‘ฝนหลวง’ องค์ความรู้เพื่อประชาชน หรือผลจาก Propaganda ?
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 6 ก.ย. 2023
- ในปี พ.ศ. 2498 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนประชาชนในภาคอีสานย่านบริเวณเทือกเขาภูพาน จนได้พบกับปัญหาความแห้งแล้งอย่างหนัก ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากสภาพอากาศที่มีฝนตกน้อยหรือไม่ตกเลย เป็นความแห้งแล้งที่เกิดจากธรรมชาติอย่างแท้จริง
ในตอนนั้นเอง พระองค์ได้ทอดพระเนตรบนท้องฟ้า และทรงสังเกตว่ามีปริมาณเมฆปกคลุมเหนือพื้นที่เป็นจำนวนมากแต่ไม่สามารถรวมตัวจนเกิดเป็นฝนได้ กระทั่งมีพระราชดำริว่า ทำอย่างไรจึงจะดึงเมฆนี่ให้ลงมาได้
และนี่คือจุดเริ่มต้นของ “โครงการฝนหลวง” เพื่อประชาชน
เมื่อเสด็จกลับกรุงเทพฯ ในตอนแรกโครงการฝนหลวงนี้แทบจะไม่มีใครรับสนองงานเลย เพราะหลายคนมองว่าการทดลองนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ กระทั่งพระองค์ทรงลงมือทดลองด้วยพระองค์เองโดยได้รับความช่วยเหลือจากหม่อมราชวงศ์เทพฤทธิ์ เทวกุล โดยใช้เวลาค้นคว้าวิจัยลองผิดลองถูกถึง 12 ปี เพราะรัฐบาลขณะนั้นก็ไม่ได้สนับสนุนด้านงบประมาณ
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2512 จึงได้มีการเริ่มทดลองทำฝนเทียมอย่างจริงจัง ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านได้พระราชทานคำแนะนำ ปรับปรุงวิธีการหลายๆ อย่าง และติดตามการปฏิบัติงานทดลองอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน บางครั้งทรงควบคุมการทำฝนหลวงด้วยพระองค์เองเลยทีเดียว
ในที่สุดการทดลองสร้างฝนเทียมก็ประสบความสำเร็จในวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2512 ที่บริเวณวนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยการทดลองสร้างฝนเทียมนี้แรกเริ่มในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงประยุกต์จากสูตรของฝรั่ง ซึ่งต้องเท้าความก่อนว่า ฝนเทียมถูกคิดค้นโดยนักประดิษฐ์ชาวต่างชาติ ในปี ค.ศ. 1946 แต่วิธีการนั้นก็ยังไม่ได้ผลที่ดีนัก ฝนเทียมในต่างประเทศจึงไม่ได้รับการปรับปรุงพัฒนาให้ต่อเนื่อง ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านได้ทรงดัดแปลงสูตรและกรรมวิธีให้เหมาะสมกับภูมิประเทศของไทย จนกระทั่งทรงค้นพบวิธีการที่เหมาะสมสำหรับพื้นที่ประเทศไทยจริงๆ
โครงการฝนหลวงประสบความสำเร็จ และมีการสร้างฝนเทียมในหลายพื้นที่ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และเริ่มได้รับเงินสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ โดยได้รับงบประมาณเป็นครั้งแรกจากกระทรวงเกษตรฯ จำนวน 2 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2514
