อัจฉริยะที่ปฏิเสธเงินรางวัล 1 ล้านและใช้ชีวิตด้วยเงินเพียง $100 ต่อเดือน
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 7 ส.ค. 2019
- คุณจะทำอย่างไร ถ้าได้รับเงินรางวัลสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์? คุณจะแค่กล่าวขอบคุณ เก็บเงิน แล้วไปซื้อเรือยอร์ชเลยใช่ไหม? นั่นฟังดูเหมือนจะเป็นแผนของคนส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่อัจฉริยะทางด้านคณิตศาสตร์ผู้นี้ที่ชื่อ กริกอรี เพเรลมาน ผู้ซึ่งรู้สึกว่าตนเองไม่สมควรได้รับเงินรางวัลและปฏิเสธที่จะรับมัน
กริกอรี เพเรลมาน เกิดในปี 1966 ที่เมืองเซนต์ ปีเตอร์เบิร์ก ซึ่งในยุคที่ปกครองโดยสหภาพโซเวียตมีชื่อว่า เลนินกราด เมื่อเขาอายุเพียง 16 ปี เขาก็ได้ก้าวเข้าสู่คณะคณิตศาสตร์และเครื่องกลในมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเลนินกราด และในปี 1990 เพเรลมานได้จบการศึกษาปริญญาเอก หลังจากได้ทำการเผยแพร่บทความหลายฉบับซึ่งประสบผลสำเร็จทั้งในโซเวียตและโลกวิทยาศาสตร์สากล เพเรลมานได้รับการเชิญไปสหรัฐอเมริกา และที่นั่น เขาได้พบกับนักคณิตศาสตร์ชื่อดัง ริชาร์ด แฮมิลตัน สิ่งที่น่าสนใจคือตอนที่มีคนถามเพเรลมานว่า ทำไมเขาถึงปฏิเสธที่จะรับเงินรางวัล 1 ล้านดอลลาร์ เขาได้พูดถึง ...ริชาร์ด แฮมิลตัน
TIMESTAMPS:
วัยเด็กของกริกอรี 0:20
ชายหนุ่มผู้ไม่ค่อยสนใจโลก 1:58
เหตุผลที่เขาปฏิเสธการเขียนเรซูเม่ 2:54
การพิสูจน์ข้อความคาดการณ์ของปวงกาเร 3:38
เหตุผลที่เขาออกจากงาน 6:25
….และปฏิเสธที่จะรับเงินรางวัล 1 ล้านดอลลาร์ 8:11
ชีวิตปัจุบันของเขาเป็นอย่างไร? 8:59
#คณิตศาสตร์ #อัจฉริยะ #ชีวิตสดใส
เครดิทภาพ:
Grigori Perelman at Berkeley: By George Bergman - Mathematisches Institut Oberwolfach (MFO)/Wikimedia, GFDL www.gnu.org/licenses/fdl-1.3.html, commons.wikimedia.org/w/index...
อนิเมชั่นจัดสร้างโดย ชีวิตสดใส
สรุป:
- ในปี 1982 เพเรลมานซึ่งเป็นหนึ่งในเด็กนักเรียนที่เก่งที่สุดในประเทศ ได้เดินทางไปยัง บูดาเปสต์ ในฐานะสมาชิกของทีมชาติโซเวียตเพื่อร่วมแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกสากล และในที่นั้นเขาได้คว้าเหรียญทองจากการทำคะแนนสูงสุดเท่าที่จะทำได้อีกด้วย!
- ผู้คนเริ่มจะสังเกตเห็นถึง…. ความผิดแปลกไม่สนโลกของเขา โดยที่ตัวเขาไม่ได้ขัดสนเรื่องการเงิน เพราะเขาเคยทำเงินได้ค่อนข้างดีจากช่วงเวลาที่เขาทำวิจัยในหลายๆ ที่ แต่กระนั้นอาหารอย่างเดียวที่เขากินก็คือ ขนมปังดำสูตรดั้งเดิมกับชีส
- ในปี 1993 เขาได้รับข้อเสนอและตอบรับที่จะเป็นผู้ได้รับทุนวิจัยสองปีของสถาบันมิลเลอร์ในมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์
- ในขณะที่เขาใช้ชีวิตอยู่ในแคลิฟอร์เนียนั้น เพเรลมานถูกแนะนำให้เขียนเรซูเม่เพื่อสมัครงานตำแหน่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ทั่วโลก แต่เขารู้สึกเหมือนโดนดูหมิ่นจากคำแนะนำนั้น พร้อมกับบอกว่าผู้ คนจะรู้จักเขาได้ดีพอ จากงานของเขา โดยไม่จำเป็นต้องใช้เรซูเม่
- ในเมืองเกิดของเขานั้น เขากลับไปทำงานเก่าที่สถาบันสเตลคอฟ ตำแหน่งนักวิจัยที่มีรายได้น้อยกว่า $100 ต่อเดือน
- เขาได้บรรยายในมหาวิทยาลัยแนวหน้า 6 แห่งของอเมริกา รวมถึง มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด พรินซ์ตัน และสแตนฟอร์ด โดยมีผู้เข้าร่วมหลายร้อยคน เขาไม่ได้บรรยายเพราะต้องการชื่อเสียง แต่ทำเพื่อวิทยาศาสตร์!
