(คลิปเต็ม) หนี้ครัวเรือน-หนี้ธุรกิจ-หนี้สาธารณะ : ปัญหาและทางออก (2) | ฟังหูไว้หู (9 มี.ค. 66)
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 15 พ.ย. 2024
- ฟังหูไว้หู | 9 มี.ค. 66 On Air
.
หนี้ครัวเรือน-หนี้ธุรกิจ-หนี้สาธารณะ : ปัญหาและทางออก (2)
.
ฟังหูไว้หู ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 21.00 น.
ทางช่อง 9 MCOT HD กด 30
ชอบรายการนี้มากค่ะ
เสียงคุณนุ่น นุ่มหูดี ความรู้ ก็ดีมากคับ
ประเทศไทยใช้ก่อนผ่อนที่หลัง มีรถมีบ้านมีโทรศัพท์หรูๆแพงๆ
หนี้ครัวเรือนเพราะ 1.ของแพ๊งแพง แพงจนงง บางคนเค้าก็พยายามประหยัดแล้ว ยังไม่พอจะกิน 2.อยากได้ อยากมี จนขาดสติ คำว่าขาดสติคือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรคือจำเป็น อะไรคือแค่อยากได้ สติหลุดเอ๋อคิดว่าทุกอย่างคือจำเป็น ซื้อแหลกแดกไม่อั้น 3.พ่อแม่มีหน้าที่ให้เราเกิด เราไม่จำเป็นต้องเลี้ยงพ่อแม่ แต่พอเรียนจบ บางคน(ย้ำ) ไม่รู้ตัวว่าเกาะพ่อแม่กิน ได้เงินเดือนก็เยอะ อยากทำธุรกิจ มีรถหรู ซื้อบ้านให้เช่า เท่ๆ แต่ทุกวันกินข้าวฟรีอยู่ฟรีน้ำไฟฟรี ดีไม่ดีเงินช็อตมายืมมาขอเงินพ่อกับแม่อี้ก งงกับคำจำกัดความของคำว่าลูกเหมือนกัน
เรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อพัฒนาโอกาส เเละใจเย็นๆ
คนไทยชอบเลียนแบบฝรั่ง เห่อฝรั่งกันนัก
ข้อ 3 น่าจะทำแบบฝรั่ง ลูกอายุครบ 18 ไล่ออกจากบ้านได้เลย ลูกก็ขายโต๊ะตู้เตียงให้พ่อแม่
ตอนนี้ เนื้อหาดีมาก 👏👏👍
ชอบๆชอบ
คนไทยที่เป็นหนี้ส่วนใหญ่มาจากโดนกิเลสหลอกทั้งนั้น ทั้งจากตัวเองและคนรอบข้าง
ขอบพระคุณครับ
สัญญาณล้มละลายเหมือนเวเนซุเอลา ซื้อทองคำแท่งไว้ให้มากที่สุด
เพ้อเจ้อ ถ้าไทยเวเนฯ ประเทศรอบๆข้างก็ตายหมดทั้งประเทศแล้ว
เด็กรุ่นใหม่ มีหนี้เยอะ และรู้วิธีหลบไม่ชำระ เจ้าหนี้ตามหาไม่เจอ
ไม่เคยค้างบัตรเครดิตเลยค่ะ บิลมาจ่ายหมดเลย
ครวจะมีมาตราการควบคุมส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราเงินกู้ อสังหาริมทรัพย์ไม่เกิน1.5%
มีผู้นำคนหนึ่งเคยสอนไว้ ....ให้เอาเงินในอนาคตมาใช้ 😄
อยากทราบข้อมูลการพิมพ์แบงค์ของรัฐบาล เพราะการเพิ่มปริมาณแบงค์เป็นการล้วงเงินออกจากกระเป๋าประชาชนทั้งประเทศ
หนี้บานจริงๆ นะ
หนี้ครัวเรีอนนะแก้ไม่ตกแน่นอนครับเพราะคนไทยไม่เหมือนคนจีน คนจีนเขาใช้จ่ายในสิ่งจำเป็นจริงๆๆ คนไทยส่วนมากใช้จ่ายฟุ่มเฟื่อย แก้ไม่ใด้แนนอน
รัฐบาลหน้าควรบริหารเศรษฐกิจอย่างไรและอันดับแรกที่ต้องทำคืออ่ะไร
ชอบๆ
นึกถึง Mexico Debt Crisis เปลี่ยนจากหนี้ภาครัฐมาเป็นหนี้ครัวเรือน แต่ผลลัพธ์ปลายทางมันน่ากลัวเหมือนๆ กันนะ
มันก็ต้องเทียบกับ GDP ซิ เพราะรายได้เพิ่ม ถ้าหนี้เพิ่มมันก็ถั๊วเฉลี่ย ก็ตามที่พูดข้างต้นที่ธนาคารโลกกำหนดไม่ควรเกิน 80% ตอนนี้ถ้ามันเกิน 80% แสดงว่าอันตราย ???
