ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
#สำหรับผู้ไม่สะดวกรับฟังด้วยเสียง#ทุกข์ตกอยู่ที่คนเกลียด กรรมตกอยู่ที่คนเคียดแค้น ให้อภัยแต่ไม่สุงสิงด้วยทุกข์ตกอยู่ที่คนเกลียด กรรมตกอยู่ที่คนเคียดแค้นให้อภัยแต่ไม่สุงสิงด้วย ทุกข์ตกอยู่ที่คนเกลียด กรรมตกอยู่ที่คนเคียดแค้นคนที่ไม่ทุกข์ ไม่มีกรรม… คือ คนที่ไม่เกลียด ไม่เคียดแค้นใคร ใครให้อภัยก่อน ก็มีความสุขในชีวิตก่อนให้อภัยแต่ไม่ให้โอกาส ให้อภัยแต่ไม่กลับไปคบคุณต้องเข้าใจก่อนว่า.. “ให้อภัย” กับ “ให้โอกาส” มันคนละส่วนกันการให้อภัย คือ การยกโทษทางจิตใจในสิ่งผิดที่เขาทำต่อเราทำให้ความรู้สึกของความโกรธแค้นของเราบรรเทา เรารู้สึกว่าเราให้อภัยเขาได้ เราจึงให้อภัยให้อภัยโดยไม่ขึ้นกับว่าคนที่ทำผิดนั้นจะเป็นอย่างไรจะเสียใจ จะชดใช้ จะรับโทษหรือเปล่า เราไม่ต้องไปสนแต่เราก็ให้อภัยเขาได้ เพื่อปลดปล่อยความโกรธ ออกจากใจเราบางครั้งเราไม่ให้อภัยบางคน เพราะ… คิดว่าเราทำไม่ได้หรือไม่เราก็รู้สึกว่า เราไม่อยากให้อภัย เราจะเก็บความโกรธแค้นนี้ไว้ เพราะเขาไม่สมควรได้รับการให้อภัย แต่ในขณะเดียวกันนั้นเรากลับไม่รู้ตัวว่าจิตใจที่โกรธแค้นนั้นมาพร้อมกับความทุกข์และมันทำร้ายเราเสมอ คนที่ทำผิดกับเรา ไม่ได้มารู้สึกด้วยกับเราเลยการให้อภัย ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องกลับไปดีกับเขาแต่เป็นการทำให้เราพ้นจากจิตใจที่เคียดแค้นและเจ็บปวดต่างหาก เคยได้ยินไหม.. “ให้อภัย” แต่.. “ไม่สุงสิงด้วย”“ยกโทษให้” แต่… “ไม่กลับไปคบ” ให้อภัยเขา เราสุข โกรธเขา เกลียดเขา เราก็ทุกข์เองให้อภัยมันช่วยปลดปล่อยเราจาก.. ความทุกข์ และ ความแค้น คนที่ทำได้คือคนที่ชนะไม่ใช่พ่ายแพ้จริงๆ แล้วการให้อภัยกับการให้โอกาส เป็นคนละส่วนกัน เราให้อภัยแต่ไม่ให้โอกาสได้เพราะการให้อภัยคือการยกโทษทางจิตใจที่ปลดปล่อยตัวเราจากการถูกทำร้ายทางใจแต่การให้โอกาสต้องมาพร้อมกับการพิสูจน์ตัวเองของคนทำผิด ถ้าคนทำผิดไม่ได้กลับใจ ไม่ได้เสียใจเราไม่จำเป็นต้องให้โอกาสเสมอไป และบางครั้งเขายังต้องรับโทษจากความผิดนั้นแต่ส่วนของเรานั้น แค่ยกโทษให้เขา แล้วเดินหนีออกมาเอาความสุขของเรากลับคืนมาใหม่เป็นของเราการให้อภัย ทำให้เราได้ชีวิต และ ความสุขของเรากลับมา
