สัประยุทธ์ - สัปปายะ : ตอนพิเศษ : ตายแล้วเราไปไหน? (1 มี.ค. 61)
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 27 ก.พ. 2018
- จากอดีตพระเอกเจ้าของฉายาพระเอกแบดบอย, หล่อขั้นเทพ และยังเป็นนักแข่งรถในโลกความเร็ว พีท ทองเจือ ผู้ค้นหาทางออกของชีวิตโดยการศึกษาธรรมะด้วยตัวเอง พยายามที่จะตัดขาดจากชีวิตที่วุ่นวาย จากการปรุงแต่ง ปล่อยวาง และไม่ยึดติดกับภาวะใด ๆ จนเริ่มเข้าใจ และในการยกระดับจิต บางครั้งขณะตัวเองรู้สึกได้ว่า สามารถถอดจิต เห็นตัวเองในขณะขับรถแข่งได้ นั่นก็คือการซ้อนขันธ์ สภาวะที่เห็นว่า ขันธ์ 5 มันไม่ได้เป็นตัวเราโดยแท้จริง เพื่อที่จะได้ไม่รีบยึด ไม่รีบทุกข์ รวมถึงประเด็นคำถามที่ค้างคาใจว่า ตายแล้วไปไหน วิชาตัวเบาคืออะไร โดย อาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ อดีตอาจารย์สอนวิชาปรัชญาและศาสนา นักเดินทางแห่งจิตวิญญาณ จะมาร่วมไขปริศนาธรรมไปด้วยกัน
ติดตามชมในรายการสัประยุทธ์ - สัปปายะ วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม 2561 เวลา 11.05. น. ทางไทยพีบีเอส รับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
-------------------------------------------------------
กด Subscribe
ติดตามรายการดีๆของช่อง ได้ที่ : goo.gl/hdy2ye
และ ติดตามไทยพีบีเอสออนไลน์ ได้ที่
Website : www.thaipbs.or.th
Facebook : www. ThaiPBSFan
Twitter : / thaipbs
Instagram : / thaipbs
Google Plus : www.thaipbs.or.th/GooglePlus
LINE : @ThaiPBS
TH-cam : / thaipbs - บันเทิง
รายการดีมาก
คุณพีทพูดดีมาก
เป็นรายการที่ดีมากคะ แฝงแสงสว่างให้ชีวิต โดยที่การศึกษาตั้งแต่เด็กจนโตเราไม่เคยได้มีใครสอน แนะเราให้เรามีความรู้ความเข้าใจในการใช้ชีวิต ในการแก้ปัญหา หรือดึงตัวเองออกจากทุกข์
กายคตาสติ ชัดเจนเห็นการขยับเคลื่อนไหว ไม่แปลก เป็นปกติ
ชอบรายการนี้ค่ะ ดูมาหลายตอนแล้ว รู้สึกสว่างขึ้น
🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏💚💚🙏🙏🙏🙏
คุณพีทพูดดีมากถูกที่สุด 3 นาทีสุดท้ายเรื่องขันธ์ 5 ดีมากกกก
ชอบรายการ สัประยุทธ์ - สัปปายะ มาก...โปรดให้ดำเนินรายการนี้ต่อๆ ไปค่ะ รู้สึกเข้าใจง่าย เป็นธรรมะที่เข้าถึงได้ง่ายกระชับ (ทีวีควรมีรายการที่มีประโยชน์แบบนี้ให้มากๆ ค่ะ)
