ตอนนี้เราอาจอยู่ในจักรวาลแบบสองมิติ
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 5 ก.ย. 2024
- คุณรู้ใช่ไหมว่านานมาแล้วผู้คนเชื่อกันว่าโลกแบน? ตอนนี้เราตระหนักดีแล้วว่าเป็นสัณฐานทรงกลมมากกว่า และดูจะไร้สาระถ้าคิดเป็นอย่างอื่น ในเมื่อมีข้อเท็จจริงที่แม่นยำมากมายยืนยันขนาดนั้น แต่ถ้าบอกว่า คนสมัยก่อนอาจถูกต้องล่ะ...? ผลปรากฏว่าบางทีมันอาจเป็นอย่างนั้น แค่ไม่ใช่ในแบบที่เราคิดเท่านั้นเอง
สมองของเราคือสิ่งที่ซับซ้อน และวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่อาจจะอธิบายได้อย่างสมบูรณ์ ว่าสมองของเราทำงานอย่างไร. อย่างไรก็ตาม เรารู้ว่ามันคงอยู่แบบ สามมิติ หมายถึงว่า เราจะรับรู้วัตถุจากมิติสัมพันธ์ที่แตกต่างสามด้าน คือ ความยาว ความกว้าง และความสูง แต่นักฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในเดวิส เจมส์ สการ์จิลล์ เพิ่งแบ่งปันทฤษฎีที่ว่า จักรวาลแบบสองมิติมีอยู่จริง กระทั่งช่วยสนับสนุนการใช้ชีวิตของเรา
TIMESTAMPS:
อะไรคือจักรวาลแบบสองมิติ 1:05
ข้อโต้แย้งต่อแนวคิดนี้ 2:27
เราอยู่ในโลกโฮโลแกรมขนาดยักษ์? 😵 4:29
จักรวาลของเรามีรูปร่างแบบใด? 5:18
สมองอาจหลอกลวงเราได้ 7:09
#จักรวาล #สองมิติ #ชีวิตสดใส
สรุป
- สมองของเราสามารถคิดถึงสิ่งต่างๆ ได้ในแบบสามมิติ และไม่อาจยอมรับความคิดที่ว่า พื้นที่แบบสองมิตินั้นมีอยู่จริง
- ดร.สการ์จิลล์ต้องการทดสอบกรอบแนวคิดทางปรัชญา ที่ว่าจักรวาลคงอยู่ได้ก็ต่อเมื่อสิ่งมีชีวิตรับรู้ถึงมัน
- ดร.สการ์จิลล์ใช้สูตรคำนวณที่ซับซ้อนและต้องประหลาดใจกับผลที่ได้ สมมุติฐานบอกว่า สิ่งมีชีวิตคงอยู่ได้ในจักรวาลแบบนั้น
- เกี่ยวกับหลักการทั่วไปของทฤษฎีมิติสัมพัทธ์ที่ว่านี้ อัลเบิร์ตกล่าวว่า วัตถุมีมวลที่เคลื่อนไหวได้ จะสร้างแนวเส้นโค้งบนพื้นที่ว่าง-เวลา และดึงวัตถุที่อยู่ใกล้ๆ เข้าหาตัวเอง
- และการคำนวณของดร.สการ์จิลล์ก็บอกแล้วว่า อาจมีสนามความโน้มถ่วงอยู่ในปริภูมิของมิติที่สองได้ ดังนั้นข้อโต้แย้งแรกจึงตกไป - อย่างน้อยที่สุดก็ในทางทฤษฎี
- ดร.สการ์จิลล์แย้งว่าก็มีกราฟเชิงระนาบ ที่มีสมบัติเหมือนโครงข่ายประสาทเทียม
- นักคณิตศาสตร์จำนวนมาก เชื่อว่าจักรวาลดั้งเดิมของเราอยู่ในรูปแบบสอง เรียกว่า หลักพื้นฐานของโฮโลแกรม และยังเป็นความคิดหลักที่บอกว่า โดยพื้นฐานจักรวาลเป็นแบบสองมิติ และที่ดูเหมือนสามมิติก็เป็นเพราะภาพถูกฉายไปยังขอบฟ้าของจักรวาล
- ย้อนกลับไปที่ประวัติศาสตร์และมองไปยังบรรพบุรุษของเรา มนุษย์ยุคโบราณ. คุณรู้จักภาพวาดผนังถ้ำใช่ไหม? ถ้าคุณเห็น คุณก็จะรู้เลยว่าคนโบราณไม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับมิติสัมพันธ์
- คนในอดีตไม่ได้อยากสร้างแนวคิดหรือเปลี่ยนแปลงความคิดรากฐานเกี่ยวกับโลก และพวกเขาก็พอใจที่จะมองว่าโลกแบน
- สมองของเราอาจหลอกลวงเราได้ อันที่จริงก็คือ สิ่งใดก็ตามที่เราเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น สัมผัส หรือแม้แต่ลิ้มรส ไม่ใช่วัตถุที่แท้จริงเสมอไป - แต่เป็นแค่การรับรู้เชิงอัตวิสัยของเราที่มีต่อสิ่งเหล่านั้น
- ยิ่งมนุษย์มีจำนวนมาก ก็มีมุมมองต่อโลกที่หลากหลาย และก็ไม่มีโลกสองใบที่ไหนเหมือนกันทุกอณูแบบตรงตามตัวอักษร ฟังดูอาจเป็นเรื่องบ้า แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่จะทำให้คุณเชื่อได้ว่า เราอยู่บนห้วงเวลาแบบสองมิติ แค่เห็นทุกอย่างเป็นสามมิติเท่านั้น
เพลงของ Epidemic Sound www.epidemicso...
ของในสต๊อก (รูปภาพ, วิดีโอ และอื่นๆ):
www.depositpho...
www.shuttersto...
