ฟังด้วยดี ย่อมมีปัญญา ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง สนทนากับ อ.สุจินต์_บ้านธัมมะ
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 6 มี.ค. 2021
- ดร.เจิมศักดิ์ : ผมมีความรู้สึกว่า แนวทางของท่านอาจารย์สุจินต์ก็ดี ท่านอาจารย์จรัญ และอาจารย์คำปั่น ที่บอกว่า ได้เรียนจากท่านอาจารย์สุจินต์มาเยอะ ฟังแล้ว เหมือนกับเน้นที่ศรัทธาในพระพุทธเจ้า
จะอธิบายอย่างไร เมื่อพระพุทธเจ้าบอกว่าให้เน้นที่ปัญญา เน้นที่ความจริง อย่าเน้นที่ศรัทธา หรือต้องผสมผสานระหว่างศรัทธากับปัญญา สติ อย่างไร จึงจะได้ความจริงตรงนี้
ท่านอาจารย์ :: ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ลึกซึ้ง อย่างที่กล่าวไว้ เปลี่ยนไม่ได้เลย ถ้าไม่ศึกษาโดยละเอียด ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง จะเข้าใจผิด เพราะฉะนั้น ก่อนนั้น ดิฉันก็ไม่ได้รู้จักคุณจรัญเลย และคุณจรัญก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ฟังธรรมะ ไม่เข้าใจ แล้วก็นับถือ เป็นไปไม่ได้เลย ใช่ไหม?
เพราะฉะนั้น ที่กล่าวว่า ใครนับถือดิฉัน หมายความว่า เขาได้เข้าใจคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว เพราะฉะนั้น เคารพใคร? ทุกคนก็จะต้องเคารพในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่พึ่งที่แท้จริงในชีวิต ไม่ใช่พึ่งเพื่อที่จะได้ลาภ ได้ยศ หายเจ็บป่วย อะไรต่างๆ แต่ได้มีโอกาสได้รู้ความจริงเดี๋ยวนี้ ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนเลย ในสังสารวัฏฏ์ มิฉะนั้น จะเคารพทำไม ไม่ว่าเราเคารพใคร เราเคารพในคุณความดี
เพราะฉะนั้น พุทธบริษัททุกคน ฟังธรรมะ เมื่อเข้าใจแล้ว จึงเริ่มเห็นคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยิ่งเข้าใจมากเท่าไหร่ ยิ่งเคารพมากเท่านั้น เพราะฉะนั้น เคารพสูงสุดคือพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ว่าบุคคลที่ได้ศึกษา แล้วก็สามารถที่จะทำให้คนอื่นได้เข้าใจถูกในแต่ละคำ ซึ่งไม่เคยเข้าใจมาก่อนเลย
ดร.เจิมศักดิ์ : ขออนุญาตแทรกตรงนี้นิดหนึ่ง ท่านอาจารย์สุจินต์ ดูจะเน้นที่จะต้องเคารพในคำของพระพุทธเจ้า ศรัทธาในพระพุทธเจ้า เป็นหลัก
ท่านอาจารย์ : ยังค่ะ ยังไม่รู้จักว่าศรัทธาคืออะไร?
ดร.เจิมศักดิ์ : เอาตามที่ผมเข้าใจก่อน เท่าที่ผมเข้าใจพุทธศาสนา ท่านเน้นว่า อย่าเชื่อเพราะเราเป็นคนบอก แต่ให้เชื่อ เพราะในหลักการ ในเหตุผล ในสิ่งที่เป็นไป อย่าเชื่อเพราะใคร แต่ฟังแล้ว ท่านอาจารย์สุจินต์จะเน้นที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ถูกต้องแล้ว ชัดแล้ว ร้อยเปอร์เซนต์ เท่าที่ผมฟัง ท่านไม่ได้ใช้คำนี้ แต่ผมฟังเหมือนกับว่าต้องเชื่อ ต้องศรัทธาก่อน แล้วจึงจะตามมาที่อย่างอื่น ถ้าผมรู้สึกว่า เอ๊ะ จะเข้าใจอย่างไรดี? ท่านอาจารย์จะอธิบายอย่างไร?
ท่านอาจารย์ : จริงๆ แล้ว ศรัทธาต้องเป็นสิ่งที่ดีงาม ไม่ใช่ไปศรัทธาใน นก หนู ปู ปลา
ดร.เจิมศักดิ์ : แล้วเราจะรู้ว่าศรัทธาอ้นไหนดี ไม่ดี เพราะเราเริ่มศรัทธาเสียก่อน เพราะศาสนาอื่นก็เน้นให้ศรัทธาในพระเจ้า ศรัทธาในอะไรต่อมิอะไร แต่พระพุทธองค์กลับบอกว่า อย่าเพิ่งเพราะใครบอก แต่ต้องใคร่ครวญ ไตร่ตรอง
ท่านอาจารย์ : นี่คือความต่างกัน ของพระพุทธศาสนา คือศาสนาอื่นให้มีศรัทธาก่อน แต่ความจริง ศรัทธาจะต้องเป็นธรรมะฝ่ายดีงาม ขณะนั้นจิตต้องผ่องใส ไม่มีโลภ ไม่มีโกรธ และไม่มีความหลงด้วย เพราะได้ฟังคำที่พิจารณาแล้ว ถูกไหม จริงไหม ไม่ใช่พอฟังแล้วเชื่อ แล้วนับถือคนนั้นเลย แต่ คำนั้นถูกต้องหรือเปล่า? จริงหรือเปล่า? ถ้าไม่จริง ไม่ต้องเชื่อเลย และจริงนี้ เขารู้เอง เป็นคำของเขา หรือว่าเพราะได้ศึกษาธรรมะแล้ว จะกล่าวว่ารู้เองได้หรือ?
ด้วยเหตุนี้ ถ้าเป็นผู้ที่เป็นพุทธศาสนิกชน บอกว่า พุทธะ ต้องนับถือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสูงสุด แต่ไม่ใช่โดยไม่เข้าใจอะไรเลยแล้วบอกว่านับถือ อย่างนั้นไม่ถูกต้องเลย ต้องเป็นความถูกต้องว่า เราจะนับถือใคร นับถือคุณความดีของบุคคลนั้น ไม่ใช่หรือ?
