ปรับตัวรับมือความแปรผัน ท่องเที่ยวอัมพวา | Big Story เรื่องใหญ่ Thai PBS
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 25 เม.ย. 2024
- อะไรกำลังเกิดขึ้นกับแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯอย่าง "ตลาดน้ำอัมพวา" จ.สมุทรสงคราม ที่ครั้งหนึ่งเคยคลาคล่ำด้วยนักท่องเที่ยว ทุกวันนี้นักท่องเที่ยวกลับน้อยลง ผลกระทบที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าไม่สามารถทำมาหากินได้อีกต่อไปคืออะไร
ติดตามชมรายการ Big Story เรื่องใหญ่ Thai PBS ตอน ปรับตัวรับมือความแปรผัน ท่องเที่ยวอัมพวา วันเสาร์ที่ 27 เม.ย. 67 เวลา 13.00 - 13.30 น. ทางไทยพีบีเอส
----------------------------------
👉 กด Subscribe ติดตามรายการดี ๆ ของช่อง ได้ที่ : / thaipbs
จากใจคนที่ไปมาปีละครั้ง มา8ปี
1. ของแพงขึ้น,ราคาเท่าเดิมแต่ปริมาณน้อยลง
2.ไม่มีจุดดึงดูด ไม่ได้มีอาหารอร่อยที่แบบต้องมากิน
3.ขาดการพัฒนาของคนพื้นที่ เนื่องจากการรุกล้ำจากนายทุน
4.ธุรกิจมากกว่ามนต์เสน่ห์
5.การเดินทางที่ต้องผ่าน ถ.พระราม2
เรือก็เปลี่ยนไป มีกำหนดว่าจะจอดแต่ละจุดแค่ 15 นาที และเก็บตังกะวัดที่เรือไปจอด เหมือนเรือพามาวัด คนเรือขอเก็บค่านายน่า😮เป็นตางึดหลาย แต่ก่อนไปเที่ยวไม่เป็นแบบนี้ นักท่องเที่ยวกำหนดวัดขึ้นเองเวลาเที่ยวก็แล้วแต่ไม่กำหนดเวลาเรือจะรอจนกว่าจะกลับ ยอมรับว่าเสียหาย ไม่ชอบและ😢😮
กอบโกยกันเกินไป คนที่ไปขาย ก็กลายเป็นคนชาวกรุงนี่เอง ที่ไปขาย
เป็นวัฏจักรเกิด ขึ้น ดับ
จริงที่สุด
จริงนะครับ อยากไปแต่ไม่รู้จะทำอะไร เมืองไทยโคตรร้อน
สิ่งที่เกิดขึ้น 1.การแทรงแซงจากนายทุน และต่างชาติจีนที่เข้ามากว้านซื้อตึกร้าน 2.คนท้องถิ่นเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวจนลืมอัตลักษณ์ของความเปนตลาด 3. การขึ้นราคาสินค้าบริการที่พยายามขายนักท่องเที่ยวจนลืมว่าเมื่อไม่ใช่หน้าท่องเที่ยวก็จะขายใครไม่ได้เลย 4.ขาดการส่งเสริม และการสร้างจุดขายที่เข็มแข็ง เตรียมบั๋ยบายตลาดได้เลย
เริ่มจากแบบวิถีชาวบ้านผู้คนก็ชอบ ดูหิ่งห้อย มีโฮมสเต พอเห็นได้ดีก็มีนายทุนเริ่มเข้าไปกอบโกย เอารัดเอาเปรียบ นทท.สินค้าแพง ค่าเช่าเรือ ความไม่สุภาพ ก็เหมือนๆตลาดน้ำดำเนินสะดวก
ธรรมชาติก็หมดไป
พอตลาดติดทุกอย่างแพงไม่ผูกใจนักท่องเที่ยวเราเป็นคนครอบครัวที่จะต้องไปทุกเดือนเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศถู้าของแพงก็ไม่มีอะไรดึงดูดใจค่ะไหนน้ำมันรถจะแพงสินค้าแพงอีกเราก็คิดว่าเอาค่าน้ำมันมาจ่ายค่าอาหารการกินใกล้บ้านดีกว่า
ค่าเช่าแพงขึ้น (คนในพื้นเองนั่นแหละ ไม่อยากค้าขายเอง ก็ปล่อยเช่า) คนมาเข่าขายของก็ต้องขายออกแพงใก้ได้กำไรพอสำหรับค่าเช่า และพอสำหรับตัวเอง
ถ้าเจ้าของร้าน/บ้าน ขายเอง ของย่อมถูกกว่า
ธรรมดาของที่ท่องเที่ยวทุกๆ ที่
ปัญหาคือ การเสียความสมดุลระหว่าง การอนุรักษ์กับทุนนิยม คนมุ่งหวังแต่ผลกำไรมากๆจนลืมอัตลักษณ์ความเป็นตลาดนำ้อัมพวาดั่งเดิม ลืมจุดขายของความเป็นตลาดนำ้ดั่งเดิม นักท่องเที่ยวก็หนีไปที่อื่นหมด
เราอยู่ตลาดสามชุกร้อยปี ก็ประสบปัญหาโควิดเหมือนกัน แต่พอหมดโควิดตลาดก็กลับมาคึกคักเหมือนเดิม ส่วนใหญ่เป็นนทท.คนไทยมากกว่าต่างชาติ เพราะสินค้าราคาถูกที่คนไทยจับต้องได้ กรรมการบริหารตลาดประชุมร่วมกับพ่อค้าแม่ค้าให้ขายราคาแบบที่คนไทยรับได้ตามสภาพเศรษฐกิจเพราะไม่งั้นลูกค้าก็จะหายหมด ขายได้บ้างกำไรน้อยแต่ดีกว่าขายไม่ได้เลย ต่างชาติมาเราก็ยินดี แต่หลักๆเราต้องพึ่งนทท.ไทยมากกว่า ทำให้ตอนนี้ตลาดก็กลับมาคึกคักด้วยนทท.ไทย แต่ตอนนี้อยากได้โครงการคนละครึ่งมาก ตลาดจะคึกคักมากกว่านี้ มากๆ เพราะเรารอดจากโควิดเพราะโครงการคนละครึ่ง
เราชอบตลาดสามชุกค่ะ
คิดถึงคนละครึ่ง กับเราเที่ยวด้วยกัน ช่วยทั้งนักท่องเที่ยว และพ่อค้าแม่ค้า
ชุมชนเข้มแข็งมากและมีวิสัยทัศน์ดีมาก เก่งครับ