- ในปี 2006 โลกวิทยาศาสตร์ได้รับรองอย่างเป็นทางการว่า ปัญหาได้รับการ พิสูจน์แล้ว นิตยสารวิทยาศาสตร์ ได้ตั้งชื่อว่า “การก้าวโดดที่ยิ่งใหญ่แห่งปี” และเขาได้รับการประกาศว่า เป็นผู้ที่ได้รับเหรียญฟีลดส์ ซึ่งเปรียบเสมือนรางวัลออสการ์และโนเบลทางคณิตศาสตร์รวมกัน
- อาจจะเป็นเพราะความกลัวว่าจะกลายเป็นสัตว์ในสวนสัตว์ทำให้เพเรลมานลาออกจากงานในสถาบันสเตลคอฟในปี 2006 พร้อมตัดขาดจากโลกภายนอก
- เมื่อมีคนเห็นเขาในที่สาธารณะ เขามักจะใส่เสื้อและกางเกงขายาวโทรมๆ ตัวเดิมทุกครั้งที่ออกนอกบ้านพร้อมกับเล็บและหนวดเคราที่ยาวเฟื้อย
- เพเรลมานได้กล่าวว่าคุณูปการของเขาไม่ได้เยอะไปกว่าริชาร์ด แฮมิลตันเลย ดังนั้นมันเลยเป็นการไม่ซื่อสัตย์ ถ้าเขาจะรับรางวัลนี้ไว้เป็นของตัวเอง
- มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เพเรลมานตัดสินใจตัดขาดกับโลกของคณิตศาสตร์ เขาพูดว่าถึงแม้นักคณิตศาสตร์จะซื่อสัตย์และซื่อตรง แต่พวกเขาก็ยังยอมทนที่จะถูกกดขี่จากพวกคนที่ไม่ซื่อสัตย์
- เขาใช้ชีวิตด้วยเงินบำนาญจากแม่ของเขาอยู่หลายปี แต่ในที่สุด ในปี 2018 เขาก็เริ่มที่จะยอมรับคำเชิญให้เป็นผู้บรรยายวิชาคณิตศาสตร์ในยุโรปเป็นครั้งคราว
เพลงของ Epidemic Sound www.epidemicsound.com/
ของในสต๊อก (รูปภาพ, วิดีโอ และอื่นๆ):
www.depositphotos.com
www.shutterstock.com
www.eastnews.ru
ความซื่อสัตย์คือสมบัติของคนดี อย่าตีค่าเพียงแค่ราคาเงินไม่กี่ล้าน เขาทำถูกต้องที่สุดแล้ว
คนฉลาดเขาสามารถใช้ชีวิตที่ทำให้เขาไม่ต้องลำบากไม่ว่าตกอยู่ในสถานการณ์ที่แย่แค่ไหนเขาก็จะสามารถผ่านมันไปได้จากความฉลาดของเขา และการที่เขาจะหาเงินได้มากเขาก็หามันมาได้ง่ายๆมันจึงไม่จำเป็นที่เขาจะต้องมีเงินมากมายเก็บไว้ เพราะถ้าเขามีเงินเยอะ ๆเก็บไว้มันไม่ดีถ้ายังมีคนอยากได้เงินของเขาเพราะเห็นว่าเขารวยความซวยจะมาเยือน สู้เขาอยู่แบบคนไม่มีเงินเก็บมากมายแต่เงินเขาก็หามันได้ทุกที่ถ้าเขายังมีสมองที่ชาญฉลาด
คนอินดี้ คนสุดโต่ง คนะรรมดาทั่วๆไป อาจจะเข้าใจเขาได้ยาก เขามีวิธีคิดของเขา ส่วนมากคนพวกนี้จะอัจฉริยะ สมองดีมากๆๆๆ
✨อัจฉริยะ ผู้รักสันโดษ✨👏👏😊
เพราะอัจฉริยะคิดต่างจากคนทั่วไป ถ้าทุกอย่างต่าง +ความเป็นอยู่ต่าง นั่นก็คือปกติ
เพราะเขารู้มาก จึงทำให้ ทุกสิ่งหน้าเบือ เขาแค่รอความท้าทายใหม่ๆ
ประมานนั้น
คม
น่าจะจริง
view6 view6
ใช่เลย. 😂😂
ใช้คำไม่ถูก รู้มากคือเห็นแก่ตัวขีีโกง ถ้าเก่งคือฉลาด
คนที่เป็นอัจฉริยะ จะคิดไม่เหมือนคนอื่น มีโลกส่วนตัว ที่ไม่มีใครเข้าใจ จะทำตามที่ตนเองคิดว่าถูกฯลฯ แต่ ฉันเข้าใจ 555555
ผมว่าถ้าคนเราทั่วๆไปเข้าใจในความคิดของอัจฉริยะเหล่านี้..มนุษยชาติคงจะออกท่องอวกาศด้วยความเร็วระดับแสงไปนานแล้วละ คิดดูว่าขนาดจะพิสูจน์ว่าแก้สมสมติฐานนี้ได้แล้ว ยังใช้เวลาตั้ง3ปี แล้วพวกที่มาตรวจสอบนี่ก้ออัจฉริยะทั้งนั้น
Great idea !
