รถยนต์ไฮโดรเจนของโตโยต้าใหม่ คืออนาคตแห่งวงการรถยนต์อย่างแท้จริง
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 18 มิ.ย. 2022
- นี่คือเหตุผลที่รถยนต์ไฮโดรเจนใหม่ของโตโยต้าจะเป็นอนาคต แห่งวงการยานยนต์ แต่ทำไมอีลอน มัสก์จากค่ายเทสล่าถึงไม่สนับสนุนพลังงานเชื้อเพลิงไฮโดรเจน ในวิดีโอนี้มีคำตอบ
ขอบคุณสำหรับทุกการรับชม
ฝากเป็นกำลังใจด้วยการกดไลค์และกดติดตาม Subscribe ด้วยนะคะ
For copyright matter please contact us at:
Copymanager2@gmail.com - ยานยนต์และพาหนะ
1.ระยะทาง Kg/Km ต่ำ
2.แถมราคา/Kg แพงพอ ๆ กับน้ำมันปัจจุบันอีก
3.สถานี H2 ตั้งทีงบ 20 ล้านเอาอยู่รึเปล่า?
4.เอาไฟฟ้ามาแยกน้ำ จะสูญเสียพลังงานจากการเปลี่ยนสถานะเท่าไหร่ เอาไฟฟ้ามาอัดประจุแบตเตอรีโดยตรงไม่ดีกว่าเหรอ สูญเสียน้อยกว่า
5.ถึงไม่เอาไฟฟ้ามาแยกน้ำ H2 สามารถสร้างจากแก๊สได้ แต่มันคือไฮโดรเจนสีเทา ก็ไม่ได้สะอาดอย่างที่กล่าวอ้าง
6.Fuel cell stack เสื่อมสภาพได้ไม่ต่างจากแบตเตอรีใน EV นะ แถมราคาก็ไม่ได้ถูกด้วย
7.ถ้าจะเอา H2 มาสันดาปเหมือน ICE แล้วจะเปลี่ยนไปใช้ H2 ทำไม ในเมื่อยังเป็นเครื่องที่มีลูกสูบ ใช้น้ำมันเครื่อง ใช้หม้อน้ำให้ยุ่งยากเหมือนเดิม
สรุปจะเกิดรึเปล่าล่ะครับ ไม่มีอะไรจูงใจให้ต้องใช้เลย ถ้าราคา H2 ไม่ใช่ Kg ละ 10 บาท ซึ่งก็อาจจะน่าใช้ขึ้นมาบ้างก็ได้นะ ถถถถ
ตอบแบบนี้เรียกว่ารู้จริงครับ...โปรตอนเมมเบรนที่ทำหน้าที่แยกโปรตอนในโมเลกุลของไฮโดรเจนออกมาเพื่อให้อนุภาคของอิเล็คตรอนถูกดักจับเอาไปเก็บใส่ในแบตเตอรี่สำรองและอนุภาคโปรตอนของไฮโดรเจนที่ดักแยกออกมาจะไปทำปฏิกริยาจับกับอ๊อกซิเจน(O2) กลายเป็นน้ำ( H2O ) โปรตอนเมมเบรนก็ไม่ทนทานเสื่อมเสียง่ายเหมือนกันแถมราคาแพงด้วย เป็นเทคโนโลยีที่เป็นความลับของทางโตโยต้าด้วยเพื่อผลทางธุรกิจการค้า เขาดันออกมาขาย 2-3 ปีแล้วทั้งในญี่ปุ่น ยุโรปและ USA แต่ผลตอบรับไม่ดีเลย...คาดว่าสุดท้ายคงถอยทัพ...เพราะ BEV พัฒนาไปไกลมากๆแล้ว หลายค่ายทำออกมาสุดหรูวิ่งได้ไกลเกิน 1,000 กิโลเมตรแล้ว โดยเฉพาะในจีนแข่งกันแบบสุดๆอีกไม่เกิน 5 ปี การพัฒนาแบตเตอรี่แบบใหม่ๆออกมา ขนาดเล็กลง น้ำหนักเบามากขึ้น อัดประจุไฟฟ้าได้เร็วมากใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีได้ 80% วิ่งต่อไปได้เกิน 500 - 600 กม. ทุกคนคงไม่มานั่งบ่นโวยวายอีกแล้ว อนาคตแบตชนิดใหม่อาจราคาถูกลงมากกว่าปัจจุบันหลายเท่า ราคารถ BEV ก็คงถูกลงด้วย...ดูตัวอย่างมือถือรุ่นแรกๆของโมโตฯใหญ่โตเท่าสากตำน้ำพริกหนักเกือบ1กิโลกรัม แถมราคาแพงเกือบแสน...ผ่านไปแค่ 20 ปีกว่าๆ รุ่นปัจจุบันเล็กบางแค่ไม่กี่มิลลิเมตร น้ำหนักเบามากๆ 200-300 มิลลิกรัมเท่านั้น ความสามารถทำได้แทบทุกอย่าง...จนกลายเป็นของวิเศษประจำตัวของทุกคนขาดไม่ได้เลยคือมือถือ...รถ BEV ก็คงมีพัฒนาการแบบเดียวกันครับ
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ค่ะ
อ่านมาเยอะเพิ่งเจอเม้นรู้จริงเม้นแรก คนส่วนใหญ่ยังคิดว่าไฮโดรเจนที่ใช้ๆกันมาจากการใช้ไฟฟ้าแยกน้ำอยู่เลย 55555
@@NormalVillager ผมเคยอ่านผลงานวิจัยในระดับปริญญาเอกของคนไทยที่ไปศึกษาปริญญาเอกที่สหรัฐฯเธอทำวิจัยในหัวข้อเรื่อง การใช้สาหร่ายทะเลชนิดหนึ่งมามักแล้วได้ Hydrogen โดยมีต้นทุนที่ต่ำกว่าในหลายๆวิธีในปัจจุบันและมีคุณภาพดีเหมาะที่จะนำไปใช้ในรถที่ใช้ระบบ Fuel Cell ด้วยเพื่อลดต้นทุนการผลิตH2
@@user-df6nr3zw6e เหมือนเคยอ่านคร่าวๆ ครับ แต่มันยังผลิตในเชิงพาณิชย์ไม่ได้ เพราะต้นทุนในการผลิตเทียบกับวิธีปัจจุบันที่ใช้กันยังสูงกว่าเยอะครับ อีกอย่างในงานวิจัยยังไม่ได้ทดสอบว่าถ้าสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนไปจากสถานที่ทดลองจะส่งผลต่อการผลิตมากน้อยขนาดไหนครับ แต่ในอนาคตถ้าเสถียรน่าจะได้ผลดีระดับนึงเลย ก็น่าจะอีกนาน
