ผมว่า AI ใกล้แตกแล้ว
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 11 ก.ค. 2024
- AI AI AI ตั้งแต่ OpenAI เปิดตัว ChatGPT มาให้เราใช้ กลายเป็นว่าทุกวันนี้อะไรๆก็ AI กันไปหมด แม้กระทั่งบริษัทที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ AI ยังเอาคำว่า AI มาทำการตลาดแบบพร่ำเพรื่อเลย ส่วนบริษัทด้าน Tech จริงๆตอนนี้ก็กลัวตกรถ ทุกคนหันมาลงทุน AI กัน แม้กระทั่งขาใหญ่ในยุค Cryptocurrency ก็หันมาลงทุน AI ด้วย .. แบบนี้ก็แน่นอนว่าฟองสบู่ลูกนี้จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และผมคิดว่ามันกำลังจะ "แตก" เร็วๆนี้แหละครับ
- วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เพื่อนๆอย่าเข้าใจผมผิดนะครับ ...ผมไม่ได้บอกว่า AI จะตายเร็วๆนี้ ที่ผมพยายามจะสื่อคือ ตอนนี้กระแสของ AI ในมุมมองการตลาดนั้นมันเกินความเป็นจริงไปมาก เช่นเดียวกับเทคโนโลยีอื่นๆ AI คือสิ่งที่มีประโยชน์ แต่เราต้องใช้ให้เป็น และมองข้อจำกัดของมันด้วย .. แต่เราเห็นได้บ่อยครั้งที่คนคิดว่า AI นั้นเป็นสิ่งวิเศษ หลายๆบริษัทจึงถือโอกาสมาลงทุนเพื่อเกาะกระแส โดยไม่ได้ออกโปรดักส์หรือเซอร์วิสที่มีคุณค่า ไม่ได้มีสายป่านยาว บริษัทเหล่านี้แหละครับจะ "แตก" ก่อนเลย
ก่อนที่ AI จะถึงจุดที่นิ่ง ผมว่าจะต้องมีการ corrections อีกหลายครั้ง เหมือนเช่นเดียวกับยุค dotcom bubble ตอนที่มีอินเตอร์เน็ตใหม่ๆ ตอนนั้นคนก็แห่กันมาลงทุน แล้วสุดท้ายก็ฟองสบู่แตก เหลืออยู่ไม่กี่เจ้าที่ทำโปรดักส์มีคุณค่าออกมาจริงๆ จนยุคอินเตอร์เน็ตได้มาเกิดใหม่แบบทุกวันนี้ .. AI ก็เช่นกันครับ สุดท้ายผมว่าฟองสบู่หรือความฝันที่คนวาดกันไว้ มันก็จะแตกออกมา แล้วสุดท้ายก็จะเหลือแค่เจ้าที่มีคุณค่าจริงๆ และ AI มันจะนิ่งก็ต่อเมื่อ กระแส หรือ ความ Hype มันหมดไปนั่นแหละครับ
พอพูดว่า AI มันดูกว้างมากครับ แล้ว บ ที่ทำ AI ราคาหุ้น ก็ไม่ได้สูงทุก บ ตัวครับ ถ้าจะดู สูงหน่อยก็ nvidia ที่ยกมา ถ้าเจาะจงตัวนี้ ผมว่ามันก็สูง แต่ไม่แตกหลอกครับ กระแส อนาคตมี AI, Game, Crypto ถ้าจะแตก 3 อย่างนี้ต้องโดน Disrupt มัน ต้อง nuclear แหละถึงเอาลง ซึ่ง nvidia รับจบ ไม่แปลกที่ราคาจะโหดขนาดนั้น ส่วนราคาหุ้นก็ย่อตามกล cycle อยู่แล้ว ปล ผมไม่ได้ซื้อ nvidia นะ เพราะราคามันแรง อย่างอื่นน่าจะทำกำไรมากกว่า แต่คหสต มันไม่แตกหลอกครับไม่มีแววเลยด้วย
ก่อนวิกฤต Dot-com Bubble ปี2000
ค่าเฉลี่ย P/E ratio ของ S&P500 ประมาณ 44 ตอนนี้ยัง 26 ผมก็ว่าสูงอยู่นะครับ ส่วนตัวผมว่าอาจจะมีทำกำไลตอนลดดอกเบี้ย แต่ราคานี่จะไปต่อได้ถ้า nvidia อย่างน้อยก็จนกว่ากำไลจากตัว data center จะหดตัวลง เช่นการที่คนสนใจเรื่องเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้นและหันไปใช้ชิปที่พึ่ง data center น้อยลงไม่ก็ติดปัญหากับการลดขนาดของทรานซิสเต้อแบบทำไห้ไปต่อได้ยาก อารมแบบ AI winter 😂
ชื่อคลิปมันชวนเข้าใจผิดจริงๆครับ แต่เนื้อหาในคลิป ผมเห็นด้วยทุกอย่างครับ มีที่ไม่เห็นด้วยก็ชื่อคลิปนี่แหละ
เหมือนเมต้าเวิสแหละปั่นกระแสปั่นหุ้นกันจนเกินจริงสุดท้ายล่มหมด ส่วน AI มันคืออนาคตจริงแต่ก็ไม่น่าจะเว่อวังดังที่ปั่นข่าวกันอยู่เนี่ย
มุมมองโปรแกรมเมอร์อย่างผม กลับมองว่ามันเพิ่งเริ่มต้น เพราะว่าคนเพิ่งให้ความสนใจ เพิ่งมี incentive ให้นักลงทุนมาลงทุนในระดับที่จับต้องได้ และโดยหลักการแล้ว AI ก็จับต้องง่ายกว่า usecase ง่ายกว่า ทำประโยชน์ได้หลากหลายกว่า crypto เยอะ หลักการของ crypto ผมว่ามันโลกสวยเกินไป และ implement ยาก, tech ของ crypto หลาย ๆ อันที่จริงแล้วไม่ต้องใช้ crypto ก็ได้ แถมง่ายกว่า efficient กว่าด้วย
จริงครับพรี่
มันกำลังเริ่มจริงๆ ที่มันยังไม่ออกมา เพราะมันพัฒนาไวไป ทำให้ไม่มีเจ้าไหนกล้าทุ่มผลิตสินค้ามาตอบโจทย์ แถม apple ยังหนีไปทำเป็นตัวรองรับ AI แทน คงต้องรอผู้ชนะก่อน
เห็นด้วยครับ ผมเป็นdev ใช้aiทำงานทุกวันครับ มันช่วยลดเวลางานเยอะ
ที่คุณว่ามามันก็ถูกครับ ผมเองก็ใช้ AI อยู่เหมือนกัน ตามที่ว่าไปในคลิปครับ แต่ตอนนี้ที่ผมมองคือ คนมองว่า AI คือทุกสิ่ง ดีทุกอย่าง แต่ไม่มองถึงข้อจำกัดของมัน ถึงขั้นคิดไปต่างๆนาๆกันว่า AI มันเรียนรู้อะไรเองได้ .. ซึ่งก็อย่างที่ผมว่าไปนั่นแหละครับ ว่าใช้มันเป็น Tools ก็จะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้ ไม่ใช่ไปคิดว่ามันจะมาแทนที่คน
ส่วนมุมมองที่คิดว่ามันเพิ่งเริ่มต้น น่าจะพัฒนาไปได้มากกว่านี้อีกเยอะ นี่คิดว่าพัฒนาไปในด้านไหนบ้างครับ โดยใช้ข้อจำกัดจากพื้นฐาน Data ที่เรามีอยู่ตอนนี้ ผมอยากลองฟังความคิดเห็นอีกด้านบ้าง
คนไม่รู้ก็จะเข้าใจผิดว่ามันทำโน่นนี่ได้คิดเองได้โตได้ ไหลตามกระแสเป็นทาสการตลาดไป AIมันก็แค่โปรแกรมที่อำนวยความสะดวกสบายที่มากกว่าโปรแกรมเดิมๆใส่ลูกเล่น ต้องให้ไปดูหลังบ้าน AIคิดเองแต่โปรแกรมเมอร์หลังบ้านเป็นพัน คิดเองได้จะมีจะจ้างโปรแกรมเมอร์ทำไม
AI รู้จำ ไม่ใช่รู้จริง 555
ตอนนี้ AI เท่ากับเด็กอายุ8ขวบ คุณ รอมันหน่อย ควรจะเปลี่ยนคำพูด
@@AMAZONTaxila-dp8ju ไม่มีอะไรเเน่นอน ผมรอเปลี่ยน 😊
ก็ตามนั้นแหละครับ ขึ้นอยู่กับว่ามันเอาข้อมูลไปเทรนได้มากแค่ไหน แต่ยังไงมันก็ไม่มีทางคิดอะไรเองขึ้นมาได้ในเร็วๆนี้แน่นอน
คนก็เหมือนกันไม่ใช่หรอ ดีไม่ดีหนักกว่า? เพราะมีเรื่องอารมณ์มาเกี่ยวอีก 🤡
เม้นนี้โดน!!!!