โครงการฝนหลวงยังได้รับการยอมรับจากต่างชาติ โดยทางอนุกรรมการภูมิอากาศอาเซียนได้ให้ไทยเป็นผู้นำและเป็นศูนย์กลางกิจกรรมทำฝนเทียมในภูมิภาคอาเซียน และอนุมัติให้ถ่ายทอดแลกเปลี่ยนความรู้กับประเทศอื่นๆ ได้
ต่อมาในปี พ.ศ. 2524 รัฐบาลได้อนุมัติให้โครงการฝนหลวงขึ้นทะเบียนกิจกรรมดัดแปลงสภาพอากาศกับองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกในเครือสหประชาชาติและได้จัดให้มีสัมมนาเกี่ยวกับการดัดแปลงสภาพอากาศในกลุ่มอาเซียนเป็นครั้งแรก และมีผู้เชี่ยวชาญจากต่างชาติมาศึกษาโครงการฝนหลวงของไทยเป็นจำนวนมาก
เทคนิคการทำฝนเทียมของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้รับการจดสิทธิบัตร ตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 มาตรา 5 ได้รับการเผยแพร่และเป็นที่ยอมรับขององค์กรและสถาบันอุตุนิยมวิทยาทั่วโลก รวมถึงได้ร่วมจัดแสดงในงานนิทรรศการ Brussels Eureka 2001 ด้วย และในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2549 พระองค์ท่านได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตร “ฝนหลวง” โดยสำนักสิทธิบัตรยุโรป (EPO) หมายเลข EP1491088 อีกทั้งสิทธิบัตรในฮ่องกงและของประเทศอื่นๆ อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นข้อพิสูจน์ว่า ‘ฝนหลวง’ ไม่ใช่การลอกเลียน ไม่ใช่ propaganda ตามที่มีคนกล่าวหา หากแต่ ‘ฝนหลวง’ คือองค์ความรู้สำคัญ คือความสำเร็จที่จับต้องได้เป็นรูปธรรม อันเป็นผลมาจากการทุ่มเทกำลังพระวรกายและกำลังพระสติปัญญาของในหลวงรัชกาลที่ 9 และเป็นความปรารถนาดีอย่างแท้จริงของพระองค์ เพื่อให้ประชาชนคนไทยพ้นจากความทุกข์ยาก
เลือกติดตามช่องทางอื่น ๆ ของ Lue History ได้ที่นี่
linktr.ee/luehistory
#LueHistory #ฝนหลวง
ขอบคุณในหลวงครับ ที่ทำให้แผ่นดินที่แห้งแล้ง สัตว์น้อยใหญ่ไม่น้ำประทังชีวิต ต้นไม้เฉาตาย เพราะได้ฝนหลวงของพระองค์จริงๆทำให้ผืนดินกลับมาเขียวอีกครั้ง เหล่าผู้คนสัตวฺได้อาศัยน้ำเลี้ยงปากท้องต่อไป
พระองค์ ไม่เคยบอกใครต่อใครว่า พระองค์เป็นคนคิด หม่อมเทพฤทธิ์ ก็ค้นคว้าจากต่างชาติ และเอามาพลิกแพลง ใช้กับภูมิประเทศไทย ไอ้คนที่ต่อต้าน พระองค์ พวกมึงก็ต้านทุกเรื่องแหระ
ส่วนตัวผมได้มีโอกาส สร้างโรงเก็บสารฝนหลวง แม้กระทั่ง ผอ.ยังต้องขึ้นบิน อายุก็ 50 กว่าปี ท่านได้ชวนผมขึ้นบิน ผมปฏิเสธไปว่าผมเป็นความดัน เพราะถ้าขึ้นบินกับเครื่องบินฝนหลวง อาจหูดับได้ "เครื่องบินเบา เวลาจอดต้องล่ามโซ่ ระบบภายในเป็นแบบเปิดเพราะบินไม่สูงมาก"
ขอบคุณเป็นอย่างสูงนะคะ.. ที่จัดทำคลิปที่ดีมีคุณค่าขึ้นมาเพื่อบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ชาติเรา ❤🙏ความจริงที่สังคมไทยควรได้รับรู้และชื่นชมยินดี.. ที่พวกเราได้เกิดมาบนแผ่นดินที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยทรงปกครองปกป้องพวกเราอยู่ .. คิดถึงพ่อหลวง ร.๙ ..เหลือเกิน..💛พระเมตตาของพระองค์ท่าน..ดั่งหยาดจากฟ้าลงมาสู่ใจเรา ..💛 รักพ่อ 💛