นนท.ไทย นี่ล่ะครับสำคัญที่สุด วันใดวันนึงถ้าต่างชาติมาไม่ได้ก็จบเลยหากมัวแต่ไปปรับตามเอาใจต่างชาติเกินไปจนไม่มองคนไทยด้วยกันเอง บางที่อาจจะทำได้แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกที่แน่นอนที่จะทำได้ไปตลอด
อย่างว่า จะฟันแต่นักท่องเที่ยวยุคนี้ยากเขารู้กันหมดแล้ว ต้องอะแดปแบบนี้ละน้อยลง แต่มาเรื่อยๆไม่ขาดสายมันก็อยู่ได้ กะฟันแรงๆครั้งสองครั้งสุดท้ายไม่มีใครมา 😂😂
อัมพวาทำงานหนักมานาน อัมพวา ได้เวลาพักผ่อนฟื้นฟูสถานที่และกิจการค้าแล้วนะครับ ❤❤❤❤❤
ฉันเป็นคนที่เกิดที่นี่ สมัยเด็กมีคลองมากมาย สามารถลงไปจับกุ้งจับปลากินได้ด้วยสวิงเล็ก ๆ ก็ได้เยอะแยะ มีสวนมะพร้าวมากมาย อัมพวามีแต่คลองและสวนผลไม้ ต้องเดินทางทางเรือเท่านั้น เป็นจังหวัดที่พัฒนาช้ามากแต่คนท้องถิ่นชอบความเป็นอยู่แบบนี้มันมีความสุขมาก แต่เดี๋ยวนี้คลองตื้นเขิน ต้นมะพร้าวถูกตัดกลายเป็นถนน หน่วยงานรัฐ การปกครองส่วนท้องถิ่นมุ่งแต่ส่งเสริมการท่องเทียวแต่ไม่สนใจธรรมชาติดั้งเดิม ซึ่งมันเป็นจุดขายของจังหวัดคนรวยมาซื้อที่ไปทำบ้านพักคนท้องถิ่นต้องออกไป ถ้าคนมีอำนาจในแม่กลองไม่ช่วยแม่กลองแล้วใครจะช่วย
คุณพูดถูกทุกอย่างเลย
เห็นด้วย ว่าผู้ดูแลขาดความรู้ความเข้าใจปล่อยจนเละไม่เหลือเสน่ห์อีกเลยมีแต่ของปลอมๆ
ส่งเสริมท่องเที่ยว แต่ให้เที่ยวอะไรก่อน เมื่อก่อนของกินแปลกๆราคาถูก ไปล่าสุดปีที่แล้ว ตลาดนัดแถวบ้านก็มี ไม่ต้องถ่อไปถึงอัมพวาค่ะ
จากใจคนเคยเที่ยวอัมพวา สมัยก่อนยังเป็นชาวบ้านที่แท้จริงขายของที่ทำเอง แต่ละบ้านทำเองขายเอง ของมันจะแตกต่าง มีของทำมือของเด็กๆที่พักในบ้านนั้นๆบ้าง กุ๊กกิ๊กกุ๊บกิ๊บ ของไม่แพง วิถีชีวิตชุมชนจริงๆ ช่วงหลังเสน่ห์ตรงนี้หายไป มีแต่ขายของเหมือนๆกัน เจ้าของเปลี่ยนค่าเช่าขึ้น หน้าม้ามาตัดที่กินค่าเช่าเป็นทอดๆคล้ายๆกับแผงที่ประตูน้ำกินค่าเช่าเป็นทอดๆ ยิ่งตลาดน้ำดำเนินสะดวกยิ่งขายของแพง มาซื้อตลาดอื่นๆของเหมือนกันแต่ราคาถูกกว่าเกินครึ่ง นักท่องเที่ยวทั้งคนในชาติและต่างชาติเค้ามีเทคโนโลยี เค้าเที่ยวเค้ารู้ว่าของมันแพง อาหารดั้งเดิมที่ชาวบ้านทำขายไม่อร่อยเหมือนสมัยก่อน หิ่งห้อยก็แทบจะไม่ค่อยมีแล้ว สมัยก่อนเยอะมากๆ
ผมเห็นด้วยครับ..ของแพงเกินนี้แหละคือตัวแปร
หยุดอ้างโน้น นี่ นั่น...
หยุดวิเคราะห์ นี่ โน้น นั่น
ผมในฐานะนักท่องเที่ยวอยู่กรุงเทพ ฯ ฟังนะคับ...
1. เบื่อรถติดพระราม 2
2. อัมพวาเปิดมาเกือบ 20 ปี
ไปเที่ยวหลายครั้ง เบื่อแล้ว
เม้นต์ คุณภาพ ถ้า พระราม สอง รถไม่ติด จะดีมาก 555+
พอรถติด ก็แย่งกันไป ขับรถปาดไปปาดมา เดือดร้อนผู้ใช้ถนนรายอื่น ไหนจะมี unexpected items หล่นลงมาขณะขับ
ผู้ประกอบการชอบคิดว่า คนเที่ยวเป็นคนมั่งมี ของแต่ละอย่างบวกมาก ไม่ก็พยายามขายราคาขั้นต่ำที่ห่อใหญ่เกินรับประทานหมด
จริงคะเมื่อสัก20ปี ชอบมากตลาดเป็นชุมชนเดิมๆธรรมชาติมากอาหารการกินถูก แต่จะไปสักสามครั้งนี่ก็ไม่น่าไปอีกนะ
จริง
ผัดไท ปลาทู มีทุกตลาดนัด
นอกจากพัฒนาสถานที่ ต้องพัฒนาจิตใจพ่อค้า แม่ค้า ไม่เอาเปรียบ นทท. ขายในราคาที่เป็นธรรม ซื่อสัตย์ ไม่ฉ้อโกง
จริงสักแต่ขายอยางเดียวไม่เค็มก็จืดและมัน
จริงมากๆ
วันนั้นดูคลิปขายต่างชาติไอติมตักใส่มะพร้าวเนื้อก้นไม่มีนะ 80 บาท
อีกไม่นาน แม่กำปอง เชียงใหม่ก็เหมือนกัน ความดั้งเดิมวิถีชาวบ้านหายไป ของแพงขึ้น สินค้าของกินเหมือนตลาดนัดทั่วไป
บ้านเราใกล้เกาะเกร็ด ย้ายมาอยู่แถวนี้เกือบ 20 ปี เราไปแค่ 4 ครั้ง มันไม่มีเสน่ห์เลย ขายของไม่มีเอกลักษณ์ค่ะ เบื่อแล้ว ไม่ไปอีกเลยค่ะ
แม่ำงกำปอง ปัจจุบันมีแต่คาเฟ่ ธรรมชาติถูกนายทุนลุกล้ำ ขาดเสน่ห์ไปเยอะ ไม่น่าไปเที่ยวแล้ว
แรกๆไปว๊าวมาก อาหารอร่อยราคายุติธรรม มีเสน่ห์ของความเป็นชนบท แต่หลังมานี่แม่ค้าเอาเปรียบมาก ของแพงกว่าเดิมเยอะ ปริมาณลดลง ความอร่อยหายไป มีความโลภของแม่ค้ามาแทนที่ ตอนหลังก็เลิกไป