ชอบครับ อยากฟังข่าว แย้งบ้าง ทำ ภาค 2 หน่อยครับ
ขอบคุณครับ ผมคิดอะไรได้ ผมก็พูดไปเรื่อยๆครับ ฮ่าๆ
จริง ทุกวันนี้คือถ้าไม่มีใครใส่ AI มาคือคนหันหนีหมด อย่าง Samsung ใส่มาตอนต้นปีคือตลาดแตก
นั่นแหละครับ พูดถึง AI แล้วมันขายได้
Metaverse ก็เคยมาแรง แล้วก็หายไป
ตอนนั้น Meta เขาพยายามมาก แต่ดูแล้วน่าจะไม่เวริค ก็เป็นอย่างที่เห็นเลยครับ
เมต้าเวิร์สเริ่มโครงงานเร็วไปครับ HWยังไปไม่ถึง ต้องมีHWทำให้ได้ระดับอย่างน้อยreadyplayer1ก่อน รุ่งแน่ๆ ละค่อยขยับไปเนิฟเกียร์แบบSAO
ทั้ง คริปโต ทั้ง ai พี่เขียว Nvidia กินเรียบ
ผู้ชนะที่แท้ทรู
แสดงว่ายุคนี้ พลังการประมวลผล มีค่าไม่ต่างจากทองจริงๆครับ
ชอบๆ มุมต่างดีครับ 👍🏼
ขอบคุณครับ ผมพยายามมองอะไรอีกด้านด้วย แม้ว่าตัวเองก็ใช้ AI อยู่เยอะ
เคยฟังพอดแคสต์ไม่รู้ที่ไหน เขาบอกว่าอีกนานกว่า AI มันจะไปถึง AGI น่าจะราวๆ 40-50 ปี สิ่งที่ผมสนใจในตอนนี้น่าจะเป็นพวกเทคโนโลยี เกี่ยวกับการแพทย์ มากกว่า AI
AGI ผมก็คิดว่าน่าจะอีกนานมากเลยครับ แต่คือในมุมมองหลายๆคนเขาคิดว่าที่เราใช้กันอยู่ตอนนี้ อีกไม่นานคงเป็น AGI แล้ว ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นแบบนั้นได้ง่ายๆ
ผมปรับพอร์ท ไปลง หุ้น การแพทย์ ยา การรักษาโรค เกือบๆ 50% ของพอร์ทแล้วครับ แต่ อัตราการเติบโต แทบไม่ต่างกับตอนลงหุ้น AI เลย
40-50 ปีนานไปครับ เอาแค่ไม่ถึง 10 ปี มันก็บรรลุ AGI ได้ละ บางทีตอนนี้อาจจะบรรลุไปแล้วก็ได้ แต่ยังไม่ปล่อยให้คนภายนอกใช้ เหมือนข่าวลือตอนพี่แซมโดนปลดเพราะเรื่อง AGI นี่แหละครับ
ผมคิดว่า กระแสสังคมโปรโมทไปทางไหน ผมขอแทงสวนทาง เพราะ ทุกกระแสสร้างขึ้นมาก็เพื่อหวังผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ กระแสหลายอย่างที่ออกมาใครลุกช้าก็ต้องจ่ายรอบวง มันขึ้นแล้วก็ต้องลงตามวัฏจักร แต่ไอ้ปัญญาประดิษฐ์นี่เทรนด์นี้ของจริงแน่นอน แต่ไม่ใช่ เอไอ ที่ง่อยๆแบบในปัจจุบันนี้
อันนี้แหละ ผมก็คิดแบบนี้เหมือนกัน มันเทา ๆ ทั้งนั้นแหละครับ
AGI ของจริงจะมาเมื่อไหร่ อันนี้ผมว่าอีกนานเลยครับ แต่ก่อนจะไปถึงตอนนั้น พวกบริษัทที่เกาะกระแสแล้วไม่มีโปรดักส์ ไม่มีคุณค่า ต้องหายไปก่อนแน่ๆ
คุณสมบัติของ เอไอ ขั้นสูงควรมีคุณสมบัติในการ 1.ทำอนาคตได้ 2.รู้ความต้องการของคนใช้ได้ และ 3.สร้างแผนการปฏิบัติเพื่อที่จะให้ผู้ใช้สามารถบรรลุความต้องการได้ อันนี้ต่างหากถึงจะเรียกว่าขั้นสูง
สเป็คสูงไปไหมเนี้ยะ😂😂
นี่ๆ กองทรายอยู่ทางโน้น! ไปเล่นไป๊ เวง
มุมมองดีมากครับ
ขอบพระคุณครับ
เห็นด้วยมาสักพักแล้วเหมือนกันครับ
ขอบคุณครับ ผมก็ใช้ AI อยู่ แต่แค่คิดว่าคนเราเพ้อฝันกับมันมากเกินไปเท่านั้นเองครับ
หลักการลงทุนคืออะไรที่สร้างมูลค่า เงินก็จะไหลไปทางนั้นแหละครับ ส่วนจะแตกไหม แตกคับ เป็นปกติ ถ้ามูลค่ามันไม่ขึ้น หรือเติบโตช้า เงินก็จะไหลกับไปที่สิ่งที่สร้างมูลค่าสูง
ไม่มีแตก ai มีแต่จะหาวิธีการเทรนให้ลด cost (รอ นิวรอนที่เชื่อมต่อกระโดดข้ามเลเยอได้อย่างอิสระและไม่จำเป็นต้องมีโมเดลแยกอีกต่อไป) รวมถึงการ predict เมื่อถึงจุดนั่น hw แรงๆก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป ให้คิดถึงตอนนี้ที่ว่าโมเดลต่างๆระดับโลกยังต้องอยู่บนอุปกรที่ทรงพลัง ส่วนเรื่องข้อมูลมาเทรน ถ้าพัฒนา synthetic data ให้สมบูณ data จริงๆก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป คิดดูตอนนี้แค่ส่วนนึงของสมองเองนะแค่นิวรอนที่เชื่อมต่อกันแบบจำกัดเองยังทำได้ขนาดนี้ ยิ่งเราเข้าใจการทำงานของสมองมากขึ้น ai ก็จะยิ่งโตขึ้น ถึงตอนนี้เทรนที่นึงใช้ไฟได้ทั้งหมู่บ้าน เพื่อได้เด็กที่จำเก่งและพูดคุยได้ดี
ผมเข้าใจครับ คือ อะไรก็ตาม over supply ท้ายสุดก็จบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
เราก็รอใช้ตัวที่ชนะละกันครับ
ได้ยินน้าๆพี่ๆคนที่ทำงานพูดถึง AI เจ๋งแบบนู้นแบบนี้ น่าทึ่งบลาๆ จนผมเอือมอ่ะ 555 อารมณ์แบบรุ่นลุงๆป้าๆพึ่งเล่นเฟส
แล้ว NPU หรือพวก AI ที่อยู่ใน CPU รุ่นใหม่ๆ มันดีจริงมั๊ยหรือแค่การตลาดครับ
ณ ปัจจุบัน ผมคิดว่ามันเป็นการตลาดครับ พลังการประมวลผลของมันยังไม่เพียงพอที่จะทำอะไรได้ขนาดนั้น และถ้าจะว่ากันด้วยเรื่องพลังการประมวลผล AI การ์ดจอที่เรามีอยู่นี่มันก็เอาไปทำตรงนี้ได้เหมือนกัน ผมเลยคิดว่าที่เปิดตัว NPU เข้ามาเนี่ย มันคือด้านการตลาดล้วนๆ ... หรืออาจจะมองว่า เอาไปช่วยงานเล็กๆน้อยๆในคอมพกพาก็ได้ครับ แต่จะช่วยงานอะไร และจะได้ใช้ประโยชน์หรือเปล่า อันนี้แล้วแต่บุคคลครับ .. ส่วนตัวผมไม่ได้ใช้เลย ฮ่าๆ
@@ing-tangtawan ขอบคุณสำหรับคำตอบมากครับ
