คุยเรื่อง ' พระเจ้า ' จากบังโต ถึง วรรณสิงห์ | ป๋าเต็ดทอล์ก
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 31 ส.ค. 2021
- คุณเชื่อในพระเจ้ารึเปล่า ?
หนึ่งในเรื่องที่มีโอกาสได้พูดคุย
ทั้งกับบังโต พี่ซัน และคุณวรรณสิงห์
วันนี้นำมุมมองของคุณสิงห์มาให้ฟังครับ
ไฮไลท์นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง
จากบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มของคุณสิงห์
ในป๋าเต็ดทอล์ก EP.63
หากท่านไหน ต้องการรับฟัง
ทัศนคติ และนิยามของ 'ศาสนา'
ตามความคิดของคุณสิงห์
สามารถรับชมฉบับเต็ม
ได้แล้ววันนี้ครับ : )
#ป๋าเต็ดทอล์ก
#วรรณสิงห์ - บันเทิง
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยกล่าวไว้ว่า พระเจ้าไม่ทอยลูกเต๋ากับจักรวาล มันหมายความว่า ทุกสรรพสิ่ง ไม่ได้เกิดขึ้นมาด้วยความบังเอิญ
ยุคนั้นวิทยาศาสตร์ยังไม่ยอมรับควอนตัมฟิสิกส์ หรือเชื่อว่ามีในสิ่งที่ไม่อาจอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ยุคเก่า ยุคนั้นวิทยาศาสตร์ไปได้แค่สิ่งที่ถูกสังเกตนั้คือสัมผัสทั้ง5 ไอสไตน์เลยไม่เถียง แต่เขารู้พูดไปก็เท่านั้น วิทยาศาสตร์ที่ปราศจากพระเจ้านั้นป่วยการ พระเจ้าจะไม่ทอยลูกเต๋า ตัวเขาเองถูกออกแบบมา เขารู้ดีว่าเขาไม่ได้เกิดมามั่วๆเล่นๆเขามีตัวตน
มีบางคนตอบว่าอย่าบอกไห้พระเจ้าต้องทอยลูกเต๋าหรื่อต้องทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด้เลย
@@user-lj4wx9of5wสตีเฟ่น ฮอกิ้ง เป็นคนบอกครับ
อัลเบิร์ตไอน์สไตน์ เคยกล่าวไว้นั่น นะใช้ แต่ คำตอบหลากหลาย
มากกว่านั่นอีกค่ะ ลองหาข้อมูล
อ่านใหม่มีอีกมากมายค่ะ
ทอยลูกเต๋า 1,000 ล้านปี อะไรที่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากๆ มันเกิดขึ้นได้แน่ๆ เพราะเวลามันเยอะมากๆ
วรรณสิงห์ เป็นบุคคลที่มี ระบบความคิดที่ดีมากๆ ครับสุดๆ
พิสูจน์ ได้ด้วย การเรียบเรียงคำพูดของเค้า อย่างรวดเร็วและสื่อสารได้อย่างมีปะสิทธิภาพมากๆ
เห็นด้วยมากครับ แม้อาจอาศัยการตัดต่อ แต่ความ flow ในการพูดเนื้อหาที่สอดประสานกันไปเรื่อย ๆ คือต้องอ่านและเข้าใจในหลาย ๆ ศาสตร์
คุณแม่ สุดยอดกวี คุณพ่อสุดยอดรัฐศาสตร์การปกครอง
จริงศาสนารู้สึกมันเป็นความขัดแย้งอยู่ ต่างคนต่างคิดว่าพระเจ้าของเขาคือของแท้55 ต้องเป็นคนเท่านั้น แล้วมนุษย์ต่างดาวล่ะ55
จริง
แต่ดูแล้วเขาก็ยังเชื่อเรื่องพระเจ้าซึ่งเป็นศาสนาที่เอาแต่สวดอ้อนวอนร้องขอให้ผู้อื่นช่วยซึ่งเปรียบเสมือนขอทานที่ต้องไปสวดอ้อนวอนให้คนอื่นช่วยซึ่งคนพวกนี้เป็นพวกไร้ความสามารถในการที่จะพึ่งตัวเอง คนพวกนี้เป็นพวกอ่อนแอด้อยสติปัญญาเอาแต่สวดอ้อนวอนให้ตัวเองได้ตามความโลภโมโทสันที่มีซึ่งเป็นพวกกิเลสหนาไร้ความรู้ความสามารถ
การพึ่งตนเองตามหลักพระพุทธศาสนาเป็นหนทางแห่งความสำเร็จ ตัวเราอาจไปขอไปพึ่งคนอื่นอาจได้บ้างชั่วครั้งคราว แต่การพึ่งตนเองเป็นการนำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิตที่ถาวร ดังหลักคำสอนทางศาสนาพุทธว่าไว้ อัตตาหิ อัตตโน นาโถ คิดดี พูดดี ทำดีในเหตุปัจจุบันเเพราะศาสนาพุทธให้ความสำคัญที่สุดในปัจจุบันถึงแม้ศาสนาพุทธจะเชื่อเรื่องอดีตชาติภพหรือชาติหน้ากับการเวียนว่ายตายเกิด ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดแล้วชาติไหนๆก็จะดีเอง ศาสนาพุทธเป็นอเทวนิยมไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าว่าจะมีอำนาจให้คุณประโยชน์หรือมาลงโทษอะไรต่อผู้คน
คุณสิงห์ครับ ข้าราชการไทยก็เป็นควอนตัมนะครับ ถ้าเราไม่ดู มันก็ไม่ทำงานหรือทำงานไม่รู้ แต่เมื่อไปมองมัน มันก็เริ่มตัดสินใจว่าจะทำงานหรือไม่ทำงานแล้วแต่ใครมอง ถ้าประชาชนมองมันไม่สนใจ ถ้านายมันมอง มันถึงทำงาน
55555555555555
😂😂😂😂😂😂😂😂
ฟัง Ep. นี้แล้วรู้สึกชีวิตเบาลงมากๆ เมื่อเรามัวแต่กังวลเรื่องของมนุษย์ จนลืมไปว่าเราเป็นแค่สิ่งมีชีวิตเล็กๆบนดาวเคราะห์ดวงนึงเท่านั้นเอง ชีวืตมนุษย์ถ้าเทียบกับจักรวาลคือยิ่งกว่าอะตอม 😂
ถ้าได้ฟังบังโตแล้ว จะยิ่งเบาลงอีก
ความใหญ่ของจักรวาลทำให้เรารู้สึกว่าเราเล็ก แบบแย่ไปเลย คือยิ่งกว่าฝุ่นยิ่งกว่าอะตอม เอาแค่แกแล็คซี่ที่เราอยู่มันมีความกว้างจากขอบด้านหนึ่งไปยังขอบอีกด้านหนึ่ง แสงต้องใช้เวลาเดินทางถึง 1แสนปี (แสงเดินทางวินาทีละ3แสนกิโลเมตรโดยประมาณ) ถ้าแสงออกเดินทางในสมัยยุคสุโขทัย 700ปีมาแล้ว ณ ตอนนี้แสงยังเดินทางไปไม่ถึงครึ่งของครึ่งของครึ่งทางในแกแล็คซี่เราเลย แล้วจักรวาลของเรามีเป็นแสนล้านแกแล็กซี่ เปรียบเหมือนเอาทรายมาเทให้เต็มสระน้ำโอลิมปิค แกแล็กซี่ (ที่บอกว่ากว้าง1แสนปีแสง) ขนาดยังแค่เท่าเม็ดทรายเม็ดเดียวในสระนั้น
ขนาดของจักรวาลเป็นอะไรที่บ้ามาก
@@peerachatec3889 ขอบพระคุณค่ะ แสงของดวงดาวที่เรามองเห็นนั้น บางดวงอาจดับสลายหายจากเอกภพไปตั้งนานแล้ว
เมื่อจนปัญญาจึงต้องหลอกตัวเองเรื่องพระเจ้า
1 สิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาใช่ว่าจะไม่มีอยู่เสมอไป มีสิ่งมากมายที่เรามองด้วยตาไม่เห็นแต่มีอยู่ เช่น
- แบตทีเรีย ไวรัส เเต่เราพึงรับรู้ว่ามันมีก็ไม่นานมานี้เองด้วยกล้องขยายที่ทันสมัย
- แม่ของแม่ๆๆๆ เราไม่เห็นเเต่เราก็เชื่อว่ามีเเน่นอนล้าน%
2 หากเราเดินอยู่กลางป่าเเล้วไปเจอไอโฟนเครื่องหนึง คุณคงไม่เชื่อแน่ๆหากบอกว่าไอโฟนเครื่องนี้ มันเกิดขึ้นมาเองโดยไม่มีใครสร้างหรือเป็นเจ้าของ ด้วยเหตุผลที่ว่า..ไม่เห็น! เจ้าของหรือผู้สร้างมัน ณ ตอนนั้น
3 สิ่งที่มีชีวิตไม่สามารถเกิดจากสิ่งที่ไม่มีชีวิตได้ สิ่งมีชีวิตย่อมเกิดจากสิ่งมีชีวิต
4 สิ่งๆหนึงจากที่ไม่มีมาก่อน แล้วมี ย่อมต้องมีผู้ที่ทำให้มี... คุณคงไม่เชื่อแน่นอน! เช่น หากมีคนบอกคุณว่า ในห้องๆหนึงที่มี นาฬิกาเรือนหนึงอยู่ในห้องนั้น และนาฬิกาเรือนนี้มันมีอยู่แบบนั้นมาแล้วโดยไม่มีใครเอาไปวางไว้เลย?
