Suzuki Jimny Sierra 2019 รุ่นท็อป ราคา(จะ)ไม่เกิน 6.78 แสนบาท ในฟิลิปปินส์ | Cardebuts
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 1 ม.ค. 2019
- เปิดตัว ราคา Suzuki Jimny Sierra 2019 ซูซูกิ จิมนี่ เซียร์ร่า รุ่นท็อป ราคาแค่ 1.1 ล้านเปโซ หรือ 6.78 แสนบาท ในประเทศฟิลิปปินส์
ในบางประเทศที่เป็นฐานการผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ อย่างไทยและอินโดนีเซีย Suzuki อาจจะประสบปัญหาการทำตลาด Jimny Sierra โฉมใหม่ จากภาษีนำเข้าที่สูง เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์ในแต่ละประเทศ ทำให้ราคาจำหน่าย สูงเกินกว่าที่จะทำตลาดได้ในระยะยาว
แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับชาวฟิลิปปินส์ เพราะ Suzuki แดนตากาล็อก เตรียมจำหน่าย Jimny Sierra ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2019 นี้ ช้ากว่าเดิมเล็กน้อย จากที่คาดหมายว่าการเปิดตัวจะเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 2 แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ ชูโซะ โฮชิกูระ Shuzo Hoshikura ผู้บริหารของ Suzuki ฟิลิปปินส์ เผยว่า ราคาสูงสุดของ Jimny Sierra จะอยู่ที่ไม่เกิน 1.1 ล้านเปโซ หรือประมาณ 677,000 บาทไทย ติดตามช่องของเราทาง Facebook ได้ที่ / cardebuts-891205251089964
หรือเว็บไซต์ cardebuts.com/ - ยานยนต์และพาหนะ
ตอนนี้เพื่อนที่เป็นแหล่งข่าวในอินโดนีเซียแจ้งมาว่า ราคาขาย Jimny ในอินโดนีเซีย จะพอๆกับฟิลิปปินส์ครับ (แต่ยังไม่ยืนยัน) นำเข้าจากญี่ปุ่นด้วย เอาไว้จะทำคลิปชี้แจงให้ทราบอีกทีครับ ถ้าจริง แสดงว่าไทยเราต้องมาปฎิรูปเรื่องการเก็บภาษีแล้วล่ะ โดยดูอินโดนีเซียเป็นต้นแบบเพราะโรงงานผลิตยนต์เยอะมาก และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ผมคิดว่า ที่ท่านพูดมาเรื่องปัญหาการทำตลาดรถรุ่นนี้ในอินโดและในไทยเพราะภาษีนำเข้าแพงนั้นมันค่อนข้างจะสร้างความสับสนนะครับ
1. ที่ว่า ไทย และ อินโด เป็นฐานผลิตรถยนต์ใหญ่ อันนี้จริงครับ สำหรับตลาดในอาเซียน
2. ที่ว่า Suzuki มีปัญหาในการทำตลาดรถรุ่นนี้(ในอินโด และ ไทย) เพราะภาษีนำเข้าแพง แต่ฟิลิปปินส์ไม่ต้องห่วง เพราะภาษีนำเข้าถูกนั้น ผมว่าอาจทำให้ผู้อื่นที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมรถยนต์สับสนได้นะครับ