NPU มีมาซักพักก่อนที่ ai จะ hype ขนาดนี้ครับ ถ้าจำไม่ผิดจะเป็น mac เขามีไว้เพื่อให้เรารันงาน ai, ml ในเคริ่องได้ดีขึ้น ส่วนตอนนี้มันเพิ่งเริ่มต้น NPU อาจจะไม่ได้ใช้ประโยขน์อะไรมาก เพราะมันยังไม่เพียงพอที่จะรันงานที่ซับซ้อนได้ดีขนาดนั้น แค่อนาคตถ้ามันมากพอ มันจะสามารถรันในเครื่องได้ ไม่ต้องไปรันบน cloud แล้ว และถ้าถึงวันนั้ AI จะตอบสนองเราได้ดีกว่านี้มากครับ
@@user-wp7pg6bv3f ขอเสริม ถ้าถึงวันที่ ai รันบน device ได้แบบไม่ต้องพึ่ง cloud ปัญหาเรื่องการจ่ายพลังงานให้ cloud จะลดลงมากจนแทบเป็น 0 เพราะทุกคนรัน AI บนเครื่องส่วนตัว
ผมยังไม่เคยทายผิดเลย ตอนเมตาเวิสผมก็ฟันธงแต่แรกว่ามันไม่มาหรอก ตอนนั้นไม่ใครเชื่อ ตอนคริปโต ตอน NFT ตอน Apple Vision Pro ผมฟันธงหมดว่ามันแค่กระแส ในส่วนของ AI ผมก็ฟังธงแต่แรกว่ามันมาแน่ๆ มันจะเข้ามาอยู่ในชีวิตเรา ไม่ต่างจากตอนที่ internet เข้ามา หรือตอนที่มือถือเข้ามา และผมก็มั่นใจมากกว่าผมถูก ดังนั้นผมไม่เห็นด้วยกับคุณ ผมว่า Ai ยังไงก็จะมามีบทบาทในชีวิตเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มันไม่ใช่แค่กระแสที่มาแล้วจะผ่านไป มันจะอยู่กับเราเหมือนกับอินเตอร์เน็ต แต่ผมเห็นด้วยนะว่า คนไฮ้กันเกิน และ AI ถูกใช้ในการทำการตลาดเกินจริง ดังนั้นถ้ามันจะแตกมันจะแตกในแง่นั้น แต่ AI ไม่มีทางจะหายไป มีแต่จะอยู่กับเรามากขึ้น
คงเป็นแบบนั้น แต่มันไม่ได้ บูมมม แบบที่คิดตอนนี้ ผมว่า
คุณอิ๊ง เลิกทำ OCZ แล้วหรอครับ
ถ้ายังไม่มี Break through ที่ก้าวกระโดด หรือ เพิ่ม Efficiency อย่างมาก ไม่นานเทรน AI รอบนี้ก็ตายเพราะแบกรับต้นทุนไม่น่าไหว
น่าจะเหลือแค่บริษัทที่สายป่านยาวและมีโปรดักส์จริงๆนั่นแหละครับ พวกที่เกาะกระแสนี่ไม่น่าจะรอด
สุดท้ายมันจะเหลือแต่ big tech ครับ แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ AI รันบน device ได้โดยไม่พึ่งคลาว ถ้า AI มีโมเดลที่เมรนจนไม่ต้องการการเทรนด์เยอะขนาดนี้ หรือเทรนเฉพาะข้อมูลใหม่ๆอย่างเดียวเท่านั้น ตอนนั้นการใช้พลังงานจะลดลงเยอะกว่านี้มากครับ ถึงตอนนั้น บ เล็กๆจะเริ่มลงมาเล่นกับ AI ได้มากขึ้นโดยไม่ต้องมีทุนมากก้ได้นะ
เป็นข้อมูลแย้งที่เห็นต่างได้ดีมากครับ เปิดมุมมองหลอกหลายดีครับ
มันอยู่ระหว่างเส้นทางการพัฒนา ย่อมมีคนไม่เชื่อ และคนที่เชื่อ รวมทั้งคนที่เข้ามาเล่นในตลาดมาลงทุนในตลาด เหมือนยุคเริ่มต้นของอินเตอร์เน็ต ที่คุณคิดไม่ออกหรอกว่า มันมาถึงวันนี้ได้อย่างไร ???? คนที่รู้คือคนมี"วิสัยทัศน์" ส่วนคนที่ไม่รู้ ก็ย่อมไม่รู้ คนที่ไม่สนใจก็ย่อมไม่สนใจ
เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต ก็เป็นแบบนี้แหละครับ ตอน dotcom bubble ปี 2000 คนก็แห่มาลงทุนแบบนี้เลย แต่สุดท้ายก็เหลือรอดอยู่ไม่กี่เจ้า .. ผมว่า AI สุดท้ายก็ไม่ตายหรอกครับ แต่จะเหลืออยู่แค่เจ้าที่มีโปรดักส์ ที่สร้างคุณค่าได้จริงๆเท่านั้นแหละ
AI นี้แค่ช่วงแรกเท่านััน AI จะมีบทบาท อย่างน้อย10ปีหลังจากนี้ แต่เรื่องAIจะมาแย่งงาน อันนี้ไม่จริง แต่ช่วยงานอันนี้จริงอาจจะช่วยลดจำนวนคนที่ไม่จำเป็น หรือความสามารถคุณสู้AI ไม่ได้อันนี้ก็รู้ตัวดี แต่สำหรับผมไม่ได้รู้สึกเดือนร้อน เพราะเอามาช่วยงานประแก้โค้ดบางตัว มันช่วยได้ไวขึ้นเพราะตัวเองมีความรู้ ถ้าคนไม่มีความรู้ก็ช่วยอะไรไม่ได้
ผมว่าสมัยนี้มัน overhyped ง่าย และ ai ก็ overhyped จริงๆเลยครับ แต่คิดอีกอย่างนึงว่าถ้ามันเป็นสิ่งที่ทุกคนมีแล้วสะดวกสบายมาก ก็มี technology หลายอย่างเลยที่ประสบความสำเร็จเช่นกันเลย อย่าง smartphone และ internet ก็ประสบความสำเร็จจริง มาดูกันต่อไปเลยครับว่า AI จะไปถึงฝั่งฝันรึเปล่าทุกคนว่าไงง
แต่แต้มต่อ AI ก็คือต้นทุน และ การปล่อยมลพิษมหาศาล ในการใช้งาน AI นี้สิ ยังไม่นับการขโมยข้อมูล มาเทรน AI อีก ส่วนตัวมองว่าระยะยาวผลเสียมันจะเยอะเกินไปนี้สิ🤔
@@GravityBlood ใช่ครับเห็นด้วยเลย ผมว่าถ้าจะให้ AI เป็น tech อีกตัวที่ประสบความสำเร็จ ต้องแก้โจทย์พวกนี้ให้ได้ เค้าน่าจะวิจัยเรื่องพวกนี้กันอยู่
@@kindsa8136 โจทย์มันยากเกินไป ผมว่าทำไม่น่าสำเร็จหรอก ตัวอย่างก็รถบินได้ ที่คนยุคเก่าๆฝันถึง หรือ ไทม์แมคชีนอีกอันอะถ้าให้เห็นภาพ ส่วนตัว ไอ AI ก็มีมานานมากแล้วแต่ตอนนี้มันก้าวกระโดดไปได้ไกลจากการใช้งาน LLM ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่มันก็ยังมีข้อจำกัดที่ LLM มันคือทางตันเพราะปัญหาข้างต้นที่ผมว่ามา แต่ถ้าเขาเจอวิธีที่ดีกว่า LLM ไม่ต้องใช้งาน Data Center ที่บริโภคพลังงานมหาศาล และ ปล่อยมลพิษมาก ก็ถือว่ายังพอมีหวังในการพัฒนาไปจนถึง AGI
ผมว่า AI ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่อยู่ไปได้เรื่อยๆครับ แต่ที่สำคัญ คนเราไม่ควรไป Hype อะไรขนาดนั้น ถ้ามองมันเป็น Tools ที่มีข้อจำกัด และมองอย่างเป็นกลาง อันนี้โอเคเลย ไม่ใช่ถึงขั้นที่วาดฝันกันไว้
