วีดีโอ

ในเบื้องต้น ถ้าดูตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการรับจ้างก่อสร้างอาคารเพื่อการอยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา นั้น ผมมองว่า ระบบน้ำ เป็นส่วนควบหรืออุปกรณ์ที่สำคัญของบ้าน จึงจะได้รับประกัน 1 ปี นับแต่วันที่ส่งมอบบ้าน ครับ ทีนี้ ต้องไปดูในสัญญาก่อสร้างหรือสัญญาซื้อขายอีกทีว่ามีการกำหนดการรับประกันไว้สูงกว่าประกาศตามกฎหมายหรือไม่ครับ ถ้ากำหนดไว้สูงกว่าก็เรียกร้องให้รับผิดชอบได้ครับผม

นายหน้า ขายที่ดิน ตามกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ว่าต้องทำเป็นหนังสือหรือต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือครับ เพียงแค่ ตกลงกันทางวาจา หรือพูดคุยทางไลน์ก็ใช้ได้แล้วครับ ขอแค่นายหน้า ได้ทำหน้าที่ในลักษณะ ชี้ช่อง หรือจัดการ ให้คู่สัญญา(เจ้าของที่ดินและผู้ซื้อ) ได้เข้าทำสัญญากันสำเร็จครับ ก็มีสิทธิได้รับค่านายหน้า ตามกฎหมายแล้วครับ

ยินดีครับผม หากมีกรณีศึกษาเรื่องราวในลักษณะเดียวกัน แบ่งปันข้อมูลกันได้นะครับ

ใจเย็นครับท่าน กฎหมายค่อนข้างไม่ทันสมัยครับ ในปัจจุบันบางพื้นที่ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ครับ ซึ่งตัวกฎหมายมีเจตนารมณ์คุ้มครองชาวนาครับ

ผมโดนหนี้ค้ำประกันเงินกู้ไม่ใด้ไปศาล/ไม่ใด้ต่อสู้คดีคนกู้ไม่มีทรัพย์ผมเลยโดนฟ้องแทนตั้งแต่ปี56ขอคำแนะนำหน่อยครับ

อายุความขึ้นอยู่กับประเภทหนี้/คดีนั้นๆครับ ยกตัวอย่างเช่น -อายุความคดีกู้ยืมเงิน ทั่วไป อายุความ 10 ปี -อายุความคดีกู้ยืมเงิน ที่มีกำหนดผ่อนชำระต้นเงินและดอกบี้ย เป็นงวดๆ อายุความ 5 ปี อายุความข้างต้นนี้ คือ สิทธิของเจ้าหนี้ในการฟ้องคดีนะครับ

ถ้าถูกฟ้องนานแล้ว และไม่ได้ต่อสู้คดี จะเสียสิทธิต่อสู้คดีเรื่องขาดอายุความไปแล้วครับ วิธีแก้ คือ การขอพิจารณาคดีใหม่ และสืบพยานสู้คดีครับ (มีระยะเวลาในการขอพิจารณาคดีใหม่) แต่ถ้าพ้นสิทธิการขอพิจารณาคดีใหม่ไปแล้ว และศาลมีคำพิพากษาไปแล้ว อายุความบังคับคดีตามคำพิพากษาคือ 10 ปีครับผม

ขอบคุณครับ

ใช่ครับ ถ้าเลือกได้นะครับ ไม่ควรค้ำประกันใครจริงๆ แต่ถ้าเป็นทางธุรกิจการค้ำประกันยังจำเป็นอยู่ครับผม

🙏🙏🙏

🙏🙏

ยินดีมากครับผม

ขอบคุณครับ หวังว่าเนื้อหาจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนทั่วไปด้วยครับ ^_^

ขอบคุณครับผม ☺

ใจเย็นๆครับผม ถือเป็นกรณีศึกษาที่ดี สำหรับผู้ที่กำลังจะทำสัญญาเช่าครับ

ขอบคุณครับผม

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณครับผม

ใช่ครับ ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ยังคงไม่ให้ความสำคัญกันครับ ทั้งที่การเสียภาษีจากการเช่าก็ไม่ได้แพงขนาดนั้น เมื่อเทียบกับปัญหา/ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นต่อไปครับ ขอบคุณสำหรับความเห็นนะครับ ^_^

หลักฐานการโทรเลื่อนนัด ต้องชัดเจนเพียงพอ หรือให้ดี คือทำเป็นลายลักษณ์อักษรครับ ถ้าแค่โทรมา แต่ไม่ได้บันทึกเสียงไว้ จะสู้เอกสารที่เกิดขึ้นที่สนง.ที่ดินยากครับ ดังนั้น หากจะมีการเลื่อนวันนัดโอนจริงๆ ให้มาเขียนในสัญญาฉบับเดิม และลงนามกันทั้งสองฝ่าย หรือให้ฝ่ายที่จะเลื่อนทำเขียนขอเลื่อน เซ็นชื่อ และส่งมาให้เราครับ จะดีที่สุด คนหัวหมอมีเยอะครับ

