“วันที่รอยยิ้มหายไป” น้ำตาเเละความรู้สึกของการสูญเสียเหยื่อคาร์บอมบ์เเฟลตตำรวจ สภ.บันนังสตาจ.ยะลา

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 21 ก.ย. 2024
  • “วันที่รอยยิ้มหายไป”
    "มันทำใจไม่ได้ มันเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่คิดว่าจะเป็นคนในครอบครัวเรา ตอนนี้ยังไม่วางแผนว่าจะทำยังไงต่อไป ขอทำใจให้ได้ก่อน ...บอกกับลูกๆ ให้ทำใจ ปลอบลูกว่าไม่เป็นไร พ่อยังอยู่ ถึงแม้แม่จะไม่อยู่แล้ว พ่อยังมี"
    ข้อความตอนหนึ่งที่นาย มูฮามัดอับกา สะมะแล สามี น.ส.รอกีเย๊าะ สาระนะ ครู รร.ตาดีกาประจำมัสยิดกำปงลาแล ต.บาเจาะ อ.บานังสตา จ.ยะลา ได้บอกเล่าให้เราฟังด้วยเสียงอันสั่นเครือในวันที่ต้องสูญเสียภรรยาผู้เป็นรักไปตลอดกาล.....
    มูฮามัดอับกา ฯ ได้เล่าเรื่องราวของตนเองกับภรรยาให้ฟังว่า แต่งงานอยู่กินกันมา 16 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ลูกชายคนโตเรียนอยู่ ม.4 ลูกสาวคนกลาง อยู่ ม.1 และลูกสาวคนเล็ก ยังอยู่ชั้นประถม ตัวเองทำงานก่อสร้าง ส่วนครูรอกีเย๊าะ เสาร์-อาทิตย์ จะไปสอนเด็กๆ ที่ตาดีกา มีลูกศิษย์มากมาย ลูกศิษย์บางคนอายุ 30 กว่าแล้วก็มี ครูรอกีเยาะห์ เป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น และมีน้ำใจกับทุกคน
    วันเกิดเหตุ ...วันนั้น ที่ตาดีกามีกิจกรรมมีเด็กมานอนพักค้างคืน ซึ่งป็นวันสุดท้ายของกิจกรรม ครูรอกีเย๊าะ อาสาออกไปซื้อของมาทำกับข้าวเลี้ยงเด็กๆ ก่อนจะออกไป ได้โทรมาบอก ให้ตนช่วยขูดมะพร้าว เพื่อเตรียมจะทำของหวานเลี้ยงเด็กๆที่ตาดีกา แล้วจึงขับรถจักรยนต์ออกไป... และนั่นก็คือ บทสนทนาครั้งสุดท้ายระหว่างตนกับภรรยา....
    จากนั้น ประมาณ 10 โมงกว่าๆ ตนได้ยินเสียงระเบิด ตอนนั้นทำงานอยู่ที่มัสยิด เห็นควันลอยพุ่งออกมาบนท้องฟ้า ตอนแรกไม่นึก ไม่คิดว่า จะเป็นแฟนตัวเอง มารู้ว่าใช่ เพราะเพื่อนข้างบ้านมาบอกว่า รถจักรยานยนต์ที่ตนซื้อต่อไปนั้น เกิดเหตุระเบิด เพื่อนถามว่าใครขับไป ตอนนั้นจึงได้รู้ว่า ไม่มีใครอื่นนอกจากภรรยาของตน จึงโทรศัพท์ไปหา โทรเท่าไรก็โทรไม่ติด คิดแล้วว่าต้องเกิดเรื่องแล้วแน่ๆ จึงรีบไปโรงพยาบาล ระหว่างทางในใจก็ยังนึกแต่เพียงว่า น่าจะโดนแค่สะเก็ดระเบิดเท่านั้นเอง เมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็รีบไปดูที่ห้องฉุกเฉินก็ไม่เจอ หาไปทั่วโรงพยาบาลก็ไม่พบภรรยา จนไปถามเจ้าหน้าที่ เขาเลยเอารูปรถคันที่โดนระเบิดมาให้ดู พอเห็นเท่านั้น.....จึงรู้ว่า... ใช่แล้ว..คนในภาพ คือ ภรรยาเรา เจ้าหน้าที่บอกว่าที่ร่างคนตาย มีแหวนอยู่หนึ่งวง จำได้มั๊ยว่าแหวนเป็นแบบไหน ตัวเองจำได้แม่น เลยบอกว่า แหวนเป็นแบบไหน มันยิ่งยืนยันว่า....ใช่แน่แล้วเป็นแฟนของเราจริงๆ ....
    ถ้าจะถามว่า จนถึงตอนนี้รู้สึกยังไง มูฮามัดอับกา ฯ บอกกับเราว่า.... มันทำใจไม่ได้ มันเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่คิดว่าจะเป็นคนในครอบครัวเรา ตอนนั้นทำได้เพียง. โทรกลับไปบอกลูก บอกกับลูกให้ทำใจ มะมาไม่อยู่แล้วนะ สงสารก็แต่ลูกทั้ง 3 คน จนถึงตอนนี้ก็ยังร้องไห้ไม่หยุด ตนได้แต่ปลอบลูกว่า...ไม่เป็นไร พ่อยังอยู่ ถึงแม้ว่าแม่จะไม่อยู่แล้ว แต่พ่อยังมี...
    "อยากจะฝากถึงผู้ที่ก่อเหตุ หากจะคิดทำอะไร ขอให้คิดรอบคอบ คิดถึงผลเสีย ผลร้ายที่จะตามมา มันมีแต่ความสูญเสียที่ไม่อาจประเมินค่าได้ การกระทำต่อมนุษย์ด้วยกัน มันคือ บาปมหันต์ ที่มิอาจลบล้างได้" มูฮามัดอับกา ฯ ได้บอกทิ้งท้ายด้วยแววตาหมองเศร้า
    รอยยิ้มสดใส ภาพถ่ายของครอบครัวในวันฮารีรายอปีที่ผ่านมา ของครอบครัว น.ส.รอกีเย๊าะ สาระนะ ครู รร.ตาดีกาประจำมัสยิดลาแล ต.บาเจาะ อ.บานังสตา จ.ยะลา จากนี้ไปคงเหลือแค่เพียงภาพในความทรงจำ เท่านั้น เพราะวันนี้ รอยยิ้ม...กลับถูกแทนที่ด้วย...น้ำตาแห่งความสูญเสีย
    การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างครอบครัว ครูรอกีเยาะ ไม่ใช่กรณีแรกที่เกิดขึ้น อีกกี่ความตาย. กี่การสูญเสียของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่ต้องตกเป็นเหยื่อของการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ วังวนที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้จะถูกชดเชยเยียวยาสักเพียงใด....แต่เงินเท่าไรก็ไม่อาจทดแทนชีวิตและโอกาสที่สูญเสียไปของพวกเขาเหล่านั้นได้
    Again and again.
    With the extremist violence of the extremists BRN that continues to cause violence, Violences attacks to innocent people indiscriminately.
    Indiscriminate for more than 20 years until it is not accepted by the majority of Muslim people.
    So BRN is non-representatives of the Majority people.
    สุดท้าย สิ่งที่น่าแปลกใจ นั่นคือ เหตุอันใด ทุกครั้งที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ เสียชีวิต กลับไม่มีองค์กรสิทธิใดๆ ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ครอบครัวพวกเขาเหล่านั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว
    The Striner Today

ความคิดเห็น •