คิดถึงพระองค์ ร.๙ "พ่อของแผ่นดินไทย"
ลูกหลานเหลนโหลนของคนไทยจะไม่มีวันลืมสิ่งที่พระองค์ท่านฝากไว้ในแผ่นดินไทยผืนนี้ครับ
มันไม่ได้อยู่ที่ใครคิดค้น สารสำคัญคือใครนำมาใช้แล้วเกิดประโยชน์สูงสุด แล้วใครบอก ร.9ท่านคิดค้น ไม่เคยได้ยินนะ ท่านก็ไม่เคยบอกว่าท่านคิดค้น แต่ท่านนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนของท่าน ข้อนี้สิสำคัญ
พูดเเบบพี่ก็ไม่ถูกซะทีเดียวนะครับ ท่านไม่ได้เป็นคนเริ่มนั้นคือเรื่องจริงครับเพราะฝนเทียมที่มนุษย์สร้างขึ้นเกิดขึ้นครั้งเเรกที่เมกา เเต่ฝนหลวงที่ประยุกต์ดัดเเปลงกรรมวิธีใหม่ วิธีการใหม่จนได้สิทธิบัตรเป็นของท่านเองอันนี้ท่านคิดค้นจริงๆครับ จนสามารถทำให้เกิดฝนตกในสภาพภูมิประเทศนี่จริงๆ นี่คือสิ่งที่ขอชี้เเจงครับ
ที่ฟลอริด้า เขาทำให้ฝนตกไม่ได้ ก็เปลี่ยนมาใช้ทำเพื่อไล่พายุแทนครับ เท่าที่รู้ เพราะแต่ละปีพายุเข้าฝั่งเยอะ แต่ที่ไทยเราทำได้ ก็เพราะองค์ประกอบทางสภาพอากาศที่ไทยเราไม่เหมือนที่ฟลอริด้า ทั้งๆที่เขตที่ตั้งของพื้นที่ ก็ใกล้เคียงกัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็คุ้มค่าที่ได้ลงทุนลงแรงไป คือทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และวัตถุดิบที่ใช้ ก็ใช้ของจากธรรมชาติล้วนๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่คนบอกว่า ทำแล้วคนข้างล่างหรือสัตว์ต่างๆได้รับผลกระทบ อยากจะบอกว่า ก่อนจะพูดแบบนี้ เคยไปศึกษาผลงานที่เขาบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรให้เป็นประจักษ์พยานรึยัง และลองถามคนที่เขาได้รับผลจากการทำซิว่า ผลข้างเคียงเป็นยังไงไม่ใช่สักแต่ว่านั่งเทียนเขียนส่งเดชไปวันๆ ของแบบนี้เค้าต้องศึกษาให้รอบคอบรอบด้าน ลองผิดลองถูกไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ถึงจะสำเร็จเป็นผลงานให้เห็นได้ จับต้องได้ แบบในปัจจุบันนี้ แถมยังเอาไปต่อยอดพัฒนาได้อีกเป็นร้อยแปดพันเก้า และสิ่งที่ทำให้เกิดประโยชน์แบบกินไม่หมดก็คือ "องค์ความรู้" ตามคำพูดท้ายคลิปที่บอกนั้นแหละ
โครงการนี้ ช่วยเราไว้มากจริงๆ
เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ชื่นชมผู้บรรยาย และทางช่อง ที่นำเสนอให้ได้ทราบ ขอบพระคุณครับ
คิดถึงท่านมากกกกกกกค่ะ
รักครับ ท่านทรงเห็นประชาชนเป็นที่ตั้ง ท่านทรงทำมาตลอดและโครงการท่านก็ยังทำต่อไป งานของท่านมีมากมายเด็กๆรุ่นใหม่ลองเข้ามาศึกษาข้อมูลดู ท่านทรงพิสูจน์แล้วด้วยการลงมือทำ
ขอบคุณมากครับ ความรู้แบบนี้ ต้องช่วยกัน เผยแพร่...นี้คือความจริง ที่ยิ่งใหญ่กว่าเหตุและผล...
