ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
กราบ นมัสการ หลวงตา ทุกวันนี้ พยามตามดู ลม อย่างหลวงตา บอก เวลา ลืม หรือ คิดเรื่องอื่น ก็จะรีบ กลับมา ดูลมหายใจ ค่ะ ดูจากเยอรมัน เมือง เบอร์ลิน🇹🇭🇩🇪🙏🙏🙏 ขอให้ หลวงตามี อายุ ยืนยาวเพื่อได้ สอนลูกหลาน ไปนานๆๆ สาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุๆๆค่ะ
สาธุๆ ครับ หลวงตา
น้อมกราบหลวงตาสาธุสาธุค่ะ🙏🙏❤️❤️
สาธุค่ะ
เห็นผู้อื่นโดยเท่าเทียมกับเราก็ได้ความเสมอภาคกันได้แล้วครับโดยความเป็นไปนั้นคือธรรมนั้นครับจากกรรมนั้นทื่ได้รับมาจากอดีตครับ
น้อมกราบหลวงตาสาธุๆๆ
กราบนมัสการหลวงตา
🪷🙏🏻🙏🏻🙏🏻 สาธุ
ทำนายไม่ได้หรอกเพราะจิตที่ตั้งมั่นเป็นสมาธิ จะมี ๒ ประเภท คือมิจฉาสมาธิและสัมมาสมาธิจิตดวงสุดท้าย ภพชาติของการเกิด ย่อมแตกต่างกันด้วยเหตุนี้ จึงบอกว่าทำนายไม่ได้น่ะ
หาแต่เรื่องติ
@@user-wo5pg4rk4l ดิฉันพูดตามความจริง ใจไม่มีคิดตำหนิในสิ่งที่พระพูดส่วนที่คุณคอมเมนต์กล่าหาดิฉันทำนองว่า "หาเรื่องตินะ"เกิดจากคุณไม่เคยสดับธรรมคือไม่เคยอ่านพระสูตร ที่พระพุทธเจ้าตรัสเรื่องภพชาติของการเกิด ขณะจิตตั้งมั่นจิตเป็นสมาธิมีเกิดขึ้นขณะสภาวะทำกาละ ซึ่งมิจฉาสมาธิกับสัมมาสมาธิ แตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้ดิฉันจึงบอกว่าคาดเดาไม่ได้หรอกส่วนคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ อันนี้ก็เรื่องของคุณนะ ดิฉันนำพระสูตรมาอ้างอิงให้ดู เมื่อคุณได้อ่าน จะได้มีความรู้มากขึ้น ไม่จมกับความเชื่อส่วนตัวฌานสูตรที่ ๑ [๑๒๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก ๔ จำพวกเป็นไฉน คือบุคคลบางคนในโลกนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่บุคคลนั้นพอใจ ชอบใจปฐมฌานนั้น และถึงความปลื้มใจด้วยปฐมฌานนั้น ตั้งอยู่ในปฐมฌานนั้น น้อมใจไปในปฐมฌานนั้น อยู่จนคุ้นด้วยปฐมฌานนั้น ไม่เสื่อม เมื่อกระทำกาละ ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาเหล่าพรหมกายิกาดูกรภิกษุทั้งหลาย กัปหนึ่งเป็นประมาณอายุของเทวดาเหล่าพรหมกายิกาปุถุชน ดำรงอยู่ในชั้นพรหมกายิกานั้น ตราบเท่าตลอดอายุ ยังประมาณอายุทั้งหมดของเทวดาเหล่านั้นให้สิ้นไปแล้ว ย่อมเข้าถึงนรกบ้าง กำเนิดดิรัจฉานบ้าง เปรตวิสัยบ้างส่วนสาวกของพระผู้มีพระภาค ดำรงอยู่ในชั้นพรหมนั้นตราบเท่าสิ้นอายุ ยังประมาณอายุของเทวดาเหล่านั้นทั้งหมดให้สิ้นไปแล้ว ย่อมปรินิพพานในภพนั้นเองดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นความพิเศษผิดแผกแตกต่างกัน ระหว่างอริยสาวกผู้ได้สดับกับปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ คือ ในเมื่อคติ อุบัติมีอยู่ ฯฯลฯ