ผู้ผลิตอะไหล่รถหลายที่กำลังวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อสามารถใช้กับรถไฮโดรเจนได้ เพื่อลดการปล่อยสารพิษในสิ่งแวดล้อม มันกำลังแข่งขันกันอยู่ ฉะนั้นมันไม่ด้อยกว่ารถไฟฟ้าแน่นอน
รถพลังงานอ๊อกชิเจนคือรถที่ชาญฉลาดที่สุดในโลก...แรงม้าทำให้สุด..สุด
ไทยเคยทำมาแล้วเติมน้ำมาแล้วครับ ช่วยนำข้อมูลนี้มาลงด้วย และบอกถึงสาเหตุทำไมไม่มีความคืบหน้า หรือหายไปไหนครับ
ถูกต้องแล้ว สนับสนุนไฮโดรเจน
ถ้าไฮโดรเจน เข้าไปเผาไหม้โดยตรงน่าจะดีมาก(แต่ต้องพัฒนาระบบใหม่ก่อน)เพราะไฮโดรเจนเผาไหม้เร็วกว่าเบนซิน ถีง200เท่า เมื่อวันนั้นมาถึง…ลูกหลานเราคงปลอดภัยจากมลพิษมากขึ้น
ละเอียดดี
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ค่ะ
hydrogen ต้องอัดแรงดันมหาศาลถึง 10,000 psi มากกว่า CNG ถึง 3 เท่า ผิดพลาดนิดเดียวแรงระเบิดรุนแรงฉีกเหล็กกระจุย
สถานี Hydrongen จะไม่สามารถวางตามถนนตัวเมืองปกติได้
เคยไปดูในต่างประเทศรึเปล่า ที่เบอร์ลิน เขามีสถานีเติมแก๊สไฮโดรเจนอยู่หน้าร้านอาหารเลยนะ (เป็นร้านที่รู้จักกัน)
เขามีรถ BMW แล้วเอาไปซ๋อมที่อู่รถ แต่บริษัทต้องใช้เวลาซ่อมนาน ก็เลยนำรถ BMW ที่ใช้ระบบไฮโดรเจน ซึ่งเป็นรถสำหรับ
ให้ใช้ทดสอบกับผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ไม่ได้จำหน่ายทั่วไป นำมาให้ใช้แทนชั่วคราวในระหว่างที่รถยังซ่อมไม่เสร็จ
ซึ่งมีข้อดีหลายอย่าง เพียงแต่คนไม่ค่อยนิยมใช้รถไฮโดรเจน อาจด้วยราคาแพง ดังนั้น อนาคตคงไปต่อยาก
@@info001a เคยทำงานที่GM เอารถไฮโดรเจนมาโชว์ ป่านนี้เกือบ20ปี รถผุไปแล้ว ใช้NGVยังดีกว่า เติมน้ำมันก็ได้เติมNGVก็ดี แต่คนยังไม่นิยมเพราะยุ่งยากทั้งถังที่ใหญ่บรรจุได้น้อย แถมระเบิดทีรถขาดครึ่ง
มันระเบิดแรงน๊ะ ข่าวดังมาก คุณพี่ไปอยู่โลกไหนมาไม่รู้รึ?? @อิน ใจแก้ว
เชื้อเพลิงคนละแบบกับระเบิดไฮโดเจนมั่ง
สารภาพรักนะหลงรักเสียงคนพากย์ รักเค้านะ
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ดีๆค่ะ 🙏
แอดเก่งแท้
Fuel cell ควรเหมาะทำจุดชาร์จdcสำหรับรถ ev จะเหมาะสมกว่า
พัฒนาไปเรื่อยๆ
เหนื่อยเปล่า เฮียโตฯเอ้ย.
ติดแก๊สง่ายดี
ทุกสิ่งทุกอย่าง มีข้อดีและข้อเสีย
ผู้บริโภค ควรเลือกให้เหมาะสมกับไลสไตร์ตัวเอง👍
มันเหมาะ กับรถบรรทุกและเครื่องบินโดยสาร ครับ ไฮโดรเจน
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ค่ะ
เป็นไปได้หมดครับทั้ง 2 อย่าง ในอนาคต
สุดยอดมันสมองคนคิด
พลังงานไฮโดรเจนเป็นพลังงานสะอาด เอามาใช้ได้ไม่มีวันหมด พัฒนากันต่อไปเรื่อยๆ ก็น่าจะเอาใช้งานได้จริงและประหยัด ส่วน BEV มีแนวโน้มว่าจะทำลายสิ่งแวดล้อมจากการขุดแร่เพื่อเอามาทำแบตเตอรี่และยังเพิ่มมลพิษจากแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพ ถึงแม้จะรีไซเคิลได้ก็ตาม มองกันยาวๆครับ
แต่มันอันตรายครับ แค่เอาไปใส่ลูกโป่ง ระเบิดมายังหน้าแหก
@@chaiyoth6711 พัฒนาเอามาใช่งานได้จริงแล้ว ก่อนเข้าสู่ขบวนการผลิตมีเทสท์ทดสอบกันก่อนแล้ว ถังบรรจุก๊าซมีความหนามาก
@@ultrasnook ถังหนาเป็นภาระที่เราต้องบรรทุก ทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน รถไฮโดรเจน รถ EV สมรรถนะ ยังไงก็สู้รถน้ำมันไม่ได้ แถมภาระบรรทุก็หนักเกินจำเป็น ทั้งน้ำหนักของแบตหรือน้ำหนักของถ้งไฮโดรเจน ถ้ากลัวเรื่องสิ่งแวดล้อม ก็ไปทำระบบดักก๊าซไอเสียของรถน้ำมัน ให้อากาศที่ปล่อยออกมาสะอาดผมว่าน่าจะดีกว่า
@@chaiyoth6711 โตโยต้าเค้าทำออกมาก็ใช้ได้ดีนะรุ่น Mirai ถังหนาไม่จำเป็นต้องหนัก แล้วตอนนี้ที่จีนเอาพลังงานไฮโดรเจนไปใช้ในรถบรรทุกแล้ว ส่วนการดักกรองของเสียในรถน้ำมันก็ทำมาก่อนหน้านี้แล้ว มันได้แค่ระดับหนึ่ง ไม่หมดและยังเป็นปัญหาอยู่
@@chaiyoth6711 ประสิทธิภาพของรถ EV ดีกว่ารถน้ำมันเยอะ การสูญเสียพลังานในรถน้ำมันมีมากกว่ารถไฟฟ้า EV เพียงแต่ต้องหาตัวกักเก็บพลังงานไฟฟ้าจ่ายให้แก่รถ ถ้าศึกษาแล้วจะรู้ครับ
ชอบไฮโครเจนครับ
พลังงานไฮโดเจน น่าจะอันตรายกว่าไหม
ปั้มก็าซไฮโดรเจนต้นทุนสูง
อันตราย คุณจะตัิงไว้ที่ใหน ?