#ถ้ารู้สึกแปลกๆ เวลาสวดมนต์ ให้ทำแบบนี้ถ้ารู้สึกแปลกๆ เวลาสวดมนต์ ให้ทำแบบนี้เวลาสวดมนต์จนจิตเข้าสู่สมาธิขั้นอุปจาระสมาธิ อาการคล้ายเคลิ้มหลับ และจะเห็นอะไรที่อยู่คนละมิติ ถ้าจิตเ ข้ ม แ ข็ ง จะถามและตอบได้ในตัวเองว่าสิ่งที่เห็น นี้คืออะไรเพราะบางครั้งสิ่งที่เห็น ก็ไม่ใช่เรื่องจริงจิตจึงต้องถามว่าใคร อะไร มาทำมัย มันจะมีคำตอบของมันเอง ตัวเองรู้เอง คนอื่นถ้าเขายังมาไม่ถึงจุดนี้ เขาก็ตอบคุณไม่ได้เช่นกัน ถ้าคุณสังเกตุให้ดี อาการนี้ จะคล้าย กับอาการก่อนที่เรานอนหลับคือมันจะค่อยสงบลงๆๆ ระยะสงบก่อนที่จะตัดหลับสนิทนั้นแหละ บางครั้งเหมือนเราเห็นอะไรต่อมิอะไร เยอะแยะ แต่จิตไม่ผ่านการทำสมาธิมา มันก็ไม่ไปรับรู้ตรงอาการเห็น แต่ที่คุณสวดมนต์ นั้นคือการทำสมาธิและจะเก ิດ อาการ เหมือน เปลือกตาหนัก คล้ายง่วงแต่มันคืออาการของจิตที่รวมตัว เพื่อเข้าสู่ขั้นอุปจาระสมาธิ ขณะแผ่เมตตาไปเรื่อย นั้นแหละจิตเข้าตรงจุดนั้นและหยุด ลงเมื่อคุณ แผ่เสร็จ ระยะเวลาจะไม่นาน ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่จะดียิ่งขึ้นก่อนสวดมนต์ต้องสมาทานก ร ร มฐาน เพื่อจิตเราจะเข้าสมาธิขั้นได้ขั้นหนึ่ง ชึ่งเป็นเรื่องไม่แน่และขณะอยู่ในสมาธิ อ ย่ าพยามฝืนออกจากสมาธิเองควรปล่อย ให้จิตตัดออกจากสมาธิ คือจะมีอาการคล้ายกับเราตื่นนอนขึ้นมา *ถ้าคุณฝืนออกจากสมาธิเองสังเกตุได้ เปลือกตๅ ยังหนักไม่ยากเลิกแต่จำเป็นต้องเลิก *ตรงนี้ จะมีอาการ ป ว ดหัวตามมาในภายหลังชึ่งเป็นเรื่องอันตราย ถ้าไม่รู้ทัน สิ่งที่คุณเห็นนั้นคือเรื่องจริงผ ี เขารู้ว่าคุณมี บุญจากการสวดมนต์ และจิตคุณสามารถ รับการสื่อส า รกับเขาได้ เหมือนคลื่นวิทยุจูนตรงกัน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน บอกว่าผ ี จะมาขอกับคนที่มีบุญให้เขาได้เท่านั้นกับคนที่ไม่มีบุญ ผ ีไม่มาให้เ สี ยเวลาหรอก เพราะกว่าผ ี จะรวมพลังให้ติดต่อเราได้ เป็นเรื่องลำบๅ กของผ ี *และบางคนเห็นแล้วຕกใจไม่ได้ให้บุญก็เ สี ยเวลาเปล่าผ ีบางตัวก็ร้องไห้กับไป การเห็นเมื่อไหร่ให้อุทิศภาษาไทย ง่าย ว่าบุญที่เราทำมาดีขออุทิศให้ท่านจงโมทนาไม่ต้องกล่าวบาลี อะไรทั้งนั้น ต้องเร็วด้วยเพราะไม่งัน้ผ ีจะสลๅยไปจาก สายตาเรา หลวงพ่อท่านสอนลูกหลานแบบนี้ครับ
