พระเจ้าแตงหวานกษัตริย์เขมร จากทาสขึ้นครองพระนคร จริงหรือ..!
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 15 พ.ค. 2024
- #พระเจ้าแตงหวาน
สมเด็จพระองค์ชัย (เขมร: ព្រះបាទអង្គជ័យ) หรือที่รู้จักในพระนาม พระบาทตระซ็อกประแอม ( พระเจ้าแตงหวาน ) (เขมร: ត្រសក់ផ្អែម) หรือพระบาทสมเด็จพระศรีสุริโยพันธุ์ที่ 1 (ព្រះបាទស្រីសុរិយោពណ៌ទី១) โดยทั่วไปถือว่าเป็นกษัตริย์ในตำนานของอาณาจักรพระนครซึ่งสันนิษฐานว่าสวรรคตประมาณ พ.ศ. 1883
พระราชประวัติของพระองค์นั้นยังคงเป็นที่ถกเถียงและยังหาข้อสรุปไม่ได้ในหมู่นักวิชาการกัมพูชาและนักวิชาการไทย (โดยเฉพาะแนวคิดว่าด้วยกัมพูชาในช่วงการปฏิวัติขอม
พระเจ้าแตงหวานในประวัติศาสตร์กัมพูชา
ในปัจจุบันนักวิชาการทางด้านประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ยังไม่สามารถระบุตัวตนของพระองค์ทางประวัติศาสตร์ได้ว่าพระองค์ทรงมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ เพราะที่มาของพระองค์ไม่มีความชัดเจนซึ่งเมื่อเทียบกับพงศาวดารตำนานเจ้าฟ้างุ้มของลาวซึ่งมีพระชนม์ชีพอยู่ในช่วงเวลาเดียวกันก็ไม่พบพระนามของพระองค์ หรือหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงถึงพระองค์ ดังนั้นนักวิชาการกัมพูชาจึงให้สมมุติฐานว่าเรื่องราวของพระองค์อาจเป็นเพียงนิทานที่เล่าสืบต่อกันมาและมีการผูกเรื่องราวกับพระแสงหอกลำแพงชัย เครื่องราชกกุธภัณฑ์กษัตริย์ทำให้การมีตัวตนของพระองค์ยิ่งมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
เรื่องราวตำนานของพระเจ้าแตงหวานนี้มีลักษณะแบบเดียวพระเจ้าญองอู้ ซอยะฮ่านแห่งราชวงศ์พุกามซึ่งเป็นตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาหลายชนชาติในภูมิภาคนี้
ในปี พ.ศ. 2448 พระเจ้าแตงหวานหรือพระเจ้าตระซ็อกประแอมเริ่มได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในกัมพูชาว่าเป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์โดยมีการเชิดชูพระเกียรติยศโดยกษัตริย์กัมพูชาหลายพระองค์ทั้งในราชสกุลนโรดมและราชสกุลสีสุวัตถิ์ โดยในปีพ.ศ. 2508 พระองค์ยังคงเป็นบุคคลทั่วไปในการอภิปรายทางประวัติศาสตร์การเมืองและมีความชัดเจนในตัวตนของพระองค์มากขึ้น[4]
แต่ต่อมาในปีพ.ศ. 2538 พระเจ้าแตงหวานได้กลายเป็นบุคคลเพียงในตำนานมากกว่าจะบุคคลเป็นบุคคลที่มีตัวตนในประวัติศาสตร์เพราะการหาหลักฐานมาพิสูจน์ความมีตัวตนของพระองค์นั้นแทบไม่มีหลักฐานใดๆที่เชื่อมโยงถึงพระองค์นอกจากพระราชพงษาวดารกรุงกัมพูชาฉบับนักองค์เองซึ่งยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอ
วง โสเธียรา ( Vong Sotheara ) ศาสตราจารย์ด้านจารึกเขมรและประวัติศาสตร์กัมพูชา-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการมีตัวตนของพระเจ้าตรอซ็อกผแอม[5]โดยศึกษารวบรวมจากจารึกและเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่พบความเชื่อมโยงใดๆเกี่ยวกับพระองค์และระยะช่วงเวลาการมีพระชนม์ชีพนั้นอยู่ระหว่าง ค.ศ.1221 - ค.ศ.1340 นั้นไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงและมีความเป็นไปได้ที่ พระเจ้าตรอซ็อกผแอม (ตาชัย) และพระบาทศรีสุริโยพันธุ์ที่ 1 (พระบาทองค์ชัย) อาจไม่ใช่บุคคลคนเดียวกัน
