
ขอทราบ เอกสารโบราณ บันทึก แหล่งอ้างอิงหน่อย
คึดว่าสาวพม่าแยกหนี้กลับไปบวช คงไม่ใช่เพราะอังกฤษหรอก อาจเป็นเพราะคนในครอบครัวเจ้าน้อยเองไม่ชอบเพราะนางเป็นพม่า ชาวบ้านๆธรรมดา
เหมือนกับละครในปัจจุบัน บุพเพสันนิวาส เป็นนิยายที่ถูกแต่งจากเหตุการณ์จริงมีตัวตนจริง แต่เสริมตัวละครในความคิดของผู้แต่งเข้าไป ออกมาเป็นนิยายหนึ่งเรื่อง
สามก๊ก ก็ใช่นะ บุคคลที่มีจริง บุคคลที่แต่งขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดจริง เหตุการณ์ที่แต่งขึ้น
ศรีปราชญ์ไม่มีตัวตน เป็นชื่อตำแหน่ง คนยังคิดว่ามีจริงอยู่เลย
ต้องมีบ้างแหละ ในเมื่อเชียงใหม่ใกล้ชิดกับพม่าขนาดนั้น ความสัมพันธ์ชายหญิงย่อมมีอยู่แล้ว ไม่มากก็น้อย ยิ่งเจ้าน้อยไปเรียน คิดว่าช่วงวัยนี้เรื่องความรักต้องมีบ้าง แต่หนังสืออาจจะเติมแต่งให้เรื่องดูสมบูรณ์ มองตามหลักความเป็นจริงนะ นี่ดูมาบ้างก็ไม่เชื่อว่าคนชื่อมะเมียะมีอยู่จริง แตเจ้าน้อยคงมี ผญ.พม่าเข้ามาในชีวิตบ้างแหละ
คิดเช่นนั้นค่ะ
พิเชษฐ ตันตินามชัย นักประวัติศาสตร์ล้านนา เคยสัมภาษณ์น้องสาวแท้ๆ สองท่านของเจ้านางบัวนวล สิโรรส ได้แก่ เจ้านางแสงสว่าง และเจ้านางบุษบรรณ สิโรรส เมื่อสองทศวรรษก่อน เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่าจริงเท็จประการใด ได้คำตอบจากทั้งสองท่านว่า
“ย่าเคยได้ยินเจ้าพ่อ (เจ้าสุริยวงศ์คำตั๋น) พูดให้ย่าฟังว่า เจ้าหลวงมาสู่ขอพี่บัวนวลให้หมั้นกับเจ้าน้อยก่อนไปเรียนหนังสือที่เมืองพม่า จะปฏิเสธก็คงไม่งาม เพราะท่านเป็นถึงลูกชายเจ้าราชวงศ์ เมื่อกลับมาเชียงใหม่ เจ้าน้อยพาเมียมาด้วย พี่บัวนวลโกรธ และไปบอกให้เจ้าพ่อไปขอถอนหมั้น”
ถ้าเช่นนั้น เรื่องราวที่ถกเถียงกันมากว่าเจ้าน้อยศุขเกษมเคยมีคู่หมั้นและถูกถอนหมั้นเพราะมะเมียะ เป็นจริงละหรือ? ก็คงได้คำตอบ ณ ที่นี้แล้วว่า เป็นเรื่องจริง เนื่องจากผู้ยืนยันคือน้องสาวแท้ๆ ของผู้ขอถอนหมั้น
ต่อไปก็คือประเด็นชีวิตของเจ้าน้อยศุขเกษม ภายหลังจากที่มะเมียะถูกส่งตัวกลับไปแล้ว ได้สมรสกับสตรีที่ชื่อ “เจ้านางบัวชุม” นั้นมีความเป็นมาอย่างไร ....... ฯลฯ **** ปริศนาโบราณคดี : ‘มะเมียะ’ ยังมีตัวตนอยู่จริงไหม? เมื่อถอดเรื่องราวดราม่าออก (3) / เพ็ญสุภา สุขคตะ www.matichonweekly.com/column/article_400487
ผมว่าเรื่องนี้อาจจะมีเรื่องจริงส่วนหนึ่ง เรื่องแต่งเติมส่วนหนึ่ง สาวพม่าคนนั้นอาจจะมีจริงแต่เธอคงไม่ใช้ชื่อว่า มะเมี้ยะ อาจจะเป็นชื่ออื่น ชื่อที่ได้มานี้อาจจะเกิดจากปากต่อปากจนเพี้ยนกันไปก็ได้ พอไปหาหลักฐานโดยใช้ชื่อนี้เป็นที่ตั้งมันก็เลยไม่มี และมันก็คงไม่ใช่เรื่องอะไรที่ชาวมะละแหม่งจะต้องจดต้องจำกันถึงขนาดนั้นกระมังครับ การที่ใครจะรักกะใครสักคนหนึ่ง ถึงแม้คนๆนั้นจะมีศักดิ์เป็นถึงเจ้าชายจากเชียงใหม่ก็ตาม มันก็อาจจะเป็นเรื่องพูดกันอยู่สักพัก แต่มันคงจะไม่อยู่ยงจนถึงขนาดเป็น 80 - 100 ปีเป็นแน่ มันก็เลยเหลือแค่ตำนานเล่ากันมาอย่างที่เห็นที่ทราบกัน แต่อย่างไรผมก็ชอบมากๆนะตำนานรักเรื่องนี้ ยังอินกับมันเสมอครับ.
ปริศนาโบราณคดี : ‘มะเมียะ’ ยังมีตัวตนอยู่จริงไหม? เมื่อถอดเรื่องราวดราม่าออก (3) / เพ็ญสุภา สุขคตะ www.matichonweekly.com/column/article_400487
เห็นด้วยครับ
ช่องนี้ดีมากคับ อ พยายามหาหลักฐานมาหักล้างความคิดความเชื่อที่มีมาช้านาน สังคมไทยควรเปิดพื้นที่ถกเถียงทางประวัติศาสตร์ เมื่อเราค้นคบหลักฐานใหม่ๆๆ
อาจารย์ก็สรุปความเห็นแบบไม่มีหลักฐานเด็ดๆอะไรมารฮงรับ แค่ไปเที่ยวถามโน้นนี่ จับแพะชนแกะ อ่านความเห็นหลายคนแล้วอยากให้อาจารย์ลองศึกษาอีกสักครั้งครับ ทั้งพยานทางญาติพี่น้องเจ้าน้อย/บุคคลที่ยังพอมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน
เขาเดินทางไปสืบค้นหาข้อมูลใช้ต้นทุนใช้เวลา ใช้ความอดทนกว่าจะได้มา คุณฟังไม่เข้าใจ ฟังด้วย ทัศนคติที่เป็นลบแล้วบอกว่าเขาจับแพะชนแกะ มันช่างเป็นความคิดที่โง่เง่ามากๆ คนอย่างคุณนี่ไม่น่าคบหาสมองน้อยบ้องตื้น คิดลบออกทะเลขวางโลก ถ้าผมเป็นคุณผมอายตัวเองนะไม่ต้องอายใครเลย
คุณเป็นเทวดาหรือครับที่จะมาสรุปอะไรเอาง่ายๆ เรื่องมันนานแค่ไหนแล้ว มันจะทิ้งหลักฐานอะไรมากมาย ข้อมูลแค่นี้ ข่อมูลจากการประเมินโดยคุณคนเดียว
ใช่ครับ เราไม่ควรเอาความเห็นเราไปตัดสินบางอย่างที่เราไม่สามารถสืบค้นหลักฐานได้ว่าไหม เอาแค่ไปสืบค้นบรรพบุรุษตัวเองเมื่อร้อยกว่าปีมา ดูสิว่าจะได้ข้อมูลไหม
แล้วคุณเป็นเทวดาหรือครับที่บอกว่ามันเป็นเรื่องจริง เอาหลักฐานมาอ้างอิงให้ทราบได้ไหมครับ หรือข้อมูลมาอ้างอิงแบบที่เป็นหลักฐานแบบแน่นอน เรื่องยิ่งยาวนาน ยิ่งบิดเบือน ยิ่งเป็นไปตามกาลเวลา กลายเป็นนิทาน
@@PPK018 แล้วคุณ ละ?