ผมคือเด็กที่เรียนที่ รร อัมพวัน อัมพวา ผมจำบรรยากาศตอนที่เรียนอยู่แล้วก็เดินเล่นตอนเลิกเรียนได้ดี ผมรู้สึกว่าการบูมของอัมพวามันคือการปั้นแต่งและสร้างภาพไม่ตรงกับความจริงผมเคยคิดว่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้น่าจะไปไม่รอด ปัจจุบันผมอายุ 60 ปีแล้วครับ
ในขณะที่ห้างใหญ่ Terminal 21 ลดค่าเช่าเพื่อทำให้ราคาอาหารถูก คนจะได้มาเดินเข้าห้าง .. แต่ตลาดไทยหลายที่เอาแต่ขึ้นราคาจนไม่มีคนมาเดิน อีกทั้ง อัมพวา คนต้องเดินทางไกลมา ถ้าไม่มีจุดแข็ง แล้วใครจะมา
เอาแค่วัดไร่ขิง งานวัดของกินเยอะถามว่าเมื่อก่อนงาดวัดของกินมันแพงหรือถูก? ตอนนี้ขนมแพงมาก ค่าเช่าก็ประมูลแข่งกันแพง ก็ไปลงกับผู้ซื้อ แล้วต่อไปใครจะไปซื้อกิน อีกไม่นานอาจจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลง
เรื่องร้านค้างานวัดไร่ขิงตอนนี้มันก็เข้าสู่สามัญแล้ว (เจ๊ง)
อย่าว่าแต่ค่าเช่าที่งานวัดเลย ค่าเช่าที่ตลาดทั่วทั่วไปพอติดเริ่มมีคนเดินก็ขึ้นค่าที่ขึ้นค่าไฟค่าขยะ อยู่ไม่ได้ก็ไป
จริงค่ะ เจ้าของตลาดมักขึ้นค่าเช่า จนต้องขึ้นราคาของ สุดท้ายไปไม่รอด
Food court ห้างนี้ราคาถูกกว่าเดอะมอลล์
ผมคนนึงเป็นทีีหลงเสน่ห์อัมพวา ชอบรรยากาศตอนกลางคืน แสงไฟสรเหลืองสะท้อนกับพื้นน้ำ ลมพัดเย็น นั้งมองเรือผ่านไปมา ตืนเช้ามาพระพายเรือมาบิณฑบาต เคยฝันว่าอยากมีบ้านที่อัมพวาสักหลัง ถึงตอนนี้ภาพจำตอนครั้งนั้นก็ยังไม่ลืม ยิ่งช่วงนั้นมีละครสั้นเรือง ลำนำอัมวา ทำให้บรรยากาศของอัมพวามีเสน่ห์ เข้าไปอีก แต่ตอนนี่ที่ทำให้ความอยากไปคือ เรืองการทำถนนพระรามที่2 ใช่เวลาเดินทางนานขึ้น , เรืองของอากาศที่ร้อนมากกวาเดิมหลายเท่า , ค่าเฟ่ ธรรมชาตื แถบปริมณฑล ก็มีมากขึ้น ทำให้ความอยากที่จะไปลดลง
อัมพวาต้องกลับมาขายจุดเด่น เรื่อง ธรรมชาติ วิถีชาวบ้าน อาหารพื้นเมือง ขนมพื้นเมือง ที่พักโฮมสเตย์ เรือพาย น้ำใสสะอาด สมุนไพร สุขภาพ ซึ่งเคยเป็นจุดเด่นในยุคแรกๆ คนท้องถิ่นต้องร่วมแรงร่วมใจกัน กำหนด concept ใหม่ที่เน้น ecosystem ที่ตลาดอื่นไม่มี
จริงค่ะ
ไม่ทันแล้ว😊
จบแล้ว
ฟื้นได้ แต่ใช้เวลา กว่าผู้ประกอบการจะรู้ค่าว่าอะไรที่จะรักษาเสน่ห์ของอัมพวาให้แตกต่างจากที่อื่น กว่าวิถีชีวิตและธรรมชาติจะฟื้นคืน
ยากแล้ว คนไทยไม่เที่ยวแนวนี้แล้ว หลักๆคือ ขายคนไทย ปล่อยปะละเลยจนเสน่ห์หาย ที่สำคัญ รถติดมาก คนไทยไม่ทนแล้ว
ในที่สุดอัมพวา ก็มีวันนี้ วันที่ต้องร้องหานักท่องเที่ยว ไม่แปลกใจค่ะ เพราะอินฟูลฯไปรีวิวมา
ล่าสุด oppa hong โดนค่าเรือ 400 เห็นแบบนี้ใครจะอยากไปค่ะ cullen โดนค่าเรือ 500
แล้วใครจะอยากไปล่ะค่ะ
อันนั้นดำเนินสะดวกค่ะ คนละที่กัน ในคลิปนี้คืออัมพวา//// ดำเนินสะดวกนี้น่าโดนแบนมาก ราคาแพงเกิ๊น มะวานดูอยู่อยากตะโกนบอกฮง ว่าอย่าไปซื้อ...อยากได้ไร ไปจตุจักร มีทุกอย่าง ถูกกว่า หลายเท่า
อีกไม่นาน ตลาดน้ำที่โด่งดังก็จะตามไป ( โก่งราคา นทท. ถ้าชื่อเสียงเป็นแบบนี้ )
คนทั่วไปไม่เข้าใจ การทำการค้าแบบยังยืน แต่ละคนพูดแค่ว่าจะทำอย่างไรให้ขายได้แพงขึ้น .. สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ปรับราคาขึ้นกันหมด แทนที่จะแยกบริการแบบ premium คิดแพงขึ้นแล้วคงบริการราคาที่เข้าถึงได้ไว้ เหมือนว่า เราเข้าร้านอาหารแล้วเขามีน้ำกดฟรีและหากใครจะกินโค้กหรือน้ำแร่ก็ซื้อแยกเพิ่มเอา แต่ทุกวันนี้มักเห็นมัดมือชก เอาน้ำฟรีออกบังคับทางเลือกให้ซื้อน้ำเพิ่มแถมคิดราคาแพงกว่าปกติอีก แล้วถ้าเป็นกันมากขึ้นทั้งตลาด ตลาดจะไปรอดเหรอ
@@shanewachireth7839 บางร้านสมัยนี้ ห้ามเอาน้ำจากข้างนอกเข้าไปกินด้วยค่ะ ต้องซื้อในร้านเท่านั้น
เลิกไปนานมากแล้วเป็น10กว่าปีเมื่อก่อนนึกไม่ออกก็ไปเที่ยวอำพวาแต่ค่าเรือพายของกินแพงโครตทั้งๆที่เราก็เป็นคนแถวดำเนินก็ยังคิดแพง
เคยไปพักแบบโฮมสเตย์ริมน้ำใกล้ตลาด
1800 บาทแบบห้องเล็กมากๆเรียกว่าทีวีติดกำแพงขายาวๆกดได้สบาย
ไม่มีอาหารเช้านะเดินไปกินในตลาด
ห้องติดทางเดินเล็กๆของชุมชนทั้งมอไซ ทั้งคนเดิน แถมเช้าๆมีคนแปรงฟันกลั้วคอดังมาในห้อง😂😂