ดีล่ะที่ผมโง่ ไม่งั้นคงจะขี้ไม่ล้างตูด5555
นภัสกรณ์ โกศิตานนท์
เห็นด้วยแรง. ๆ. 555
ใช่เขามีโลกส่วนตัวสูงนั่งเอง
คนแบบนี้คือคนที่ไม่หวังฐานะ ชื่อเสียง แค่ทำสิ่งที่ตัวเองชอบ และอยากให้ทุกคนช่วยกันเพื่อโลกก้าวหน้าก็เพียงพอ ถือเป็นคนที่ตั้งใจพัฒนาความก้าวหน้าของโลกที่ดีคนหนึ่งเลยโดยดูจากลักษณะนิสัย
ความก้าวหน้าของโลกเป็นผลพลอยได้จากพวกเขา คนพวกนี้จะไม่คิดอะไรเลยนอกจากสิ่งที่ตัวเองกำลังค้นหา ต้องการคำตอบ และ หาปัญหาใหม่เพื่อที่จะหาคำตอบและพัฒนาสมมุติฐานและความคิดของตัวเองไปเรื่อยๆ
ผมอยากเป็นแบบนั้น แต่ยังไม่พอกินพอใช้
@@user-gj9wr3xn6j ก่อนอื่นคุณต้องเป็นอัจฉริยะเสียก่อน.เรื่องอดคุณไม่ต้องห่วงทุกคนเป็นเหมือนคุณ.....!!!!
ไม่น่าจะใช่ละ
บางคนตัดสินคนอื่นว่าบ้าหรือโง่ เพียงเพราะใช้ตัวเองเป็นบรรทัดฐาน แต่เราไม่ใช่เค้าเราจะรู้ได้ยังไงว่าเค้าคิดยังไง
อะไรที่ทำให้เค้าตัดสินใจแบบนั้น
🤔🤔🤔
ในความคิด คิดว่า นักคณิตศาสตร์คงจะคำนวนเก่งมากๆ เค้าคงมองภาพกว้างๆ ไกลๆ ว่าทรัพยากรมีให้ใช้คงใช้ได้อีกไม่นานมั้งคะ เลยอาจเลือก การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและประหยัดที่สุดเท่าที่ทำได้ ประมาณสันโดดและตัดที่ไม่จำเป็นออกมั้งค่ะ 😊
แนวคิดของเขา พฤติกรรมของเขา ส่วนมากคล้ายกับแนวทางปรัชญาของพระพุทธเจ้า อย่างเช่น การอยู่คนเดียวแล้วมีความสุข ( สุขอื่น เสมอ ความสงบ ไม่มี ) ลักษณะการเดิน สายตาก้มลง (พุทธสอนให้มองตัวเองการพิจารณาตนเองตลอดเวลา การอยู่กับจิต ระมัดระวัง อายตนะภายนอกเข้ามากระทบ ) บางที เขาอาจจะค้นพบกฏธรรมชาติบางอย่าง ที่ไม่สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้รู้ เหมือน ปัจเจกบุคคล
เขาต้องเข้าใจธรรมชาติแน่ๆผมว่า
ลึกซึ้ง. 👏🏻👏🏻👏🏻
จริงค่ะ
คิดว่าน่าเป็นแบบนั้น แต่เค้าไม่รู้ว่าสภาวะแห่งพุทธะหรืออรหันต์นั้นคืออะไรในสังคมของเค้า
Nattawoot Swangduen
หากนับที่สภาวะ. คือ . สภาวะเดียวกัน. ครับ
อัจฉริยะส่วนมาก เขามองว่าเงินเป็นแค่สิ่งของเหมือนๆสิ่งของอื่นๆ เขาหามันจากอะไร ที่ไหนก็ได้ มันเป็นแค่สิ่งของสมมุติที่คนธรรมดากำหนดขึ้น มันไม่เคยสำคัญสำหรับอัจฉริยะทั่วๆไป.เขาออกมาจากทุกสิ่งเพราะเขาเบื่อหน่ายที่คนโง่กว่าเขามาจัดระเบียบให้ชีวิตเขา และให้เขาทำในสิ่งที่จำเจ และไม่ท้าทาย เขาแค่ต้องการที่เงียบๆในการคิดค้นคว้าสมการคณิตย์ศาสตร์ใหม่ๆในที่ๆเขา"เลือกได้ ควบคุมได้ ไร้กฏเกณฑ์ และไร้การจำกัดตีกรอบใดๆในทุกกรณี"เพราะสิ่งนั้นคือสิ่งเดียวที่หล่อหลอมเขาให้มีสมาธิในการเป็นอัจฉริยะดังเช่นในตอนนี้ได้ .อย่าพยายามเข้าใจวิธีคิดของอัจฉริยะเลยครับ .
ความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์ของนาย
เก่งมาก เรายอมรับเลยว่าสู้ไม่ได้
ฟังดูแล้วเหมือนเขามีพรสวรรค์ด้านคณิตศาสตร์มาตั้งแต่เด็กเลยทีเดียว ประกอบกับแม่เป็นครูด้านนี้ด้วยมันช่างเหมาะเจาะ และกลายเป็นบุคคลมีคุณค่าสูงทางวิชาการ
อัจฉริยะแค่ใหนก็ตาม อย่าให้ตัวเองและผู้อื่นเดือดร้อน มีความเก่งความกล้า แต่ว่ายังให้แม่พ่อคอยเลี้ยงดู แบบนี้ไม่ได้เรื่อง ตราบใดยังไม่ตาย คุณก็ต้องกินต้องอยู่ อัจฉริยะแบบฝืดเคือง เรื่องอื่นรู้หมดเว้นเรื่องตัวเอง
ดีแล้วนะที่เค้าไม่หลงผิด แค่มีลักษณะที่ไม่เข้าสังคมแค่นั้นเอง ถ้ามีการหลงผิดร่วมด้วย โลกเราจะได้ฆาตกรต่อเนื่องระดับเทพอีกคนนึงแบบ unabomber เลย โชคดีแค่ไหนแล้ว อย่าไปรบกวนคนที่พิเศษๆแบบนี้เลย
เคารพในการตัดสินใจของเขอ เพราะเขาเป็นคนกำหนดทางเดินของตัวเอง ไม่มีใครบีบบังคับเขาได้
สะดวกแบบไหนก็แบบนั้นแหละจะเอาอะไรกันมาก เค้าคงไม่ใช่แค่อัจฉริยะคณิต เค้าคงจะเป็นอัจฉริยะด้านจิตวิทยาด้วยทำให้เค้าหลีกเลี่ยงผู้คนเพราะมองเห็นจิตใจพวกเขาอย่างปรุโปร่ง ใครที่เค้ายอมรับคงไม่ใช่แค่เก่งคงมีบางอย่างที่เค้าเห็นว่าต่างจากคนอื่นต่างหากละ
ทำไม่ถูกต้องตรงที่ไม่รับเงินล้านดอลลาร์ ถ้าตัวเองจะไม่เอาก็ให้แม่กับน้องสาวไปก็ได้ แทนที่จะช่วยเหลือทางบ้านกลับไปกินใช้เงินบำนาญของแม่อันนี้ถือว่าแย่มาก เหมือนมีแต่ไอคิวที่สูงแต่อีคิวต่ำถึงได้อีโก้สูงขนาดนี้ เรื่องอื่นจะหลุดโลกแค่ไหนไม่แปลก แต่ควรคิดถึงครอบครัวสิ แม่กับน้องยังอยู่ห้องเช่าเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยแมลงสาบและตัวเองก็ยังต้องไปอาศัยอยู่แทนที่จะช่วยเหลือจุนเจือให้แม่ได้สุขสบายขึ้น เขาใช้ชีวิตในอุดมคติของตัวเองมากเกินไปนะ
เหตุผลของคุณกับวัฒนธรรมไทยนั้นตัดสินได้ว่า คุณพูดถูกต้อง แต่ว่า เหตุผลของคุณกับวัฒนธรรมตะวันตกนั้นตัดสินได้ว่า คุณพูดผิด
ก็เค้าแค่ไม่รับมัน ใครจะรู้ว่าก่อนตัดสินใจเค้าคิดยังไงจริงๆ
คนรัสเซียเป็นอัจฉริยะ น่าชื่นใจจริงๆ อัจฉริยะมีอยู่ทั่วโลก จากการเลี้ยงดูในวัยเด็กหรือเปล่า
เปล่าคนอัจฉริยะ จะมีความคิดเป็นของตัวเองตั้งแต่เกิด และได้รับการสงเสริมที่ดีตั้งแตเยาว์วัย แต่อย่าไปยัดเยียดในสิ่งที่เขาไม่ชอบ (หมายถึงทางวิชาการแหละนะ) คนอัจฉริยะชอบที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเอง
@@uvfyvc3649 เป็นความรู้ใหม่
เขาแค่เป็นคนที่ไม่อยู่ในค่าเฉลี่ย บางคอมเม้นท์ก็ไปดูถูกเขา ถ้าไม่มีคนอย่างเขาบ้าง ตอนนี้คงยังใช้หินจุดไฟ
ผมก็เคยเห็นอาจารย์ท่านหนึ่ง แบบนี้ เลย ...... แต่เป็นทางด้านชีววิทยา .....ออกแนว คลั่งใคร้ หลงไหลลลลล....ไปเลย มึนนน
อัจฉริยะเหล่านี้ สมองเขาต่างจากเรา พฤติกรรมจึงไม่ค่อยเหมือนคนทั่วไปนักครับ
ควรจะเอาเงินมาให้แม่และน้อง ไปซื้อยาฆ่าแมลงสาบบ้าง
เก่งแต่ก็ต้องดูบริบทรอบตัวด้วย
55555😆
เขาเป็นอัจฉริยะ ที่เขาปฏิเสธนั่นนี่หลายๆเรื่อง เพราะในส่วนลึกเขาต้องการเพียงหนึ่ง คือหนึ่งเดียวคือเขา และเขาจะติดใจน้อย จึงเย่อหยิ่ง พูดง่ายๆคือต้องโอ๋และเอาใจมองว่าเขาคือหนึ่งเดียว แต่ถ้าไม่ได้เช่นนั้นเขาเก็บตัวปลีกวิเวกไปเลย..อย่าถามว่าผมรู้ได้อย่างไร..คิดดู..😂😂🤗😇
คนอัจฉริยะก็จะเป็แบบนี้ละ มันมีเหตุมีผลส่วนตัวเขาอยู่ หรือจรรยาบรรณ ต่อความคิดตัวเอง
I always have so much respect for him. Proof of Pointclare Conjection is very fascinating.
ดีครับ อนิเมชัน เข้าใจง่ายดี
เงินทองก็ไม่เคยอยู่ในสายตาของผมเลย...! ผมไม่เคยได้เห็นมันมานานหลายเดือนแล้วด้วย...! ( กำลังอดหยากอ่ะ )...555
ซัมซุง ซัมซุง 555555 🤣🤣🤣🤣🤣 ลั่นเลย!!!!🤣🤣🤣🤣🤣
ลงทะเบียนเลยลุงตู่แจกอยู่ตอนนี้555
@@user-od8nl7rq9k ....มันดูไร้ศักดิ์ศรีนะครับ...! ไปแบมือขอเงิน...ผมว่าจะไปแถวรางรถไฟ...แล้วหาดูว่ามีน๊อตเก่าๆให้ถอดไปขายได้สักกี่ตัว? 555
จัดไปคับแต่ต้องไปกันหลายๆคนนะคับ5555
555555+ลั่นเลย🤣🤣🤣🤣🤣
เราเข้านะว่า why?? กริกอรี เพเรลมาล จึงชอบทำตัวแบบนั้น เพราะว่า มันเป็นความสุข ที่อิสระ
ที่เงินก็ซื้อไม่ได้ คือ ความสุขที่ไม่เหมือนใคร และไม่จำเป็นต้อง เหมือนใคร!!!
