พลิกโฉมรถ SUV และกระบะไฟฟ้า ด้วย RE-EV!! วิ่งไกลขึ้น 4-5 เท่า ไกลสุดถึง 1,200 กม.จะเข้าไทยหรือเปล่า?
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 17 ก.ค. 2023
- 🚘⚡อัพเดทเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคตและพลังงานสะอาดที่น่าสนใจทั่วโลกทางเลือกให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ที่เว็ปไซป์ได้แล้ว : evguarantee.net💥💥
📍กลุ่มสำหรับ คนรักรถ และชอบแต่งรถ Tesla กดเข้าเลย 👉🏻 bit.ly/3YG41fE
เข้ามาเป็นส่วนนึงในการผลักดัน สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ👇👇
/ @welldoneguarantee
FB: @welldone guarantee
Tik Tok: bit.ly/3goOcUU
IG: welldone_guarantee
ติดต่องานได้ที่
welldone.guarantee@gmail.com - ยานยนต์และพาหนะ
สนใจคอร์สเรียนสร้างอาชีพ EV และโซล่าร์ :
lin.ee/7f6O66K
สนใจแฟรนไชน์ร้านมอไซค์ไฟฟ้า
lin.ee/7f6O66K
line openchat :
bit.ly/3ScqFYT
📍กลุ่มสำหรับ คนรักรถ และชอบแต่งรถ Tesla กดเข้าเลย 👉🏻 bit.ly/3YG41fE
Website: www.evguarantee.net
สน😊😊
Line open chat ให้ใส่รหัสแชทว่าอะไรครับ
@@samuraikom EVnews
ฟฟฟฟไม่
ชอบแนวคิดนี้มาก รถไม่ต้องแบกแบตเตอรีที่ทั้งหนักและแพง เอาแค่ให้วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ 200 โล ก็พอ วันไหนไปต่างจังหวัด เราก็มีเครื่องปั่นไฟไปเอง จะเข้าป่าหลายๆวันก็ไม่ต้องห่วงที่ชาร์จ
มีข้อดีอีกหนึ่งข้อครับ คือ เมื่อเครื่องยนต์ปั้นไฟอย่างเดียว เมื่อปั่นแล้วรอบนิ่งภาระโหลดมีน้อย ไม่กระชากมาก เหมือนรถยนต์ทั่วไปที่ใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อน หรือจังหวะเร่งแซง จึงทำให้ เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานยาวนาน สึกหรอน้อยมาก เมื่อเทียบเท่ารถยนต์น้ำมันล้วน และ แบบ phev
ในค่ายญี่ปุ่น นิสสันทำได้ทันที แค่เพิ่มแบตเตอรี่ใน Kicks
เหมาะกับการใช้งานมากครับ เพราะการเดินทางไกลก็ไม่ต้องกังวลกับแบตหมด ถ้าวิ่งระยะใกล้ในเมืองก็ชาร์จที่บ้านทุกวัน ไม่ต้องใช้น้ำมัน ใข้เฉพาะเดินทางไกลเผื่อถ้าหาที่ชาร์จไม่สะดวก แต่แบตต้องใช้ได้สองร้อยถึงสามร้อยกิโล น่าจะดีครับ
สรุปสั้น ๆ คือ
REEV คือไฮบริด
Hybrid แปลว่า 2 อย่างรวมกัน
LPG+เบนซิน ก็คือ ไฮบริดนะ
Epower ให้เครื่องทำหน้าที่ปั่นไฟ แบบหัวจักร
แต่ถ้าหัวจักรมีแบต และชาร์จไฟจากภายนอกได้ ก็คือ REEV
เรียกง่าย ๆ ว่า ถ้า Epower ขยายแบตเตอรี่และเสียบชาร์จจากภายนอกได้จะกลายร่างเป็น REEV
อ้าวถ้างั้นมันก็สามารถวิ่งน้ำมันเพียว ๆ ก็ได้ดิงั้นอะ
