สุนทรียะแห่งศิลปะ : ราคาผลงานศิลปะ(ภาพวาด)ขึ้นอยู่กับอะไร

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 7 ก.ย. 2024
  • ราคาผลงานศิลปะขึ้นอยู่กับอะไร
    ผมมักเจอกับคำถามนี้บ่อยๆ ว่า ราคางานภาพวาดนั้นขึ้นอยู่กับอะไร และจะตั้งราคาผลงานที่มีคนมาขอซื้อเท่าไหร่ดี หลายคนคงเคยสงสัยนะครับว่า ทำไมภาพวาดบางภาพถึงมีราคาถูกแสนถูก แต่บางชิ้น กลับมีราคาที่แพง และบางชิ้นอาจจะถึงขั้นที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ ปัจจัยอะไรที่เป็นตัวบ่งบอกมูลค่าของภาพวาด ตัวชี้วัดที่พอจะใช้เป็นเกณฑ์เพื่อบอกราคาของผลงานศิลปะอย่างเป็นรูปธรรม มีดังต่อไปนี้
    ประการแรกก็คือความเป็นชิ้นเดียวในโลก
    ผลงานจิตรกรรมที่ศิลปินหรือจิตรกรสร้างสรรค์ขึ้นมานั้นสามารถพูดได้ว่า มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกเท่านั้น เนื่องจากศิลปินวาดภาพออกมาทีละชิ้น ๆเท่านั้น การที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อราคา
    ประการต่อมา ก็คือ ชีวิตและจิตวิญญาณของผู้สร้าง กว่าศิลปินจะสร้างสรรค์ผลงานออกมาแต่ละชิ้น เริ่มต้นจากแรงบันดาลใจอย่างลึกซึ้ง ได้มาจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน เขาต้องทุ่มเทความสามารถทั้งแรงกาย แรงใจ ทุ่มเทพลังทางความคิด และเวลาส่วนหนึ่งของชีวิตต้องหายไปกับการสร้างสรรค์ผลงาน ใครที่ได้ครอบครองผลงาน ไม่ใช่จะหมายความว่า ได้ไปเพียงผลงานเท่านั้น แต่มันรวมไปถึงการได้ชีวิต จิตวิญาณของศิลปินผู้นั้นติดไปด้วยโดยปริยาย
    ประการที่สาม สุนทรียภาพ
    ผลงานที่ศิลปะดี เมื่อได้มองแล้ว จะต้องให้ความรู้สึกอะไรบางอย่าง อันส่งผลต่อความคิดและอารมณ์หรือเรียกว่าสุนทรียภาพ เกิดความปีติยินดีที่ได้รับชมตรึงตา ตรึงใจ อาจจะถึงขั้นตกอยู่ในภวังก์ไปชั่วขณะหนึ่ง ความรู้สึกตรงนี้ไม่สามารถตีออกมาเป็นราคาได้ ความรู้สึกแบบนี้หาซื้อไม่ได้ สิ่งนี้ก็เป็นอีกเหตุปัจจัยที่มีผลต่อราคาของผลงานศิลปะชิ้นนั้น
    ประการที่สี่ ชื่อเสียงเรียงนามของศิลปิน
    ตัวของศิลปินเอง มีความสำคัญอย่างมากต่อการกำหนดราคางาน มูลค่าของผลงานศิลปะนั้นขึ้นอยู่กับตัวศิลปินเต็มๆ ยิ่งศิลปินมีชื่อเสียงมากเท่าไหร่ มูลค่าของผลงานก็ยิ่งสูงขึ้นด้วย มูลค่าหรือราคาของภาพวาดจะเติบโตไปพร้อมๆกับอายุของศิลปิน วันนี้ศิลปินอาจจะยังไม่มีชื่อเสียง แต่เมื่อเวลาผ่านไป จากคนที่โนเนมไร้ชื่อเสียง เขาจจะกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงขึ้นมาก็ได้ เมื่อถึงวันนั้นผลงานอาจจะแพงจนหลายคนไม่สามารถจับต้องได้ เมื่อเป็นคนมีชื่อเสียงก็จะเป็นที่สนใจ แน่นอนว่า ยิ่งดังผลงานก็ยิ่งเป็นที่ต้องการมากขึ้น มูลค่าของภาพวาดของเขาก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น เป็นเงาตามตัว เรื่องแบบนี้มีมาแล้วทุกยุคทุกสมัยในประวัติศาสตร์
    ประการที่ห้า ความต่อเนื่องในการทำงาน และการทำประชาสัมพันธ์
    อย่างไรก็ตามถึงแม้วันนี้ผลงานอาจจะมีราคาที่แพง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ราคาผลงานอาจจะลดลงไปจากราคาเดิมก็เป็นไปได้
    สาเหตุอาจจะเป็นเพราะศิลปินไม่ขยันสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ หรือไม่ก็อาจจะไม่มีการทำประชาสัมพันธ์เลย ไม่มีการเคลื่อนไหวในวงการ การเสื่อมความนิยมก็มาเยือน และในที่่สุด ก็จะถูกโลกลืม
    ประการที่หก การมีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์