@@โรนินรัตติกาล ผมคือผู้ศึกษาประวิติศาสตร์โดยอ้างจากหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ครับ
@@PPK018 พิสูจน์ได้ ตามน้ำลาย ของนักวิชาการ คนนี้ นะรึ?..( จากปากคำ ของน้องสาว ผู้เป็นคู่หมั้นคู่หมาย ของ เจ้าศุขเกษม ก่อนไปเรียนที่พม่า..ถึงเหตุที่พี่สาวถอนหมั้น เจ้าศุขเกษม ว่า " เพราะ เจ้าศุขเกษม พาเมีย พม่า กลับมา)...การปลอมเป็นชาย ของมะเมี๊ยะ..นักวิชาการ ตีความว่า ตัดผมสั้น...คุณเชื่อรึ? ..55555 ยุคนั้น หญิงสาวพม่าไว้ผมยาว เป็นเมตร ใครจะตัด ? ทำไม ไม่คิดว่า แค่ขมวดมวยผมไว้ แล้วโผกผ้าปิด..จะสมเหตุสมผลกว่า...ทั้งยังสอดคล้อง กับ... ก่อนมะเมี๊ยะ จะจากลา เจ้าศุขเกษม มะเมี๊ยะ สยายผมยาว ออกเช็ดเท้า เจ้าศุขเกษม ( มะเมี๊ยะ อยู่ เชียงใหม่ประมาณ 1 เดือน ถ้ามะเมี๊ยะ ตัดผม..ผมจะไม่ยาว) หมายเหตุ การตีความ ว่า มะเมี๊ยะ ปลอมเป็นชาย แล้วตัดผมสั้น นั้น ไม่สมเหตุสมผล กับ บริบท สังคมยุคนั้น ที่หญืงสาวนิยมไว้ผมยาว และจะรักผม มาก ส่วนผู้ชาย ก็มีผมค่อนข้างยาวเช่นกัน
คุณกำลังสมมุติ
ชอบใจ ช่วง 15.25 จบคลิปได้ดี ไม่หักหาญน้ำใจกัน
11:10 "ในหนังสือ นักวิชาการต่างๆ เจ้ายายก็ไม่รู้เขาไปสืบค้นที่ไหนมา ถึงได้เล่าเป็นนิยายเป็นฉากๆ เราก็ไม่เข้าใจ"
แค่เรื่องความรักปกติของหนุ่มสาว มันก็เล่ากันปากต่อปาก ใครมันจะจารึกไว้ในประวัติศาสตร์กัน
คุณไปหาข้อมูลดีๆ ตอนหลังเจ้ายาย ท่านก็ออกมาพูดแล้วว่า ถ้าไม่ได้อยู่ในยุคสมัยท่านแค่ฟังมาจากเจ้าพ่อเจ้าแม่ ผมไม่ได้ปีนเกลียวนะ คุณคิดว่าพ่อแม่ของคุณ ที่พูดมาทั้งหมดเชื่อถือได้กี่เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่เด็กๆที่เราเติบโตมา มันจะมาสู้อะไรกับนักวิชาการที่เขา ค้นหาข้อมูลมา ข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ คุณต้องคิดให้ดี ต้องฟังแล้วหาข้อมูล กี่อย่างที่คนในครอบครัวเราแม้แต่ปู่ย่าตายาย พูดออกมา มันมีกี่เปอร์เซ็นต์ที่เชื่อถือได้ แล้วก็พูดต่อๆกันมา พระพุทธเจ้าท่านยังสอนไว้ในกาลามสูตรว่าทุกอย่างต้องค้นคว้าด้วยตัวเอง ขนาดตัวท่านเองท่านยังบอกไม่ให้เชื่อเลย
@@slashgnr.1980 ก็อย่างที่บอกถ้ามันเป็นแค่เรื่องความรักของหนุ่มสาวมันจะเป็นข้อมูลทางวิชาการข้อมูลทางประวัติศาสตร์ยังไง? ไดอารี่ของเจ้าน้อยงี้เหรอก็ไม่มี มันไม่มีข้อมูลอะไรยืนยันตั้งแต่แรก เพราะแบบนั้นนักวิชาการถึงได้ใช้นิยายเป็นตัวตั้งไง กลับไปที่คำพูดของเจ้ายายที่ผมเม้นต์ไว้ตอนแรก "ในหนังสือ นักวิชาการต่างๆ เจ้ายายก็ไม่รู้เขาไปสืบค้นที่ไหนมา ถึงได้เล่าเป็นนิยายเป็นฉากๆ เราก็ไม่เข้าใจ" นี่คือสิ่งที่ผมจะบอก ทั้งหนังสือนิยายที่มโนมาจากเรื่องเล่า ยิ่งนักวิชาการที่ไปหาข้อมูลมายันกับนิยายยิ่งเลอะเทอะไปกันใหญ่
มะเมี๊ยะ เป็นสาวแม่ค้า.... จะมีบันทึก ชีวิตของสาวแม่ค้า ลงในพงศาวดารพม่าหราครับ แหม...ไปตามหาหลักฐานถึงพม่าเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องผม ใช้วิธีเกล้าผม/โพกผมหรือใส่หมวกก็น่าจะได้นะ
ส่วนตัวเชื่อเรื่องเล่านี้นะครับ
+1
นิยายก็คือนิยาย ผู้ดำเนินรายการก็ใช้การวิเคราะห์เอาเองสรุปไม่มีข้อมูลใดตรงถูกต้อง การอ้างว่าหาข้อมูลเองก็ไม่ได้บอกว่ามันถูกต้อง คาดเดากับคิดฝ่ายเดียวไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เดาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คาดเดาว่าตัดผมเหมือนชาย อันนี้คือคิดเอาเองคนฟังที่คิดตามกับศึกษามาไม่เหมาะที่จะสรุปตามรายการนี้ เพราะทุกประเด็นคือพูดด้วยการวิเคราะห์เอง
ผมติดตาม คลิปที่อาจารย์บรรยายหลายคลิป อาจารย์คือผู้ทรงคุณค่าแก่สังคม ผู้ใดได้ฟัง จะมองเห็นอะไรๆ แจ่มแจ้ง เป็นกำลังใจครับ.
ยังไงซะตำนานรักของ มะเมียะ เจ้าน้อยศุขเกษม จะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป 😭
ปริศนาโบราณคดี : ‘มะเมียะ’ ยังมีตัวตนอยู่จริงไหม? เมื่อถอดเรื่องราวดราม่าออก (3) / เพ็ญสุภา สุขคตะ www.matichonweekly.com/column/article_400487
เราเชื่อคนเชียงใหม่มากกว่า
เราเขื่อคุณจรัญเชื่อผู้ใหญ่ที่เกิดก่อนเรา
ชอบรายการนี้ มีการวิเคราะห์ นี่แหละวิธีทางประวัติศาสตร์ของจริง ที่เคยเรียนมา
ก็ใช่นะแต่ความจริงบางอย่างน่าคิดเอาว่าต้องไม่เชื่อไว้ด้วย.เรื่องบางเรื่องคนละเรื่องกับประวัติศาตร์นักวิชาการเองก็เถอะเหมือนนักสืบแหละ..ตามทางเขาแต่บางเรื่องพระอริยะเจ้า(เชื่อโดยส่วนตัว).หลวงพ่อจรัญ.หลวงพ่อฤษี(วัดท่าซุง)..ท่านรู้มากชัดเจนแต่คนละเรื่องเดียวกันกับนักวิชาการนักค้นคว้าๆแบบของเขาแต่ฟังจากหลวงพ่อมองตามพอจะเห็นความแตกต่างว่า"คนแต่ก่อนสัจจะถือเป็นชีวิต". เชื่อท่านเต็มร้อย.ท่านรู้ในเรื่องที่จริงจึงจะเล่าด้วยไม่มีอคติไม่มีความหวังคาดหมายหมกมุ่นในความอยากท่านค้นหาความหลุดพ้นอย่างเดียวจิตขนาดนั้นทำไมท่านจะไม่รู้เรื่องจริง(บางท่านศิษย์ท่านยังรู้แต่ท่านเหล่านี้จะเงียบเล่าไห้ฟังก็แค่ลูกหลานสนิทพระคุณเจ้าเช่นกันไม่ใช่จะเล่าเล่นๆหรือหวังสิ่งใด.นิทานเรื่องเล่าของหลวงพ่อวัดอัมพวันจงรู้เถอะ"เรื่องจริง".แต่ท่านมาในแนวเล่าอาจจะกลัวคนตกนรก.เพราะไม่เชื่อท่านจึงกันไว้เป็นเรื่องเล่า.แต่ทุกคนที่เป็นศิษย์ท่านย่อมรู้"อ่านแล้วรู้แล้วทำตามคำสอน"..แต่คนที่ไม่เชื่อก็จงอ่านเล่นไห้สนุก..วิจารณ์ไม่บาป.เพราะองค์ท่านกันไว้แล้วว่า"เรื่องเล่า"จากป่า.แต่เราแล้ว..🙏🙏🙏🙏ที่ได้รู้จากท่านทั้งสองแต่จริงๆมากกว่านั้น.🙏🙏
เรื่องราวนี้มีเค้าโครงเรื่องจริงเพียงบางส่วนแต่ถูกนำมาแต่งเติมเสริมแต่งจนกลายเป็นนิยายรักโรแมนติกดราม่า
เจ้าน้อยศุขเกษมถูกส่งไปเรียนที่พม่าจริง
มีเมียเป็นชาวพม่าจริง
แต่เมียพม่าไม่ได้มีชื่อว่าหม่าเมี๊ยะ
และเรื่องราวส่วนใหญ่ก็ถูกแต่งเติมจนเป็นนิยาย
ผมว่าคงจะเป็นเรืองบางแต่แตงใส่ไขมากไป
อาจเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นให้อ่านสนุกๆ แต่มีการแต่งเติมเป็นตุเป็นตะ เหมือนเรื่องคนไทยมาจากเทือกเขาอัลไต
ใช่ครับ ผมว่าเหตุผลที่ไม่มีข้อมูลของมะเมียะอยู่ในพม่าอาจเพราะว่ามะเมียะเป็นคนสามัญชน เอาง่ายๆคือเป็นลูกตาสีตาสาไม่มีใครสนใจ ไปอยู่กินกับเจ้าต่างประเทศอีก สมัยนั้นคนมะละแหม่งจะรู้จักเจ้าเมืองเชียงใหม่กันเป็นอย่างดีมั้ยก็ไม่รู้ คงจะเป็นคนธรรมดามากๆ ไม่มีใครสนใจ เรื่องราวก็เลยหายไปตามกาลเวลา
ผม แสดง ความคิดเห็น ..ไว้..แต่ เมื่อ กลับ มา ดู.ใหม่...ถูกลบ ...