5 สิ่งที่มีกระบวนการระบบกลไกเกิดขึ้นเองไม่ได้ ย่อมต้องมีผู้วางระบบที่มีความคิดและออกแบบกลไกนั้น
6 สิ่งมีชีวิตที่ขยายพันธ์จากต้นแบบ (พ่อแม่ )เกิดขึ้นเองไม่ได้ เมือย้อนกลับไป(พ่อของพ่อๆๆ แม่ของแม่ๆๆๆ)ยาวแค่ไหนก็ต้องมีจุดสิ้นสุด ณ ที่หนึง จุดเริ่มต้นของการเกิดขึ้นต้นแบบชิ้นแรก. (หากย้อนเรื่อยๆๆๆโดยไม่สิ้นสุด ณ จุดๆหนึงสิ่งนั้นย่อมไม่สามารถเกิดขึ้นได้)
7 เรารู้ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้จากความไม่มีอะไร เพราะฉะนั้นหากจะมีช่วงเวลาสักเวลาหนึ่งที่ไม่มีอะไรดำรงอยู่เลย มันก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาเลย แต่สิ่งต่าง ๆ ก็ได้เกิดขึ้นมาแล้ว ดังนั้น มันจึงไม่น่าจะไม่มีอะไรมาก่อน มันจะต้องมีอะไรที่ดำรงอยู่เสมอมาอย่างแน่นอนที่เป็นเหตุจุดเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิตล้านๆชนิด และเราเรียกสิ่งที่ดำรงอยู่นิรันดร์นั้นว่าพระเจ้า(ผู้สร้าง)
มาโนช พุฒตาล บังโต วรรณสิงห์ เป็น 3 ตอนที่ผมชอบที่สุด
โอม คอกเทล ด้วยอีกคน
รับรู้ได้เลยว่าความคิดมุมมองการออกการสื่อสารจากปากพวกเค้ากลั่นมาอย่างดี คือคุณภาพจริงๆ ****นึกถึงป้าๆที่คอยพูดพล่อยๆนินทาคนนู้นคนนี้แล้ว55555แต่เราก็อยู่บนดาวดงงเดียวกัน
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ
เหมือนกัน..แต่ชอบที่สุดผมชอบมาโนช พูุฒตาล
ชอบคำพูด คุณ สิงห์ครับ
“ ทุกศาสนาก็เป็นเรื่องที่ มนุษย์ เอาสิ่งรอบตัวมาสังเคราะห์ และมาเล่าต่ออีกทีนึง”
ชอบคำนี้มากเหมือนกัน เหมือนพี่เขาพูดแทนใจ แต่เรียบเรียงมาให้แบบเข้าใจง่ายสุด
ในหลายๆศาสนามีส่วนคล้ายกัน เอาจริงศาสนาอาจเป็นแค่พ่อแม่สอนลูกของอารยธรรมหนึ่งที่ประชากรเยอะพอ
th-cam.com/video/Uw_iAIn9b3g/w-d-xo.html
ผมเป็นคนนับถือศาสนา ผมไม่คิดว่าการชนกันไปมาจะทำให้มีรูปแบบต่างๆทีเกิดขึ้นแบบจงใจได้ ดังนั้น เราจึงรับรู้ได้ว่า เราถูกสร้างมา และมีผู้สร้าง เราทุกคนใช้ความจริงเดียวร่วมกัน ใช่ว่าแบบนั้นถูกแบบนี้ก็ถูก มันถูกได้แบบเดียว เมือผมนับถือศาสนา ในคำภีร์ ได้บอกไว้ว่า พระองค์จะแสดงให้ มนุษย์ได้เห็นได้ประจักษ์ ในสัจธรรม ความสัจจริง ในสิ่งทีมนุษย์ไม่เชื่อต่อคำภีร์ ของพระองค์ พระองค์จะสอนมนุษย์ให้รู้ในสิ่งทีมนุษย์ไม่รู้ บางส่วนของคำสอนในคำภีร์มนุษย์จะรู้ได้ก็ด้วยวิทยาศาสตร์ (หรือพูดให้ถูกคือ การเรียนรู้ การสังเกต) คำสอนในคำภีร์เรืองการกำเนิดมนุษย์ มีลำดับขั้นตอนยังไง บอกไว้นานแล้ว วิทยาศาสตร์เพิ่งมากระจ่างไม่นานมานี้เอง และยังมีอีกหลายเรื่อง ทียังรอความรู้ทีมากกว่านี้ถึงจะเห็น สัจธรรมคำสอนในคำภีร์ ถ้าความรู้เท่ากับสิ่งทีเป็นจริง ดังนั้น วิทยาศาสตร์ก็คือวิธีการทีจะให้เข้าใจความรู้ วิทยาศาสตร์ไม่ได้มาหักล้าง คำสอนในศาสนาแต่อย่างใด แต่กลับ สนับสนุนกันไปอีก ถ้าศาสนาเป็นแค่ การเรียนรู้ต่อๆกันมามีประสบการณ์มากขึ้น และส่งความรู้ประสบการณ์ไปยังรุ่นถัดๆไป แล้วจะมีคำสอนทีถูกต้องสอดคล้องกับวิทยาศาสตร์ ได้อย่างไร คนในสมัยเมื่อ พันๆปี มาแล้ว ในเรื่องทีสมัยนั้นไม่มีทางเลยทีจะรู้จะเข้าใจ คำสอนในศาสนา ผมยังไม่มีคำสอนใดผิดแม้ข้อเดียวเลย คำภีร์ยังท้าทายผู้ไม่เชื่อให้หาข้อคำสอนผิด ให้ได้ข้อแค่ข้อเดียว ครับ ถ้าไม่ผิดแม้สักข้อ แล้วคำภีร์นี้ใครเป็นคนทำมันขึ้มา ครับ ผมนับถือ อิสลาม ครับ
คิดว่าพระเจ้าไม่ได้มีแค่องค์เดียวหรอก เพราะพระเจ้าไม่ได้ถือกำเนิดตอนไดโนเสาร์สักองค์ ทุกอย่างคือการกำเนิดไปเป็นเทวดาแต่ล่ะองค์
เป็นคำตอบที่ประนีประนอม ผู้ฟังยอมรับได้ทุกฝ่าย
ตอบได้ไมขอบจักวาลยู่ตงไน
ทัศนะคติดีมากครับ ผมในฐานะมุสลิม ชวนตั้งคำถามว่า หากผู้สร้างหรือผู้ออกแบบหรือพระเจ้า มีมากกว่า 1 แล้ว สิ่งต่างๆในจักรวาล คงจะเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะผู้สร้างย่อมมีเจตจำนงในการสร้าง หากมีมากกว่า 1 นั่นแปลว่า กฏฟิสิกส์หรือกฏธรรมชาตินั้นต้องไม่เหมือนกันซักที่ จะเห็นว่าทุกที่หรือทุกอย่างอยู่ภายใต้กฏนั้นๆ ซึ่งเหมือนกันทุกคน มันบ่งบอกว่าผู้สร้างหรือผู้ออกแบบนั้นมีเพียง 1
ปล.ผมใช้คำว่าผู้สร้างผู้ออกแบบเพราะบางคนจั๊กจี้กับคำว่าพระเจ้า หรือบางคนพอได้ยบินคำว่าพระเจ้าอาจจะติดมโนภาพเป็นคน ซึ่งพระเจ้าไม่ใช่คน
เเต่เดิมตั้งเเต่เริ่มของโตราไม่เคยใช้คำในนามเอกพจเรียกพระเจ้าเลยนะครับ
ถึงในฮิบรูยอกว่ามีกนึ่งเด็วเเต่คำในนั้นจะเขียนประมาณว่าพวกเราบ่อยมาก.
และอีกเรื่องคืออิสลามบอกว่าพระเจ้าไม่มีเพศเเต่ว่าทุกคำภีก่อนหน้าเน้นย่ำตลอดด้วยคำว่าเขาหรือในอังกถตคือhe
His
We created us from them image.
หรือ he sented moshe to his people
@@567ahrens การใช้สรรพนาม He บางบอกไม่ได้หรอกนะครับ ว่าหมายถึงเพศชาย มันเป็นการยกเว้นในทางภาษาอังกฤษ เพราะไม่รู้จะเรียกแทนพระเจ้าโดยใช้สรรพนามไหน หากใช้ it ก็ไม่เหมาะสม
*บ่งบอก
@@066863922 ต้นฉบับเเปลด้วยตรงจากคัพท์ภาษาฮิบรูครับไม่ได้พาดพิงถึงบุพบทการใช้เรียกคำตามพื่นฐานของอังกถต ที่เเน้ๆคืออังกถตไม่เพศภาษาเหมือนหลายภาษาเช่นรัสเชีย ฮิบรูหรืออื่นๆ
@@567ahrens ขอมาเสริมอธิบายให้ท่านเข้าใจเพิ่มขึ้นนะครับ ว่า ในศาสนาของอับราฮัม(ยิว คริส อิสลาม) นั้น เชื่อในพระเจ้าเพียงองค์เดียว และเป็นคนเดียวกัน และเหตุผลที่ไม่ระบุเพศสำหรับพระเจ้า ก็เพราะ หากดูในความเชื่อศาสนาต่างๆที่เชื่อว่ามีพระเจ้าหลายๆองค์ ก็จะพบว่าเทพเจ้าเหล่านั้นมีทั้งเพศญ,ช ซึ่งก็สามารถร่วมนอนกันได้มีลูกได้และพระเจ้าที่เป็นชายหรือหญิงก็ยังสามารถลงมาหลับนอนกับมนุษย์ได้ นั้นคือความเชื่อของพวกศาสนาหลายพระเจ้า แต่ในความเชื่อของศาสนาอับราฮัมนั้น พระเจ้ามีเพียงแค่หนึ่งเดียว และไม่สามารถที่จะกำหนดเพศสภาพของพระเจ้าได้ ก็เพราะ พระเจ้าไม่ใช่สิ่งที่ถูกสร้างและถูกให้กำเนิด และไม่ได้มีความคล้ายคลึงหรือมีสภาพเหมือนมนุษย์ ดังนั้น การใช้คำว่า He ก็เพราะเป็นการให้เกียรติและเป็นกลางสำหรับพระเจ้าที่สุด ส่วนในอาหรับ จะใช้ชื่อพระเจ้าเลยครับเพื่อสื่อถึงพีะเจ้า คือในคัมภีร์อัลกุรอาน แต่ในบางครั่งก็จะสื่อถึงพระเจ้าโดยไม่เอ่ยนามพระองค์ ก็จะใช้คำว่า ฮู ที่แปลว่า "เขา" หรือ"ท่านคนนั้น" ซึ่งเป็นบุรุษที่สามเพศชาย
ส่วนในภาษายิวนั้น ผมไม่มีความรู้ในเรื่องภาษาของเขา แต่ที่มั่นใจเลยคือ หากการใช้สรรพพนามที่อยู่ในหมวดของเพศชายที่สื่อถึงพระเจ้า จากทั้งสามคัมภีร์นี้นั้น แล้วแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าเป็นเพศชาย ต้องขอตอบว่า "ไม่ เพราะ 1.การใช้คำในตรงนี้เป็นการให้เกียรติที่สุดและถือว่าดีกว่าหากเทียบกับการใช้สรพพนามเพศหญิง 2.ไม่มีคำหรือภาษาที่สามารถบัญญัติถึงพระเจ้าได้ จึงใช้คำอื่นมาแทน 3.การใช้คำอื่นมาเพื่อแสดงถึงพระเจ้า เป็นบัญญัติโดยมนุษย์หรือศาสดามาบอก 4.การใช้สรรพนามเพศชายเพื่อสื่อถึงพระเจ้า ถือว่าเป็นการให้เกียรติและสอดคล้องต่อเหล่าบรรดาศาสดาทั้งหลายของหลายศาสนาที่พวกเขาเป็นเพศชายครับ
หวังว่าจะเป็นคำตอบให้คุณได้
ปล. เป็นคำถามที่ดีครับ แต่ในบางเรื่องของศาสนานั้นตอบยากมาก 😄
นายนี่มันมหัศจรรย์จริงๆสิงห์
ทุกศาสนาเป็นเรื่องที่มนุษย์เอาสิ่งรอบตัวมาสังเคราะห์ แล้วพูดต่อๆกัน.....ชอบตรงนี้ที่สุด ผมยังเชื่อว่าศาสนามีไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่ได้มีให้งมงายถึงโลกหน้า รึ อะไรทั้งนั้น