พระราชประวัติของพระบาทองค์ชัยนั้นระบุว่าทรงเป็นพระราชบุตรเขยของพระเจ้าชัยวรมันปรเมศวร ( พระเจ้าชัยวรมันที่ 9 ) และทรงอภิเษกสมรสกับพระนางจันทรวรเทวีพระราชธิดาของพระเจ้าชัยวรมันที่ 9[6]ในปี ค.ศ. 1290 ซึ่งเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์การสวรรคตของพระเจ้าชัยวรมันที่ 9 ถึง 45 ปี โดยจารึกระบุปีที่พระเจ้าแตงหวานขึ้นครองราชสมบัติหลังการสวรรคตของพระสัสสุระคือปี ค.ศ. 1336 แต่ตำนานพระเจ้าแตงหวานระบุว่าทรงปลงพระชนม์พระเจ้าชัยวรมันที่ 9 ในปี 1336 และอภิเษกกับพระนางจันทรวรเทวีและสถาปนาขึ้นเป็นพระมเหสี ซึ่งในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 9 พระองค์ทรงหันมานับถือศาสนาฮินดูและพยายามโน้มน้าวพระทัยพระราชบิดาให้หันกลับมานับถือฮินดู โดยบ้านเมืองในขณะนั้นมีการยึดถือระบบชนชั้นวรรณะอย่างเข้มข้นการที่พระองค์จะให้พระราชธิดาซึ่งมีวรรณะกษัตริย์อภิเษกสมรสกับตาชัยผู้เฝ้าสวนแตงและมีวรรณะศูทรนั้นย่อมเป็นไปได้ยาก หากเป็นเช่นนั้นจริงพระบรมนิพพานบทพระราชโอรสจะขึ้นครองราชสมบัติขณะมีพระชนมายุเพียง 4 ชันษาแต่พงศาวดารระบุว่าพระองค์ครองราชสมบัติต่อจากพระราชบิดาเมื่อพระชนมายุ 49 พรรษา และสวรรคตขณะมีพระชนมายุได้ 54 พรรษา
อย่างไรก็ตามเรื่องราวของพระบาทศรีสุริโยพันธุ์ที่ 1 นั้นมีความสอดคล้องกับพระราชพงศาวดารกรุงกัมพูชา พงศาวดารจามปาและศึกสงครามระหว่างเมืองพระนครกับอาณาจักรจามปา รวมถึงรอยต่อทางประวัติศาสตร์ของสงครามที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงมีชัยชนะเหนืออาณาจักรจามปา[7] และมีการกวาดต้อนเชื้อพระวงศ์จามปามาไว้ในเมืองพระนครหลวงและเกณฑ์เป็นแรงงานสร้างเมืองนครธม [8] ดังนั้นนักวิชาการจึงยังไม่ตัดประเด็นความเป็นไปได้ที่พระบาทศรีสุริโยพันธุ์ที่ 1 ( พระองค์ชัย ) พระราชบิดาพระบรมนิพพานบท และพระสิทธานราชาจะมีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาตร์ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้ที่พระองค์อาจจะไม่ใช่บุคคลคนเดียวกันกับตาชัยผู้เฝ้าสวนแตงหรือพระเจ้าแตงหวาน
พระราชประวัติ
สมเด็จพระองค์ชัย (เขมร: ព្រះបាទអង្គជ័យ อักษรโรมัน: Trasak Peam ) หรือพระเจ้าตระซ็อกประแอม หรือพระบาทศรีสุริโยพันธุ์ที่ 1 พระเจ้าแตงหวานทรงสถาปนาพระองค์ขึ้นปกครองเมืองทางตอนใต้ (ใกล้เมืองจตุมุข,พนมเปญ) โดยการรวมตัวของทาสที่เป็นกลุ่มพวกเดียวกันในพระราชอาณาจักรชัยวรมันที่หลบหนีออกจากพระนครหลวงและกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆที่เป็นชนชั้นที่ถูกปกครองทางตอนใต้ โดยช่วงเวลานั้นอำนาจในพระนครหลวงได้เริ่มเสื่อมอำนาจลงอย่างมาก เมืองภายใต้การปกครองพยายามแยกตัวออกเป็นรัฐอิสระ ซึ่งต่อมาเมืองนี้ได้กลายเป็นฐานอำนาจสำคัญของราชสกุลตระซ็อกประแอม เมื่อพระบรมราชาหรือเจ้าพญาญาติทรงย้ายราชธานีจากพระนครหลวงมายังเมืองนี้[9][10]ซึ่งเป็นฐานอำนาจเก่ามาตั้งแต่รัชสมัยพระเจ้าแตงหวาน พระเจ้าแตงหวานทรงขึ้นปกครองเมืองนี้เมื่อพระชนมายุ 70 ปี ในปี ค.ศ. 1290
#เรื่องเล่าจากบันทึก เล่าเรื่องต่างๆที่มีสาระและน่าสนใจ #ประวัติศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ รวมถึงธรรมะคำสอนต่างๆ
ขนาดเขมรบันทึกไว้เอง ยังสงสัย ขี้สงสัยจริงๆ
อยู่ดีดีลูกหลานก็พยายามลบประวัติของบรรพบุรุษที่เคยกอบกู้เผ่าพันธุ์ของตนให้หลุดพ้นจากการเป็นทาส เนาะ
ช่างน่าชื่นใจจริงๆ
แตงหวานน่าน้อยใจ ลูกหลานไม่เคยพูดถึงเลย 😂🇰🇭
น่าจะปล่อยให้เหมนเป็นทาสไปตลอดนะ ท่านแตงหวาน.