ปริศนาโบราณคดี : ‘มะเมียะ’ ยังมีตัวตนอยู่จริงไหม? เมื่อถอดเรื่องราวดราม่าออก (3) / เพ็ญสุภา สุขคตะ www.matichonweekly.com/column/article_400487
ต้องเก็บมาเป็นข้อมูล เข้าคลังความรู้ใส่สมอง ว่า เรื่องนี้ อาจเป็นความเชื่อ หรือ อาจเป็นความจริง ก็ได้ทั้งนั้น
ไม่ใช่มาดูคลิบนี้ เขายืนยันว่า เขาไปตามหาข้อมูลข่าวสารแล้วไม่เจอ เขาจึงสรุปว่า เป็นความเชื่อ ไม่ใช่จริง
หากเราเชื่อตามเขาทันที เราก็หูเบา
เราควรฟังหูไว้หู จะงามกว่าไหม
มะเมี๊ยะ..น่าจะมีตัวตน อยู่จริง เมื่อประมาณ 2 ปี ที่แล้ว มี ยูทูปเปอร์ ชาว อ.เชียงของ จ.เชียงราย ไปสืบค้น ข้อมูล มะเมี๊ยะ ที่ มะละแหม่ง..มีรูป หญิงสาวที่น่าเชื่อ ว่า อาจจะเป็น มะเมี๊ยะ..และ ญาติ มะเมี๊ยะ พาไปถ่ายรูป บ้าน มะเมี๊ยะ เป็น บ้านเก่า 2 ชั้น แบบตึกฝรั่ง ซึ่งบ่งบอก ว่า ( หากจริง) มะเมี๊ยะ ก็ มิใช่ สาวแม่ค้า แบบ ชาวบ้านธรรมดาๆ โดยทั่วไป * ประเด็น ทรงผม ของ มะเมี๊ยะ ก็ ขอมองต่างมุม จาก นักวิชาการ ท่านี้...มะเมี๊ยะ ปลอมเป็นชาย ก็แค่ ขมวดมวยผม ไว้ แล้วโผกผ้า ปิดไว้ ก็พอ และที่สำคัญ สาว มะละแหม่ง ยุคนั้น ก็ นิยม ไว้ผมยาว ไม่ตัด
พิเชษฐ ตันตินามชัย นักประวัติศาสตร์ล้านนา เคยสัมภาษณ์น้องสาวแท้ๆ สองท่านของเจ้านางบัวนวล สิโรรส ได้แก่ เจ้านางแสงสว่าง และเจ้านางบุษบรรณ สิโรรส เมื่อสองทศวรรษก่อน เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่าจริงเท็จประการใด ได้คำตอบจากทั้งสองท่านว่า
“ย่าเคยได้ยินเจ้าพ่อ (เจ้าสุริยวงศ์คำตั๋น) พูดให้ย่าฟังว่า เจ้าหลวงมาสู่ขอพี่บัวนวลให้หมั้นกับเจ้าน้อยก่อนไปเรียนหนังสือที่เมืองพม่า จะปฏิเสธก็คงไม่งาม เพราะท่านเป็นถึงลูกชายเจ้าราชวงศ์ เมื่อกลับมาเชียงใหม่ เจ้าน้อยพาเมียมาด้วย พี่บัวนวลโกรธ และไปบอกให้เจ้าพ่อไปขอถอนหมั้น”
ถ้าเช่นนั้น เรื่องราวที่ถกเถียงกันมากว่าเจ้าน้อยศุขเกษมเคยมีคู่หมั้นและถูกถอนหมั้นเพราะมะเมียะ เป็นจริงละหรือ? ก็คงได้คำตอบ ณ ที่นี้แล้วว่า เป็นเรื่องจริง เนื่องจากผู้ยืนยันคือน้องสาวแท้ๆ ของผู้ขอถอนหมั้น
ต่อไปก็คือประเด็นชีวิตของเจ้าน้อยศุขเกษม ภายหลังจากที่มะเมียะถูกส่งตัวกลับไปแล้ว ได้สมรสกับสตรีที่ชื่อ “เจ้านางบัวชุม” นั้นมีความเป็นมาอย่างไร ....... ฯลฯ **** ปริศนาโบราณคดี : ‘มะเมียะ’ ยังมีตัวตนอยู่จริงไหม? เมื่อถอดเรื่องราวดราม่าออก (3) / เพ็ญสุภา สุขคตะ www.matichonweekly.com/column/article_400487
แล้วเจ้า บัวนวล คู่หมั้นของเจ้าน้อยละค่ะ เคยอ่านเจอบอกว่าเรื่องของมะเมี๊ยะ เจ้าบัวนวลเป็นคนเอามาเล่า อาจารย์ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่าจริงหรือไม่ และถ้าเป็นเรื่องไม่จริง ทำไมเชียงใหม่ถึงไม่หยุดเรื่องนี้ปล่อยให้เล่ากันจนเป็น100ปีแถมใช้รูปเจ้าน้อยอีกด้วย ทำไมญาติเจ้าน้อยไม่ห้ามในการใช้รูป
เป็นการเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ มองด้านเดียว
ตัวแปรมีมากแต่ต้องการหาเหตุเพื่อจะสรุปตามที่ตัวเองตั้งธงไว้
น่าจะตั้งใจ บิดเบือน
แล้วเชื่อได้ใดว่าเป็นเรื่องจริง 5555
มาตามคำขอที่สัญญาไว้จริงด้วย ขอบคุณน้าาาา ใส่ใจผู้ชมแบบนี้ไม่ให้รักได้ไง รักช่องนี้ตี้สุดดดด
จัดให้ FC ค่ะ
ตำนานความรักที่สวยงาม.....คือความจริง....ที่ถูกปกปิด.....ท่านทั้งสองเท่านั้นที่รู้และครองรักบนสวรรค์ด้วยกัน.....
คนสมัยก่อน เรียก สาวพม่าว่า มะเมี้ย หนุ่มพม่าว่า หม่อง ไม่ใช่ชื่อจริงๆของบุคคลนั้น นะครับ
น่าจะใช่
แปลว่า...ต้องมีตัวตนจริง แต่เรียกมะเมียะ เหรอค่ะ ทำไมไม่เรียกชื่อนามเลยค่ะ แปลกจัง
@@พรรณนาราษณ์พริ้งจํารัสกุล ผู้ใหญ่บางท่านก็จะเรียกแบบนี้มันง่ายๆที่จะเรียก มั่งครับ
@@พรรณนาราษณ์พริ้งจํารัสกุล เหมือนเรียกนาง เหนียง แม่สาว นังหนู
คิดว่า ผู้วิจัย ไม่ทราบเหรอ
ชอบรายการนี้มาก ที่นำเสนอข้อมูลหลายด้าน พร้อมหลักฐานของแต่ละฝ่าย คนดูคิดตาม และตัดสินใจเอาเอง
เรื่องมะเมี๊ยะ ก็มีอีกคลิป ที่เป็นฝ่ายสนับสนุน ก็ต้องคิดตามไป
แต่อย่างไรก็ตาม รู้สึกเห็นใจคนเหนือ ที่ถูกสยามกลืนวัฒนธรรม และจัดการจนเปลี่ยนไปหมด และเหตุการณ์นี้ก็เพิ่งเกิดมาไม่นาน และก็ยังไม่มีการสอน ให้คนภาคอื่นทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง สลด
ชอบรายการนี้มาก ชอบอาจารย์ท่านนี้ด้วย อธิบายเข้าใจง่ายมีเหตุผล วิเคราะห์ดีมากค่ะ
ทำไมเราฟังอาจารย์แล้วเหมือนดูอาจารย์โง่ๆยังไงไม่รู้ ตลกที่บอกว่าไปหาหลักฐานและไม่เจอร่องรอย5555 มันไม่มีทางเจออยู่แล้วครับตั้งร้อยกว่าปี มะเมี๊ยะก็คนธรรมดา สมัยก่อนถ้าย้ายไปอยู่ที่ใหม่ก็หาขี้กันไม่เจอแล้ว พม่าเขาไม่ค่อยบันทงบันทึกเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ตลกที่ไปตามหาลูกหลานของมะเมี๊ย อาจารย์เป็นใคร? คนำม่าด้วยกันยังหากันไม่ได้เลย5555
มะเมี้ยะมีจริงครับ คลิปใหม่ออกมาละ จากวงในเลย
ขออนุญาติแสดงความคิดเห็นครับ
ตามที่ได้ฟังเจ้าดวงเดือนท่านได้พูดไว้เป็นภาษาเหนือซึ่งแปลเป็นภาษาภาคกลาง..ดังนี้ครับ....เจ้าลุง(เจ้าน้อยสุขเกษม)ถูกส่งไปตอนอายุ15ปีแล้วไปเที่ยวตลาดไปเจอแม่ค้าหน้าตาดีก็เกิดชอบพอกัน เป็นข่าวจากเชียงตุง..อันนี้ถามเจ้าพ่อเจ้าแม่แล้วนะ..(ประโยคนี้หมายถึงท่าน(เจ้าดวงเดือน)น่าจะสอบถามเจ้าพ่อเจ้าแม่ของท่านแล้วก็คงจะเล่าให้ฟัง)
..ซึ่งพอเจ้าแก้วนวรัฐทราบว่าลูกชายไปติดสาวก็คงจะบ่นว่า...ส่งไปเรียนหนังสือซึ่งจะต้องกลับมาสืบราชกุล แต่ไปเมา(ติด)สาว เกิดมีท้องมีใส้ขึ้นมาจะทำยังไง.อย่างงี้ถ้าไม่เรียนก็เอากลับมา....ตอนกลับมาก็พาสาวกลับมาด้วยโดยปลอมเป็นผู้ชาย แต่พอมาแล้วก็อยู่ด้วยกันไม่ได้...ก็เลยต้องส่งผู้หญิงกลับ ..ผมขออนุญาติตีความว่าเรื่องนี้มีมูลความจริงครับ..แต่เรื่องตรอมใจหรือเรื่องคร่ำครวญในความรักคงเป็นเรื่องที่เค้าแต่งกันขึ้นมาน่ะครับ....ผมแสดงความคิดเห็นเฉยๆนะครับผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ
เป็นข่าวจากเชียงตุง ?