เรื่องการลด cost ต่างๆ พวกนี้เป็นเรื่องที่ทำได้แน่นอน 100% ครับ มันเป็นเรื่อง optimization ที่นักวิจัยเขาคิดอยู่ทุกวัน และก็ทำสำเร็จทีละนิดๆ และเขาทำกันมานานแล้วด้วย มันจึงมี break throughs ใหม่ๆเกิดขึ้น เรื่องการใช้ข้อมูลลดลงแต่ประสิทธิภาพดีขึ้น หรือ การใช้พลังงานลดลงแต่สามารถเทรน ai ได้ดีขึ้น อะไรพวกนี้มันมาจากหลายศาสตร์ ทั้งด้าน software , hardware เขาวิจัยกันทุกวันครับ จากพวก big tech ทั้งนั้น เขามีต้นทุนในการวิจัยอีกยาวครับ และมันอาจจะไม่สำเร็จในปีเดียว หรือสองปี แต่มันจะค่อยๆดีขึ้นจนสุดท้าบแล้วสิ่งที่คุณบอกจะไม่ได้เป็นปัญหาครับ @@GravityBlood
อีกมุมมองที่น่าสนใจ
งานแปลครับ โดยเฉพาะภาษาญี่ปุ่น>>ไทย ตอนนี้นุษย์ยังแปลได้ดีกว่ามาก ... GPT 4.0 ออกมาค่อนข้างแข็ง(แต่ไม่ถึงกับมั่วหมด มีมั่วบ้าง)
ผมใช้GPT 4.0เฉพาะตอนที่เจอคำที่ไม่คุ้นหู แปลกๆ คำที่ไม่แน่ใจ หรือSFXแปลกๆตอนแปลการ์ตูนมังงะ ใช้แค่เฉพาะคำบางคำ ใช้ไม่เคยถึงโควต้าใช้ฟรีเลย 5555+
นั่นแหละครับ เราใช้ AI เป็นเครื่องมือให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น ถ้าเราไม่รู้อะไรเลย แล้วไปให้ AI มันทำหมด เจอ Hallucination เข้าไป งานพังได้เลยครับ
ในมุมมองของ data enginneer ผมมองว่ามันพึ่งเริ่มต้นนะ อย่างที่เห็น ai ไม่ได้เหมาะกับทุกอย่าง private data ในโลกนี้มันใหญ่มาก เป็น data ที่ ai ยังเข้าไม่ถึง ตอนนี้บริษัทส่วนมากกำลังหาทางใช้ private data นี้ไปเทรน ai อยู่ มันมีความยากและข้อกังวลหลังบ้านค่อนข้างเยอะ สมมติว่านำ ai มาแทน call center จะทำยังไงให้ ai ใช้แต่ data ของลูกค้าคนนั้น แล้วควรจะมี data อะไรบ้างโดยที่สามารถเข้าถึง privacy ได้แล้วได้ถึงขนาดไหน ทำยังไงให้ ai ไม่หลอน จะ optimize ยังไง ถ้าตอบไม่ได้คืออย่ามั่ว ถ้าลูกค้าให้ ai เสนอโปรโมชั่นอะไร ai ควรจะเสนออะไรให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคน
👍
AI มันรู้ เท่าที่เราให้มันรู้
อย่าง chat gpt ก็ตอบมั่ว เยอะมากกก
อะไรที่เป็น fact ยิ่งมั่วสุดๆ
นั่นแหละครับ อันแรกก็ต้องไปแก้ไขให้มันรับข้อมูลได้ดีกว่านี้ก่อนเลย ไม่งั้นจะกลายเป็นข้อเสีย ถ้าทำงานแบบ advanced จริงๆ
ถ้าทำได้ไม่เท่า จาวิส ของโทนี่ กระต๊าก ก็จบละ 555
อันนั้นน่าจะอีกนานครับ ฮ่าๆ
Ai แตก🥵🥴
AI แตกมั้ยไม่รู้ แต่คืนนี้ผมน่าจะแตก
ต้องแยกระหว่าง AI แท้ กับ AI ปั่นด้วยครับ
ใครจะพัฒนายังไงไม่รู้ เเต่เราต้องใช้ประโยชน์กับมันให้เป็น บางคนใช้ Ai ในการทำคลิป ใช้ Ai ในการเล่าเรื่องเอง ทำยูทูปโดยไม่ต้องออกหน้ากล้องด้วย Ai รายได้ 6-7หลักต่อเดือนยุคต่อไปคนจะหาเงินในอากาศเยอะขึ้นครับ เเต่สิ่งที่คนจะทำงานขับรถออกมาทำก็เเค่พนักงานของรัฐซะส่วนมาก 😅
หนวดพี่เท่ว่ะ
เอาซักเส้นมั้ย ผมขายให้
ไม่น่าตายครับ ตามในหนัง terminator 1-2 เลยครับ ความคิดผมนะครับ
เอไอ ต้องพัฒนาถึงระดับหุ่นยนต์ตามนั้นครับ
เรื่องของ AI ต้องดูการพัฒนาในระดับ 10 ปีขึ้นไปต่อจากนี้
ตอนนี้ยังเหมือนเด็กทารกเพิ่งคลอดออกมาเท่านั้นเอง
กว่าจะถึงตรงนั้น มันต้องมี corrections ครั้งใหญ่ อีกหลายรอบเลยหล่ะ ผมว่าไม่ต้องถึง 10 ปีหรอก สุดท้ายแล้วจะเหลือแค่เจ้าที่มี product ที่สร้างคุณค่าได้จริงเท่านั้นถึงจะอยู่รอด
บางคนเห่อมาก เอาไปใช้ ai ในการถามข้อมูล จนบางทีลืมไปว่า ถ้าฉลาดใช้keyword แล้วไปใช้search engineเอง มันจะได้ผลลัพธ์ที่ตรงและไวกว่า
Ai มันก็มีประโยชน์นะ แต่คนใช้จริงใช้เป็น ใช้ได้คุ้มกันซักกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ก็แล้วแต่คนว่าจะใช้ทำอะไร ส่วนตัวที่ใช้ได้จริงแล้วเห็นผลมากๆเลยคือ frame gen dlss fsr นี่มีประโยชน์มาก
ตามนั้นแหละครับ เช่นเดียวกับเทคโนโลยีอื่นๆ ที่จะมีประโยชน์ แต่ก็มีประโยชน์สำหรับแต่ละสายงานไป แต่สำหรับ AI ตอนนี้ คนอวยมันกันเยอะ จนไม่ได้มองอีกด้านเลยเท่านั้นเองครับ
ความตามโลกไม่ทันของ AI ด้วยครับข้อมูลมีใหม่ตลอดเวลา แต่ AI เทรนด้วยข้อมูลเก่า programming เวลามี syntax ใหม่มันไม่รู้จัก
อย่างที่บอกเลยครับว่ากระแส AI ก็เหมือนกับคริปโต แต่ว่าทั้ง AI และคริปโต ต้องดูกันไปยาวๆ ตอนนี้ก็ยังถือว่ายังเร็วไปที่จะตัดสิน
พอบอกว่า เอาข้อมูลบนโลกอินเตอร์เน็ตมาเทรนหมดแล้ว
ผมก็เห็นด้วยนะว่า หลังจากนี้น่าจะเก่งขึ้นยากล่ะ มันจะไม่ใช่แบบก้าวกระโดดเหมือนตอนเปิดตัวใหม่ๆ
ที่พัฒนาได้ก็คงจะเป็นวิธีว่า เอาข้อมูลที่มีมาใช้ยังไงให้เหมาะสมที่สุดแหละครับ จะให้มันก้าวกระโดดแบบว่าเก่งเกินมนุษย์เลย คงเป็นไปไม่ได้เร็วๆนี้