www.eastnews.ru
อยากให้เพิ่ม Subtitle ภาษาไทยนะครับผมจะได้เพิ่มโอกาสให้ผู้บกพร่องทางการได้ยินด้วย
PPiTzone ดัน
+++
แม่น
เห็นด้วยครับ
อย่าไปขอเลยครับแม่งไม่ทำหรอก
เอาง่ายๆ เคยดูหนัง 3 มิติไหม ทั้งๆๆที่เราก็รู้ว่าจอมันแบนแต่สมองมันประเมินผลให้เป็น3มิติโดยการใส่แว่น
ชอบความคิดนี้ เข้าใจง่ายและเห็นภาพ 👍
มนุษย์เรารับรู้และเห็นได้แค่ 4 มิติ
แต่สัตว์ต่างๆหรือสิ่งมีชีวิตอื่นหล่ะ
จะเห็นแล้วจับต้องได้ในแบบมิติที่เราเห็นไหม มันน่าแปลกมาก
ผมว่ามันต้องมีหลายมิติมากๆ ในจักรวาลเนี่ย
เทียบกันไม่ได้สักนิด ทีวี 3มิติคุณลองหลับตาสักข้างสิจะยังเห็นเป็น 3มิติอยู่หรือไม่
ของจริงบนโลกนี้ ปิดตาไปข้างคุณก็ยังมองเห็นตื้นลึกหนาบาง คุณยังสามารถจับต้องได้ ว่าตรงไหนตื้นตรงไหนลึก ตรงไหนอยู่ไกล และตรงไหนอยู่ใกล้
ที่สำคัญ คำว่า 3มิติก็นิยามมาจากการสัมผัสหรือการมองเห็นของมนุษว่าส่งนี้สัมผัสแบบนี้ มีกว้าง มีสูง มีความตื้นลึกแบบนี้ให้เรียกว่า 3มิติ
ที่คนโบราณเขียนฝนังเป็น 2มิติ ไม่ใช่เพราะเขาเห็นเป็นสองมิติ แต่เพราะเขาไม่สามารถวาดมันออกมาเป็น 3มิติได้ สมัยนั้นยังไม่มีคนคิดค้นโปรแกรม 3DsMax
ถ้าใครเคยเล่น VR จะรู้ทั้งๆที่เป็นแค่จอภาพแบนๆแต่สมองรับรู้เหมือนโลกเสมือน
@@livza555 ไหนลองหลับตาไว้ข้างนึงแล้วเล่น VR ดูสิ ยังจะเห็นมันเป็น 3D อยู่ไหม แต่ในโลกความเป็นจริง ถึงคุณมีตาข้างเดียวคุณก็ยังมองเห็นมันเป็น 3D
เขายกทฤษฎีเเนวคิด2มิติมาพูดเเล้วหักล้างด้วยทฤษฎีต่างๆให้ฟัง เเล้วเอาทฤษฎีหลักพื้นฐานของโฮโลเเกรมมาหักล้างอีกที เจ้าของchเขาไม่ได้คิดทฤษฎีขึ้นมาเองเเล้วมาพูด เขาเเค่วิเคราะห์ข้อมูลต่างๆทำไมต้องด่าเขาด้วยถ้อยคำที่รุนเเรงด้วย ลองไปเปิดสาระคดีเกี่ยวกับดวงตาสัตว์ต่างๆดูนะเเล้วจะเข้าใจว่าภาพของสิ่งเราเห็นกับสิ่งที่สัตว์ต่างๆเห็นมันจะต่างกัน ไปเปิดซะเเล้วจะGet
5555เเเบนเฉยไอ้พวกเหี้ย
เจอเเต่พวกตรรกระต่ำไร้การศึกษามาตอบเม้นท์ ถ้านักวิทยาศาสตร์ในโลกนี้ไม่มีสิทธิในการตั้งสมมุติฐานในเรื่องต่างๆ ตอนนี้พวกคุณมึงจะมีปัญญานั่งจิ้มเเป้นพิมอยู่หรอ ด้วยสมองระดับพารามีเซียมเเบบพวกมึงคงไม่เข้าใจหรอก เเค่มารยาททางสังคมของพวกมึงมันก็บอกถึงสภาพครอบครัวที่สอนพวกมึงมาละ
@BUG BUNNY ผมเข้าเเจ้งความกับ ตำรวจปอท. ครับเรื่องนี้ผมไม่จบเเน่ :) เเล้วเจอกันครับ
ผมวาาจักรวาลเป็น สี่เหลื่ยม
ผมเชื่อว่าโลกแบน มีใครว่าผมโง่ว่ามาได้เลย
มันก็อย่างนี้แหล่ะ เหมือนสีของสิ่งต่างๆ เราเข้าใจรับรู้ว่ามันเป็นสีนั้น เพราะทุกคนลงความเห็นและตั้งชื่อมันเป็นสีนั้นๆ ซึ่งมันอาจจะไม่ได้เป็นสีนั้นเลยก็ได้
จากวิดีโอผมสรุปในแบบของตัวเองได้ว่า "พลังงานสันฐานของจักรวาล เป็นแค่กลุ่มพลังงานแบนๆ แต่เพราะการประมวลผลของสิ่งมีชีวิตในกลุ่มพลังงานแบนๆนั้น ทำให้สิ่งมีชีวิตคิดไปเองว่าจักรวาลเป็น 3 มิติ "
#ผมนึกถึงอนุภาคควอนตัมเรียงกันเป็นแผ่นบางๆ
#แค่ควอนตัม 1 อนุภาคก็เก็บข้อมูลได้อนันต์แล้ว
มีจริงทุกอย่าง ตราบเท่าที่สมองรับรู้ หรือเท่าที่มนุษย์รับรู้ ก็มีอยู่จริง ทุกๆอย่าง หากมนุษย์ไม่รับรู้ หรือมนุษย์ไม่รับรู้ ก็เท่ากับว่าสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง เพราะไม่มีการรับรู้
ฉันคิดว่าฉันเข้าใจสิ่งที่คุณบอกนะ ทุกอย่างเลย ขอบคุณมากจริงๆ
ขอทฤษฎีของคนคอมเมนต์ที่คิดว่าตัวเองเป็นศุนย์กลางจักรวาลทีครับ - -
สามารถอธิบายทฤษฎีนี้ได้ด้วยสุภาษิตไทยครับ ที่ว่า กบในกะลา สั้นๆได้ใจความ
@@blackcockshooter699 5555555
มันมีทฤษฎีที่ว่าจักรวาลมีได้เพราะมีผู้สังเกตุ ซึ่งพัฒนามาจากยอดนักฟิสิกซ์ของโลกคือ นีล โบร์ ด้วยวลีอันโด่งดังว่า "ต้นไม้ล้มอยู่ในป่าลึกที่ไม่มีคน จะมีเสียงหรือไม่" ซึ่งควอนตัมฟิสิกซ์สามารถยืนยันได้ความถูกต้องของนีลโบห์ได้ จากการทดลองเรื่องตลื่นและอนุภาค ทำเอาไอน์สไตน์อึ้งไปเลย
อยากให้พี่พูดช้าๆหน่อยค่ะ บางคลิปพี่พูดเร็วมากฟังแล้วยังประมวลความหมายยังไม่ทันพี่ก็พูดไปคำอื่นแล้ว แต่ทุกคลิปมีประโยชน์มากๆเลยค่ะ
ผมว่ามิติที่1คือจุดเล็กกกกกกก
มิติที่2คือเส้นๆหนึ่งมีความหนายาว
มิติที่3คือมีความสูงกว้าง
มิติที่6คือรายการผีถุ้ย!!
ฮ่า ฮา ฮา ฮา ฮา
.