ถ้านั่งสมาธิตาย สมาธิขณิกะอุปจาระ ขณะนั้นจิตปลอดนิวรณ์ 5 ชั่วขณะก่อนตายไม่มีเวทนามาแทรก มีลุ้นเทวโลกชั้นยามา ถ้านึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ (ที่บรรลุธรรมตั้งแต่โสดาบันขึ้นไป)และพ่อแม่ โดยที่จิตสุดท้ายปลอดเวทนา จะไปเกิดชั้นดาวดึงส์ ถ้าเข้าฌานตั้งแต่ฌาณ 1 ขึ้นไปก็ไปเกิดเป็นพรมโลก ถ้าตอนเป็นคนทำฌาน 4 ได้แต่ตอนตายไม่ได้เข้าฌาน 4 จะไปเกิดเป็นเทวดาชั้นจาตุม ถ้าทำกรรมหนักเกี่ยวกับพระรัตนตรัยทั้งหมด เเละไม่ได้แก้หรือขอขมา อันนี้น่ากลัว เพราะมันจะชิงมาส่งผลก่อนตาย จิตมันจะนิ่งยาก และก็หลวงตาสินท่านเป็นพระอริยะสงฆ์นะครับ เรื่องตำหนิอย่าหาทำ และแนวทางของท่านนี่ ได้แน่ๆ ดางดึงส์ ยามา พรหมโลก สาธุ
@@gimjeongil2055 คุณพูดกับใคร หากพูดกับดิฉัน ดิฉันยังยืนยันคำพูดเหมือนเดิมคือ คาดเดาไม่ได้ไม่ได้หรอก ทั้งมีพระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ชัดเจน ความแตกต่างระหว่างมิจฉาสมาธิและสัมมาสมาธิ ส่วนคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เรื่องของคุณ กรรมของใครก็ของคนนั้น รับผลกันเอง ไม่มีใครรับแทนได้เรื่องพระ ดิฉันเขียนไว้ชัดเจน แต่คนที่เข้ามาอ่าน สักแต่ว่าอ่าน คำพูดล้วนของแต่ละคน ล้วนเข้าข้างความเห็นของตน รู้แค่ไหน ย่อมเชื่อในสิ่งที่ตนคิดเอาเอง ส่วนคำว่าอริยะ ที่คุณนำมาเรียก นั่นก็เรื่องของคุณ ไม่จำเป็นต้องมาบอกหรอก ไม่ต้องมาพูดทำนองว่าต้องทำอย่างงั้นอย่างี้ เพราะทุกๆคนที่กระทำลงไปจะด้วยเหตุปัจจัยอะไรก็ตาม จะนับถือหรือไม่นับถือ นั่นก็เรื่องของคนนั้น คนที่รับก็คือคนที่กระทำ คนอื่นมารับแทนไม่ได้หรอกย้ำอีกครั้ง ดิฉันพูดถึงสภาวะที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสหรือทรงแสดงพระธรรมไว้ เรื่องจิตดวงสุดท้าขณะทำกาละ ซึ่งมีหลักฐานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมไว้ กลับไม่สนใจกัน ยังจะพยามอ้างในสิ่งที่ตนเชื่อตัดทิ้งไปเรื่องตัวตน ใครคิดเอาเองว่าใครเป็นอะไร แล้วนำมาสร้างกรรมใหม่ให้มีเกิดขึ้นในตน อันนั้นช่วยไม่ได้หรอก ทำกันเอง เลือกที่จะกระทำกันซึ่งเกิดจากไม่เคยสดับหรืออ่านพระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมไว้ขนาดนำพระสูตรมาแสดง