แต่ข้อเสียงของมันก็ยังคงเป็น ต้องดูแล 2 ระบบเหมือนกับ PHEV
แต่ถ้า PHEV ปรับตัวเองให้กลายเป็น REEV ก็น่าจะได้นะครับเป็นโหมด 4
Engine Only
Engine หลัก มอเตอร์ไฟฟ้าเสริมกำลัง
มอเตอร์หลัก Engine ปั่นไฟ แหง๊ก ๆ แต่ Generator มีตัวเดียว แต่ถ้าใช้มอเตอร์ล้อหลังก็น่าจะทำงานได้
ไฟฟ้าล้วน
น่าคิด ๆ
มันก็นิสสันคิกส์นี่ละแบบเดียวกันเลย
จริงได้มีอะไรใหม่เลย แค่ปรับขนานหรือนุกรมแค่นั้น
@@xxx966553แต่นิสสันคลิกมันไม่มีที่ชาตไฟแบตจากภายนอกนี่นา
อธิบายได้เข้าใจกว่าในคลิปเสียอีก👍👍
E-Power ชัดๆ
แต่ชาร์จไฟได้
ใช่ครับในจีนฮิตมาก
ผมก็เข้าใจมาตลอดว่า Kick E-Power คือ Re-ev กับ Hr-V ตัวใหม่ แต่ฟังค์ชั่นนี้อยากให้เข้ารถกระบะมากเลย แรงมายิ่งกว่าเดิมอีก
สรุป REEV คือ PHEV ลดสเปค
REEV วิ่งได้ 2 แบบคือ 1.มอเตอร์ใช้ไฟจากแบต 2.มอเตอร์ใช้ไฟจากเครื่อง
ข้อดี ไม่มีเกียร์หรือมีก็ single speed เกียร์สึกหรอช้า ประหยัดต้นทุนในการผลิต รถถูกลงคนเข้าถึงได้ง่ายกว่า ระบบไม่ซับซ้อนดูแลง่ายดว่า
ข้อเสีย ช่วงความเร็วสูงกินแบตเหมือน EV
PHEV วิ่งได้ 4 แบบ 1.มอเตอร์ใช้ไฟจากแบต 2.มอเตอร์ใช้ไฟจากเครื่อง 3.เครื่อง+มอเตอร์ 4.เครื่องยนต์ล้วน
ข้อดี มีเกียร์และเครื่องช่วยในช่วงความเร็วสูงประหยัดกว่า ทำได้ทุกอย่างที่ REEV ทำได้ ทำได้มากกว่าด้วย
ข้อเสีย เพิ่มการดูแลเกียร์ไปด้วย ราคาแพงกว่าแน่นอน ดูแลเกือบเต็ม 2 ระบบ
ทั้ง 2 ระบบก็ยังมีข้อเสียในเรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาอยุ่ดีครับ เนื่องจากตัว Generator ที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟตามภาพ ยังต้องการของเหลวที่ต้องเปลี่ยนถ่ายเมื่อครบระยะ กรองต่างๆ อยู่ดีครับ ไปๆมาๆจะแพงกว่ารถไฟฟ้า 100% อีกเพราะต้องดูแลทั้ง 2 ระบบ
เครื่องยนต์ใน REEV น่าจะเรียกเครื่องปั่นไฟมากกว่าเครื่องยนต์ขับเคลื่อนที่เข้าใจแบบเดิมๆ เครื่องน่าจะเน้นประสิทธิภาพการปั่นไฟให้ได้มากที่สุดต่ออัตราการกินน้ำมันต่อลิตร ไม่ใช่เน้นแรงม้า ดังนั้นน่าจะซับซ้อนน้อยกว่าเครื่องยนต์กำลัง
แล้วต้องเติมน้ำมันเท่าไหร่ เพื่อให้วิ่งได้เท่าไหร่นะคับ
เป็นไปได้มั้ยคับว่าในอนาคตอันใกล้ค่ายรถในไทยจะใช้ระบบนี้กับรถกะบะปิคอัพในไทย แต่ผมก็มีข้อสังเกตุอยู่ว่าแรงฉุดลากจะมีพอกับการบรรทุกที่คนไทยทั่วไปมักจะดัดแปลงให้บรรทุกน้ำหนักระดับ 4-5 ตันได้ ซึ่งมากเกินกว่าที่ค่ายรถออกแบบมา ถ้าได้ถือว่าตอบโจทย์คอปิคอัพบรรทุกแน่นอน