นี่คือการถามคำถามระหว่าง
มิสเตอร์บีน กับ อัลเบิร์ตไอสไตน์
เงื่อนไข ถ้ามิสเตอร์บีน ตอบคำถาม ของ อัลเบิร์ต ไม่ได้ มิสเตอร์บีน จะต้องให้ อัลเบิร์ต 1 ดอลลาร์
เเล้วถ้า อัลเบิร์ต ตอบคำถาม
มิสเตอร์บีน ไม่ได้ อัลเบิร์ต ต้องให้ มิสเตอร์บีน 1000ดอลลาร์
อัลเบิร์ตถาม คำถามนึง ไป มิสเตอร์บีน ตอบไม่ได้ มิสเตอร์บีน เลยให้ อัลเบิร์ต 1 ดอลลาร์
จากนั้น มิสเตอร์บีน ถาม สัตว์ อะไร ไปมี2ขา เเล้วระหว่างทาง มี3ขา กลับมา มี5ขา
(อัลเบิร์ต คิดอย่างหนัก)
อัลเบิร์ตตอบไม่ได้ เลยเสียให้ มิสเตอร์บีน 1000ดอลลาร์
เเล้ว อัลเบิร์ต เลยถามไปว่ามันคืออะไร
มิสเตอร์บีน เลยให้ อัลเบิร์ต 1 ดอลลาร์
(ขอให้แอดมินช่องมาอ่านด้วยครับ😊)
5555
ชอบๆ 55555
มิสเตอร์บีนก็ไม่รู้เหมือนกัน 555
😂😂🤣🤣🤣😂😂🤣
@@LargeEyesBat กลับมามี 5ขาคนไหมล่ะ
ทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ จริงๆครับ
พูดไวไป 5:17 ฟังไม่ทัน ต้องฟังใหม่หลายครั้ง
เขาคำนวณแล้วว่ายังไง ชีวิต ก็ เท่ากับ 0
5555
ใช่ที่สุด
555
จุดสูงสุดของอัจฉริยะ แม้แต่คนรอบข้าง ก้อยาก ที่จะหาคนเข้าใจได้ เจอคนพวกนีไม่ยาก หน้าเซเว่นกินนอนอยู่ตรงนั้น หรือแถวใต้สะพาน แล้วก้ออาจจะเดินตามถนน เก่งเกินกว่าคนปกติจะเข้าใจเหมือนเข้า จิงๆ
ผมว่าเราไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินใครนะ บางทีออกความคิดในแนวสร้างสรรค์ได้ แต่อย่าไปว่าเขาเลยชีวิตของเขาเอง เขาเลือกที่จะอยู่แบบนั้น
นานๆเจอความเห็นที่เคารพในความเป็นมนุษย์ของเพื่อนร่วมโลกขอบคุณที่มีโอกาสได้รู้ว่ามีบุคคลที่น่านับถือเช่นนี้ในโลกของเรา
ประวัคิอาจถูกแต่งเติมนิดหนึ่ง
รางวัลไม่ใช่สิ่งยุงใจให้เขาอยากได้ สิ่งจุงใจที่เขาอยากได้คือ ความภาคภูมิใจ ในผลงานที่เขาคิดและทำนั้น คือความเป็นไปได้และความคิดของเขานั้นถูกต้อง เป็นสิ่งที่ท้าทายมากกว่าเงินรางวัลเป็นล้านเท่า.
ดีกว่า ลุง 250 คน นั่งกิน เงินเดือน 100,000 โดยไม่ทำประโยชน์ อะไรเลย
,0
เเม่มึงดิ
ควายเเดง
อย่าร้อนตัวดิ ตูไม่ได้บอกว่าใครซะหน่อย
เฉียบ! เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง!