ยังไม่อ่าน แล้วไม่มีการนำมาพิจรณา ดันกลับพยายามปรุงแต่งตามที่ตนคาดเดากันเอาเองอ้อลืมถาม คุณน่ะเเคยตายหรือยัง แต่จากที่คุณเขียนไว้ทำนองนี้ ทำให้รู้ว่าคุณยังไม่เคยเจอความตาย"ถ้านั่งสมาธิตาย สมาธิขณิกะอุปจาระ ขณะนั้นจิตปลอดนิวรณ์ 5 ชั่วขณะก่อนตายไม่มีเวทนามาแทรก มีลุ้นเทวโลกชั้นยามา"อันนี้เรียกว่า จิตนาการเอาเองน่ะ คาดเดาเอาเองว่าจะต้องเป็นแบบนี้ๆดิฉันผ่านความตายมาทั้งหมด ๓ ครั้ง แล้วอาการที่มีเกิดขึ้นในแต่ละครั้ง จึงทำให้ดิฉันป่วยหัวใจล้มเหลวเรื้อรังนี่หมอก็ใส่กล่องให้ เวลาหัวใจหยุดเต้น เครื่องนี้ช่วยให้ถึงขั้นเสียชีวิตอีก หากไม่ใส่กล่อง ป่านนี้คงตายไปนานแล้วคนที่เคยผ่านความตาย เวลาอ่านในสิ่งที่ดิฉันเขียน จน่าจะะพอเข้าใจได้หรอกส่วนคนไม่เคยผ่านความตายมาก่อน ล้วนมีแต่จินตนาการจากที่เคยฟัง เคยอ่าน จากคำบอกเล่ากันมา ไม่ได้รู้ด้วยตนแล้วอีกอย่าง อย่าหาเรื่อง ไม่เที่ยวรับรองทำนองว่าคนโน้นคนนี้ที่คุณนับถือ เวลาตายจะไปเกิดที่ไหนก็ขนาดมิจฉาสมาธิกับสัมมาสมาธิ ยังไม่รู้จักเลย
คนเขาว่าผมบ้าฟังแต่หลวงตาสิ้นคิดสาธุ❤❤❤❤❤
สาธุสาธุสาธุ
สาธุคะรับ
หลวงตาระวังตกเป็นเหยื่อ ของสื่อบางจำพวก นะครับ
กราบ นมัสการ หลวงตา ทุกวันนี้ พยามตามดู ลม อย่างหลวงตา บอก เวลา ลืม หรือ คิดเรื่องอื่น ก็จะรีบ กลับมา ดูลมหายใจ ค่ะ ดูจากเยอรมัน เมือง เบอร์ลิน🇹🇭🇩🇪🙏🙏🙏 ขอให้ หลวงตามี อายุ ยืนยาวเพื่อได้ สอนลูกหลาน ไปนานๆๆ สาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุๆๆค่ะ
สาธุๆ ครับ หลวงตา
น้อมกราบหลวงตาสาธุสาธุค่ะ🙏🙏❤️❤️
สาธุค่ะ
เห็นผู้อื่นโดยเท่าเทียมกับเราก็ได้ความเสมอภาคกันได้แล้วครับโดยความเป็นไปนั้นคือธรรมนั้นครับจากกรรมนั้นทื่ได้รับมาจากอดีตครับ
น้อมกราบหลวงตาสาธุๆๆ
กราบนมัสการหลวงตา
🪷🙏🏻🙏🏻🙏🏻 สาธุ
ทำนายไม่ได้หรอก
เพราะจิตที่ตั้งมั่นเป็นสมาธิ จะมี ๒ ประเภท คือมิจฉาสมาธิและสัมมาสมาธิ
จิตดวงสุดท้าย ภพชาติของการเกิด ย่อมแตกต่างกัน
ด้วยเหตุนี้ จึงบอกว่าทำนายไม่ได้น่ะ
หาแต่เรื่องติ
@@user-wo5pg4rk4l ดิฉันพูดตามความจริง ใจไม่มีคิดตำหนิในสิ่งที่พระพูด
ส่วนที่คุณคอมเมนต์กล่าหาดิฉันทำนองว่า "หาเรื่องตินะ"
เกิดจากคุณไม่เคยสดับธรรมคือไม่เคยอ่านพระสูตร ที่พระพุทธเจ้าตรัสเรื่องภพชาติของการเกิด
ขณะจิตตั้งมั่นจิตเป็นสมาธิมีเกิดขึ้นขณะสภาวะทำกาละ ซึ่งมิจฉาสมาธิกับสัมมาสมาธิ แตกต่างกัน
ด้วยเหตุนี้ดิฉันจึงบอกว่าคาดเดาไม่ได้หรอก