ระยะเวลาครองอำนาจของแตงหวานน่าจะเป็นช่วงสั้นๆ อีกทั้งเป็นเรื่องที่ไม่น่าปลื้มอีกด้วย เป็นทาสก่อกบฎยึดอำนาจจากนาย ประวัติทาสใครอยากจำ สู้เคลมของนายไม่ได้ ยิ่งจะให้จารึกเป็นหลักฐาน ความรู้ก็คงไม่มี กร่างได้ไม่กี่ปีก็โดนอยุธยาเอาคืน
ทำไมจึงเป็นช่วงสั้นๆก็เพราะว่าชัยวรมันที่ 9 เนี่ยไม่ได้ตายหนีไปทางสุพรรณแล้วก็เจ้าเมืองสุพรรณบุรีเนี่ยได้กัดกรุงศรีอยุธยาที่ว่างๆเพราะว่ามันมีคนไปเป็นแสนไงไปหาที่ราบรุ่นที่ว่างๆที่จะบรรจุคนได้ขนาดแสนคนเนี่ยให้สร้างกรุงศรีอยุธยาและพระเจ้าอู่ทองก็คือชัยวรมันที่ 9 สร้างกรุงศรีอยุธยาได้แค่ 4 ปีเนี่ยคือแค้นไงแค้นที่ญาติพี่น้องคนสยามถูกฆ่าตายในละครวัดก็เลยสั่งให้ละครับทำตามเนี่ยซึ่งเป็นเมืองเมืองเมืองหนึ่งของสยามกองทัพบกของสยามเครือละโว้กองทัพเรือของสยามคือศรีวิชัยไปแก้แค้นที่นครวัดพวกทาสเขมรด้วยความที่เป็นทาสไม่เคยสู้รบไงก็เลยแพ้อย่างง่ายดายมันถึงใช้เวลาสั้นๆแล้วก็สั่งสั่งขวดก้อนพวกคราบเขมรเหล่านี้ให้ไปอยู่ที่เมืองกัมโพชซึ่งก็เป็นจังหวัดหนึ่งของสยามตอนนั้นเพราะตอนสมัยรัชกาลที่ 1 ของประเทศไทยก็ยังไปเอาภาพเหล่านี้มาขุดคลองโอ่งอ่าง
พระเจ้าแตงหวาน แต่หน้าตาเป็นฮุนเซน กร้ากกก 🥶🥶🥶😱😱😱🤣🤣🤣
😂😂😂😂ก็ว่างั้นครับ
คิดเหมือนกันเลยว่าทำไมหน้าคุ้นๆที่แท้"ผู้มาก่อนกาล" ต้นกำเนิด"กำแพงมหัศจรรย์"แน่เอง
😂อยากเปนทุกสิ่ง
จินตนาการหน้าตาไม่มีไงครับ
ช่างเปรียบเทียบนะเราหนะ แต่ก้เหมือนจริงๆเลย 5555
นักองค์เองยังเขียนบันทึกไว้ว่าตนเองสืบเชื้อสายจากตระซอกปะเอมแต่พออยากได้นครวัดเขมรเลยมายกวรมันนายทาสว่าเป็นบรรพบุรุษตนเองซะงั้น🤣
อ้าว? เขมรเขียนเองแล้วมาบอกว่าไม่จริง?
😅😅😅😅😅😅
เขมรยังไม่รับ เป็นบรรพบุรุษ ยังดูแคลนผู้เป็นเชื้อสายเลย
น่าจะสืบค้นจากประวัติของกษัตริย์สีหนุ ว่าท่านสืบเชื้อสายมาจากไหน ผมว่าน่าจะเจอนะครับ
กษัตริย์เขมรช่วงแรกๆเขาก็ยอมรับนะว่ามันคือบรรพบุรุษของเขานะสมบัติของประเทศไทยเนี่ยว่าบรรดากษัตริย์เขาก็รู้อยู่นะกลุ่มคนที่เขายังไม่ตายอ่ะมันมาเปลี่ยนตอนนี้ให้อะไรไอ้หุ่นเสร็จเนี่ยมาเปลี่ยนตอนฮุนเซนเนี่ย
คนป่าแน่นอนชอบใช้หอก
😁😁😂น่าจะไช่
ถูกต้องแน่นอนค่ะ
เสียมปลูกแตง
ถ้าเป็นคนป่า ก็แสดงว่ากองทัพของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ก็เป็นคนป่าน่ะสิครับ เพราะกองทัพมาซิโดเนียก็ชอบใช้หอก🤣🤣🤣
ไอ้หอกหัก😂😂😂
นักประวัติศาสตร์ไทยชอบบอกคนไทย วัฒนธรรมขอมเป็นของเขมรโบราณ แต่วัฒนธรรมสยามโบราณเป็นอย่างไรไม่เห็นกล่าวถึงทั้งที่นครวัดมีการแกะสลักและกล่าวถึงสยาม
จะเล่าอะไรให้ฟังอย่างนึงตอนสมัยที่คุณยิ่งลักษณ์อันนี้ไม่ได้ว่าคุณยิ่งลักษณ์นะไม่เกี่ยวสมัยที่คุณยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีมันมีบัณฑิตสภากลุ่มนึงก็คือกลุ่มนักประวัติศาสตร์ไทยกลุ่มปัจจุบันนี่แหละได้ไปบัญญัติคำว่าหอมเป็นเขมรขอมเป็นเขมรให้คุณยิ่งลักษณ์เนี่ยนำทูลถวายเป็นลายเซ็นยิ่งลักษณ์แกก็ไม่รู้หรอกประวัติศาสตร์เป็นยังไงใช่ไหมอันนี้มีนักประวัติศาสตร์ผู้จัดการให้ไงและตอบมาอีกนะปัจจุบันคือวันนี้เดือนพฤษภาคมนี้ก็มีกลุ่มนักประวัติศาสตร์เหล่านี้จะเอาของไปคืนเขมรรัฐมนตรีเหล่านี้ก็ต้องถามว่าก็เรียกพวกนักประวัติศาสตร์กลุ่มนี้ไปถามอีกว่ามีอะไรบ้างที่เป็นของเราและของเขาพวกนักประวัติศาสตร์กลุ่มนี้ก็เป็นเช่นเดิม
มันต้องมีเรื่องจริงปนนิทาน นิทานอะไรจะสอดคล้องกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ขนาดนี้ เรื่องจริงน่าจะมีสอดแทรกในนิทานนี้ แต่เขมรปฏิเสธแบบ 100%
ชัยวรมันโดนสีหะนุปล้น สีหะนุโดนฮุนปล้น ฮุนโดนจีนปล้น จบ
เขามิใช่ กษัตริย์ เขาเป็น Taas กบท ในเมืองพระนคร เนื่องจากกลุ่ม Taas มีจำนวนมากกว่า สยามกัมภูชาที่มีน้อยก็ว่า นายแตงหวานจึงก่อ กบท ขึ้น ตั้งตนเป็นใหญ่ ส่วนพระเจ้าชัยวรมันที่ 9 จึงต้แงถอนกำลังมาตั้งเมืองใหม่เป็นพระเจ้าอู่ทอง ให้ กลุ่มนายแตงหวานครองเมือง 4-5ปี และได้ตีเมืองคืนจาก กลุ่ม กบท นายแตงหวาน
เคยเจอเม้นท์หนึ่งว่า..ทำไมจะไม่มีตัวตน,ยังมีชื่อถนนตระซ๊อกประแอม ในเขมรเลย(น่ามีช่องไหนไปถ่ายรูปมาให้ดูกันนะ)
หน้าเหมือนเนวิน ชิดชอบ
เป็นบรรพบุรุษที่เหมนไม่อยากเคลมไม่งันเดียวไม่ได้เป็นขอม
คิดเหมือนกันเลยครับ เด๋วเคลมไม่ได้
อันนี้เรื่องจริงถ้าเครมปุ๊บเนี่ยจะกลายเป็นผู้รุกรานแล้วไม่ได้เป็นขอม
คลิปนี้เขมรทำมาอ้างรู้หมดยกเว้นความจริง
Admin please put English subtitles,please. We Cambodia want to know what you say it the video.