เป็นที่มาของอีสานเขียว สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพ่อหลวง ร.9 ตื่นเถิดชาวไทย อย่ามัวคลั่งไคล้ลุ่มหลงลมปากสวยหรู
ถ้าฝนหลวงถ้าเป็นแค่โฆษณาชวนเชื่อ ภาคอีสานคงไม่เขียวชอุ่มแบบนี้ ฝนหลวง+อ่างเก็บน้ำ+แก้มลิง+แกล้งดิน=ประชาชนไม่อดอยาก มีกินตลอดปี สิ่งเหล่านี้ช่วยประชาชนได้จริง ขอบคุณครับ...🫰🫰🫰
อ่างเก็บน้ำ มันเป็นการบริหารน้ำ เหมือนเขื่อน ฝนมามากก็เก็บไว้ฤดูแล้ง ปล่อยเข้าระบบชลประทาน ส่วนฝนเทียม ไม่ได้ผล ทำลำพังก็คือเอาเงินไปโปรยทิ้ง ต้องรอธรรมชาติ เอาง่ายๆ ฝนไม่ตกหลายเดือน ถ้าฝนเทียมได้ผล ไม่รอให้แล้งขนาดนี้หรอก พืชไร่ พืชสวน ล่มไปแล้วเท่าไหร่ คลองแห้ง อ่างเก็บน้ำ เขื่อน น้ำลดลงไปมากแล้ว ดูข่าวด้วย
ขอบพระคุณครับ อธิบายได้ชัดเจนมากครับ
ขอบพระคุณข้อมูลดีๆ ค่ะ
^-^ อิ่มใจ, ที่ได้ฟังเรื่อง ราว.. การทำงาน เพื่อสังคม ของท่าน... ,
กลุ่มคนที่ต่อว่า , ท่านได้ทำอะไร ให้แผ่นดิน ที่ท่านอาศัย ไว้บ้าง?
ขอบคุณสำหรับความกระจ่างครับ
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นข้อพิสูจน์ว่า ‘ฝนหลวง’ ไม่ใช่การลอกเลียน ไม่ใช่ propaganda ตามที่มีคนกล่าวหา หากแต่ ‘ฝนหลวง’ คือองค์ความรู้สำคัญ คือความสำเร็จที่จับต้องได้เป็นรูปธรรม อันเป็นผลมาจากการทุ่มเทกำลังพระวรกายและกำลังพระสติปัญญาของในหลวงรัชกาลที่ 9 และเป็นความปรารถนาดีอย่างแท้จริงของพระองค์ เพื่อให้ประชาชนคนไทยพ้นจากความทุกข์ยาก ประโยคนี้ไม่เกินจริงเลยต้องมุ่งมั่น อดทนและตั้งใจแค่ไหนถึงจะได้สูตรสร้างฝนเทียม เป็นประโยชน์แก่ประชาชนในวงกว้างมาก สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นี่คือโจทย์ต่อไปของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อไปที่จะต้องพัฒนาต่อไป ส่วนปัญหาฝุ่น PM2.5 ในปัจจุบันนี้ยังไม่เห็นแนวทางการแก้ปัญหาที่เกิดประโยชน์ในวงกว้างบ้างเลย
ท่านมีแต่ความปารถนาดีต่อปะชาชน
💛💛💛💛💛💛🙏🙏🙏🙏🙏
❤❤❤
❤ เรารักในหลวงค่ะ
ขอถวายพระพรพระองค์ร.9 เจริญพร อนุโมทนา
😊❤
ไม่ธรรมดาจริงๆครับ ขอบคุณครับ
แต่ก็มีนักการเมืองบางกลุ่มชอบค่อยคาาประเทศไทยเพื่อผลทางการเมืองของพวกมัน
ดีใจทีคนไทยมีกษัตริย์และได้เกิดเป็นคนไทย
เนตไทยแรงขึ้น แต่รอยหยักในสมองลดลง มีหลายเวปให้ค้นคว้าหาความรู้ ไม่ยักชอบ. แต่กลับชอบที่จะเชื่อคำพูดลวงที่กรอกหูให้ฟังทุกวัน. เรามาถึงยุค....คำพูดสวยหรูดูแพงกว่าการกระทำ. !!!