แต่9armบอกว่าAIอย่างน้อยๆก็5ปีกว่าจะหมดกระแส แต่ช่วงนี้มันhypeจริงแหล่ะ จนเริ่มกลายเป็นbuzzwordละ
ผมไม่ได้มั่วนะลองไปฟังในไลฟ์ย้อนหลังดู (เฉพาะสมาชิก)
นั่นแหละครับ ตอนนี้มันเป็น buzzword ไง อะไรๆก็ AI หมด บางบริษัทไม่ได้เกี่ยวข้องกันยังเอาคำนี้มาหากินกันได้เลย
😅บิทคอนเน็ทชื่อนี้จำขึ้นใจ
เสียงนายคนนั้นเขายังก้องอยู่ในหูเลยตอนทำคลิปนี้ 5555
OneCoin โดนจับไปแล้วนี่ครับ เคยเตือนพี่คนนึง เขาลงไป 4แสน ผมเตือนแล้วแต่เขาไม่เชื่อ บอกว่าผมเป็นตัวขัดลาภ แล้วแกก็ไปนั่งฟังคนพูดประชุมอะไรไม่รู้ในมือถือเหมือนเดิม หลังจากนั้นไม่นานก็มีข่าว OneCoin โดนจับ ก็สงสารพี่เขาแหละโดนหลอก เตือนก็ไม่ฟัง
คนก่อตั้ง โดนตัดสินจำคุก 90 ปีครับ แต่หายตัวไปแล้ว ตอนนี้ยังติดอันดับท๊อป 10 คนที่ทางการต้องการตัวมากที่สุดอยู่เลยครับ .. ส่วนคนที่ลงทุน OneCoin นี่จะสงสารก็ส่วนนึง แต่ถ้าเขาไม่ฟังก็คงต้องให้เขาเรียนรู้เองแหละครับ โชคดีที่ผมไม่มีคนในครอบครัวไปยุ่งพวกนี้
@@ing-tangtawan ในไทยน่าจะโดนแค่หาง จริงๆพวกนี้เขามีวิธีพูดปลุกใจ เปิดแต่เพลง อย่าฟังคำคน อย่าสนใจใครอย่าเปลี่ยนแนว ทีนี้ก็หลอกง่ายเลยเพราะเขาจะไม่ฟังคนมาเตือน
สิ่งสำคัญที่ควรสนใจ'ไม่่ใช่กระแส แต่เป็นการนำAI มาใช้พัฒนางานของตัวเอง ถึงเราไม่ใช้ประเทศอื่นก็ใช้สุดท้ายเราก็ด้อยพัฒนา
AI มันอยู่ที่คนใช้ครับ สำหรับสายงานผม เรียกได้ว่าเปลี่ยนวิธีการทำงานเลย เผมไม่เห็นด้วยกับเนื้อหานี้ครับ
ผมก็ใช้ AI อยู่ตลอดเหมือนกันครับ .. แต่ที่ผมพยายามสื่อคือ อยากให้มองอีกด้านของ AI ว่ามันเป็น Tools ที่ช่วยงานได้ ถ้าเราใช้มันถูก ไม่ใช่ว่ามันคือผู้วิเศษที่จะมาแทนที่มนุษย์ในเร็วๆนี้เหมือนที่หลายๆคนเขาคิดกัน
คิดว่าจริงก็ชอตหุ้น Nvidia เลยซิครับ แบบหนัง Big Short ให้เป็นตำนานเมืองไทยไปเลย
ดีดขึ้นทีหน้าสั่นเลยนะครับลูกพี่ ดีดล้างช๊อต
ผมไม่ได้ลงทุนในตลาด Futures ครับ .. แต่ถ้าสนใจตรงนี้ ลองไปดู Short Position ของ NVIDIA ในช่วง 14 วันที่ผ่านมาดูครับ
ai สะสมขยะมากขึ้นเรื่อยมันจะเพี้ยนมากขึ้นเรื่ิอยๆ 😮😮
คงจะต้องเทรนระบบมันให้ฉลาดกว่านี้ ไม่งั้นหลังจากนี้ น่าจะเต็มไปด้วย fake news ครับ
เห็นด้วยครับ
ที่จะสื่อคือ AI จริงๆ มันมีประโยชน์แน่นอน พอมี ChatGPT, Stable diffusion ออกมาก็จับต้องได้ทันที ไม่เหมือนพวก Crypto, NFT ต่างๆ (ไม่ได้หมายถึง Blockchain ทั้งหมดนะ) ทีนี้พวกบริษัท AI ปลอมๆ กลวงๆ ที่แค่เกาะกระแสมาใช้ขายของ จะเจ๊ง แต่พวกของจริงอย่าง Microsoft, Google, Apple อะไรพวกนี้ ได้ไปต่อแน่นอน
แต่ที่แน่ๆ หลังจาก ChatGPT ออกมา
ตอนนี้ก็เริ่มนิ่งๆ ส่วน Stable diffusion คนก็ไม่ว้าวละ
คนที่ชนะจริงๆ ก็คือ Nvidia
ใครจะรุ่ง ใครจะเจ๊ง ไม่เป็นไร ขายเครื่องมืออย่างเดียว ยิ่งแข่งมาก Hype มาก ก็ยิ่งขายดี ตั้งราคาเท่าไหร่ก็หมด เหมือนยุคขุดทอง คนขายอุปกรณ์ ขายกางเกงยีนส์รวย ยุค Internet ก็มี Cisco
NVIDIA นี่อยู่รอดมาทุกยุคเลยครับ ช่วง crypto ก็รวย ตอนนี้ก็รวยอีก
แตกมั้ยไม่แน่ใจ แต่ใช้คำว่าai พร่ำเพรื่อ อันนี้เห็นด้วยสุดๆ แม้แต่ทีวีตู้เย็นที่มีชิพประมวลผลง่อยๆ ยังแปะตรา ai เลย
นั่นแหละครับ เจ้าใหญ่ๆน่าจะยังเหลือรอด แต่พวกระบบ AI ที่ไม่มีโปรดักส์เจ๋งๆ แล้วเอามาเพื่อทำการตลาดเนี่ย อันนี้น่าจะแตกครับ
เป็นตอนที่ดีมาก การเตือนสติกันไว้ก่อนสะท้อนความรับผิดชอบของมืออาชีพ
ขอบพระคุณครับ ผมพยายามเปิดใจมองสองด้านไว้ก่อน แม้ว่าตัวเองจะใช้ AI อยู่เหมือนกันก็ตามครับ
crypto จบไปแล้ว แต่ AI ยังเพิ่งเริ่ม
Crypto ก็ยังมีอยู่นั่นแหละครับ แต่เหลือแค่ตัวที่ยังมีพื้นฐานจริงๆ .. ส่วน AI ถ้ามันแตก ก็จะเหลือแค่ตัวที่มีพื้นฐานดีจริงๆ เหมือน crypto นั่นแหละ
ผลประกอบการมันจะพุ่งไปอีกถึงปีหน้า 2025 กลางปีแล้วจะค่อยๆดรอป ส่วนมันจะเกิดไหม คงเป็นอีกเรื่อง แต่ดูจากความสามารถแล้ว AI มาแน่ แต่ก็อาจจะไม่ใช่ปีนี้ปีหน้าที่จะมาเปลี่ยนชีวิตเรา
ผมว่าตลาด AI น่าจะต้องมี correction ครั้งใหญ่ซักรอบครับ แล้วคงจะเหลือแต่เจ้าที่ทำประโยชน์ได้จริงๆ หลังจากที่กระแสมันเงียบไปแล้ว
น่าจะจริง
รอดูกันต่อไปครับ
ไม่เหมือนกันครับ เพราะ cryptocurrency มัน "จะ" มาปฏิวัติอนาคต แต่ AI มันปฏิวัติไปแล้วครับ ซึ่งผลลัพธ์ของ AI มันจับต้องได้จริง
ผมคิดว่าจะแตกมั้ยขึ้นอยู่กับผู้บริโภค ว่าจะยอมจ่ายเงินให้ service ที่เป็น AI พอให้นายทุนทำกำไรได้รึเปล่า
พอมีหลายๆค่าย แต่เค้กมีก้อนเดียวเดี๋ยวเจ้าที่สายป่านสั้นก็ทะยอยปิดตัว แบบเดียวกับพวก delivery ที่ยอมลงทุน
ขาดทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อดึงลูกค้ามาใช้งาน ให้ใช้ฟรีแข่งกัน สุดท้ายก็แตก อาจจะไม่ตายทั้งหมดแต่จะเหลือน้อยลง