ทาสจากไหนครับ
พยาทาสสากกระเบือนี่นะเป็นบุตรพระเจ้าชัยวรมัน กูขำกับการสร้างเรื่อง นี่อาจจะเป็นการปูเรื่องมาสู่ตระกูลฮุนเซนให้เป็นเชื้อกษัตริย์เพื่อขึ้นครองราชย์ในอนาคตอันใกล้
คุณพูดถูกต้องแน่นอน
ขนาดฮุนยังยึดอำนาจเจ้าแต่งตั้งตัวเองเป็นเจ้าแตงหวานเป็นไอดอลคุณฮัน
ถูกค่ะ ไว้ล้างสมองคนชาติเค้า
กะจะเคลมขอมวรมันต์เลยชั่ยป่ะ
ขึ้นเป็นกษัตริย์ง่ายๆงี้เลย
แต่งเรื่องเล่าลอยๆ ให้ดาวอังคารได้รับรู้
เสี่ยฮุน😊
ได้แค่อาจจะ พรพรตคงเฝาทึ้งแล้วกะจะเขียนใหม่แต่เจอฮุนเซนเขียนหนักกว่าเดิม
นิทานการเมือง❤
ใครเชื่อก็บ้า😅
แตงหวานหรือแตงเน่าขนาดลูกหลานยังจำไม่ใด้หมายถึงความดีไม่มีให้จำ
เหมนมัยยังไม่อยากเอาประวัติผศสสตร์ตรงนี้เลย มันคงอยากต่อจากพระเจ้าชัยวรมันมากกว่าแตงหวาน
นักวิชาการกัมพูชา(เหมร)ความรู้เท่าเด็ก ม.3 บ้านเรา
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ที่มันก่อกบฏเจ้านายตัวเอง ยังมีศิลาจารึกบันทึกคำสาปแช่งอายุหลายร้อยปีสามแช่งให้เขมรไม่พบความเจริญอีกหลายพันปี
ขอให้คำสาปนั้นสัมฤทธิ์ผลไปอีกนานแสนนาน
แต่งขึ้นเพื่อครองราชโดยชอบธรรม
รูปปั้นเจ้าแตงหวานเขาปั้นมาตั้งแต่อดีตหรือพึ่งปั้นขึ้นใหม่ครับ ทำไมหน้าเหมือนฮุนเซนเลย
แรงงานมาจากใหน
ชนชั้นแรงงาน ยุคเก่าก็คือชนชั้นทาสซึ่งมีในทุกภูมิภาคของโลกทั้งโซนตะวันตกและตะวันออก
กำลังแก้ไข, , สวนแตงที่ปลูกไว้ ใครดูแลต่อละเนี่ย ถ้าส่งต่อมาให้คนปัจุบันได้ลิ้มลอง อยากรู้ว่าจะหวานแค่ไหน เรื่องราวเหมือนนิทาน , , เพิ่มความคิดเห็น...
เหมือนฮุนเซนจัง
ใครเป็นคนปั้นรูปแตงหวาน หน้าเหมือนฮุนเซ็นยังกับเป็นอนุสาวรีย์ฮุนเซ็นอย่างนั้น
ฮุนเซ็นคือเขมรสามัญธรรมดาตั้งตัวเองเป็นสมเด็จตอนขึ้นสู่อำนาจไม่มีเชื้อราชวงศ์หรือเชื้อเจ้าใดๆ
กษัตริย์เขมรคนแรกๆๆๆ
ที่ได้เป็นกษัตริย์ก็เพราะก่อกบฏ ไม่อยากเป็นทาส อยากเป็นกษัตริย์เอง อยากเป็นใหญ่เป็นโต เลยโค่นล้างราชวงศ์ชัยวรมัน ทาส(พวกของนายแตงมันเยอะ)เลยคิดก่อกบฏฆ่าทหารฆ่าล้างราชวงศ์แต่มีคนในราชวงศ์หนีไปได้ ไปตั้งเมืองใหม่ แล้วกลับไปล้างแค้นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มันคืน เมืองนั้นเลยกลายเป็นเมืองร้าง
พระเจ้าฟูก๊วก
ทำไมประวัติคล้ายพ่อขุนผาเมืองของเราจัง
บรรพบุรุษวุ้นเส้น😂
เขรมทำรายไปรึป่าว
เหมือนพระเจ้าตากกับเจ้าพระยามหากษัตริศึกแย่งกันเป็นใหญ่
ต้นตระกูลเขมรที่ถูกลืมเขมรไม่เอาลืมรากเหง้า
แตงหวานคือผัวชู้...เมีย วรมันที่9😢😅
.