เพราะฉะนั้น เราก็เป็นผู้ตรง และเราได้เข้าใจธรรมะ เพราะพระองค์ได้ทรงตรัสรู้ความจริง ทรงแสดงความจริง ดิฉันไม่ได้คิดเองเลย แต่คำจริงทุกคำ ไม่ว่าศรัทธาคืออะไร ปัญญาคืออะไร อธิปไตยคืออะไร ธรรมะคืออะไร ทุกอย่าง พระองค์ได้ทรงแสดงไว้แล้ว ๔๕ พรรษา
แต่เมื่อไม่มีใครสนใจที่จะศึกษาให้ละเอียด ให้เข้าใจจริงๆ ก็เชื่อ แต่เชื่อผิดหรือเปล่า? เพราะไม่ได้คิดไตร่ตรอง จะถูกไหม? อย่างสำนักปฏิบัติ หรือ ปฏิบัติคืออะไร? ยังไม่รู้เลยก็ไปแล้ว อย่างนั้นควรเชื่อไหม? ไม่รู้เลยก็ไป ควร ไม่ควร? เห็นไหม? เพราะพระองค์ตรัสแล้วว่า ไม่ใช่เชื่อตามๆ กัน แต่ต้องเข้าใจ แล้วก็เห็นถูกต้อง และรู้ด้วยว่า คนนั้นไม่ได้พูดเอง ไม่ได้มีปัญญาที่จะไปพูดเองได้
เพราะฉะนั้น ทั้งหมดนี้ ทุกคนเคารพในพระธรรม เพราะได้เข้าใจ และที่ว่านับถือดิฉัน ก็เพราะเหตุว่า ดิฉันเป็นคนที่พูดคำ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว ทุกคำ ไม่ใช่คำของดิฉันเลย
บันทึกการสนทนาบางตอน ระหว่างท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ประธานกรรมการมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา กับ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ประธานกรรมการนโยบายไทยพีบีเอส นายชัยรัตน์ แสงอรุณ กรรมการนโยบายไทยพีบีเอส นายจรัญ ภักดีธนากุล กรรมการมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา และ อ.คำปั่น อักษรวิลัย ปธ.๙ วิทยากรมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา เมื่อวันอังคารที่ ๑๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๓
ติดตามความการสนทนาฉบับเต็มได้ที่ลิค์นี้ : • ดร.เจิมศักดิ์สนทนาธรรม... - ภาพยนตร์และแอนิเมชัน
อ.สุจินต์ท่านแสดงความหมายของคำแต่ละคำ ด้วยเหตุและผล ตามความจริงให้ผู้ฟังได้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง กราบอนุโมทนาค่ะ
สาธุค่ะ @Indy Person ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้น หากผู้ใดรู้แล้วรู้เลยตลอดไป หากไม่รู้ก็จะไม่รู้อยู่นั่นแล สาธุ สาธุ สาธุ
@@user-dp5ss9pn1v ครุธรรมแปดประการสำหรับภิกษุณีจริงอยู่..แต่อุบาสกอุบาสิกาพระพุทธองค์ทรงฝากพระศาสนาไว้..ทำอย่างคุณพูดคงจะหาพระที่กราบได้อย่างสนิทใจยากเต็มที..อลัชชี เดียรถีย์นอกศาสนาคงหากินกันอย่างสบายใจ..ถ้ายึดคติชั่วช่างชีดีช่างสงฆ์
ความจริงแท้ๆคือง่ายๆ ไฟมันต้องร้อน นำ้แข็งมันต้องเย็น ดวงอาทิตย์ต้องร้อนและสว่าง มนุษย์ถ้าไม่หายเรียกว่าตาย.?จบ
สติ สมาธิ ปัญญา คืออะไร เกิดจากไหน............
อวิชชาคืออะไร มาจากไหน............
กิเลสคืออะไร................
ตัสรู้ คืออะไร เกิดได้ยังไง..................
มนุษย์ทุกคนสามารถตัสรู้ได้ไหม..............แล้วต้องทำยังไง..................?
เขาพูดเรื่องไปพูดอีกเรื่องนางอวดมากๆ
ธรรมมะ คือธรรมชาติเป็นคำกว้างๆ ที่เเท้จริงธรรมมะคือธรรมชาติที่มีสภาวะลักษณะเฉพาะๆของตน เช่นการเห็นก้เป็นลักษณะหนึ่ง การได้ยินก็เป็นอีกลักษณะหนึ่ง
ท่านอาจารย์จรัลและอาจารย์เจิมศักดิ์พูดและอธิบายความได้ชัดเจนพูดเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ส่วนอาจารย์สุจินต์มักพูดดูเป็นเรื่องยากและชอบพูดในลักษณะอธิบายธรรม ยกย่องธรรมของพระพุทธเจ้าไป ตั้งคำถามไป ฟังแล้วไม่ลื่นไหลเข้าใจยาก น่าจะอธิบายจากเรื่องยากให้เข้าใจง่ายหน่อยก็จะดีกว่านี้
ฉันฟังธรรมะท่านพุทธทาสตั้งแตหกเจ็ดขวบฟังทุกปีจนเป็นสาวตอนี้ก็ฟังทางยูทปและฟังเกือบทุกรูปที่ยูทูปส่งมาฟังมาสิบปีแล้วฉันมึนคําสอนอ.สุจินต์ที่สุด
โอ้โมทนาสาธุคุณ..B.To..ที่คุณฟังธรรมมาตั้งแต่อายุ6/7ขวบ..ไม่ธรรมดาบุญมาต่อในชาตินี้และยิ่งฟังของหลวงพ่อพุทธทาสนี่ยิ่งสุดยอดหลวงพ่อทุกรูปนี่สุดยอดในการที่เราได้มีบุญได้ฟัง.แต่พ่อพุทธทาสนี่..ท่านใช้ภาษาคำที่อัจฉริยะมาก..หลวงพ่อชาท่านใช้คำที่ง่ายมากเข้าใจได้ง่ายสำหรับคนชาวบ้านอย่างดิฉัน.และนึกไม่ถึงกับคำของท่านที่สอนสิ่งนั้นๆอยู่กับเรา.ไม่ต้องใช้คำอะไรที่ยากเลย.แต่หลวงพ่อทุกรูปก็สอนธรรมไปที่จุดเดียวกันคือแม่น้ำทุกสายมันก็ไหลลงไปในมหาสมุทรเหมือนกันหมด..ดีใจได้พบคนที่ฟังธรรมตั้งแต่เด็ก.สาธุค่ะ
อ.พุทธทาส แสดงธรรมไม่ต้องการโชว์อ้อฟ ไม่ต้องการข่มใคร ไม่ต้องการเอาชนะใคร และไม่มีวัตถุประสงค์อื่นใดแอบแฝง เจ้าเล่.