ไม่ใช่ซิ GDP เพิ่ม ถ้ามันมีคนจำนวนน้อยได้รับผลประโยชน์จาก GDP นั่นเป็นเหตุผลให้หนี้เพิ่ม และไม่ลด คือรายได้มันกระจุก มันไม่กระจาย
เรื่องหนี้บัตรเครดิต รัฐกำหนด ได้มั้ยว่า ยอดเครดิตต้องไม่เกินกี่ % ของรายได้ ??? อย่างเช่น การสมัครบัตรเครดิต ให้ดูที่ รายได้ - ยอดหนี้ปัจจุบัน (หนี้ที่ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ) เมื่อได้ตัวเลขจำนวนเงิน ให้ทำวง้ครดิตตามนั้น สมมุติคำนวณแล้วว่าน่าจะได้ที่ 200,000 บาท ถ้ามีธนาคารอื่นมาเสนอบัตรเครดิต ก็ถือว่า เต็ม วงบัตรเครดิต ......หยุดการบริโภค ......แต่มันก็จะลด demand ในการผลิต??? แต่ถ้าใช้เกินกำลังหาได้ มันก็มีปัญหา.... มันต้องกำหนดยอด จริงๆ มันต้องเช็คจาก หน่วยกลางที่มีข้อมูลบัตรเครดิตของทุกคน ว่าแต่ละคนได้บัตรและวงเงินไปแล้วเท่าไหร่.......ไม่งั้น NPL
แล้วจะ drive productivity ยังไง?? ......มันต้องทำเรื่องรัฐสวัสดิการ ให้มาก เพื่อลดรายจ่าย......เคยเขียนว่าเรียนฟรี......ไม่ใช่แค่เพียงเรียนฟรีเท่านั้น แต่ว่าเรียนแล้วได้เงินด้วย......ทำไมเนียนแล้วต้องได้เงิน? ลองนึกดู ถ้ามีมาตรการว่า เรียนจบปริญญาตรี จะได้เงิน คนละ เท่านั้น เท่านี้ ตามแต่ตวามต้องการของตลาด เงินนี้จะได้เมื่อเรียนจบ ........อืม จริงๆ แค่เรียนฟรีก็เพียงพอมั้ย???? เรียนฟรี เหมือนที่เยอรมันนี ......แต่การเนียนแล้วได้เงินเมื่อจบ....มันคือการกระตุ้น ให้กลุ่มคนที่ไม่รักการเรียนเลือกที่จะเรียน ???? ง่ายๆ คือกลุ่มเด็กเกเร หรือคิดว่า ไม่สนใจอนาคตเท่าไหร่ เลือกที่จะเรียน ??? แถมกลุ่มคนที่ปัจจุบันอาจจะอายุมาก เลือกที่จะกลับไปเรียน เพื่อเพิ่มทักษะ ......การศึกษา = ลดอาชญากรรม เพิ่มศักยภาพประชาชน เพิ่มคุณภาพสินค้า ทุกด้าน
มีคนจนมากมาย ที่ไม่มีเงินเรียน หรือต้องทำสิ่งผิดกฎหมายเพื่อจะได้เงินมา ....ถ้าเรามีตรงนี้เข้าไป จะเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก ภาพรวมได้เร็ว ถือว่า หนี้เครดิตที่เกินกำลังนั้น เอามาใส่เป็นเงิน เมื่อเรียนจบ.....แบบนี้รัฐบาล สามารถออกแบบบุคลากรที่สังคมต้องการได้.....เช่น ตอนนี้ต้องการหมอจำนวนมาก เงินก้อนสำหรับคนเรียนจบหมอก็อาจจะสูงหน่อย (แต่ก็ยังคงมีการสอบเข้าวัดระดับความสามารถเหมือนเดิม) .....การที่เงินรางวัลตอบแทนไม่เท่ากัน มันก็คล้ายๆ กับการคัดคน ไปในตัว.....???