อาวเห็นแบตเตอรี่เพชรไช้ได้แบบไม่ต้องชาจก็จะมาแทนแบตเตอรี่รุ่นเก่าๆไช่หรอ😅😅😅
โครตเทพเจ้าเลยเฮีย
ทำไม เสียงของแอดมิน ดีจังเลย ไม่มีติดขัด ไม่มีอาการเจ็บคอระคายคอ......เสียงดีจริงๆ.....ขอชม
ขอบคุณสำหรับการรับชมค่ะ
Fuel cell ประสิทธิภาพใช้ไฟฟ้าแยกน้ำเป็น Hydrogen แค่ 50% คือใช้ไฟฟ้า 1 หน่วย ได้ Hydrogen ไปผลิตไฟฟ้าให้รถยนต์ได้แค่ 0.5 หน่วย ต่างจาก Batt ที่เก็บไฟฟ้าได้เกือบ 100% ต้นทุนต่อหน่วย ก็เหนื่อยแล้วจร้า
ก็ว่ากันไปครับตามจินตนาการ
แต่ไม่ได้กระทำครับ
เดี๋ยวก็รู้หมู่หรือจ่า
ผมว่าเขาไม่ได้จินตนาการ แต่เป็นข้อมูล จริง
Hydrogen คือ อนาคต Lithium คือ ปัจจุบัน … Hydrogen หาได้จากน้ำ และไม่มีวันหมด ถ้าสามารถแยกและควบคุม Hydrogen ให้เกิดปฏิกริยาลูกโซ่ แบบดวงอาทิตยได้ จะเป็นแหล่งพลังงานสะอาดตลอดกาลของมนุษย์
ลิเทียมมันมีน้อยถ้าใช้เยอะมันจะแพงมากแถมมีไม่กี่ประเทศด้วย
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ค่ะ
แน่ใจนะน้ำไม่มีวันหมด
@@darkpro143 มั่นใจว่ามนุษยสูญพันธ์ก่อนน้ำหมดไปจากโลก
@@darkpro143
ลิเทียมน่าจะหมดก่อนน้ำ ใช้น้ำกันเยอะๆ เกาะต่างๆจะได้ไม่จม ขอโทษครับ ถ้าไม่พอก็ขอใช้ฉี่คนแทนก็แล้วกัน ☺ don't take it serious
ไฮโดรเจนมันจะตอบโจทย์หรือไม่มันอยู่ที่เทคโนโลยี วันหนึ่งถ้าเทคโนโลยีทำให้ไฮโดรเจนราคาถูกลงและปลอดภัยมันก็ตอบโจทย์ในการใช้งาน
อะไรที่มันสะดวกและปลอดภัยและดีที่สุดในตอนนั้น สิ่งนั้นแหละคือสิ่งที่เหมาะสมในการใช้งาน รถน้ำมัน รถไฟฟ้า รถไฮโดรเจน มันมีข้อดีข้อเสียหมดแหละแค่เรายอมรับได้มากน้องแค่ไหน
รถแบบไหนที่ประหยัดได้มากที่สุด คนก็จะเลือกแบบนั้น
แต่ ณ ปัจจุบัน ส่วนใหญ่คนจะมองในเรื่องต้นทุนการผลิตมาเป็นลำดับแรกๆ ดังนั้น ถ้าในข้อแรกไม่ผ่าน ก็คงไปต่อยากแล้ว
@F&O👍👍👍
อยากให้แอดเปิดหน้าครับ
Fuel cell เขาพยายามทำมาประมาณยี่สิบกว่าปี ใช้งานได้ดีกับสถานที่บริการ สนามบิน โรงพยาบาล เมื่อมีกรณีไฟฟ้าดับ สิบปีที่ผ่านมาบริษัทญี่ปุ่นมาซื้อกิจการไปทำเอง คือโรงงานที่ทำขาดทุนมาก ของที่ทำออกมาคุณภาพต้องได้ร้อยเปอร์เซ็น การผลิตที่ออกมาของเสียเยอะ ต้นทุนเลยสูง รู้แค่พื้นฐานเท่านั้น Plug Power (PLUG) ,Fuel Cell (Fcel) ความเป็นมาที่ Stock Market ถึงเวลาซื้อหรือยัง?
ผมก็ให้ เครดิตกับรถพลังงานไฟฟ้า และผมก็คิดว่า แบตเตอรี่ในอนาคตจะถูกพัฒนาไป ใช้ ทรัพยากรที่หาง่าย และไม่เกี่ยวกับ ลิเธียมไอออน
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ค่ะ
เหมือนมีระเบิดความดันสูงสุดๆ อยู่ในบ้าน
อุบัติเหตุเพียงครั้งเดียวชิบหายทั้งระแวก ในระยะใกล้เคียงตายอย่างเดียวไม่มีรอด
พลังงานโฃล่าร์เฃลดีกวา่พัฒนาให้ดีกว่าปัจจุบัน
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ค่ะ
CEO ญี่ปุ่น ค่าย รถยนต์ Toyota มั่นใจพลังงาน ฟิวเซลล์ เหลือเกิน แต่นี่เป็น ขั้นแรก ของการตลาด พี่จะให้ผู้ซื้อทดลองใช้
ไฮโดรเจนมีมากท่ีสุด ต้องมีประโยชน์มากเช่นกัน
ก่อนที่คุณจะทำคลิปนี้...คุณจะต้องทำความเข้าใจเรื่องสำคัญๆ 5 เรื่องใหญ่ๆคือ (1) กระบวนการทำงานของ Fuel Cell มันทำงานอย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้างจนได้กระแสไฟฟ้ามาแล้วนำไปเก็บในแบตเตอรี่ก่อนที่จะจ่ายไปให้มอเตอร์ไฟฟ้าหมุนเพื่อส่งกำลังไปขับเคลื่อนรถ ดังนั้นที่คุณเรียกรถพลังงานไฮโดรเจนนั้น...จริงๆมันคือรถไฟฟ้าหรือ EV เช่นกันเพราะฉะนั้นการขับขี่ ความเงียบ สมรรถนะ จะเหมือนรถ EV or BEV ทั่วๆไปไม่ต่างอะไรเลย ต่างกันแค่แหล่งพลังงานไฟฟ้าของรถ BEV มาจากการชาร์จไฟฟ้าที่บ้าน หรือสถานีชาร์จแบบเร็วที่อยู่ตามปั้มหรือ BEV charging station เท่านั้น แต่รถ EV ที่วิ่งด้วยไฟฟ้าที่เกิดจากการอัดก๊าซไฮโดรเจนแรงดันสูงผ่านโปรตอนเมมเบรนที่อยู่ในชุดกล่องของ Fuel Cell โดยไม่ได้มาจากการชาร์จไฟฟ้าจากบ้านหรือตามปั้มข้างทางเหมือนรถ BEV (2)คุณต้องทำความเข้าว่าการจะได้ไฮโดรเจนบริสุทธิ์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายมีต้นทุนสูงไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็ตาม การเก็บรักษาจำนวนมากๆก็มีต้นทุนสูงมากๆ การขนย้ายไฮโดรเจนเหลวมีต้นทุนสูงมาก ถังเก็บไฮโดรเจนเหลวในรถจะต้องหนามากเป็นพิเศษเพราะต้องทนแรงดันก๊าซมหาศาล น้ำหนักถังจะหนักกว่าถังบรรจุLPG/NGV มากๆราคาก็สูงกว่ามากด้วย ต้นทุนจัดตั้งปั้มเติมไฮโดรเจนสูงมากกว่าการทำปั้มน้ำมันหลายเท่า ในขณะที่ต้นทุนทำสถานีแบบควิกชาร์จของรถBEV ถูกกว่าหลายเท่า ที่สำคัญกระแสไฟฟ้ามีสายไฟฟ้าอยู่ทั่วทุกที่อยู่แล้วแทบไม่ต้องลงทุนมากมายแบบสถานีเติมไฮโดรเจน (3) ไฮโดรเจนเป็นก๊าซไวไฟมาก มีโอกาสสูงที่จะเกิดการระเบิดรุนแรงทั้งในรถและที่ปั้ม ความรุนแรงอาจทำให้เกิดความเสียหายไม่ต่างจากระเบิด (4) เมื่อเปรียบเทียบต้นทุนค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร...รถ BEV ถูกที่สุดกิโลเมตรละ 40 สตางค์กว่าๆเท่านั้น รองลงมารถน้ำมัน 2.50 - 3.50 บาทต่อกิโลเมตร(ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันถูกแพงและขนาดซีซีของกระบอกสูบและน้ำหนักรถยนต์แต่ละคัน และ รถไฮโดรเจนต้นทุนต่อกิโลสูงที่สุด(ที่สำคัญไม่มีปั้มให้เติม)เมืองไทยคงเกิดยากมากๆ (5) ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย การเคลื่อนย้ายพลังงาน การจัดตั้งสถานีให้พลังงาน รถ BEVต้นทุนต่ำสุด รถน้ำมันรองลงมา และปั้มไฮโดรเจนแพงที่สุดและที่สำคัญจะต้องห่างไกลชุมชนและคงมีมาตรการควบคุมเข้มงวดมากกว่าปั้มน้ำมันหลายเท่า...ไม่ว่าจะคิดคำนวณด้านใดรถแบบ BEV ได้เปรียบกว่ารถน้ำมัน และรถ EVที่ใช้ไฟฟ้าจากการใช้ไฮโดรเจนไปผลิตกระแสไฟฟ้าผ่านกระบวนการในกล่อง Fuel Cell...หากคุณเข้าใจเรื่องทั้งหมดเหล่านี้ คุณจะไม่พูดว่ารถพลังงานไฮโดรเจน วิ่งเงียบ ไม่มีมลพิษ ปล่อยของเสียเป็นน้ำบริสุทธิ์ เพราะกระบวนการในกล่อง Fuel Cell มันจะเกิดผล 3 ประการ คือ 1. ได้กระแสไฟฟ้าไปเก็บเข้าแบตเตอรี่ 2.ได้น้ำบริสุทธิ์(จริงๆ Pure water) ไม่มีแร่ธาตุอะไรเลย น้ำบริสุทธิ์แบบนี้นักโภชนาการไม่แนะนำให้เอามาดื่ม อาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ จะนำมาดื่มได้ต้องไปผ่านกระบวนการเติมแร่ธาตุที่จำเป็นเสริมเข้าไปก่อนนำมาดื่มกิน 3.จะเกิดความร้อนสูงมากในกระบวนการของFuel Cell จึงต้องมีระบบระบายความร้อนของกล่อง Fuel Cell ด้วย...ในประเทศออสเตเรียมีการทำโรงไฟฟ้าด้วยกระบวนการของ Fuel Cell ขนาดใหญ่มากเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานสะอาดแบบรักโลกสำเร็จแล้ว อนาคตโดยเฉพาะประเทศไทยน่าจะลองทำบ้างดีกว่าการใช้ถ่านหินหรือ LPG หรือพลังงานจากเตาปฏิกรณ์ปรมณู ที่มีอันตรายสูงมากๆและราคาแพงมากๆด้วย แต่ไทยเหมาะที่จะทำ Solar Farm แบบทุ่นลอยน้ำในเขื่อนต่างๆทั่วประเทศรวมทั้งอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศจะได้ไฟฟ้ามาใช้แบบราคาถูกมากๆและปลอดภัยที่สุด...เมื่อไม่นานมานี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต( กฝผ.)ได้เปิดเผยผลงานชิ้นโบว์แดงในการทดลองทำ..." Floating Solar Farm " ไปแล้วที่เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี และมีเป้าหมายขยายไปอีกหลายๆเขื่อนทั่วประเทศ เช่น เขื่อนจุฬาภรณ์ ชัยภูมิ เขื่อนอุบลรัตน์ ขอนแก่น เป็นต้นครับ
นี่คือคนที่รู้จริงครับ
ถูกต้องโดยเฉพาะมาตรฐานความปลอดภัยเรื่องจัดเก็บ ขนส่ง และสถานีบรรจุก๊าซต้องได้มาตรฐานมากๆ
พอถึงเวลาจริงๆ จะมีซักที่คน/ชุมชนที่ไหนยอมหรืออยากให้ไม่สถานีบรรจุก๊าซไฮโดรเจนตั้งอยู่ใกล้ๆ ซึ่งต่างจากสถานีชาร์จไฟที่มีสายไฟเข้าถึงแทบทุกที่อยู่แล้ว และปลอดภัยกว่าหลายเท่าตัว
ที่ไฮโดรเจนอยู่บนสุดของตารางธาตุ มันมีเหตุผลของมัน
เจอผู้รู้จริงแล้ว. จะลองขับสามล้อไฟฟ้าไปเติมดู อยู่ไม่ไกล😍
ควาย เห่ามาซะเยอะ เก่งกว่าโตโยต้าอีก
ชาบู เม้นท์คุณภาพ
ถ้าใช้รถไฟฟ้ากันจำนวนมาก เวลาชาร์ตไฟแต่ละทีก็ใช้เวลานาน คนที่รอชาร์ตไม่ต่อแถวยาวเป็นสิบกิโล นอนรอชาร์ตไฟกันข้ามวันข้ามคืน รถติดเพราะต่อแถวเรียงกันการจราจรเป็นอัมพาตกันทั้งเมือง คนไม่ต้องได้ไปไหนกัน
แบตเตอรี่ ก็ ระเบิด ได้ครับ
เราเตรียมแผนการจัดการขยะแบตเตอรี่จากรถไฟฟ้าอย่างไรบ้าง
ครั้งหนึ่งเราเคยคิดว่าน้ำมันจะมาแก้ปัญหาและข้อจำกัดจากไอน้ำ
และครั้งหนึ่งเราเคยคิดว่าพลาสติกจะช่วยแก้ปัญหาการตัดไม้
แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือเราสามารถแก้ปัญหาหนึ่งได้แต่กลับสร้างปัญหาใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม จริงๆแล้วเราจำเป็นต้องเดินทางมากแค่ไหนกัน
@@dum5855 ผมขอภาวนาให้เป็นจริงอย่างที่ท่านพูดและขอให้ลูกหลานเราอย่าเจอปัญหาอย่างที่ผมพูดเลยครับ ส่วนตัวผม ผมเห็นกับตาตัวเองเลยว่ารถขายของเก่าเทน้ำกรดที่อยู่ในแบตลงท่อระบายน้ำ ก่อนนำเอาไปชั่งกิโลขาย
@@dum5855 นั่นละครับ เรารู้ว่ามันเป็นปัญหาแล้วเราเตรียมตัวรับมือกับปัญหากันอย่างไร ผมถึงพูดไงว่าเราแก้ปัญหาหนึ่งเพื่อสร้างปัญหาที่ใหญ่กว่าในอนาคต
@@opartsauemun4085 เอามารีไซเคิลได้ โง่ประเนี้ยไม่รู้ว่าแบตเตอรี่เนี้ยเค้าเอาไปทำอะไร
@@sutheeinkaew9212 time will tell.