แต่พูดคุย หรือสอนให้ผู้คนเข้าใจ เข้าถึง และรู้จักธรรมะอย่างถูกต้องและไม่ซับซ้อน ยอกย้อน วกวน เข้าใจตรงประเด็น ตามพุทธประสงค์อย่างแท้จริง พร้อมกับการให้ผู้คนนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ตนเองและสังคม.
อาจารย์สุจินต์ควรอธิบายเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ไม่ใช่พูดแต่คำธรรมะลึกๆไปสรรเสริญพระพุทธเจ้าไปตั้งคำถามไป ฟังแล้วจับใจความไม่ชัดเจนเลย
ฟังแล้วจับใจความไม่ได้หรือไม่ตั้งสติในการฟัง.เมื่อสติไม่เกิดความเข้าใจในการฟังไม่มี.ย่อมไม่เข้าใจ.จึงหลุดไปพลาดไปในจุดที่สำคัญที่สุดคือธรรมะแปลว่าอะไร.แต่สติไปเกิดตอนช่วงสรรเสริญพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.นี่คือปัญหาของการฟังไม่ดี.
กราบอนุโมทนาครับ
ธรรมะ ความจริงของทุกสรรพสิ่ง ฟังตัังนานอยากรู้จริง แต่ไม่เลย
ผมชอบท่านพุทธทาสสอน..สนุกดีครับ
อ.จรัลฯพูดดี ลึกซึ้ง บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น
ใคร ? ที่ฟัง ท่าน อ.สุตินต์ ต้อง ตั้งใจ(เปิดใจ รับความจริง ในสิ่งื่ ไม่เคยรู้ ไม่เคยได้ยิน)ค่อยๆฟัง ดเวยความเคารพใน พระธรรม(ซึ่งยากมากๆๆ) ฟัง พิจารณา ไตร่ตรอง พระธรรม. มี คำตอบชัดเจน เสมอ ต้องฟัง ซ้ำแล้ว ซ้ำๆๆๆ เมื่อเข้าใจขึ้นบ้าง ฟังบ่อยๆๆ จะรู้ซึ้งถึงพระปัญญาคุณ ของำระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้
สอนแบบนี้ครับถ้าห่มเหลืองผมว่าเป็นพระอรหันต์แล้วหละครับ อธิบายได้ละเอียดมากๆ สงบราบเรียบหาที่ไหนไม่ได้แล้วครับ สอนได้ลึกซึ้งมากครัยหาข้อโต้แย้งยากครับ
พระอรหันต์จริงๆท่านไม่มัวมาพูดหรอก ท่านให้ขึ้นกรรมมัฏฐานและปฏิบัติเลย จะพูดหรือวิเคราะห์ ยังไง ชาตินี้ก็บรรลุธรรมเป็น โสดาบันไม่ได้ ทางพ้นทุกข์และไปนิพพานมีทางเดียว คือ ปฏิบัติวิปัสสนากรรมมัฏฐาน ให้เป็นโสดาบันขั้นแรกให้ได้ก่อน จึงจะเข้าใกล้นิพพานได้ นี้แหละคำของพระพุทธศาสนาของจริง
คำถามดีมากครับ
อ.จรัญพูดเข้าใจง่าย
ขอบคุณ.อ. จรัลอธิบายและเปรียบเทียบให้ใด้รู้และเห็นภาพใด้ชัด, เข้าใจง่ายค่ะ ส่ธุๆๆ
บางคนก็ฟังไม่รู้เรื่อง บางคนก็ฟังรู้เรื่อง ก็เป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ ต่อยอดปัญญาที่แท้จริง ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรม ถูกต้องแล้ว ทั้งจักรวาลสากลละโลก สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ คืออนัตตา ถ้ารู้จริงๆไม่มีเรา ความจริงคือสิ่งสมมุติ
ใช่ค่ะ ฟังท่านไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ฟังท่านพุทธทาส เข้าใจค่ะ กราบสาธุ
ดิฉันฟังคลิป นี้ที่คุณเจิมศักดิ์ สนทนาธรรม สามรอบนี้แล้วค่ะ ยิ่งฟังทีละคำๆ ที่อาจารย์สุจินต์อธิบาย ก็ยิ่งเกิดปัญญาผุดขึ้นๆมาอย่างมากมาย อนุโมทนาจริงๆค่ะ
เมื่อรู้จักความจริงแบบอ.สุจินต์ก็จะเกิดปัญญา / ความทุกข์ไหนๆก็เป็นเรื่องเล็กๆ
ยินดีในบุญด้วยคะ
ยอกย้อนดีแท้..เขาถามความคิดเห็น ว่า อ.พุทธทาสบอก ธรรมะ คือธรรมชาติ ท่านคิดเห็นว่าอย่างไร? แกก็ยังแถไปอีกจนได้ ว่ายังไม่รู้ธรรมะ.หรือเขาบอกประชาธิปไตย.แกก็ดันถามอีกว่าคนเดียวหรือหลายคน.ก็เขาบอกอยู่ว่า ประชาธิปไตย!ไม่ใช่อัตตาธิปไตย.
การไปสำนักเขาไม่รู้จึงไปเพี่อฟังเมื่อฟังแล้วก็ปฏิบัติเพื่อให้รู้ด้วยตัวเองคือเรียนทฤษฎีแล้วก็ลงมือทำส่วนจะสอนผิดหรือถูกก็ไปฟังหลายๆที่แล้วก็คิดตามแต่ตอนนี้ผมก็ฟัฃอาจารย์สุจินต์และท่านอื่นๆในบ้านธรรมะอยู่ครับแต่เวลาผมฟังการพาดพิงถึงสำนักอื่นแล้วผมนู้สึกว่าต้องเกิดข้อพิภาษตามมาผมไม่ต้องการให้อาจารย์ผู้สอนธรรมะมาทะเลาะกันครับผม
อาตมาขอตอบคำถามนี้ในฐานะล่ามแปลภาษาตามครูบาอาจารย์สอนว่า...