กว่าระบบไฟฟ้าจะพัฒนาจนวิ่งได้ 1000 Km. โดยการชาร์เพี่ยงครั้งเดี่ยว ยังต้องใช้เวลาพัฒนาอีดนาน ฉะนั้น รถระบบไฮบริด PH-EV. RE-EV จึงเป็นรถที่น่าสนใจในตอนนี้ ใช้น้ำมันน้อยแต่ได้ระยะทางกับประสิถิภาพมากชึ้น ตอบโจทการใช้งานที่สุดแล้ว
ใช่ครับแต่อยากให้เครื่องปั่นไฟมีccน้อยลงหน่อย700ccน่าจะพอปั่นไฟแล้วประหยัดน้ำมั้นปล่อยคาร์บอนน้อย
@@yourlovestation8984freeน้อยไป
ขอบคุณมากครับ สำหรับข่าวสารดีๆ
การจัดกลุ่มน่าจะดูเกณฑ์จาก emission ถ้าไม่ zero emission น่าจะถูกผลักไปอยู่กลุ่มไฮบริดอยู่ดี
อยากรู้จังเลย เป็นไปได้ไหม เอาเครื่องเท่า เวฟ มาปั่นไฟ อาจจะใส่อัตราทดเพิ่ม เพื่อให้มันประหยัดกว่าเดิม หลักการผมว่าน่าจะหลายๆ รถไฟ เครื่องมันใหญ่ๆ มันไม่ได้ขับเคลื่อนโดยตรง มันปั่นไฟให้มอเตอร์ มอเตอร์มันติดล้อเลย
รถเก๋งEV และ micro suv ของทาทา บอกว่าจะมีเครื่อง ยนต์1-2 สูบ ด้วย น่าจะเป็น REEV ด้วยไหมครับ?
สนใจเลย
น่าสนใจมาก ณ เวลานี้ เป็นเทคโนโลยีที่มาบรรจบกันเพื่อแก้ปัญหาเรื่องระยะทาง
พูดให้เข้าใจใน 2 วินาที มันก็คือ Nissan E-Power ที่แบตใหญ่ขึ้น และ เสียบปลั๊กได้
สำหรับผม RE-EV ก็แค่การเล่นคำของผู้ผลิต เพื่อหลอกคนใช้ให้รู้สึกว่ามันเป็นรถ EV ทั้งๆที่จริงๆ มันก็คือ รถสันดาปแบบไฮบริดที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนแค่นั้นเอง เพราะ สุดท้าย เราไม่สามารถปล่อยให้น้ำมันค้างในถังนานๆ มันจะทำให้ระบบปั่นไฟมีปัญหา คุณจะถูกบังคับให้ต้องใช้น้ำมัน กับ ไฟฟ้าสลับกันไปมาอยู่เรื่อยๆ ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าแบบเพียวๆได้ตลอดครับ
ข้อดี คือ รวมข้อดีของทั้งรถน้ำมัน และ รถ EV ไว้ในคันเดียวกัน
ข้อเสีย คือ รวมข้อเสียของทั้งรถน้ำมัน และ รถ EV ไว้ในคันเดียวกัน เช่นกัน
หักลบ กลบหนี้แล้ว ผมมองว่าเสียมากกว่าได้ สำหรับรถกระบะ ถ้าเทคโนโลยีแบต กับ ความเร็วในการชาร์จยังไม่มากพอ ทนใช้สันดาปไปก่อน อีก 2-3 ปี ก็ไม่เสียหายครับ การต้องคอยมาดูแล 2 ระบบไปพร้อมกัน และต้องแบกน้ำหนักมหาศาลไปกับรถด้วย ต่อให้เป็นแบตแค่ลูกกลางๆแต่ก็ต้องแบกเครื่องยนต์สำหรับปั่นไฟที่หนักไม่ใช่เล่นไปด้วย มันจะเหลือน้ำหนักบรรทุกอีกสักเท่าไหร่กันเชียว สำหรับคนที่ใช้รถกระบะเพื่อการบรรทุกจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ๆครับ ยกเว้นเป็นพวกกระบะแต่งซิ่ง ที่ไม่เคยบรรทุกอะไรเลย นั่นก็อีกเรื่องนึง
จริงๆเครื่องยนต์ที่ปั่นไฟควรมี CC น้อยที่สุด700cc น่าจะไม่หนักมาก
เครืองยันม่าร์ปันไฟ😂😂😂😂😂