#มีทุกข์ปล่อยวางทุกข์ มีสุขก็อย่ายึดติด คำสอนในศาสนาพุทธมีเพียงเท่านี้เองมีคนส่งคำถามเข้ามาถามข้าพเจ้าขอตอบดังนี้ที่เขานอกใจเพราะไม่รักคนเดิมแล้วหรืออีกนับคือรักไม่มากพอ เค้ารักตัวเองมากกว่าพอมีคนใหม่ก็มีความสุขแม้จะรู้ว่าผิดแต่มีความสุขกับคนใหม่ทำให้ไม่คิดถึงความรู้สึกผิ ดเลยไม่เกิดคนที่โดนกระทำที่ยังรักอยู่ จึงยังรู้สึกและเจ็ บปว ดอยู่เพราะความรักครั้งเก่ามันยังคั่งค้าง ความหลังและวันวานยังค้ๅงคๅใจอยู่ มันจึงมีคำถามตามมาว่าทำไมไม่เห็นเขาทุกข์บ้างเลยไม่เห็นฟ้ๅดินลงโท ษเขาบ้างเลยไม่เห็นเว รกร รมจะตามเอาคืนเขาบ้างเลยเฝ้าสอดส่องเฟสบุ๊ค รับรู้เรื่องราวของเขา เพื่อจะได้รู้ว่า เว รกร รมเอาคืนเขาหรือยัง?ในความเป็นจริง หากเราฉลๅดขัดเกลๅจิตใจตัวเองมากพอเราจะรู้ว่าคนที่ทำผิดศีลข้อ 3 นั้นเว รกร รมมันร้ายแรงไม่วันใดวันหนึ่งเขาย่อมได้รับผลการกระทำนั้นแน่นอนและการสอดส่องดูเฟสบุ๊คของเขานั้นก็ไม่ใช่การกระทำที่ดีใครจะมาอวดโชว์ว่าตัวเองกำลังทุกข์ยๅก ให้คนอื่นสมน้ำหน้าเล่าธรรมชาติของคน อยากอว ด อยากเ ส บแต่ความสุขกันทั้งนั้นเมื่อเขากระทำการนอกใจเราสำเร็จแล้ว เราก็ควรจะมีสติหากรักตัวเองที่มากพอ จะยอมรับความจริงและมีสติรู้ว่า เขาศีลไม่เสมอกันกับเราแล้วเมื่อเขาทำให้เราทุกข์ เจ็ บปว ด ทุกข์ เศร้ๅควรเลือกตัดคนๆ นั้นออกจากชีวิ ตเสี ยเพราะจิตใจที่มัวแต่หมกมุ่นไปด้วยความแค้นคนที่ไม่มีความสุขก็คือตัวเราคนเดียวทุกสิ่งเกิดได้ก็ดับได้ ความรักก็เช่นกันวันนี้เค้ารักเราได้ วันหน้าเค้าอๅจไม่รักเราแล้วนี่คือสัจธรรมชีวิตรักที่เราทุกคนต้องเจอมีทุกข์ ปล่อยวางทุกข์มีสุข ก็อย่ายึดติดคำสอนในศาสนาพุทธมีเพียงเท่านี้เองครับ#ขอให้ได้พิจารณาด้วยสติ ด้วยปัญญา ด้วยภูมิธรรม คุณพระรักษาเทวดาคุ้มครอง ขอให้มีความเจริญในธรรม ทุกท่าน ทุกคนครับ
สาธุครับ
สวัสดีมีสุขย้อนหลังค่ะคุณอานนนท์..กราบ🙏🙏🙏อนุโมทามิ.🌠🌠🌠
อนุโมทนาในข้อคิด คติธรรม สาธุๆๆค่ะ🌿💎🙏🙏🙏💎🌿
ใช่ค่ะ ให้อภัยแต่ไม่ไปยุ่งด้วย ดีที่สุดค่ะ❤❤❤❤❤
สาธุค่ะขอบพระคุณนะคะคุณอานนท์
สาธุ.สาธุค่ะ❤❤🎉ขอบคุณค่ะ
กิเลส-โลภ-โกง-มันบ่ยั่งยืนเจริญก้าวหน้าคับขอบคุณโชคดีคับ❤❤❤
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุครับคุณอานนท์❤❤❤❤
#สำหรับผู้ไม่สะดวกรับฟังด้วยเสียง
#ทุกข์ตกอยู่ที่คนเกลียด กรรมตกอยู่ที่คนเคียดแค้น ให้อภัยแต่ไม่สุงสิงด้วย
ทุกข์ตกอยู่ที่คนเกลียด กรรมตกอยู่ที่คนเคียดแค้น
ให้อภัยแต่ไม่สุงสิงด้วย ทุกข์ตกอยู่ที่คนเกลียด กรรมตกอยู่ที่คนเคียดแค้น
คนที่ไม่ทุกข์ ไม่มีกรรม… คือ คนที่ไม่เกลียด ไม่เคียดแค้นใคร ใครให้อภัยก่อน ก็มีความสุขในชีวิตก่อน
ให้อภัยแต่ไม่ให้โอกาส ให้อภัยแต่ไม่กลับไปคบ