: ในทางภาษาศาสตร์สากลนั้น..คำว่า"ธรรม"หรือ"ธรรมะ"แปลว่า"สิ่ง"คือทุก"สิ่ง"ไม่ยกเว้นอะไรเลย...ทั้ง"สิ่ง"ที่มองเห็นได้ และ "สิ่ง"ที่ไม่สามารถมองเห็นได้.ทั้ง"สิ่ง"ที่มีการปรุงแต่งกันแล้วเกิดขึ้น(สังขารธรรม) และ "สิ่ง"ที่ปราศจากการปรุงแต่งใดๆ(อสังขารธรรม). ทั้ง"สิ่ง"ที่ไปตามแบบชาวโลก(โลกิยธรรม) และ "สิ่ง"ที่ไม่เป็นไปตามแบบชาวโลก คือสูงกว่าในทางจิตใจหรือเหนือโลก,หรือเหนือวิสัยชาวโลก,หรือพ้นจากความทุกข์ทั้งปวงแบบชาวโลก(โลกุตระธรรม).แม้ในปทานุกรมของนักเรียนที่ประเทศอินเดียจะแปลสั้นๆคำเดียวว่า"หน้าที่" แต่ก็ยังเป็น"หน้าที่"ของ"สิ่ง"ทุก"สิ่ง"ที่ต้องมีหน้าที่ตามกฏเกณฑ์ของธรรมชาติที่ต้องมีหน้าที่ของมันไม่ยกเว้นอะไร ซึ่งยังรวมอยู่ในคำว่า"ธรรม","ธรรมะ'หรือ"สิ่ง"
สรุปว่าธรรมหรือธรรมะคำเดียวกันนี้แปลว่าสิ่งทุกสิ่งของทุกอย่างไม่ยกเว้นอะไรไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ต้องรวมอยู่ในคำคำเดียวกันนี้เรา,ท่าน,คน,สัตว์,สิ่งของ,ภูเขา,แม่น้ำลำธาร,ต้นไม้,หรือที่มักเรียกว่าธรรมชาติตลอดจนถึง"สิ่ง"ที่เรียกว่าพระธรรมคำสอนไปจนถึง"สิ่ง"ที่เรียกว่า"พระนิพพาน"ที่เป็นที่ดับสนิทไม่มีเหลือแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นทั้งปวงก็ไม่ยกเว้นจากคำว่าธรรมหรือธรรมะคำนี้คำเดียว...หรือว่า"สิ่ง,สิ่ง,สิ่ง"นี้คือนิยามของคำว่าธรรมฯลฯ.เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้..เจริญพร.....สาธุสาธุ...
(หัวใจ)ของทุกๆศาสนา
คือความไม่ยึดติด
กราบขอบพระคุณ และ กราบอนุโมทนายิ่งค่ะ
สาธุค่ะ🌿🌸🙏🌸🌿😊
เห็นธรรม ถึงธรรมแล้วพระองค์ให้ทิ้งธรรม
กราบสาธุสาธุสาธุ
อ.สุจินต์ท่านยืน-อ.จรัญตบลงหลุม สำหรับหางอึ่งอย่างผมบอกได้คำเดียว "สุดยอด"
น้อมกราบสาธุธรรมค่ะ
อ.ยายสุจินแกคงรู้แค่คำว่าธรรมมะคืออะไรคงไม่รู้จะอธิบายถึงเรื่องอะไรต่อมากกว่านี้
สาธุสาธุ
ให้เมตตากัน
ผมยอมรับว่าแต่ละคนพูดดี.แต่ไม่อยากให้โจมตีวัดโจมตีพระ..มันสุ่มเสี่ยง.แต่ควรนำการศึกษานี้เข้าไปในวัด.ในสำนักปฏิบัติธรรมได้.นำไปเผยแพร่แก้ไขสิ่งผิดให้ถูก.ผมเป็นเด็กวัดมาเมื่อ40ปีกว่าๆ.เข้าใจว่าวัด.พระสงฆ์.มีข้อผิดเยอะ.แต่เราควรให้โอกาส.แม้แต่ในอังกฤษ.เขายังใช้โบสถ์
คริส.สวดมนต์ศาสนาพุทธได้เลย...ต้องสมานกันให้ได้..สอนด้วยความเมตตา..
เห็นด้วยกับท่านอาจารย์สุจินต์ สาธุครับ
สาธุ
อภิธรรมของใหม่พระพุทธเจ้าไม่เคยพูดตรัส ถึงอภิธรรม ถามอสุจินต์ ว่าพระพุทธเจ้าตรัสคำว่าอภิธรรมเมื่อไรโอกาสไหนแก่ใคร แล้วไปเอาคำนี้มาจากไหน พระไตรปิฏกใครแต่งใครรวบรวม
สติ สมาธิ ปัญญา คืออะไร เกิดจากไหน............
อวิชชาคืออะไร มาจากไหน............
กิเลสคืออะไร................
ตัสรู้ คืออะไร เกิดได้ยังไง..................
มนุษย์ทุกคนสามารถตัสรู้ได้ไหม..............แล้วต้องทำยังไง..................?
ท่านอาจารย์ผู้รู้ที่เข้ามาเสวนาจากคุณสุจินต์
ท่านมีสติมากยิ่ง เราขอกราบในสติและสมาธิของท่านทั้งสองอย่างไร้เงื่อนไข
ทำไมสนทนาธรรมถามตอบไปคนละทางกับคำของอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า...กราบเท้าท่านอาจารย์ค่ะ🙏🙏🙏
อาจารย์พูดไม่ผิดธรรมะที่พูดสูงคนที่เห็นธรรมจะเข้าใจ
สาธุๆๆ
ใช่ค่ะอาจารย์พูดตรงตามความจริงแต่ธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสร้เป็นธรรมที่ลึกซึ้งยากที่จะเข้าใจได้ง่ายแต่ต้องสะสมอบรมให้มากขึ้นเจริญขึ้นให้งอกงามขึ้นสาธุค่ะ
ให้กำลังใจอาจารย์ครับ ให้รุ้ถูก เข้าใจถูก เป็นเบื้องต้น ตามเหตุ ปัจจัยขยายความ good talk ครับ
หลักศรัทธาของ
อ.สุจินต์.กับ หลักของกาลามสูตร.ผู้ฟังยังไม่ชัดเจน.ถ้าอธิบายได้ ก็จะดียิ่ง.