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเชียงตุง เจ้าน้อยไปเรียนที่เมืองมะละแหม่ง เป็นโรงเรียนทหารยังเหลืออาคารอยู่
รายการหนังพาไปถ่ายมา ส่วนตัวก็เชื่อแบบคุณ ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย ไม่งั้นบั้นปลายชีวิตทำไมท่านเป็นแบบนั้น
น่า จะเป็นเรื่องจริง ..เมื่อ ประมาณ 7 ปี ที่แล้ว ยูทูปเปอร์ ชาวเชียงราย ไปสืบค้น หา มะเมี๊ยะ ..มีทั้งรูป ที่น่าเชื่อ ว่า เป็น มะเมี๊ยะ และ ญาติ ของ สาว ที่น่าจะเป็น มะเมี๊ยะ พาไปถ่าย บ้านเก่า 2 ชั้น ทรงตึก ฝรั่ง. ของครอบครัว มะเมี๊ยะ .* ถ้าจริง มะเมี๊ยะ ก็ มิใช่ สาวแม่ค้า มวนยา ธรรมดาๆ โดย ทั่วไป
ฮ๊อตเซียปิดความคิดเห็น คงโดนเยอะ อย่าเพิ่งเชื่อหลักฐานที่งอกออกมาเรื่อยๆ
@@gitnomad 55555.. ขอบคุณ ที่บอก..แต่ ส่วนตัวลึกๆ ผม เชื่อ ว่า ..มะเมี๊ยะ เป็น เรื่องจริง เพียงแต่ ข้อมูล อาจคลาดเคลื่อน หรือ มี การเสริมแต่ง * ปกติ ผม ก็ ติดตาม ช่อง ประวัติศาสตร์ นอกตำรา และ ส่วนมาก ก็ มักจะเห็นด้วย กับ นักวิชาการ ท่านนี้ แต่ เรื่อง มะเมี๊ยะ ..ผม มอง ต่างมุม * กรณี เรื่อง ทรง ผม มะเมี๊ยะ ..มะเมี๊ยะ จะปลอม เป็น ผู้ชาย ก็เพียงแค่ เกล้ามวยผม ..มัดไว้ แล้ว โพก ผ้าปิด จะน่าเป็นจริง กว่า เพราะ ยุคนั้น สาวๆเมือง มะละแหม่ง ก็ มี ประเพณี นิยม ..รัก การไว้ผมยาว ไม่ตัด ..* การ นำ มุมมอง ปัจจุบัน ไป ตีความ อดีต บางครั้ง ก็ สะท้อน มายาคติ..รึ อคติ บางอย่าง ( กรณี ที่ มอง ว่า หาก มะเมี๊ยะ ปลอมเป็นชาย ต้องตัดผมสั้น..จะทำให้ เหตุ และ ผล โดยรวม ของ นักวิชาการ ท่านนี้ ลดคุณค่าลง)
@@โรนินรัตติกาล ใช่ค่ะ ผู้ชายพม่าสมัยก่อนก็ไว้ผมยาวกันนะคะ ไม่ได้ตัดผมสั้นเหมือนผู้ชายไทยสมัยก่อนค่ะ
อาจารย์ครับ ถ้าย้อนไปสมัยถ้าเป็นจริง ในเมืองมะละแม่ง เจ้าน้อยไปเรียนโดยไม่ได้ประกาศว่าเป็นเจ้าเชียงใหม่ ใครคนเชื่อว่าเป็นชาวล้านนาธรรมดาๆเท่านั้น และเรื่องราวที่ชายหนุ่มคบหญิงสาว ใครๆจะไปจดจำ เพราะเป็นคนธรรมดา และการแอบติดตามมากับเจ้าน้อยก็เป็นแบบลับๆ ชาวเมืองไม่ได้สนใจ ใครจะเก็บมาจำ ถ้าสมมุติว่า มีพิธีแต่งงานแบบประกาศว่า นี่เจ้าน้อยเจ้าชายเมื่องเชียงใหม่แต่งกับสาวพม่า เออแบบนี้ ประชาชนจะจดจำและเก็บมาเล่า แต่ในเรื่องตำนาน เจ้าน้อยไม่ได้ประกาศตัวว่าเป็นเจ้าให้คนมะละแม่งรู้ ฉนั้นๆ ไม่มีใครจดจำแน่นอน และเมื่อมะเมี๊ยะกลับมะละแม่ง นางก็คงจะอับอายที่ถูกทิ้ง จนไม่อยากเผยแพร่เรื่องแบบนี้กับใคร ฉนั้น เรื่องจึงไม่มีอะไรพิเศษให้ชาวเมืองจดจำ....ไม่เหมือนที่เชียงใหม่ที่ขาสวเจ้าน้อยเอาสาวพม่ามาเป็นเมีย พอชาวเมืองรู้เลยพูดกันทั่ว มันเลยมีเรื่องเล่าไงครับอาจารย์ ต้องเข้าใจประเด็นนี้ การที่อาจารย์ไปพม่าเพื่อสืบหามะเมี๊ยะ แล้วไม่ได้เบาะแส นั่นเพราะการคบหากันของมะเมี๊ยกับเจ้าน้อยเป็นเหมือนคนธรรมดาที่คบกัน ไม่มีเรื่องใหญ่ให้เล่าไงครับ......อาจารย์ลืมนึกถึงตรงนี้ครับ
ใช่ครับ เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ
เห็นด้วยค่ะ เรื่องมันผ่านมาร้อยกว่าปีแล้ว คนร่วมสมัยกัยผู้หญิงมอญหรือพม่าคนนั้นก็ตายไปหมดแล้ว ชาวบ้านธรรมดาใครจะไปจดจำ คนที่ถามหาจดหมายเหตุยิ่งแล้วใหญ่ เรื่องเจ้าน้อยได้เมียตอนไปเรียนต่างบ้านต่างเมืองเป็นเรื่องน่าอับอาย เป็นโครงกระดูกในตู้ ทุกคนเงียบ ด้วยหวังจะให้เรื่องมันเงียบไป มันกลับมาดังเพราะคุณจรัลนำมาแต่งเป็นเพลง คุณจรัลได้ฟังเรื่องราวมาจากแม่ ซึ่งนามสกุลเดิมคือ ณ เชียงใหม่ เจ้าดวงเดือนก็เคยยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง
ชอบมาก เป็นกำลังใจให้ทุกคลิปครับ สุดยอด
ติดตามครับ... ได้ความรู้มากๆครับ..