ขอบคุณมากครับ เป็นกำลังใจที่ดีมากเลยครับผม ^_^

ครับผม ^_^

ถ้ายังไม่โอน แจ้งให้เจ้าของโครงการแก้ไขซ่อมแซมจนกว่าจะเรียบร้อยแล้ว ค่อยนัดวันโอนกรรมสิทธิ์บ้านและที่ดินครับ แต่หากเราไม่สบายใจที่จะซื้อแล้ว ยกเลิกสัญญาจองไปดีกว่าครับ ส่วนว่าเมื่อยกเลิกสัญญาจองหรือสัญญาจะซื้อจะขาย จะทำให้ถูกริบเงินจองหรือเงินมัดจำ ก็ต้องดูที่รายละเอียดของสัญญาที่เซ็นไว้ด้วยครับ

th-cam.com/video/blsCDAmlLNE/w-d-xo.html&lc=UgwMpgIA5_OUGgV6f4h4AaABAg หากรับโอนมาแล้วก็ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ลองฟังคลิปข้างต้นดูนะครับ

คำถามนี้ดีมากเลยครับ ผมคิดว่ามีข้อพิจารณา 2 เรื่องครับ 1.สิ่งก่อสร้างดังกล่าว หากเป็นโรงงาน อาจไม่เข้าข่ายเป็นอาคารเพื่ออยู่อาศัย จึงไม่ต้องควบคุมตามประกาศฯ แห่งพรบ.คุ้มครองผู้บริโภค 2.ส่วนประเด็นที่ผู้รับจ้างก่อสร้าง รับประกันโครงสร้าง 10 ปี เป็นเอกสาร สามารถใช้บังคับตามกฎหมายกันได้ครับ เว้นแต่มีกรณีตามคำถามของท่าน คือ ก่อสร้างไม่เสร็จ หรือไม่ได้ก่อสร้างต่อ หากมีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้าง ก็ต้องพิจารณากันต่อไปว่า ความเสียหายเกิดจากผู้รับจ้างก่อสร้างรายแรก หรือผู้รับจ้างก่อสร้างที่มาก่อสร้างต่อจนจบครับ ตอบเบื้องต้นได้ประมาณนี้นะครับ หากมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเล่ารายละเอียดมาอีกได้ครับ ขอบคุณสำหรับคำถามที่ดีครับ ^_^

เป็นเช่นที่ท่านกล่าวมาได้ครับผม

ต้องขออภัยด้วยนะครับ ผมจะปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้นครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับผม ^_^

ใช่ครับผม

ขอเรียกว่าคำแนะนำนะครับ ว่าถ้าจะเช่ากันมากกว่า 3 ปี ให้ไปจดทะเบียนเช่าที่สำนักงานที่ดินครับผม เพราะที่ทำไปก็ไม่ได้ผิด แค่กฎหมายไม่คุ้มครองครับ ยังบังคับใช้กันต่อไปได้ จนกว่าจะมีปัญหาดังเช่นเรื่องราวที่นำมาเล่าครับ การป้องกันปัญหาที่ดี คือ ถ้าไม่ไปจดทะเบียนเช่าที่สนง.ที่ดิน ก็ไม่ควรเช่าแต่แรกครับผม

ถ้าผู้เช่าไม่จ่ายค่าเช่า แน่นอนกลายเป็นผิดสัญญาเช่า ซึ่งก็จะกลายเป็นถูกบอกเลิกสัญญาเช่า หรือถูกฟ้องขับไล่กรณีไม่ออกจากพื้นที่เช่า ซึ่งมีเคสนึงที่ผมเคยเจอ ผู้ให้เช่าฟ้องผู้เช่าผิดสัญญาและเรียกค่าเช่าที่ค้าง+ค่าเช่าที่ยังไม่ถึงกำหนดตลอดสัญญามาด้วย และชนะคดีด้วยครับ เรียกว่าเคสนั้นผิดสัญญาเช่าแล้ว ยังต้องยอมรับผิดค่าเช่าจนครบสัญญาไปด้วยครับ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสัญญาเป็นกรณีๆไปนะครับ

ใจเย็นครับท่าน จริงๆแล้ว เราสามารถทำสัญญาปกป้องสิทธิของตัวเองได้อยู่ครับ ขึ้นอยู่ว่าเราให้ความสำคัญไหมครับ ส่วนคนไม่ดี/คนโกง มีอยู่เป็นปกติครับ รู้เท่าทันไว้ก็เป็นประโยชน์ครับผม