คุณต้องเข้าใจก่อนว่า.. “ให้อภัย” กับ “ให้โอกาส” มันคนละส่วนกัน
การให้อภัย คือ การยกโทษทางจิตใจในสิ่งผิดที่เขาทำต่อเรา
ทำให้ความรู้สึกของความโกรธแค้นของเราบรรเทา เรารู้สึกว่าเราให้อภัยเขาได้ เราจึงให้อภัย
ให้อภัยโดยไม่ขึ้นกับว่าคนที่ทำผิดนั้นจะเป็นอย่างไร
จะเสียใจ จะชดใช้ จะรับโทษหรือเปล่า เราไม่ต้องไปสน
แต่เราก็ให้อภัยเขาได้ เพื่อปลดปล่อยความโกรธ ออกจากใจเรา
บางครั้งเราไม่ให้อภัยบางคน เพราะ… คิดว่าเราทำไม่ได้
หรือไม่เราก็รู้สึกว่า เราไม่อยากให้อภัย เราจะเก็บความโกรธแค้นนี้ไว้ เพราะเขาไม่สมควรได้รับการให้อภัย แต่ในขณะเดียวกันนั้น
เรากลับไม่รู้ตัวว่าจิตใจที่โกรธแค้นนั้นมาพร้อมกับความทุกข์และมันทำร้ายเราเสมอ คนที่ทำผิดกับเรา ไม่ได้มารู้สึกด้วยกับเราเลย
การให้อภัย ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องกลับไปดีกับเขา
แต่เป็นการทำให้เราพ้นจากจิตใจที่เคียดแค้นและเจ็บปวดต่างหาก เคยได้ยินไหม.. “ให้อภัย” แต่.. “ไม่สุงสิงด้วย”
“ยกโทษให้” แต่… “ไม่กลับไปคบ” ให้อภัยเขา เราสุข โกรธเขา เกลียดเขา เราก็ทุกข์เอง
ให้อภัยมันช่วยปลดปล่อยเราจาก.. ความทุกข์ และ ความแค้น คนที่ทำได้คือคนที่ชนะไม่ใช่พ่ายแพ้
จริงๆ แล้วการให้อภัยกับการให้โอกาส เป็นคนละส่วนกัน เราให้อภัยแต่ไม่ให้โอกาสได้
เพราะการให้อภัยคือการยกโทษทางจิตใจที่ปลดปล่อยตัวเราจากการถูกทำร้ายทางใจ
แต่การให้โอกาสต้องมาพร้อมกับการพิสูจน์ตัวเองของคนทำผิด ถ้าคนทำผิดไม่ได้กลับใจ ไม่ได้เสียใจ
เราไม่จำเป็นต้องให้โอกาสเสมอไป และบางครั้งเขายังต้องรับโทษจากความผิดนั้น
แต่ส่วนของเรานั้น แค่ยกโทษให้เขา แล้วเดินหนีออกมาเอาความสุขของเรากลับคืนมาใหม่เป็นของเรา
การให้อภัย ทำให้เราได้ชีวิต และ ความสุขของเรากลับมา
#ถ้ารู้สึกแปลกๆ เวลาสวดมนต์ ให้ทำแบบนี้
ถ้ารู้สึกแปลกๆ เวลาสวดมนต์ ให้ทำแบบนี้
เวลาสวดมนต์จนจิตเข้าสู่สมาธิขั้นอุปจาระสมาธิ อาการคล้ายเคลิ้มหลับ และจะเห็นอะไรที่อยู่คนละมิติ ถ้าจิตเ ข้ ม แ ข็ ง จะถามและตอบได้ในตัวเองว่าสิ่งที่เห็น นี้คืออะไรเพราะบางครั้งสิ่งที่เห็น ก็ไม่ใช่เรื่องจริง
จิตจึงต้องถามว่าใคร อะไร มาทำมัย มันจะมีคำตอบของมันเอง ตัวเองรู้เอง คนอื่นถ้าเขายังมาไม่ถึงจุดนี้ เขาก็ตอบคุณไม่ได้เช่นกัน ถ้าคุณสังเกตุให้ดี อาการนี้ จะคล้าย กับอาการก่อนที่เรานอนหลับ