ออกเสียงภาษาไทยได้ดีมากอาจารย์. ฟังเเล้วสบายหูหลักๆคือได้ความรู้อย่างยิ่งบวด
น่าสนใจมากค่ะ เราว่าก็อาจจะมีตัวตนจริงแต่อาจจะไม่ได้ดราม่าน้ำตาท่วมแบบในหนังสือกับละคร
ชอบอาจารย์มากครับ ติดตามตลอด
น่าสงสารมะเมียะ กาลเวลาผ่านมาเป็นร้อยปีแล้วก็ยังไม่ถูกยอมรับว่ามีตัวตน
ก็ไม่มีตัวตนจะให้ยอมรับได้อย่างไรครับ เพราะชื่อมะเมี๊ยะ มาจากชื่อชาวพม่าหน้าปากซอยของคุณปราณี
ในหนังสือเพ็ชร์ลานนาของคุณปราณี ศิริธร ณ พัทลุง กล่าวไว้ค่อนข้างยาว สรุปใจความได้ว่า
ก่อนที่เจ้าน้อยศุขเกษมจะเดินทางไปศึกษาต่อที่มะละแหม่ง เจ้าพ่อ (เจ้าแก้วนวรัฐ ขณะเป็นเจ้าราชวงศ์อินทแก้ว) ได้หมั้นหมายเจ้านางบัวนวลให้กับเจ้าน้อยศุขเกษม เมื่อเรียนจบค่อยแต่งงานกัน แต่เมื่อเจ้านางบัวนวลทราบเรื่องว่าเจ้าน้อยศุขเกษมนำภริยาชาวพม่ากลับมาด้วย จึงได้ขอถอนหมั้นทันที
พิเชษฐ ตันตินามชัย นักประวัติศาสตร์ล้านนา เคยสัมภาษณ์น้องสาวแท้ๆ สองท่านของเจ้านางบัวนวล สิโรรส ได้แก่ เจ้านางแสงสว่าง และเจ้านางบุษบรรณ สิโรรส เมื่อสองทศวรรษก่อน เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่าจริงเท็จประการใด ได้คำตอบจากทั้งสองท่านว่า
“ย่าเคยได้ยินเจ้าพ่อ (เจ้าสุริยวงศ์คำตั๋น) พูดให้ย่าฟังว่า เจ้าหลวงมาสู่ขอพี่บัวนวลให้หมั้นกับเจ้าน้อยก่อนไปเรียนหนังสือที่เมืองพม่า จะปฏิเสธก็คงไม่งาม เพราะท่านเป็นถึงลูกชายเจ้าราชวงศ์ เมื่อกลับมาเชียงใหม่ เจ้าน้อยพาเมียมาด้วย พี่บัวนวลโกรธ และไปบอกให้เจ้าพ่อไปขอถอนหมั้น”
ถ้าเช่นนั้น เรื่องราวที่ถกเถียงกันมากว่าเจ้าน้อยศุขเกษมเคยมีคู่หมั้นและถูกถอนหมั้นเพราะมะเมียะ เป็นจริงละหรือ? ก็คงได้คำตอบ ณ ที่นี้แล้วว่า เป็นเรื่องจริง เนื่องจากผู้ยืนยันคือน้องสาวแท้ๆ ของผู้ขอถอนหมั้น
ต่อไปก็คือประเด็นชีวิตของเจ้าน้อยศุขเกษม ภายหลังจากที่มะเมียะถูกส่งตัวกลับไปแล้ว ได้สมรสกับสตรีที่ชื่อ “เจ้านางบัวชุม” นั้นมีความเป็นมาอย่างไร..................ฯลฯ ******** ปริศนาโบราณคดี : ‘มะเมียะ’ ยังมีตัวตนอยู่จริงไหม? เมื่อถอดเรื่องราวดราม่าออก (3) / เพ็ญสุภา สุขคตะ www.matichonweekly.com/column/article_400487
ต
รายการดีมากๆ ครับอยากให้ดูเยอะๆ
อาจมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ขอบอกคุณ เรื่องมัน100กว่าปีแล้ว ถ้ามีจริงหลักฐานจริง คงหายากมาก เพราะคนมากมาย และมีการย้ายถิ่นฐานไปมา และคุณ สืบไม่เก่งพอ คุณไม่ใช่นักสืบ และสืบหาอย่างจริงจังพอ ต้องใช้กำลังคน และมีหน่วยงานช่วย สอบถามข้อมูล เป็นวงกว้าง แต่ที่คุณไปถาม หามา บอกตรง เหมือนเล่นขายของ ขนาดเจดียุทธหัตถี ของจริง ทุกวันนี้ ยังมีถกเถียงและสงสัย กันเลยว่ามันใช่ที่จริงหรือไม่ ขนาดผ่านมาไม่กี่ร้อยปี และมีคำสั่งจากรัฐ ให้ตามหาทุ่งที่มหาอุปราชสิ้น โดยใช้คน และหน่วยงานมากมาย ยังไม่พบความจริง100%เลย ยังมีข้อสงสัยอยู่ ถึงทุกวันนี้ ว่ามันใช่จริงไหม และมี 2 ที่ด้วยซ้ำ นักวิชาการปัจจุบันก็ยังถกเถียงกันอยู่เลย ทุกวันนี้ ว่าทั้ง2ที่ ที่น่าจะใช่อาจไม่ใช่สถานที่จริงด้วยซ้ำ ขนาดอยู่ในไทยภาคกลางใกล้นี่เอง ยังสืบยากเลย...อยากเชื่ออะไร ก็เชื่อเถอะ เอาที่สบายใจ...จบ.ครับ.
ผมชอบประวัติศาสตร์นอกตำรา
เรื่องในหนังสือคงจะแต่งเติมไปเยอะ
ชื่อมะเมียะในหนังสือผู้แต่งก็บอกแล้วว่าเป็นนามสมมุติ
เคยฟังเจ้าที่เป็นเครือญาติของเจ้าน้อยศุขเกษมเล่าจากที่ท่านฟังผู้ใหญ่มา
ท่านว่า "มะเมียะ" ที่ว่าเนี่ยไม่ได้มาอยู่กินกันที่เชียงใหม่
และนางเป็นลูกครึ่งฝรั่ง
เจ้าน้อยก็ไม่ได้เสียใจขนาดตรอมใจตาย
แต่ตายเพราะพิษสุราเรื้อรังหลังจากแต่งงานมีชีวิตใหม่ไปหลายปีแล้ว
ไม่มีเรื่องสยายผมหรือไปบวชชี
ซึ่งถ้าเรื่องจริงเป็นไปตามที่ว่ามันก็จะสมเหตุผลกว่า
สมัยนั้นมีเมียมอญพม่าไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่ถ้าเป็นลูกครึ่ง ซึ่งอาจจะนับถือศาสนาอื่นด้วยเนี่ย ถูกกีดกันแน่
เรื่องจริงก็อาจจะมีแค่เจ้าน้อยฯมีคู่รักต่างชาติ
ที่แต่งงานอยู่กินกันในประเทศไม่ได้เท่านั้นเอง
ต
น่าจะเป็นลูกครึ่งอย่างว่าแต่สาวมอญก็สวยมากเหมือนกัน
ข้อเท็จจริงอีกมุมก็คือว่า
1.ข้อมูลชุดนี้คุณปราณีได้เค้าโครงเรื่องมาจากเจ้าอินทนนท์ บุคคลร่วมสมัยกับเจ้าหน้อยศุขเกษม ว่ามีหญิงสาวพม่าติดตามมาด้วยแต่เธอไม่ได้ชื่อมะเมี้ยะ
2.กรณีการสมรสของเจ้าอินทนนท์กับเจ้านางสุคันธามีความแตกต่างจากคู่เจ้าหน้อยศุขเกษมตรงที่เจ้านางสุคันธาเป็นคนไทใหญ่ไม่ใช่พม่า และสู่ขอถูกต้องตามธรรมเนียม ขณะที่มะเมี้ยะลักลอบหนีตามกันมาหรือเข้านอกออกเมืองแบบผิดกฏหมายโดยเกี่ยวข้องกับเจ้าชายเชียงใหม่ที่อาจสร้างความยุ่งยากภายหลัง
3.การสืบทอดตำแหน่งเจ้าหลวง ยุคเจ้าแก้วนวรัฐเป็นรัฐสมัยใหม่ที่เริ่มมีโปเจียมจากพ่อสู่ลูก ซึ่งเจ้าหน้อยศุขเกษมมีสิทธิธรรมสูงกว่าคนอื่น ดังเห็นว่ามีการสืบเครื่องราชสายตระกูลที่เป็นมาถึงปัจจุบัน
ดังนั้นหากพิจารณาข้อเท็จจริงก็อาจกล่าวได้ว่ามีเค้าโครงเรื่องจริงอยู่บ้างแต่อาจไม่ใช่ตามรายละเอียดเหมือนที่ทราบกัน
ขออนุญาตเสริม เจ้าอินทนนท์เป็นน้องชายต่างแม่ของเจ้าน้อยศุขเกษม แต่งงานกับเจ้านางสุคันธา ณ เชียงตุง
เจ้านางไม่ใช่ไทใหญ่ แต่เป็นไทเขิน
กรณีการแต่งงานของพี่ชายน้องชายต่างกันคือ เจ้าน้อยกับสาวพม่าในการปกครองของอังกฤษ และเจ้าน้อยเป็นว่าที่เจ้าหลวง
เจ้าดารารัศมีอยู่ในกรุงเทพไม่เห็นด้วย ส่วนกรณีน้องชาย เชียงใหม่เชียงตุงเป็นญาติกัน ง่ายกว่า
ผมได้รับรู้เรื่องมะเมี้ยะครั้งแรกจากเพลงของจรัล มโนเพ็ชร ที่ขับร้องโดยคุณสุนทรี เวชานนท์ รวมทั้งเรื่อง "มิดะ" ที่ชาวเขาเผ่าอาข่า ปฎิเสธเรื่องราวตามเนื้อหาในเพลงว่าไม่มีจริง
พิเชษฐ ตันตินามชัย นักประวัติศาสตร์ล้านนา เคยสัมภาษณ์น้องสาวแท้ๆ สองท่านของเจ้านางบัวนวล สิโรรส ได้แก่ เจ้านางแสงสว่าง และเจ้านางบุษบรรณ สิโรรส เมื่อสองทศวรรษก่อน เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่าจริงเท็จประการใด ได้คำตอบจากทั้งสองท่านว่า
“ย่าเคยได้ยินเจ้าพ่อ (เจ้าสุริยวงศ์คำตั๋น) พูดให้ย่าฟังว่า เจ้าหลวงมาสู่ขอพี่บัวนวลให้หมั้นกับเจ้าน้อยก่อนไปเรียนหนังสือที่เมืองพม่า จะปฏิเสธก็คงไม่งาม เพราะท่านเป็นถึงลูกชายเจ้าราชวงศ์ เมื่อกลับมาเชียงใหม่ เจ้าน้อยพาเมียมาด้วย พี่บัวนวลโกรธ และไปบอกให้เจ้าพ่อไปขอถอนหมั้น”
ถ้าเช่นนั้น เรื่องราวที่ถกเถียงกันมากว่าเจ้าน้อยศุขเกษมเคยมีคู่หมั้นและถูกถอนหมั้นเพราะมะเมียะ เป็นจริงละหรือ? ก็คงได้คำตอบ ณ ที่นี้แล้วว่า เป็นเรื่องจริง เนื่องจากผู้ยืนยันคือน้องสาวแท้ๆ ของผู้ขอถอนหมั้น
ต่อไปก็คือประเด็นชีวิตของเจ้าน้อยศุขเกษม ภายหลังจากที่มะเมียะถูกส่งตัวกลับไปแล้ว ได้สมรสกับสตรีที่ชื่อ “เจ้านางบัวชุม” นั้นมีความเป็นมาอย่างไร ....... ฯลฯ **** ปริศนาโบราณคดี : ‘มะเมียะ’ ยังมีตัวตนอยู่จริงไหม? เมื่อถอดเรื่องราวดราม่าออก (3) / เพ็ญสุภา สุขคตะ www.matichonweekly.com/column/article_400487
ฟังเสร็จ หลับตา แล้วลืมมันไปซะ (ลืมสิ่งที่คนอื่นเขียนให้เป็นเราแต่จงเขียนสิ่งที่เรากำลังเป็น) นั้นละคือความสุขของชีวิตมนุษย์
ต้องยึดถือตามที่ว่า "ในโลกมี2อย่าง ความจริง กับความเชื่อ และเราต้องเคารพทั้ง2อย่าง โดยเฉพาะความเชื่อที่เชื่อว่าจริง" แด่ตำนานความรัก เจ้าน้อยศุขเกษม ...
