ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
รัฐควรมีหน่วยงาน ที่ออกมารับรองตรวจสอบและส่งเสริม โดยตรง ที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ
ผมว่าผลประโยชน์ เป็นอันดับแรก มันเลยดูซับซ้อน ฟังฟังเหมือนง่าย แต่ซื้อขายจริงๆนะยาก งานนี้ก็ต้องมีพ่อค้าคนกลางอีกนั่นแหละเหยียบเชือกกิน วัวหายล้อมคอก น้ำน้อยย้อมแพ้ไฟ
อะไรที่มันจะเกิดประโยชน์กับคนรากหญ้านี่มันต้องมีเส้นทางแบบน้ำตาเร็ด ช่างเป็นเบี้ยล่างคนมีความรู้คนมีตำแหน่งอำนาจเสียจริงๆ ,กองทุนฟื้นฟูเกษตรกร,ฟูขึ้นได้ไหม,สมัชชาคนจนอ่อนแรงแล้ว หน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลช่วยเหลือ้กษตรกรก็ลอยนวลอ้วนพีเฉิดฉายเสียส่วนใหญ่ เฮ้อ...
ขายต้นไม้ยังขายไม่ได้แล้วจะไปขายอากาศฝันลมๆแล้งๆ
ควรให้เกษตรกรผู้เป็นเจ้าของต้นไม้ ขายโดยตรง แต่ที่ใด้ยินมาต้องให้เปอร์เซ็น คนมาวัดมาติดต่อเยอะพอสมควรเกือบครึ่งนึงของราคาขาย
เสร็จคนประเมินคนนี้รวยก่อนคนปลูก
ขอบคุณ อ.วีรศักดิ์ มากค่ะ
หน่วยงานรัฐของไทยมีคอร์รัปชั่นเยอะ พอมีโครงการอะไรมาก็คิดหากินบนหลังคน พี่น้องเกษตรกรต้องลำบากแค่ที่ดินทำกินที่กำหนด10ไร่ก็ไม่ผ่านแล้ว คิดดูซิปลูกต้นไม้ต้องใช้เวลาเป็นสิบๆปีขึ้นไป ก่อนอื่นควรฟอกทัศนคติของหน่อยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ส่วนตัวเราปลูกต้นไม้เพราะรักและเอาความร่มเย็นบริเวณที่เราอยู่เองก่อนแล้ว
ลำไผ่ ไม่มีวงปี ....ไผ่ ดูดซับคาร์บอนสูงสุด 👈
ทำไมไม่ให้กระทรวงมาวัดให้โรงงานทั้งหมดที่ปล่อยเรือนกระจกและรถทุกคันต้องเป็นผู้จ่าย รถเก็บเลยคันละ1บาทต่อปีแล้วเอามาให้คนที่ปลูกป่า
เอา MCคันละ 10บ. รถยนต์คันละ 50 -100 บ.
ผมฟังๆมา เหมือนวิมานในอากาศ...เลิกฟังละ..
ระวัง...ลวงโลกใหม?
คนตรวจประเมิน รวยครับคนปลูกยังจนเหมือนเดิม
😂 คนประเมินหลอกคนปลูกเพื่อให้จ้างตัวเอง รวยคนเดียวในเรื่องนี้คือ คนประเมิน😅
ใช่เลยคนประเมิณเอาคนเดียว
10ไร่กะเยอะอยู่นะ ควรให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถตรวจสอบรับรองต้นไม้ได้ ค่าใช้จ่ายตามสมควรครับ # ถ้าวางแนว อย่างนี้ ปลูกต้นไม้น้อยไม่มีโอกาส
รวยๆๆ ขายกล้าไม้
นายทุนเท่านั้น คนจน จบ
ราชการและรัฐวิสาหกิจด้วยแดรกกหมดเผลอๆหรอกให้ ปชช ข่วยกันปลูกป่าแล้วเอาไปหาประโยชน์เอง