+1
อิหยังวะเชื่อไม่เชื่อทหารนักการเมืองมันไม่ทำเพื่อประชาชนหรอกมีเงินมันเอายัดตูดมันหมดมี ร.9 ท่านมีเงินมาลงทุนทำตัวนี้ทำไปมีแต่จ่ายออกไม่ได้คืนสักบาทถ้าเป็นตูไม่ทำหรอกปล่อยไห้หาแด เองทำแทบตายยังมีหมามาเห่า
จริงครับ
กำเนิดฝนเทียม ในปี ค.ศ. 1946 วินเซนต์ เชฟเฟอร์ และเออร์วิง ลองมัวร์ เริ่มงานที่ห้องปฏิบัติการวิจัยของบริษัทเจเนรัล อิเล็กทริก เมืองสกิเนกทาดี รัฐนิวยอร์ก เขาพิสูจน์ได้ว่าเราอาจกระตุ้นเมฆฝนให้ผลิตละอองฝนได้โดยวิธีวิทยาศาสตร์(1946)
แค่คิดแต่ ร9เอามาทดลองทำถ้ารู้หมดขนาดนั้นถาหน่อย ร9ทำอะไรไห้ประเทศไทยบ้างถ้าโง่ไม่รู้เนะนำว่าหาดูได้ตาช่องทางที่คุณหาดูเรื่องรอบโลกแต่ไม่เคยดูเรื่องในประเทศไทย
ขอบคุณค่ะ❤
🙏🙏🙏
ชอบพี่
เสียดาย ไม่มีรัฐบาลใหนสนับสนุนโครงการท่านต่อเลย ประชาชนจะตายอยู่แล้ว
ถ้าพวกนักการเมืองขยันเหมือนพระองค์สัก 10% หรือนำโครงการที่ท่านมาทำปีละ1 โครงการ ป่านี้ประเทศชาติจะเป็นยังไง
ก็เมืองไทยมันมีนักวิจัยเชิงปฏิบัติงานที่ไหนกันบ้างล่ะ มีแต่นักวิจัยเชิงวิชาการ คนไทยที่มีการศึกษาด้วยการเลียน มันก็ถูกปลูกฝังให้ช่างอิจฉาริษยา ดังนั้น งานวิจัยเชิงปฏิบัติการของไทยจึงมีน้อยมากๆๆ และจ้องจะถูกทุบทำลายตลอดเวลา
ทุกวันนี้ ทำที่ไหนอีกบ้าง อยากทราบหน่วยงานประชาสัมพันธ์เรื่ิองนี้ครับ ยังทำต่อหรือไม่ ? และอยากได้ยินครับว่าโครงการดีๆ ยังคงใช้ประโยชน์อยุ่ครับ ภัยฝุ่นพอช่วยได้ไหมครับ
ฝนเทียม ต้องอาศัยธรรมชาติเป็นหลัก รอฝนตั้งเค้าจึงจะทำได้ ไปโปรยแดดเปรี้ยงๆ เมฆไม่มี ก็ทำไม่ได้ หลักวิทยาศสตร์ปกติ เหมือนทำสารแขวนลอยแบบนั้น ฝนเทียมได้ผลน้อย เอาง่าย แค่ไม่กี่เดือนนี้ ฝนแล้งทั่วประเทศ จนน้ำในแหล่งน้ำลดลงมาก แห้งแล้งทั่วประเทศ พืช ต้นไม้เสียหายเท่าไหร่ ถ้าฝนเทียมได้ผล ไม่ต้องรอจนขนาดนี้หรอก เรื่องพวกนี้นักวิทยาศาสตร์เค้าจะไม่พูด เหตุผลคือกลัวโดนด่า
ผมว่าเรื่องการจัดการน้ำ การชลประทาน อยู่คู่คนไทย(สยาม)มานานมาก แล้วในระดับราชวงศ์น่าจะมีการส่งต่อภูมิปัญญาความรู้ตกทอดมาด้วย (เห็นได้จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เมืองโบราณ การขุดคลอง ฯลฯ)😅 +อัจฉริยะภาพของท่าน เฮ้ออออ
ฟองน้ำลุย
ระวังคนอื่นมันจะเอาไปนะครับ
พวกคุณนี้ตลกจริงๆ 555
ตลกยังไง เราตลกพันธุกรรมตระกูลเธอมากกว่า ดูโง่ๆตลกๆ รับความจริงไม่ได้ โทษนะคะ ความโง่นี่ได้มาจากทางพ่อ หรือแม่คะ
คนไทยนี่โชคดีที่สุดในโลกเลย มีพระมหากษัตริย์คอยห่วงใยให้มีฝนตก...