ค
อาจารย์หาข้อมูลครบหรือเปล่า เคยดูสารคดีเค้ายังเจอหลักฐานกัน
คนพม่าบ้างคนบอกว่ามีจริง
ทำไมบางคนยังเจอบ้านมะเมี๊ยะอยู่เลยคะ
ขอบคุณมากที่ จะ สัมฤทธิ์ ลือชัย สืบค้นมาเล่าสู่กันฟัง
ไม่มีตัวตนหรือไม่มีหลักฐานยืนยันตัวตน อาจจะมีตัวตน แต่นักประวัติหาไม่เจอ เลยสรุปว่าไม่มีตัวตน
มีตัวตนแต่รายละเอียดไม่เหมือนกัน เพราะเขาเขียนเป็นนวนิยาย ส่วนคนทำคลิปที่อ้างว่าไม่มีตัวตน เป็นคนโง่ ศึกษาไม่ลึกแล้วนำมาพูด
@@chawalitpetnamsin1320 คุณฉลาดกว่าเค้าอ่ะดิ
ก่อนหน้านี้ นักวิชาการท่านหนึ่งก็ออกมาบอกว่า นางนพมาศ ไม่มีจริง คราวนี้ ท่านนี้มาบอกอีกว่า มะเมียะ ไม่มีจริงอีก คือเรื่องราวในอดีตรคงจะหายไปๆ จนไม่เหลืออะไรเลย เลิกดูรายการนี้ตั้งแต่เห็นนักวิชาการอีกท่าน ความเอียง ความอคติ
ก็แค่ความรักในช่วงหนึ่งของชายหญิงคู่หนึ่ง สุดท้ายท่านก็มีคู่ครอง’ที่เป็นตัวเป็นตน’ของท่าน ไม่เห็นมีความสลักสำคัญไปมากกว่านั้น
ผมว่ามีจริงครับ
ผู้ชายล้านนาสมัยก่อน พม่าก่อมีวัฒนธรรมไว้ผมยาว โพกหัวนะครับ ลุง เอาคนๆเดียวมาตัดสินว่าประวัติศาสตร์เรื่องนั้นนี้ เป็นเรื่องจริงไม่จริงใช้ไม่ได้นะครับ
ผมมีความคิดที่แย้งกับอาจารย์ ถ้านึกในเรื่องการเมืองสมัยนั้นต้องการไม่ให้เกิดเรื่องวุ่นวายต้องการปิดข่าว ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ยิ่งไปหาที่มะละเหม่ง ยิ่งหาไม่เจอเนื่องจากถ้าบวชชีคงปลีกวิเวก ก็ยิ่งไม่มีตัวตนไปใหญ่
อาจารย์ตอนหนุ่มๆหน้าตาดีๆมากครับ
มีจริงเจ้า
The story is famous in Myanmar too !!
เพิ่งติดตามช่องครับ ชอบดูมาก..
เขาไม่ได้บอกตรงใหนว่าตัดผมสั้น เขาเขาคลุมผมแปลงเป็นชายรึปล่าว
อ๋อ คนเล่าอิงจากหนังสือมั้ง
เรื่องผมอาจจะแบบคุณว่าแต่มีหลักฐานอื่นมาลบล้าง สรุปคือเรื่องแต่งอยู่ดี
1ประเด็น เรื่องผมเป็นแค่ข้อคิดเห็นของอาจารย์
ในเชิงวิชาการคุณควรจะเก็บใส่กระเป๋าความรู้ ไม่ใช่มาจบผิดแต่ละประเด็น แล้วมาบอกว่ามันเป็นเรื่องจริง
@@ครัวคนง่าว ประเด็น เรื่อง ผมตัดสั้น ก็ มอง ได้ ว่า นักวิชาการ ตีความหมาย ต่างไป..และ ไม่มีน้ำหนักพอ.. จึง อาจ รวม ถึง มุมมอง ในประเด็น อื่น ที่ อาจ ตีความ หมาย คลาดเคลื่อน * เคย มีผู้ สัมภาษณ์ น้องสาว ของเจ้า นางนวล คู่หมั้น ของเจ้าน้อย ก่อนไปเรียน พม่า ..ถึง เหตุ ผล ที่ เจ้านางนวล ถอนหมั้น เจ้าน้อย ก็ เพราะ...เจ้าน้อย กลับ มาจากพม่า ..พาเมีย มาด้วย..ฉะนั้น มะเมี๊ยะ ย่อม มีตัวตน จริง.. มากกว่า เรื่อง แต่ง?( การปลอมเป็นชาย แค่ขมวดมวยผม แล้ว โผกผ้าไว้ ก็ไม่แปลก แต่ประการใด)
@@ครัวคนง่าว ใช่ค่ะ ถ้าอาจารย์ได้ศึกษาศาสตร์จริง ชายพม่าสมัยก่อนก็ไว้ผมยาวค่ะ
ฟังแล้วกลับมาฟังอีก ชีวิตหนึ่งถ้าได้เจอผู้หญิงแบบมะเมี้ยคนจะไม่เสียชาติก่อนแล้วสำหรับผู้ชายคนหนึ่ง
ไม่เจอ ไม่ได้แปลว่าไม่มี วิชาการจริงต้องพูดว่า ยังหาหลักฐานยืนยันไม่ได้ ไม่ใช่ไปฟันธงว่าไม่มี
ที่สำคัญ วิธีการให้เหตุผลของ อจ อาจจะแปลกๆนิดนึงตรงที่ ไปเอาเนื้อเพลงมาตัดสิน สยายผมลงเช็ดบาทบาทา บางทีคนเขียนเพลงเขาก็จินตนาการไปเรื่อยน่ะครับ
บอกว่าปลอมเป็นผู้ชายหนีตามมา ผู้ชายพม่าโบราณไม่ได้ตัดผมนะครับใช้ม้วนๆแล้วพันผ้าทับใว้ (สยายผมลงเช็ดบาทบาทา)ไม่ได้ปล่อยยาวให้คนทั่วไปเห็น
เจ้าน้อยอย่างหล่อครับ
เคยดูเรื่องราวนี้จากหนังพาไป พี่ยอดพี่บอลก็พาไปหาตำนานที่พม่าเช่นกันแต่ก็ไม่เจออะไรเลย
เหมือนผมเลย ตอนจบ เพลงเพราะมากๆ
@@สงครามไม่ได้ช่วยอะไร จริงค่ะ
พิเชษฐ ตันตินามชัย นักประวัติศาสตร์ล้านนา เคยสัมภาษณ์น้องสาวแท้ๆ สองท่านของเจ้านางบัวนวล สิโรรส ได้แก่ เจ้านางแสงสว่าง และเจ้านางบุษบรรณ สิโรรส เมื่อสองทศวรรษก่อน เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่าจริงเท็จประการใด ได้คำตอบจากทั้งสองท่านว่า
“ย่าเคยได้ยินเจ้าพ่อ (เจ้าสุริยวงศ์คำตั๋น) พูดให้ย่าฟังว่า เจ้าหลวงมาสู่ขอพี่บัวนวลให้หมั้นกับเจ้าน้อยก่อนไปเรียนหนังสือที่เมืองพม่า จะปฏิเสธก็คงไม่งาม เพราะท่านเป็นถึงลูกชายเจ้าราชวงศ์ เมื่อกลับมาเชียงใหม่ เจ้าน้อยพาเมียมาด้วย พี่บัวนวลโกรธ และไปบอกให้เจ้าพ่อไปขอถอนหมั้น”
ถ้าเช่นนั้น เรื่องราวที่ถกเถียงกันมากว่าเจ้าน้อยศุขเกษมเคยมีคู่หมั้นและถูกถอนหมั้นเพราะมะเมียะ เป็นจริงละหรือ? ก็คงได้คำตอบ ณ ที่นี้แล้วว่า เป็นเรื่องจริง เนื่องจากผู้ยืนยันคือน้องสาวแท้ๆ ของผู้ขอถอนหมั้น
ต่อไปก็คือประเด็นชีวิตของเจ้าน้อยศุขเกษม ภายหลังจากที่มะเมียะถูกส่งตัวกลับไปแล้ว ได้สมรสกับสตรีที่ชื่อ “เจ้านางบัวชุม” นั้นมีความเป็นมาอย่างไร ....... ฯลฯ **** ปริศนาโบราณคดี : ‘มะเมียะ’ ยังมีตัวตนอยู่จริงไหม? เมื่อถอดเรื่องราวดราม่าออก (3) / เพ็ญสุภา สุขคตะ www.matichonweekly.com/column/article_400487
ไม่เจอไม่ได้หมายถึงไม่มีว่าไหม
รักแท้มีอยู่จริง
อย่าเชื่อที่เป็นอาจารย์
เราเชื่อผู้เฒ่าเล่าต่อมากกว่า
เอกสารบ่างอย่างไม่มีหรอก
เรื่องแบบนี้มันเกี่ยวกับรักต้องห้าม
ตัวอย่างเช่น เมื่อหลายสิบปีก่อนคนไปเรียนเมีองนอกไปเอาเมียฝั่งทางบ้านก็จะไม่ค่อยพอใจ แล้วเรื่องมะเมี๊ยะก็ทำนองเดียวกัน จะให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ เป็นผมคงไม่บันทึกไว้หรอกครับ