คือมันจะค่อยสงบลงๆๆ ระยะสงบก่อนที่จะตัดหลับสนิทนั้นแหละ บางครั้งเหมือนเราเห็นอะไรต่อมิอะไร เยอะแยะ แต่จิตไม่ผ่านการทำสมาธิมา มันก็ไม่ไปรับรู้ตรงอาการเห็น แต่ที่คุณสวดมนต์ นั้นคือ
การทำสมาธิและจะเก ิດ อาการ เหมือน เปลือกตาหนัก คล้ายง่วงแต่มันคืออาการของจิตที่รวมตัว เพื่อเข้าสู่ขั้นอุปจาระสมาธิ ขณะแผ่เมตตาไปเรื่อย นั้นแหละจิตเข้าตรงจุดนั้น
และหยุด ลงเมื่อคุณ แผ่เสร็จ ระยะเวลาจะไม่นาน ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่จะดียิ่งขึ้นก่อนสวดมนต์ต้องสมาทานก ร ร มฐาน เพื่อจิตเราจะเข้าสมาธิขั้นได้ขั้นหนึ่ง ชึ่งเป็นเรื่องไม่แน่
และขณะอยู่ในสมาธิ อ ย่ าพยามฝืนออกจากสมาธิเองควรปล่อย ให้จิตตัดออกจากสมาธิ คือจะมีอาการคล้ายกับเราตื่นนอนขึ้นมา *ถ้าคุณฝืนออกจากสมาธิเองสังเกตุได้ เปลือกตๅ ยังหนัก
ไม่ยากเลิกแต่จำเป็นต้องเลิก *ตรงนี้ จะมีอาการ ป ว ดหัวตามมาในภายหลังชึ่งเป็นเรื่องอันตราย ถ้าไม่รู้ทัน สิ่งที่คุณเห็นนั้นคือเรื่องจริงผ ี เขารู้ว่าคุณมี บุญ
จากการสวดมนต์ และจิตคุณสามารถ รับการสื่อส า รกับเขาได้ เหมือนคลื่นวิทยุจูนตรงกัน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน บอกว่าผ ี จะมาขอกับคนที่มีบุญให้เขาได้เท่านั้น
กับคนที่ไม่มีบุญ ผ ีไม่มาให้เ สี ยเวลาหรอก เพราะกว่าผ ี จะรวมพลังให้ติดต่อเราได้ เป็นเรื่องลำบๅ กของผ ี *และบางคนเห็นแล้วຕกใจไม่ได้ให้บุญก็เ สี ยเวลาเปล่า
ผ ีบางตัวก็ร้องไห้กับไป การเห็นเมื่อไหร่ให้อุทิศภาษาไทย ง่าย ว่าบุญที่เราทำมาดีขออุทิศให้ท่านจงโมทนาไม่ต้องกล่าวบาลี อะไรทั้งนั้น ต้องเร็วด้วยเพราะไม่งัน้ผ ีจะสลๅยไปจาก สายตาเรา หลวงพ่อท่านสอนลูกหลานแบบนี้ครับ
#มีทุกข์ปล่อยวางทุกข์ มีสุขก็อย่ายึดติด คำสอนในศาสนาพุทธมีเพียงเท่านี้เอง
มีคนส่งคำถามเข้ามาถาม
ข้าพเจ้าขอตอบดังนี้
ที่เขานอกใจเพราะไม่รักคนเดิมแล้ว
หรืออีกนับคือรักไม่มากพอ เค้ารักตัวเองมากกว่า
พอมีคนใหม่ก็มีความสุข
แม้จะรู้ว่าผิดแต่มีความสุขกับคนใหม่ทำให้ไม่คิดถึง
ความรู้สึกผิ ดเลยไม่เกิด
คนที่โดนกระทำที่ยังรักอยู่ จึงยังรู้สึกและเจ็ บปว ดอยู่
เพราะความรักครั้งเก่ามันยังคั่งค้าง ความหลังและวันวานยังค้ๅงคๅใจอยู่ มันจึงมีคำถามตามมาว่าทำไมไม่เห็นเขาทุกข์บ้างเลย
ไม่เห็นฟ้ๅดินลงโท ษเขาบ้างเลย
ไม่เห็นเว รกร รมจะตามเอาคืนเขาบ้างเลย
เฝ้าสอดส่องเฟสบุ๊ค รับรู้เรื่องราวของเขา เพื่อจะได้รู้ว่า เว รกร รมเอาคืนเขาหรือยัง?