ราคานี้คนแนะนำยังแพงนะ😅เตียงนอนเบียด2คน
ไม่ใช่วันหยุดด้วย
ก็ยังไป นะ
มันแพงเกินไปนะ
เคยไปอยู่ เคยไปเที่ยวตั้งแต่10-20ก่อนเลย เอาจริงๆนอกจากโทษนักลงทุนลองโทษตัวเองบ้างนะคะ เอาเปรียบลูกค้า ของกินของใช้แพงทุกอย่างถึงบอกอย่าโทษแค่นักลงทุนเพราะถ้าตัวเองก็อยากรวยอยากได้กำไรเยอะๆคนอื่นที่เข้ามาลงทุนเค้าจะมาทำไมถ้าทำแล้วขาดทุน😂
จีนเทาเฮียๆ ไปที่ไหนอิ๊บอ๋ายที่นั่น..... รักอัมพวา ต้องรักษ์อัมพวา
สมัยเรียนมหาลัย วันหยุดชอบไปอัมพวา บางทีก็ขับรถบางทีก็นั่งรถตู้ไป มันแบบบ้านๆมาก ไปพักโฮมสเตย์เหมือนไปเยี่ยมญาติที่ ตจว. ตอนเช้ามีพระพายเรือมาบิณฑบาตร มีเรือขายข้าวต้ม ก๋วยจั๊บ นั่งรอที่ท่าน้ำหน้าบ้านที่พัก เสน่ห์ของอัมพวาคือวิถีชีวิตของคนอัมพวา
เราเป็นคนนึงที่เคยชอบเที่ยวอัมพวา ไปอุทยานร.2 ลงเรือนำเที่ยวไปวัดบางกุ้ง หาของอร่อยๆในตลาดน้ำ ตอนค่ำดูหิ่งห้อย และหาที่พักติดริมน้ำ เพราะตอนเช้าไปตักบาตรริมน้ำด้วย สมัยนั้นคือบรรยากาศสงบดีค่ะ หวังว่าในอนาคตข้างหน้าจะฟื้นฟูจนกลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใครๆก็อยากไปอีกนะคะ
ไม่ชอบตรงหากินกับที่จอดรถมากเกินไป
เคยไปเดินเมื่อสามปีที่แล้วค่ะ เข้าไปดูของในร้านนึงแต่ไม่ได้ประทับใจสินค้าใดเลยไม่ได้ซื้อ มีเสียงพูดจากคนขายในร้านพูดว่า ทีหลังถ้าคิดจะไม่ซื้อ อย่าเข้ามาเดินในร้าน มันเกะกะคนอื่น
แม่ค้าบางร้านเวลาเราเข้าไปสอบถามราคา หน้าตาจะไม่ค่อยพอใจค่ะ
รู้สึกแย่มากเลยค่ะ
มาอัมพวาหลายครั้ง เพราะชอบเรือ แม่น้ำ สวน
แต่พอเจออะไรแบบนี้คือเสียความรู้สึกค่ะ
ก็ยังไปเที่ยวอยู่นะคะ แค่ขับรถชมสวน นั่งเรือและกลับค่ะ ไม่เข้าตลาดน้ำอีกเลย
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป จงเข้าใจโลกแห่งความไม่แน่นอนครับ มันมีทางเลือกแหล่งท่องเที่ยวแบบนี้มากครับ
20:09คลองนอกตลาดน้ำสวยดูเป็นวิถีชุมชนดี นักท่องเที่ยวน่าจะชอบ 12:08 มุมนี้สวยมากๆ สวยแบบไทยโบราณ แสดงเอกลักษณ์ที่ชัดเจนแบบไทย
สมัยก่อนที่อัมพวาจะบูม ไปเที่ยวแล้วชอบมาก เป็นบรรยากาศชาวบ้านจริง ๆ แต่พอมันบูมขึ้นมากลายเป็นเหมือนบรรยากาศหลอก ๆ ที่สร้างเพื่อหลอกนักท่องเที่ยว หลัง ๆ เลยไม่ได้ไปเที่ยวเลย
ขอชื่นชมทีมโปรดักชั่น ถ่ายทำภาพสวย ตัดต่อแบบ Professional มาก ซาวด์ก็ดี ให้ เต็ม 10 เลยค่ะ👏👏👏👏👏👏👏👏🇹🇭
ไม่รู้สึกเหมือนท่องเที่ยวกับธรรมชาติ วิถีของชาวบ้านค่อยๆหายไป
เน้นไปที่การค้าขาย ธุรกิจเป็นส่วนใหญ่ ค่าเช่าแพง อาหารปริมาณน้อย
เมื่อก่อนวิ่งเส้นพระราม2 มันไม่แย่ขนาดนี้ครับ
เมื่อ18ปีก่อนไปบ่อยมากๆ น้ำในคลองลงไปว่ายได้เลย Home stayแต่ละหลังน่าประทับใจมาก คนในชุมชนมีน้ำใจให้กันตลอด
อยากรู้เพราะอะไร ให้ไปดูคลิปของคัลแลนได้เลย ฟันหัวนักท่องเที่ยวสุด แพงมากกกก สมน้ำหน้า😂😂😂😂
ค่าเรือและค่าอาหารแพงมากกกด
อัมพวา เมื่อก่อนไปตลอดในช่วงเทศกาลหรือเสาร์-อาทิตย์ ตอนนั้นคือไปทีหาที่จอดรถยากมากและคนเยอะมาก ซึ่งส่วนตัวคิดว่าปัจจัยหลักๆคือ
1.ของแพง
2.ห้องน้ำหาเข้ายาก
3.ที่เทียวไม่มีอะไรโดนเด่นมากนัก (นั่งเรือชมวัด)
4.แคบและเล็กไป
5.ร้อนแออัด
6.ไม่มีอาหารอร่อยมากโดดเด่นมากถึงขั้นเป็นอันซีน
ความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นใหญ่และสำคัญที่สุด ได้นำพาความถดถอยมาสู่ตลาดน้ำอัมพวา และตลาดน้ำดำเนินสะดวก
จริงถ้าคนไทยด้วยกันพวกนี้จะหมางเมินมาก
โชคดีที่เคยไปเที่ยวในยุคที่ยังเป็นวิถีชีวิตขาวบ้าน
ใครเที่ยวยุคนี้ก็ทำใจเลย55555
ช่วงสงกรานต์ผมนั่งรถไฟจากวงเวียนใหญ่ ต่อสถานีบ้านแหลมชมตลาดร่มหุบ จากนั้นก็ไปไหว้พระสองวัดแล้วก็กลับ เคยไปเที่ยวตลาดอัมพวาตั้งแต่ก่อนโควิด 2 ครั้ง ค่าจอดรถ 40 บาท รู้สึกแพงไป...และทุกวันมีตลาดน้ำใกล้ ๆ ก็มี เช่นคลองลัดมะยม ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง...ตลาดน้ำดำเนินสะดวกก็หมดเสน่ห์ครับ...ต้องไปสัมผัสเอง...