ตามหลักฐานการจดบันทึก สายกัมโพชละโว้ เริ่มแยกตัวไม่อยู่ใต้บังคับกษัติย์เมืองพระนคร ในปลายยุคสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 8 (จากบันทึกหยวนสื่อ ละโว้ส่งทูตนำเครื่องบรรณาการ ไปถวายจักรพรรดิหยวนืเพื่อผูกความสัมพันธุ์ ในครั้งแรกในปี พ.ศ. 1832) เนื่องจากในปลาย รัชสมัย ชัยวรมันที่ 8 มีข้อพิพาทภายในราชสำนัก จนเป็นโอกาสให้ลูกเขย พระเจ้า อินทรวรมันที่ 3 ได้ยึดพระขรรภ์ราช และชิงราชสมบัติจากราชทายาท ขึ้นครองราชย์ที่เมือง พระนคร การปกครองอำนวจในช่วงนั้นสั่นคลอน ทำให้กษัติย์หัวเมือง บางเมือง ไม่ยอมรับ ความชอบธรรมของกษัติย์เมืองพระนครองค์ใหม่ หลังจากแยกตัว ไม่ยอมรับอำนาจ พระมหากษัตริย์ องค์ใหม่ ผู้ปกครองสายกำโพชละโว้ ก็เก็บตัว อยู่ปกครองละโว้ จนตั้งราชวงศ์สายกัมโพชละโว้แห่งกัมโพชรัฐของตัวเองขึ้น ใช้ระยะเวลา ประมาณ 60 ปี ดำเนินการปกครอง ตามแนวขนบธรรมเนียมวัฒนธรรม ประเพณีแบบเมืองพระนครตลอดมา ผสมผสานกับรูปแบบการปกครอง ความเชื่อ และสถาปัตยกรรมแบบพุทธศาสนาเถรวาท จนกลายเป็นรูปแบบกัมโพชละโว้โดยเฉพาะ แล้วได้ปฏิบัติสืบทอด และเผยแพร่ เป็นมรดกตกทอดในดินแดนภาคกลางแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาตลอดจนถึงปัจจุบัน ต่อมาจนถึงรัชสมัยพระเจ้ารามาธิบดีที่ 1 หรือ อู่ทอง (เป็นลูกหลานสายกัมโพชละโว้รุ่นที่ 2-3 ที่ตรงกับรัชสมัยชัยวรมันที่ 9 (พ.ศ. 1870-1903 ?) จึงย้ายเมืองหลวงมาที่อโยธยา ในพ.ศ. 1893 เนื่องจาก เป็นการจัดหาที่ตั้ง ที่เป็นชัยภูมิที่ดี ในการป้องกันตัว จากกองทัพเขมร-ลาว ของชัยวรมันที่ 9 ซึ่งนำโดยเจ้าฟ้างุ้ม ยุวกษัตริย์ จากดินแดนชาวลาว ทางเหนือสุดของ กัมพุชเทศ (หลวงพระบางปัจจุบัน) ที่เป็นบุตรบุญธรรมของพระเจ้าชัยวรมันที่ 9 และเป็นบุตรเขยขององค์ด้วย โดยแต่งงานกับพระนางแก้วกัญญา โดยกองทัพเขมร-ลาว ได้ทำสงครามตีรวบยึดดินแดนเข้ามาเรื่อยๆ ตั้งแต่เมืองต่างๆ ในลุ่มน้ำโขงตอนกลาง ตอนบน ยึดเมืองชวา จนถึงสุโขทัย และต่อไปที่อยุทธยาด้วย (จากพระราชพงศาวดาหลวงพระบาง) โดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 9 มียุทธศาสตร์ใช้กำลังทหานของลาว รวมกับทหารเขมร เมือง พระนคร เพื่อพิชิตดินแดน ทางเหนือ และตะวันตกให้กลับมาอยู่ใต้อำนาจของเมืองพระนคร รวมทั้ง กลับไปนับถือฮินดู ตามการเสนอขอจากพราหมณ์พระราชครู ของพระองค์อีกครั้ง เพื่อสร้างอาณาจักรเมืองพระนครให้ยิ่งใหญ่เหมือนแต่ก่อน
ทั้งนี้ พระเจ้ารามาธิบดีที่ 1 และชนชั้นปกครองกรุงศรีอยุธยา คิดว่า ทางเมืองพระนครธม จะแปรพักตร์ เข้ามายึดอยุทธยาคืนแล้ว และจะทำลายพุทธศาสนาเถรวาทในละโว้ทัย ดังที่เคยเกิดขึ้นในรัชกาลกษัตริย์เมืองพระนครองค์ก่อนๆ ที่เปลี่ยนไปนับถือศาสนาฮินดู แล้วมารังแกชาวพุทธ จึงต้องวางแผนสมคบคิด และร่วมมือ กับเสนาบดี ขุนนางฝ่ายพุทธศาสนาที่เมืองหลวงพระนครธม เพื่อชิงลงมือ ชิงราชบัลลังก์จากชัยวรมันที่ 9 ก่อน โดยอาศัยกำลังทหารเสริมจากอยุธยาโดยมีพระราเมศวรนำกำลัง 5 000 คนไปช่วย แต่ไม่พอ จึงให้ขุนหลวงพงั่วนำกำลังไปเพิ่ม และไปสมทบกับกำลังทหาร เมืองหลวงนครธม ของเสนาบดี ขุนนางฝ่ายพุทธศาสนาที่รอเปิดประตูเมืองให้ ซึ่งเหตุการณ์ชิงราชสมบัติของฝ่ายอยุทธยา และฝ่ายพุทธศาสนาเมืองพระนครนี้ น่าจะเกิดขึ้นประมาณช่วงระหว่าง พ.