ในความเป็นจริง หากเราฉลๅดขัดเกลๅจิตใจตัวเองมากพอ
เราจะรู้ว่าคนที่ทำผิดศีลข้อ 3 นั้นเว รกร รมมันร้ายแรง
ไม่วันใดวันหนึ่งเขาย่อมได้รับผลการกระทำนั้นแน่นอน
และการสอดส่องดูเฟสบุ๊คของเขานั้นก็ไม่ใช่การกระทำที่ดี
ใครจะมาอวดโชว์ว่าตัวเองกำลังทุกข์ยๅก ให้คนอื่นสมน้ำหน้าเล่า
ธรรมชาติของคน อยากอว ด อยากเ ส บแต่ความสุขกันทั้งนั้น
เมื่อเขากระทำการนอกใจเราสำเร็จแล้ว เราก็ควรจะมีสติ
หากรักตัวเองที่มากพอ จะยอมรับความจริงและมีสติรู้ว่า เขาศีลไม่เสมอกันกับเราแล้ว
เมื่อเขาทำให้เราทุกข์ เจ็ บปว ด ทุกข์ เศร้ๅ
ควรเลือกตัดคนๆ นั้นออกจากชีวิ ตเสี ย
เพราะจิตใจที่มัวแต่หมกมุ่นไปด้วยความแค้น
คนที่ไม่มีความสุขก็คือตัวเราคนเดียว
ทุกสิ่งเกิดได้ก็ดับได้ ความรักก็เช่นกัน
วันนี้เค้ารักเราได้ วันหน้าเค้าอๅจไม่รักเราแล้ว
นี่คือสัจธรรมชีวิตรักที่เราทุกคนต้องเจอ
มีทุกข์ ปล่อยวางทุกข์
มีสุข ก็อย่ายึดติด
คำสอนในศาสนาพุทธมีเพียงเท่านี้เองครับ
#ขอให้ได้พิจารณาด้วยสติ ด้วยปัญญา ด้วยภูมิธรรม คุณพระรักษาเทวดาคุ้มครอง ขอให้มีความเจริญในธรรม ทุกท่าน ทุกคนครับ
สาธุครับ
สวัสดีมีสุขย้อนหลังค่ะคุณอานนนท์..กราบ🙏🙏🙏อนุโมทามิ.🌠🌠🌠
อนุโมทนาในข้อคิด คติธรรม สาธุๆๆค่ะ
🌿💎🙏🙏🙏💎🌿
ใช่ค่ะ ให้อภัยแต่ไม่ไปยุ่งด้วย ดีที่สุดค่ะ❤❤❤❤❤
สาธุค่ะขอบพระคุณนะคะคุณอานนท์
สาธุ.สาธุค่ะ❤❤🎉ขอบคุณค่ะ
กิเลส-โลภ-โกง-มันบ่ยั่งยืนเจริญก้าวหน้าคับขอบคุณโชคดีคับ❤❤❤
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุครับคุณอานนท์❤❤❤❤