ถ้าเป็นแบบนั้น ก็ต้องหมายถึงว่า
ศาสดามูฮัมหมัด ผู้รับสารจากพระเจ้า คงเอาตรรกะความคิดหรือประสบการณ์ หรือจากคำสอนของคัมภีร์อื่นที่มีมาก่อน มาบอกกับสาวกหรือเป็นคำสอนมุสลิมทั่วโลก เช่นบอกว่าโลกนี้มีลักษณะกลม การกำเนิดของมนุษย์หรือการตั้งครร เกิดจากน้ำอสุจิ แถมบอกระยะการฝักไข่พัฒนาการจนกระทั่งคลอดได้ถูกต้อง
ซึ่งผมว่าเมื่อ 1400 ปีก่อน คงไม่มีใครรู้ กรือถ้ามูฮัมหมัดรู้ คงเป็นเรื่องแปลกมหัศจรรย์มาก เพราะศาสนดามูฮัมหมัดอ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่เป็น แ
พี่สิงห์จัดแสงดีมากครับ
เนียนสวยมากครับ
color grading ช่วยได้
@@anytourist Color Grading จริงๆครับ : )
เนียนจนคิดว่านั่งอยู่ในสตูป๋าเต็ด
ฟังที่พี่สิงห์พูด ละอ่านซับ แล้วนึกภาพตามเรื่อยๆ มันถูกเข้าใจได้ง่ายผ่านคำพูดที่เรียบเรียงมาเเล้วของพี่เค้ามากๆ นับถือเลยจากใจ ขอบคุณที่ถ่ายทอดให้เราเข้าใจได้ง่าย
ชอบความคิดทัศนคติคุณสิงห์มาก
สิ่งที่ท่านตอบมาคือเก่งมากน่ะ ที่เข้าใจมาถึงจุดๆนี้ได้ .. เเต่คุณจะไม่มีภาคีใดๆหรือเเคลงใจใดๆ ถ้าคุณค้นหาควารู้วิชาการมีอยู่จริงของพระผู้เป็นเจ้า เเละ วิชาในส่วนคุณการรู้จักพระผู้เป็นเจ้า ผ่านคุณสมบัติของพระผู้เป็นเจ้า ผ่านความย้อนเเย้งตามหลักความคิดทั้งเหตุเเละผล เเละความน่าจะเป็นตามความเป็นจริงเเละถูกต้อง .. ทั้งหมดนี้คุณจะเข้าใจทั้งหมดทั้งมวลเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตสอดคล้องไปกับโลก ดิน ฟ้า อากาศ เเละ รวมไปถึงทุกๆสิ่งที่มีอยู่จริงในโลกใบนี้ที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจริง .. ฉะนั้น คำว่าความเชื่อมันจึงต่างกับคำว่า ความศรัทธา .. เพราะความเชื่อคือหลักความความคิดความรู้สึกที่ใช้ได้กับเรื่องทั่วไปในชีวิต โดยอาศัยหลักความคิดความรู้สึกเเละเห็นด้วย ...เเต่คำว่าศรัทธา คือ การศรัทธาที่ไม่ใช่เเค่ต้องใช้ความคิดหรือความรู้สึกส่วนตัวเท่านั้น หากเเต่ผู้ฒรัทธาต้องอาศัยควารู้ ศึกษาในเรื่องนั้นๆที่นานพอ,ดีพอ ,ต่อเนื่องพอ ,จนให้ได้คำตอบที่ถูกต้องพอ, เเละไม่มีภาคีใดๆหรืจุดที่เป็นข้อสงสัยใดๆในเรื่องนั้นๆ..ถึงจะใช้ได้กับคำว่า ความศรัทธา .. เเละเราจะใช้ความศรัทธาในการมีอยู่จริงของพระผู้เป็นเจ้า .. เเละเเท้จริง.. พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวของเราสิ่งมีชีวิตทุกคน , โลก , ธรรมชาติ , จรรกวาล , เเละ จรรกภพ คือ อัลลอฮฺ ซบ หนึ่งเดียว
ตอบได้สมบูรณ์แบบมากๆครับ ผมประทับใจทัศนคติของพี่สิงห์มากๆ
ชอบทั้ง 2 คนเลยครับ มีความเป็นกลางสูง น่าจะมาปรับปรุงการเมืองไทยนะครับ ประเทศชาติจะได้พัฒนามากขึ้น
มีเหตุและผลในตัวเองมากสุดยอดครับ ทุกคำตอบหล่อมาก โดยเฉพาะเรื่องศาสนาครับ….เยี่ยมครับ ดีใจด้วยครับเกิดเมืองพุทธแท้ๆ
Wow มากครับ ชีวิตเรายังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่รู้ เรื่องพระเจ้าก็เป็นหนึ่งในนั้น
สุดยอดเลยครับพี่สิงห์
บังโต มาอีกแล้ว ** คิดถึงบัง ** อยากให้ป๋ามีช่วง [ บังโตพบประชาชน ] แบบทุก 3 เดือนงี้ :)
ชอบที่บอกว่า ‘’โลกยังอยู่แต่เรากำลังตาย’’
เป็นคำตอบที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมาเลยครับ
สุดยอดเลย ประทับใจทุกวรรค
ดีครับ ชอบมาก แชร์ให้แล้วนะป๋า
ผมมาจากทางพุทธแบบเหตุและผลนะ ไม่ใช่พุทธผี อันนี้ไม่อยากให้มองเป็นความเชื่อแต่อยากให้มองมันเป็นระบบเหมือน software กับ hardware รู้จักระบบ ขันธ์ 5 ไหมครับมันน่าจะคลิกกับหลายๆอย่างที่คนสงสัยกัน(ซึ้งจริงๆมันเป็นแค่ต้นทางของการรับรู้นะ)
เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ย่อมมี
ตามหลักการสร้างความสมดุล ทุกสิ่งรอบตัวจะมีความสมดุลอยู่เสมอ หากสิ่งใดที่ยังไม่สมดุล หรือถูกทำให้ความสมดุลเสียไป จะมีกระบวนการปรับความสมดุลอยู่เสมอ ช้าบ้างเร็วบ้างบางทีเราก็ไม่ทันได้สังเกตหรือรับรู้ มันเป็นกฏของธรรมชาติและสสาร
ผมเรียนวิศวะ เเละผมเชื่อว่าทุกสิ่งถูกสร้างโดยเหนือจินตนาการของเรา สมองเราไม่สามารถรับรู้ได้ เเค่ทฤษฎีในระบบคำนวณยากๆสมองเราก็เพี้ยนละ นับประสาอะไรกับจักรวาล
@shield loman ยังไงหรอครับ
ถ้าพวกเราทุกคนเกิดมาตัวเล็กเท่าแบคทีเรีย พื้นที่เล็กๆของห้องที่เราอยู่ทุกวันนี้ เราก็จะคิดว่ามันคือโลก สิ่งที่อยู่นอกห้องคือจักรวาล
เช่นเดียวกับพวกเรา สิ่งที่เราคิดว่ามันคือโลก ความจริงมันจะเป็นแค่เซลล์ของสิ่งมีชีวิตอื่นๆก็ได้เช่นกัน
เรื่องนี้น่าสนใจอ่ะ ไม่เคยคิดแบบนี้เลย พอฟังเรื่องนี้จากคุณสิงห์ แล้วมาอ่านจากเม้นท์นี้ แม่งเป็นไปได้อย่างที่สุด เปรียบหมัดหมาเป็นมนุษย์ แล้วหมาคือโลก นั่นแปลว่าเรากำลังอาศัยอยู่ในสิ่งมีชีวิตเล็กๆอยู่ก็ได้ และยังมีหมาอีกหลายล้านตัวที่เรายังไม่เคยเห็นในแกแล็คซี่นี้
รอพี่สิงห์ มานานแล้วคับ ที่จะมารายการนี้ fc เถื่อน
นับถือความคิดเลยครับ สุดยอดจริงๆ
สิ่งที่เรารุ้มากมาย มันเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เราไม่รู้ Boy imagine
คุณสมบัติที่จะบอกว่าสิ่งนั้นคือพระเจ้า
ที่แน่นอนต้องมี 4ข้อ ดังนี้
1.มีหนึ่งเดียว
2.เป็นที่พึ่ง
3.ไม่กำเนิดและไม่ถูกกำเนิด
4.ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์
ถ้ามีทั้งหมดนี้นั่นคือพระเจ้า
เห็นด้วยข้อเดียวคือ ไม่มีการกำเนิด คืออยู่แบบนั้นอยู่แล้ว ไม่มีใครสร้าง ไม่มีการกำเนิด
@@SUPERJOJE.X มีมากกว่า1นั่นไม่ใช่พระเจ้า
เป็นที่พึ่งไม่ได้นั่นไม่ใช่พระเจ้า
มีสิ่งอื่นสูงส่งเท่าเทียมเสมอนั่นไม่ใช่พระเจ้า
จำเป็นอย่างยิ่งต้องมีดัง4ข้อนี้
พระเจ้ามีจริงหรือไม่นั่นคือความเชื่อที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าพระเจ้าจะมีหรือไม่มี
อยากให่พิสูจน์ดูว่ามีพระเจ้าจริงหรือไม่ ขอให้พระเจ้าเสกบันดาลให้มนุษย์อย่างผมไม่ตายไม่เจ็บป่วย ไม่ทำงานก็สวดอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าให้เสกข้าวหรือสิ่งที่ต้องการอยากกินทุกอย่างได้ตามคำขอ ถ้าพระเจ้ามีจริงและเสกบันดาลได้ตามคำขอผมจะเปลี่ยนศาสนาพุทธไปนับถือศาสนาที่มีพระเจ้าเป็นใหญ่เลย
@@user-ui5ut4hr8w พิสูจน์รึยังครับ
@@user-ui5ut4hr8w พระเจ้ามีให้หมดทุกสิ่งที่คุณอยากได้ที่กล่าวมา คุณเองรึป่าวครับ ที่ปฏิเสธ มันเอง
พี่สิงห์สวดยอด
ฟังพี่สิงห์แล้วรู้เลยว่าเป็นคนที่ฟังและอ่านมาเยอะมากไม่งั้นพูดแบบนี้ไม่ได้ พี่สิงห์มาถูกทางแล้วค่ะ
พี่สิงห์คือห้องสมุดของโลกสำหรับผมเลยนะคับ เข้าใจง่ายถ้าฟังพี่สิงห์อธิบาย คนนี้สุดยอดแล้วจิงๆไปมาทั่วเป็นทั้งห้องสมุดและสมุดท่องเที่ยวสำหรับผมเลย
พระเจ้าไม่ถูกกำเนิดและไม่ให้กำเนิด
ไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีจุดจบ
ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์
และอาจไม่ใช่รูปร่างเหมือนมนุษย์ ที่หน้าต้องฝรั่ง
@@zazazazazaza703 🤣🤣🤣✝️👈
อันนี้ศาสนาล้วนๆ ไม่ใช่วิทยาศาสตร์
@@RT-xf6yt ทำไมอัศาสนาไม่เกี่ยวกับไซนหรอ🤣
เป็นคำตอบที่ดีมากครับ
เป็นคำตอบ ที่ ตรงใจ กระผม มากครับ
อยากให้ป๋าเต็ดทำคลิปเกี่ยวกับ”พระเจ้า”อีกเยอะๆ ฟังสนุกกว่าเรื่องดนตรีอีก 55555 เพราะเราไม่รู้ว่าคือไรกันแน่
พระเจ้า😊☝.