.
.
.
.
เห้อ
ไม่ขำ
555
เดี๋ยวๆ4กับ5ล่ะ?
55
จากเรื่องค่าคงตัวของจักรวาลที่ให้ข้อสรุปว่าจักรวาลนั่นแบน (Universe is flat) เขาไม่ได้หมายความว่าจักรวาลเป็น 2 มิตินะครับ เขาหมายถึง ไม่ว่าจะจุดไหนของจักรวาลมันมีหน้าตาเหมือนกันหมด มีมวลเฉลี่ยๆ เท่ากันหมด มีดาวปริมาณที่เท่าๆ กันทั้งหมดในทุกๆ จุดของจักรวาลครับ
ผมชอบมาก
จริงๆแล้วสิ่งที่เรารับรู้และสัมผัสอยู่
ไม่ว่าจะเป็นการเห็น ได้ยิน กลิ่น สัมผัส รส
เกิดจาก โครงข่ายในสมอง รับสัญญาณจากอวัยวะ แล้วแปลออกมาเท่านั้น
เหมือนกับ เวลาที่เราใช้ Google แปลภาษา แปลภาษา ที่ไม่รู้จักออกมานั้นแระ
จริงๆแล้ว จักรวาลนี้อาจไม่ได้เป็นแบบที่เรารับรู้
แต่โดนสมอง หรือ สัญญาณแปลมาให้ แสดงให้เหมือนกับว่า มันเป็นแบบนั้นเฉยๆ
มันทำให้เราตั้งคำถามว่า อะไรบ้างที่มันจริง ในจักรวาลนี้
การคอมเม้นท์ด่าหยายคาย ไร้การศึกษา มันบ่งบอกอะไรๆ ถึงนิสัยคนไทย(ส่วนมาก)ได้ชัดเจน... ทำไม ปท.เขาถึงพัฒนาไปไกล ลองคิดดูแล้วกัน
นี่มันเป็นแค่ทฤษฎีที่น่าสนใจมากทฤษฏีนึง แปลกทำไมมีคนไม่เข้าใจประเด็นที่คลิปนำเสนอมากขนาดนี้ ประเด็นสำคัญของคลิปมันไม่ได้อยู่ที่โลกกลมหรือว่าแบน ประเด็นมันอยู่ที่สมองเป็นตัวสร้างกรอบสร้างรูปแบบการรับรู้ต่างๆขึ้นมา แล้วทุกๆการรับรู้ ที่เราเห็น ที่เราสัมผัส ที่เราได้ยิน ล้วนถูกแปลงข้อมูลให้ตรงกับกรอบรูปแบบที่สมองเราสร้างขึ้น ไม่ว่ารูปลักษณ์จริงๆของสิ่งที่เราสัมผัสจะเป็นแบบไหน ข้อมูลที่ถูกส่งไปยังสมองก็จะถูกแปลงเป็นข้อมูลในรูปแบบที่สมองต้องการรับรู้ ยกตัวอย่างง่ายๆสัตว์หลายๆชนิดมักมีการมองเห็นในรูปแบบที่แตกต่างจากมนุษย์ ก็เพราะสมองเขาต้องการรับรู้ภาพแบบนั้นเพื่อการดำรงชีพ สิ่งที่เขาสัมผัสที่เขารับรู้ก็ต้องถูกแปลงข้อมูลไปเป็นรูปแบบที่สมองเขาต้องการ ประเด็นหลักของคลิปมันอยู่ตรงนี้ นี่มาเถียงอะไรกันโลกกลมโลกแบน เฮ้อออ...
ขอบคุณเม้นนี้มากเลยครับทำให้ผมเข้าใจจากที่เขาอธิบายเยอะเลย
ใช่ครับ อ่านคอมเม้นหลายๆอันแล้วงง เถียงเรื่องภาพสามมิติมันจับต้องไม่ได้ โลกแบนแล้วทำไมเห็นเป็นโลกกลม บลาๆ ทั้งๆที่ทั้งหมดมันเกิดขึ้นได้ด้วยกลไกของสมอง จะจับต้องได้ไม่ได้อยู่ที่สมองมันสั่งให้เรารู้สึก ทฤษฎีนี้มันจริงไม่จริงไม่รู้ แต่หัวใจหลักมันคือแบบนี้ รู้เลยอะว่าคอมเม้นไหนศึกษาข้อมูลนี้บ้าง อันไหนไม่เคยศึกษาเลย ดีเฟนด์เล่นใหญ่กันตลอดทั้งที่ไม่ทำความเข้าใจกันเลยอะ
สําหรับใครดูจบเเล้วจะมาอ่านเม้นท์ ขอเตือนนะ ปวดหัวกว่าเดิมอีก555
555+
ใช่เลยไปอ่านมาและปวดหัว
ถ้าเทียบกับสิ่งเล็กๆอย่างลูกบอล เราจะเห็นทรงกลม จากดวงตา พอเดินเข้าไปจับก็จะรู้ถึงรูปร่าง แต่พอมองออกไปที่ภูเขา หรือ ท้องฟ้า คุณจะเห็นภาพเป็น สองมิติ เพราะสมองมันบอกอย่างนั้น แต่ถ้าเอาไปเทียบกับ อวกาศ วัตถุที่เราเห็นจะเป็นสองมิติอย่างแท้จริง ยกตัวอย่างเช่น กาแล็กซี ถ้ามองจากด้านตรง จะเห็นเป็นรูปวงกลมก้นห้อย แต่ถ้ามองจากด้านข้างจะเป็นเส้นเพราะมันแบน แน่นอนถ้าเทียบกับขนาดของมัน มันไม่ได้แบน แต่มองรูปร่างโดยรวมของมัน มันคือภาพสองมิติ ในคริปเขาไม่ได้บอลกว่าโลกแบน แต่สายตากับสมองของคนเรามองภาคเป็นสองมิติ ทำให้คนสมัยก่อนคิดว่าโลกแบน สรุปง่ายๆ จักรวาลมีรูปร่างเหมือนพิซซ่า
เป็นไปได้ว่าจักรวาลขยายออกในแนวระนาบ และ หดตัวทุกครั้งที่มีบิ๊กแบง ซึงงจริงๆแล้ว จักรวาลเหมือนจะขยายตัวแต่ขนาดจักรวาลคือเท่าเดิม เหมือนการเดินเข็มนาฬิกามีการเดินแล้ววนกลับมาที่เดิมเป็นอนันต์
คุณคิดว่าจักรวาลมันมีกี่ มิติ หล่ะครับ
เราอยู่ในมิติเดียวครับ มิติความเป็นจริง ที่หิวจริง แก่จริง เจ็บจริง ตายจริง
จริงแทัแน่เทียว
ทุกสิ่งเริ่มจาก1มิติ คือจุด ต่อมาจุดจำนวนมาก ก่อตัวเป็น2มิติ และต่อมาเมื่อ2มิติหลายๆด้านรวมตัวกัน จนกลายเป็น3มิติ
หากมีมดบนกล่องใหญ่ๆ มดจะมองว่ากล่องมีขอบเมื่อเดินไปสุดขอบมดจะเห็นสิ่งนั้นเป็นเหว