ประเด็นไหนดี ประเด็นไหนชั่วให้พิจารณา และหลีกเลี่ยง เช่นคำสอน การแปลเปลี่ยน พิธีกร แขกรับเชิญ พิจารณาว่าใครทำประโยชน์และมีคุณค่าต่อศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง
ฟังด้วยความเคารพ ไตร่ตรอง จะเข้าใจไม่มากก็น้อยในธรรมที่สนทนาทั้ง3ท่าน
แปลกมาก คือ ผมฟังการสนทนาทุกท่าน ไม่ว่าจะถาม ตอบ และอธิบาย พอจะจับใจความได้และเข้าใจ ยกเว้น อ. สุจินต์ ผมพยามแล้วแต่มีน และพยายามยังไงก็ไม่เข้าใจ
ปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน
ใช่
ต้องปรับภาษาคำสอนให้ทันสมัย เพราะตามคัมภีร์แต่ละคัมภีร์จะสอนแบบให้ฉุกคิด
"บวช" คืออะไรจะมาถามยอกย้อนทำไม!? พาออกนอกจนกลับมาหาต้นเดิมไม่เจอ..
การสนทนาธรรมต้องสนทนาธรรมกับคนที่บวชเท่านั้นบ้า
🙏🏻🙏🏻กราบอนุโมทนาสาธุและกราบขอบพระคุณท่านอ. สุจินต์ ด้วยความเคารพเป็นอย่างสูงค่ะ ในความเมตตากรุณาของท่านอาจารย์ค่ะ คณะอาจารย์ มสพ. และท่านอ. เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ค่ะ🙏🏻🙏🏻🙏🏻
อนุโมทนาสาธุครับอาจารย์
รู้ดืกว่าทุกคนในประเทศไทย
ปริยัติ
ภาษา มีคุณสมบัติเช่นไร สิ่งแรกที่ต้องเข้าใจให้ถูกต้องตามความจริง
ใช่ถูกท่านกล่าวทุกคนเสมอกัน
2.ต้องขอบพระคุณอ.สุจินทร์นำมาเป็นฟังด้วยปัญญา มาเป็น ประเด็นสนทนาธรรมะครั้งนี้ ตรงกับนิยามธรรมะ ศาสตร์ปรัชญาอภิปรัชญา-ภววิทยา (อภิธรรม) อันเป็น ข้อเท็จจริงที่มีอยู่จริงเป็นอยู่จริง เบื้องหลัง เข้าถึง ลึกซึ้งสลับซับซ้อน-และหรือยากต่ออุปาทานขันธ์ ยึดมั่นถือมั่นว่า คำตอบที่เป็นคำตอบอจินไตยหรือไม่ ที่ธรรมชาติหยิบยื่นให้มา ของระบบธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ยากที่อายตนะหก-ประสาทสัมผัสหก มนุษย์จะเข้าถึง เข้าใจรับรู้ได้ร้อยเปอร์เซนต์ทันที ต้องพิจารณาไตร่ตรอง ด้วยกาลเวลา พื้นที่ ความว่างเปล่า จากญาณทัสสนะสามอาการ12 เช่นระดับสุตมยปัญญา จินตมยปัญญา และภาวนามยปัญญา อย่างมีระเบียบแบบแผนนิยาม5 ฯลฯ ภายใต้กฎอสังขตธาตุรองรับและกำกับควบคุมดูแลกฎสังขตธรรม เชิงระบบมนุษย์สร้างขึ้น(พระพุทธเจ้าตรัสรู้ค้นพบนำมาสั่งสอน-พระวินัย-พระสูตร-สุตตันปิฎก -ญาณวิทยา-อิปิสเตโมโลยี) ตอบสนองคุณประโยชน์-ธรรมคุณหกเชิงประจักษ์และอาศัยประสบการปริยัติ-ลงสู่รู้เท่าทันปฏิบัติ-ปฏิเวธ คุณค่าเพิ่มและมูลค่าเพิ่มแอ็กสิโอโลยีเช่น จริยศาสตร์ สุททรียศาสตร์ เหตุผล อารมณ์ และภาษาธรรมและภาษามนุษย์สร้างขึ้น
3. ทั้งนี้ คำตอบข้อเท็จจริงที่เป็นแก่นแท้ของเอ็นติตีคือคำว่าธรรมชาติที่ปรากฎเกิดดับมีอยู่จริงเป็นอยู่จริง นี้ จะชี้ไปยังหัวข้อคำถามที่เป็นทางสายกลางคำตอบสุดท้าย มัชฌิมาปฏิปทาสนทนาธรรมะ(มีคำตอบอนัตตาธรรมชาติ กฎธรรมชาติ ปรมัตถ์ในอภิปรัชญา-ภววิทยา -ลงสู่อัตตาชั่วคราว เผชิญกับอนัตตาถาวร ด้วยหน้าที่มนุษย์ต้องมีจริธรรมหน้าที่กิจญาณ-กตญาณต่อธรรมชาติและกฎธรรมชาติ ญาณทัสสนะสามอาการ12-ญาณวิทยา-องค์ความรู้ปัญญามนุษย์เข้าถึงอนัตตาได้อย่างไร-ผลสัมฤทธิ์ธรรมคุณหกต่อโลกสมมตสัจจะเพื่อมนุษยพ้นทุกข์-พ้นปัญหา-พ้นคำถามศาสตร์ที่สมดุลกับกาลเวลา-พื้นที่ภพภูมิในปัจจุบัน ต่อสู้ อยู่รอด เรียนรู้ตลอดชีวิต มีสติสัมปชัญญะ จิตสำนึก ไม่ประมาท เพียรพยายาม ด้วยความมั่นคง ปลอดภัย และยั่งยืน ต่อเนื่อง ทั้งด้านสังคม-เศรษฐกิจ-การเมืองการปกครอง-นวัตกรรมเทคโนโลยี-ข่าวสารสฬายตนะมัลติบิกดาต้าโลกเสมือนจริงที่เป้นไตรลักษณ์) เช่นเอ็นติตีคำว่าธรรมชาติ-กฎธรรมชาติ-หน้าที่มนุษย์ต่อกฎธรรมชาติ และผลสัมฤทธิ์ธรรมคุณหก ที่ท่านพุทธทาสให้ความหมายธรรมะ4 ความหมาย ซึ่งท่านวิทยากรดำเนินการอ.