FC ครับ
มันสส เอาอีกกกก
1.กระบวนการทำงานของธรรมชาติ เช่นน้ำ ดิน ต้นไม้ แสงแดด ก็มีกระบวนการทำงานอย่างมีเหตุผลของมันเอง
2. แม้มนุษย์เราเองจะทำอะไร สร้างอะไร ก็ยังมีระบบมีเหตุมีผลทุกคน จะเป็นเหตุผลไปทางดีหรือทางไม่ดีเท่านั้น การสร้างของมนุษย์จึงมีเหตุผลร้อยเรียงกัน มากกว่าคนๆหนึ่งจะคิดให้ตลอดจบได้
พอมนุษย์คิดไม่ออก.. ผลสุดท้าย เลยยกกระบวนการทั้งหมด เป็นผลงานของพระเจ้า เพื่อเป็นข้อสรุปให้ตนเองรู้สึกดี ปลอบใจ
เอ้ย...ทำไมคิดเหมือนกันเลย ส่วนตัวผมคิดในทางเดียวกับคุณเลย
ในความคิดผม ความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นมันก็เป็นเพียงการคัดกรองสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วซ้ำแล้วซ้ำเล่า อะไรที่ดีกว่าก็อยู่รอด แย่กว่าก็หายไป ไม่ได้จำกัดความแค่มนุษย์ แต่หมายถึงตั้งแต่จุดเริ่มต้น (ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม)
สิ่งที่เรามองเห็นตอนนี้ว่ามันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ มันก็เป็นเพียง Survival Bias ที่เรามองไม่เห็นความเป็นไปได้อื่นๆที่มันหายไปแล้ว
คำว่าพระเจ้าสำหรับผม จึงเป็นเพียงกระบวนการบางอย่างที่คัดกรองสิ่งที่เหมาะสมต่อการดำรงอยู่ มาให้เราสังเกตเห็นเท่านั้น
ผมเชื่อหลักการพระพุทธเจ้ามากที่สุด ทุกสิ่งคือธรรมชาติ
เห็นด้วยครับ
ใช่ค่ะหลักของพระพุทธเจ้าคือความจริงของสัจธรรม
ศาสนาอื่นก็มีการกำเนิดจากการตรัสรู้ แบบพุทธเจ้านั้นแหล่ะ พระเจ้าไม่ได้มีแค่องค์เดียวหรอกสำหรับผม
วิธีการอธิบายของแต่ละระบบความคิดความเชื่อ วัฒนธรรมภาษามันแตกต่างกันออกไปแต่สุดท้ายคำตอบมันก็คือคำตอบเดียวกัน เราคือจุดเล็กๆในจักรวาลที่หาเหตุผลผลมาถกเถียงกันตลอดเวลา เพื่อคำตอบที่ถูกที่สุด แต่มันไม่มีอยู่จริง ❤️
สุดจริงคนนี้
อิสลามไม่ได้ศึกษาวิทยาศาสตร์โดยตรง ศึกษากับอันกรุอ่านอย่างเดียว แต่รุ้ก่อน วิทยาศาสตร์มาเปน พันๆ ปีแล้ว วิทยาศาสตร์ ยิ่งค้นคว้ายิ่งรุ้ ก้ยิ่งตรงกับอันกรุอ่าน อิสลามจะเจริญรุ่งเรืองในอนาคต คำภีร์บอกมา
ใช้ครับบางอย่างวิทยาศาสตร์ไปค้นหาเพราะอัลกรุอ่านบอก
โกหกละ เพราะคุณเป็นอิสลามคุณเลยพูดแบบนี้ ผมไปศึกกษามา ไม่ตรงกันเลย คัมภีรคุณออกทะเล
พระเจ้าอาจะมีอยู่สักที่ คงเป็นพลังงานบางอย่างเกินเราจะเข้าใจจริง แต่พระเจ้าคงไม่ใช่เสียงแปลกๆที่มาพูดกับบางคนในทะเลทราย แล้วให้ทำนั้นทำนี้ หรือห้ามบางอย่างที่ไม่สมเหตุสมผล หลักคำสอนส่วนใหญ่ในคำภีร์ต่างๆเกี่ยวกับการปฏิบัติตนมันก็มาจากความคิดความเชื่อจารีตดั่งเดิมของคนในสังคมนั้น แล้วเติมความศักดิ์สิทธิ์ลงไปโดยอ้างพระเจ้า เช่นเรื่องสิทธิของผู้หญิงในคำภีร์ กับวัฒนธรรมเดิมของอาหรับ มันก็จำกัดสิทธิแต่เดิม แม้การสืบทอดศรัทธาทางสายเลือด ก็เหมือนใช้ศรัทธาเพื่อรักษาอำนาจแก่ครอบครัวตัวเอง หรือนักบวชก็อ้างเรื่องศาสนาให้คนทำสงครามกันก็มี
พระเจ้าถ้ามีจริงคงยิ่งใหญ่เกินกว่าจะมาสนใจชีวิตในดาวเล็กๆแบบนี้ เมื่อมีทั้งจักวาลให้สนใจ
อันนี่ดีครับ ดีมากจริงๆครับ
ฟังแล้วก็น่าคิด อะไรหลายๆอย่างที่ไม่เคยคิด
ถ้าไม่หลอกตัวเอง มนุษย์สร้างพระเจ้านี่คือเรื่องจริง ธรรมชาติคือของจริง
คุณไม่ควรใช้คำว่า “หลอกตัวเอง” นะครับ มนุษย์เป็นแค่สปีชีส์เล็กๆ ยากที่จะทำความเข้าใจเรื่องแบบนี้ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดที่สุดในโลก แต่อย่าลืมว่าเราก็ไมไ่ด้รู้ไปซะทุกเรื่อง ยังมีทฤษฎีอีกมากมายที่มนุษย์ยังไม่ค้นพบ อย่ารีบด่วนตัดสินอะไรเลยครับ มีอะไรอีกหลายอย่างที่มนุษย์ยังไม่รู้และไม่สามารถทำความเข้าใจได้ อากาศที่เราหายใจเข้าไป เราไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า ถ้านักวิทย์ไม่ค้นพบว่ามันอยู่จริง มนุษย์ก็คงไม่เชื่อ บางสิ่งบางอย่างที่เราไม่รู้หรือไม่เห็น ก็ใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง เพียงแค่มนุษย์ไม่มีความสามารถที่จะพิสูจน์ว่ามีอยู่จริงได้
@@alex_rabbitigot7ahgasearmy609แล้วการที่มโนว่าพระเจ้ามีอยู่จริงนี่ก็หลอกตัวเองอะดิ เพราะนักวิทยาศาสตร์ยังไม่ค้นพบพระเจ้า แต่ดันเชื่อว่าพระเจ้ามีอยู่จริง อันนี้อิงจากที่คุณพูดเลยนะ
ธรรมขาติที่สร้างธรรมชาติ
ทุกสิ่งล้วนเป็นธรรมชาติ(ทุกสิ่ง)
แล้วทำไมมนุษย์เกิดมาจากธรรมชาติไม่ได้
คล้ายๆกับพ่อเป็นเกย์แม่เป็นเกย์แล้วลูกๆอีกร้อยกว่าคนก็เป็นเกย์ป่ะครับ
ขอบคุณคุณสิงห์มากๆ เคยคิดว่าตัวเองเปนคนไม่มีศาลนาแล้วผิดหรือป่าว แล้วตอบตัวเองไม่ได้ งง 555
ชอบความคิดนี้มากๆ
อะไรที่เกี่ยวกับบังโต Silly Fools Hangman ผมจะรีบกดเข้ามาดูอย่างไว ชอบฟังเขาพูดมีเนื้อหาสาระมากครับ ไม่ต้องถามครับว่ายังเพลงของเขาอยู่หรือเปล่า ผมบอกเลยครับว่าผมฟังทุกวัน เพราะผมฟังเพลงผมฟังให้รู้สึกและสามารถจับเนื้อหาสาระได้ ไม่ใช่ฟังเอามันแล้วจับเนื้อหาสาระไม่ได้
เหมือนกันเลยค่ะ
แสดงของภูมิปัญญาของคนตอบได้ดีเลยครับ เพราะต้องใช้ความรู้ การคิดวิเคราะห์หรืออะไรหลายอย่างๆที่คนนั้นเข้าใจมาอธิบาย
สุดจัด
รักป๋าเต็ด รักบังโต รักพี่วรรณสิงห์
เป็นอจินไตยครับ มนุษย์เรารับรู้ได้เพียงเศษเสี้ยวของธรรมชาติ
นายผิดแล้ว.. มนุษย์ไม่รู้จักธรรมชาติเลย ต่างหาก.. นายผิดแล้ว
ตรงกับความเปนจิง10000%ครับ เพราะพระเจ้าคือผู้สร้าง
ก็สอนกันมาแบบนี้ว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้าง... แล้วใครอ่ะที่สร้างพระเจ้า.. เวลาตอบก็ตอบแบบกำปั้นทุบดิน
@@user-yo4hq7nu2h ถ้าพระเจ้าถูกสร้างผู้นั้นไม่ใช้พระเจ้า ครับ
กำปั้นทุบดินจัง
สุดครับ
ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ศรัทธาของเรา ความเชื่อของเรา ก็เป็นของเรา 🙏❤️
พระเจ้าทรงสร้างสิ่งที่สมบูรณ์แบบ
และพระองค์ยิ่งกว่าความสมบูรณ์แบบ
สมบูรณ์เเบบต้องไหนข้อบกพร่องมากมายขนาดนี้
เราเป็นคนนึงที่หันมาสนใจศาสนา เพราะชอบดูรายการสำรวจโลกแล้วรู้สึกว่า ในธรรมชาติมันมีความเหลือเชื่อมากกกกกกกกกมาย