ในขณะที่เราถือกล่องใบนั้นอยู่ เราเห็นในทุกด้านของกล่องรวมกันเป็นรูปทรงขึ้นมา
สรุปคือ เราอาศัยบน2มิติและ3มิติในเวลาเดียวกัน
@BUG BUNNY มึงเห็นจริงๆหรือสมองมึงบอกว่ามันเป็นแบบนั้น ขนาดจอคอมจอมือถือที่มึงดูอยู่ตอนนี้ สมองมึงยังเข้าใจว่ามันเป็น ทรงสามมิติเลย เวลามันฉายทรงสามมิติ ทั้งๆที่มันเป็นสองมิติ มึงคิดจริงๆ หรือว่ามันมีเม็ตสี ทรงสามมิติในจอภาพ
@BUG BUNNY ขวางโลกกกกกกก น่าขยะแขยง
@BUG BUNNY แต่กูมีศักดิ์ศรีและสมองนะ😂😂
มีแต่คนลุมด่าอะ จนมุมอะดิ คิดว่าถ่ายทอดความทุกข์ของมึงออกมาแล้วกูจะรับหรอ5555
@BUG BUNNY เจออีกแล้ว คอมเม้นแบบนี้เลย อย่าไปด่าเขาเลย หรือนายชอบให้คนด่านาย อย่าทำตัวแบบนี้เลย แค่บอกเฉยๆนะแล้วอย่ามาด่าเราบอกไว้ก่อน 🙂
อ่าวเเล้วเราไม่มีอายุไม่เเก่หรอตอนนี้ถ้ายุใน3มิติ;-;
ผมเห็นด้วยเรื่องสมอง เช่นเรามองต้นไม้เป็นรูปร่างแบบที่เราเห็น แต่สิ่งมีชีวิตอื่นๆก็มองเห็นไม่เหมือนกับเรา = ว่าสิ่งที่เรารู็ เห็น ก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นความจริงเสมอไป
หรื่อที่พระพุทธองค์กล่าวว่าตัวตนคนสัตว์ไม่มีอยู่จริง ที่มีอยู่เพราะเราเชื่อในความคิดของเรา ทำให้มีอยู่ และพระองค์หนึ่งพูดว่าโลกมันราบเรียบ ท่านอาจรับรู้และเห็นสิ่งนี้ก็ได้
ทุกๆอย่างแค่สิ่งสมมติ ว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ ที่จริงมันไม่มีอะไรเลยว่างเปล่า ไร้ทุกๆสิ่ง
ดีใจนะถ้ามีจักรวาลที่เป็น2 มิติและมีตัวละครที่เราวาด🥰 นั่นหมายความว่า มีอนิเมะ หรือโลกการ์ตูนจริงๆสินะบ้าไปแล้ว!
@Engineer B อื้ม ถึงแนวคิดที่โลกตัวการ์ตูนมีจริงจะดูเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มี ก็ต้องรอดูไปก่อน
เยี่ยมครับ..จะอย่างไรก้อคือความรู้..
เค้าแค่นำเสนอ ว่ามีทฤษฎีที่เห็นต่างแบบนี้อยู่ และเหตุผลว่าทำไมบางคนถึงเชื่อแบบนั้น เค้าไม่ได้บอกให้เชื่อตามซะหน่อย บางคนดูคลิปตีความไม่แตก ก็หลับหูหลับตาด่าไว้ก่อน
เอ้.. ถ้าทุกอย่างเป็น 2 มิติจริง สิ่งที่อยู่บนมิติที่ 2 จะเห็นเป็นยังไงนะ ไม่ใช่หมายถึงเรามองกระดาษนะ แต่หมายถึงเราเข้าไปอยู่ในกระดาษหนะ // หัวหมุน@_@
ใช่เลยครับ แสดงว่าตัวมนุษย์เราก็แบนอะดิ ไม่มีความหนา แส้วพวกไส้กะสมองผิวหนัง ฯลฯ มันกระจายเป็นแผ่นรูปผืนผ้าหมด ผิวหนังไม่ได้ห่อหุ้มอะไรเลย เพราะมันไม่มีความหนา ไม่มีมิติที่สาม มีแค่กว้างกะยาว แล้วเวลาเรามองคนอื่นทำไมไม่เห็นอวัยวะภายในเห็นแต่ผิวหนัง ถ้าจักรวาลมีแค่สองมิติ น้ำมันจะอยู่ในแก้วได้อย่างไร อีกอย่างถ้ามีแค่สองมิติวัตถุจะไม่มีเงา แล้วเงามาจากไหน
คนตัวเล็กมากเมื่อเทียบกับโลกจนมองว่าโลกเเบน โลกเล็กมากเมื่อเทีบยกับจักรวาลจนมองว่าจักรวาลแบนก็ถูกแต่ไม่จริงทั้งหมด คือจะบอกว่าสิ่งที่เล็กที่สุดจะสามารถอธิบายสิ่งที่ใหญ่ที่สุดได้ ถ้าอยู่ภายใต้กฎฟิสิกส์ และคณิตศาสตร์ ของจักรวาลเดียวกัน แต่มันจะถูกทั้งหมดได้เมื่อพิจารณาเงื่อนไขครบถ้วนเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันยังทำไม่ได้ หวังว่านักวิทยาศาสตร์จะรวมทฤษฎีสรรพสิ่งได้ในเร็ววัน
ทุกสิ่งทุกอย่างพระเจ้าเป็นคนเนรมิตสร้าง
ช่องนี้เหมือนเป็นช่องคู่ขนานของ มิติที่ 6 เลย ผู้บรรยายเป็นผู้ชาย มีเรื่องบรรยายให้เล่าเยอะแยะ มีเรื่อง วิทยาศาสตร์ ตำนานท้องถิ่น จนไปถึงเรื่องสยองขวัญ จากสถานที่ต่างๆทั่วโลก แต่ธีมการเล่าใช้น้ำเสียงฟังแล้วรู้สึก ลึกลับ มี soundFX horror กับภาพประกอบ si fi horror นิดๆ
ส่วนช่องนี้ ชีวิตสดใสตรงกันข้าม กับการบรรยายน้ำเสียงที่ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลาย สดใส กับภาพประกอบที่ดูแล้วเข้าใจง่าย
นึกถึงศิลปะภาพสามมิติบนพื้นเรียบ ตามองมันมีมิติแต่ความจริงมันคือพืนผ้ารึผืนผนังเรียบๆแบนๆ