ทุกวันนี้ก็ใช้ประโยชน์จากที่ท่านเริ่มไว้อยู่ สมัยก่อนอีสานแห้งแล้งผืนดินแตกระแหง บางทีก็น้ำท่วมมิดหลังคา มันคือเรื่องจริง แอ๊ดยังเอามาแต่งแปลง ท่านวางรากฐานประเทศไทยไว้ได้ยอดเยี่ยมจริงๆสำหรับผู้ที่ไม่ปิดหูปิดตา ท่านเหมาะกับคำว่าพระเจ้าแผ่นดินจริงๆแผนดินที่ไหนแห้งแล้งหรือปลูกอะไรไม่ขึ้น ไม่เกินมือของท่านจริงๆ
หลั่งมาจากฟากฟ้า สุลาลัย เพราะพระเมตตา รักประชาไทย ของพระราชาผู้ประเสริฐ
ประะวัติศาสตร์โลกบันทึกไว้ ใครคิดใครสร้างโลกรู่
เขาเอาคนที่ทำสำเร็จเป็นสำคัญ
คนคิดจะบินบนท้องฟ่า มีมาก่อน แต่คนที่ทำสำเร็จกับเป็นคนอื่นอีกคน เขาก็ยกย่องคนทำสำเร็จ ..
ก้าวกาม ออกนโยบายเบี้ยคนชรา3,000 สุดท้ายตังเองบอกว่าทำไม่ได้ .
ถ้าหากมีพรรคอื่นทำได้ .จะยกสิ่งที่ทำได้ให้ใคร..
ถ้าบอกให้ก้าวกามก็โง่เต็มที..
.อย่างนี้ พรรคอื่นคิดนโยบายครอบคุมใว้ สัก100,000 นโยบาย .คนอื่นเอาไปทำสำเร็จ.ก็คงไม่ได้รับยกย่อง ..
..ต้องไปยกย่องคนคิดนโยบาย...
โลกความจริงเขาสรรเสริญคนที่ทำสำเร็จนะ
พวกสร้างโลกเสมือนให้ตัวเองก็จะคิดแบบคุณ ย้อนอดีตไปอย่างไกล แต่ไม่ใช่ความสำเร็จ...
ก้าวไกล เกลียดโครงการนี้
ไม่เอา. ต้องตัดงบให้หมด
ก้าวไกลไม่มีอำนาจตัดงบ อย่ามั่ว ตัวรัฐบาลไม่จัดทำงบละถ้าจริงใจต่อประชาชน
ผมเกิดในรัชกาลที่9 และกำลังใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย ยุครัชกาลที่10 ซึ่งเป็นยุคที่ประเทศไทยศิวิไลสุดๆ มีแต่เรื่องดีๆระดับโลกทั้งสองนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจที่ดี เรื่องการท่องเที่ยวเป็นที่นิยมอันดับ1ของโลก การแข่งขันกีฬาต่างๆสามารถคว้าแชมป์ต่างๆได้มากมาย ประเทศไทยเรายุครัชกาลที่10 มีแต่เรื่องดีๆจนประเทศเพื่อนบ้านเราได้แต่อิจฉากันถ้วนหน้า
มันเป็นผลพ่วงมาคะ มีทางดีก็เดินสะดวกแต่ไม่รู้จักทำความสะอาดซ่อมแซมสร้างแบบรู้จักคิดพวกเราก็จะอยู่ที่เดิมคะ