ถ้ารวยแล้วมีแค่คนเกาะแกะ อยู่จนๆมีข้าวกิน มีความสุขไปวันๆผมพอใจแล้ว
เงินมันสำคัญมาก แต่ความคิดแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ
ในบางแง่คิดเขาอาจเป็นแค่ไอ้โง่คนนึง
มีคนมากมายต้องการเพียงแค่ไม่กี่เหรียญจากหนึ่งล้านเหรียญเพื่อแค่ต่อลมหายใจ...หญิงหม้ายคนนึงกับลูกน้อยของนางคิดคำนวนว่าเงินห้าพันล้านเหรียญที่ดาราชื่อก้องมีจะสามารถช่วยเหลือคนด้อยโอกาศใด้กีคนเพราะดูๆแล้วเจ้าดาราคนนั้นกินจนตายยังไงก็กินไม่หมด
แค่เลือกเป็นตัวเอง
ไม่สนใครจะเลือกเรา สุดท้ายเราก็ต้องจากไป
ผมมีเพื่อนคนนึง เก่งที่สุดในรุ่น ในคณะท็อปๆของประเทศ แต่ดันเลือกเมเจอร์ ที่มีแต่คนเกรดไม่ดีที่เลือกเมเจอร์เด่นๆทำเงินดีๆไม่ได้แล้ว พอเรียนจบ ก็ได้ทุนแบบให้เปล่าไปเรียนนอก จบมาแล้ว ไม่ทำงานเมืองนอก มาเป็นอ.เมืองไทยที่บางมด ตอนอายุสามสิบกว่าๆได้รับรางวัลจากสภาวิจัยแห่งชาติแล้ว รับจากมือนายกฯเลย แล้วที่รู้นี่ มันไม่ได้บอกนะ ผมไปอ่านเจอข่าวโดยบังเอิญ ในรูปเขาใส่สแลคเก่าๆ เสื้อเชิ้ตขาวติดยับๆ ที่ผมคุ้นตาดี ..นั่นแหละ คนประเภทนี้
ถูกที่สุด การซื่อสัตย์กับตัวเอง ครับ
เวลาที่เขาเดินก้มหน้า ไม่สนใจเงิน ไม่ใส่ใจอะไรรอบตัวมาก เพราะเขาคงคิดตลอดเวลา คิดถึงโจทย์ปัญหาที่อยากจะแก้ให้ได้ อยากเอาชนะต้องคิดให้ออก ถ้าคิดไม่ออกก็จะไม่ค่อยสนใจอะไรอย่างอื่น มุ่งมั่นในเรื่องใดเรื่องหนึ่งสูงมากและไม่ยอมแพ้
อัจฉริยะจริงๆ😯
เราขอเป็นไอ้โง่ที่มีโอกาสได้รับเงินสามสิบล้านบาท แล้วต้องรับ ✌🏻
คนเก่งๆจะเป็นแบบนี้ค่ะ
หลายๆคนบอกว่าพระเจ้าสร้างโลกเเละจักรวาล เเต่มีเพียงคนส่วนน้อยเท่านั้นที่อยากรู้ว่าพระเจ้าสร้างอย่างไร เขาคือหนึ่งในนั้น เเละคณิตศาสตร์คือเครื่ิองมือที่ทรงพลังที่สุดของเรามีอยู่ในตอนนี้
เขาดีใจภมิใจม่ากที่สุด ตืออิสระและผลงาน ไม่ใช่เงิน ขอยคุณที่นำเรื่องนี้มาให้ดู
ส่งสัยเงินบำนาญของแม่คงจะหมด เลยต้องจำใจออกมาสู่โลกภายนอกเพื่อมาเป็นผู้บรรยาย เพื่อมีเงินใช้ในชีวิตประจำวันสินะ
แสดงว่าเขาเป็นคน.......
Tourism Hotel Food ทำไมคิดเหมือนกัน 555
อยากรู้จังเลยว่าตอนเงินบำนาญของแม่หมดและต้องจำใจออกมาหาเงินเพื่อเลี้ยงตัวเอง เขาจะนึกย้อนกลับไปเสียดายเงินรางวัล1ล้านหรือไม่ รู้งี้ไม่น่าหยิ่งหรือโชว์เทพเลย
ความสุขของคนเราต่างกัน
สุขที่ได้ทำกับสุขที่ต้องทำ มันต่างกัน
ทำไมกูเข้าใจการตัดสินใจของเขานักวะ
ถูกต้องแล้วทีคิดแบบนั้น ต่างกันที่กูไม่เข้าใจอะไรในคณิตศาสตร์พวกนั้นเลย
ถูกต้องแล้วครับ....
เย้ๆมาทัน
ใครก็ตามที่ก้าวเข้าสู่โลกที่มีปริศนาชวนพิสูจน์ แล้วสนใจแต่สิ่งนั้นอย่างเดียว อาจจะหลงลืมสังคมภายนอกไปตลอดชีวิต
ความสุขไครความสุขมัน จบ
คนจริง ของจริงเลยคนนี้
9:24 ไม่ใช่การดื้อ แต่ยังไม่โต เมื่อเวลาผ่านไปเพเรลมานก็เติบโตขึ้น เพราะว่างจากสิ่งที่ทำจึงเพเรลมานโตขึ้น เมื่อเพเรลมานโตแล้วการออกมาบรรยายบ้างจึงเกิดขึ้น ต้องเข้าใจว่าการโตขึ้นของนักวิทยาศาสตร์จะช้ากว่าคนปกติ EQ จะโตช้ามากต้องใช้เวลามากกว่าคนปกติ เพเรลมานอาจจะขยันบรรยายมากขึ้นเมื่อตอนอายุมากขึ้น
ว้าว....สุดยอด
ดีจัง
ความสุขคืออิสระแห่งชีวิตที่ไร้ขอบกั้น...บ่ชั่ยแค่จะผายลมก้อต้องขมิบไว้ถ้าคนไม่มีค่อยผายออก...ไม่งั้นภาพพจน์จะเสียถ้าตกเป็นข่าว
เขาอาจจะคล้ายๆ เข้าถึงฟิลแบบพระปัจเจกม้างครับ เพียงแต่เขายังไม่ได้มีใครให้ข้อมูลเกี่ยวกับศาสนาพุทธที่ถูกต้อง เลยยังเดินวนๆ อยู่รอบนอก หาทางเข้าด้วยตัวเองอยู่ (ม้าง)
เสียดายความเป็นอัจฉริยะของหลายคน ที่ได้ข้อมูลศาสนาพุทธในทางผิดๆ เลยคิดว่าเป็นเรื่องงมงาย เชื่อถือไม่ได้
ไม่งั้นพวกเขานี่แหละจะทำให้ศาสนาพุทธเป็นสิ่งที่จับต้องได้มากกว่านี้
จาเรินพอน... พูดมากชักเจ็บคอ กินยาดีกว่า 😅😅