สวัสดีครับพี่ผมอยากปลูกต้นไม้ใหญ่ไมัสักเพื่อขายคาร์บและที่ดินอยุ่นอกพื้นที่และมีที่ดินอยุ่4/5ไร่จะปลูกได้ไหมครับ
จะเอาที่ๆไหนปลูกนอ 10. ไร่ ทำ มัน ทำอ้อย เขาได้ปีละ แสนนะ ที่ฟังมานะเพ้อฝันวะ
โครงการขายอากาศ ขายฝัน วาดวิมานในอากาศ ผู้ขายพร้อม แต่ผู้ซื้อไม่มี
70+ไร ลงทุนเยอะเหนื่อยมากปลูกเพราะรักต้นไม้ ค่าประเมินรับรองสูงมากรัฐควรมีช่องทางให้เกษตรเข้าถึงได้ง่าย
ศึกษามาซักพักแล้ว ไม่มีแรงจูงใจเพียงพอที่จะทำในขณะนี้ เจ้าของบริษัท โตโยต้า ยังพูดว่า ยังเลือกที่จะซื้อคาร์บอนเครดิตถูกๆ ดีกว่าไปต่อเทคโนโลยีรถยนต์อีวี 100% คาร์บอนเครดิตคงยังอีกหลายปี
สวัสดีครับพี่
รัฐควรเป็นตัวเชื่อมระหว่างคนซื้อคนขายเท่านั้น
ควรให้องค์กรก๊าซฯจัดอบรมให้เจ้าหน้าที่ อบต. ให้มีความรู้และสามารถประเมินในท้องที่ของตนเอง
ไม่ถึงมือรากหญ้าหรอกเท่าที่เห็น มีแต่ ระดับ หน่วยงานทางราชการ รัฐวิสาหกิจ เช่น อปท เจ้าของกิจการ โรงงาน โรงไฟฟ้า เอาไปบริโภคหมดตาสีตาสาอย่าได้หมาย
ผมคิดว่าเงื่อนไขหลักเกณฑ์ต่างๆเรียนรู้กันได้ เมื่อมีหลักแล้ว คนที่ทำหรือใช้ตามหลักเกณฑ์ก็ควรเป็นผู้ประเมินได้ ไม่ใช่มีกลุ่มหากินผูกขาดเช่นนี้
ทำไมไม่ใช้องกรค์แบบอบต.ทำหน้าที่รับรอง
บอกหน่อยใครที่ขายได้แล้ว ขายให้ใคร จะไปดูงาน หรือแค่ฝันลมๆแล้งมานานแล้ว
ไม่เห็นได้สักบาทเลย
ทำไมไม่ให้โรงงานจัดผู้เชี่ยวชาญมาตรวจ มาซื้อ แล้วเอาไปลบ กับโรงงานตัวเองที่ปล่อย ก็จบ คิดดิ
รัฐบาลต้องเปลี่ยนวิธีคิดตั้งโจทย์ใหม่ เป็น ปลูกป่า แก้ปัญหาภัยแล้ง และน้ำท่วมนำงบประมาณที่ต้องจ่ายกับภัยแล้ง น้ำท่วม ในแต่ละปีมารวมกัน และหาสูตรคิดคำนวณหรือจะประมาณการอย่างไรก็กำหนดมา โดยตั้งเป้าที่จะสร้างป่าเพื่อแก้ไขปัญหานี้ (ส่วนลดโลกร้อนให้เป็นผลพลอยได้ ไม่ต้องสนใจขายคาร์บอนเครดิต )มุ่งเพิ่มจำนวนต้นไม้ ป่านำงบที่จะต้องจ่ายแก้ปัญหาภัยแล้งน้ำท่วม และเพิ่มการจัดเก็บภาษีรถมอรฺไซฺคันละ10บ./ปี รถยนต์ที่ใช้น้ำมันคันละ50บ./ปี แบ่งเงินภาษีเหล้าบุหรี่มากี่%ก็ว่าไป มาจ่ายให้ชาวบ้านที่ปลูกป่าไร่ละ 1500-3000บ./ปี ชาวสวนที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ไร่ละ500 บ./ปี ส่วนภูเขาหัวโล้น ที่ดินของรัฐ ก็ให้ชาวบ้านปลูกป่าและดูแลรักษา และให้เขาปีละ 1000-2000บ./ไร่ อย่างนี้ภายใน 10ปี ประเทศไทยเขียวทั้งแผ่นดิน ปัญหาแล้ง น้ำท่วม