ที่บอกมีมิติที่2ก็ไม่ผิดเพราะมนุษย์อยู่มิติที่3ในการรับรู้จะสามารถมองเห็นมิติที่ต่ำกว่าได้ ส่วนมิติที่สูงกว่า 3 นั้นเราไม่สามารถจะรับรู้ได้ มิติที่ 4 ขึ้นไปจะเกี่ยวกับเวลาสามารถยืดหดเวลาได้โดนเป็นการรับรู้ทางจิตไม่ใช่ทางตา ส่วนมิติที่สูงจะเห็นการเวียนวายของทุกมิติเหมือนกับที่เราเห็นวัธจักรห่วงโซ่อาหารเห็นจุดเริ่มต้นและจุดจบ ซึ้งที่สิ่งเดียวที่นักวิทยาศาสตร์ต้องการรู้มากที่สุดถือเป็นชัยชนะหลุดจากช่วงเวลา ทุกสรรพสิ่งจะล้วนต้องเสื่อมสลายไปตามเวลาเพราะอยู่ในกฏของเวลาทั่วสากลพิภพจักรวาล สุดท้ายที่เป็นของที่สุดก็คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบได้ความเป็นอมตะเวลาไม่สามารถส่งผลได้ นั้นคือแดนนิพพาน ตามความที่เข้าใจมานะอาจจะผิดก็ได้
ถ้าเราคิดย้อนกลับ สมมุติให้มนุษย์เป็นผู้สร้างจักรวาลหรือพหุจักรวาล ศักย์ภาพของเราจะมโนภาพเอาไว้ด้วยทฤษฎีหลุดโลกต่างๆนาๆจะพบกับข้อจำกัดในการนำเสนอที่ทำออกมาได้เพียง 2 มิติ เท่านั้น แม้แต่ผู้สร้างที่มีชื่อเสียงขึ้นมาด้วยนามปากกา"สแตน ลี" ก็ได้ริเริ่มสร้างพหุจักรวาลมาร์เวลและซุปเปอร์ฮีโร่พลังอภินิหารต่างๆขึ้นมาบนแผ่นกระดาษด้วยดินสอและปากกา หรือแม้แต่อีกผู้สร้างนักต่อยอดที่ไม่ใช่ใครอื่นไกลอย่าง เควิน ไฟกี ก็จะพบอีกว่าเค้าใช้ทรัพยากร 3 มิติเป็นส่วนใหญ่ เช่นนักแสดงและทีมงาน หรืออาจจะมีเทคนิคโฮโลแกรม กับ CGI อยู่บ้าง และแม้หนังมาร์เวล 22 เรื่องจะสร้างปรากฏการณ์เสมือนรูปธรรมขึ้นมาจากสิ่งที่เป็นนามธรรมอย่างทฤษฎีฟิสิกส์ควอนตัมหรือมิติทับซ้อนที่เชื่อมโยงกันด้วยพลังงานหนึ่งเดียว แต่ทุกอย่างที่เราเห็นไม่ว่าจะผ่านตาหรือผ่านแว่นโฮโลแกรม มันก็ดำเนินไปในรูปแบบ 2 มิติเท่านั้น แม้แฟนๆหลายคนจะเคยกระทบไหล่นักแสดงสุดฮ็อทอย่าง คริส อีวานส์ หรือ RDJ แต่พวกเขาคือแบบพิมพ์ของกัปตันอเมริกาและไอร์อนแมน หรืออาจบอกได้อีกแบบว่า 2 ฮีโร่ยอดนิยมคือหนึ่งในร่างอวตารของ 2 นักแสดง แต่ทุกร่างอวตาร ทุกเรื่องราวที่เชื่อมโยงกันทั้งเชิงสัมพันและสัมพัทก็ล้วนแต่ถูกจำกัดอยู่ใน 2 มิติ จึงอาจบอกได้ว่าโลกที่เราอยู่อาจถูกร่างขึ้นมาด้วยดินสอหรือคอมพิวเตอร์กราฟฟิก เราทุกคนอาจเป็นตัวละคร 2 มิติที่เกิดจากนักแสดงคนนึงที่หน้าเหมือนเราทุกอย่างแต่อยู่ในสภาวะ 3 มิติ เทสหน้ากล้องอยู่หลายเทคกว่าจะได้มาเป็นฟุตเทจเหตุการณ์ของเราที่กำลังดำเนินไป เราเองก็อาจจะทะลุขีดจำกัดต่างๆไปเรื่อยๆ 4 มิติ ไปจนถึง 12 มิติ และจะมีบางคนเท่านั้นที่ Break the Fourth Wall หรือตื่นรู้ไปคุยกับผู้สร้างได้ หรืออาจเป็นไปได้ที่ข้ามขีดจำกัดไปอยู่ระดับเดียวกับผู้สร้างอย่าง Deadpool ที่ตอนนี้จิตสำนึกของเขาอาจไปทับซ้อนอยู่ในร่างของแม่พิมพ์อย่าง ไรอัน เรย์โนลส์ แน่นอนว่าวิลสันในร่างเรย์โนลส์จะนำเสนอตีความตัวตน 2 มิติของตัวเองมากี่รูปแบบก็ได้ บางทีวัฏจักรของจักรวาลอาจจะเป็นแบบนี้ มันอาจจะยังมีพหุจักรวาล Bubble แบบ 2 มิติเกิดขึ้นละดับไปอยู่ข้างในจักรวาลหลัก 3 มิติมากมาย เช่น DragonBall GT ที่ถูกตัดจบลงแล้วถูกตัดออกจาก Canon ไปแล้ว เราทุกคนก็อาจจะคิดว่าตัวเองตื่นรู้ไปสู่มิติต่างๆแล้วไปจบที่ อ้าวทุกอย่างมี 3 มิติ แล้วที่ผ่านมาเราเป็น 2 มิติ ในหลายๆตัวตนมาโดยตลอด แล้วมันก็จะวนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆก็มีเหตุผล
ซึ่งก็อย่าแปลกใจถ้าวันนึงเรามีรูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนไป ความสูงเปลี่ยนไป เพราะอาจมีการเปลี่ยนตัวนักแสดงที่จะมารับบทเรา หรือบางทีการเปลี่ยนตัวนักแสดงก็อาจจะเกิดตอนที่เราไปศัลยกรรมก็เป็นไปได้อีกเช่นกัน และต่อให้เราจะก้าวไปสู่ขีดจำกัดที่สูงขึ้น เช่นต่อให้เราเกิดมาเป็นสิ่งมีชีวิตที่อายุยืนยาวมากเป็นล้านปี เวลาในจิตใจของเราอาจเท่าเดิม
โลกแบนก็เพราะว่าทฤษฎีที่ว่าจักรวาลไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีรูปทรง,รูปร่าง,ขอบเขต ทุกอย่างถูกกระจายออกไป อย่างไม่มีมิติ