งั้นบางคนไม่ทำอะไร....เรียนให้จบ เพื่อเอาเงินอย่างเดียว???...... ถ้ากำหนดว่า เรียนให้จบปริญญาตรี ใบแรกเท่านั้น สมมุติได้ปริญญาตรีใบที่สอง ก็จะไม่ได้เงิน .....ปริญญาโท และ เอก เรียนฟรี จบมาไม่ได้เงิน (สมมุติ ณ ตอนนี้รัฐบาลตั้งเป้าว่าทุกคนควรจบปริญญาตรี) .....แต่ถ้าในอนาคต ต้องการให้จบโท.....รัฐก็ทำให้เรียนจบโท แล้วได้เงิน......
เหมือนจะสวนกระแสมั้ย???? ในเมื่อเดียวนี้เทรน มหาเศรษฐี ด้าน เทคโนโลยี ไม่จบปริญญา......คิดว่าปริญญา สร้างสังคม สร้างเพื่อน สร้างจิตสำนึกในการเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ คิดว่าดี สี่ปี ไม่ถือว่าเสียเวลา
เรื่องซื้อบ้าน ซื้อรถ .....ถ้ากรุงเทพ ต้องการลดการซื้อรถ เพราะปัญหารถติด....รัฐบาลทำโครงการ หักเงินออกจาก สลิปเงินเดือนอัตโนมัติเพื่อ ได้บัตร unlimited pass รถไฟฟ้า และรถเมล์ สำหรับกลกลุ่มคนวัยทำงาน ประชาชนที่ร่วมโครงการนี้ได้ส่วนลดด้วย อย่าง แทนที่จะจ่ายค่าโดยสารแบบ 100% ลดแล้วเหลือ 60% ......คิดว่าคนทำงานบริษัท จะร่วมโครงการนี้มากขึ้น .....ผลคือ ลดการซื้อรถยนต์สำหรับกลุ่มคนจบใหม่ เพราะกลุ่มจบใหม่ มักจะซื้อรถ ก่อนซื้อบ้าน.....ถ้าทำวิธีนี้ สถิติคนกลุ่มนี้จะซื้อบ้านก่อนซื้อรถมากขึ้น??? ไม่เห็นด้วยเรื่อง ต้องวางเงิน 30% เมื่อจะซื้อบ้าน
เราเห็นว่า คนมีเครดิต คือคนที่สามารถกู้ได้....มันเหมือนนายทุนไปกว้านซื้อคอนโดมาปล่อยเช่า เพราะรัฐบาลมีกำแพงในการให้กู้ โดยมีเรื่องเงินดาวน์สูงถึง 30% แบบนี้ หลายคนที่ เอาเงินผ่อนบ้านไปจ่ายเป็นเงินค่าเช่าห้อง เพราะไม่มีเงินดาวน์........
คนจะซื้อบ้าน มีกี่ประเภท?
1. ข้าราชการ
2. ลูกจ้าง
3. เจ้าของธุรกิจ
ประเภที่สอง ลูกจ้าง.....คนกลุ่มนี้ คือกลุ่มคนทำงาน แรงงาน เค้าเป็น cost ของการทำธุรกิจ ฉะนั้น ถ้าธุรกิจเติบโต คนได้ผลประโยชน์มากสุดคือเจ้าของธุรกิจ.....แต่ตอนนี้สถานการณ์กู้บ้านคือ ทุกคนเท่าเทียมกัน คือวางเงินดาวน์เหมือนกัน คือกู้ได้เท่ากัน ต่อหน่วยเงินดาวน์......ความเสียเปรียบของการเป็นลูกจ้าง ที่อยู่บนความไม่แน่นอนของธุรกิจ พอๆกับนายจ้าง หรือมากกว่า (ธุรกิจไม่ดี นายจ้างปลดคน..เค้าอาจจะแก้ปัญหาได้ แต่ลูกจ้างต้องหารงานใหม่...ได้งานง่ายมั้ย มีความเสียเปรียบด้านโอกาส.......
การดาวน์บ้าน.....การจ้างงานสามารถมีส่วนในการกู้ยืมได้ คือทำงานที่หนึ่งเป็นเวลาสองปี + หาเงินค่าดาวน์บ้าน ให้ได้ 7% ...เอาหนังสือรับรองการทำงานสองปี + เงินดาวน์ 7% ไปยื่น กู้ธนาคารมาซื้อบ้าน แต่จะสามารถกู้ได้ 100% .....จากเงินดาวน์ 7% นั้น ให้เอาไปเป็นเงินประกันผ่อนบ้าน .......