@@sutheeinkaew9212 พลาสติกก็รีไซเคิลได้ทำไมโลกเีายังเกิดปัญหาพาสติกล้นโลก เกิดไมโครพลาสติกปนเปื้อนในท้องทะเล เคยได้ยินบ้างไหมคนแสนรู้
ผม..ด้องการผลิตรถยนต์พลังงานอ๊อกชิเจน...ขับโดยไม่ต้องเติมลมมันคือรถพลังงานหมุนเวียนเติมอัตโนมัตและนี่คือรถในรูปแบบใหม่ที่สุดยอด
มันดูน่ากลัวถ้าเกิดอุบัติเหตุชนหนักจะระเบิดมั้นครับ
แล้วจะไปหา ไฮโดรเจนจากไหนครับ?
เมื่อไหร่จะมีรถพลังงานน้ำท่อม
คุณก็เอาพลังงานไฮโดรเจน
ที่สะอาดไปตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้า
ถ้าราคารถคันนั้นแพง และราคาเชื้อเพลิงที่เติมลงในรถคันนั้นแพง ก็ไม่มีใครนิยมใช้หรอกครับ
และนี่ก็คือ เหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้รถพลังไฮโดรเจนไม่เป็นที่นิยม และแพร่หลายเท่าที่ควร
BEV ตั้งสถานีชาร์จที่ไหนก็ได้เพราะมีสายไฟแถบจะทุกที่ แม้แต่ในบ้านตัวเอง
ไฮโดรเจน ต้องใช้ความปลอดภัย และมาตรฐานกำกับดูแลสถานีจัดเก็บ ขนส่งเชื้อเพลิงที่สูงมากๆ ดังนั้นจะตามมาด้วยต้นทุนที่สูงไปด้วย และจะมีใคร/ชุมชนไหนอยากให้สถานีไฮโดรเจนมาตั้งกลางเมือง หรือใกล้แหล่งชุมชน
มีเหตุผลที่ไฮโดรเจนอยู่บนสุดในตารางธาตุ
ในอนาคต ไฮโดรเจนในรถยนต ควรไปถึงจุดที่ ใช้น้ำเติมเครื่องแยกไฮโดรเจน ที่จุดจ่ายเชื้อเพลิงเลย ส่วนรถก้แค่มาเติมไฮโดรเจน จากหัวจ่าย … ไม่มีการขนส่งใดๆ ไม่เหมือนLPG, NGV เพราะ ไฮโดรเจนสร้างจากน้ำ แยกเป็น ออกซิเจน กับ ไฮโดรเจน … เหตุผลที่อยุ่บนสุดในตารางธาตุนั้น แสดงให้เห็นว่า ไฮโดรเจนเป็นพลังงานตลอดกาลของจักรวาล แม้มีเพียง 1 โปรตอน นิวตรอน อิเลคตรอน ก้สามารถสร้างปฏิกริยาลูกโซ่สร้างพลังงานได้เป็นล้านๆปีกับดวงอาทิตยทุกดวง
อย่าลืมนะครับว่าลิเทียม มีน้อย ถ้าใช้เยอะราคาจะเพิ่มอย่างมากแน่นอน ละคุณจะซื้อไม่ไหว
@Arwen Undomiel 👍👍
@@arwenundomielles จากที่อ่านแสดงว่าคุณยังมีความรู้ด้านเคมีไม่มากพอจะเข้าใจประเด็น ควรศึกษาเพิ่มเติมครับ
ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็นครับ
@@Martin_Huang จากที่อ่านแสดงว่าคุณทำใจแล้วว่าจะอยู่ไม่ถึงวันนั้น
พัฒนาช้าไป น่าจะนำมาเป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมันและแก๊สได้แล้ว แก๊สหุงต้มด้วย.