เพราะที่ท่านพูดมา ท่านไม่ได้อธิบายชี้ชัดให้หมด ว่าที่ท่านกำลังพูดถึงนั้น มันหมายถึงเฉพาะการนำเข้ารถ CBU ที่ประกอบสำเร็จรูปทั้งคันจากประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิก AEC จึงต้องเสียภาษีนำเข้าอัตราแพงมหาโหดเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ในประเทศ(อินโด และ ไทย) มันก็ใช่ครับ ถ้าเป็นการนำเข้ารถ CBU จากประเทศผู้ผลิตที่ไม่ใช่สมาชิก AEC (อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ผมไม่ทราบ ไม่ได้ติดตามว่าไทย มีข้อตกลง FTA กับทางญี่ปุ่นอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะ ในส่วนของภาษีนำเข้ารถยนต์ CBU ที่ผลิตในญี่ปุ่นมายังประเทศไทย แต่เชื่อว่า ไม่น่าจะได้สิทธิพิเศษภาษีนำเข้าต่ำ ไม่งั้น BMW, Mercedes และ Ford, GM คงโวยแน่)
ที่ท่านบอกว่า ฟิลิปปินส์ นำเข้า CBU รุ่นนี้จากญี่ปุ่น ราคาขายแค่ 6แสนกว่า อันนี้ ถ้าจริง ก็แปลว่า ภาษีนำเข้า CBU ของฟิลิปปินส์ ต่ำกว่าไทยและอินโด (ถ้าจริง ยังแปลว่าภาษีนำเข้า CBU ของฟิลิปปินส์มันต่ำมากแบบแทบไม่น่าเชื่อเลยครับว่าจะเป็นไปได้)
แล้วที่ท่านเขียนข้างบนว่า แหล่งข่าวในอินโดก็บอกว่าจะมีการนำเข้า Jimny เป็น CBU จากญี่ปุ่นมายังอินโดและราคาจะพอๆกับที่ขายในฟิลิปปินส์ ยิ่งเป็นไปได้ยากเข้าไปอีกครับ ถ้าเป็นจริง แปลว่าทางรัฐบาลอินโดฯ ปลดล็อคภาษีนำเข้า CBU ซึ่งการปลดล็อคต้องปลดให้ทุกราย ทุกยี่ห้อ ผมว่าเป็นไปได้ยากครับ แต่ถ้าบอกว่า ลดภาษีลงมาบ้าง แต่ก็ยังสูงกว่ารถประกอบในประเทศก็พอฟังได้
2.
ถ้ารัฐบาลอินโดฯลดภาษีนำเข้า CBU จริง จนทำให้ราคารถ Jimny CBU จากญี่ปุ่นเหลือเพียง 6 แสนกว่าบาทไทย(ราคาในอินโดฯที่ว่าจะพอๆกับราคาในฟิลิปปินส์) ก็แปลว่าเขาเลิกปกป้องผู้ผลิตในประเทศรวมทั้งทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์ในอินโดฯ อันรวมถึง ผู้ผลิตชิ้นส่วนส่งโรงงานประกอบรถยนต์ รวมทั้งพนักงาน ลูกจ้างที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในระบบ
แล้วท่านก็บอกว่าเห็นที ไทยเราต้องทำตามอินโดฯ
ผมคิดว่า เป็นการมองในมุมแคบเกินไปครับ เพราะภาพรวมนั้น อุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ในประเทศมีส่วนผลักดันการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และมีมูลค่าสูงมาก อีกทั้งยังสร้างงานสร้างรายได้ให้ภาคส่วนต่างๆ แม้ว่าทางเจ้าของแบรนด์จะได้ผลกำไรส่วนใหญ่ไป แต่ผลกระทบต่อเนื่องเชิงบวกในทางเศรษฐกิจมันมีมากครับ
การจัดเก็บภาษีรถ CBU นำเข้าในอัตราสูง ผมว่ารัฐบาลทำถูกต้องแล้วครับ โดยเฉพาะรถหรูราคาแพง ผู้ซื้อก็ระดับอภิมหาเศรษฐี ขนหน้าแข้งไม่ร่วงครับ
แต่ถ้าจะให้รัฐบาลลดภาษีนำเข้า รถCBUขนาดเล็กราคาถูกที่ผลิตนอก AEC เช่น Jimny CBU ผลิตจากญี่ปุ่น เราจะมี AEC ทำไมครับ? และเราควรปิดโรงงานทุกแห่งใน AEC ไหมครับ? เพราะสั่ง CBU จากญี่ปุ่น ราคาก็สูสีพอๆกัน
มันจึงไม่สมเหตุสมผลครับ