สินค้าไม่ได้แตกต่างจากทึ่อื่น แพงกว่า ไปแล้วค่าใช้จ่ายสูง
1.ค่าเช่าแพงหรือไม่?
2.ร้านค้าหายไปเพราะค่าเช่าแพงหรือไม่?
3.ความดั้งเดิมหายไป
4.ราคาแพงขึ้นมากเกินไปไหม?
ควรอนุรักษ์พื้นที่สวนต่างๆให้คงอยู่ มิเช่นนั้นจะเหมือน กทม.ฝั่งธนฯ เมืองนนฯ สมุทรสาคร นครปฐม ที่พื้นที่สีเขียวหายไปมากมาย ทำให้เสน่ห์ดั้งเดิมขาดหายไป พื้นที่สวนผลไม้และคลองต่างๆเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมมาเที่ยวมาค้างคืน
เห็นด้วยค่ะ เท่าที่เรากับครอบครัวไปเที่ยวอัมพวาทุกๆ2ปี เรารู้สึกในข้อ3ข้อ4ค่ะ
อันดับ1เลย) เราว่าของแพงขึ้นมากกกก ร้านท้องถิ่นเองบางร้านราคาทุบหัวนทท. อันดับ2 ) ความดั้งเดิม เสน่ห์ความชุมชนท้องถิ่นหายไปเยอะเลย
ของก็ไม่แตกต่างจากตลาดใน กทม.ปริมณฑล เช่น ตลาดบางนเำผึ้ง อีกอย่าง ของหลายอย่าง สั่งออนไลน์ก็ได้ ตลาดมันก็กลายเป็นแทบไม่เหลือจุดน่าสนใจแล้ว คนสมัยใหม่ ชอบแบบ จุดเช็คอิน ธรรมชาติๆ สวยๆ อากาศดีๆ แบบนั้น
ไปอัมพวาเมื่อ2ปีที่แล้ว
1.อากาศร้อน 2.ของแพงซ้ำๆ กาแฟขนม ของไม่น่ากินน่าสนใจ 3.บรรยากาศเหงาร้านเปิดย่อมๆน่าจะจัดการใหม่เอาร้านเปิดอยู่ชิดกันไม่เว้นว่าง 4 เคยเที่ยวแล้ว เหมือนๆเดิมในสายตาคนไทย น่าจะสร้างสินค้าท่องเที่ยวกิจกรรมเพิ่มขึ้น ตปทเค้าไม่เดินกัน แต่รีสอร์ทในสวนยังน่าไปพักถ้าราคาไม่แพงครับ
ใช่ค่ะคิดเหมือนกัน คือสินค้าในตลาดก็หาที่ไหนก็ได้แล้ว ไปเดินล่าสุดคือ เหงาๆไงไม่รู้ ของกินเดิมๆ
จริง
@@lovelie3taholic175 อยู่ใกล้กรุงเทพด้วย ไม่เห็นความแตกต่างทั้งอาหาร วิถีชิวิต สินค้า สินค้ามีแต่ราคาแพง
เหมือนกันครับ ของขายซ้ำๆ แพง เสื้อสกรีนก็ขายกันซ้ำๆ ไม่รู้ใครจะซื้อเสื้อของที่ระลึกอะไรเยอะแยะ
พยายามนึกถึงสิ่งที่เป็นอัมพวาแบบไปแล้วต้องกินต้องซื้อก็นึกไม่ออก จรืงๆ
ยิ่งมาเจอ พระรามสอง เจ็ดชั่วโคตร นี่ ที่สุดของความน่าเบื่อจริงๆ
โดยรวมคนในพื้นที่ไม่มีศักยภาพรรองรับคนระดับประเทศอยู่แล้ว ในการพัฒนา และการดำรงอยู่ของความน่าสนใจ ที่ดังมันเรื่องบังเอิญ
เจอเอาเปรียบ เลยไม่ค่อยไป แต่ยังชอบวัดน่ะครับ
ค่าเรือแพงจนตกใจ เรายอม ต่อมามือถือแบตจะหมด ขอร้านค้าที่ซื้อน้ำกินแก้ร้อนชาร์ตแบตเพราะต้องติดต่อเรื่องสำคัญ แม่ค้าคิดค่าชาร์จ 30 บาท เรายอม และชาร์จแค่สิบนาที และตั้งใจว่า ชาตินี้จะไม่มาย่านนี้อีกแล้ว
เคยคิดหลายครั้ง อยากไปนอนเล่นสักสองคืน แต่ดูราคาใน agoda, booking แล้ว ราคาไม่เป็นมิตรกับ backpacker เลย คือถ้าจะตั้งราคาไว้ให้ cafe lover มาคืนเดียวถ่ายรูปแล้วกลับ แบบคนเมืองมาเยือน โดยไม่มีราคาให้กลุ่มทุนน้อยและ backpacker ก็ถือว่ากลับมายากครับ
มีเพื่อนแล้ว เราก็ความรู้สึกนี้เลย จะไปหลายครั้งแล้ว ไม่ได้ไปซักที เราสาย backpacker ทุนน้อยเช่นกันค่ะ เพื่อนๆที่เป็นสายเที่ยว ทุกคนไปอัมพวาครั้งเดียว พอ
นี่คือระบบการค้าเสรี ค่าเช่าแพง ขายแพง คนไม่ซื้อไม่เที่ยว ขายได้ไม่คุ้มผู้ค้าก็ย้ายออก เจ้าของก็ต้องลดราคาเช่าลง กำขี้ดีกว่ากำตด ไม่ต้องห่วง กลไกการตลาดจัดการได้ด้วยตนเอง แต่ต้องใช้เวลา เพราะบางคนยังปรับตัวเข้ากับความจริงไม่ได้
ฟังแล้ว อัมพวากะลังเข้าสู่ภาวะ tourism gentrification ถ้าไม่เจอ covid ซะก่อน อาจจะถลำลึกกว่านี้ ขอให้ฟื้นตัวได้ในเร็ววัน
เดี๋ยวนี้นักท่องเที่ยวเขาหันไปเที่ยวที่ตลาดร่มหุบกันหมดแล้วค่ะ พูดง่ายๆ สมบัติผลัดกันชมค่ะ
ถ.พระราม2 คือหนึ่งในสาเหตุหลัก ที่ทำให้นักท่องเที่ยวท้อ เมื่อต้องผ่านถนนเส้นนี้
เหตุผลเดียวคือความเปลี่ยนแปลงที่ไม่สอดคล้องกับวิถีชุมชน สถานที่ท่องเที่ยวแบบ Local ก็ต้องเป็นแบบเดิมถึงจะมีเสน่ ไม่ต้องการความเจริญอย่างโรงแรมทันสมัย ถ้านายทุนเข้ามาก็เริ่มนับถอยหลังได้เลย
เคยไปมานานแล้วครับ ไปพักไปดูหิ่งห้อย 😍😍
เป็นกำลังให้ชาวอัมพวาค่ะ
ไปบ่อยมากๆ เมื่อหลายปีมาแล้ว ไปทีไรก็ชอบไปสั่งผัดไทยนั่งกินตรงเรือขายใกล้ๆสะพานอ่ะ และตรงตีนสะพานจะมีร้านขายน้ำสตอเบอรี่ปั่น แม่ค้าสวยๆ คิดถึงอัมพวาเลยครับ.