เจิมศักดิ์และวิทยากรฯสนทนาจะชี้หนทางสายกลางสู่ เช่นคำว่าเอ็นติตีประชาธิปไตย ประโยชน์ประชาชน คำสั่งสอนพระพุทธเจ้า การเห็นตรงกัน-สัมมาทิฏฐิด้วยคำว่ากฎธรรมชาติ หน้าที่ต่อรู้เท่าทันข้อเท็จจริง ความจริงสัจธรรม ความรู้ ความเชื่อศรัมธา ต่อกฎธรรมชาติ ต่อผลสัมฤทธิ์ กับการสนทนาของวิทยากร เป็นคำถาม การประยุกต์ใช้อภิปรัชญา-ภววิทยา กับภาษาคน ภาษาศาสตร์หลากหลายสาขา-ญาณวิทยา-อิปิสเตโมโลยี-ทฤฏีองค์ความรู้ ของขันธ์ห้าด้วยระบบมนุษย์สร้างขึ้น (มนุษย์เป็นศูนย์กลางเครือข่ายประยุกต์ใช้ศาสตร์ต่อยอดไม่สิ้นสุด-มีทุกข์ไม่สิ้นสุดด้วยทฤษฏีองค์ความรู้ เพื่อเข้าถึงกฎนินาม5ธรรมมะว่าด้วย ปัญญาญาณทัสสนะสามอาการ12 ระดับความจริง-สัจธรรม (Noble Truth) ที่พระพุทธเจ้าค้นพบมาสั่งสอนมนุษยชาติโลกสมมติสัจจะ กล่าวได้ว่ากฎธรรมชาติคือกฎอสังขตธรรมเช่น นิพพาน กฎอิทัปปัจจยตานิรนัยลงสู่กฎปฏิจจสมุปบาทและตัวแปรเหตุปัจจัยปฏิจจสมุปันธรรมหรืออาการ12-13ของกองทุกข์เหตุเกิด-ดับทุกข์ และใบไม้ทั้งป่า เช่นกฎอริยสัจจ์ นิยามห้า กฎไตรลักษณ์ กฎเอ็นติตีมีชีวิตขันธ์ห้า ฯลฯ
ธรรมะคืออะไร
บวชเพื่อลดละเลิก
🙏🙏🪷🪷 amazing conversation…. I really want to talk with Dharma home
ชอบอาจารย์สุจิตต์พูดให้คนเลิกความเข่าใจผิดๆ
ุถ้าคนๆนึงจะไม่เชื่อพุทธองค์ .และไม่ได้เป้นพุทธ. แต่มีหลักใช้ชีวิตในทางของเค้าเอง หรือศาสนานั้นๆของเค้า ..เค้าจะเป้นไรมั้ยคับ..🤔 แล้วชีวิตเค้าจะต่างจากพุทธศาสนิกทั่วไปยังไงคับ..?🤔.. แล้วชีวิตจะพบเจออะไร..แล้วจะสำเร้จหรือล้มเหลวคับ..?
# จะมีผลต่างยังไง ..
สวัสดีครับ ถ้าลองถอยออกมาก้าวหนึ่ง ไม่ยึดติดกับภาษา ศาสนา และอื่นๆ ผมว่ามนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า จิตเดิมแท้ กันทุกคน ไม่ต่างกัน ถ้าหากปฏิบัติให้ถูกทางครับ
@@cheevittiddin7938 🤗🤗คับ
คนเราถ้าเว้นความชั่วประพฤติดี มีจิตใจดีงามบริสุทธิ์ อยู่ในศาสนาใดก็ดีทั้งนั้นครับ และนั้นคือหัวใจของ พระพุทธศาสนา ของเรา เว้นความชั่ว ประพฤติดี มีใจสะอาดบริสุทธิ์แค่นั้นจบครับนอกนั้น ก็แค่ปลีกย่อยไปอีก
ใด้ฟังแล้วอยากเข้าไปถีบให้แว่นแตกอีสุจิน
สาธุ น้อมกราบนัมสการในธรรมทุกๆธรรมเจ้าค่ะ สาธุๆเจ้าท่าน
ได้แต่ความรู้ไม่ได้บุญหรอกนะ
รู้แล้วต้องปฏิบัติตามจึงจะได้ผลจากการเรียนรู้
(ปริยัติ + ปฏิบัติ = ปฏิเวธ)
ถ้าไม่มีปฏิเวธ เสียเวลาทั้งปริยัติ ทั้งปฏิบัติ
ปริยัติมาก ๆ รู้มาก ๆ แต่ไม่ปฏิบัติ = บ้าหอบฟาง หรือ ใบลานเปล่า
ตอบตามหลัก มีเหตุย่อมมีผล ชี้ให้เห็นเหตุ และผลลัพ
The enlightenment came to solve the dead part. The four noble truths and 8 middle path will get us there to nirvana.
ผมคิดว่าต้นเหตุของทุกข์ก็เพราะวิญญาณใช่หรือไม่ครับ ใครรู้ช่วยตอบผมที
ต้นเหตุของทุกขคือความไม่รู้ครับ
ปฎิจสมุปบาป .ตอบได้...เพราะอวิชชา ..คือความไม่รู้ ...ไม่รู้ตามความจริง .ความจริงคือกายไม่เที่ยง.ต้องสลายไป...วิญญานก็ยึดไม่ได้เพราะมันเกิดดับ....ต้องฝึกดูขันธ์5ก่อนเราไปยึดมันมาปรุงแต่งโดยไม่รู้ตัว...แล้วเอามาทุกข์....เอาพอประมานนี้....ต้องนั้งสมาธิแล้วนำมาฝึกใจรู้ทันหูตาจมูกใจ.....ธรรมจะไหลสู่ทรรม....หากไม่นั่งสมาธิ....ก้อจะแค่เข้าใจแต่ไม่เข้าถึง
ลดทิศฐิ
อ.เจิมศักดิ์ถามไม่ตรงคำตอบหรือป่าว ไม่ใช่อ.สุจินตอบไม่ตรงคำถาม
บวชคือ บใบ้ไม้ คืออบรมบมนิสัยจากคนดิบเป็นคนสุก วแหวนคือเว้นจากการทำชั่ว ชช้างคือชำระล้างจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์
ປະຊາທີປະໄຕ.. ບໍ່ແມ່ນ ຄຳຂອງພຣະພຸດທະເຈົ້າສອນ. ພຣະພຸດທະເຈົ້າສອນໃຫ້ ຊາວພຸດພົ້ນທຸກ ແລະໃຫ້ເດີນຕາມທາງອະລີຍະສັດສີ່ ມີ ອົງແປດ.