ศ. 1900-1905 ไม่น่าเกิดขึ้นใน พ.ศ. 1896 ดังมีการบันทึกในพระราชพงศาวดารอยุทธยา เนื่องจากตามพงศาวดารหลวงพระบาง ในระหว่าง พ.ศ. 1890-1900 พระเจ้าชัยวรมันที่ 9 ยังมีพระชนม์ และยังรับสั่งให้กองทัพเขมร-ลาว ทำสงครามยึดเมืองต่างๆ ในดินแดนทางเหนืออยู่ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ชิงราชบัลลังก์เช่นนี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ในเหตุการณ์กบฏของตรีภูวนาทิตย์ ที่ใช้กำลังทหารจากชนบทเข้ามาในเมือง สมทบกับกำลังฝ่ายกบฏที่อแอบซุ้มในเมืองหลวง เปิดประตูเมืองให้ทหารเข้ามาฆ่าพระเจ้ายโสธรมันที่ 2 พี่ชายของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และชิงราชสมบัติ ในช่วงประมาณ 200 กว่าปีมาแล้ว
เมื่อทำการปฏิวัติชิงราชสมบัติที่เมืองพระนครได้สำเร็จแล้ว (ถ้าตามตำนานเจ้าแตงหวาน พระเจ้าชัยวรมันที่ 9 อาจจะถูกฆ่าด้วย) พระเจ้ารามาธิบดีที่ 1 เป็นผู้ที่มีสิทธิขึ้นครองราชที่เมืองหบวงนครธม ก่อนฝ่ายเสนาบดีอื่นๆ ซึ่ง ท่านได้เปลี่ยนระเบียบวิธีการปกครองที่เมืองนครธม เป็นแบบอยุธยาตอนต้น ทั้งการตั้งพระนามพระมหากษัตริย์แบบภาษาบาลี การสร้างวัด เจดีย์ โบสถ์วิหาร ที่เน้นพุทธศาสนาเถรวาท ยกเลิกพระนามวรมัน ทำให้ กษัตริย์เมืองพระนครที่สืบราชสมบัติต่อมา ก็มีพระนามตามแบบพุทธศาสนาเถรวาท เช่นเดียวกับ พระนามกษัตริย์อยุธยาสายราชวงศ์กัมโพช ทั้งนี้ เมื่อท่าน ไปครองราชย์ที่เมืองพระนคร แล้ว ก็มีการประนีประนอมกัน ให้ลูกชายคนโต พระราเมศวรไปครองละโว้ ขุนหลวงพงั่วครองเมืองอยุธยา เพื่อตอบแทนความดีความชอบที่ช่วยชิงราชสมบัติที่เมืองหลวงพระนครได้ แต่เมื่อสิ้นรัชกาลขุนหลวงพงั่ว พระราเมศวร กลับมาชิงอยุธยาคืน ฆ่ากษัตริย์ที่สืบทอดจากวงศ์เชื้อสายไต ไท สุพรรณบุรี คือ เจ้าทองลั่น ทองจันทร์ แล้วครองราชย์ที่อยุธยา ต่อมา ถึงกษัตริย์องค์สุดท้ายสาย กัมโพชละโว้ ที่อยู่ครองอยุทธยา คือ พระรามเจ้า โสรส ของพระราเมศวร ก็โดน พระนครอินทร์ สายไต ไท สุพรรณบุรี ยกทัพมาชิงเมืองอยุทธยาคืน จับพระรามเจ้า ไปขังตาย ส่วนเจ้าพญาหยาดลูกชายพระรามเจ้า และ
เป็นหลานพระราเมศวร เป็นเหลนพระรามาธิบดีที่ 1 ก็หนีเข้ามาพึ่งเครือญาติที่เมืองพระนครธม กรุงศรีอยุธยา ก็ถูกปกครองด้วยราชวงศ์สายไต ไท สุพรรณบุรีตั้งแต่นั้นมา แล้วก็ได้พยายามฟื้นฟูภาษาไท กะได ประดิษฐ์ตัวอักษรไต ไท มาแทนอักษร และภาษาเขมร ที่ราชวงศ์สายกัมโพชละโว้ เคยใช้ แต่ยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี ราชพิธีแบบกัมโพชละโว้เหมือนเดิม มาถึงสมัยเจ้าสามพระยา สายสุพรรณบุรี ก็ได้ยกทัพไปตามแก้แค้น กษัตริย์สายกัมโพชละโว้ ที่เมืองพระนคร ล้อมไว้ 7 เดือน จนตีเมืองพระนครแตก และส่งลูกชาย พระยาแพรก หรือ พระอินทร์ราชามาครองราชย์ที่เมืองพระนคร ได้ประมาณ 7 เดือน ก็ถูกเจ้าพญาหยาด ลูกชายพระรามเจ้า ที่หนีออกจากการล้อมเมืองพระนครในครั้งตีเมืองได้ ไปตั้งหลัก และรวบรวมกองทัพ กำลังพล จากดินแดนเมือวศรีสันธร ทางใต้ มาขับไล่พวกอยุทธยาสายสุพรรณบุรี ให้กลับอยุทยา และชิงเมืองพระนครคืน รวมทั้ง ฆ่าพระอินทร์ราชา เพื่อแก้แค้น แล้ว ก็ขึ้นครองราชย์ เป็นกษัตริย์เมืองพระนคร ได้เวลา 1 ปี ก็ย้ายเมืองหลวงไปอยู่พนมเปญ ตั้งเป็นต้นราชวงศ์เขมร เมืองพนมเปญ เป็นต้นมา แล้ว กษัตริย์สายละโว้ แห่งกัมพูชา กับ กษัตริย์สายสุพรรณบุรี ก็กลายเป็นศัตรูกันถาวรตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา คือ ราชวงศ์ที่ก่อตั้งกรุงศรีอยุธยา กลับไม่ได้ครองกรุงอยุทธยา
ส่วนการเข้าชิงลงมือก่อน ของพระรามาธิบดีที่ 1 ในครั้งนั้น หลายคนคิดว่า ผู้ที่ฆ่าชัยวรมันที่ 9 เป็น เจ้าแต่งหวาน จริงๆ แล้ว คือ กษัตริย์วงศ์กัมโพชละโว้จากอยุทยา คือ รามาธิบดีที่ 1 ได้มีโอกาสกลับมาครองราชย์ที่เมืองหลวงพระนคร เป็นครั้งแรก ทั้งนี้ เมื่อท่านมาครองเมืองพระนครแล้ว เพื่อให้มีความชอบธรรม จึงนำนิทาน เจ้าแตงหวาน ที่เป็นตำนานทางพุทธศาสนาเถรวาท ที่เกิดขึ้นในพุกาม พม่า ตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 แล้วก็เผยแพร่สู่เมืองที่เป็นพุทธศาสนาเถรวาท อย่างอยุธยา และล้านนา เป็นต้น กล่าวคือ ชนชั้นปกครองกัมโพชอยุทธยา รู้จักนิทานนี้ ชัดเจน
นิทานเล่มนี้ พยายามบอกบรรพบุรุษผู้ปกครองสลับที่กับปกครอง กัมโพชมาสยามอยุธยา และอยุธยากลับไปที่พระนคร? แล้วสายกัมโพชมาสร้างภาษาไทยไปอีก ถ้าเป็นจริง ำไมเขาไม่ใช้เขรมเก่าที่ใช้อยู่แล้วเลยหล่ะ ง่ายกว่ามั้ย และอีกอย่างจะถามหน่อยว่า ทำไมไม่มีหมู่บ้านไหนในอยุธยาที่พูดเขมรเลย ?? @@seangpech7887
@@baboonzybeanizh4866 ภาษาเขมร ก็ไปอยู่ในภาษาไท กะได ไง ภาษาไทยปัจจุบันมีภาษาเขมร มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ถูกปรับเสียงภาษาเขมร ให้ สะดวกต่อการออกเสียง ของคนไต ไท หมดแล้ว เพราะคนพูดไต กะได ลิ้นจะแข็ง ออกเสียงภาษามอญเขมรยาก เช่น ตัว ร เรือ คำที่สะกด กับ ตัว ร ล ญ ส คำที่มีที่มีเสียงเป็นโฆษะ เป็นต้น เมื่อผู้นำในราชสำนักเป็นเผ่าพันธุ์ใหม่ ภาษาราชการต้องเปลี่ยน ชาวบ้านทั่วไป ต้องค่อยๆ พูดตามภาษาราชการ จนถูกกลืนกินหมด เพียงดู ผิวพรรณ ก็รู้ คนที่เป็นเผ่าไต ไท จากทางใต้ของจีน เป็นพื้นที่หนาว ผิวจะขาว หน้าเรียว เช่น คนล้านนา เผ่าลาวแท้ ไทยใหญ่ในพม่า ...เป็นต้น แตกต่างจาก คนภาคกลาง ภาคอีสานตอนใต้ ภาคใต้ ที่คนมีผิวพรรณค่อนข้างคล้ำ หน้าเหลี่ยม ตัวใหญ่ นิดหนึ่ง เป็นเผ่าออสโตรเอเชียติก มอญ เขมร ครับ
ผู้นำคนป่า
Brokerเขมร
555ไอแตงหวาน
ว่าจะฟังสักหน่อยพอบอกไม่มีตังตนเลยเลิกฟังเลย
ไม่มีบันทึกเพราะเป็นกบฏ
ไม่มีใครอยากเป็นทาสหรอก ผมว่าเขายิ่งใหญ่นะ แค่ลูกหลานมันไม่ได้เรื่อง ถ้าไม่มีพระเจ้าแตงหวานคนไทยก็อาจอยู่ใต้อำนาจของขอม
เข้าใจผิดนะขอมคือสยามแตงหวานคือทาสเขมร ชนชาติ กัมพูชาหรือกัมพุชคือเผ่าพันธุ์สยามแยกเขมรกับกัมพูชาให้ออกคนละเผ่าพันธุ์กัน