ลองศึกษาอิสลามดูนะคะ พิสูจน์การสร้างของพระเจ้าและการมีอยู่จริงของพระเจ้า ด้วยการศึกษาอัลกุรอาน (พระวจนะของพระเจ้า) วจนะของพระเจ้าถูกบันทึกไว้ในอัลกุรอานเมื่อ 1400 กว่าปีก่อน สิ่งที่ถูกบันทึกไว้ในอัลกุรอานล้วนสอดคล้องกับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่มนุษย์พึ่งจะมาค้นพบยังไม่ถึง100 ปี เช่น การสร้างจักรวาลของพระเจ้า หรือวิทยาศ าสตร์เรียกว่าทฤษฎีบิกแบง /การกำเนิดมนุษย์และการพัฒนาของตัวอ่อนมนุษย์/การสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินพระเจ้าทรงสร้างทุกสรรพสิ่งทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตขึ้นมา เราจะเห็นว่าทุกสรรพสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าสร้างมาอยู่กันอย่างสันติเพราะยอมจำนนต่อกฏระเบียบที่พระองค์ได้ทรงกำหนดไว้โดยไม่มีสิ่งใดฝ่าฝืนพระองค์ เช่น ภูเขา ต้นไม้ อากาศ การทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกายมนุษย์ การโคจรของระบบสุริยะจักวาลที่เป็นระบบระเบียบที่ดำรงอยู่โดยที่มนุษย์ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขกฏการทำงานของสิ่งต่างๆนี้ได้ และกฏระเบียบที่พระองค์ทรงสร้างไว้ให้แก่ทุกสรรพสิ่งนั้นคือกฏของพระเจ้าซึ่งมนุษย์ทั่วไปเรียกกันว่า “ ธรรมชาติ” นั่นเอง
เพิ่งดูคลิปเต็มจบ
ผมว่าต่อไป "คำถามนี้ไม่ถามไม่ได้ครับ"
คงต้องเพิ่มคำวถาม "คุณเชื่อในพระเจ้าไหมครับ" กับทุกศิลปิน แล้วล่ะครับ ป๋าเต็ด
คนที่ช่วยเหลือคุณสำคัญกว่าทุกอย่าง มีผลดีสำหรับชีวิตคุณ แต่ที่สำคัญคือการมีน้ำใจให้คนอื่นมันสำคัญกว่า ไม่ต้องพึ่งพาอะไรที่มองไม่เห็น ถ้าคนพึ่งพากันได้นั้นแหละคือความสุข
โลกเราไม่ได้ใหญ่อะไรเลย เล็กนิดเดียว แต่โลกหน้าอาคีรัตจะไม่มีที่สิ้นสุด พระเจ้าจะตอบแทนคนที่ทำความดี
บ้า
มาไกลมากแล้ว ครับ
เริ่มมองออกแล้ว ว่าเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่มีผู้สร้าง.
สมมุติ ว่า มีเป็นCDเปล่า 1ล้านแผ่น. รอสัก แสนล้าน ปี. จะมี หนัง เข้าไป อยู่ใน แผ่นไหนสักแผ่น นึง จะเป็นไปได้ไหมครับ. นั้นเหละ ต้องมีผู้ สร้าง. จะบอกว่ามันฟลุ๊ค ขึ้นมาเอง ก็ยังไงๆอยู่ ครับ
ป๋า กับ พี่เถื่อน. มีความรู้ มากครับ ผมไห้เลย
มันมีเหตุจะเกิดขึ้นอยู่เเเล้วทุกอย่างธรรมชาติคัดสรรค์
One above allสร้างพระเจ้าครับ
ในทางวิทยาศาสตร์และพระพุทธศาสนา ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น ต้องมีเหตุและผลครับ ถ้าไม่มีเหตุก็ไม่มีทางจะมีผลได้ครับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาเองได้ครับ ทุกอย่างเกิดขึ้นล้วนมีเหตุและปัจจัยครับ ถ้าคุณบอกว่าพระเจ้าเกิดขึ้นมาเองได้ ไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีจุดสิ้นสุด มันก็ขัดต่อหลักพื้นฐานของ วิทยาศาตร์และศาสนาพุทธ แล้วครับเพราะในทางวิทยาศาตร์และพุทธศาสนา ทุกสิ่งทุกอย่าง เกิดขึ้นได้ ต้องมีเหตุและผล ถ้าไม่มีเหตุก็ไม่มีทางมีผลได้ครับเหมือนกันครับ ถ้าหาเหตุไม่ได้ว่าพระเจ้าเกิดขึ้นมาได้ไง ผลคือก็จะไม่มีทางที่พระเจ้าจะมีตัวตนครับ เพราะฉะนั้น ถ้าคุณจะยื่นยันให้ได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีทางเกิดขึ้นมาได้เอง ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีผู้สร้าง คุณก็จะเจอถามกลับว่า แล้วถ้าคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีผู้สร้าง แล้วใครสร้างพระเจ้า แล้วพระเจ้าเกิดขึ้นมาได้ยังไงครับ คำถามงูกินหาง
ถ้าทุกอย่างต้องมีผู้สร้าง แล้วใครสร้างพระเจ้า แล้วพระเจ้าเกิดขึ้นมาได้ยังไงครับ
แล้วไครสร้างพระเจ้าละครับ ตอบผมที
@@markdaddy4361 มนุษย์นี่ไงสร้างพระเจ้า คำตอบก็ง่ายๆ
รู้สึกเหมือน ไฟฟ้า ⚡️ช๊อต แปปๆ หัวใจขวา..🦜🦴💕”ตลอดเวลา”😈🦜🦴
อะไรคือที่สิ้นสุด อะไรคือจุดเริ่มต้น ใครสร้างจุดเริ่มต้น แล้วใครสร้างผู้ที่สร้างจุดเริ่มต้น
แล้วมีศาสนาไหนให้คำตอบคุณได้บ้างกับสิ่งที่ถาม แต่มีคริส อิสลาม ยิวแท้ๆออโธดอคที่สามารถให้คำตอบคุณได้นะ
ผมอยากรู้ครับว่าศาสนาไหนที่ตอบข้อนี้ได้ ขอลิงค์หน่อยครับ
ทุกอย่างรอบตัวที่เราเรามองเห็นมีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุด เช่น สิ่งมีชีวิตต่างๆ ดวง อาทิตย์ จักรวาล
แต่พระเจ้าไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีจุดสิ้นสุด ซึ่งรอบตัวเราไม่สิ่งนั้นทั้งสิ้น เราจินตนาการไม่ถึง พระองค์ยิ่งใหญ่เกินกว่าแค่มนุษย์ยังเราจะจินตนาการถึง
โลกมีสุขและทุกข์ มีทั้งเชื่อและไม่เชื่อ จงอย่าได้เชื่อว่าเชื่อหรือเชื่อว่าไม่เชื่อ การเป็นอิสระจากความเชื่อนั่นแหละคือสุขสงบแท้จริง
ผมว่าไม่ใช่เพราะทุกอย่างมันลงตัวหรอก ทุกสิ่งมีโอกาสเกิดขึ้น แต่อะไรที่ฝืนธรรมชาติก็ไม่ได้ไปต่อ ที่เหลือมันเลยดูลงตัว
พระเจ้าสร้างระบบเเต่พระพุทธเจ้ามีวิธีออกจากระบบ...🙏🙏🙏
สุด
เพ้อเจ้อละ555
พระพุทธเจ้าก็อยู่ในระบบนี่แหละผมว่า แต่ท่านแค่น่าจะหาวิธีดับทุกข์ เพื่อให้อยู่ในระบบแบบมีทุกข์น้อยที่สุด ^^
@@nineorange นิพพาน ไม่อยู่ในระบบแล้ว
พระเจ้ามันสมเหตุสมผลก็จริง แต่ผมเชื่อในทางของพระพุทธเจ้ามากกว่า
พระเจ้ามีเพียง 1 เดียวครับ แต่ละศานามีพระเจ้าเดียวกัน แค่เรียกต่างกันและมีมุมมองต่องกันเฉยๆ
ผมขอพูดในฐานะศานาพุธละกัน
ในศาสนาพุธไม่เรียกพระเจ้า แต่เรียกสิ่งนั้นว่าธรรมชาติ พระพุธเจ้าค้นพบความจริงของธรรมชาติ และเข้าใจอย่างบบรลุเรื่องธรรมชาติ แล้วเอาความรู้นั้นมาเผยแผ่ให้เราอีกที
ต่างกันนิดหน่อย ที่คนที่เชื่อเรื่องพระเจ้า เชื่อว่าพระเจ้าเป็นตัวเป็นตนอยู่บนโลกสวรรค์ เเต่เเนวทางพุทธศาสนาไม่ใช่อย่างนั้น
อันนี้น่าคิดมากเลยครับ ผมก็เพิ่งเคยเจอมุมมองแบบนี้
ไช่ครับ ทุกศาสนามีพระเจ้าองเดียวกัน ถ้ามันเกิดจากธรรมชาติ ธรรมชาติคือความว่างป่าวไช่ไหม เพราะฉะนั้นความว่างป่าวไม่สามารถตัดสินคนให้ลงนรกหรือสวรรค์ได้ แล้วนรกสวรรค์ ใครสร้างคงไม่ไช่ธรรมชาติ หรือความว่างป่าว ลองคิดเเละศึกษาดูครับ ความเชื่อส่วนบุคคนนะครับ ขอบคุนครับ 🙂🙂
ถ้าเราเข้าใจเรื่องธาตุ 6 เราก็จะเข้าใจเรื่องมนุษย์ พระเจ้า และสัตว์ต่าง ๆ ธาตุ 6 มีอะไรบ้าง
1. ปฐวีธาตุ ธาตุดิน
2. อาโปธาตุ ธาตุน้ำ
3. เตโชธาตุ ธาตุไฟ
4. วาโยธาตุ ธาตุลม
5. อากาศธาตุ ช่องว่างต่าง ๆ
6. วิญญาณธาตุ ธาตุรู้
การเกิดขึ้นของคนก็ดี การเกิดขึ้นของพระเจ้าก็ดี การเกิดขึ้นของสัตว์ต่าง ๆ ล้วนเกิดมาจากธาตุเหล่านี้ทั้งสิ้น ถ้าเว้นขาดจากธาตุเหล่านี้แล้วไม่สามารถเกิดได้เลย
@@user-nd4ux4iq5c ก็ต้องถามต่อว่า อะไร คือสิ่งที่ทำให้เกิด ผู้สร้าง