เวลาเราไป อัมพวา เรารู้สึกว่าเราเหนื่อย..
และเหตุผลของทุกคนในนี้ที่พูดถึงปัญหาของนักท่องเที่ยว..ถูกทั้งหมด
ส่วนตัวเราที่ไม่ชอบเลยคือ ซื้อของกินแล้วต้องเดินกิน ไม่มีที่นั่ง กับแม่ค้าพ่อค้าที่เสนอสินค้า รวมทั้งเรือนำเที่ยว แพง ต่อรองไม่ได้ สิ่งของก็ธรรมดา(มากกก)สำหรับตลาดแบบนี้
ความ Classic ของหลายๆสิ่งบนโลกใบนี้คือ การรักษาเอกลักษณ์
ไม่ว่าจะทางกายภาพที่จับต้องได้ หรือกลิ่นไอวิถีชีวิตที่มัน Real แบบดั้งเดิม
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กระแสความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วรุนแรง ประกอบกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวปัจจุบันที่
ท่องเที่ยวในรูปแบบที่ใช้สื่อสังคม Online ในการชี้แนะ ชักจูงหรือชี้นำ
มันถูกกำหนดให้พฤติกรรมของผู้บริโภค เป็นไปในทิศทางเดียวกันเกือบทั้งหมด
ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆต้องปรับเปลี่ยนตาม
จนอาจจะลืมจิตวิญญาณของการมีอยู่ที่มีรากเหง้าและตัวตนดั้งเดิมไปจนเกือบหมด
ทำให้เสน่ห์ที่มีถูกลืมและถูกลดทอนบทบาทความสำคัญลงไป
ก็ไม่แปลกที่จะถูกลืมเลือนได้ในเวลาอันรวดเร็ว
กว่าจะรับรู้และรู้ตัวก็อาจจะสายไปเสียแล้ว แต่จงเชื่อมั่นในเส้นทางของการอนุรักษ์
ถึงแม้จะว่าทุกสิ่งที่เสียไปมักจะไม่อาจกอบกู้กลับมาให้ดีเหมือนเดิม
แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่พยายามที่จะทำอะไร ที่เหลือคือต้องช่วยกันรักษาภาพลักษณ์เดิมที่เคยมี
ให้กลับมามากกว่า จะคงเหลือไว้เพียงภาพจำในวันที่เลือนลาง
ถ้าผมว่างเมื่อไหร่ แล้วผมจะรีบไป อัมพวา อย่างน้อยก็ขอเป็นแค่ฟันเฟืองเล็กๆที่ไปช่วยต่อลมหายใจให้กับ อัมพวา
ต้องพัฒนาจุดแข็งของท้องถิ่นที่มีอยู่เดิม ให้มีทั้งคุณภาพและ ความหลากหลาย รวมทั้ง การจัดการเรื่องสถานที่ ที่จอดรถ ระบบขนส่งสาธารณะของชุมชน แบบองค์รวม
จัดอีเว้นท์ หมุนเวียนไปเรื่อย อย่าซ้ำแบบเดิมๆ (ต้องประชาสัมพันธ์ ให้แพร่หลาย อาจใช้ช่องทางสื่อให้ถึงกลุ่ม เป้าหมายต่างๆ) ส่วนตัวสาเหตุหลัก ที่ทำให้ไม่ได้อยากไป คือ รถติด หาที่จอดยาก ส่วนการเข้ามาของนายทุนรายใหม่ อาจทำให้เสน่ห์ เดิมๆลดน้อยถอยไป ก็เป็นเรื่องปกติ เรื่องราคา ก็คงต้องเป็นไปตามกลไกของตลาด ขึ้นอยู่ที่คุณภาพของสินค้าและการบริการ ว่าเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน ให้ผู้บริโภคเป็นผู้ตัดสินใจเอง
ปัญหาใหญ่ๆก็คือ1.การขายของในเรือมีจำนวนน้อยเกินไปมันก็ไปพ่วงรวมกับเวลาไปจอดเรือหน้าร้านท่านอื่นเขาก็โดนว่าอีกเขาไม่ให้จอดขายหน้าบ้านเขา 2.เรือยนต์ที่วิ่งเร็วเกินไปทำให้เกิดลูกคลื่นขนาดใหญ่ไปซัดกับเรือแม่ค้าในคลองก็เกิดปัญหาขึ้นอีกเพราะคนที่พายเรือมาขายของอายุก็ไม่ใช่น้อยกันแล้ว 3.ค่าเช่าที่ ที่ไม่สมดุล ซึ่งมีรายใหญ่อยู่รายเดียวคนอัมพวารู้กันดี 4.เรื่องของกินและของที่ขายต่างๆนั้นปัจจัยถูกแพงขึ้นอยู่กับต้นทุนของแต่ละท่านไม่เท่ากัน 5.ความสามัคคีและความร่วมมือในชุมชนลดน้อยลงพอสมควร 6.จุดที่ต้องพัฒนาในอัมพวาก็คือเรือขายของและอนุรักษ์การชมหิ่งห้อยไว้จุดนี้ถ้ารณรงค์ให้เพิ่มขึ้นได้ผมว่าอัมพวาจะค่อยๆดีขึ้นเลยครับ.