ใช่ครับถ้ามะเมี๊ยะเป็นเจ้าหญิงทางพม่าก็จะมีหลักฐานว่าไหม
ชอบ อจ มากครับ
ความจริงประเทศนี้มีอะไรเป็นความจริงบ้าง นักวิชาการอิสระย่อมรู้ดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมืองนี้มันคือปรสิตที่เกาะกินความเป็นจริงทั้งสิ้น
สนุกครับติดตามตลอด
อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับท่านอาจารย์
1.เรื่องการเมือง
-ส่วนกลางสยามไม่ปลื้มแน่ที่ลูกอุปราชเชียงใหม่ ไปเรียนพม่า แล้วดันเอาสาวพม่ามาเป็นเมียอีก คนที่เดือดร้อนคือพ่อแม่ของเจ้าน้อย ถ้าเกิดเผลอไปมีลูกมีเต้าด้วยกันอีกจะยุ่งไปใหญ่ อาจสั่นคลอนไปถึงยศถาบรรดาศักดิ์, หน้าที่การงานเอาได้ จึงต้องรีบส่งตัวมะเมี๊ยะกลับด่วน
เพราะล้าานาแต่นมนานเป็นพันธมิตรพม่ามาตลอด พูดง่ายๆอนาคตสยามกลัวล้านนาร่วมพม่าประกาศอิสระภาพ เหมือนช่วงนั้นจะเป็นช่วงคาปเกี้ยวเรื่องกบฏเงี้ยวอีก
ขนาดเจ้าดารารัศมี พ่อท่านเสีย ทางกษัตริย์สยามยังไม่ยอมให้มาเผ่าศพพ่อท่านเลยคับ เหตุเพราะกลัวเจ้าทางเหนือถือโอกาสนี้รวมตัวกันแข็งข้อ โดยเริ่มจากจับเจ้าดารารัศมีเป็นตัวประกันก่อน..
(2.ไม่ให้เอิกเกริกมากนัก
เจ้าแก้วนวรัตน์จึงมิให้เจ้าน้อยออกตัวให้เด่นมากนักยามอยู่ม่ะล่ะแมง อาจจะด้วยเรื่องการเมืองที่กล่าวข้างต้น
อีกทั้งเรื่องส่วนตัวของเจ้าน้อยเอง ก็มิควรแพ่งพาย ประมาณเรื่องของเราถ้าจะให้ดีให้เงียบที่สุด จึงไม่น่าแปลกที่จะไม่เป็นทอกค์ออฟเดอะทาวน์ ณ ที่แห่งนั้น ยิ่งมะเมี้ยเองก็เป็นลูกแม่ค้าขายบุรี คงไม่ใช่คนเด่นคนดังอะไรที่ชาวบ้านจะรู้จักทุกคน หรือ ชื่อของมะเมี้ยะที่เราเรียกกันที่พม่าเขาอาจไม่ชื่อมะเมี๊ยะก็ได้)
-ส่วนเรื่อง เอาผมเช็ดบาทาอะไรนั่น เขาอาจจะแค่ก้มกราบเท้าลาสามี ก็ได้
แต่เพื่อนอรรถรถของนักประพันธ์ที่ต้องเอาเรื่องจริงมาแต่งเป็นเพลง ก็คงจะใส่ไข่ใส่นมบ้างเป็นธรรมดา เพื่อให้ถ่ายทอดออกมาให้สมกับเป็นเพลงรักสุดซึ้ง จนลืมคิดไปว่าเออตอนแรกกูเขียนว่าตัดผมสั้น แค่สองเดือนเอาผมเช็ดบาทาซะละ แต่ในแง่ของคนฟังท่อนนี้คือดีที่สสุด
3.อันนี้ น่าจะตามรอยได้ง่ายกว่าห่อไปถึงพม่านะคับ
ได้ข่าวว่าหลังจากมะเมี๊ยะกลับไป
เจ้าน้อยแต่งงานใหม่ เมาเหล้า จิตใจห่อเหี่ยว ล่ะเมอเพ้อถึงแต่มะเมี๊ยะจนตาย
แต่ในความเป็นจริง หลังจากที่ท่านแยกทางกับมะเมี๊ยะและกินเหล้าเป็นจริงๆจังๆ
เป็นเวลากว่า10กว่าปีนิดๆมั้งผมจำไม่ได้
กว่าที่ท่านจะตาย
อย่างน้อย เมีย, ลูก, เพื่อน, ญาติ, พี่น้อง, และคนรอบข้าง คงรับรู้ไม่มากก็น้อยถถึงผลกระทบที่ท่านเป็นแบบนี้เพราะอะไรและเพราะใคร
หากท่านตรอมใจจนตายเพราะคิดถึงมะเมี๊ยะก็แสดงว่ามะเมี๊ยะมีอยู่จริง
เพื่อนเรายุ่เชียงใหม่แถวอ.แม่ริมบอกเป็นเรื่องจริงเรื่องเล่าสืบต่อมาจากทวดเพียงแต่เธอไม่ได้เป็นที่สนใจในสมัยนั้นและก้อไม่มีใครอยาก
กล่าวถึงและคงไม่ได้ชื่อมะเมี๊ยะๆคือคำใช้เรียกสาวพม่า
เจ้าน้อยรูปงามมาก #ปล่อยให้เป็นตำนานรักต่อไปเถอะค่ะ ถ้ามันไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายกับใคร
เราก็ชอบมากๆเรื่องในตำนาน จริงหรือไม่
เราก็ชอบแบบฝังจิต ฝังใจอย่างมากๆ
ผมอยู่มะละแม่งครับ แลกเปลี่ยนข้อมูลได้ครับ (ข้อมูลเหมือนมติชนครับ)
ปริศนาโบราณคดี : ‘มะเมียะ’ ยังมีตัวตนอยู่จริงไหม? เมื่อถอดเรื่องราวดราม่าออก (3) / เพ็ญสุภา สุขคตะ www.matichonweekly.com/column/article_400487
เจอ หญิงพม่า เป็็นเพื่อนร่วมงานกัน เขาเล่าจากผู้ใหญ่ ให้ฟังว่า มีผู้หญิงพม่า รักกับชายไทย ซึ่งเป็นคนมีหน้ามีตา ความรักถูกกีดกั้นจนต้องใด้ย้ายกลับพม่า นางเสียใจมาก นางมีลูกสาว ซึ่งคลอดต่อมา นางย้ายจากเมืองที่นางเคยอยู่ ไปที่อื่น เด็กสาวที่เกิดมา คนพม่าเรียกว่า "เจ้าหญิง" มีชื่อเรียกด้วย แต่เราจำไม่ใด้แล้วว่าชื่ออะไร เจ้าหญิงอะไร
กลับไปถามเพื่อนใหม่อีกครั้งสิคะ
@@แสงสุรีปลื้มใจ มันไม่ง่ายยังนั่นครับ พม่าอ่ะถ้าย้ายที่อยู่ไปจากเดิม จะตามหาได้ยากมากๆครับ ต่อให้เป็นญาติเราก็เถอะ ถึงจะไปถามเพื่อนเขาอีกรอบเขาก็ไม่รู้จริงๆหรอกว่าย้ายไปไหนและเรื่องราวมันเป็นยังไง อีกอย่างพม่าไม่ค่อยบันทึกเรื่องราวอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ต่อให้เป็นอาจารย์เก่งแค่ไหนก็ไปหาหลักฐานไม่เจอหรอกครับ .ผมคนพม่าเกิดเมืองนั้นเลย
@@Nida062 หรอคะ พม่าพิมพ์ไทยเก่งจังวู้วววว
@@Yadaary. မင်းယုံနိုင်မယ်လို့ ငါမထင်ထားဘူး ဒါမဲ့တခုတော့ပြောချင်တယ် မင်းမေစပလိုးချင်တယ် မင်းေမသိစေချင်တယ်ကွာ
เจ้าชายไทย หล่อมากกก
แต่ที่แน่ๆเจ้าศุขเกษมหล่อมากคะ
และการติดชื่อหน้ากู่อัฐิก็เช่นเดียวกันถ้าเราทำเพื่อบ้านเมืองเป็นสุขเราก็สามารถเอาชื่อใครมาสวมแทนก็ได้ แต่การบอกกล่าวของผู้ที่อยู่ในเหตุการนั้นย่อมไม่โกหกเพราะเรื่องการเมืองมันจางหาย ความจริงก็ย่อมปรากฎขึ้นมาอย่างชัดเจนเพราะอะไรนั่นหรือเพราะเป็นการให้เกียรติความรักของท่านทั้งสองว่าเป็นสิ่งที่น่ายินดีแต่ด้วยการเมืองจึงทำให้ต้องแยกจากกัน
การที่คนเราจะสรุปหรือคัดค้านเราต้องอิงสาเหตุของในแต่ละยุคและการเรียกเผ่าพันธุ์ของแต่ละประเทศด้วยอย่าแต่หักล้างประวัติศาสตร์จนทำให้คนรุ่นหลังลังเล มันจะทำให้ อ.เอง ที่ใครจะไม่เชื่ออีกต่อไปเพราะการเดาสุ่ม
ผมอยู่เชียงใหม่...สาวพม่าหลายคนสวยคมมากคับ....