สวัสดีค่ะ!👍👍👍❤️❤️❤️
แน่นอนจริงๆพี่สิงห์
พอหัวข้อเรื่องพระเจ้ามา มีความละเอียดอ่อนและเซ้นส์ซิทีฟในมุมมองแต่ละคนไม่เหมือนกัน แน่นอนว่าคำถามหลักๆเลยก็คือ พระเจ้ามีจริงไหม? แล้วเชื่อไหมว่ามีจริง? มันจะมาพร้อมๆกัน ถามว่าพระเจ้ามีจริงไหม เหมือนมีคนมาถามว่าเธอมองเห็นลมไหม? แต่เธอสัมผัสได้ใช่ไหมว่ามีลมพัดผ่านไปมารอบตัวเธอ สำหรับเรา บางสิ่งที่มองไม่เห็นหรือจับต้องไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าไม่มีอยู่จริง พอมานึกๆดูแล้ว พอถามว่าพระเจ้ามีจริงไหม ก็เหมือนถามว่า มนุษย์มาจากลิงจริงไหม? ยากที่จะคิด สำหรับเรายากที่จะเชื่อ เวลาไปสวนสัตว์ เรายังเห็นลิงถูกขังอยู่เลย แล้วก็เคยคิดว่า ไหนเป็นการวิวัฒนาการไม่มีที่สิ้นสุด ทำไมเราไม่กลายไปเป็นอย่างอื่นต่อ แล้วลิงในสวนสัตว์ทำไมไม่กลายมาเป็นคนหรือมนุษย์เหมือนเรา ฟังดูแรง แต่ถ้ามนุษย์มาจากลิง เราเหมือนขังบรรพบุรุษเราไว้ในกรงที่สวนสัตว์ประมาณนั้น บางครั้งยังถามตัวเองว่า เรามาจากลิงจริงๆเหรอ แล้วพิสูจน์อะไรได้ ในเมื่อไม่เคยมีใครอยู่ก่อนโลกนี้จะมีมา ว่าสิ่งต่างๆมันเกิดขึ้นและเป็นมายังไง มีแต่ข้อสันนิฐาน ไม่มีอะไรยืนยัน 100% แต่สิ่งเหล่านี้ก็ดันอยู่ในหลักสูตรการเรียนการสอนไปทั่วโลก เนี่ย มันอ่อนไหวและละเอียดอ่อนมากที่จะพูดหรืออธิบาย หรืออีกเรื่อง ถ้าถามว่าพระเจ้ามีจริงไหม ก็เหมือนถามว่า เชื่อไหมว่าโลกนี้เกิดจากทฤษฎีบิ๊กแบง? ถ้าเกิดการระเบิดแรงๆ ทุกอย่างกระจาย แต่ดันเกิดโลกที่สวยงามขนาดนี้ มีดอกไม้นานาชนิด ต้นไม้ ทะเล น้ำตก ภูเขา และสัตว์ต่างๆ รวมถึงมนุษย์ชาติ บางคนมองว่ามันฟลุค ระเบิดแล้วทุกอย่างกระจายวางอยู่ลงตัวพอดี กับบางคนอาจจะคิดว่า ระเบิดแรงขนาดนั้น โลกมันจะออกมาดีขนาดนี้ได้ไง ขึ้นชื่อว่าการระเบิด สิ่งที่ตามมา มีแต่การทำลายล้างและการสูญเสียมากกว่าจะเกิดสิ่งสวยงาม หรือถ้ามีคนถามว่า คุณเชื่อไหมว่าพระเจ้าสร้างคุณขึ้นมา? เราตอบตัวเองกันได้ไหม บางคนคิดว่าตัวเองไม่มีดีอะไร แต่บางคนรู้ว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาในโลกนี้ เขาอยากจะเป็นอะไรก็ได้ที่อยากจะเป็น ทำอะไรก็ได้ที่อยากจะทำ อยากไปให้สุดขีดความสามรถของตัวเอง ทุกวันนี้บางคนยังไม่รู้เลยค่ะว่าการได้ตื่นมาแต่ละวันมันพิเศษยังไง และเขาเป็นมนุษย์ที่น่าอัศจรรย์ยังไง และเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง และเขามีพลังที่อยู่ในตัวเองยังไง แต่ไม่เคยเอาออกมาใช้ ถ้าถามว่าพระเจ้ามีจริงไหมแล้วเชื่อพระเจ้าไหม คำตอบคือตัวเราเองเท่านั้นที่รู้ดี แล้วก็ เห็นบางคนบอก พระเจ้าก็มีคนสร้างพระเจ้ามาอีกที อาจจะพิมพ์แบบขำๆ แต่ก็ ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นพระเจ้าแล้ว ก็น่าจะเป็นผู้สูงสุดแล้วล่ะ ถ้าพระเจ้าถูกสร้างขึ้นมา พระเจ้าก็ไม่ใช่พระเจ้าแล้วล่ะ สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาจะยิ่งใหญ่กว่าผู้ที่สร้างมันขึ้นมาได้ยังไง เพราะคนที่สร้างพระเจ้าขึ้นมาได้ต้องเหนือกว่า สรุป บางคนค้นหาพระเจ้า เพราะอยากรู้คำตอบแล้วได้เจอพระเจ้าจริงๆ ก็มีค่ะ อยู่ที่จะหาหรือเปล่า แค่นั้น
ปล. ทั้งหมดเป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ
อัลกุรอานคือคำตอบทุกอย่างที่คุณอยากรู้ครับ ลองเปิดใจศึกษาดูครับ แน่นอน แหละแน่นอน คุณจะค้นพบความจริงทุกๆอย่างที่คุณไม่รู้มาก่อน
@@juzone1756 ขอบคุณมากค่ะ เราไม่ได้ศึกษาอัลกุรอาน แต่เราศึกษาจากคัมภีร์ไบเบิ้ล และเราได้คำตอบแล้วค่ะ
@@juzone1756พระพุทธเจ้ามีตัวตนจริงมีหลักฐานพิสูจน์ได้ ส่วนพระเยซูก็มีตัวตนจริงมีหลักฐานพิสูจน์ได้ ส่วน อัลเลอะ...ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่ามีตัวตนจริง มีแต่คนสร้างเรื่องราวขึ้นมา
พระเจ้าต่างอะไรกับผู้กำกับละครเวทีคะ?
@Munin Kammukkantorn ไหนพระเจ้า เอารูปมาให้ดูหน่อย ไม่ใช่แต่งเรื่องเป็นตุเป็นตะ ไร้ความจริง
ผมว่าป๋าเชื่อว่ามีพระเจ้า ผมรู้สึกเหมือนป๋าอยากรู้จักพระเจ้าจริงๆ แบบของจริง
พระเจ้า...ที่เป็นแบบบุคคล ไม่มีจริงครับ ทั้งในความหมายของบังโต และวรรณสิงห์
@@jirathjirakitsatitkhun8087 พระเจ้าแตกต่างจากสิ่งทุกสร้าง ถ้าพระเจ้าไม่มี ทุกสิ่งที่สวยงามบนโลกและจักวาลจะไม่มีทางเกิดขึ้นโดยบังเอิญ
พระเจ้าไม่ถูกกำเนิดและไม่ให้กำเนิด
ไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีจุดจบ
ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์
จากคำถามที่ป๋าถาม ป๋าสนใจจริงๆ
ยิ่งเปิดใจจะยิ่งเข้าใจ
ผมก็รู้จักพระเจ้านะ เมื่อวานยังมากินเหล้าบ้านผมอยู่เลย
คนนี้แหละครับที่สร้างพระเจ้าขึ้นมา จริงๆแล้วพระเจ้าไม่มีหรอกเราสร้างมันขึ้นมาเอง สร้างด้วยจินตนาการสร้างด้วยการบอกเล่า สร้างด้วยจิตคิดนึก
ผมว่าป๋าเริ่มจะนึกถึงว่าโลกนี้มีพระเจ้า
สิงห์ คือ ปัจเจกบุคคล
ชอบการตอบครับ
ความใคร่รู้ของมนุษย์นั้นมันไม่สิ้นสุด..
ให้ค้นหาเหตุผลมาจนหมดช่วงชีวิตของคน มันก็ไม่ได้คำตอบที่จริงที่สุดหรอก มันคือการคาดเดาทั้งหมดทั้งสิ้น แต่จะหยุดค้นหาก็ต่อเมื่อจิตและวิญญานเรานั้นได้ไปสำผัสสิ่งเหนือธรรมชาติด้วยตนเอง..
จนวันที่เรารับรู้ถึงสิ่งนั้นในวันที่เราตื่นขึ้น
คิดคล้ายๆ ผมเลยครับ ผมเกิดมาศาสนาพุทธนะครับ ตอนเด็กๆ เชื่อมาก พอโตขึ้นมาเรื่อยๆ ผ่านประสบการณ์หลายๆ อย่างมาก็ทำให้มานั่งคิดว่าสิ่งที่เราเชื่อมาตลอดมันเป็นจริงหรอ ก็เลยเริ่มศึกษาเริ่มหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับศาสนาทุกๆ ศาสนาแต่ก็ไม่หมดหรอกครับเพราะศาสนามีเยอะมากและแตกเป็นนิกายอีก พอยิ่งศึกษาไปมากเท่าไหร่ ยิ่งไม่เชื่อเท่านั้นครับเพราะคำสอนของแต่ละศาสนาก็ย้อนแย้งกัน จนตอนนี้ผมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องศาสนาไปแล้วครับ ผมกลายเป็นคนเชื่อในวิทยาศาสตร์มากๆ อะไรที่พิสูจน์ไม่ได้ผมไม่เชื่อเลย แต่พอศึกษาเรื่องวิทยาศาสตร์ สิ่งมีชีวิต ธรรมชาติ จักรวาลมากเข้าไปเท่าไหร่ มันทำให้ผมกลับมาคิดว่าทุกอย่างมันเป๊ะมาก เป๊ะเกินกว่าที่มันจะเกิดขึ้นมาได้โดยที่ไม่มีใครสร้าง
อะไรที่มนุษย์ไม่สามารถหาคำตอบได้ ก็จะมีการสร้างอะไรขึ้นมาเพื่อเป็นคำตอบเสมอ
@@saanitn อย่างเช่นอะไรบ้าง ?