ປະຊາທີໄປໄຕ ແມ່ນ ການປະຕິຮູບ ຊື່ ຂອງ ພຣະເຈົ້າອະລີຍະເມດໄຕ ອັນຈະມາຕັດສະຣຸອານາຄົນຂ້າງຫນ້າພູ້ນ... ເປັນຫັຍງຈື່ງ ມີຄວາມວ່າ ປະຊາທີປະໄຕ... ນັກທິດສະດີ ຊື່ Mur ໄດ້ ຄົ້ນເຫັນ ຫັລກການ ສາສະຫນາຂອງພຣະເຈົ້າອະລີຍະເມດໄຕ ເຊັ່ນ: ເມດຕາ. ກາລຸນາ. ມຸທີຕາ ແບະ ອຸເບກຂາ...ນັກທິດສະດີຄົນນີ້ ເລີຍ ເອົາໄປສົມທຽບ ປ່ຽນແປງ ຫລື ລັກເອົາ ຫລັກການ ຂອງພຣະອະລີຍະເມດໄຕ ເປັນຫັລກການ...ແລ້ວແຕ່ງເປັນທິດສະດີ ເພື້ອປົກຄອງມະນຸດ ດ້ວຍ ຫັລກການ ຂອງພຣະອະລີຍະເມດໄຕ... ແຕ່ ຄົນ ເຕັມໄປດ້ວຍຄົນພານ ຈື່ງເຮັດໃຫ້ທິດສະດີນີ້ສະລາຍ...ຕໍ່ຈາກນັ້ນ ກໍ່ ມາກ-ອັງແກຣນ-ເລນີນ ນາມາໃຊ້ເປັນທິດສະດີປະຊາທິປະໄຕລວມສູນຮອດທຸກມື້ນີ້.
ການປົກຄອງ ພຣະພຸດທະເຈົ້າບໍ່ໄດ້ ສະແດງທຳ... ພຽງແຕ່ ຕັດໄວ້ວ່າ.. ປົກຄອງ ໂດຍບໍ່ປົກຄອງ... ພຣະອົງສະມຸດ ພໍ່ແມ່ໃນຄອບຄົວ ຄືຜູ້ປົກຄອງ... ພໍ່ແມ່ ແລະ ຜູ້ປົກຄອງ ຄື ຜູ້ເຊັດນ້ຳຕາໃຫ້ລູກໃນຄອບຄົວເວລາມີທຸກ ແລະ ຜູ້ປົກຄອງຕ້ອງພ້ອມໃຮການເຊັດນ້ຳຕາໃຫ້ປຊຊໃນເວລາມີທຸກ... /ປຊຊຮູ້ພະຍາ ໃນເມື່ອພະຍາ ທຳຄວາມດີເພື່ອ ຄຳຊອບທຳໃນສັງຄົມເທົ່ານັ້ນ
ฟังแรกๆก็ไม่ชอบท่าน แต่ฟังนานๆเกิดปัญญาแยกข้อดีๆออกมาใช้จ้า ขอบคุณจ้า
ตอนท้าย อ.เจิมศักดิ์ตั้งข้อสังเกตุ อ.สุจิน ว่าเน้นศรัทธาในตัวพระพุทธเจ้ามาก่อนซึ่งขัดแย้งกับที่พระพุทธองค์สอนให้ปฏิบัติด้วยตนเองให้เข้าใจแล้วค่อยเชื่อค่อยศรัทธา...อ.เจิมศักดิ์รู้คำสอนถูกแล้วครับ แต่ อ.คงยังไม่ได้ปฏิบัติ เมื่อได้ปฏิบัติภาวนา พิจารณาธรรมต่างๆ เช่นกฎแห่งกรรม ปฏิจสมุปบาท อริยสัจ 4 เป็นต้น จนเข้าใจด้วยปัญญา จะมีปัญญารู้และเข้าใจว่าพระพุทธองค์ทรงเป็นผู้มีคุณที่ยิ่งใหญ่ทั้งสามประการ เป็นผู้ตรัสไว้ถูกต้องและดีแล้วในทุกๆอย่าง ....เมื่อนั้นท่านจะรู้คำตอบของคำถามที่ท่านถามมาเอง...ว่าทำไม อ.สุจิน ถึงพูดเน้นแต่ศรัทธา และท่านจะเข้าใจว่าคำถามที่ท่านถามไปนั้นมันขัดแย้งในคำถามท่านเอง เพราะที่ท่านเรียนมา ท่านยังไม่ปฏิบัติให้รู้ได้ด้วยตนเองเลย แต่กลับนำประโยคนี้มาตั้งคำถาม(ผมก็ไม่ได้ชอบในอัตตาของ อ.สุจิน นะ)
เห็นด้วยค่ะ
แต่ดิฉันกลับมองเห็นว่า ท่านอาจารย์สุจินต์ มั่นคงในคำที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม นั่นคือผู้ที่มีความตรง ไม่คิดแม้แต่จะคล้อยตามกระแสสังคมหรือยุคสมัยเลย ไม่ใช่อัตตาอย่างที่ผู้แสดงความคิดเห็นไม่ ตรึกตรองทุกคำที่ อาจารย์พูดมาตลอด ท่านเน้นตลอดว่า “ธรรมะ”นี้มีความหมายที่ละเอียดยิ่ง
ไม่ควรเอา ความหมายในทางสมมุติบัญญัติโลกมา ปะปนเด็ดขาดถ้าจะถามถึงความหมายของคำพุทธพจน์ของพระศาสดา
ธรรมะ คือสิ่งที่ตั้งเป็นอยู่เช่นนั้นตลอดมาและตลอดไปน่าจะเป็น อัตตา มิใช่หรือ?.แต่ท่าน
อ.สุจินต์พูดว่า ธรรมะเป็น อนัตตา. อยากให้ท่าน แสดงเหตุผล.เพื่อคลายความสงสัย.
อ.จรัญ +อ.เจิมศักดิ์ คือผู้ทรงปัญญาทั้งสองท่านยังให้ความศรัธรา นับถือ อ.สุจินต์ สาธุๆๆ
เข้าใจว่า อ.2 ท่าน แสดงออกถึงความมีมารยาทดี ให้เกียรติผู้สนทนา
ประชาธิปไตย..