    ศิลปินที่ผลงานมีมูลค่าไปตลอดกาล ต้องมีความสําคัญกับประวัติศาสตร์ศิลปะในแง่มุมใดแง่มุมหนึ่ง มีผลงานปรากฎอยู่ในคอลเลกชั่นสะสมของพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง ผลงานบางชิ้นอาจจะถูกนำไปใช้ในการอ้างอิงบอกเล่าเรื่องราว หรือเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ก็ทำให้ภาพวาดของศิลปินผู้นั้นมีมูลค่าสูงขึ้นตามกาลเวลาที่ผ่านไป
    ผลงานศิลปะชิ้นที่รู้เส้นทางที่มาที่ไปชัดเจน มีหลักฐานอ้างอิงได้ว่าเป็นผลงานของใคร สืบทราบได้ว่า เคยผ่านมือมหาเศรษฐีคนไหนมาบ้าง ย่อมมีมูลค่ามากกว่าชิ้นที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน อย่างแน่นอน
    ประการที่เจ็ด คุณภาพของวัสดุที่ใช้
    อย่าคิดว่าเรื่องของวัสดุในการสร้างงานไม่สำคัญ วัสดุมีส่วนสำคัญอย่างมากเลยทีเดียว ที่ทำให้ผลงานมีราคาที่ไม่เท่ากัน วัสดุที่มีคุณภาพจะมีราคาแพงนั่นก็คือต้นทุนที่ส่งผลต่อราคาของผลงาน และมักใช้เป็นข้ออ้างในการต่อรองราคาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    ประการที่แปด เรื่องของขนาด
    ขนาด ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ราคาผลงานศิลปะมีราคาแตกต่างกัน ผลงานที่มีขนาดใหญ่ย่อมเจอปัญหา มีความยุ่งยากในการผลิตมากกว่าผลงานขนาดเล็ก ใช้เวลาในการสร้างสรรค์นานกว่าและใช้วัสดุมากกว่า ส่งผลให้มีต้นทุนสูงขึ้น ราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม อาจจะไม่เสมอไปสำหรับเรื่องนี้
    เคยมีศิลปินขายงานที่มีขนาดใหญ่ ตอนที่ยังไม่มีชื่อเสียงด้วยราคาที่ถูกกว่าผลงานชิ้นที่มีขนาดเล็ก ขายตอนที่เขามีชื่อเสียงแล้ว
    ประการที่เก้า ค่านิยมและรสนิยม อิทธิพลของค่านิยมทางศิลปวัฒนธรรมกับรสนิยมในความต้องการของคนซื้อ ที่เปลี่ยนไป รสนิยมและค่านิยมมักเปลี่ยนแปลงไปตามกาลสมัย สิ่งนี้ก็เป็นตัวแปรโดยตรงที่ทําให้มูลค่าของงานศิลปะ มีขึ้น มีลง
    ประการที่สิบ เนื้อหาสาระ
    ด้านเนื้อหาก็มีส่วนสำคัญ เป็นตัวแปรหนึ่ง ที่ทำให้ผลงานศิลปะหรือภาพวาดชิ้นนั้น มีราคาถูกหรือแพง ภาพที่ถูกจริตคนหมู่มากมักจะขายได้ง่าย หากมีจำนวนน้อยก็ยิ่งมีราคาที่แพง เคยมีผลงานวิจัยออกมาว่า ภาพที่มีเนื้อหาเชิงบวกและใช้สีที่สดใสโดยเฉพาะโทนสี ออกแดงนั้น มีคนสนใจมากกว่าและขายได้ราคาดีกว่าภาพที่ใช้สีมืดๆไม่สดใส มีเนื้อหาเชิงลบ
    การตั้งราคาสำหรับการซื้อขายคงไม่มีกฎเกณฑ์หรือกติกาใดๆมากำหนดใช้เป็นตัวชี้วัดชัดเจนได้ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ซื้อกับผู้ขาย ตกลงปลงใจกันได้ราคาก็จะเป็นไปตามนั้น และเป็นเรื่องธรรมดาถ้าหากว่าศิลปินยังไม่มีชื่อเสียง ราคาก็อาจจะถูกกำหนดโดยผู้ซื้อเป็นหลัก ไม่มีราคากลาง เพราะขึ้นกับความพึงพอใจล้วนๆของทั้งสองฝ่าย
    แต่หลังจากซื้อขายกันแล้วราคาจะแพงขึ้นหรือถูกลง ก็ขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัยต่างๆตามที่ผมพูดมาข้างต้น ว่ากันว่า ราคาผลงานจะพุ่งสูงขึ้นไปอีกหากศิลปินผู้วาดได้เสียชีวิต
    ทั้งหมดที่กล่าวมา ล้วนเป็นเหตุและปัจจัยที่มีผลต่อราคาผลงานศิลปะ
    ................
    "สุนทรียะแห่งศิลปะ"
    สนับสนุนโดย
    สาขาวิขาจิตรกรรมไทย ภาควิชาศิลปะประจำชาติ วิทยาลัยเพาะช่าง
    มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
    บรรยาย โดย ผศ.ฉัตรชัย ศิริพันธุ์
    ผลิตสื่อโดย Aesthetics of life
    12 ตค. 65