ตายแล้วไปไหน ถ้าอ.ตอบแล้วเราจะเชื่อได้ทั้งหมดเหรอ พิสูจน์ด้วยตัวเองไหมล่ะ ดังนั้น เรื่องนี้เป็นอจินไตย ไม่ต้องคิด เอวัง ชอบความคิดของพีท ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ
สาธุค่ะ กลัวอนาคต เครียดกับอดีต ตอนนี้ อยู่ไหน
รายการนี้ดีมาก ไม่มีรายการแล้วหรอครับ
ธรรมะ คือ ธรรมชาติ ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติ ไม่ฝืน เราก็จะใช้ชีวิตได้อย่างเป็นสุข
ขอบคุณค่ะไม่มีใครว่ายน้ำเป็นโดยการอ่านตำราอยู่ริมสระ
อย่างนี้พระพุทธองค์เรียกกายเห็นกาย เรียกว่าตัวรู้ถูกแยกออกมาจากสิ่งที่ถูกรู้ มีสิทธิ์ทำวิปัสสนาได้ง่าย เหลือแต่ใจต้องเอาจริงเท่านั้น
ผมแฟนไทยพีบีเอสครับ ชอบน้องณัฐฐา โกมลวาทินครับ
คำถามที่พี่พีทถาม ต้องให้พระอาจารย์นวลจันทร์เลย เคลียร์แน่ พระอาจารย์ไปไหนคะ อยากทราบค่ะ
คนที่ตายไปแล้ววิญญาณของแต่ละคนจะแยกออกจากร่างกาย ส่วนร่างกายที่ตายแล้วนั้นจะถูกเผาหรือฝังก็แล้วแต่. ส่วนวิญญาณนั้นยังมีชีวิตอยู่และจะไปอยู่ภพหรือโลกอีกแห่งหนึ่งซึ่งเรียกว่าโลกแห่งวิญญาณ ณโลกแห่งวิญญาณแห่งนี้จะมีอยู่สองระดับระดับแรกเรียกว่าพาราไดซ์หรือเราเรียกที่แห่งนี้ว่ารมดีที่ซึ่งวิญญาณเหล่านั้นอยู่ในสภาพแห่งสุขซึ่งเรียกว่าเมืองบรมสุขเกษมและอยู่ในสภาพของการพักผ่อน,สภาพของความสงบสุขซึ่งที่นั้นพวกเขาจะพักผ่อนจากความยุ่งยากทั้งหลายทั้งปวงของเขาและจากความกังวลทั้งปวงและโทมนัส และอีกที่แห่งหนึ่งของวิญญาณจะถูกขังอยู่ในคุกซึ่งจะเป็นสภาพคุกแห่งวิญญาณซึ่งวิญญาณเหล่านี้จะถูกกักขังในสภาพแห่งการรอคอยซึ่งจะมีทั้งความหวังและมีทั้งโศกเศร้าและปราศจากความหวัง. ส่วนคำถามว่าเราเกิดมาทำไม ก่อนมาเกิดนั้นเราเป็นสภาพของวิญญาณอยู่ที่เดียวกันกับวิญญาณอื่นๆที่นั่นเราเรียกว่าภพก่อนหรือโลกก่อนเกิดที่นั่นเรามีพ่อมีแม่เดียวกันเราเป็นพี่เป็นน้องกันทางวิญญาณ. จุดประสงค์ที่คนเราลงมาเกิดในโลกมนุษย์แห่งนี้ก็คือวิญญาณลงมารับร่างกายหรือเราเรียกว่ามาเกิดและอีกจุดประสงค์อีกอย่างคือเรามามีประสบการณ์ในชีวิตไม่ว่าจะมีชีวิตที่ยากลำบากหรือไม่ยากลำบากก็ตามเพื่อที่เราแต่ละคนจะเลือกใช้อิสรภาพและเสรีภาพในการใช้ความเชื่อและความศรัทธาที่จะเลือกทำความดีหรือความชั่วและอย่างสุดท้ายก็เพื่อที่พวกเราจะถูกทดสอบว่าเราจะเชื่อฟังและรักษากฎต่างๆและปฏิบัติตามสิ่งที่เรารู้ว่ามันถูกต้องหรือไม่ ฉะนั้นเราทุกคนไม่ว่าจะยากจะดีมีหรือจนต่างก็มีจุดประสงค์และจุดหมายที่สำคัญมากในชีวิตความสำคัญนี้มันมีความยิ่งใหญ่มากกว่าที่พวกเราจะเข้าใจได้ครับ