ส่วนทฤษฎีที่ว่าจักรวาลมีรูปทรง,รูปร่าง,ขอบเขต ก็หมายความว่าจักรวาลมีจุดสิ้นสุด และมีมิติ และจุดสิ้นสุดของจักรวาลนั้นเรายังหาคำตาบไม่ได้ว่ามันมีอยู่จริง
เอาง่ายๆเลยครับ มนุษย์เราอาศัยอยู่อยู่ในโลกที่สามารถรับรู้และเห็นได้แค่ 4 มิติ และโลกของเราก็อาศัยอยู่ในจักรวาล ที่มนุษย์เราไม่สามารถรับรู้ได้ว่าจักรวาลนั้น มันมีกี่มิติ มันมีรูปทรง หรือมันขยายตัวออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หรือต้องมีขอบเขตหรือเปล่า
อันนี้มีแต่ทฤษฎีคับ
บางทีสัตว์ต่างๆ อาจจะมองและเห็นในมิติ ที่ไม่เหมือนกันกับเราก็ได้ อาจจะเห็นเป็น2มิติ หรือมากกว่าเราก็ได้ อันนี้ผมคิดแบบนี้นะ
นึกถึงBill Cipher เลยมาจากจักรวาล2มิติเหมือนกัน
สุดยอด เก่งกว่านักวิทยาศาสตร์ระดับโลกอีก
น่าสนใจมากครับ
มันเป็นความคิดที่เพ้อฝัน
ประเทศไทยคือประเทศแห่งความงมงาย
ชอบช่องนี้ที่สุดขยันอัพคลิป ขยันอย่างอื่น.....เหมือนขยันอัพคลิปป่าว หยอกๆๆๆ
เอาจริงๆ ถ้าโลกมันแบนราบจริง ตึกที่สูงที่สุดในโลก ก็อาจจะเห็นได้ทั่วโลกก็ได้นะครับ แต่นี่ต่อให้สูงแค่ไหน ก็ไม่อาจมองได้ทั่วโลก
สิ่งที่เราเห็น ได่้กลิ้น สัมพัส อาจจะไม่ใช่สิ่งที่แท้จริงเสมอไป
สมองมนุษย์ไปไกลกว่าร่างกายของมนุษย์ เราอ้างอิงตัดสินใจด้วยการมองเห็น การทดลอง เราเห็นว่ามันมืดเพราะเรามองไม่เห็น เราจะเห็นเมื่อมีแสงมาเข้าตาเรา เราหยิบและจับสัมผัสได้ว่ามันมีอยู่เพราะเส้นประสาท เราอ้างการมีตัวตนของเราจากสมองและความคิดของเรา เมื่อเราจากโลกนี้ไปจักรวาลก็ไม่มีอยู่จริง ยกเว้นเราจะกลายเป็นผี ซึ่งยังพิสูจน์ไม่ได้
โอ้มายก็อดๆๆๆๆ เรื่องนี้มันน่าสนใจมากกกกกก
บางทีคิดเยอะไปก็ไม่ดีนะ ปล่อยวางซักนิด ชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะ สุขง่าย ตายง่าย(เพราะทำไรไม่คิด5555)
บางทีสมองอาจจะหลอกเราก็ได้ครับ สมมุติว่าเราถือแท่งเหล็กแต่สมองเปลี่ยนเป็นโทรศัพท์ หรือสี่ที่มี7สี่ที่เรารู้จัก จะจินตนาการเพิ่มก็คิดไม่ออก บางที่อาจมีสีที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน
โอ้โน...ไปกันใหญ่แล้ว
ภาพวาดสองมิติ เกิดก่อนสามมิติ (วาดภาพมีตื้นลึก) ดนตรีสมัยก่อน มีชิ้นเดียว สมัยนี้มีเบส มีความลึก นั่นแล่ะ เหมือนกัน
พี่ค่ะโลกไม่ได้บานราบค่ะโลกเป็นทรงกลมแต่เวลาอยู่บนโลกมันแบนเพื่อให้เราเดินได้ค่ะท้ามันกลมอย่างเดียวเราจะเดินยังไงล่ะค่ะลองคิดใหม่สิค่ะ
#ชอบช่องนี้มาก😍😍😍
คุณมีหลักฐานยืนยันหรอครับ ความจริงที่นักดาราศาสตร์บอกโลกเป็นทรงกลม เพราะเขาแค่ใช้จินตนาการ ทั้งจักรวาล และทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงโลกเราก็เป็นแค่ทฤษฎีแค่นั้นครับ
ไม่ได้ด่าผมเนอะ
@หัวใจสีขาวโทนดํา ผู้เสพแอพสีแดง เครๆ55+
มิติความลึกก็มี
1+1อาจ=2ในมิติของเรา
คัยจะไปรุ้ว่ามิติอื่นอาจจะมีผลลับที่ต่างกัน
คนพากน่ารักกก
เจ๊ ทำวิดีโอดัวย จัย รัก ไม่มีโฆษณา ผู้ไม่แสวงผลกำไร
เขาได้จาก bright side สาขา us
ใจ**ครับ
หรือว่าสิ่งที่เป็นวัตถุ เช่น ดาวต่างๆ สิ่งของ จะเป็นสามมิติ แต่เส้น(ระนาบ)ของระบบสุริยะจะเป็นสองมิติ เพราะเวลาดาวเคราะห์โคจรรอบดาวฤกษ์ดาวเคราะห์ทุกดวงมันก็โคจรในแนวเดียวกันหมด ถ้ามองจากแนวนอนเหมือนว่าจะมีอะไรสักอย่างมารองดาวเคราะห์ในระบบสุริยะไว้ให้อยู่ในแนวเดียวกัน ต่างกันแค่ความเร็วในการโคจรรอบดาวฤกษ์และวงโคจรของดาวเคราะห์ที่อาจจะกลมๆ รีๆ บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในแนวเดียวกันหมด แต่มันก็อาจจะเป็นเพราะแรงโน้มถ่วงที่ทำให้มันอยู่ในระนาบเดียวกัน คิดเองได้แค่นี้ ช่วยมาวิเคราะห์ให้หน่อยคับ ถ้ามันขัดแย้งก็ช่วยบอกหน่อยคับว่าขัดแย้งเพราะอะไร ทุกสิ่งมันไม่เป็นความจริง เพราะทุกสิ่งมันอาจเป็นไปได้
ทุกวันนี้ นักวิทยาศาสตร์ พยายามพูดในสิ่ง ที่นอกกรอบ..../ แต่ สิ่ง่นอกกรอบ อีกอย่าง คือ
การการศึกษา รูปแบบ ทีมากกว่า 3 มิติ.