รวมทั้งลดโลกร้อน มลพิษฝุ่นละออง ก็จะลดลงเรื่อยๆ รัฐบาลต้องเปลี่ยนวิธีคิดตั้งโจทย์ใหม่ เป็น ปลูกป่า แก้ปัญหาภัยแล้ง และน้ำท่วมนำงบประมาณที่ต้องจ่ายกับภัยแล้ง น้ำท่วม ในแต่ละปีมารวมกัน และหาสูตรคิดคำนวณหรือจะประมาณการอย่างไรก็กำหนดมา รัฐบาลต้องเปลี่ยนวิธีคิดตั้งโจทย์ใหม่ เป็น ปลูกป่า แก้ปัญหาภัยแล้ง และน้ำท่วมนำงบประมาณที่ต้องจ่ายกับภัยแล้ง น้ำท่วม ในแต่ละปีมารวมกัน และหาสูตรคิดคำนวณหรือจะประมาณการอย่างไรก็กำหนดมา โดยตั้งเป้าที่จะสร้างป่าเพื่อแก้ไขปัญหานี้ (ส่วนลดโลกร้อนให้เป็นผลพลอยได้ ไม่ต้องสนใจขายคาร์บอนเครดิต )มุ่งเพิ่มจำนวนต้นไม้ ป่านำงบที่จะต้องจ่ายแก้ปัญหาภัยแล้งน้ำท่วม และเพิ่มการจัดเก็บภาษีรถมอรฺไซฺคันละ10บ./ปี รถยนต์ที่ใช้น้ำมันคันละ50บ./ปี แบ่งเงินภาษีเหล้าบุหรี่มากี่%ก็ว่าไป มาจ่ายให้ชาวบ้านที่ปลูกป่าไร่ละ 1500-3000บ./ปี ชาวสวนที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ไร่ละ500 บ./ปี ส่วนภูเขาหัวโล้น ที่ดินของรัฐ ก็ให้ชาวบ้านปลูกป่าและดูแลรักษา และให้เขาปีละ 1000-2000บ./ไร่ อย่างนี้ภายใน 10ปี ประเทศไทยเขียวทั้งแผ่นดิน ปัญหาแล้ง น้ำท่วม รวมทั้งลดโลกร้อน มลพิษฝุ่นละออง ก็จะลดลงเรื่อยๆ ชาวบ้านก็จะมีกินมีใช้ในยามแก่เฒ่าไม่ต้องรอเงินเลี้ยงดูจากรัฐอย่างเดียว จึงจะเรียกว่า อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ที่แท้จริง0บ./ปี รถยนต์ที่ใช้น้ำมันคันละ50บ./ปี แบ่งเงินภาษีเหล้าบุหรี่มากี่%ก็ว่าไป มาจ่ายให้ชาวบ้านที่ปลูกป่าไร่ละ 1500-3000บ./ปี ชาวสวนที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ไร่ละ500 บ./ปี ส่วนภูเขาหัวโล้น ที่ดินของรัฐ ก็ให้ชาวบ้านปลูกป่าและดูแลรักษา และให้เขาปีละ 1000-2000บ./ไร่ อย่างนี้ภายใน 10ปี ประเทศไทยเขียวทั้งแผ่นดิน ปัญหาแล้ง น้ำท่วม รวมทั้งลดโลกร้อน มลพิษฝุ่นละออง ก็จะลดลงเรื่อยๆ ชาวบ้านก็จะมีกินมีใช้ในยามแก่เฒ่าไม่ต้องรอเงินเลี้ยงดูจากรัฐอย่างเดียว จึงจะเรียกว่า อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ที่แท้จริงบ้านก็จะมีกินมีใช้ในยามแก่เฒ่าไม่ต้องรอเงินเลี้ยงดูจากรัฐอย่างเดียว จึงจะเรียกว่า อยู่อย่างมี 32:44 ที่แท้จริง
ขอบคุณมากครับ
ไม่สนคะ
ออกหลักเกณฑ์ไม่เอื้อให้คนปลูกต้นไม้น้อยกว่า10ไร่นี่นา ไหนว่าไม่ต่ำกว่า10ไร่ไงละ?