คิดว่าต่างฝ่ายก็ต่างมีข้อด้อย
กล่าวคือ พลังงานไฮโดรเจนใช้ต้นทุนในกระบวนการผลิตสูง(ในกรณีของ Green Hydrogen),ข้อจำกัดของระเบียบกฎเกณฑ์ข้อบังคับต่างๆที่(อาจจะ)เกิดขึันในการลงทุนสร้างสถานีบริการน่าจะมีมากพอสมควรส่งผลให้ราคาต้นทุนสูง อันอาจจะส่งผลให้ราคาพลังงานสูงขึ้นมากตามไปอีก(นอกเหนือจากชั้นตอนการผลิต)เช่นกัน
ในส่วนของ BEV ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ และแหล่งที่มาของแร่ธาตุวัดถูดิบ(ที่อาจมีการตัดไม้ทำลายป่า)
เทคโนโลยียานยนต์ทั้งสองรูปแบบ น่าจะยังคงต้องได้รับการพัฒนาต่อไป...อย่างไม่มีวันสิ้นสุด (เช่นเดียวกับเครื่องยนต์สันดาป (ICE) ที่หากไม่เป็นต้นเหตุของมลภาวะฯ และปัญหาความผันผวนด้าราคา(น้ำมัน)เชื้อเพลิง
ยานยนต์สันดาปก็จะยังคงต้องพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั่งเช่นกัน
รถไฟฟ้าตอบโจทย์กว่ารถไฮโดรเจน เพราะชิ้นส่วนมีน้อยกว่ามาก ค่าบำรุงรักษาจึงถูกมากเมื่อเทียบกับรถสันดาบ และไฟฟ้าก็ประหยัดเงินได้มากกว่าเยอะถ้าเทียบกับรถสันดาบ ส่วนเรื่องแบตในอีกไม่กี่ปีจะมีการพัฒนาไปมาก ตอนนี้อีลอนมัสกำลังวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ให้มีอายุใช้งานได้นานขึ้น เริ่มจาก 20-30 ปีก่อน และเค้าก็จะทำให้แบตมีอายุใช้งานได้ถึง 100 ปี ซึ่งมีแนวโน้มว่าเป็นไปได้ เพราะฉะนั้นรถไฮโดรเจนจึงไม่มีทางเกิดได้ และรถน้ำมันก็จะค่อยๆหายไปเรื่อยๆจนหมด และจะเหลือแต่รถไฟฟ้าที่มีแบตใช้งานได้ตลอดอายุของรถ
รถสันดาปจะเริ่มมีปัญหาในการขับขี่ เพราะประเทศต่างๆทั่วโลก ต่างออกกม.เพื่อควบคุมมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น รถที่มีการปล่อย
ค่าไอเสียจะไม่สามารถวิ่งในบางพื้นที่ หรือ การต่อทะเบียนใหม่ จะกำหนดมาตรฐานค่าไอเสียที่ปล่อยออกมาจากรถ
ให้ต่ำลงเรื่อยๆ จนเท่ากับ 0 ในที่สุด นั่นหมายถึง รถสันดาปจะไม่สามารถต่อทะเบียนได้อีกต่อไป จะเหลือเพียงรถยนต์ไฟฟ้า
ดังนั้น ถึงแม้เราจะอยากใช้รถสันดาปต่อ ก็คงไม่สามารถขับบนท้องถนนได้ เพราะกฎหมายในอนาคตจะเป็นตัวบังคับ
ปีหน้า เหมาะ รถแบตเตอรี่ (ไม่เกิน3 ตัน)2040เหมาะไฮโดรเจนฟิวเอล(ถังไม่ควรเกิน 200กก)สันดาปไฮโดร2025 เหมาะ รถ50 ตัน
ทำมัยเทียบกับ ฟอสซิล ?
แล้วราคา ในการเติมไฮดรเจน ต่อกิดลเมตรละ เท่าใหร่ไม่เห็นพูด ไครที่สามรถผลิต และเครื่องผลิตกาซ จะหาได้จ่กที่ใหน?
fuelcell น่าจะดีสุด เหมือนในหนัง ใช้เสร็จก็ทิ้ง
รถไฮโดรเจนอาจเหมาะกับรถบรรทุก 10ล้อ 18ล้อ หรือเรือเดินสมุทธขนาดหนักก็ได้ รถไฟฟ้าน่าจะมีปัญหาในพื้นที่เกาหลีญี่ปุ่นที่มีความลาดชันสูง คือเอารถไฟฟ้าบรรทุกคนไม่กี่กิโลคงไม่มีปัญหาแต่ในความเป็นจริงการขนถ่ายสินค้าทั่วไปบรรทุกน้ำหนักร่วม40-50ตัน รถไฟฟ้าจะต้องใช้แบตเตอรี่หนักเท่าไรเพื่อขนของหนักขนาดนี้แถมไปได้ไกลแค่ไหนในโจทย์ที่บรรทุกของหนัก40-50ตัน แถมมีพื้นที่ลาดชันแบบเกาหลีญี่ปุ่น แต่ถ้าสร้างจุดเติมไฮโดนเจนดีๆการใช้รถไฮโดนเจนเติมขนส่งระหว่างจังหวัดน่าจะตอบโจทย์นี้ง่ายกว่าเพราะไม่เสียเวลาชาร์จสินค้าก็สามารถไปมาได้ทุกวันไม่ใช่ขาไปส่งพลังงานหมดรออีก8ชม.ชาร์จแล้วค่อยส่งใหม่แบบนั้นการขนส่งทั่วเกาหลีญี่ปุ่นน่าจะมีปัญหาแน่ๆ อันนี้ไม่ใช่การด่าทอรถไฟฟ้านะแต่เป็นมุมมองที่ว่าทำไมรถไฟฟ้าไม่ตอบโจทย์ในเกาหลีญี่ปุ่นและรถไฮโดรเจนทำไมสองชาตินี้เห็นว่าตอบโจทย์กว่า
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ค่ะ
รถไฟฟ้าใครเขาชาร์จกัน ไปได้ไกลเท่าที่มีราง อย่าว่าไม่กี่ 10 ตันเลย เป็นพันตันยังได้ ใช้คนขับแค่คนสองคนเองด้วย ไทยเรายังไม่ถึงกับไฟฟ้า แต่ทางคู่ทั่วประเทศก็ช่วยได้มาก ประหยัดกว่ารถบรรทุกไม่ว่าจะน้ำมัน ไฮโดรเจน หรือ แบต ก็ตาม 😊
@@methaasi4097 ก็เอามาขนส่งในบ้านเราสิครับ ผลิตได้พอมาแทนที่10ล้อ รถพ่วงหรือยังล่ะครับหรือผลิตได้แค่สองร้อยคันต่อปีเลยมาไม่ถึงบ้านเรา มันผลิตมาให้เราใช้ได้จริงหรือเป็นของตัวอย่างในต่างประเทศล่ะครับ
@@methaasi4097 รถไฟฟ้าส่วนบุคคลยังจองแล้วจองอีกได้กันปีไม่เกิน6หมื่นคัน แล้วมีปัญญาไปแย่งแบตเตอรี่มาทำรถ10ล้อ รถพ่วงขายหรือมาแทนที่ได้จริงๆหรือครับ หรือแค่ดูการทดสอบรถบรรทุกไฟฟ้ากันครับ
@@siamwittheerasasawat7704 มีด้วยหรือรถไฟฟ้าส่วนบุคคล เอารางที่ไหนวิ่งกัน ในเมืองไทยมีแค่ รฟท. รฟม. กะ กรุงเทพ เท่านั้นที่มี ไม่นับรถไฟในสวนสนุกนะ นี่รู้จักจริงๆ หรือเปล่าว่ารถไฟฟ้ามันหน้าตายังไง