ชอบเรื่องนี้
จริงๆ น่าเที่ยวนะ แต่พอนึกถึงเรื่อง ของแพงเกินไป ก็ทำให้ไม่อยากไป
มันร้อนมากครับ ไปปีที่ผ่านมาตรงสะพานคนก็เยอะ แต่ร้อนขึ้นมากถ้าเทียบกับ10กว่าปีก่อน 😅 เป็นกำลังใจให้คนอัมพวาครับ
very good big story 👍
ผมเกิดที่นั่น โตที่นั่น บอกเลยตอนนี้คนดั้งเดิมเหลือแต่เด็กกับคนแก่ รัฐโหมแต่จะหารายได้จากการท่องเที่ยว ทั้งๆที่คนส่วนใหญ่เป็นชาวสวน ผลิตผลการเกษตรถูกละเลยไม่สนใจดูแล คนหนุ่มสาวก็ต้องไปทำงานที่อื่นส่งเงินมาเลี้ยงเด็กกับคนแก่
วิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้าน อาหารและสินค้ามันไม่ได้แบบชาวบ้านๆเหมือนสมัยก่อน ไปล่าสุดคือหลังโควิด แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าต่างจากตลาดน้ำในกรุงเทพยังไง ปัจจุบันเวลาไปสมุทรสงครามคือไปซื้อของตลาดแม่กลอง ไปกินข้าวร้านชาวบ้านในศูนย์อาหารตามวัดใหญ่ๆในอัมพวาและก็กลับ
ไปถ่ายตอนน้ำขึ้นสูง
ได้ดึงดูดคนมาอยู่ครับ สู้ ๆ ครับทุกท่าน
ยังคงมีเสน่ห์เสมอครับ 🌈🎉
แม่น้ำลำคลอง เป็นธรรมชาติเอกลักษณ์มาก ☃️
ถนนที่ต้องผ่านสวน ต้นไม้รายล้อมอันอบอุ่น 🌳🥳
วัดวาอารามสวยคลาสสิคศักดิ์สิทธิ์ 🤩🪷🇹🇭
เคยไปสมัยเป็นตลาดชาวบ้าน ตอนหลังไปเป็นคนต่างถิ่นมาขายแทน และล่าสุดเป็นร้านคนจีนมาขาย ไม่แปลกใจที่นักท่องเที่ยวหาย มันขาดเสน่ห์ คนชอบวิถีชีวิต วัฒนธรรมท้องถิ่น แต่หายไปหมด
1. ราคาแพง
2. หมดเสน่ห์
3. ขาดการจัดการที่ดี
4. ที่ดินเป็นของนายทุนนอกพื้นที่และนายทุนที่มาจากการปล่อยเงินกู้นอกระบบกว้านซื้อที่ดินเอาไปทำบ้านจัดสรร
เราอยู่แถวนั้น ยังไม่ไปเที่ยวที่ตลาดน้ำเลยค่ะ มันหมดยุคของที่นี่แล้ว ต้องยอมรับ
หิงห้อยหายไม่ไหนหมด
ผมไปมาล่าสุดช่วงโควิดเริ่มเบาบ้างลง ยอมรับว่าช่วงเฟื่องฟูคนเยอะมากของแพงเกิน
อาการของอัมพวาน่าจะรักษายากใช้เวลานาน น่าสงสารแต่ชาวบ้านพื้นที่รับผลกระทบเต็มๆ มีเวลาว่างจะไปเที่ยวอีก
ตัวอย่างจากอัมพวาน่าจะเป็นตัวอย่างให้กับชุมชนอีกหลายหลายชุมชนที่กำลังเติบโต น่าเสียดายชื่อเสียงของตลาดน้ำอัมพวา
คงต้องไปพัฒนาระบบพื้นฐานก่อนเช่น ความสะอาดความสวยงามของอาคารสถานที่, ที่จอดรถ,ราคาสินค้า การเอาเปรียบนักท่องเที่ยวฯลฯ ซึ่งจะว่าไปตอนนี้มีสถานใหม่ๆเกิดขึ้นมากมายและน่าสนใจมากกว่า ที่อื่นเขาแข่งขันกันหนักมาก ถ้าหากจะใช้วิธีการเดิมคงไม่ได้แล้วล่ะ..
ที่เลิกไปมานานแล้วเพราะขายของแพงขึ้นมากกกกก และของที่เอามาขายส่วนมากไม่ใช่สินค้าหรืออาหารท้องถิ่น แต่ขายสินค้าอาหารตามกระแส กระแสมีคำว่าแค่ลองครั้งเดียวก็เบื่อแล้ว
ค่าเช่าก็เป็นส่วนหนึ่ง เมื่อภาพรวมทั้งหมดดูมีราคาสูงขึ้น นักท่องเที่ยวก็จะมองหาตัวเลือกใหม่ๆ
อัมพวา จะกลับมาได้อีกครับ ถ้าขายเสน่ห์ความเป็นวิถีชุมชน ความเป็นวิถีชุมชน ที่ไม่เชิงพานิชจนเกินไป
ช่วงที่อัมพวาเติบโตมากๆ นายทุนก็จะเข้ามาตักตวง จนเสน่ห์หายไป รวมถึงการมาของทัวร์จีน
ถ้าขายจุดท่องเที่ยวใหม่ๆ เช่นวัด บ้านเก่า งานศิลปะ วิถีชีวิต ก็อาจกวักมือเรียกนักท่องเที่ยวกลับมาได้ อีกครั้ง เอาใจช่วยครับ อัมพวา
ธุรกิจมาก่อนความสุข เกิดแล้วดับหมดเสน่ห์ดึงดูด
จากคนแม่กลองคนหนึ่ง
ผมคิดว่า ความเป็นพื้นถิ่นเดิมหายไป, ไม่มีจุดยืนที่ชัดเจน,
ทุนนิยม, ของที่ขายก็มีแต่ของสมัยใหม่ๆจากต่างถิ่น
ที่น่าเบื่อคือมลพิษทางเสียงและอากาศ จากเรือหางยาวท่องเที่ยว แทนที่จะใช้เรือพายแบบพ่อค้าแม่ค้า
ของแพง 4:50
ทำตัวเอง อ๊ะๆๆๆอย่านะๆ😀😀😀
พูดได้ดีค่ะ ทำตัวเองทั้งนั้น
ร้านปิดค่อนข้างเยอะ ของมีราคาแพง ที่จอดรถน้อยมาก จุดที่ถ่ายภาพที่เ่ป็นเอกลักษณ์เคยมีแต่ปล่อยร้างไปแล้ว
