ตำนานผาแดงนางไอ่|มาพิสูจน์ต้นเหตุความจริง ด้วยหลักธรณีวิทยา เมืองที่ล่มสลาย แห่งหนองหานจังหวัดสกลนคร

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 16 พ.ค. 2024
  • 00:00 | ผาแดงนางไอ่
    13:46 | พิสูจน์ต้นเหตุความจริง ด้วยหลักธรณีวิทยา เมืองที่ล่มสลาย แห่งหนองหานจังหวัดสกลนคร
    #ผาแดงนางไอ่|มาพิสูจน์ต้นเหตุความจริง ด้วยหลักธรณีวิทยา ตำนานเมืองที่ล่มสลาย แห่งหนองหาน #จังหวัดสกลนคร ร
    #ตำนานนิทานพื้นบ้านอีสาน #เรื่องผาแดงนางไอ่ เล่าถึงความรักอันแสนเศร้าของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ตำนานนี้มีอยู่ด้วยกันหลายสำนวน แต่ละสำนวนจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วเรื่องราวจะคล้ายคลึงกัน
    ในสำนวนหนึ่งเล่าว่า เมืองผาโพงและเมืองเอกชะทีตาเป็นเมืองพี่น้องกัน ท้าวผาแดงเจ้าเมืองผาโพงได้ส่งแก้วแหวนเงินทองไปสู่ขอนางไอ่คำธิดากษัตริย์เมืองเอกชะทีตา นางไอ่คำก็ตอบตกลงแต่งงานกับท้าวผาแดง
    แต่แล้วพญานาคซึ่งเป็นพ่อของนางไอ่คำก็โกรธที่นางไอ่คำจะแต่งงานกับมนุษย์ จึงส่งบริวารมาจับตัวนางไอ่คำไปขังไว้ในถ้ำใต้บาดาล
    ท้าวผาแดงโกรธมากจึงออกตามหานางไอ่คำจนพบ ทั้งสองจึงหนีออกจากถ้ำใต้บาดาลด้วยกัน แต่ระหว่างทางก็ถูกพญานาคตามมาทัน พญานาคใช้หางฟาดนางไอ่คำจนตกจากหลังม้าและจมหายไปในน้ำ
    ท้าวผาแดงเสียใจมากจึงอธิษฐานขอให้ตายตามนางไอ่คำไป ทันใดนั้น ก็มีฟ้าผ่าลงมาผ่าร่างของท้าวผาแดงและนางไอ่คำจนเสียชีวิตทั้งคู่
    ตำนานผาแดงนางไอ่สะท้อนให้เห็นถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย แต่ก็ไม่ย่อท้อต่อความรัก ตำนานนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อเรื่องพญานาคของชาวอีสานอีกด้วย
    ตำนานผาแดง-นางไอ่ “พระยาขอม” ผู้ครองเมืองเอกชะธีตา (เมืองสุวรรณโคม) มีธิดานางหนึ่งชื่อ “นางไอ่”2 ซึ่งจัดเป็นหญิงที่มีรูปร่างงดงามในวัยแตกเนื้อสาว ซึ่งจะหาสาวงามนางใดในสามไตรภพมาเทียบมิได้ ความงดงามของเธอเป็นที่เลื่องลือไปทั่วแดนไกล เจ้าชายหลายหัวเมืองต่างหมายปองอยากได้มาเป็นคู่ครองกันทุกคน
    "ท้าวผาแดง" เจ้าชายเมืองผาโพง ทราบข่าวเล่าลือถึงสิริโฉมอันงดงามของ นางไอ่ ก็เกิดความหลงไหลใฝ่ฝันในตัวนางเป็นอย่างมาก จึงวางแผนทอดสัมพันธ์ไมตรีด้วยการส่งแก้วแหวนเงินทองและ ผ้าแพรพรรณเนื้อดีไปฝาก นางไอ่ เมื่อมหาดเล็กนำเอาสิ่งของไปมอบให้ แถมยังได้บอก นางไอ่ ถึงความรูปหล่อ องอาจ ผึ่งผายของ ท้าวผาแดง ให้ฟัง เท่านั้นเองนางก็เกิดความสนใจและฝากเครื่องบรรณาการไปฝาก ท้าวผาแดง เป็นการตอบแทนด้วย ท้าวผาแดง จึงขี่ม้าแอบมาหานางไอ่ และได้สมัครรักใคร่กัน แล้วสัญญากันว่าจะทำพิธีสู่ขอและแต่งงานกันตามประเพณีในไม่ช้านี้
    ฝ่าย“ #ท้าวพังคี ” ลูกชาย #พญาศรีสุทโธ พญานาคผู้ครอง #เมืองบาดาล ก็เป็นอีกตนหนึ่งที่มีความใฝ่ฝันอยากยลสิริโฉมของ นางไอ่ ทั้งนี้เพราะเป็นเวรกรรมในอดีตชาตินั้นบันดาลให้มีอันเป็นไปโดยเรื่องมีอยู่ว่า ท้าวพังคี เมื่อชาติก่อน เป็นชายหนุ่มที่ยากจนและเป็นคนใบ้ เดินทางเที่ยวขอทานไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ จนมาถึงหน้าบ้านเศรษฐีคนหนึ่ง และได้เข้าไปอาศัย ช่วยทำงานให้บ้านของเศรษฐีโดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย
    อยู่มาวันหนึ่ง' ท้าวพังคีก็คิดถึงญาติพี่น้องที่บ้านเกิดของตน จึงพาภรรยากลับไปเยี่ยม' บ้านเศรษฐีผู้เป็นบิดาได้จัดแจงให้ลูกสาวหาบเสบียงอาหารตามผัวไป'
    ท้าวพังคีหนุ่มใบ้ ก็ไม่เคยช่วยเหลือนางด้วยการหาบแทนเลย' นางทนลำบากหาบของหนักข้ามห้วย และป่าเขา' จนกระทั่งเสบียงอาหารหมดลงกลางทาง' ท้าวพังคีเห็นมะเดื่อสุกเต็มต้น' จึงขึ้นไปเก็บกินแทนข้าว' ฝ่าย นางไอ่ชะ\เง้อคอ แหงนหน้าขึ้นมองท้าวพังคีผัวรัก ให้โยนลูกมะเดื่อลงไปให้กินบ้าง' แต่ท้าวพังคี กลับไม่ใส่ใจเนื่องจากเป็นคนใจแคบ' กินอิ่มคนเดียวแล้วก็ลงจากต้นมะเดื่อเดินหนีไป' นางจึงขึ้นเก็บกินเอง'
    เมื่อนางกินอิ่มแล้วก็ลงมาแต่ไม่พบท้าวพังคี จึงออกเดินตามหาแต่หาเท่าไหร่ก็ไม่พบ' “บุญบั้งไฟ ในครั้งนี้' แม้ท้าวผาแดงจะไม่ได้รับฎีกาบอกบุญเชิญให้นำเอาบั้งไฟ ไปร่วมงานด้วยก็ตาม' แต่พระยา\ขอม ว่าที่พ่อตา ก็ให้การต้อนรับท้าวผาแดงเป็นอย่างดี'ฝ่าย ท้าวพังคี เจ้าชายเมืองบาดาล ก็อยากมาร่วมงานกับมนุษย์' เพราะต้องการยลโฉมนางไอ่ เป็นกำลัง' และคิดวางแผนในใจว่า 'บุญบั้งไฟครั้งนี้ข้าต้องไปให้ได้ แม้พ่อข้าจะทัดทานอย่างไรก็ตาม' ได้ออกติดตามลอบชมโฉมนางไอ่ ในขบวนแห่ของ พระยาขอม เจ้าเมืองไปอย่างหลงไหลในความงามของนาง'การจุดบั้งไฟแข่งขันเป็นไปอย่างสนุกสนาน' ทุกคนใจจดจ่ออยากรู้ว่า บั้งไฟเจ้าชายเมืองไหนชนะและได้นางไอ่ไปครอง 'ซึ่งการจุดบั้งไฟครั้งนั้น' ท้าวผาแดง และ พระยาขอม มีเดิมพันกันว่า' ถ้าบั้งไฟท้าวผาแดง ชนะบั้งไฟ พระยาขอม แล้ว' ก็จะยกนางไอ่ธิดาสาวให้ไปเป็นคู่ครอง'ผลปรากฎว่า' บั้งไฟของพระยาขอมไม่ขึ้นจากห้าง'
    ซึ่งคนอีสานเรียกว่า “ซุ”' ส่วนของท้าวผาแดง แตก ระเบิด คาห้าง' คงมีแต่บั้งไฟของ พระยา ฟ้าแดด' #เมืองฟ้าแดดสูงยาง' และของ พระยาเซียงเหียน” แห่งเมืองเซียงเหียนเท่านั้นที่ขึ้นสู่ท้องฟ้านานถึง 3 วัน 3 คืน จึงตกลงมา' แต่พระยาทั้งสองนั้นเป็นอาของนางไอ่ เธอจึงไม่ตกเป็นคู่ครองของใคร'เมื่อบุญบั้งไฟ เสร็จสิ้นลง' ท้าวผาแดงและท้าวพังคี ต่างฝ่ายต่างกลับบ้านเมืองของตน' แต่ในที่สุด ท้าวพังคีก็ทนอยู่บ้านเมืองแห่งตนไม่ได้ เพราะหลงไหลในสิริโฉมอันงดงามของนางไอ่' จึงพาบริวารย้อนขึ้นมายังเมืองเอกชะธีตาอีก' โดยแปลงร่างเป็นกระรอกเผือกอย่างเดิม' ส่วนที่คอแขวนกระดิ่งทอง ไปเกาะอยู่บนกิ่งไม้ใกล้ น้าต่างห้องนอนของนาง'เมื่อเสียงกระดิ่งทองดังกังวาลขึ้น นางไอ่ได้ยินก็เกิดความสงสัย' จึงเปิดหน้าต่างออกไปดูเห็นกระรอกเผือกวิ่งและเต้นไปเกาะกิ่งนั้นกิ่งนี้ด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู' นางก็เกิดความพอใจอยากได้ขึ้นมา' จึงสั่งให้นายพรานฝีมือดีออกติดตามจับกระรอกเผือกให้ได้' แต่จนแล้วจนรอดนายพรานก็จับไม่ได้ เพราะความว่องไวของกระรอกเผือกตนนั้น' นางจึงเกิดความไม่พอใจขึ้นมาแทนที่' และสั่งให้นายพรานจับให้ได้ ไม่ว่าจะจับเป็นหรือจับตาย'คำว่า "
    #เรื่องเล่าจากบันทึก เล่าเรื่องต่างๆที่มีสาระและน่าสนใจ ประวัติศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ รวมถึงธรรมะคำสอนต่างๆ