อนาคตที่วูบดับครับ เพราะเครื่องยนต์สันดาบเขาจะไม่ใช้กันแล้วเพราะมีชิ้นส่วนสึกหรอเยอะมากกว่ารถEV555
ทั้งหมดมันคืออนาคต แต่ที่จับต้องได้ตอนนี้ ผมใช้แก๊สไปพลางๆก่อนครับ 😅😅😅😅
ระบบไฮโดรเจนใช้กับเรือหน้าจะเหมาะสมกว่า กรือไม่ก็โรงงานผลิตไฟฟ้า ถ้าทำได้
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ค่ะ
ไฮโดรเจนที่คนไม่นิยมคือ มันจะต่างอะไรกับเติมน้ำมันครับ คนก็ใช้น้ำมันดีกว่าเพราะราคาไฮโดรเจนเท่าราคาน้ำมัน แต่ถ้ารถไฟฟ้ามันสามารถติดโซล่าเซลล์ที่บ้านได้แล้วชาร์จเก็บพลังงานไว้ชาร์จรถอีกที ชาร์จเต็มวิ่งได้200ถึง300กิโลเมตรวิ่งในเมืองไปทำงานสบายเลยวิ่งได้เกือบอาทิตย์ต่อ1การชาร์จ😂😂😂😂 อีลอนมาคพูดถูกต้องโตโยต้าโง่มากๆสุดท้ายมันจะเจ้ง้หมือนโนเกียที่ดื้อด้าน😂😂😂
ไฮโดรเจนดีกว่าและเติมเร็วกว่าไม่มีมลพิษ และการซ่อมแซมน่าจะถูกกว่าแบตเตอรี่เยอะ ถ้าทำเป็นเครื่องยนต์สันดาปจะดีกว่าเอามาผลิตไฟฟ้าให้มอเตอร์
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ค่ะ
ถ้าเอามาทำสันดาปมันก็เป็นมลพิษนี้ครับ
ไฮโดรเจนแพงกว่าน้ำมันอีก พูดแค่นี้ก็คงเข้าใจ ไม่มีเหตุผลที่จะเลือกใช้รถไฮโดรเจน
@@DarkSound_Ds ไฮโดรเจนไม่มีมลภาวะครับ
@@user-rl6fu5zv9y ถ้าเอาไปสันดาปนะหรอครับ
มันจะไวไฟระเบิดง่ายไหมไฮโดรเจนเวลาเกิดอุบัติเหตุหรือรั่วซึม
รถไฟฟ้าก็เกิดไฟไหม้ได้ง่ายเหมือนกันถ้าตัวแบตเกิดความเสียหาย
น่าสนใจกว่ารถไฟฟ้า
เหมือนจะไปevไม่ได้เลยดันทางอื่น เหมือนโนเกียที่ดันซิมเบี้ยนแล้วมาดันวินโดว แต่ต้องจบที่แอนดรอยอยุ่ดี
ไม่ต้องเติมน้ำมัน..ไม่ต้องชาร์จไฟรถพลังงานอ๊อกชิเจนพลังหมุนเวียนขับอย่างเดียว...แรงสุด
ดีครับ อยากให้ทำคลิปไฮโดรเจนให้เยอะๆครับ มันคืออนาคตและจุดเปลี่ยนของประเทศไทย ทุกวันนี้เราถูกกลไกของตลาดครอบงำการใช้สินค้าและบริการ ถ้าดูกันยาวๆจะเห็นเลยว่าแบตเตอรี่มีแนวโน้มราคาสูง เพราะจะต้องใช้ปริมาณมหาศาลมาก ขนาดชิปเล็กนิดเดียวยังขาดตลาดในปัจจุบันแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถมีนำ้หักหลายร้อยกิโล ยิ่งเมืองไทยไม่มีทรัพยากรที่ผลิตแบตเตอรี่เลยต้องซื้ออย่างเดียวไม่ต่างจากน้ำมัน มีแต่เสียดุลการค้าให้ประเทศอื่นๆ ถ้าหันมาพัฒนาไฮโดรเจนจะได้ประโยชน์มหาศาล ผู้เชี่ยวชาญในไทยมีมากมายอยู่ ทรัพยากรมากมายที่เปลี่ยนเป็นไฮโตรเจนได้ เช่นพืชไร่ พีชสวน วัสดุทางการเษตร ล้วนมีองค์ประกอบไฮโดรเจน ทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์โดยตรงเงินหมุนเวียนในประเทศ หรือแม้แต่ขยะ น้ำเสีย สามารถสกัดไฮโดรเจนบริสุทธิ์ได้ ปัจจุบันทั่วโลกหันมาพัฒนาไฮโดรเจน ที่ไม่ต้องเก็บในรูปของเหลวหรือก็าซได้แล้วและไฮโดรเจนก็เป็นพลังงานที่สะอาดที่แท้จริงที่ดูดซับคาร์บอนโดยต้นไม้ ส่วนแบตเตอรี่ต้องไปดูต้นทางการผลิตไฟฟ้าว่าปล่อยคาร์บอนมากน้อยเพียงใด🥰
เครื่องยนต์สันดาบ ก็จะยุ่งอีกหลายๆอย่าง เหมือนเดิม ใน ขณะที่พฤติกรรม ของคนนั้นแบบเปลี่ยนเป็นง่ายๆไปแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าไม่ต้องมีอะไรให้ยุ่งยากเหมือนเครื่องยนต์สันดาบ ไม่น่าจะเวิร์ค
แอดอยากใช้ รถไฮโดรเจนมากกว่า บีอีวี หรือไม่ครับ😁
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ค่ะ 😊👍
ดูแล้วต้นทุนสูงมากรอรถพลังงานแสงอาทิตย์ดูจะง่ายกว่า
การเดินทางในอนาคตเขาใช้พลังจิตสามารถเคลื่อนย้ายมวลสารได้ด้วย+ได้ความเร็วที่เร็วกว่าแสงอีกถามอีลอนดูดิจริงอ่ะป่าว
เปลี่ยนจากเติมไฮโดรเจนเป็นเติมน้ำแทนได้ไหมครับ อันนี้ผมถึงสนใจมากกว่ารถไฟฟ้า ปลอดภัยด้วยนะเออ
ชอบ
ยังไงก็ปิดท้ายที่ไฟฟ้า .......... แค่เปลี่ยนแบต/ไฮโรเจน/น้ำมัน อนาคตอาจมีอะไรใหม่ๆ
มีใครทราบไหมครับว่า รถไฮโดรเจนมีชิ้นส่วนเท่ากับหรือน้อยกว่ารถพลังงานฟอสซิล
ไฮโดรเจนเหมาะสำหรับกับการขนส่งเช่นรถบรรทุกครับ
อย่างน้อยก็ไม่ได้เปลี่ยนแบตราคาแพงในระยะยาว
เซลเชื้อเพลิงที่ผลิตไฟฟ้าอะ ราคาแพง ผลิตจากแร่หายากมาก
ขนาดชาติที่มีแนวคิดนี้มีโรงงานและพัฒนามาหลายปี แต่กลับแทบไม่มีใช้ในประเทศนั้นๆเลย ไฮโดรเจนส่งคนไปอวกาศ แต่ก็มีจรวดที่ระเบิดกลางทางก็หลายลำ เท่าที่ฟังเก็บเอาไปสร้างจรวดอย่างเดียวเถอะ
เชื่อเหอะไอ้คุณมัสมันก็แอบคิดอยู่เหมือนกัน😅
คิดไกลเกินคับเอามาไช้กับเครืองสันดาบเลยง่ายกว่า
เหมือนย้อนกลับไปใช้รถNGV ....