@@yourlovestation8984 ผมมองว่าเครื่อง1.9ของดีแม็คยกออกมาปั้นไฟแล้วแทนด้วยมอเตอร์50kwหรือมากกว่าด้วยแรงบิดของมอเตอร์ที่มากกว่าเครื่องยนต์จะทำตอบสนองต่อการใช้งานมสกขึ้น
รอรถแบบนี้อยู่ครับ ขนาด ฟอร์จูนเนอร์
ชอบแบบนี้คับ เหมาะกับรถกะบะวิ่งได้ไกลขึ้นไม่ต้องใช้แบตลูกใหญ่ที่มีราคาแพง
ถ้าเป็นแบตเกลือ+reev คงดีน่าจะถูกลงอีก
อันนี้ผมว่าดีนะครับน่าสนใจ
ตอบโจทย์ดีครับ ปัจจุบันถ้าขับในเมืองก็ใช้รถไฟฟ้าแต่ถ้าไปเที่ยวตจว.ก็กลับไปใช้รถน้ำมันเหมือนเดิม ถ้าได้แบบนี้ก็มีรถแค่คันเดียวได้เลย
เครื่องแบบนี้ดีครับ แต่คงจะเป็นรถสนามแข่งส่วนใหญ่ เพราะ ราคาน่าจะสูงอยู่แรกๆ เพราะที่จริง รถต้องเป็นแบบนี้ละครับ ไม่ไฟฟ้าอย่างเดียว หรือ น้ำมันอย่างเดียว 2 ใช้ มอเตอร์แทนเครื่องยนต์แบบ ไฮบริด ที่ของเสียเยอะมาก
แบบใหม่นี้จะดีกว่า แล้วจะจบปัญหาทุกอย่างได้เลย
ผมว่าแบบนี้ดีครับ😊
มีเบอร์ติดต่อไหมครับ
หน้าสนใจReev
nissan kick version แบตใหญ่ขึ้น
ใช่ครับควรจะขายดีแต่กับขายไม่ดีเป็นเพราะอะไร
ท้ายไม่สวย แถวหลังเล็ก ลองเอาWRV ลง e-powerดิ
@@kwangRayอัตราประหยัดน้ำมัน ต่างกันน้อยเกินไป เเถมต้องดูเเล เซอร์วิส เหมือนต้องดูเเลรถ 2 คัน ในคันเดียว
คนละแบบกันครับ nissan kick เป็นรถ hev ในโหมด ev ต้องติดเครื่องยนต์ตลอดเวลา แต่ reev เป็นรถ bev ที่พกเครื่องปั่นไฟติดรถไปด้วย จะใช้ปั่นไฟหรือไม่ก็ได้ครับ
ต้องบอกว่า e-power แบบมี plug-in ครับ
E power มีลิขสิทธิ์ หรือเปล่า เหมือนอันนี้จพยามยามหลีกเลี่ยง ที่จะใช้ Epower
ผมอยากเสนอวิธีนึงคือเครื่องยนต์ที่ปั่นไฟให้ cc น้อยที่สุดเท่าที่จะปั่นไฟได้700cc น่าจะพอแล้วล้อทั้ง 4 ติดแม่เหล็กกับทองแดงหมุนปั่นไฟกลางอากาศโดยที่ไม่ต้องใช้พลังงานเพิ่ม
เครื่องยนต์เล็ก อาจจะไม่พอปั่นไฟก็ได้ครับ ไม่งั้นนิสสันคงใช้แค่ e power 1.2 ลิตรไปแล้ว
ตัว x trail ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไป ยังต้องขยับไปใช้ e power 1.5 ลิตรเลยครับ
ส่วนเรื่องการติดไดนาโมที่ล้อเพื่อปั่นไฟนั้น เป็นไปไม่ได้ครับ พลังงานฟรีไม่มีอยู่บนโลก การเพิ่มขดลวดที่ล้อจะเพิ่มน้ำหนักให้ล้อ สุดท้ายพลังงานที่ปั่นได้ก็จะน้อยกว่ากำลังที่มอเตอร์ต้องออกแรงเพิ่มเพื่อให้รถวิ่งได้เร็วเท่าเดิมครับ
ล้อไม่ต้องติดเครื่องปั่นไฟหรอกคับ เพราะปกติเวลาเราถอนคันเร่งมันก็รีเจนจนหน้าทิ่มอยู่แล้ว ถ้าเราติดที่ปั่นไฟเพิ่มที่ล้อ มันก็เป็นแรงหน่วงเพิ่มอีก แทนที่จะประหยัด กลับยิ่งกินพลังงานเพิ่มเพิ่มครับ
ตั้งใจเรียนนะครับ จะได้ไม่แสดงความเห็นโง่ๆในที่สาธารณะ