คือถ้าทำอย่างนั้น โรงงานผลิตรถยนต์ในไทยคงต้องลดกำลังการผลิต โรงงานบางแห่งอาจต้องปิดตัวเองหากยอดขายไม่ดีพอเพราะเป็นแบรนด์ที่ไม่ติดตลาด ใช้นำเข้า CBU จากญี่ปุ่นจะง่ายกว่า และเมื่อบางโรงงานลดกำลังการผลิตลงไป ก็แปลว่าอาจไม่คุ้มค่าการลงทุน ที่ลงไปแล้วเยอะมาก และค่าใช้จ่ายก็จะกินหมด ผลคือ ต้องปลดคนงานอีกต่างหาก ยุ่งสิครับทีนี้ ในอีกด้าน ทางประเทศญี่ปุ่นเองมีกำลังผลิตพอหรือ? ไม่พอหรอกครับ ด้วยเหตุผลหลายประการ พื้นที่จำกัด ประชากรวัยทำงานไม่เพียงพอ ฯลฯ
อย่างในคลิปก็ยังพูดถึงว่ารถ Jimny ในญี่ปุ่น ผลิตไม่ทันขาย นั่นไงครับ แค่ผลิตขายในญี่ปุ่นเองยังไม่มีกำลังผลิตเพียงพอเลย ถึงต้องมีโรงงานในไทย อินโดฯ มาเลเซีย ไต้หวัน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ โรงงานประกอบรถยนต์ในภูมิภาคนี้ ไม่ใช่เพิ่งเกิด มันเกิดมาเมื่อ 50 กว่าปีก่อนแล้วครับ และมันคงต้องดำเนินต่อไป ทุกอย่างมันค่อยๆคืบคลานจนเติบโตมาถึงขนาดนี้ รัฐบาลอินโด ไทย และ อีกหลายประเทศดังกล่าว รวมทั้งเจ้าของแบรนด์ ไม่ว่า Toyota, Nissan, Mazda, Honda ฯลฯคงไม่สามารถกลับหลังหันแบบทันทีทันใดครับ
กล่าวคือ ในแง่ของกำลังการผลิต และที่ตั้งของโรงงาน (สำคัญในแง่ logistics การขนส่งไปจำหน่าย ต้นทุนค่าขนส่ง)มันสอดคล้องสมดุลย์กับความเป็นไปในตลาดดีอยู่แล้วครับ หากไปปลดล็อคภาษีนำเข้า CBU ความสอดคล้องสมดุลย์ที่ว่าจะถูกทำลายไปโดยปริยายครับ
3.
ดังนั้น ปัญหาในการทำตลาด Suzuki Jimny ในไทย และ ในอินโดฯ มันคงไม่ใช่เรื่องภาษีนำเข้า CBU หรอกครับ เพราะด้วยอัตราภาษีที่สูงนั้น คงไม่มีใครบ้าพอจะนำเข้ารถลักษณะนี้ในรูปแบบ CBU จากญี่ปุ่นมาขายในไทยหรอกครับ ไม่ว่า Suzuki Thailand หรือ Toyota Thailand ฯลฯ
หากSuzukiอยากทำตลาดรถ Jimnyในไทย หนทางที่จะเป็นไปได้ คือรถต้องผลิตในอาเซียน ใน AEC ครับ เพราะเป็นวิธีเดียวที่จะคุมราคาให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้ เพราะการนำเข้ารถ Jimny ที่ประกอบในอินโดฯ มายังไทย หรือประเทศสมาชิก AEC อื่นๆ ไม่ว่ามาเลเซีย เขมร ลาว ภาษีนำเข้าเป็น 0% กล่าวคือไม่มีการเก็บภาษีนำเข้าระหว่างประเทศสมาชิกครับ เราถึงมีรถ Toyota Innova และ Avanza ประกอบที่อินโดฯมาวางขายในไทยครับ
คำว่าแข่งขันได้ แปลว่าต้องมีศักยภาพในการคุมต้นทุนไม่ให้สูงกว่าคู่แข่ง และไม่เอากำไรสูงกว่าคู่แข่งในระดับคุณภาพเดียวกัน
แต่ถ้าทำรถออกมาห่วย คุณภาพไม่ดี spec และรูปแบบไม่ตรงความต้องการของตลาด แล้วยังคิดจะเอากำไรเยอะๆ ตั้งราคาแพงๆ แบบนี้ก็จอดครับ ไม่ว่ายี่ห้อไหน
ความคิดที่อยากให้รัฐบาลปรับลดภาษีนำเข้ารถ CBU ที่มาจากผู้ผลิตนอก AEC มันก็แค่เป็นความอยากของคนที่อยากขับรถ CBU จากญี่ปุ่น หรือจากยุโรป อเมริกา ในราคาที่ถูกลงแค่นั้นเอง ไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากนี้ ผมจึงเห็นว่า มันเป็นการมองมุมแคบ เพราะสังคมส่วนรวมไม่ได้ประโยชน์
4.