เคยมีการทดสอบมาแล้ว โดยการให้คนสองคนอยู่ห่างกันบนแม่น้ำที่น้ำนิ่งๆ อีกคนอยู่บนฝั่งส่องเลเซอร์ให้ไปที่อีกคน
สรุป เลเซอร์ลอยสูงเหนือหัว ทั้งที่ยิงในเส้นตรงจากฝั่ง จึงทำให้ทราบว่าโลกนั้นมีความโค้ง
และเมื่อเอาเส้นความโค้งนั้นมาคำนวณต่อๆๆไปเรื่อยๆ มันจึงกลายเป็นรูปวงกลม
ที่เขาจะสื่อคือในสเกลของจักรวาล ประมาณว่าโลกเราอาจจะกลมเพราะเป็นสเกลแค่ระดับดวงดาว แต่ถ้ามองออกมาในระดับจักรวาลมันอาจจะคนละเรื่อง อารมณ์เหมือนคุณเห็นกระดาษเป็นแค่2D แล้วคุณคิดว่าโมเลกุลของกระดาษจะเรียงตัวเป็น2Dด้วยรึป่าว ซึ่งเป็นไปไม่ได้แน่ๆ
ว้าว
.
.
.
.
.
ปวดหัว
ถ้าอธิบายเป็นภาษาคนที่เข้าใจง่าย ผมก็เข้าใจ
คณิตศาสตร์จะไม่ให้ผลลัพที่เหมาะสม ถ้าหาก ข้อสมมติฐานไม่ครอบคลุม
บรรยายซะผมเชื่อว่าโลกแบนเลย
สิ่งที่ผมคิดคือ
จักรวาลเราอาจจะอยู่ให้มิติที่มองไม่เห็นจะไม่สามารถ อธิบายได้คือ มิติที่1
มิติที่2 เราจะให้ในทางด้านหน้าและหลัง ถ้าเรามองไปทาง บน ล่าง ซ้ายหรือขวา เราจะไม่สามารถเห็นอะไรเลย
มิติที่3 เราจะมองได้ทุกทิศทางไม่ว่าจะด้านไหนๆ
มิติอื่นๆ จะเป็นมิติที่มนุษย์ไม่สามารถเห็นได้
ถ้ามนุษย์มองเห็นได้ทุกมิติ เราจะเห็นคนและสิ่งของที่แตกต่างกัน ดังนั้น โลกคู่ขนาน หรือโลกต่างมิติ มีอยู่จริง
สรุป มิติที่1 2 3 4 คือมิติที่เรามองเห็นอยู่ในตอนนี้ ตั้งแต่มิติที่5ไปจะมีเวลามาเป็นตัวแปร ดังนั้น โลกคู่ขนานมีจริง
ถ้าเราอยู่ในมิติที่6 เราจะสามารถกลับไปในอดีตได้
สิ่งที่ผม งง คือ
1.มิติที่1รูปร่างเป็นอย่างไร
ชอบข้อมูลภาพประกอบ แต่ไม่รู้เพราะแปลบทมาจากภาษาอังกฤษหรือเปล่า? ยัดมุขมาเยอะไปจนน่ารำคาญ
ถ้าจักรวาลมีขอบแร้วอะไรยุนอกขอบ แร้วอะไรที่ยุนอกไอ้ที่ยุนอกขอบจักรวาล แร้วอะไรที่ยุนอกๆๆๆๆ สุด
คนยังไม่เคยไปก็ไม่รู้นิ
ขอเรื่อง เวลาหน่อย เพราะมิติก้เกี่ยวกับเวลา 1-0ก้มีเวลาแต่ก้ชอบเพราะอธิบายดี
ภาพแบบจำลองที่เห็นคือแบบจำลองปริภูมิเวลา โดยเขาอยากเอามิติเวลามาคำนวณด้วยเขาจะเขียนภาพสมมติให้จักรวาลและเหตุการณ์ต่างๆแบนราบ ส่วนแนวยาวหนึ่งๆให้เป็นเวลา (มันมีหลายแบบน่ะแล้วแต่ว่านักฟิสิกส์จำเอาปัจจัยอะไรมาคำนวณร่วมด้วยบ้าง) ซึ่งจะเอามาสรุปว่าโลกแบนในปริภูมิสามมิติที่เราเห็นๆกันอยู่ไม่ได้ ต้องอธิบายแยก มาสรุปแบบนี้เข้าใจผิดตายเลย
จะอธิบายแยกคร่าวๆให้น่ะ
-ในมุมมองปริภูมิเวลา และปริภูมิอื่นๆ = จักรวาลอาจจะกลม แบน หรือ อื่นๆก็ได้ ซึ่งยังถกเถียงกันอยู่
-ในมุมมองปริภูมิสามมิติ = จักรวาลมีรูปร่างแนวกว้าง ยาว สูง และโลกก็กลม (เบี้ยวนิดนึง) แบบที่เราเห็นนั่นแหละ ไม่ได้แบนราบอะไรหรอก
เราเชื่อว่ามันอาจมีแค่2มิติแต่การคำนวนของสมองของเราเห็นเปน3มิติ
ลองคิดดูสิการที่พวกคุณมองเห็นเพราะสมองมันทำงาน ทำไมหมามองโลกเปนขาว-ดำ
ก็เพราะสมอง เราจะมองแบบไหนขึ้นอยู่กับการทำงานของสมองที่ประมวลผลสิ่งที่เห็น
ตามโครงสร้างของสมอง สมองเราไม่ได้ถูกออกแบบให้มองโลกเป็น2มิติ
เราจึงไม่เห็นเป็น2มิติ
ถ้าข้อมูลผิดพลาดขออภัยด้วยคับ
หรือเราอาจจะอยู่ทุกมิติก็เปนไปได้คับแค่เรามองไม่เห็น
ถ้าพูดแบบนี้ก็เหมือนในหนัง ราล์ฟ วายร้ายหัวใจฮีโร่ อ่ะ เราเห็นเป็นภาพ2มิติ แต่คนในนั้นเห็นเป็น3มิติ
ลงไรที่เข้าใจง่ายๆจะดีกว่า
เป็นไปได้ว่าคำโลกสำหรับความเชื่อทางศาสนาโบราณมันไม่ได้หมายถึงEarth แต่หมายถึงจักรวาลที่เราอยู่ เพราะฉะนั้นพวกเค้าอาจไม่ได้คิดผิดเลย เพราะEarthมันกลม แต่จักรวาลนั้นแบน
บางฟังๆไปกำลังจะคิดตามทำความเข้าใจ.......แต่แล้ว อ้าวววนอกเรื่องซะงั้น