เขาขี้เกียจพัฒนาใหม่ เครื่อง 1500cc ถูกพัฒนาและผลิตมานานแล้ว ขี้เกียจลงทุนใหม่ 😀😀😀
@@puddingman2331 ต้องด่ากันขนาดนั้นเลยหรอครับ
แนะนำให้ทำการติดตั้ง Hub Gen ให้ครบทุกล้อแล้วต่ออนุกรมก็จะช่วยปั่นไฟเข้าแบตเพิ่มได้อีกครับ
ติดแก๊สน่าจะได้นะครับ .... ประหยัดเข้าไปอีก โข สะดวกสะบายด้วย ตอบโจทย์ เลยครับ
e-power น่าจะคุ้มทุนกว่า เพราะแบตใหญ่กว่า hybrid ญี่ปุ่น นิดเดียว
Reev ต้นทุนสูงกว่าแน่ๆ
มันคือรถไฟฟ้าแหละครับแต่มีเครื่องปั่นไฟติดไปด้วย เมื่อปี 2549-50 ผมเคยเสนอโปรเจค ป.ตรี เป็นรถเมล์ไฟฟ้ากทม.-ศาลายา โดยสลับแบตที่ศาลายา และมีเครื่องปั่นไฟติดไปด้วยในกรณีที่รถติดมากจนแบตหมดโดยทำความเร็วได้สัก 40-60กม./ชม.ตอนนั้นโซล่าร์เซลล์ยังแพงมากจึงไม่ได้คิดจะเอามาจ่ายแอร์ แต่ท่านอาจารย์ผมบอกว่ารอท่านเป็นนายกก่อนถึงจะทำได้ และหลังจากนั้นก็มีเชฟโวล์ตออกมา สุดท้ายต้องทำ fomula student แทนแต่เสร็จไม่ทันแข่งครับ
ขึ้นกับอัตราสิ้นเปลือง ถ้าประหยัดกว่ารถน้ำมัน ก็น่าใช้ จะได้สัมผัสรสชาติการขับแบบรถไฟฟ้า ขับในเมืองก็ใช้ไฟฟ้า ขับทางไกลก็ต่อด้วยน้ำมัน
E-power คือ เครื่องปั่นไฟเข้าแบตอย่างเดียว มอเตอร์ขับเคลื่อน อย่างเดียว
reevคือ Epower แต่ที่ชาร์จไฟด้านนอกได้
fcev คือ epower ที่ใช้ ไฮโดรเจน ปั่นไฟ ไม่ได้ใช้น้ำมัน
hybrid (แรกๆ)คือ เครื่องยนต์ปั่นไฟได้ เครื่องยนต์ขับเคลื่อนได้ มีมอเตอร์ช่วยขับด้วย
phev คือ hybrid ที่ชาร์จไฟจากด้านนอกได้
ผมว่าผมเข้าใจแบบนี้ ไม่แน่ใจว่าถูกไหม
ผมอย่กได้รถไฟฟ้ามาก แต่เมื่อวานฝนตกหนักมาก ผมเห็นรถไฟฟ้าจอดสนิทข้างทาง สรุปมันลุยน้ำฝนใน กทม ที่มีน้ำขังได้ไหมเนี้ย คือโคตรลังเล
คล้ายๆๆ ระบบอีเพาร์เวอ เลยครับ อืม Re Ev. น่าสนใจมากครับ
เหมาะมาก
ถ้าเราแบ่งแบตารี่เป็นสองเฟรต เหมือนรถใช้ก๊าซกับน้ำมัน หรือเฟรตเดียวเลย เฟรตแรกใช้แบตในการวิ่ง อีกเฟรตรอการใช้งานโดยการชาร์ตไฟฟ้า แต่ทีนี้ขอเสนอการชาร์ตไฟด้วยกังหันลมในขณะที่วิ่งด้วย แล้วไปชาร์ตมอร์เตอร์ปั่นไฟไปทีแบตเฟรตสอง ตัวใบพัดลมนี้ก็อยู่ด้านหน้า โดยใช้อัตราความเร็วของรถในการวิ่งไปพัดใบพัดให้ไปปั่นมอร์เตอร์ เช่นรถยนตร์วิ่งความเร็ว100 กมต่อชั่วโมง จนกว่าจะเต็ม อาจใจใช้มอเตอร์สองลูกกับพัดลมสองอันในการปั่น จนกว่าจะเต็มแบตตในเฟรตสอง
กทม.รถติด
@@user-my8qe5xj9u สำหรับวิ่งทางไกลครับ ตจว
เกิดการต้านทานแรงลมและน้ำหนักเพิ่มมันก็กินพลังงานหรือใช้พลังงานมากขึ้นกว่าเดิมอีก
Reev คือ ไฟฟ้านำ
Phev คือ เครื่องยนต์นำ
สรุปคือมันตรงข้ามกันใช่มั๊ย 2ตัวนี้
จุดประสงค์ของรถไฟฟ้า ?