"มะเมี่ยะ" อาจจะไม่มีตัวตนอยู่จริง แต่สาวพม่าที่เจ้าชายสุขเกษมไปตกหลุมรักมีอยู่จริง เหมือนหนุ่มสาววัยรุ่นที่ไปปิ้งกับผู้หญิงสวยๆ ตอนนั้นเจ้าชายอายุแค่ 19ปี เรื่องราาวอาจจะมีเค้าโครงจริงจากชีวิตจริง ที่หนุ่มๆวัยรุ่นทุกคนเคยเป็น ที่เวลาไปร่ำเรียนที่ไหนนานๆ แล้วเจอผู้หญิงสวยๆที่ถูกใจก็จะจีบกัน แต่ที่คนเอามาเขียนเขาอาจจะใส่เพิ่มเติมเรื่องราวให้น่าติดตามประกอบกับเพิ่มสถานที่จริงซึ่งอาจจะหาหลักฐานและข้อพิสุจน์อะไรไม่ได้ แต่เชื่อแน่นอนว่าเจ้าชายสุขเกษมน่าตาดี รูปหล่อแน่นอน ดูจากรูปและหลักฐานที่เราเห็นจากภาพขาวดำ แม้จะเป็นภาพเก่าๆโบราณๆ แต่สมัยนั้นถ้าหน้าตาแบบนั้น ถือว่าหล่อมาก ประกอบกับเจ้าชายสุขเกษม เป็นลูกคนร่ำรวย เป็นคนชั้นสูง มียศศักดิ์ จะเลือกผุ้หญิงกี่คนก็ได้ ถ้าเปรียบเทียบในสมัยนี้ก็ถือว่าเจ้าชายสุขเกษมมีครบทุกอย่าง ทั้งหน้าตาดี ร่ำรวย มียศศักดิ์ ลูกคนมียศศักดิ์ แน่นอนว่าก็ต้องมีผู้หญิงมาชอบเยอะ เจ้าชายสุขเกษมต้องเลือกได้ และมะเมี๊ยะ อาจะเป็นผู้หญิงพม่า หนึ่งในผู้หญิงที่เจ้าชายจีบๆ และไม่แน่อาจจะแอบอยู่กินกันฉันสามีภรรยาในเมืองพม่า ( น้ำตาลใกล้มด มันจะเหลือเหรอ ) ซึงระยะเวลาเรียนที่พม่า5ปี เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าชายจะไม่มีเรื่องผู้หญิงเลย หน้าดี หล่อเหล่า รวย มีเงิน มีครบทุกอย่างขนาดนั้น เป็นไม่ได้แน่นอนที่เจ้าชายจะไม่มีเรื่องผู้หญิงเลย เรื่องต้องมีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง แต่อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด เชื่อว่าเรื่องราวของเจ้าชายสุขเกษมกับผู้หญิงพม่ามีจริงแน่นอน แต่ผู้หญิงคนนั้นอาจจะไม่ได้ชื่อ"มะเมี๊ยะ" เป็นไปไม่ได้ว่าเจ้าชายไม่ได้มีผู้หญิงเลย หน้าตาดีและรวยขนาดนั้น สรุป คุณค้นคว้าไม่ตรงประเด็นแล้วมาสรุปเอาเอง.
ในฐานะผมเป็นคน หม้อละแม็ง ผมถูกใจกับ comment นี้ครับ
ใช่ครับ หน้าตาแบบนั้น ในสมัยนั้นถือว่าหล่อมาก
ขนาดผ่านมาร้อยกว่าปีเรายังหลงความหล่อของเจ้าน้อยเลยค่ะ
ค
สมมุติฐานนี้น่าสนใจ รักของวัยรุ่นช่างน่าหลงไหล
เป็นนิยาย เพื่อความบันเทิง ..เข้าใจได้
เจ้าหน้อยศุขเกษม หล่อมากกกกกกกก
ฟังหูไว้หู ถ้าให้เดาอาจเป็นแฟนกันตอนไปเรียน ที่เหลือแต่งเพื่อความบันเทิง
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงครับ และเชื่ออีกว่าเป็นเรื่องจริง และเรื่องจริงเรื่องนี้ มันตั้งร้อยปีไปแล้ว หลักฐานบางอย่างลบเลือนและหายไปตามกาลเวลา...มะเมี๊ยะ เป็นแค่ ญ สาวเล็ก ไม่มีความสำคัญอะไร และเธอ ก้อไม่ได้ชื่อว่า มะเมี๊ยะ เธอมีชื่ออื่น แต่ เธอ ไปบวชชี ปกปิดและลืมเลือนเรื่องเก่าๆ มีแต่ เรื่องราวของเจ้าน้อยเท่านั้นและเจ้าน้อยและพระญาติสนิทเท่านั้นที่รู้เรื่องราว....และช่วยกันปิดเพื่อไม่ให้มีมลทินต่อกัน จบครับ...ใครเชื่อก้อเชื่อไป ใครไม่เชื่อก้อไม่ต้องไปปวดหัวครับ เรื่องมันเป็นอดีตไปแล้ว จดจำแต่เรื่องราวดีๆและนำมาสอนตัวสอนใจเราก้อพอนะครับ อย่าซีเรียส555
"ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ใจขื่นขม ระทมชั่วนิรันดร์"
จากเรื่องกระบี่วงพระจันทร์ หรือเดชไอ้ด้วน คำนี้คุ้นๆ
ตือโป๊ยก่าย ชอบพูด
มาได้ถูกวันพอดี วันแห่งความรัก (ที่แต่งขึ้น)
เขาว่าแต่งขึ้น เราเลยเชื่อตามเขา ว่า แต่งจริงๆ
บ้าไปแล้วมั้ง
ทำไมไม่ฟังหูไว้หู เอามาเป็นข้อมูลไว้ก่อน
กราบขออภัยนะคะ
อาจารย์ท่านนี้เหมือนเล่าด้วยอคติ
เทปพระนเรศวรกับเวียงแหง ก็ด้วย
แต่ก็ขอบพระคุณสาระข้อมูลดีๆค่ะ
บอกเลยว่าทุกคลิปครับ เหมือนแกพยายามพูดให้คนอื่นเชื่อในแบบที่แกเชื่อมากกว่าพูดโดยวิเคราะห์จากหลักฐานทางประวัติศาตร์ ผมเห็นมาหลายคลิปแล้วล่ะสรุปดูไม่จบเลยสักคลิปเพราะดูแล้วเหมือนแกจะเพ้อเจ้ออะไรของแกก็ไม่รู้ไปคนเดียว
ปล.ลุงคนนี้ไม่ใช่อาจารย์ครับแกเป็นเพียงแค่นักวิชาการอิสระ
ชอบรายการปวศ นอกตำรามากๆ และรายการตอนนี้ทำให้เราอยากไปเมืองมะละแหม่งมากๆ
ข้อยบ่เชื่อเจ้าดอก ขอยว่าเพิ่นมีตัวตนอีหลี และเป็นเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้น ปล่อยให้เป็นเรื่องอมตะของชาวเหนือเต๊อะ จะหักล้างไปยะหยัง
เจ้าน้อยกับมะเมี๊ยะ(สาวพม่า) มีจริง การเมืองในช่วงนี้ หัวเมืองฝ่ายเหนือมีกำลังเข้มแข็ง พร้อมจะแข็งเมืองได้ทุกเมื่อหากขอกำลังอังกฤษในพม่าช่วย สยามก็ซวย มองได้อีกอย่าง เจ้าน้อยกับมะเมี๊ยะไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นการจัดฉากจากสายลับสยาม เพื่อความชอบธรรมในการกระชับอำนาจ และเมื่อเจ้าน้อยตาย บัลลังค์ฝ่ายเหนือก็สั่นคลอนและนำมาซึ่งการครอบครองเชียงใหม่อย่างเบร็จเส็จเด็ดขาดของสยามในกาลต่อมา
ดูในวันวาเลนไทน์ ถูกวันถูกเวลามาก
น่าจะจัดเวทีถกกับฝ่ายสนับสนุน
โชว์หลักฐานกันทั้งสองฝ่าย
น่าจะดีนะครับ
ปริศนาโบราณคดี : ‘มะเมียะ’ ยังมีตัวตนอยู่จริงไหม? เมื่อถอดเรื่องราวดราม่าออก (3) / เพ็ญสุภา สุขคตะ www.matichonweekly.com/column/article_400487
ชัดเจนครับ เหมือนโกโบริ
ชอบรายการนี้มาก มีสาระและประโยชน์ ขอติดตามนะครับ😘
ผมเป็นFCจารย์เลยครับ อี้ก้าาา เมาะขนาด
มะเมี้ยะ ชื่ินี้มีคำแปลมั้ยคะ ?