@shield loman - *การศรัทธาในกฎสภาวการณ์(กฎแห่งความดี-ความชั่ว)* ความหมายของ *กฎกำหนดสภาวการน์* ภาษาอาหรับเรียกว่า *เกาะฎอ-เกาะดัร* ความหมาย *เกาะฎอ* คือ *การกำหนด การลิขิต* ความหมาย *เกาะดัร* คือ *อำนาจ การดำเนินการให้ลุล่วง* กฎกำหนดสภาวการณ์หมายถึงอะไร ? กฎกำหนดสภาวะคือกฎที่อัลลอฮฺกำหนดไว้กับทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างมา เช่น *กฎแห่งธรรมชาติ กฎแห่งการกำหนดอายุขัยของมนุษย์ กฎแห่งชะตากรรมชีวิต* ศรัทธาในกำหนดสภาวะหมายถึง ? การศรัทธาว่าอัลลอฮฺเป็นผู้สร้าง และกำหนดทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของอัลลอฮฺ เช่น *กฎจักรวาลวัตถุ กฎชีวภาพ กฎศาสนา* เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว อัลลอฮฺได้ทรงสร้างสรรพสิ่งขึ้นมาและได้สร้างกฎขึ้นมาเพื่อควบคุมมันไว้
*กฎดังกล่าวแบ่งออกได้เป็น*
1. *กฎธรรมชาติ* เป็นกฎที่มนุษย์ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ หรือฝ่าฝืนมันได้ และสิ่งถูกสร้างทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น *ท้องฟ้า อากาศ ภูเขา แผ่นดิน แร่ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟและสรรพสัตว์ทั้งหลาย รวมถึงอวัยวะในร่างกายของมนุษย์* ล้วนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรับใช้มนุษย์ในการที่จะบรรลุถึงวัตถุประสงค์ที่เขาถูกสร้างมาเป็นตัวแทนของพระองค์บนหน้าแผ่นดิน
2. *กฎการดำเนินชีวิต(กฎชะรีอ๊ะฮฺ)* เป็นกฎที่จำแนกแยกแยะระหว่าง *ความดี/ความชั่ว ความผิด/ความถูกต้อง ความจริง/ความเท็จ* ออกจากกันอย่างชัดเจน เพื่อที่จะบรรลุถึงวัตถุประสงค์ในการทดสอบมนุษย์ว่าจะมีความเคารพภักดีพระองค์หรือไม่หรือมนุษย์จะเลือกอะไร ดังนั้นบนเส้นทางชีวิตของมนุษย์จะมีการทดสอบทั้งเรื่องดีและไม่ดีตลอดเวลาเพื่อดูว่าเราจะปฎิบัติตามหรือปฎิเสธคำสอนของพระองค์
3. *กฎแห่งชะตากรรม* กฎดังกล่าวนี้คือกฎที่พระเจ้าวางไว้โดยสร้างมนุษย์ให้มี *รูปร่างหน้าตา ความรู้ความสามารถ ฐานะ ความเป็นอยู่และชะตากรรม* ที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นความลับที่มนุษย์ไม่สามารถรู้ได้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการทดสอบว่ามนุษย์จะเชื่อฟังและเคารพพระองค์หรือไม่ ถึงมนุษย์จะมีหน้าตา ฐานะและความสามารถต่างกัน แต่มนุษย์ก็มี *สติปัญญาและเสรีภาพที่จะเลือกฟังหรือปฎิเสธ* เหมือนกัน ดังนั้นมนุษย์จะมาอ้างว่าเป็นคนเลวเพราะพระเจ้าลิขิตมาให้เลวไม่ได้ คัมภีร์อัลกุรอานกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจนว่า *"เราได้สร้างมนุษย์มาจากอสุจิที่ถูกผสมเพื่อทดสอบเขา ดังนั้นเราจึงทำให้เขามีความสามารถได้ยินและได้เห็น และเราได้ชี้ทางให้แก่เขาเพื่อดูว่าพวกเขาจะเป็นผู้กตัญญูหรือเนรคุณ"* (กุรอาน76:2-3) เนื่องจากชีวิตของมนุษย์ต้องเจอบททดสอบอยู่ตลอดเวลายิ่งเป็นผู้ศรัทธาด้วยแล้ว การทดสอบจะยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ อัลลอฮฺจึงบอกให้รู้ว่าผู้ศรัทธาต้องวางตัวอย่างไร *"และเราจะทดสอบสูเจ้าด้วยบางสิ่งจากความกลัวและความหิวและการสูญเสียบางสิ่งจากทรัพย์สิน ชีวิตและพืชผล ดังนั้น จงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้อดทนที่เมื่อเคราะห์กรรมมาประสบแก่พวกเขา พวกเขาจงกล่าวว่า "อินนาลิลลาฮิ วะอินนาฮิลัยฮิรอญิอูน"(แท้จริงเราเป็นของอัลลอฮฺและยังพระองค์ที่เราต้องกลับไป) คนเหล่านี้คือผู้ที่จะได้รับคำอำนวยพรจากพระเจ้าของพวกเขาและความเมตตา และพวกเขาเหล่านี้คือผู้ที่ได้อยู่ในหนทางที่ถูกต้อง"* (กุรอาน2:155-157) นอกจากนั้นแล้ว อัลลอฮฺยังได้ทรงบอกบรรดาผู้ศรัทธาไว้ในกุรอานว่า *"โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จงขอความช่วยเหลือต่ออัลลอฮฺด้วยความอดทน และการดำรงนมาซ แท้จริง อัลลอฮฮจะทรงอยู่กับบรรดาผู้อดทน"* (กุรอาน2:153)
*ดังนั้นกฎกำหนดสภาวการณ์แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ*
1. *ประเภทเปลี่ยนแปลงไม่ได้(กฎตายตัว)* เช่น *ระบบสุริยจักรวาล วงโคจรโลก การเกิด การตาย อายุขัยของมนุษย์ ปัจจัยยังชีพแต่ละชีวิต*
2. *ประเภทที่เปลี่ยนแปลงได้* เช่น *วิถีชีวิต ความรู้ โรคร้ายต่างๆ บททดสอบต่างๆ*
@shield loman อันนี้คุยกับใครครับ ถ้าคุยกับผม ผมจะตอบว่าผมไม่ได้คิดว่าพระเจ้าเป็นคนสร้างนะครับ แต่พระเจ้าต่างหากคือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นรวมถึงพระพุทธเจ้าและอัลเลาะห์ด้วย ส่วนเรื่องจักรวาลผมเองก็ยังไม่มีคำตอบว่ามันเกิดขึ้นเองหรือมีใครสร้าง แต่ถ้าตามวิทยาศาสตร์บอกก็คือเริ่มจากการระเบิดครั้งใหญ่ที่เรียกว่า Big Bang แต่ผมก็คิดว่าหลายๆ อย่างมันเป๊ะเกินจะบังเอิญหรือเกิดขึ้นมาเอง แต่ถ้าบอกว่ามีผู้สร้าง ก็ต้องมีคำถามต่อมาอีกว่าใครเป็นคนสร้างผู้สร้าง สรุปแล้วเรื่องนี้ผมก็ยังไม่มีคำตอบสำหรับตัวเองครับ แต่ผมก็ยังเป็นคนเชื่อในวิทยาศาสตร์อยู่นะครับเพราะหลายๆ อย่างวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้
@shield loman แล้วคุณปฏิบัติอะไรมาหรือครับ ไหนเล่าให้ฟังมั่งสิ
วรรณสิงห์เขากินอะไรเป็นอาหารครับ มุมมอง สุดๆ
พอเห็นพี่สิงห์พูดเรื่องวิทย์ อยากให้พี่แทนเข้ามาจอยมากเลย ฮ่าๆๆ
ส่วนตัวเชื่อว่ามันคือความบังเอิญของธรรมชาติจากความน่าเป็นล้านๆๆๆๆๆครั้ง (ไม้ยมกอาจจะไม่พอ)
เหมือนวางขวดปากขนาดรูเข็มไว้บนพื้นโลก ที่ฝนตกมาเป็นล้านๆเม็ด แสนล้านล้านเม็ดฝนอาจไม่ลงขวด แต่ผ่านไปหลายปีที่มากพอ (ซึ่งยังพิสูจน์ไม่ได้แน่ชัด (exactly)ว่าโลกมีอายุกีปี่) น้ำก็จะเต็มขวดแน่นอนในวันนึง
วางกรอบไว้สั้นๆว่า ถ้ามีโอกาสและเวลาอันไม่จำกัด และ ทฏษฏีการคัดสรรโดยธรรมชาติ ทุกอย่างเกิดขึ้นเท่าที่มันคงอยู่ได้ครับ
ปล.ประเด็นไม่ได้อิงศาสนาครับ
บังเอิญ กล่องชนกล่องล้านๆครั้งกลายเป็น นาฬิกา
เม้นเซ้นจริงหรอ ที่ใช้คำว่าบังเอิญกับสิ่งที่มีระบบระเบียบ ทำงานกันอย่างสอดคล้องกันทั้งระดับจักรวาล ระดับโลก ระดับเซลล์ เอาแค่ระดับDNA มนุษย์ ใช้คำว่าบังเอิญได้จิงหรอคะ ไม่ใช่ว่ามีผู้ที่ออกแบบไว้หรอ ลองคิดดูอีกทีค่ะ
จักรวาลมีดวงดาวล้านดวง โคจรด้วยความเร็ว แต่โคจรอย่างเป็นระบบ ตามหน้าที่ของมัน เป็นไปไม่ได้ ที่ไม่มีผู้ควบคุม ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ไม่แย่งกน้าที่กัน รวมถึง ระบบในร่างกายมนุษย์อันซับซ้อน มันเป็นไปไม่ได้เลย จะไม่มีผู้สร้าง❤
@@anttalekdee3948 มันเป็นไปได้ตามทฤษฎีวิวัฒนาการ อะไรที่มันอยู่ไม่ได้มันก็ไม่อยู่ให้เห็นไง ไอ้ที่เห็นๆมันอยู่รอดมาได้ตามระบบของมัน
•
พระเจ้าไม่มีหรอก มันมีเรื่องไร้ระบบระเบียบมากมายตอนนี้ที่ก็ไม่เห็นว่าพระเจ้าจะทำอะไรครับ ถ้าพระเจ้ามีต้องบันดาลได้เลย … ด้วยพลังที่มากมาย อย่างที่ว่าๆกันไว้
.