คนที่เชื่อว่าคนเกิดมาจากลิง ก็เขาใจเขาได้นะว่าลิงคล้ายคนมากสุด แต่ความน่าจะเป็นหรือความเป็นไปได้ มันห่างขั้นกับการเกิดขึ้นของบิ๊กแบงอย่างสิ้นเชิง
ทุกอย่างเป็นไปได้หมด เกินความสามารถของมนุษย์ กฏต่างๆไม่มีอะไรตายตัว
Wowwwww
สนุกดี
อย่างไรผมก้เชื่อว่า สิ่งที่เหน อาจไม่ใช่สิ่งที่เปน
มันเป็นทฤษฎีที่อาจดูเหลวไหล แต่ทฤษฎีจักรวาล 2 มิติกลับสามารถอธิบายข้อเท็จจริงของจักรวาลได้ดีกว่าทฤษฎีอีกมากมายที่เป็นที่ยอมรับกันในปัจจุบันซะอีก
ยืนกลางแดดตอนเที่ยง แล้วเงาจะอยู่ใต้เท้าเราได้อย่างไร ถ้ามันเป็น 2 มิติ
แล้วถ้า 2 มิติ มันคงไม่มีเงาใต้ตัวจริงไหม
กูเกลียดทุกมุกในทุกคลิปของช่องนี้จริงๆ!! แต่กูอยากดูเพราะสาระ ถ้าไม่มีมุกก็ไม่เสียหายอะไร แต่เมื่อมีมุกมาแทรกทำให้บางคนมีความรู้สึกด้านลบกับคลิป มีมุก=0,1 ไม่มีมุก=-1
คิดชื่อยังไม่ออก คิดออกค่อยเปลี่ยน มุขฝรั่งเเปลไทยก็อย่างงี้เเหละ ฝืดๆ
โชคดีที่มุขไทยกับมุขอังกฤษคลิปนี้มันใกล้กันนะ อิอิ
แล้วถ้าจักรวาลไม่มีรูปทรงละแอด?😶
ถ้าคนเรามีประสาทสัมผัสแค่ดวงตา คงไม่สามารถแยก 2 มิติ กับ 3 มิติได้
แต่คนเรามีประสาทสัมผัสด้วยการจับ คลำ จึงสามารถรับรู้ความหนา ความลึกได้ด้วย
6:10 มีความจิกกัดเบาๆ 5555
ผมว่านะที่ผมคิดเอาเองคือ เราอยู่ในเอกภพที่มี2มิติเเต่มีสิ่งที่แหกกฏของ2มิติคือดาวเคราะ ดาวกฤษ์ หลุมดำ อื่นๆ แต่พวกหลุมดำ รูหนอนพวกนี้อะมีข้อพิเศษคือ เป็นวัตถุที่เป็น3มิติ(ตรงกลม)แต่มองได้เเค่2มิติ
ฟังทฤษฏีแนวคิดนี้แล้วรู้สึกว่าถ้าเราอยู่แบบโลกมิติที่2 ความคิดจะเหมือนกับตัวละครในการ์ตูนหรืออนิเมะก็คิดว่าตัวเองอยู่ในโลกมิติที่ 4 ด้วยเช่นกันแต่เราทั้งหมดอาจอยู่ในมิติที่2ทั้งหมด แต่อยู่ที่ความคิดหรือการสัมผัสจะคงอยู่เป็นรูปแบบของมิติที่4 อันนี้แค่ความคิดที่ผุดมาเล่นๆนะ
พูดถึงจักรวารแล้วผมเองก็ศึกษาเรื่องนี้เหมือนกัน จักรวารเหมือนสิ่งที่คัดแย้งกันเองถ้าคิดตามหลักวิทย์ยาศาตร์ ผมเข้าใจในสิ่งที่คลิปอธิบายและนึกภาพออก
อย่ามากดไลด์ให้เรารัวๆ เด่วเธอจะเสียตัวในวันลอยกระทง
ถ้าจะมาแบบเล่นก็ออกไป แต่ถ้ามาแบบจริงใจจะถอดกางเกงในรอ
ไม่สนิทอย่าติดว๊าว เด่วกระเจี๊ยวร้าวไม้รู้ตัว
ขอร้องอย่าหน้าม่อ เด่วจับล่อแล้วจะรู้สึก
เครื่องบินไปเรื่อยๆมันไม่ออกจักรวาลเรอะ
จริงๆหญ้ามีหลายสีครับ แต่ล้วนเป็นสีที่มนุษย์มองไม่เห็น มันจึงมีสีเขียวแค่สีเดียว ในสายตามนุษย์
ฟังดูเเล้ว บาบาบลา บลาบลาบลาบลาา
บางทีคนอธิบายก็แปลตรงตัวกับภาษาอังกฤษเกิ้นนน ฟังจากการพูด 55555
รักคนทำคลิปนี้5555
ข้อมูลก็ดีนะครับ แต่ก็มีพูดเล่นเกินจนรำคาญ เข้าใจนะว่าอยากให้มีสีสันแต่มันเยอะเกิน ปรับปรุงหน่อยนะครับ กำลังจะเข้าใจพูดเล่นอีกแหละ
โอยงง
สมองกุไม่สามารถรับรู้เรื่องนี้ได้เพราะสมองกุไม่ได้พัฒนามา10ปี(กุอายุ10ปี)
💓💓
พี่เล่นมุกด้วยอะ น่ารัก
อย่าล้อเล่นบ่อยนะ ฉันแค่ล้อเล่นน่ะ🤗🤗🤗
ตามทฤษฎีแล้วสิ่งมีชีวิต2มิติแต่จะมีแรงโน้มถ่วง3มิติเข้ามาช่วยเท่ากับว่าสิ่งมีชีวิต2มิติตามทฤษฎี สิ่งมีชีวิต2มิติอาจจะเป็นแค่แบคทีเรียหรือไม่ก็อาจจะแบบ
อนิเมะจริงๆ
อาจจะไม่มี 2. มิติ 3มิติอะไรนั้นก็ได้ มีเพียงมิติเดียว ดำรงอยู่ เป็นจุดๆหนึ่ง ในจุดๆหนึ่ง โดยไม่มีกว้างยาว สูงอะไรทั้งสิ้น มีเพียงการดำรงอยู่ และคงอยู่
เสียงนางใสสะอาดใช้ใด้
ถ้าเรานั่งยานอวกาศออกจากโลก ณ ขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้ พอออกนอกชั้นบรรยากาศมันต้องไปในทิศทางตรงกันข้ามในทางตรรกะปกติ แต่ถ้าเกิดมันไปเจอกันนอกชั้นบรรยากาศละ.....