หมายถึง 7% ถือเป็นเงินฝากประจำ จุดประสงค์สำหรับประกันการผ่อนบ้าน คือถ้าเกิด ทำงานแล้วตกงาน ธนาคารจะดึงเงินประกันตรงนี้มาจ่ายค่าผ่อนบ้าน คาดว่าเงินประกันนี้มันน่าจะอยู่ได้สัก 12 เดือน (กรณีไม่มีเงินส่ง)??.....การกู้ได้ 100% คือผ่อนนานขึ้น แต่เงินประกันนั้น ทำการคิดดอกเบี้ยที่ให้ผลประโยชน์มากกว่าเงินกู้ยืมซื้อบ้าน....ผลคือ เมื่อผ่อนบ้านโดยไม่เกิดวิกฤตการเงินใดๆ จะสามารถโอนเงินตรงนั้นกลบหนี้ได้เร็วกว่าคนที่ เจอวิกฤตและเอาเงินประกันบ้านมาใช้
ทำโครงการเงินออมเพื่อการซื้อบ้าน??? คือให้ดอกเบี้ยดี สมมุติเกิดการถอนออก โดยไม่ใช่จุดประสงค์ซื้อบ้าน อัตราดอกเบี้ย จะถูกคำนวณอีกแบบ อาจจะออมแล้วไปวางเงินประกันบ้าน ที่ % มากกว่า 7% ก็ได้ เพื่อจะได้จ่ายหนี้หมดเร็ว.....แต่เหมือนวิธีนี้มันก็คล้ายกับปัจจุบัน? ดาวน์มาก ผ่อนน้อย?? แต่ต่างกันตรงที่ อัตราดอกเบี้ย เงินประกันการกู้ ที่ดีกว่า และแนวการคิดที่มีความยืดหยุ่น มากกว่าการคิดแบบ เงินกู้ที่ไม่เต็ม 100% ???
กรณีเจ้าของธุรกิจทหรือนายจ้าง .....คิดว่าควรมีเงินดาวน์ประกันบ้านที่ 12%?? เพราะคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คือเป็นกลุ่มที่มีผลตอบแทนสูง การวางเงินที่มากกว่า ก็ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้กับธนาคารด้วย และยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นเมื่อธุรกิจมีปัญหา ถ้าธุรกิจไปได้ดี คนกลุ่มนี้จะผ่อนบ้านหมดเร็วกว่าคนเป็นลูกจ้าง เพราะเงินประกันมากกว่า
เหมือนว่าการทำแบบนี้ ลูกจ้างจะขอให้นายจ้างจ่ายเงินแบบโอนเข้าบัญชีมากขึ้น? เพราะอยากได้ หลักฐานยืนยันการเป็นลูกจ้าง และการวางเงินดาวน์ที่เพียง 7% ???
ข้างต้นเป็นโครงการสำหรับคนมีบ้านหลังแรก ถ้ากู้ร่วมก็ถือว่าได้ใช้สิทธิ์นั้นแล้ว.....
การกู้ซื้อบ้านหลังที่สอง และกลุ่มลงทุนเพื่ออสังหาริมทรัพย์ ควรมีเงินดาวน์ที่ 25%......คือเงินควรหนา เพราะหนี้ครัวเรือนหลักๆ นั้นมันคือ หนี้บ้าน ถ้ามีเงินไม่เยอะ แล้วมากู้ มันมาปั่นราคาตลาดบ้าน และคนที่เป็น real demand ก็ไม่มีเงินไปแข่ง ทำให้หาบ้านได้ยากขึ้น
ต่อเรื่องซื้อบ้านสำหรับลูกจ้าง.....ถ้าไม่มีหนังสือรับรองการทำงานจากนายจ้าง สองปี ในที่ทำงานที่เดียว ก็ให้เอาเป็นประสบการณ์อย่างน้อย 3.5 ปี เอาหลายทีมารวมกันได้ แต่ต้องเป็นการโอนเงินว่าจ้างแบบเข้าบัญชีโดยตรง มีการเสียภาษี??? เราไม่รู้ว่าเหตุผลของการเปลี่ยนงานนั้นคืออะไร? ถ้าคนเหล่านั้นเปลี่ยนงานเพราะโดนดึงตัว? แต่ส่วนมากไม่มีใครโดนดึงตัวไปถ้าประสบการณ์น้อยกว่าสองปี??