มีช่องให้คนโกงง่ายจัง
รัฐบวย โหลยโท่ย
เมกาปล่อยก๊าสมาเป้นร้อยปียังมากดขี่ราคากับเราอีกเอาเปรียบเรา
ชาวบ้านเค้าตัดไปเผาถ่านได้ตังค์ซื้อข้าวกินสว่นโลกก้อปล่อยไห้มันพังไปดีกว่า
ดูนักวิชาการจะรวยมากกว่าจับเสือมือเปล่า
ท่านพูดได้ชัดเจนมากผมมีที่25ไร่ว่าจะปลูกป่าถอยดีกว่า
เอาจริงๆป่าไทยเหลือมากขนาดนั้นหรือ
ต้องมีการเยียวยาอย่าดีแต่เชิญชวนให้ปลูกให้ทำจริงจังสักที😊😊
ไม่เป็นไรหรอกอยู่ด้วยกันตายด้วยกัน😂
รัฐควรมีหน่วยงาน ที่ออกมารับรองตรวจสอบและส่งเสริม โดยตรง ที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ
ผมว่าผลประโยชน์ เป็นอันดับแรก มันเลยดูซับซ้อน ฟังฟังเหมือนง่าย แต่ซื้อขายจริงๆนะยาก งานนี้ก็ต้องมีพ่อค้าคนกลางอีกนั่นแหละเหยียบเชือกกิน วัวหายล้อมคอก น้ำน้อยย้อมแพ้ไฟ
อะไรที่มันจะเกิดประโยชน์กับคนรากหญ้านี่มันต้องมีเส้นทางแบบน้ำตาเร็ด ช่างเป็นเบี้ยล่างคนมีความรู้คนมีตำแหน่งอำนาจเสียจริงๆ ,กองทุนฟื้นฟูเกษตรกร,ฟูขึ้นได้ไหม,สมัชชาคนจนอ่อนแรงแล้ว หน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลช่วยเหลือ้กษตรกรก็ลอยนวลอ้วนพีเฉิดฉายเสียส่วนใหญ่ เฮ้อ...
ขายต้นไม้ยังขายไม่ได้แล้วจะไปขายอากาศฝันลมๆแล้งๆ
ควรให้เกษตรกรผู้เป็นเจ้าของต้นไม้ ขายโดยตรง แต่ที่ใด้ยินมาต้องให้เปอร์เซ็น คนมาวัดมาติดต่อเยอะพอสมควรเกือบครึ่งนึงของราคาขาย
เสร็จคนประเมินคนนี้รวยก่อนคนปลูก
ขอบคุณ อ.วีรศักดิ์ มากค่ะ
หน่วยงานรัฐของไทยมีคอร์รัปชั่นเยอะ พอมีโครงการอะไรมาก็คิดหากินบนหลังคน พี่น้องเกษตรกรต้องลำบากแค่ที่ดินทำกินที่กำหนด10ไร่ก็ไม่ผ่านแล้ว คิดดูซิปลูกต้นไม้ต้องใช้เวลาเป็นสิบๆปีขึ้นไป ก่อนอื่นควรฟอกทัศนคติของหน่อยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ส่วนตัวเราปลูกต้นไม้เพราะรักและเอาความร่มเย็นบริเวณที่เราอยู่เองก่อนแล้ว
ลำไผ่ ไม่มีวงปี ....ไผ่ ดูดซับคาร์บอนสูงสุด 👈
ทำไมไม่ให้กระทรวงมาวัดให้โรงงานทั้งหมดที่ปล่อยเรือนกระจกและรถทุกคันต้องเป็นผู้จ่าย รถเก็บเลยคันละ1บาทต่อปีแล้วเอามาให้คนที่ปลูกป่า
เอา MCคันละ 10บ. รถยนต์คันละ 50 -100 บ.
ผมฟังๆมา เหมือนวิมานในอากาศ...เลิกฟังละ..
ระวัง...ลวงโลกใหม?
คนตรวจประเมิน รวยครับ
คนปลูกยังจนเหมือนเดิม
😂 คนประเมินหลอกคนปลูกเพื่อให้จ้างตัวเอง รวยคนเดียวในเรื่องนี้คือ คนประเมิน😅
ใช่เลยคนประเมิณเอาคนเดียว
10ไร่กะเยอะอยู่นะ ควรให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถตรวจสอบรับรองต้นไม้ได้ ค่าใช้จ่ายตามสมควรครับ # ถ้าวางแนว อย่างนี้ ปลูกต้นไม้น้อยไม่มีโอกาส
รวยๆๆ ขายกล้าไม้
นายทุนเท่านั้น คนจน จบ
ราชการและรัฐวิสาหกิจด้วย