และคนจะเสพติดมันไปนานเท่าไหร่ อาจจะจนกว่ามีเทคใหม่ๆที่เข้ามาดึงความสนใจของนายทุนไปทางนั้นแทน
ใช่ครับ ผมก็พยายามสื่อแบบนั้นแหละ สุดท้ายแล้วเจ้าที่ไม่มีโปรดักส์จริงๆ ไม่มีคุณค่าจริงๆก็จะไม่รอด เหมือนกับยุค dotcom ที่ตอนนี้ก็ยังมีเหลือรอดอยู่ แต่ตอนนั้นก็หายไปเกือบหมดเลยครับ
ไม่มีเงินเด๋ว fed ปั้มแจก ไม่ยากแค่กระดาษ ถ้าเบื้องบนต้องการมันจริงๆ ปั๊มกระดาษแค่เรื่องจิ๊บๆ
ไม่รู้ว่ากระแส AI จะหมดเมื่อไหร่ ที่แน่ๆลุง Huang ยิ้มไม่หุบแล้วตั้งแต่คริปโตยัน AI
ทำของขายไม่ทัน ทั้งสองยุคเลย ใครซื้อหุ้นไปตอนนั้น รวยเละ
ต่อไปคงใช้ AI มาเจน AI
ตอนทำปกคลิปนี้ ผมก็พยายามใช้ AI Gen โลโก้คำว่า AI เหมือนกัน แต่ออกมาเละมาก เลยใส่ Font ชุ่ยๆไปแทน ฮ่าๆ
Position ของ AI มันคือทำหน้าที่เหมือน จาวิส ใน Iron Man แหละครับ พวกเรื่องศิลปะทั้ง ทัศนศิลป์ วรรณศิลป์ โสตศิลป์ นาฏศิลป์ มันอาจจะทำได้ แต่มนุษย์ที่ไปชื่นชมศิลปะเทียมจากหุ่นยนต์นี่โคตรตลกครับ ตัวจริงในวงการที่เขาจ่ายเงินสนับสนุนศิลปินกัน เขาสนับสนุนเพราะสตอรี่ อยากให้ศิลปินคนนั้นทำผลงานต่อไป เขาอยากให้ "มนุษย์" คนหนึ่งทำผลงานต่อไป งานของหุ่นยนต์มันมีค่าแค่เป็น Scenario หรือสร้างแบบจำลองเท่านั้น คนที่เขาเสพงานศิลปะจริงๆ เขาไม่ให้ค่าครับ มีแต่พวกคนธรรมดาที่ให้ค่ามัน เอารูปตัวเองแปลงเป็น Ai แล้วตั้งเป็นโปรไฟล์อะไรไป นักสะสมที่ฉลาดเขาไม่ print งานศิลปะเทียมไปติดฝาบ้าน หรือเอาไปเปิดแกลลอรี่หรอก AI จะยังมีประโยชน์และไม่ตายหรอก แต่มันจะถูกตบให้อยู่ในที่ที่มันควรอยู่ตั้งแต่แรก
คุณมองแคบไป งานศิลปะไม่ได้มีแค่นั้น มันกว้างกว่านั้นมาก (อาหาร, สิ่งปลูกสร้าง, ยานพาหนะ, การแพทย์, การนำเสนอ, โฆษณา, เสื้อผ้า, เครื่องประดับ, ทรงผม, ซอฟแวร์, เกม ฯลฯ มองเป็นศิลปะได้หมด) ส่วนนักสะสม เขาแค่เลือกสิ่งสะสมที่เขาสนใจและหายาก โดยไม่จำเป็นต้องเข้านิยามของศิลปะเสมอไป เช่น กระดูกฟอสซิล, หินอุกาบาต, เปลือกหอยหรือแมลงพันธุ์หายาก และไม่เกี่ยวกับความอยากสนันสนุนศิลปินเลย เพราะผลงานบางชิ้น ศิลปินผู้สร้างก็ตายไปนานแล้ว
นิยามของงานศิลปะ
1. มีแรงบัลดาลใจ (ไม่ได้เกิดโดยธรรมชาติหรือบังเอิญ)
2. เพิ่มคุณค่า หรือมูลค่า (เช่น เอาฝ้ายมาทำเป็นเส้นด้าย, เอาเส้นด้ายมาทอเปนผ้า, เอาผ้ามาเย็บเป็นกระเป๋า, เอาอ้อยมาทำเป็นน้ำตาล, เอาน้ำตาลมาทำขนม, เอาดินมาทำเป็นอิฐ, เอาอิฐมาสร้างเป็นบ้าน, ฯลฯ)
ผมจะสื่อว่า เครื่องจักรหรือ AI สามารถสร้างใช้งานศิลปะตามนิยามได้ (มีแรงบัลดาลใจของมนุษย์ผู้ใช้งาน AI) ดังนั้นคำว่า "ศิลปะเทียม" เป็นเพียงมโนแคบๆของคุณเอง และเป็นคำเท็จ
สมัยก่อนก็มีคนไม่ยอมรับ ว่าการถ่ายรูปคือ "ศิลปะ" ซึ่งไม่ต่างอะไรกับคุณในตอนนี้
@@mourikogoro9709 งานศิลปะมันมีแขนงแยกไปตามประสาทสัมผัสของมนุษย์นั่นแหละ มันคือเรื่องที่มนุษย์ต้องตีคุณค่าเองว่ามันงาม ยกตัวอย่างรถ สเปคของรถไม่ใช่ศิลปะ แต่ความสวยของรถคือศิลปะ เพราะคุณใช้ตาสัมผัส เก็ตไหม มันเป็นเรื่องของรสนิยม หรือยกตัวอย่างเฟอร์นิเจอร์ ระหว่างสำเร็จรูป กับ แฮนด์เมดไม้แท้ หล่อเรซิ่นใสเป็นทะเลเลย อะไรมีค่ากว่ากัน? ก็ต้องเป็นงานที่คนออกแบบทุ่มเทแรงใจมากกว่าอยู่แล้ว
ปัญหาของไทยคือพวกคุณตีคุณค่าของมนุษย์กันไม่เป็น และเห่อรับเทคโนโลยีใหม่ๆ กันอย่างเดียวแบบมักง่าย สุดท้ายคนที่มองเป็นก็จะรู้ว่างาน Ai ที่พวกคุณทำออกมาใช้ในเชิงพาณิชย์ออกมาบล๊อคเดียวกันเต็มไปหมด แบบโคตรน่าเบื่อเหมือนโฆษณาตามรถไฟฟ้าเลย ใช้น่ะใช้ได้ แต่งานที่มนุษย์ทุ่มเทก็ต้องมองให้ออกว่ามีค่ายังไง ไม่ใช่สักแต่จะมักง่ายอย่างเดียว
@@Jaytheless นั่นเพราะคุณตีค่าผลงานศิลปะจากความยากในการผลิต หรือไม่คุณก็แค่ตีค่างานศิลปะตามกระแสความความนิยมในหมู่นักสะสมเท่านั้น จนกลายเป็นด้อยค่าผลงานที่ผลิตง่ายๆ
อันที่จริงผลงานศิลปะง่ายๆเหล่านั้น ต่างมีคุณค่าและเปี่ยมไปภูมิปัญญาขั้นสูงที่คิดค้นวิธํีการผลิตผลงานนั้นขึ้นมา ซึ่งเครื่องจักรหรือ AI เองก็นับเป็นผลงานจากภูมิปัญญานั้นด้วยเช่นกัน
@@Jaytheless ขอยืนยันเช่นเดิม นักสะสมไม่ได้เลือกสะสมจากคุณค่า แต่เขาเลือกจากความชอบและจากปริมาณ (ความหายาก)
อย่าใช้มาตรฐานของนักสะสมมาด้อยค่าผลงานผู้อื่น
เพิ่งเริ่มเอง จะแตกได้ไง
คนที่หัวเราะคนสุดท้ายคือพี่เขียว😂😂😂
คนไม่รู้ก็กลัวกันต่อไป หากินกับพาดหัวยั่วๆ AI อันตรายไหม
ทุกอย่างมีสองแง่เสมอครับ
ผมว่าaiมันใช้งานได้จริงกว่าbitcoinนะครับ ai จับต้องง่ายกว่า ผมเป็นโปรแกรมเมอร์ใช้ทำงานทุกวัน ลดเวลางานผมได้เยอะ
ผมก็ใช้ AI ทุกวันครับ แต่ที่ผมพยายามจะสื่อคือ หลายๆคนมองมันเป็นของวิเศษ คิดว่ามันฉลาดกว่ามนุษย์บ้าง ทั้งๆที่จริงๆแล้ว มันก็เป็นแค่ Tools ที่เราใช้ประโยชน์มันเฉยๆ .. และด้วยเหตุนี้ บริษัทหลายๆเจ้าจึงลงทุนกับ AI โดยไม่ได้มองถึงข้อจำกัดของมันเลย