^_^

ยินดีครับผม ^_^

👍👍👍

ขอบคุณครับ

🙏🙏🙏

🙏🙏🙏

ยินดีครับ

ถูกต้อง ควรเป็นเช่นนั้นครับ แต่ในทางปฏิบัติ/ทางความเป็นจริง เจ้าของที่ดิน เขาไม่ยอมไปทำให้ครับ ส่วนผู้เช่าอยากเช่าที่ดินมาก เจ้าของว่าไง ก็ต้องตามนั้น ไม่งั้นก็ไม่ได้เช่า อำนาจต่อรองต่างกันครับ หรือราคาค่าเช่าอาจไม่ใช่ราคาตลาด อาจจะแพงกว่านั้นมาก เพราะเจ้าของที่ดินต้องเสียเวลาไปสำนักงานที่ดิน และต้องเสียภาษีทันทีโดยไม่รู้ว่าผู้เช่าจะผิดสัญญาไหม/ต้องผูกพันการเช่าไว้หลังโฉนดที่ดิน/จะยกเลิกการเช่ายุ่งยากกว่าปกติมาก และอีกหลายอย่างครับ แต่ถ้าเจอเจ้าของที่ดินที่ยินยอมไปทำให้/มอบอำนาจไปให้ทำเองก็ดีไป ถือว่าตกลงพร้อมใจ และสบายใจกันทั้งสองฝ่ายครับ

ถ้าจะทำสัญญาเช่า ทำกันได้เลยครับ ส่วนการคืนค่าเช่า กรณีผิดสัญญาเช่า หรือไม่ให้เช่าต่อก็ระบุไปในสัญญาได้ครับ

@@storytellingbypichailawyer ขอบคุณครับ

@@mr.serchannel7666 ยินดีครับผม

ส่วนของค่าปรับกรณีก่อสร้างล่าช้าเกินกว่าที่กำหนดไว้ในสัญญา หากระบุชัดเจนไว้ในสัญญาเรียกย้อนหลังได้เลยครับ ส่วนคู่กรณีจะจ่ายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรอง หากไม่ยอมจ่ายก็ฟ้องคดีได้ครับ แต่ถ้าไม่ได้ระบุไว้ในสัญญา ฟ้องเรียกได้ ครับ แต่จะได้เท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ทั้งนี้ ผู้ว่าจ้าง/เจ้าของบ้าน ต้องไม่มีพฤติการณ์หรือการกระทำใดๆในลักษณะยอมหรือผ่อนปรนให้ผู้รับเหมาส่งมอบบ้านเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนดในสัญญาด้วยนะครับ เพราะจะกลายเป็นว่า เจ้าของบ้านไม่ติดใจเรื่องล่าช้า หรือยอมให้ทำการก่อสร้างล่าช้าได้ครับ

@@storytellingbypichailawyer ขอบคุณมากครับ ที่ให้ความรู้🙏

@@เจ้าอาราม ยินดีครับผม ฝากติดตามช่องยูทูปด้วยนะครับ ^_^

เพราะคนทำนาบ้างคนก็เอาเปรียบเจ้าของแปลงที่ดิน รู้มากโดยเฉพาะคนทำนา

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ ยินดีแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันครับ เป็นประโยชน์ต่อผู้คนครับ ทีนี้ผมเห็นด้วยมากเลยครับ ในส่วนของการเช่าที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่าย ทั้งเจ้าของที่ดินและผู้เช่าทำนา ที่จะทำสัญญากันเป็นหนังสือครับ หากมีปัญหากัน สัญญาที่ทำกันไว้ก่อนแล้วนั้น จะเป็นตัวช่วยที่จบปัญหาระหว่างกันได้ง่ายขึ้นครับ ส่วนเรื่องระยะเวลาการเช่านา ผมทำคลิปเสียงไว้ เผื่อสสนใจข้อมูลเพิ่มเติมครับ th-cam.com/video/rJMhpv_voVM/w-d-xo.htmlsi=vMYlaAeLQMHHxva2

ยินดีครับ ขอบคุณที่ติดตามรับฟังคลิปนะครับ เป็นกำลังใจที่ดีมากเลยครับผม ^_^

ถ้าคู่สมรสทั้ง 3 คนไปเซ็นด้วยได้ก็ดีครับ แต่ถ้าไปด้วยไม่ได้จริงๆ ก็สามารถเซ็นหนังสือให้ความยินยอมมอบไว้ให้กับคนที่เป็นทำแทนได้เลยครับ

ขอบคุณครับ

@@ต๋อมอิสระ-ฟ8พ ยินดีครับผม

ต้องดูตัวสัญญาที่เซ็นกันไว้ ว่ามีเนื้อหาครอบคลุมถึงงานเพิ่มไหมครับ ซึ่งปกติ ถ้ามีหลักฐานการเพิ่มงาน และมาจากผู้ว่าจ้างเองด้วยแล้ว ก็เสนอราคางานเพิ่มภายหลังได้ครับ หากเจ้าของบ้านไม่ชำระ ก็ฟ้องเป็นคดีแพ่ง เรียกส่วนของงานเพิ่มได้ครับ ทีนี้ในการพิสูจน์ให้ศาลเห็นนั้น ต้องรวบรวมหลักฐานให้ชัดเจน และสิ่งสำคัญคือ มีค่าใช้จ่ายในการฟ้องคดี ถ้าทุนทรัพย์/ความเสียหาย/ส่วนงานเพิ่มไม่ได้สูงมาก ฟ้องคดีจะคุ้มหรือไม่ ต้องพิจารณาอีกทีครับ