- ลดชิ้นส่วนที่ต้องดูแลรักษา
- ค่าน้ำมันในไทยแพงมาก ขับครบ 5-8 ปี ค่าน้ำมันซื้อรถคันไหม่ได้เลย (เว้นคนมีรายได้เยอะไม่สนข้อนี้อยู่แล้ว)
- แก้ปัญหาสภาพอากาศในเมืองที่รถเยอะๆ
สวัสดีครับผมอยากถามครับว่า
ระบบทำช้ำ หรือ หมุนเวียนสามารถจดสิทธิบัตรได้มั้ยครับ
เหมือนกับเขื่อนผลิตไฟฟ้า เอาน้ำมาปั่นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดูดน้ำขึ้นไปแล้วปล่อยลงมาหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าต่อ ทำช้ำไปร่อยๆ ไม่มีวันหยุดแล้วทำไมไม่เอาแบบนี้มาขับเคลื่อนรถครับ
รับรองรถวิ่งได้ตลอดแหน่นอน
แล้วเรือดำน้ำลุง เป็นreevมั้ยครับ
อาจเสริม เป็น Solar+ev ถ้ารถมีพื้นที่หลังคามากพอ ในการยืดระยะ
ไม่มีทางเลยครับ ไฟฟ้าเข้าได้ไม่กี่% มีรุ่นที่ทดลอง ล้มเลิกไปแล้ว ตราบใดที่่โซล่าเซลล์ยังผลิตต่อแผงได้เท่านี้
ไฟไม่พอครับแถมวิ่งกลางคืนไม่ได้ด้วย จริงๆดีสุดคือเครื่องยนต์ที่ปั่นไฟต้องมีccให้น้อยที่สุดที่จะปั่นไฟได้จะยิ่งประหยัดประมาณ700ccน่าจะพอปั่นไฟแถมประหยัดแล้วปล่อยคาร์บอนน้อยด้วย
เปรียบเทียบ เครื่องยนต์ปั่นไฟระหว่าง4สูบกับโรตารี่ หนักเบาต่างกันแค่ไหนครับ
แล้วแบตจะอยู่ได้นานไหม เพราะชาร์ทตลอดเวลาในระหว่างขับรถ
ดีครับ เพราะน้ำมันเบนซินราคาเกือบ 40 บาทในเขตปริมณฑล ต่างจังหวัดคงราคา 40 บาท มันช่วยได้มากกว่า รถใช้น้ำมัน ที่ชาร์ทยังมีไม่พอ
ถ้าเปลี่ยนจากเครื่องยนต์ปั่นไฟ เป็นเซลล์เชื้อเพลิง แบบแยกน้ำในตัว จะดีมาก
สุดยอดจริงๆช่างดำขอสดุดีครับ
ถ้าเอารถเก่ามาดัดแปลงเป็นRE จะคุ้มกว่าเอาไปทำไฟฟ้า100%ไหมครับ
ผมชอบอีวี100%ไปเลยตัดปัญหายบำรุงรักษาครับ
ต้องดูการกินน้ำมัน+กินไฟฟ้า รวมแล้วจะประหยัดกว่ารถน้ำมันขนาดเดียวกันกี่% ราคาจะแพงกว่ากี่%
Reev ก็จะมีปัญหากับอายุแบตอีก เนื่องจากการชาร์ต และปล่อยพลังงานบ่อย อายุแบตก็สั่นลงเร็วอย่างมาก
Navara2024 รอดูครับ จะเข้าไทยใหมครับ
ปีหน้าจะได้ถึง1000กิโลมั้ยคับแอด
อยากให้มีในไทยกับรถปิคอัพ
เห็นด้วยกับ Well, ครับ
เครื่องยนต์มีไว้แค่ปั่นไฟ ถ้างั้นทำแค่ 2สูบ1,000CC น่าจะเพียงพอหรึอไม่พอ
เยี่ยมครับเวล
ผมว่าถ้าแบตยังแพงอยู่ ก็ไม่ต้องไปทำแบตใหญ่ให้มันแพง แต่ไปพัฒนาการชาร์จให้มันเร็วขึ้น เช่นจากครึ่ง ชม. เป็น 10-20 นาที แบบนี้น่าจะดีกว่า
แบตระเบิดตายห่าทั้งครอบครัวครับแบบนั้น
ครอบครัวเค้าคงทำประกันไว้แล้ว
เเล้วการสิ้นเปลื้องน้ำมันเท่าไหร่?