ด้านความต้องการ ผมว่าไม่ถึงทางตันหรอก นี่ก็รอ AI ฉลาดๆ มาช่วยงานอยู่ แบบไอร่อนแมนที่มีจาวิสคอยช่วยงาน
มันจะชนตอเพราะปัญหาเรื่องซดไฟยังกะอะไรดีเนี่ยล่ะ อีกไม่กี่ปีโลกก็ถึงจุดวิกฤตแล้ว ถ้ายังแก้เรื่องซดไฟไม่ได้ AI ซวยแน่
ถ้าจะให้ AI มาใช้งานได้ดีจริงๆ ก็ต้องแก้ข้อจำกัดตรงนั้นให้ได้ก่อนเลยครับ ไม่งั้นสุดท้ายมันอาจจะไม่คุ้มทุนแล้วก็เป็นได้
มันก็ต้องเกาะอยู่แล้ว เค๊กมันต้องถูกแบ่ง ไม่รีบก็อด ยูทูปเบอร์ยังเกาะเลย😅
ง่ายๆครับเป็นคนดูครับจะรอดไม่รอดก็คือเรื่องของอนาคต
ฮ่าๆ ดีแล้วครับ ปล่อยนักลงทุนเขาเล่นกันไป
เดี๋ยวนี้อะไรก็มี AI หมด ไม่เว้นแม้แต่กล้องถ่ายรูป 🗿
ตอนนี้เราขาดมันไม่ได้แล้วจริงๆ นึกภาพตอนแตกไม่ออก
ผมว่าตอนแตกก็จะเหมือนกับทุกเจ้าที่แตกนั่นแหละครับ เหลือแค่เจ้าที่มีโปรดักส์ที่ใช้งานได้ดีจริงๆ ส่วนพวกที่มาเพื่อการตลาด ไม่มีคุณค่า ก็จะไม่อยู่รอด .. ส่วนถึงขั้นขาดไม่ได้ อันนี้น่าจะเป็นความเคยชินกันมากกว่า อย่างมากถ้าไม่มีมันก็จะกลายเป็นเราทำงานอะไรลำบากขึ้นเท่านั้น
AI จะเข้าห้องน้ำและแดกข้าวแทนคุณ 5555
ถ้างั้นได้ก็ดีนะ ผมยิ่งขี้เกียจอยู่ ฮ่าๆ
อุปกรณ์ข้างหลังฉากคุณก็ใช้ชิพครับ คิดให้เยอะๆ หูฟังที่ใช้ทำคลิปนี้ก็ใช้ชิพ กล้องที่อัดก็ใช้ชิพ Ai เป็นส่วนนึงของชิพ ไม่มีทางแตกหรอกครับ เรากำลังค้นหาชิพที่เราจะย้ายมนุษย์ไปหาโลกใหม่ พัฒนาไปทุกวัน และเราเพิ่งได้ยินคำว่า ai มาไม่กี่ปีนี้ ผมเป็นนักลงทุนครับผมรู้ดี
@@v2.030 เอ่อ .. เข้าใจแหละครับ ว่าเป็นนักลงทุน แต่จะบอกว่ารู้ดี อันนี้ผิดเต็มๆเลยครับ คุณพูดเรื่องชิป มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ AI เลยครับ ชิปไม่ได้เท่ากับ AI ครับ .. AI ต้องใช้พลังการประมวลผลจากชิป ไม่ใช่ AI เป็นส่วนนึงของชิปครับ .. หูฟังที่ผมใช้ก็ไม่ได้มีชิป เพราะเป็นหูฟัง passive ครับ ถ้าจะเหมารวมขนาดนี้ บอกว่าเก้าอี้ผมมีชิปด้วยเลยก็ได้นะครับ
รบกวนช่วยอธิบายมาหน่อยนะครับ ว่ามันมี AI อยู่ในชิปได้ยังไง มันอยู่ตรงไหนของชิป ผมรีวิวคอม รีวิวชิปมาเป็นสิบปีไม่เคยได้ยินเลยครับ ว่ามี AI อยู่ในชิปด้วย
คุณเป็นนักลงทุน จะพูดถึงมุมมองทางการลงทุน ผมจะไม่ติดอะไรเลยครับ แต่กรุณาอย่าเอาความรู้ด้านเทคโนโลยีผิดๆมาเผยแพร่ครับ ด้วยความเคารพ
@@ing-tangtawan เอาแค่ ai อยู่ในชิพได้ไง ผมก็ไม่มีไรจะคุยกับคุณละครับ อยากบอกว่า ก่อนจะมาเป็น ai ชิพก็คือแม่มันนะอิ้ง แม่ที่ทำคลอด ai มันประมวลผลผ่านอะไรเหรออิ้ง ประมวลผล ai นี่ใช้มะเขือหรือคอมพิวเตอร์ แล้วอิ้งลองตอบผมหน่อยสิ ai ที่เรียนรู้กันทุกวันนี้้ มันเรียนผ่านอะไรน้อ? เรียนผ่านกระดานชนวน หรือ ผ่านคอมพิวเตอร์
@@v2.030 ก็คุณบอกมาว่า AI เป็นส่วนนึงของชิป งั้นรบกวนส่ง Diagram มาให้ผมดูหน่อยครับ ว่า CPU ที่ผมใช้ตัดงาน Intel Core i9-14900K มี AI อาศัยอยู่ตรงไหนในตัวมัน และ AI ในตัวชิปเนี่ย มันมีหน้าตาเป็นยังไงครับ
@@ing-tangtawan ยิ่งพุดยิ่งไม่เข้าใจว่ะ แต่ที่แน่ๆปากแซ่บใช้ได้เลยมึง ไม่แปลกใจที่อัย มันไปได้ดีและไปได้ไกลกว่า 55555
เหมืองแตก =คริปโต
สมองแตก = ai
ผมว่าตัวเอไอที่เชื่อมต่อกับสมองมนุษย์โดยตรงเป็น แมคนิค+ชีวภาพ ประสิทธิภาพน่าจะดีกว่าและน่าจะเป็นเทรนด์ใหม่ในอนาคต หลังจบโปรเจค สมาร์ทซิตี้เมืองแห่งออโตโนมัส
แบบที่อีลอนมัสก์ เอาชิปฝังหัวคนงั้นเหรอครับ
@@ing-tangtawan ใช่คับ ผมอยากให้มนุษย์มีจักรกลประจำตัวมนุษย์อย่างเท่เลยพี่ 😂😂
ผมรอดู Jarvis
AI โฆษณาเยอะจนเยอะไปก็ต้องทำเพราะกำลังอยู่ช่วงแย่งตลาด มันเป็นสิ่งที่ใช้งานได้จริงครับ ก็เหมือนวงกาหุ่นยนต์อุตสาหกรรมเมื่อก่อนบอกยังแทนไมได้หรอกงั้นงี้ พอต้นทุนถูกลง เทคโนโลยีดีขึ้นทุกวันนี้โรงงานใหญ่ๆที่ใช้หุ่นยนต์แทนได้ แทนหมดแล้วมีคนดูไม่ถึง 10 คน หุ่นยนต์ทำอาหารก็มีแล้ว โดนแทรกซึมทุกรูปแบบคนที่เลิกสนใจเงยหน้ามาอีกที งง แดก
AI ก็เช่นกันแค่รอการพัฒนา
การพัฒนามันไม่ได้เร็วเท่ากระแส ผลตอบแทนที่ได้รับมันก็จะช้าตามการพัฒนามันเลยไม่คุ้มถ้าจะเอาระยะสั้น
นั่นแหละครับ ที่ผมพยายามจะสื่อเลย เช่นเดียวกับทุกเทคโนโลยี มันต้องใช้เวลาในการพัฒนา แต่ตอนนี้กระแสนำไปไกลแล้ว กว่าจะนิ่ง ผมว่ามีเจ๊งอีกหลายเจ้า
AI เทียบกับ Crypto ไม่ได้นะผมว่า
เทียบได้ครับ ในมุมมองของ bubble เหมือนกับที่เทียบกับ dot com เหมือนที่เทียบกับ tulip นั่นแหละครับ
@@ing-tangtawan โอเคเข้าใจแล้วครับ แต่ AI ในระยะยาวก็เกิดประโยชน์มากกว่า Crypto แน่นอน
It turned to buzzword and meaningless eventually.
yeah.. i do agree that its already started to become meaningless, especially in the marketing field.