ตายแล้วไปอยู่อีกโลกนึงครับ
โลกแรกที่เราอยู่คือโลกวิญญาณ
โลกที่สองคือในขันมารดา
โลกที่สามคือโลกปัจจุบัน
โลกที่สี่คือโลกแห่งความตาย(รอวันสิ้นโลกและพิพากษา)
โลกสุดท้ายคือโลกอำมาตะ
การปฏิบัติธรรมภาวนา เปรียบเสมือน "การไปโรงเรียนเพื่อเรียนหนังสือ" คุณจะไม่สามารถ "ล้างบาป" ได้แน่นอน เพราะการล้างบาป และ การชำระจิต เป็นคนละเรื่องกัน, จงจำไว้ว่า "บาปกรรม หรือ กรรมชั่วที่เราทำ" เราไม่สามารถล้างบาป หรือ ชำระบาปให้หมดไปได้ กรรมชั่วที่เราเคยทำไว้ มันส่งผลเสมอไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติก็ตามกรรมดีก็ส่งผลเสมอเช่นกัน เพราะการเกิดใหม่ทุกครั้งของเรา เราก็สสร้างทั้งกรรมดี กรรมชั่ว ปนกันอีกในทุกๆชาติเกิด ฉะนั้น ไอ้พวกที่บอกว่า "ล้างบาปๆ" อย่าไปเชื่อ ทำไมถึงไม่ให้เชื่อก็เพราะตัวเรานี่หล่ะรู้ใจตัวเองดีที่สุดว่า "วันนี้กูทำดี ทำชั่วอะไรบ้าง คิดดี คิดชั่วกับใครบ้าง" คนอื่นไม่มีทางรู้ใจเราได้ ....."การล้างบาป" กับ "การชำระจิต" เป็นคนละเรื่องกัน สองอย่างนี้ต่างกันอย่างไร หากอยากรู้จริงๆ เม้นมาเด่วจะตอบให้ แค่นี้หล่ะ
ตื่นเสียทีจะวิ่งหนีกันทำไมเราอยู่ในยุคของคนที่มือถือสากปากถือศิลทั้งนั้นแย่งกันใส่บาตรกลัวว่าตายไปแล้วจะตกนรกนี่เขากำลังอุปทานหมู่ คนไม่มีจะกินเห็นๆอยู่ไม่มีใครหยีบยื่นให้คนเหล่านี้บ้าง
ประมวลมันมั่วคับ
เวียนว่ายตายเกิดไม่จบไม่สิ้นนี่คือคำตอบถ้าอยากหลุดพ้นก็พระพุทธเจ้าชี้ทางไว้แล้ว
กรรมดี ไม่อาจ ล้าง กรรม เลวได้ครับ ฝึกปฎิบัติ ก็ส่วน ปฎิบัติไป ลองไปศึกษา เรื่องพระโมคัลละ ดูครับ ก่อนที่ท่านจะ มากราบลา พระพุทธเจ้าเพื่อ นิพาน ท่านเจออะไร มา
ปัจจุบัน ไม่ได้มีอยู่จริง ถ้าคุณคิดว่าตอนนี้เป็นปัจจุบัน ตอนนั้นไม่ใช่ปัจจุบัน...แต่เป็นสิ่งที่คุณกำลังคิด แล้ว มันก็ผ่านไป.......คนเรามีความคิดตลอดเวลาทุกขณะเราจะคิดปรุงแต่ง เป็นนั่นเป็นนี่ เมื่อคุณพูดว่า " หิว" คุณก็คิดปรุงแต่งไปแล้วแต่ไม่รู้ตัว..........
ตายแร้วไปวัด ... แต่ตอนนี้ครูปรีชาไปไหน???