ถ้าเอามาใช้ในปิ๊กอัพ เหมาะเป็นรถบ้าน รถแคมปิ่ง รถ food truck หรือรถ สำหรับการเกษตรบินโดรน สบายๆ เลย
เวลาแบตเต็ม น่าจะมีระบบดับเครื่องยนต์ ถ้าแบตลดลง50% เครื่องจะติด
Re-ev มีแบบที่มีไฮโดรเจน เป็นเชื้อเพลิงเป่าคับ
REEVค่าสิ้นเปลือง กม.ละกี่บาท ไม่กล่าวถึง
ใช่เลย รถเพื่อการพาณิชย์ควรใช้แบบนี้เลย บ้านเรา
e-power แบตเตอรี่ใหญ่เสียไฟชาร์จได้
ถ้านิสสันเอา ePower ใส่แบตใหญ่ ใส่หัวชาร์จไฟบ้านได้ ก็จบ ไม่ยอมทำเสร็จจีนแน่เพราะจรนทำแบ้ว
ดีเลยครับ ประหยัดน้ำมันได้เกือบ100%
รถยนต์ระบอบ RE EV.ตอบสนอง คาวม ต้องการ ได้ดี มากๆๆๆ
ต่อไป..น้ำมัน จะล้นโลก
โลก จะได้โสภา จาก อากาศ ที่ดี สุขภาพ.สี่งมีชีวิต ก็จะสดชื่น ยืนยาว
น่าจะทำมาตั้งนาน
ลดการใช้มือลงให้มาก ชมแล้วเวียนหัว
เยี่ยมมากๆๆ รับรองถ้าผลิด ออกมา ได้ขาย เยอะ กว่า อีวี ธรรมดา
แล้วน้ำหนักละ ถังน้ำมัน หรือถังแก๊ส(ยิ่งถังhidrogenยิ่งหนัก) แล้วชุดสันดาบ ชุดgen ท่อ ระบบหล่อเย็น ฯลฯ รวมๆแล้ว น้ำหนักคงไม่น้อยไปกว่าbattที่เราอยากเอามาเพิ่ม
E-power แบบเสียบปลั๊กได้
พลังงานเข้า = พลังงานออก ไม่ว่าเป็นไฟฟ้า หรือน้ำมัน หรือทั้ง 2 ระบบ เพิ่มความซับซ้อนโดยใช่เหตุ ยิ่งอุปกรณ์เยอะ จุดอ่อนเยอะครับ ไม่น่าไปได้ในด้านการตลาดครับ
ดีครับ ถ้าเอารถเก่าไปทำระบบนี้ใช้แบต_น้อย ราคาดัดแปลงจะได้ถูกลง
ต้องกลับไปใช้2จังหวะอีกรอบครับ เพราะoutput/น้ำหนักเครื่องยนต์เยอะกว่า ทำให้น้ำหนักรถเบาขึ้น รถโหลดน้อยลงประหยัดกว่าเอาเครื่อง4จังหวะมาปั่นไฟพอสมควร แถมเครื่อง2จังหวะดูแลง่ายชิ้นส่วนไม่ซับซ้อนเหมือน4จังหวะด้วย
สุดมาก ๆ ครับ
ตอบโจทย์ของไทยจริงๆ
ถ้ามี REEV ในมอไซมลพิษ จะลดลงมากๆแน่ และราคาสิ่งต่างๆจากต้นทุนขนส่งก็ถูกลง ไม่รู้จะมีอายุถึงวันนั้นมั้ย
ไม่น่าถึง
ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีนะ
อาเมน
มันคือเทคโนโลยี E-Power ของ Nissan ครับ
สรุปมันก็คือการสร้าง power plant โดยใช้นำมันเป็นแหล่งเชื้อเพลิงในรถยนต์นั่นเอง
สองเครื่องยนต์ ค่าบำรุงรักษาสองเด้ง ยุ่งยาก
เครื่องยนต์เดียวเก่ามาก็ปวดหัวอยู่แล้ว