เรายังโง่อยู่ก็เลยไม่เข้าใจ งงงงงงงล้านตัว
สวัสดีครับ มีผู้รู้ท่านหนึ่งบอกว่า ธรรมะ ควรอ่าน ควรฟัง 10 % ปฏิบัติ 90 % ครับ แล้วกลับมาอ่านมาฟัง จะเข้าใจมากขึ้นครับ (ควรมีครูบาอาจารย์ในการปฏิบัตินะครับ)
เอาเลข5ไปล้านตัวเลยครับ555555555555555555
ส่วนใหญ่ความเห็นเชิงลบไม่ได้เป็นการแย้งด้วยหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นความไม่พอใจส่วนตัวเป็นหลักไม่ว่าจะ 1.ไม่ถูกใจในวิธีการพูด 2. พูดแล้วไม่ทำให้ตนเองเข้าใจได้ 3. อาจจะมองว่าท่านอาจารย์โจมตีสำนักของตน ส่วนตัวผมอยากจะให้ลองวางใจให้เป็นกลางตัดความอคติออกไปก่อนแล้วพิจรณาว่าที่ท่านพูดนั้นถูกหรือผิด เป็นประโยชน์ต่อศาสนาพุทธหรือไม่ ส่วนสำหรับใครที่ยังฟังแล้วไม่เข้าใจ การที่ท่านตำหนิติเตียนท่านอาจารย์มันจะถูกต้องได้อย่างไรเพราะท่านเองยังไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่ท่านอาจารย์พูดเลย ปล. อยากจะฝากไว้ว่าการที่คนฟังไม่เข้าใจจะต้องโทษคนพูดอย่างนั้นหรือ เปรียบเทียบก็เหมือนกับเด็กอนุบาลเข้าไปฟังการสอนระดับมหาวิทยาลัยแล้วพูกว่าคนพูดนั้นไม่ดีเพราะสอนให้รู้เรื่องไม่ได้แทนมี่จะมองหาชั้นเรียนที่เหมาะกับตนเอง
ทราบว่ารู้มากเก่งมาก แต่ฟังแล้วอย่างไรก็ยังเหมือนอวดอยู่ดี (ขอภัยแค่ความรู้สึกส่วนตัวที่สัมผัสได้เท่านั้)
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ อย่าเอาความชอบ ไม่ชอบ มาขวางกั้นวิชชา
เพราะเมื่ออ่านพระไตรปิฎก เพียงได้ตรึกตรองใน”พระธรรมอันประเสริฐดีแล้ว”จะเริ่มมีปัญญา จะมารับรอง และจะฟังผู้รู้ในสิ่งๆนี้ ว่าใครพูดคำจริง
อันนี้ อย่างไม่ต่อเติม เสริมแต่ง และไม่ตัดออกในธรรมนี้แหละ
ธรรมะทั้งหลายมีความเป็น”อนันตตา” ปัญญาจะเห็นการเกิดดับๆ
บัวสี่เหล่าจะแบ่ง ลักษณะของสัตว์ บุคคล เป็นไปตามคำเปรียบในพุทธพจน์
อ.สุจินต์ กับ มหาไพรวัลย์ เหมือน ขาวกับ ดำ
ใครขาว ใครดำ
อ.สุจินต์=ผู้รู้ขั้นเทพทางธรรม
555
อ.สุจินต์ เข้าถึงธรรมจริง
อ.เจิมศักดิ์ ถามคำถามไม่ประตรงประเด็นครับ ทำให้วงสนทนาธรรมยืดยาวไปคนละประเด็น (เสมือนที่มีภิกษุพราหมณ์ 2คนมาถามพระพุทธเจ้าไม่ตอบ ว่าด้วยคำถาม จิต-และกายเป็นเรื่องเดียวกันและหรือไม่ใช่เรื่องเดียวกันหรือไม่-เพราะเรื่องของอนัตตาขันธ์ห้า)
1. เข้าใจว่าอ.สุจินทร์ และพุทธทาส เข้าใจเรื่องเดียวกัน ..... คำว่าธรรมะคือธรรมชาติ 4 ความหมายของ ท่านพุทธทาส ธรรมะคือธรรมชาติ ประกอบด้วยสิ่ง สรรพสิ่ง (เอ็นติตีองค์รวม) มีลักษณะคุณสมบัติ ความเป็นจริง (Reality) หรือข้อเท็จจริง (Fact) ที่มีอยู่จริงเป็นอยู่จริง มีการรวมกลุ่มเปลี่ยนแปลงร่วมกันด้วยเหตุปัจจัยปรุงแต่งเอ็นติตีที่ปรากฏเกิด-ดับชั่วคราวหายไปไม่กลับมา พุทธศาสนาเรียกว่า ปรากฏการณ์ของสังขตธาตุ - สังขตธรรม ทั้งเอ็นติตีมีชีวิตและไม่มีชีวิต (เป็นอนัตตาบังคับไม่ได้ :- สังขารธาตุ ด้วยภาษาธรรมปรมัตถ์-ไม่มีประธานรูปธาตุ-รูปขันธ์-รูปธรรม-ตัวตนของตน(ประชาชน-สัตว์-บุคคล) แต่มีประธานอรูปธาตุ-นามขันธ์-นามธรรมได้เช่นคำว่าปัญญา-จิต) และเรียกว่า วิสังขารธาตุ-อสังขตธาตุ-อสังขตธรรม ภาษาธรรมปรมัตถ์ เป็นเอ็นติตีไม่มีเหตุปัจจัยปรุงแต่ง มีอยู่จริงเป็นอยู่จริงถาวรไม่มีเกิดดับ บังคับควบคุมไม่ได้ นำไปสู่การมีอยู่จริงเป็นอยู่จริงของกฎธรรมชาติความหมายธรรมะข้อที่2-4 อ.เจิมศักด์เข้าใจ ในโลกแห่งความเป็นจริงโลกิยะสมมุติสัจจะ และเหนือโลกของความเป็นจริงโลกุตระปรมัตถ์
น่าจะเรียนอภิธรรมมา ดูทรงละ
ฟังด้วยดีย่อมมีปัญญาฟังแล้วใคร่ครวพิจจารณาหาเหตุผลอาจารย์พูดเรื่องจริงตรงต่อความเป็นจริงตามคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าฟังเข้าใจก็เกิดปัญญาฟังไม่เข้าใจก็เป็นอวิชชากราบอนุโมทนาในความเมตตาและอดทนที่จะแสดงความจริงในชาวโลกที่มืดบอดให้ได้เห็นแสงสว่างตามความเป็นจริงสาธุค่ะ
สาธุ
สาธุ
เห็นความเป็นจริงว่าทั้งหมดเป็นอนัตตาจึงทำไห้ชนชั้นต่างต่างเข้าใจเป็นอันเดียวได้
นางเก่งกว่าพระพุทธเจ้าเก่งคนเดียวแปลไปตามพจนานุกรมแต่การปฏินิดเดียวพวกเฮ้อไม่รู้หรอกเพราะไม่ลงมือปฏิบัติ