ความคิดเห็น • 9

  • @user-rk6nu7gc7i
    @user-rk6nu7gc7i 5 หลายเดือนก่อน +2

    ตำนาน มีทั้งเรื่องจริงและนิทานสอนลูกหลาน เอาเป็นว่า ฟังเพื่อประดับความรู้ ส่วนจะจริงหรือเท็จแค่ไหน เราไม่ไปตำหนิติเตียน ฟังแบบมีธรรม ว่าด้วย โลภ โกรธ หลง เตือนสติ ตัวเอง คร้าบ

  • @pridawibulswas803
    @pridawibulswas803 หลายเดือนก่อน +1

    ปวศ. อีสาน ถูกละเลย ทั้งๆที่ มีอารยธรรมมานานหลายพันปี
    ศรีเทพ เปนมหานคร อายุเกือบ สองพันปี. สุโขทัยอายุ 700 ปี

  • @user-ii4is6qb9y
    @user-ii4is6qb9y 5 หลายเดือนก่อน +1

    รอยพระบาทจารึก เรื่องนี้เอาไว้แล้ว อุรังคธาตุ แต่ไม่ละเอีอด เพราะจารึกทางตัวอักษรไม่มียุคนั้นไม่มีลุกศิษติดตามพระองค์ท่านไป ครั้ง ปถมบท หลัง ครบ พระรัตนตรัย สามประการ ปัญจวคี ต่างแยกกันไปคนละทิศ จุดนี้ที่ประวัติประองคท่านหายไป รอยพระบาทนั้นมี แต่ทุกๆๆคนไม่ตามหาความจริงเป็นเช่นไร นิทานที่ไม่เคยจารึกทุกๆที่มีแต่เรื่องเล่า ความจริงมีแต่ทุกคนไม่รุ้ไม่เขเาใจ ไม่ตามหาเลยจมอยุ่กับที่ ตามรอยพระบาท มา สระบุรี รอยพระบาทนั้นก้าวมาเพื่อ โปรดสัตวเหล่าตะกุล งุใหญ่ ที่เขานาคีธารน้ำตาไหลเป็นน้ำตก ไหลอยุ่จนปจุบัน รอยพระบาทคุ่ที่เขาสกลนคร พระองคท่านยืนตากฝนเปียก เพื่อน้ำนั้นจะได้ท่วมหนองปิดร่องรอยกันอุจาดตาเพื่อเหล่าแม่หม้ายเมือน้ำเต็มจะได้หนีออกจากเกาะไปได้ รอยพระบาทที่อำเภอสังคม เหนือ รุ พระยางุใหญ่ ที่จากรึกไว้ พร้อม รอยพระบาทพระองคท่าน รอยที่สาม ที่มุกดาหาร พร้อม รอยหยดน้ำกระแทกแตกเป็นหลุมพร้อม บุอน้ำตาพระแม่ ธรนีคุ่รอยพระบาทอีกที่ที่จารึกเรื่องนี้เอาไว้ บึงโขงหลง อีกที่ ที่ เมืองนี้ถล่มจมลงของแผ่นดิน ฝนที่ตกที่สกลนครมาไม่ถึงนี้ แผ่นดินล่มจมลงน้ำโขงไหลบ่าเข้า ท่วมจมเมืองปิดร่องรอยกันอุจาดตาอีกที่ ตัวที่แข็งเป็นหินได้ถุกจารึกไว้อีกตัว ที่หนองโขงหลง บึงโขงหลง น้ำโขงไหลเข้า