เห็นด้วยกับพี่อิงมาก ๆ ครับ เหมือน คริปโต ชัด ๆ สุดท้าย การ์ดเขียวแตกแน่นอน แต่สื่อไทยนี่ อวยค่ายการ์ดเขียวเหลือเกิน
ขอบคุณครับ .. ว่ากันด้วยค่ายเขียว ของเขาก็โอเคในระดับนึงนั่นแหละครับ แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่วงการรีวิวจะต้องอวยให้มันดูดีกว่าความเป็นจริง เพราะยังไงมันก็มีการขายอยู่แล้ว
@@ing-tangtawan ใช่ครับพี่อิง ทุกอย่างมันมีทั้งดีและเสีย AI ก็เหมือนกัน แต่คนไปมองเรื่องดีจนกลายมาเป็นเรื่องแทนมนุษย์ไปได้ยังไงไม่รู้เหมือนกัน ก็คงดูเรื่องธุรกิจนั้นแหละครับ
มันแค่ over hype ละแต่ไม่แตกหรอ คาใช่จ่ายสูงเดียวก็เหลือไม่กี่เจ้า
ที่แตกในที่นี่ ก็น่าจะเหมือน dotcom แหละครับ เหลืออยู่แต่เจ้าที่มีโปรดักส์ที่ชัดเจน พวกที่เกาะกระแสเฉยๆ ไม่น่าเหลือรอด
1
เพิ่งลงไปไม่ถึง 30 วิ มาแล้ว 55
ยังไม่เท่า จาวิส
อันนั้นน่าจะอีกนาน 55
AI มันสำหรับนักลงทุนจริงๆไงทุนมหาศาล ไม่มีแมงเม่าเหมือนคลิปโต มันก็โอเคหละมีนักพัฒนาเยอะหลายก้าวมันก็พัฒนาไวกว่า มีคู่แข่งขันนิดเดียว
จริงๆตอนสมัย Crypto ผู้เล่นหลักก็เป็นรายใหญ่เหมือนกันแหละครับ รายย่อยตอนนั้นแค่หวังไปผสมโรงเกาะกราฟเขาเฉยๆ แค่มันเข้าไปแจมได้ง่าย .. ส่วน AI ก็เจ้าใหญ่เช่นกัน แค่คนทั่วๆไปเข้าถึงตลาดหุ้น ลงทุนในมันได้ยากกว่าเท่านั้น แต่สำหรับบริษัทเล็กๆเอง ตอนนี้ก็พยายามเอาคำว่า AI มาใช้เยอะมากๆ ทั้งๆที่ไม่ได้มี use case เลย พวกนี้แหละครับ ผมคิดว่าน่าจะไม่รอด
ไม่เกี่ยวอ่ะ มันไม่เป็นแค่การเงิน มันคนละเรื่อง
แนะนำให้ลองฟังใหม่ครับ จะเข้าใจที่ผมพยายามสื่อ
ผมถามรู้สูตรน้ำจิ้มร้านเจ๊เพ็ญมั๊ย มันบอกรู้ แล้วเอาสูตรน้ำจิ้มอะไรไม่รู้มาบอก ผมถามอู้คำเมืองได้ไหม มันบอกได้ แล้วก็เว้าอีสานเฉย โคตรมั่ว55
เคยคุยกับ copilot เล่นๆ ถามเป็นอังกฤษหมดนะ แต่แปลให้ แรกๆลองภูมิ ถามเรื่องเกม คำตอบที่ได้ก็แค่ค้นๆในเน็ตมาแปะให้อ่าน
อยู่ๆก็นึกคึก เปลี่ยนเรื่อง ถามไปว่า "การพัฒนา AI ใช้ไฟฟ้าเท่าไหร่" ตอนแรกมันก็ตอบดีๆนะ ประมาณว่า "ใช้ไฟฟ้าประมาณบ้าน 1000 หลัง"
แล้วผมถามต่อว่า "แบบนี้ AI ก็เป็นสาเหตุภาวะโลกร้อนสิ" มันตัดจบบทสนทนาเลย
ขึ้นบทสนทนาใหม่ ถามเหมือนเดิม "AI ใช้ไฟฟ้าเท่าไหร่" มันตัดจบบทสนทนาตั้งแต่ตรงนี้เลย แบบนี้หมายความว่าไง ไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดใช่มั๊ย
ถ้ามันตอบกลับประมาณว่า "ก็มนุษย์เป็นคนสร้าง AI ขึ้นมา" แบบนี้ผมถึงจะยอมรับครับ ว่ามันคิดเองเป็น หรือโดนโปรแกรมสั่งว่า ห้ามว่าร้ายผู้สร้าง
ช่องนี้แปลกๆ ไม่ได้ว่านะแต่แปลก... ตั้งแต่บอก AMD ไม่ทำการ์จอสู้ ค่ายเขียวยกธงขาวละ ผมนี่ งง เลย
แบบนี้สื่อไอทีต่างประเทศก็แปลกหมดทุกเจ้าเลยเหรอ เพราะผมเอาข้อมูลมาจากสื่อต่างประเทศหมดเลย เริ่มจากเข้า google พิมพ์ว่า AMD RDNA4 แล้วลองอ่านข่าวภาษาอังกฤษก่อนเลยครับ
@@ing-tangtawan มุมมองผมต่อตัวท่านไม่ต้องหว่านแหครับ
และไม่ใช่ผมไม่ชอบท่าน ผมเฉยๆมันก็ต้องมีคอมเม้น เห็นด้วยไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องปกติ แต่หากมันไม่มีผลต่อชีวิตเราไม่มีภัย มองข้ามๆไปบ้างก็ได้ ไม่ต้องเอาชนะทุกเรื่องหรอกครับ ผมไม่ได้สำคัญต่อคุณขนาดนั้น
ยิ่งถ้ามีการเก็บตัง (จะรูปแบบรายเดือนหรืออะไรก็แล้วแต่) ก็เตียมตัวตลาดวายได้เลย
ตอนนี้ถ้าจะทำให้บริษัท AI กำไร นี่ต้องสร้างรายได้มหาศาลมาก แต่ประเด็นคือถ้าเริ่มเก็บเงินจริงจังเมื่อไหร่ คนน่าจะถอยกันไปเยอะเลย
gpt ล่าสุดเรียนรู้ที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดและเรียนรู้เพิ่มด้วยตัวเองได้แล้วนะครับ
th-cam.com/video/cw9jcjpufBI/w-d-xo.html
การที่ AI สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ตอนนี้เป็นแค่คอนเซ็ปต์เท่านั้นครับ AI ในยุคปัจจุบัน ทำงานได้ด้วย Machine Learning ซึ่งจะวิเคราะห์จากข้อมูลและ Pattern ที่มี ซึ่งจะต้องให้มนุษย์ป้อนข้อมูลและออกแบบการนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้
การที่ AI จะเรียนรู้เพิ่มเติมได้ด้วยตัวเอง โดยไม่อาศัยข้อมูลจากฝั่งมนุษย์ อันนี้คือจุดสูงสุดของ AI ซึ่งยังเป็นไปไม่ได้ในเร็วๆนี้แน่นอนครับ