ไอ้เรื่องไร้ระบบระเบียบตอนนี้ ก็รอทฤษฎีวิวัฒนาการต่อไป ถ้าเหมาะสมก็รอด อยู่ไม่ได้ก็หายไปเรื่อยๆ จนหมด
เป็นหัวข้อที่ถามใครก็สนุกครับ อยากให้ถามแขกทุกคนเลย555
เมื่อก่อนคนฝรั่งเชื่อเรื่องพระเจ้า
แต่ทำไมสมัยนี้ฝรั่งจึงหันมาเชื่อตามรอยพระพุทธเจ้ามากขึ้น?
@@user-li9uc8ig4tไม่นะครับนักวิทยาศาสต์ส่วนมากที่ได้รับรางวัลโนเบล คือคนที่เชื่อในพระเจ้าครับ ส่วนเอทิสหรือคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้าไม่เยอะมากครับ ไปหารายชื่อได้ครับ บางคนบอกคนที่เชื่อในพระเจ้าจะไม่เจริญงมงาย เเต่ความรู้ที่เป็นพื้นฐานคือมาจากคนที่เขื่อในพระเจ้าทั้งนั้น ส่วนทฤษฎีวิวัฒนาการที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวหลักของเอทิสก็ถูกปัดตกไปเเล้วว่าไม่เป็นความจริง
ตอนนี้ไดโนเสา มีอยู่เต็มในสภาไทยครับ
ศาสนาเกิดจากความกลัวและการหาที่พึ่งในโลกอันโหดร้าย นั่นแหละครับคำตอบ และ การกำเนิดของพระเจ้า
3ท่านชุมสายด่วน
น่าจะมีอะไรให้ว้าว กันเป็นแน่
จริง
++++วิทยาศาสตร์บังโตก็ได้อยู่นะ
บังโตคือคนที่ไร้ศาสนามาก่อนวรรณสิงห์ และอีกไม่นานวรรณสิงห์จะยอมรับว่าทุกอย่างมันต้องมีผู้สร้างแล้วก็เป็นผู้ศรัทธาคนต่อไป เพราะความจริงมันมีเพียงหนึ่งเดียว.
@@hugoesprada851 ใช่ๆแบบพยายามหาความจิง เบื่อชีวิตที่ต้องอยู่โดยหลอกตัวเอง
+1
พระเจ้าเกิดจากจินตนาการของคนนี่เอง ดังนั้นพระเจ้าไม่ได้สร้างคนแต่คนนี่ละสร้างพระเจ้าจากจินตนาการ คือคิดไปเอง จบ
ไปโชว์เต๊งที่อื่นเถอะครับ
@@bugmj70 รับไม่ได่อ่ะดิ
พูดถูกมากเลยคับ
ชอบครับตั้งแต่เถื่อน travel
เอาจริงๆเราเป็นมุสลิมคนนึงที่ตั้งคำถามตั้งแต่เด็กเรื่องพระเจ้า โตขึ้นมาได้เข้าใจเรื่องกฎเกณฑ์ธรรมชาติ มันลงตัวอย่างน่าเหลือเชื่อมากๆ มีระบบขับถ่าย มีระบบหายใจเพื่อให้มนุษย์มีชีวิตรอด คำถามที่ตามมาอีกคือ “ทำไมมนุษย์ต้องมีชีวิตรอด” ซึ่งเป็นคำถามที่ต่อยอดให้เกิดขึ้นอีกหลายคำถามมาก ยากเกินกว่าที่มนุษย์อย่างเราจะเข้าใจ ซึ่งมันเป็นอะไรที่perfect มากๆ มันเกินคำว่า”บังเอิญ” มนุษย์เป็นแค่สปีชีส์เล็กๆ ยากที่จะเข้าใจเรื่องบางเรื่อง โตมาเราก็เชื่อในพระเจ้าอย่างไม่มีคำถามเมื่อได้ลองอ่านเกี่ยวกับการสร้างโลก มันไร้ที่ติมากจริงๆ
คำภีคนก็เป็นคนเขียนมา
คนจะแต่ง คำภีร์ ขึ้นมา ตั้งแต่พันปีที่แล้ว มีเรื่องที่ตรงกับวิทยาศาสตร์ทุกเรื่อง ได้ไง ของผม อิสลาม บอกว่า พระเจ้า สั่งใช้ แล้วพี่ที่บอกว่า คัมภีร์คนก็เขียน คนของพี่ ที่ว่า รู้ได้ไง
อัลกุรอาน ไม่ได้ถูกเขียนขึ้นอย่างที่พวกเขากล่าวหาต่อ อัลกุรอาน
อัลกุรอาน เป็นวัจนะของ อัลลอฮฺ
แล้วก่อนมีมนุษย์โฮโมเซเปี้ยน จะมีมนุษย์ที่พูดไม่ได้คนล่ะสายพันธุ์กับเราปัจจุบันนี้ พระเจ้าสร้างมาทำไม เพราะสร้างมาก็พูดไม่ได้ ไม่รู้บาปบุญ อิสลาม ไม่เชื่อเรื่องวิวัฒนาการแต่ ความจริงคือ มีการวิวัฒนาการ งั้นอิสลามก็ไม่มีจริงสิ
@@user-pi5vx5hj3g อิสลามมีมาตั้งแต่มนุษย์คนแรกแล้วครับ โดยมนุษย์แต่ละยุคจะมีผู้นำที่พระเจ้าส่งมาทดสอบ อิบบราฮิม โมเสส เยซู นบีมูฮัมมัด (และท่านอื่นๆอีกกว่าสามแสนคนในทุกยุคทุกสมัยและกลุ่มชน) ซึ่งบททดสอบจะแตกต่างกัน และพระเจ้านั้นถูกเรียกโดยหลายนามในแต่ละกลุ่มชน และนามท้ายสุดของพระองค์คืออัลลอฮุ
ส่วนเรื่องทฤษฎีวิวัฒนาการ อิสลามไม่เชื่อในเรื่องนั้นครับ
ลองหาอ่านหรือดูตาม TH-cam ดูครับ ว่าทำไมอิสลามไม่เชื่อเรื่องวิวัฒนาการ
พระเจ้า เป็นผู้สร้่างสรรพสิ่ง
แล้วใครสร้างพระเจ้า?
บัง(สติปัญญาตอบ) เราไม่มีสิทธิ์ตั้งคำถามนั้น 55555555555555555 จนตรอก
ผู้มีสติปัญญา ชอบหลักของเหตุผล มีสิทธิ์ที่จะสงสัย และตั้งคำถาม และพร้อมหาคำตอบให้ตัวเองฉลาดขึ้น
พระเจ้าได้บอกไว้ในอัลกุรอานในซูเราะห์ตุ้ลนะฮ์ลูไว้ว่า
#ดังนั้นผู้ทรงสร้างย่อมไม่เหมือนกับผู้ถุกสร้าง
พวกเจ้าไม่ใคร่ครวญดอกหรือ
*ฉะนั้นคำถามว่าใครสร้างพระเจ้า
ก็ไม่ควรถามครับเพราะถ้าพระเจ้าถึกสร้างก็ไม่ใช่พระเจ้าครับ
(ใช้สติปัญญาคิดครับอย่าใช้อัคติคิดครับ)
@@safeegatmane3570 เอาที่สบายใจเลย ผมคิดแบบนี้ เพราะนีคือสติปัญญาผม ผมไม่ได้ดูถูกพระเจ้าคคุณ ฉะนั้น บังบางคน ก็ไม่ควรมาหยาบพระเจ้าของพวกผมเช่นกัน
@@winlotto54 ใครไปหยาบกับพระเจ้าคุนเหรอครับ
เขาพวกนั้นก็จะบาปครับที่ไปดูถุกพระเจ้าพวกเขาครับ
#ผมจะพุดให้คุนคิดและฟังน่ะครับไอ้การที่เราไปตั้งคำถามว่าใครสร้างพระเจ้านี่มันก็ไม่ต่างอะไรกับไปดุถุกพระเจ้าของคนที่นับถือหรอกครับถึงจะไม่ระบุว่าศาสนาไหนก็ตามครับ
*เพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นเชื่อว่าพระเจ้าไม่ถุกสร้างครับและเชื่อว่าพระเจ้ามีองค์เดียวครับ
เพราะความเชื่อมันต่างกันครับถ้าคุนจะหาความจริงเพื่อตังเองฉลาดมากขึ้นคุนก็ต้องยอมรับผลที่จะตามในการตั้งคำถามด้วยครับ
เพราะทุกๆคำถามย่อมมีคำตอยเสมอครับ
@@safeegatmane3570 "ครับไอ้การที่เราไปตั้งคำถามว่าใครสร้างพระเจ้านี่มันก็ไม่ต่างอะไรกับไปดุถุกพระเจ้าของคนที่นับถือหรอก" นี่มันความคิดเห็น เหมารวมของคุณ คนอื่นเขาอ่าน เขาก็รู้ว่ามันต่างกัน ระหว่าง ถามว่าใครสร้างพระเจ้า กับ หยาบพระเจ้า ถ้าคิดว่าคำถามแบบนี้หยาม ก็ไปเอาโทษคนถามสิ ซึ่งก็ไม่ใช่ผม ผมแค่โค้ดคำพูดมา
@@safeegatmane3570 "ครับไอ้การที่เราไปตั้งคำถามว่าใครสร้างพระเจ้านี่มันก็ไม่ต่างอะไรกับไปดุถุกพระเจ้าของคนที่นับถือหรอก" นี่มันความคิดเห็น เหมารวมของคุณ คนอื่นเขาอ่าน เขาก็รู้ว่ามันต่างกัน ระหว่าง ถามว่าใครสร้างพระเจ้า กับ หยาบพระเจ้า ถ้าคิดว่าคำถามแบบนี้หยาม ก็ไปเอาโทษคนถามสิ ซึ่งก็ไม่ใช่ผม ผมแค่โค้ดคำพูดมา
เหมือนป๋ากำลังจะได้รับทางนำ
สำหรับผมแล้ว โลกนี้คือพระเจ้าครับ
🍉 เราเชื่อเรื่องกรรม เป็นเหตุและผลที่สมเหตุผลที่สุด / ทำเหตุเช่นใด ก็จะได้ผลเช่นนั้น / ไม่มีพระเจ้าที่ไหนกำหนดหรอก
กำ
พระเจ้า..เป็นคำตอบ..อาเมน