ไฮโดรเจนคือระเบิดดีๆนะครับ
ทำออกมาเพื่อฝังตนเองลึกๆๆลงไปอีกเน่าแท้ๆ
ฟอสซิล ถ่านหินมีที่ดาวอังคาร และ ดวงจันทร์ สามารถเอามาสกัดไฮโดรเจนได้ อนาคตได้ใช้แน่ๆทั้งจักรวาล
ในอนาคตเทคโนโลยีนี้จะถูกนำมาทดแทนเชื้อเพลิงจากฟอสซิล...เราก็แค่รอการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ให้ก้าวหน้าและมีประสิทธิภาพมากพอ
ถ้าไฮโดรเจน เเพงกว่าน้ำมัน เเล้วจะดีได้อย่างไร
Toyota คือนัมเบอร์วันของผมเสมอ 😎👍
ตั้งใช้รถผ่านมือมาไม่ต่ำกว่าร้อยคัน
อีซูซุ กับ มิตซูบิชิ ไม่เคยทำให้ผมพิศวาสได้เลย
เป็นไรมากไหม
รถไฮโดรเจ้นมีเศรษฐีเท่านั้นที่ซื้อ
รถยนต์ไฮโดรเจนเหมาะเอามาทำคาร์บอมบ์ แรงดันสูงมาก...
ชอบ Commentนี้...คลายเครียด...555
DD√√√
ตลาดน้ำมันเปลี่ยนผ่านไปไฟฟ้า ไฮโดรเจน พัฒนาอยู่น้อยมากๆและถ้าการเติมราคาก็ย่อมสูงกว่าและการทำตลาดน้อยความนิยมก็น้อยย่อมทำตลาดได้ไม่สมกับการลงทุนแน่นอนทุนทุ่มทุนเสียป่าว และ ยังไม่ถึงเวลานะช่วงนี้อย่างน้อย 50-100ปีถึงจะเหมาะสม
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ค่ะ
Fossil คือพื้นฐานของทุกสิ่งบนโลก รถไฟฟ้าเองไม่สามารถประกอบเป็นคันได้ถ้าไม่มีการกลั่นน้ำมันดิบ พลาสติค หรือโพลีเมอร์ ล้อยาง แม้กระทั่งพื้นถนน
ถ้าเครื่องไฮโดรเจน มัสค์จะไม่มีเวลาพอที่จะสามารถพัฒนาให้ล้ำหน้าญี่ปุ่นได้เลย ก็จำต้องออกมาขวางเต็มที่
ผมจะช่วยผลักดันรถยนต์ไฮโดรเจน และจะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเจ๊งไปเลย
ผมจะสนับสนุนรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงจากเตาปฏิกรณ์อาร์ค เหมือนที่อยู่บนหน้าอกของไอรอนแมน ตอนนี้ผมกำลังติดต่อ โทนี่สตาร์คอยู่ รอการตอบกลับ
😅😊🙏ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์สนุกๆ ค่ะ
มันอยู่ที่ว่าคนธรรมดาผลิตเองไม่ได้และราคามันแพงเราก็ทำอะไรไม่ได้....
ไฮโดรเจ้นทำยาก ถ้าขายนายทุนรวย ส่วนแบตลิเที่ยม ชาร์จเองได้ที่บ้านเลย แค่นี้ก็รู้ละครับ
@jirapong krasin เค้ากำลังวิจัยให้แบตมีอายุใช้งานได้ 100 ปีครับ และมันทำได้แต่ต้องขายแบตแบบนี้ไปก่อน เพราะลงทุนไว้เยอะ อีกไม่เกิน 5 ปีจะได้เห็นแบตที่อยู่ได้ 100 ปี อีลอนมัสเคยพูดไว้
ถ้าเราต้องการเอาชนะไฮโดรเจนที่เติมภายใน 3 นาทีเต็มมีอีกวิธีนึงครับการสลับแบตเตอรี่เหมือนกับนีโอภายใน 3 นาทีไม่ต้องเสียเวลาชาร์จนานจนเกินไป
รถไฮโดรเจนเกิดอยาก ชาตินี้ดูแล้วคงไม่ทันได้ใช้ อุปสรรคเยอะมากถึงมากที่สุด ตอนนี้ขอใช้รถ BEV ก่อนแล้วกัน เพราะที่ผ่านมา หลายสิบปีที่ โตโยต้าพยายามพัฒนารถไฮโดรเจนแต่ก็ยังไม่สามารถลดอุปสรรคได้ แต่ก็หวังว่าภายใน 20-30 ปีนี้รถไฮโดรเจนคงจะสามารถพัฒนาจนลดปัญหาอุปสรรคได้เป็นที่น่าพอใจง
เพื่อประโยชน์สูงสุด รถไฟฟ้าก็ใช้ในระบบราง แต่เครื่องบินก็ยังคงใช้น้ำมัน เลือกได้ก็เลือกใช้ตามความเหมาะสมกันไปนะครับ อย่าไปอวยกันให้เยอะจนเกินงาม.
ผมว่าดีกว่าน่ะ แค่ค่ายำรุงรักษาละ อันนี้ ยังไมรู้ ถ้า ค่าแบต แพงเกินครึ่ง ของราค าก็ไม่ไหว
ไฟฟ้า => รถไฟฟ้า , ไฟฟ้า => ทำไฮโดรเจน => รถไฮโดรเจน
ต้องเอามารวมกัน
ผมคิดว่าระบบไฮโดรเจน อย่างน้อยก็สามารถเอามาใช้ผลิตไฟฟ้า ซึ่งถ้าผลิตเพื่อใช้กับรถยนต์ก็ยิ่งดี ด้วยเทคโนโลยี่ในยุคนี้ สามารถใช้ได้ไม่ต้องรอแสงอาทิตย์ ไม่ต้องรอลม ใช้แค่น้ำแล้วแยกไฮโดรเจนด้วยไฟฟ้า ส่วนพลังงานด้านอื่นต้องพึ่งพาแร่หายากมากมาย และถ้าแร่หายากพวกนี้หมดไป จะใช้อะไร ดี ล่ะ แต่น้ำนั้นมีอยู่ในทุกๆที่ และเมื่อเอาไฮโดรเจนสองอะตอมรวมกับออกซิเจนหนึ่งอะตอม เราก็จะได้น้ำ ซึ่งมีประโยชน์ต่อมนุษย์อย่างมาก
การผลิตไฮโดรเจนเชิงพาณิชย์ ไม่ได้ใช้วิธีแยกด้วยไฟฟ้านะครับ
@@NormalVillager
ชาวบ้านไม่ธรรมดา ☺