ถ้ากรณีประสบการณ์ที่ทำงานที่เดียวไม่ถึงสองปี ให้เอาหลายที่มารวมกันก็ได้ ให้ได้ 3.5ปี เพื่อที่จะวางเงินดาวน์ที่ 7% ....ส่วนถ้าหลายที่รวมกันแล้วน้อยกว่า 3.5ปี ...ให้เอาเงินดาวน์ที่ 15% ?.....ณ. ที่นี้คือการคิดเป็นเงินดาวน์เพื่อฝากประจำสำหรับผ่อนบ้านเมื่อเวลาฉุกเฉิน...แต่คำนวณแบบกู้ได้ 100% .....แบบมันช่วยวิกฤต เศรษฐกิจได้ดี
คือเมื่อคำนวณเบ็ดเสร็จ ออกมา ประโยชน์จะตกถึงผู้ซื้อบ้านที่ซื้อได้ถูกกว่า การกู้แบบไม่เต็ม 100% (วิธีเดิม)
ของแพง ค่าแรงถูก ไม่สัมพันธ์กันเลยค่ัะ อาจารย์คะ
😁😁😁หัวเราะใส่ตัวเองค่ะ
ผิดกะผม ผมเงินพอจ่ายหนี้แต่ทำบัตรเครดิตไม่ได้
ผมมีหนี้ มากกว่ารายได้ 10เท่า อะครับ กำลังพยายามลดอยู่ :D
.จากอาจารย์ที่พูดมาทั้งหมดนั้น.เห็นได้ชัดว่า.นั่นเรียกว่ากับดักหนี้. ที่พวก3กีบติ่งเมกาชอบใช้หรือกล่าวหา.ตามที่ชาติตะวันตกเมกาปล่อยข่าวไอโอยุแยงให้คิดไปว่าชาตินั้นหรือชาติโน้นสร้างกับดักหนี้.ทั้งที่ตะวันตกเมกาก็เป็นผู้ใช้เป็นกับดักชาติอื่นๆมาก่อน. ความจริงก็คือ ทุกคนหรือทุกชาติควรรู้จักประมาณตนเองและควรรู้ให้เท่าทัน.ไม่ใช่คิดโง่โง่เอาแต่ความอยากของตนเป็นใหญ่หลงในวัตถุนิยม..และความต้องการทะยานอยากของตน.555..ควรลดความอยากให้ลดน้อยลงหน่อย
ที่น่ากลัวคือใจคนเป็นหนี้ จะหน้ามืดก็ตอนจ่ายเงิน
ตัวเลขรวมกันแล้วมันเกินนะครับ แปลก
ขึ้นค่าแรง ขึ้นค่าแรง ขึ้นค่าแรง ขึ้นค่าแรง
ถามเจ้าของกิจการก่อนว่าเขาพร้อมจะขึ้นค่าแรงไหม แต่ถ้าพัฒนาตนเองให้เป็นแรงงานฝีมือฝีมือ รายได้ก็เพิ่มขึ้นนะ
ราคาสินค้าขึ้นตามทันทีๆๆๆๆๆๆๆ
@@user-qzyxskjx ขึ้นค่าแรง ขึ้นค่าแรง ขึ้นค่าแรง เลิกคิดกลัวราคาขึ้นได้แล้วมันขึ้นปกติ ค่าแรงต่างหากไม่ขึ้นแซง ขึ้นค่าแรง นี่ล่ะ แก้ ปัญหาราคาสินค้าแพง ขึ้นไปจนโรงงานกลัวขี้ขึ้นสมอง ไปเลย
รัฐบาลที่อยู่มา8ปี ทำงานเป็นหารือไม่
หนี้ครัวเรือน หนี้จากการทำธุรกิจ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับการบริหารของรัฐฯ ลองคำนวนรายรับรายจ่ายให้ดี จะได้รู้ว่าเงินมันหายไปไหนหมด
@@25.08.0-f ทำไมจะไม่เกี่ยว มันเกี่ยวข้องกันทั้งหมดนั่นแหละ นโยบายรัฐบาลก็ส่วนนึงในการควบคุมนโยบายสินเชื่อ มาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้าง GDP per capita ให้หลุดกับดักรายได้ต่ำถึงกลาง มันเกี่ยวทั้งนั้นแหละครับ จะมาลอยตัวบอกไม่เกี่ยวไม่ได้
ฝีมือทรราช
@@25.08.0-f กินเงินค่าแรงจากภาษีประชาชน แล้วบอกไม่เกี่ยว ตรรกะไหน
@@aeym8842 บางคนตายังมืดบอดไม่มองที่ต้นเหตุของปัญหา
ช่องของรัฐบาลว่าสั้น
ผมนี่เป็นทั่งระบบสื่อสัญญาช่องดาวเทียมรัฐบาลยึดครองกันใจหมาๆกับผมๆชัดๆๆ