วิชาตัวเบา :)
ไม่รู้เฉพาะตนก็ต้องคอยฟังขี้ปากคนอื่น
คุณพีทคือฮีโร่ตัวจริงค่ะดิฉันจะะพยามเรียนรุ้วิชาตัวเบาไห้ดีขึ้นค่ะ
ตายแล้วไปไหนไม่อยากรูั
แต่อยากรู้ว่ากูเกิดมาทำไมว่ะ
เกิดมาแล้วก็ต้องมานั่งคิดว่าเมี่อไรจะตาย
คำตอบอยู่ที่คุณว่า จะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไรในเมื่อได้โอกาสเกิดมาแล้ว คุณสามารถกำหนดมันได้ด้วยตัวคุณเองว่า คุณเกิดมาเพื่อทำอะไร และจงทำมันให้สำเร็จก่อนที่จะหมดลมหายใจ เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของการเกิดมาของของคุณ
มนุษย์เกิดมาเพื่อรับบุญและบาปที่เราเรียกว่ากรรมค่ะ คนที่จะไม่เวียนว่ายตายเกิดคือคนที่ตรัสรู้ได้แล้วเท่านั้นเช่นพระพุทธเจ้าท่านละได้ทั้งสุขและทุกข์หลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงจึงไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิด
ในรายการก็ตอบให้แล้วนะ
มันคือคำตอบเดียวกับที่ถามว่าตายแล้วไปไหนนั่นแหละ ฟังที่อาจารย์ประมวลแกตอบดู
อีกอย่างถ้ารู้สึกเบื่อหน่ายการเวียนว่ายตายเกิด ก็ถามตัวเองเลยว่าเอายังไงดี เบื่อสังขารรึยัง รู้สึกเหนื่อยล้าทางจิตวิญญาณรึยัง ถ้าเบื่อการเวียนว่ายตายเกิด ก็มีทางของพระพุทธองค์อยู่ นั่นคือการปฏิบัติตนเพื่อมุ่งสู่พระนิพพาน เพื่อจะได้ไม่ต้องกลับมาเกิดแก่ เจ็บ ตาย รวย จน สูง ต่ำ ดำ ขาว เป็นคน เป็นเดรัจฉาน เป็นอสุรกาย ฯลฯ ชีวิตไม่ได้เกิดแค่การเป็นคนทุกชาตินะ เรามีภพภูมิที่จะต้องไปเกิดสามสิบกว่าภพภูมิแน่ะ ลองศึกษาดู คือช่วงนี้เราอาจจะเฉย ๆ กับชีวิตแต่เรามีสติที่จะนึกได้ว่า นี่เราเกิดมาทำไมวะ ? มันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งบางอย่างที่ให้เรามุ่งจามผาคำตอบ จากนั้นเราอาจจะรู้สึกว่าเราเคลียร์ในทุกอย่างที่เราสงสัยก็ได้ อย่างน้อยเราถามแล้ว เราเริ่มไปหาคำตอบรึยัง
เพราะไม่รู้
ตอบแบบไม่ตรงคำถามและไม่รู้จริง น่าจะเอาคนที่รู้จริงๆมาาตอบ พูดแต่ปรัชญา ตอบได้กากมาก การปฏิบัติธรรมมีหลายลักษณะ เพื่อความสุข เพื่อความสงบ เพื่อความหลุดพ้น
พระเหี้ยอะไรอยากมียศมีตำแหน่งเอาอย่างเถระชั้นผู้ใหญ่คนจนๆมีสิทธิเข้าถึงมั้ยวัดแถวบ้านจัดงานประจำปีเคยถามกรรมการวัดว่าทำไมไม่นืมนต์พระที่ออกทีวีมาบ้างล่ะเขาตอบว่าไม่ไหวหรอกพระพวกนี้ค่าตัวเปนแสนแบ้วพวกมึวมานั่งมโนอะไรว่ะ
มีปมอะไรกับพระหรือเปล่าครับ อย่าไปเพ่งโทษคนอื่น เปลี่ยนตัวเราง่ายกว่า เขาตอบว่า .....ใครตอบเหรอ มีด้วยเหรอพระค่าตัวเป็นแสน ผมเคยนิมนต์หลวงพ่อพยอมมาเทศน์ ท่านก็แล้วแต่ศรัทธาจะบริจาคนะ
ตอบให้ได้ก่อนว่าเกิดมาทำไมผมไม่เชื่อว่าตายแล้วไปไหนแต่ผมเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริงเจอมากับตัวเองถ้าวันนั้นเพื่อนผมที่ไปด้วยกันมันกลัวไม่ยอมเข้าไปดูผมเสียดายมากบอกได้คำเดียวยานของพวกเขาไม่ใช่อย่างที่คิดและไม่เหมีอนในหนังที่ดูมา
ทุกคนเกิดมาเพราะเมื่อก่อนมาเกิดนั้นเราเป็นวิญญาณอยู่ที่เดียวกันที่ที่นั่นเราเรียกว่าโลกหรือภพก่อนหรือโลกก่อนเกิดเรามีพ่อมีแม่เดียวกันเราเป็นพี่น้องกันจุดประสงค์ที่คนเรามาเกิดในโลกมนุษย์แห่งนี้คือวิญญาณลงมารับร่างกายและเรามามีประสบการณ์ในชีวิตที่เราจะเลือกใช้ความเชื่อและศรัทธาที่เลือกทำดีหรือชั่ว
เหลามา
แล้วในยานเป็นอย่างไร