อัมพวามีเสน่ห์เพราะผู้คน พ่อค้าแม่ขาย และสินค้าท้องถิ่น พอคนเหล่านั้นหายไป เอกลักษณ์ที่ติดอยู่กับตัวคนก็หายไปด้วย ไปครั้งล่าสุดรู้สึกจืดๆ หมดเสน่ห์ บางโซนเหมือนเป็นตลาดเสื้อยืด
รายการดีค่ะ แต่เสียงเบามาก
สงสารอัมพวา
เหมือนจะไม่ไกลกรุงเทพ แต่เส้นพระราม 2 รถติดโหดมาก เบื่อถนนเส้นนี้ไปเลย
ที่ไปมาล่าสุด อยากจะพูดอยากจะบอกว่า มันไม่มีอะไรแปลกใหม่ที่จะดึงดูดใจให้ไปเลยค่ะ หลายปีก่อนมีอะไรก็ยังอยู่แบบนั้นสินค้าเดิมๆ คือความดั้งเดิมมันก็ดีมันก็มีเสน่ห์แต่มันจำเจเกินไป อยากให้เขาพัฒนาให้มีอะไรตื่นตาตื่นใจกว่าเดิม คือไปเดินล่าสุดไม่ได้อะไรติดมือกลับมานอกจากหมึกย่างกับเมี่ยงคำเสียบไม้
แค่คิดว่าต้องเดินทางด้วยถนนพระรามสองก็ล้มทริปแล้ว ถนนทั้งรถติดและอันตราย
เคยไปก็ขายของแบบเดิมๆ ของกินเหมือนทุกที่ ไป2-3ครั้งก็ไม่ไปแล้วหมดความตื่นเต้น
ที่ว่ามามีผลทั้งหมดครับ เมื่อก่อนผมไปแทบจะทุกสัปดาห์ ทุกวันนี้มันมีสถาน!ที่เที่ยวเยอะขึ้น ราคาสินค้าที่ดี เหมาะสมที่สำคัญคือ อัตลักษณ์!ของพื้นที่นั้นๆ
เคยไปมาหลายรอบ รอบแรก ๆ ประทับใจ สินค้าท้องถิ่น อาหารท้องถิ่น
รอบหลัง ๆ มา เหมือนเดินตลาดนัดปกติ ของทั่วไป ไม่มีเสน่ห์
ของแพง และตลาดโบราณเกิดขึ้นเยอะ
อยากรู้จัก กำนัน & อ.กึกก้อง คร่า 🙏🏻
ตามมาจากข่าว TH-camr สาวญี่ปุ่น
ร้างค่ะ
เดี๋ยวนี้ที่เที่ยวเยอะครับ โซเชียลทำให้รู้เแหล่งท่องเที่ยวมากขึ้น คนรู้จักซอยเล็กซอยน้อยมากขึ้น มันเลยไม่แปลกที่คนลดลงครับ เพราะกระจายไปหลายๆที่ครับ
ต้องเข้าใจสัจธรรมค่ะเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไฟ เพราะเปิดมานานที่อื่นมาใหม่คนก็แห่กันไป
ในฐานะนักท่องเที่ยว. เราเคยไปมาไม่ต่ำกว่า3ครั้ง ทั้งตลาดน้ำอัมพวา และตลาดแม่กลอง.. แต่เราไม่ได้ไปมาหลายปีแล้ว เพราะ 1. ของแพงขึ้น พ่อค้าแม่ค้าหลายจ้าว พอขายดีแล้วดูหยิ่ง พูดจาไม่ง้อ ผสมไปกับพวกทัวร์จีน ซึ่งเอะอะเสียงดัง โวยวาย ไร้มารยาท เดินแบบไม่สนใจโลก..
นี่คือปัญหาของฉันค่ะ. ไปที่อื่นที่ไม่มีพวกจีน และของไม่แพงจนเกินไปค่ะ😊
เคยไปพักมาแพงเกินไป
มันไม่มีอะไร😅😅 เคยไปหนนึง ก็เฉยๆ
เอ๊า กำลังจะไป 😂
ไปตลาดน้ำดอนหวายดีกว่าเยอะของถูก ของอร่อยๆเพียบ เลือกได้ ก็เลือกในสิ่งที่ดีกับตัวเอง โลกโซเชี่ยวมันแรง
สถานที่ลักษณะแบบนี้ส่วนใหญ่มากันคนละ 1-2 ครั้ง ก็ไม่อยากมาแล้ว ไม่เหมือนแหล่งช็อปปิ้งที่มีสินค้าเยอะหลากหลาย หรือ ธรรมชาติสวยๆ เช่น ป่า ภูเขา ทะเล น้ำตก ที่คนสามารถไปเที่ยวซ้ำได้มากกว่า 1-2 ครั้ง
มาวันนี้ อายุ 70 ปี เดิมชอบนะแต่ตอนนี้ไม่เคยคิดจะไปเลย เพราะสถานที่จะไปต้องมีจุดเด่น แนวอัมพวาก็อยากเห็นความเป็นท้องถิ่น ทั้งอาหาร วิถีชาวบ้าน ความสะอาด ร่มรื่น ความสงบ อากาศเย็นสบาย คนอัมพวาแท้ๆ หายาก มีแต่คนต่างถิ่น ไปทำงาน เป็นลูกจ้าง เจ้าของกิจการมาจากต่างถ้่น มุ่งแต่ประโยชน์จากผลกำไรเกินไป เลิกซะที ร้านกาแฟ ชื่อฝรั่ง แก้วนึงเป็นรัอย ถัาจะกินห้างใน กทม. เยอะแยะไม่ต้องถ่อไปอัมพวาหรอก ต้องมีผู้นำชุมชนร่วมมือกับชาวบ้านรักษาเอกลักษณ์สมัยปู่ยาตาทวด ส่วนงานราชการท้องถิ่น ต้องให้การสนับสนุนนะ
1 เอกลักษณ์หายไป
2 อาหารพื้นถิ่นหายไปที่ยังเหลืออยู่มีแต่ผลิตพันธ์จากมะพร้าวอย่างเดียว แต่ก่อนป่าจากเยอะมาก..กุ้งก้ามกรามอมแป๊บเดียวก็ได้กินแล้วแต่เดี๋ยวนี้คงมีแต่กุ้งเลี้ยงหลายสิ่งหลายอย่างทึ่เคยมีมันหายไป.เห็นแล้วทำยังงัยก็ไม่เหมือนเดิม .
3..คนทัองถิ่นไปหากินที่อื่นเป็นส่วนมากธรรมชาติหายไปเพราะความเจริญเข้ามา
กลับไปสู่จุดเริ่มต้น เอาเรื่องธุรกิจการท่องเที่ยวออกไปก่อน เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่