ความคิดเห็น • 9

  • @Boomthanaphat
    @Boomthanaphat 3 หลายเดือนก่อน

    สุดยอดครับ

  • @MrPhuravi
    @MrPhuravi 7 หลายเดือนก่อน

    ยอดเยี่ยมที่สุดเลยครับ

  • @kuikai100
    @kuikai100 ปีที่แล้ว +1

    thanks

  • @Uknowdonttouchmelife
    @Uknowdonttouchmelife 11 หลายเดือนก่อน +2

    คลิปดีครับ ช่วยกันส่งเสริมศิลปะครับ

    • @aestheticsoflife8006
      @aestheticsoflife8006  11 หลายเดือนก่อน

      ขอบคุณมากๆเลยครับ

  • @SiamMagicalArt
    @SiamMagicalArt 11 หลายเดือนก่อน

    1:39 อันนี้ต่างหากครับที่เป็นหัวใจจริงๆ อันอื่นเป็นเรื่องของค่านิยม

  • @prrpr448
    @prrpr448 ปีที่แล้ว

    ขึ้นอยู่กับเงิน
    ถวัลย์ได้กล่าวไว้แล้ว

    • @aestheticsoflife8006
      @aestheticsoflife8006  11 หลายเดือนก่อน

      ฮ่าๆ ใช่ส่วนหนึ่งครับ มีอะไรแนะนำบ้างไหม ขอบคุณมากเลยครับ