ส่วนคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ อันนี้ก็เรื่องของคุณนะ
ดิฉันนำพระสูตรมาอ้างอิงให้ดู เมื่อคุณได้อ่าน จะได้มีความรู้มากขึ้น ไม่จมกับความเชื่อส่วนตัว
ฌานสูตรที่ ๑
[๑๒๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก ๔ จำพวกเป็นไฉน คือ
บุคคลบางคนในโลกนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม
บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่
บุคคลนั้นพอใจ ชอบใจปฐมฌานนั้น และถึงความปลื้มใจด้วยปฐมฌานนั้น
ตั้งอยู่ในปฐมฌานนั้น น้อมใจไปในปฐมฌานนั้น อยู่จนคุ้นด้วยปฐมฌานนั้น ไม่เสื่อม
เมื่อกระทำกาละ ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาเหล่าพรหมกายิกา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย กัปหนึ่งเป็นประมาณอายุของเทวดาเหล่าพรหมกายิกา
ปุถุชน ดำรงอยู่ในชั้นพรหมกายิกานั้น ตราบเท่าตลอดอายุ
ยังประมาณอายุทั้งหมดของเทวดาเหล่านั้นให้สิ้นไปแล้ว ย่อมเข้าถึงนรกบ้าง กำเนิดดิรัจฉานบ้าง เปรตวิสัยบ้าง
ส่วนสาวกของพระผู้มีพระภาค ดำรงอยู่ในชั้นพรหมนั้นตราบเท่าสิ้นอายุ
ยังประมาณอายุของเทวดาเหล่านั้นทั้งหมดให้สิ้นไปแล้ว ย่อมปรินิพพานในภพนั้นเอง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นความพิเศษผิดแผกแตกต่างกัน
ระหว่างอริยสาวกผู้ได้สดับกับปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ คือ ในเมื่อคติ อุบัติมีอยู่ ฯ
ฯลฯ
ถ้านั่งสมาธิตาย สมาธิขณิกะอุปจาระ ขณะนั้นจิตปลอดนิวรณ์ 5 ชั่วขณะก่อนตายไม่มีเวทนามาแทรก มีลุ้นเทวโลกชั้นยามา ถ้านึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ (ที่บรรลุธรรมตั้งแต่โสดาบันขึ้นไป)และพ่อแม่ โดยที่จิตสุดท้ายปลอดเวทนา จะไปเกิดชั้นดาวดึงส์ ถ้าเข้าฌานตั้งแต่ฌาณ 1 ขึ้นไปก็ไปเกิดเป็นพรมโลก ถ้าตอนเป็นคนทำฌาน 4 ได้แต่ตอนตายไม่ได้เข้าฌาน 4 จะไปเกิดเป็นเทวดาชั้นจาตุม ถ้าทำกรรมหนักเกี่ยวกับพระรัตนตรัยทั้งหมด เเละไม่ได้แก้หรือขอขมา อันนี้น่ากลัว เพราะมันจะชิงมาส่งผลก่อนตาย จิตมันจะนิ่งยาก และก็หลวงตาสินท่านเป็นพระอริยะสงฆ์นะครับ เรื่องตำหนิอย่าหาทำ และแนวทางของท่านนี่ ได้แน่ๆ ดางดึงส์ ยามา พรหมโลก สาธุ
@@gimjeongil2055 คุณพูดกับใคร หากพูดกับดิฉัน ดิฉันยังยืนยันคำพูดเหมือนเดิมคือ คาดเดาไม่ได้ไม่ได้หรอก ทั้งมีพระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ชัดเจน ความแตกต่างระหว่างมิจฉาสมาธิและสัมมาสมาธิ