@@bana3516 เขมรก็เป็นขอม ไทยก็เป็นขอม มอญก็เป็นขอม ใช้ชีวิตร่วมกันวัฒนธรรมเดียวกัน มันมาล่มสลายเพราะพระเจ้าแตงหวานกบฏนี่แหละ เราอยู่ใต้อำนาจขอมมันต่างจากอยู่ใต้ตองอูตรงไหน คนที่จับเฉลยมาใช้แรงงานทาสควรโดนก่อกบฏแล้วล่ะครับ ผมว่าพวกขอมนี่แหละตัวร้าย แค่สร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แต่ใช้แรงงานจำนวนมาก
ขอมคือใครไม่รู้เหรอ แล้วนายแตงหวานเป็นใครรู้เหรอ
@@Noneme65 นายแตงหวานคือคนที่ล้มราชวงค์วรมัน ดูคนที่ครองราชต่อสิ ไม่มีชื่อวรมัน
ขอม ก็คนไทยโบราณนี่แหละ
พระเจ้าชัยวรมัน ที่6 ยังเกิดที่
ตอนนี้เป็นจังหวัดบุรีรัมย์
ในไทย มีสปอนเซอร์
คือ ขอม เมืองพิมาย กับ โคตรพ่อโคตรแม่ขอม ของจริงอย่าง ละโว้
😂😂😂 เป็นผู้สนับสนุนทางการหลัก พระเจ้าอู่ทอง นั่นแหละ
หนีตุย จากนครวัด เพราะทาสมัน
ก่อกบฏขึ้น ก็ไปซบอก ละโว้
เมืองอโยธยา น่าจะมีมาก่อนแล้ว
มีทางเป็นไปได้
พอสถาปนาตัวเองขึ้นครอง
อาณาจักรอโยธยา
ไม่นาน ก็แค้นจัดๆ ยกทัพไปถล่ม
นครวัด หรือที่เรียกกันว่า
เมืองพระนคร นั่นเอง
เมืองศรีเทพ ล่มสลาย
ผู้คนก็แตกกระจายไปทั่วทุกสารทิศ แต่ส่วนใหญ่ก็คง
ตั้งเป็น ละโว้ เพราะ เมืองศรีเทพ
เกิดขึ้นก่อน ละโว้ ละถ้าที่เมืองที่เก่ากว่าเมืองศรีเทพ
ก็นั่นแหละยิ่งใหญ่ก่อนจะล่มสลายละตั้งเมืองศรีเทพขึ้น
ผมยังเชื่อว่าในประเทศไทย
มีเมืองที่เก่าแก่กว่า
เมืองศรีเทพ แน่นอน
แตงหวานยังไม่มีเสื้อใส่เลย🤣
ขอแสดงความคิดนะครับผมติดใจ'คำวา่ขอมแปรพักรํ อาจจะเป็นการรัฐประหาร จาก ขอม.อีกสายหนี่ง.องชัย.อาจเป็นแค่หุ่นเชิดเท่านั้น
ฮุนเซนก้อกมีร์แต่งหวานก้อกมีร์
comment มีอะไรชัดเจนสักอย่างไหม
พระแตงฮุนเซนนี่
ใครเขาสถาปนาทาสให้ขึ้นมาเป็นพระเจ้าแตงหวานรึ
ตั้งแต่ตอนเด็กเคยได้อ่านและได้ยินมาว่า แตงหวานเป็นแค่เรื่องแต่งเรื่องเล่าเฉยๆไม่มีตัวตนจริง
จารึกคำสาปแช่งมีชี้ชัดว่าทาสก่อกบฏจึงสาปแช่งไว้ไม่ให้เจริญพบแต่ความวิบัติตราบโกฏแสนปีเถึยงไม่ได้หรอกอุดงมีชัยหรืออู่ทองมีชัยคือการมีชัยแก้แค้นทาสกบฏหลักฐานชัดเจนบิดเบือนไม่ได้
เพราะความอยากเป็นกลุ่มคนเชื้อชาติไทกะไดคนไตหรือขอมโบราณใจจะขาดแต่ไม่ยอมรับว่าต้นกำเนิดของคนเขมรคือคนเผ่ากะมีร์ที่มาจากอินโดฮุนซวยเลยสั่งบิดเบือนประวัติศาสตร์ซะมั่วซั่วไปหมดอ่ะ😂😂😂😂😂
ถูกต้องค่ะ
เห็นด้วยครับ และ dna ก็ชี้ชัดว่ากลุ่มเขมรไม่เหมือนกลุ่มอื่นในแถบนี้ ต่อให้เขมรผูกโยงเรื่องราวยังไงแต่่เมื่อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วไปต่อไม่ได้
หลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับขอมสยามโบราณแล้วก็คนป่าเผ่ากะมร์น่าจะเก็บไว้ที่ฝรั่งเศสเจ้าอาณานิคมเขมรเยอะเลยอ่ะ😂😂😂😂😂
เขมรลูกหลานแตงหวานจอมเนรคุณคบไม่ได้แทงไทยข้างหลังมาตลอดเขมรทาสสยามกุกนครวัดสยามกุกผู้สร้างบรรพบุรุษไทยเรา
ัชัดเจนที่สุดครับเขมรรับไม่ได้ในบรรพบุรุษตัวเองจะเปลี่ยนเอาพระเจ้าชัยวรมันเป็นต้นตระกูลลืมรากเง่าตนเอง
เพราะเหตุใดพระเจ้าชัยวรมันที่7จึงมีและนำทัพหลวงจากละโว้มาตีพระนครคืนครับ
เคยไปตลาดโรงเกลือซื้อรูปสลักหินไอ้แตงหวานมาแต่งสวน😂สวยดี😂ลูกน้องคนเขมรเห็นบอกไม่รู้จัก😂กร้ากเลย😂
เขมรที่ว่าตัวเองยิ่งใหญ่ยังหาชื่อกษัตริย์ผู้นำไม่ได้เลยว่าใครพายิ่งใหญ่เพราะขอไม่ใช่เขมรอยู่แล้ว