จบจากที่นี้ พวก พระยานาคทุลขอพระองคเสด็จลงไปสุ่วังบาดาล จนพวกนาคทั้งหลายบอกจะปกป้องแผ่นดินและพระศาสนา จนมีพวกนาคๆปกป้อง รอยพระบาท ที่จารึกอยุ่ริมน้ำที่พวกนาคทั้งหลายไว้ระรึกถึงกราบไหว้ รอยพระบาทที่พวกนาคทุลขอไม่รุ้อยุ่ที่ใหน รอยพระบาทนี้ ใครมีข้อมุลส่งต่อ ครับ รอยพระบาทรืมฝั่งแม่น้ำ ที่พวกนาคทุลขอ ตามรอย พระบาทที่ทรงยืนตากฝน มี ลานตากผ้าที่เปียก พระแท่นดงรัง ก่อนท่านจะเสด็จกลับ อินเดีย รอยพระบาทจารึกไว้ทั่วไทย น้ำที่ไหลผ่านรอยพระบาทที่เขาสกลนครน้ำนั้นไหลตกไปถึงที่ใดความเลวร้ายแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นมาอีก เปรียบได้ดั่งน้ำตาท่านทั้งสองที่ สกลมุกดาหาร น้ำที่ไหลหยดจากจีวรท่านตกกระแทกแตกเป็นหลุุมเปรียบได้ดั่งน้ำตาท่านอีกที่ๆจารึกไห้ตามหาความจริงกันต่อไป เวิ้งนาคีเวิ้งนี้สามจังหวัด ถึงมีชาวบังบดเกิดขึ้นที่นี้ สถานที่แต่ละแห่งที่พวกเขาทำลายผุ้คนต้องตายลงเป็นจำนวนมาก แม้แต่แม่ธรนียังเอาไม่อยุาต้องรอ พระพุทธองคมาโปรดพวกเขา รอยผุดของแผ่นดินรอต้อนรับพระองค ครั้งออกโปรดเหล่าตระกุลงุใหญ่ จึงมีจารึกเอาไว้ไห้ผุ้คนออกตามหาความจริงเรื่องนี้ ไม่ใช่ นิทาน ตามรอยพระบาทไป

  • @isobenz1409
    @isobenz1409 4 หลายเดือนก่อน +1

    ส่วนตัวว่าน่าจะเป็นเรื่องจริงนะ
    เมืองฟ้าแดด เมืองเซียงเหียน เมืองสีแก้ว และเมืองอื่นๆ ก็มีอยู่

  • @user-zx6fr3po4z
    @user-zx6fr3po4z 5 หลายเดือนก่อน +1

    ຕຳນານຮັກຂອງລາວ

    • @LOVEGOD188
      @LOVEGOD188 3 หลายเดือนก่อน +1

      ตำนานเมืองขอม

  • @user-rf2fc2gd1l
    @user-rf2fc2gd1l 5 หลายเดือนก่อน +2

    ผาแดงกับนางไอ่ เป็นตาทวด กับ ยาย ทวดกระผมครับ ในตำนาน กับ เรื่องจริงก็มี ตากับยายทวดท่านเป็นบุคคลสำคัญมากๆในสังคมอดีตครับ

    • @user-ki5vr3or4w
      @user-ki5vr3or4w 5 หลายเดือนก่อน

      อธิบายด้วยครับผม