ส่วนคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เรื่องของคุณ กรรมของใครก็ของคนนั้น รับผลกันเอง ไม่มีใครรับแทนได้
เรื่องพระ ดิฉันเขียนไว้ชัดเจน แต่คนที่เข้ามาอ่าน สักแต่ว่าอ่าน
คำพูดล้วนของแต่ละคน ล้วนเข้าข้างความเห็นของตน รู้แค่ไหน ย่อมเชื่อในสิ่งที่ตนคิดเอาเอง
ส่วนคำว่าอริยะ ที่คุณนำมาเรียก นั่นก็เรื่องของคุณ ไม่จำเป็นต้องมาบอกหรอก ไม่ต้องมาพูดทำนองว่าต้องทำอย่างงั้นอย่างี้
เพราะทุกๆคนที่กระทำลงไปจะด้วยเหตุปัจจัยอะไรก็ตาม จะนับถือหรือไม่นับถือ นั่นก็เรื่องของคนนั้น คนที่รับก็คือคนที่กระทำ คนอื่นมารับแทนไม่ได้หรอก
ย้ำอีกครั้ง ดิฉันพูดถึงสภาวะที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสหรือทรงแสดงพระธรรมไว้ เรื่องจิตดวงสุดท้าขณะทำกาละ
ซึ่งมีหลักฐานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมไว้ กลับไม่สนใจกัน ยังจะพยามอ้างในสิ่งที่ตนเชื่อ
ตัดทิ้งไปเรื่องตัวตน ใครคิดเอาเองว่าใครเป็นอะไร แล้วนำมาสร้างกรรมใหม่ให้มีเกิดขึ้นในตน
อันนั้นช่วยไม่ได้หรอก ทำกันเอง เลือกที่จะกระทำกัน
ซึ่งเกิดจากไม่เคยสดับหรืออ่านพระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมไว้
ขนาดนำพระสูตรมาแสดง ยังไม่อ่าน แล้วไม่มีการนำมาพิจรณา ดันกลับพยายามปรุงแต่งตามที่ตนคาดเดากันเอาเอง
อ้อลืมถาม คุณน่ะเเคยตายหรือยัง แต่จากที่คุณเขียนไว้ทำนองนี้ ทำให้รู้ว่าคุณยังไม่เคยเจอความตาย
"ถ้านั่งสมาธิตาย สมาธิขณิกะอุปจาระ ขณะนั้นจิตปลอดนิวรณ์ 5 ชั่วขณะก่อนตายไม่มีเวทนามาแทรก มีลุ้นเทวโลกชั้นยามา"
อันนี้เรียกว่า จิตนาการเอาเองน่ะ คาดเดาเอาเองว่าจะต้องเป็นแบบนี้ๆ
ดิฉันผ่านความตายมาทั้งหมด ๓ ครั้ง แล้วอาการที่มีเกิดขึ้นในแต่ละครั้ง จึงทำให้ดิฉันป่วยหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง
นี่หมอก็ใส่กล่องให้ เวลาหัวใจหยุดเต้น เครื่องนี้ช่วยให้ถึงขั้นเสียชีวิตอีก หากไม่ใส่กล่อง ป่านนี้คงตายไปนานแล้ว
คนที่เคยผ่านความตาย เวลาอ่านในสิ่งที่ดิฉันเขียน จน่าจะะพอเข้าใจได้หรอก
ส่วนคนไม่เคยผ่านความตายมาก่อน ล้วนมีแต่จินตนาการจากที่เคยฟัง เคยอ่าน จากคำบอกเล่ากันมา ไม่ได้รู้ด้วยตน
แล้วอีกอย่าง อย่าหาเรื่อง ไม่เที่ยวรับรองทำนองว่าคนโน้นคนนี้ที่คุณนับถือ เวลาตายจะไปเกิดที่ไหน
ก็ขนาดมิจฉาสมาธิกับสัมมาสมาธิ ยังไม่รู้จักเลย
คนเขาว่าผมบ้าฟังแต่หลวงตาสิ้นคิดสาธุ❤❤❤❤❤
สาธุสาธุสาธุ
สาธุคะรับ
หลวงตาระวังตกเป็นเหยื่อ ของสื่อบางจำพวก นะครับ