แดรกกหมด
เผลอๆหรอกให้ ปชช ข่วยกันปลูกป่า
แล้วเอาไปหาประโยชน์เอง
สวัสดีครับพี่ผมอยากปลูกต้นไม้ใหญ่ไมัสักเพื่อขายคาร์บและที่ดินอยุ่นอกพื้นที่และมีที่ดินอยุ่4/5ไร่จะปลูกได้ไหมครับ
จะเอาที่ๆไหนปลูกนอ 10. ไร่ ทำ มัน ทำอ้อย เขาได้ปีละ แสนนะ ที่ฟังมานะเพ้อฝันวะ
โครงการขายอากาศ ขายฝัน วาดวิมานในอากาศ ผู้ขายพร้อม แต่ผู้ซื้อไม่มี
70+ไร ลงทุนเยอะเหนื่อยมากปลูกเพราะรักต้นไม้ ค่าประเมินรับรองสูงมากรัฐควรมีช่องทางให้เกษตรเข้าถึงได้ง่าย
ศึกษามาซักพักแล้ว ไม่มีแรงจูงใจเพียงพอที่จะทำในขณะนี้ เจ้าของบริษัท โตโยต้า ยังพูดว่า ยังเลือกที่จะซื้อคาร์บอนเครดิตถูกๆ ดีกว่าไปต่อเทคโนโลยีรถยนต์อีวี 100% คาร์บอนเครดิตคงยังอีกหลายปี
สวัสดีครับพี่
รัฐควรเป็นตัวเชื่อมระหว่างคนซื้อคนขายเท่านั้น
ควรให้องค์กรก๊าซฯจัดอบรมให้เจ้าหน้าที่ อบต. ให้มีความรู้และสามารถประเมินในท้องที่ของตนเอง
ไม่ถึงมือรากหญ้าหรอก
เท่าที่เห็น มีแต่ ระดับ หน่วยงานทางราชการ รัฐวิสาหกิจ เช่น อปท เจ้าของกิจการ โรงงาน โรงไฟฟ้า เอาไปบริโภคหมด
ตาสีตาสาอย่าได้หมาย
ผมคิดว่าเงื่อนไขหลักเกณฑ์ต่างๆเรียนรู้กันได้
เมื่อมีหลักแล้ว คนที่ทำหรือใช้ตามหลักเกณฑ์ก็ควรเป็นผู้ประเมินได้ ไม่ใช่มีกลุ่มหากินผูกขาดเช่นนี้
ทำไมไม่ใช้องกรค์แบบอบต.ทำหน้าที่รับรอง
บอกหน่อยใครที่ขายได้แล้ว ขายให้ใคร จะไปดูงาน หรือแค่ฝันลมๆแล้งมานานแล้ว
ไม่เห็นได้สักบาทเลย
ทำไมไม่ให้โรงงานจัดผู้เชี่ยวชาญมาตรวจ มาซื้อ แล้วเอาไปลบ กับโรงงานตัวเองที่ปล่อย ก็จบ คิดดิ
รัฐบาลต้องเปลี่ยนวิธีคิด
ตั้งโจทย์ใหม่ เป็น ปลูกป่า แก้ปัญหาภัยแล้ง และน้ำท่วม
นำงบประมาณที่ต้องจ่ายกับภัยแล้ง น้ำท่วม ในแต่ละปีมารวมกัน และหาสูตรคิดคำนวณหรือจะประมาณการอย่างไรก็กำหนดมา โดยตั้งเป้าที่จะสร้างป่าเพื่อแก้ไขปัญหานี้ (ส่วนลดโลกร้อนให้เป็นผลพลอยได้ ไม่ต้องสนใจขายคาร์บอนเครดิต )มุ่งเพิ่มจำนวนต้นไม้ ป่า
นำงบที่จะต้องจ่ายแก้ปัญหาภัยแล้งน้ำท่วม และเพิ่มการจัดเก็บภาษีรถมอรฺไซฺคันละ10บ./ปี รถยนต์ที่ใช้น้ำมันคันละ50บ./ปี แบ่งเงินภาษีเหล้าบุหรี่มากี่%ก็ว่าไป มาจ่ายให้ชาวบ้านที่ปลูกป่าไร่ละ 1500-3000บ./ปี ชาวสวนที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ไร่ละ500 บ./ปี
ส่วนภูเขาหัวโล้น ที่ดินของรัฐ ก็ให้ชาวบ้านปลูกป่าและดูแลรักษา และให้เขาปีละ 1000-2000บ./ไร่ อย่างนี้ภายใน 10ปี ประเทศไทยเขียวทั้งแผ่นดิน ปัญหาแล้ง น้ำท่วม รวมทั้งลดโลกร้อน มลพิษฝุ่นละออง ก็จะลดลงเรื่อยๆ รัฐบาลต้องเปลี่ยนวิธีคิด
ตั้งโจทย์ใหม่ เป็น ปลูกป่า แก้ปัญหาภัยแล้ง และน้ำท่วม