Nissan Kick e-Power ที่เสียบชาร์จได้ + แบตใหญ่ขึ้น
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันล่ะครับ
Mazda กำลังทำขุมพลัง โรตาลี่EVไฮบริด ใช้ในรถรุ่นใหม่ ของค่ายทุกๆรุ่น
ทำไปเลย อีก 20 ปี เจอกัน
สรุปมันคืิอ e power ของ nissan
ผมเข้าใจถูกมั๊ย สรุปสั้นๆคือ
PHEV พลังงานหลักคือ เครื่องยนตร์ พลังงานเสริมคือ แบต
REEV พลังงานหลักคือ แบต พลังงานเสริมคือ เครื่องยนต์
ต่างกัน Nissan kicks มั้ยครัย
ต่างกันตรงที่ชาร์จไฟได้แล้วแบตใหญ่ขึ้น
เครื่อง Nissan Kicks ใก้ลเคียงมากๆ
แถวบ้านผมยังไม่มีเลย
รถแบบนี้แหละ ที่อยากได้
คล้าย hybrid เหรอครับ
แตกต่างครับ ตรงที่เครื่องยนต์ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อน มีหน้าที่แค่ปั่นไฟเท่านั้นครับ
ผมว่ารถไฟฟ้าในตอนนี้มันเขาถึงยากไปหน่อยราคาก็แพงการดูแลรักษาใช้เงินเยอะที่ชาจก็ไม่คอบคุมผมว่าอีกนานกว่ารถไฟฟ้าจะมีคนใช้มากขึ้น
ผมมุ่งที่ความประหยัด แค่อยากให้บอกว่า1,000กิโลมันกินนำ้มันกี่ลิตร
ตามอีกท่านว่าเลย ทำเครื่องใหญ่ทำไม 600-700cc พอแล้ว แค่ปั่นไฟเข้าแบต และควรออกแบบแค่ 2สูบพอ ชิ้นส่วนน้อยไม่ซับซ้อน ไม่ต้องเสียค่าซ่อมบำรุงแพง เฉพาะแบตวื่งได้ 200กม.พอแล้ว รวมระยะเครื่องยนต์ช่วยปั่นไฟ 400-500กม.พอแล้ว ถังน้ำมันไม่ต้องใหญ่ ยังไงเดินทางไกลต้องแวะปั้มเพื่อพักคนก็เติมน้ำมันด้วยเลย ง่ายๆว่าระยะ 200กม.ถ้าใช้งานในเมือง ไม่ใช้เครื่องยนต์เลยวิ่งได้หลายวันอยู่ เครื่องไม่ค่อยใช้ก็ไม่ค่อยสึกหรอ ออกต.จ.ว.นู๊นแหละค่อยใช้เครื่องยนต์
ไม่น่าจะเพียงพอรึป่าวครับ ถ้าทำได้เค้าคงทำไปแล้ว ขนาดnissan note e-power คันไม่ใหญ่ยังต้องใช้เครือง 1200มาปั่นเลยคับ
ปล่อยไปครับ พวกนี้ตอนเรียนไม่ตั้งใจเรียน
@@hamWTTY ฟังจากคลิป ที่ใช้เครื่อง 1,400-1,500cc ระยะวิ่งได้ 1,000กม.+ มันเกินความจำเป็น ปั้มน้ำมันหาไม่ยากขนาดนั้น จะได้กะเติมครั้งเดียววิ่ง 1,000กม.+ และเครื่องใหญ่แบบนั้นมันจะประหยัดจริงรึ? เครื่องปั่นไฟด้วยน้ำมันผมว่าก็ไม่ได้ใช้เครื่องใหญ่ขนาดนั้น 1,400-1,500cc เหมือนเป็นรถน้ำมันที่แปะมอเตอร์มากกว่าครับ
li auto เข้าไทยเมื่อไหร่ครับรอเลยครับ