ผมขอแนะว่าถ้านำปวงกาเรนำไปใช้ กับทฤษฎีโน้มถ่วงมันจะนำมาซึ่งหายนะยิ่งกว่านิวเคลียร์ซึ่งจะเขาอาจจะโดนตราหน้าว่าบาป
อืม..พี่แกอินดี้จริง ฮาชอบๆ
เขาทำถูกแล้ว เพียงแต่ไม่เห็นแก่ตัวเหมือนคนอื่น ถ้าเป็นคนอื่นคงรับรางวัลไปแล้ว ช่างเป็นคนที่น่านับถือมาก เป็นเกียรติยิ่งใหญกว่ารางวันที่ได้รับ
ความสุขกับของชอบถ้าไปกันได้...เท่ากับ....สิ่งที่คนเราหาเลยล่ะ
ฉลาดจริงๆ
เเล้วเเต่มุมมอง น้องสาวกะเเม่คงสบายถ้ารับเงิน
เนี่ยแหละคนจริง ถ้าเป็นพระ ก็เป็นพระอรหันต์ เหมือนเขากำลังจะหาคำตอบอยู่ เกิดมาทำไม
ยอดคนแห่งยุค
เป็นคนที่หาได้ยากครับ
อัจฉริยะ หลายๆคนก็อินดี้แบบนี้ ...แต่ผมเห็นปัญหาหนึ่งคือ คนไปชวนเป็นสุดยอดนักคณิตศาตร์ระดับสูงไง ..ไม่ใช่นักจิตวิทยา หรือนักโน้มน้าวระดับโลก ไม่แปลกที่ชวนไม่สำเร็จ
..เสียดายแทนเลยครับ ..เหตุผลโน้มน้าวมีให้ใช้เยอะมาก
เหตุผลที่จับได้ หนึ่งข้อคือ ดูเหมือนเขาจะคิดว่า ยิ่งไม่รับเงิน ยิ่งไม่รับรางวัล แม่งยิ่งเท่
หากนักโน้มน้าวเทพๆ นะมันมีวิธีแน่นอน
หากทำให้เขาได้เห็นว่า.. ความอินดี้.. ความไม่มีจะกิน.. ความไม่เอาอะไรเลย แม่งจริงๆแล้วไม่ได้เท่นะ
มันคือความเห็นแก่ตัว คุณอาจจะไม่รุ้สึกว่าคุณลำบาก คุณมองไปรอบๆสิ
มองครอบครัวคุณสิ มองดูแม่คุณสิ คุณอยากให้พวกเขามีชีวิตที่ดีมั้ย
ให้เขาเห็นว่า การเสียสละความอินดี้ ..มันยิ่งใหย่ มัน ทำให้ครอบครัว พ่อแม่ พี่น้องเรามีชวิตที่ดี
การสร้างคุณค่าให้กับโลกตั้งหากละที่เท่...อาจจะดึงเขาออกมาได้
หากเขาไม่เล่นตัว และออกมางานต่างๆตั้งแต่แรก.. ผมไม่เห็นข้อเสียเลย ผมเห็นโลกดีขึ้น และครอบครัวเขามีชีวิตที่ดีขึ้น มีแต่เรื่องที่ยอดเยี่ยม
ถ้าเรียนรู้อริยสัจสี่ พุทธวจน มีโอกาสนิพพานเลยนะ เสียดาย บุญน้อย
วิธีคิดของพวกที่โลกส่วนตัวสูง คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเข้าใจ และไม่ค่อยยอมรับวิธีคิดแปลก ๆ ไปจากเดิมที่คุ้นเคย มันเลยทำให้คนอัจฉริยะขี้เกียจอธิบายให้ทุกคนฟังเพราะพูดไปก็ไม่มีใครเข้าใจ...เค้าจึงพอใจที่จะทำตามความคิดของตนเอง...ที่จะออกมาได้ดีกว่ามาตรฐานที่เป็นอยู่...พวกนี้เก่ง แต่ชอบเก็บตัว ไปไหนมาไหนก็เดินก้มหน้า ไม่อยากเป็นจุดเด่นหรือเป็นจุดสังเกตในสายตาใคร...มันพูดยาก...หลาย ๆ อย่าง เพราะผมก็เป็นคนโลกส่วนนัวสูงเหมือนกัน...เช่นเวลาทำงาน...ก็ชอบคิดอะไรแปลกใหม่ไปเรื่อย...ที่จะทำให้งานเสร็จเร็ว...เหนื่อยน้อย...ไม่มีความผิดพลาด...มีปากมีเสียงน้อยที่สุด
พวกคนเรียนเก่งๆสมองดีๆหลายคนคิดเเบบนี่ เพื่อนผมตอนนี่เป็น ผศ.ดร. เป็นคณะบดีมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังเลย
นั้งคุยกันมันว่าทุกวันนี่เงินเดือนกลับค่าต่ำเเหน่งได้ประมาณ 7 หมื่นกว่าบาท เเต่มีคนมาจะเอาชื่อเอาอะไรเเบบนี่ไปเป็นพวกที่บรึกษาตามบริษัทให้เดือนนึงเป็นเเสนมันว่ามันไม่เอา มันบอกมันอยากจะสอนเด็กสอนหนังสือให้เต็มที่เรื่องเงินมันไม่ได้สนใจ
เขาพบความจริงของโลก
ยากนะที่จะมีวิธีคิดแบบเขา รักสันโดษ
อัจฉริยะก็..กลัวเป็น
(กลัวการคาดหวังของคนอื่นแล้วเขาอาจทำไม่ได้อย่างที่คนอื่นหวัง)มันน่ากลัวกว่ากลัวแมลงสาบซะอีก
มหาลัยเซนปีเตอร์เบิร์ก เปนมหาลัย1ที่เราอยากเข้ามากเลยค่ะ
เขาเหมาะที่จะเป็นนักบวช
มากกว่า ที่จะอยู่บนโลกของความจริง
ถ้าเขาเป็นนักบวช เขาจะโด่งดั่งเชือ ผม
ผมคำนวนแล้ว
ห้องผมก็มีครับ แมลงสาบ มันน่ากลัวมากคาดว่าจะมีเป็นรังเลย แต่ผมไม่ใช่อัจฉริยะเหมือนเขาน่ะ เป็นแค่คนธรรมดา
เป็นเพราะแม่เขาปลูกฝังเรื่องคณิตศาสตร์อยู่เรื่องเดียวตั้งแต่เกิดเขาจึงไม่ค่อยให้ความสำคัญเรื่องอื่น
คนเราถ้ารู้จนถึงที่สุดแล้วจะปลอยวาง
อือ เก่งคณิตศาสตร์แต่ตกสังคมศาสตร์ ไม่มีสาขาไหนเก่งกว่ากันอยู่ที่ให้ความสำคัญและไปสนใจ.
ถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ อัจฉริยะมักจะอินดี้และบ้านิดๆ 555
เขาวางความสุขไว้ที่ความสำเร็จ ไม่ใช่เงินหรือชื่อเสียง
พี่อัฉริยะคณิตได้1ล้านดอล แต่ลุงแถวบ้านผม ไม่ต้องรู้คะคงคนิตแต่ได้ 1ล้านๆๆดอล คาดว่ารออีกสี่ปีจบเทอม หอบเงินจากที่ได้จากไทยไปอยู่ยุโรปสบายไปทั้งชาติ ;)
ไอ้แม้วเหรอครับ
หมาตูบคับ ชื่อมัน
ศูนย์หน้า หมาแดงถือส้อม ท่านทักษิณ
ไปปั่นจักรยานที่เยอรมัน
เมืองมิวนิค= ^O^
ไปอยู่ดูไบ ด้วยปะ
เงินทองเป็นของนอกกาย
แต่ถ้าไม่อยากอดตายก็ต้องหากันแทบตาย
เขาก็ดูเป้นคนน่ารักคนนึงแบบทอมแองคสืในเรื่องฟอร์เรสท์กัมพ์
ทำคลิปได้ดีครับ
สิ่งที่มีอยู่แต่ไม่ทำให้รุ่นต่อไปเรียกว่าอะไร หรือปล่อยให้หายไปกับตัวตน.
อัฉริยะเป็นแบบนี้เกือบทุกคน ที่บ้านอดไม่เป็นไรกูเกร่งอ่ะ
แค่ทุกอย่าเป็นไปในสิ่งที่มันเป็น ทำไมต้องหาข้อสรุปว่าจะเป็นไปอย่างไร
เท่ๆๆๆแบบชิกๆๆ
แต่เอ...ปัญหาของปวงกาเร
เขาเป็นอย่างไรนะ? ขนาดอัจฉริยะยังใช้เวลาคิดซะหลายปี
เพื่อพิสูจน์ ปวงกาเรจึงน่าจะเป็นสุดยอดของนักคณิตศาสตร์แท้จริง?
ได้ทำงานที่อยากทำโดยไม่มีใครมาคอยบังคับเคี้ยวเข็น มันมีความสุขกว่ารวยล้นฟ้าแต่ต้องคอยทำตามความปรารถนาของคนอื่น ใส่นาฬิกาจีช็อคเรือนไม่กี่พันกับใส่นาฬิกาหรูเรือนร้อยล้านพันล้านหน้าที่ของมันก็แค่เอาไว้ดูเวลา
เป็นอัฉริยะ แต่กลับกลายเป็นคนแปลกๆ แปลกคนที่จะปฏิเสฐเงิน...
ชอบใครชอบมันทุกๆการกระทำของคนๆนึงจะถูกเลือกไว้แล้วโดยตัวของเขาเอง! ว่าสิ่งเหล่านั้นดีที่สุดสำหรับเขา ณ เวลานั้น!
สรุป..การที่เขาไม่รับรางวัลเพราะเขารู้ว่าสิ่งที่เขาพิสูจน์มีผิดอยู่แต่คณะกรรมการและนักคณิตศาสตร์มองไม่เห็นที่ผิด เขามีความรู้สึกละอายมากถ้าเขาไปรับรางวัล การกระทำเยื่องนี้กระผมขอคารวะ. ในความเป็นคนดีซื่งเป็นบุคคลหาได้ยากในโลกนี้ แม้นเขาจะไปรับรางวัลก็ย่อมทำได้ นั่นคือเขาสามารถโกงได้แต่ไม่ทำ ถ้านักการเมืองเอาเป็นแบบอย่างก็จะทำให้เงินภาษีถูกใช้เป็นประโยชน์สูงสุด เราต้องยกย่องคนที่มีโอกาสโกงได้แต่ไม่โกง ผู้นั้นคือสัตบุรุษ ส่วนคนที่โกงคือพวกขี้โล้น่ารังเกียจ แม้คนอื่นไม่รู้ ใส่สูตรหลอกผู้คน
ถ้าจะอยู่แบบที่คุณภาพชีวิตที่แย่ก็เชิญ จริงๆชีวิตเป็นสิ่งที่ตนเองเลือกแล้วใครจะไปตัดสินแทนเค้าไม่ได้หรอก