นำงบประมาณที่ต้องจ่ายกับภัยแล้ง น้ำท่วม ในแต่ละปีมารวมกัน และหาสูตรคิดคำนวณหรือจะประมาณการอย่างไรก็กำหนดมา รัฐบาลต้องเปลี่ยนวิธีคิด
ตั้งโจทย์ใหม่ เป็น ปลูกป่า แก้ปัญหาภัยแล้ง และน้ำท่วม
นำงบประมาณที่ต้องจ่ายกับภัยแล้ง น้ำท่วม ในแต่ละปีมารวมกัน และหาสูตรคิดคำนวณหรือจะประมาณการอย่างไรก็กำหนดมา โดยตั้งเป้าที่จะสร้างป่าเพื่อแก้ไขปัญหานี้ (ส่วนลดโลกร้อนให้เป็นผลพลอยได้ ไม่ต้องสนใจขายคาร์บอนเครดิต )มุ่งเพิ่มจำนวนต้นไม้ ป่า
นำงบที่จะต้องจ่ายแก้ปัญหาภัยแล้งน้ำท่วม และเพิ่มการจัดเก็บภาษีรถมอรฺไซฺคันละ10บ./ปี รถยนต์ที่ใช้น้ำมันคันละ50บ./ปี แบ่งเงินภาษีเหล้าบุหรี่มากี่%ก็ว่าไป มาจ่ายให้ชาวบ้านที่ปลูกป่าไร่ละ 1500-3000บ./ปี ชาวสวนที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ไร่ละ500 บ./ปี
ส่วนภูเขาหัวโล้น ที่ดินของรัฐ ก็ให้ชาวบ้านปลูกป่าและดูแลรักษา และให้เขาปีละ 1000-2000บ./ไร่ อย่างนี้ภายใน 10ปี ประเทศไทยเขียวทั้งแผ่นดิน ปัญหาแล้ง น้ำท่วม รวมทั้งลดโลกร้อน มลพิษฝุ่นละออง ก็จะลดลงเรื่อยๆ ชาวบ้านก็จะมีกินมีใช้ในยามแก่เฒ่าไม่ต้องรอเงินเลี้ยงดูจากรัฐอย่างเดียว จึงจะเรียกว่า อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ที่แท้จริง0บ./ปี รถยนต์ที่ใช้น้ำมันคันละ50บ./ปี แบ่งเงินภาษีเหล้าบุหรี่มากี่%ก็ว่าไป มาจ่ายให้ชาวบ้านที่ปลูกป่าไร่ละ 1500-3000บ./ปี ชาวสวนที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ไร่ละ500 บ./ปี
ส่วนภูเขาหัวโล้น ที่ดินของรัฐ ก็ให้ชาวบ้านปลูกป่าและดูแลรักษา และให้เขาปีละ 1000-2000บ./ไร่ อย่างนี้ภายใน 10ปี ประเทศไทยเขียวทั้งแผ่นดิน ปัญหาแล้ง น้ำท่วม รวมทั้งลดโลกร้อน มลพิษฝุ่นละออง ก็จะลดลงเรื่อยๆ ชาวบ้านก็จะมีกินมีใช้ในยามแก่เฒ่าไม่ต้องรอเงินเลี้ยงดูจากรัฐอย่างเดียว จึงจะเรียกว่า อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ที่แท้จริงบ้านก็จะมีกินมีใช้ในยามแก่เฒ่าไม่ต้องรอเงินเลี้ยงดูจากรัฐอย่างเดียว จึงจะเรียกว่า อยู่อย่างมี 32:44 ที่แท้จริง
ขอบคุณมากครับ
ไม่สนคะ
ออกหลักเกณฑ์ไม่เอื้อให้คนปลูกต้นไม้น้อยกว่า10ไร่นี่นา ไหนว่าไม่ต่ำกว่า10ไร่ไงละ?
มีช่องให้คนโกงง่ายจัง
รัฐบวย โหลยโท่ย
เมกาปล่อยก๊าสมาเป้นร้อยปียังมากดขี่ราคากับเราอีกเอาเปรียบเรา
ชาวบ้านเค้าตัดไปเผาถ่านได้ตังค์ซื้อข้าวกินสว่นโลกก้อปล่อยไห้มันพังไปดีกว่า
ดูนักวิชาการจะรวยมากกว่าจับเสือมือเปล่า
ท่านพูดได้ชัดเจนมากผมมีที่25ไร่ว่าจะปลูกป่าถอยดีกว่า
เอาจริงๆป่าไทยเหลือมากขนาดนั้นหรือ
ต้องมีการเยียวยาอย่าดีแต่เชิญชวนให้ปลูกให้ทำจริงจังสักที😊😊
ไม่เป็นไรหรอกอยู่ด้วยกันตายด้วยกัน😂