แต่ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์หรืออุตสาหกรรมรถยนต์และคนไทย รวมทั้งประเทศไทยคืออะไรกันแน่?
ขอยกตัวอย่าง
-ปัญหารถติด รถเยอะเกิน ถนนแออัด
-ผลต่อเนื่องตามมาจากข้อแรก คือ สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เสียหายทางเศรษฐกิจ
-เสียเวลาบนท้องถนน แทนที่จะเอาเวลาไปทำงาน สร้างผลผลิต สร้างรายได้
-มลภาวะ ผลกระทบสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิต
เอาคร่าวๆแค่นี้ ผมว่ารัฐบาลและคนไทยควรสนใจหาวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้น่าจะดีกว่าหาวิธีลดภาษีนำเข้า CBU ที่ไม่ได้ผลิตใน AEC เพราะส่วนรวมไม่ได้ประโยชน์ครับ
ถ้ารัฐบาลจะปรับปรุง หรือแก้ปัญหาดังกล่าว ก็ต้องหันมาให้ความสนใจในการปรับปรุงพัฒนาเรื่องขนส่งมวลชนครับ และส่งเสริมให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ลง หันมาใช้ขนส่งมวลชน ใช้รถยนต์ส่วนตัวเมื่อจำเป็น ส่งเสริมให้ใช้รถยนต์ขนาดเล็ก อย่าง Eco cars รัฐบาลทำถูกต้องแล้ว อย่าง Eco Car Phase II ผมว่ามาถูกทาง การประหยัดพลังงาน อุปกรณ์ความปลอดภัย มาตรฐานไอเสีย มันลงตัวตอบโจทย์แล้วครับ
ในแง่การผลิต กำลังการผลิตต้องไปเน้นผลิตเพื่อส่งออกครับ แต่ต้องผลิตให้ตรงความต้องการของตลาดต่างประเทศแต่ละที่ครับ
ก็ติดตาม chanel นี้มาตลอดครับ แต่คลิปนี้ ต้องขอแสดงความคิดเห็นครับ ทำต่อไปนะครับ ขอให้กำลังใจครับ
@@SwingEzzZZ ขอบคุณสำหรับ comment นะครับ ขอตอบเป็นข้อๆเท่าที่จับใจความได้นะครับ
1.เรื่องแหล่งข่าวราคาอินโดต่ำ เพราะมันมีเอกสารหลุด ที่ suzuki ส่งให้หน่วยงานราชการของอินโดพิจารณาครับ ผมเห็นเอกสารแล้วด้วย (ข่าวส่วนใหญ่เราจะไม่ลงลึก แต่จะมีที่มาที่ไปหมด ไม่ได้คิดเองครับ) ส่วนราคาสุดท้ายอาจจะไม่ใช่ราคานี้ก็ได้ เหมือนบางรุ่นของ BMW ราคาถึงไทยต่ำมาก แต่บวกกำไรสูง (มีประสบการณ์ตรงเช่นกัน BMW ประเทศไทย อยากขายราคาต่ำ แต่ที่มิวนิคไม่อนุมัติ อันนี้ยกตัวอย่าง)
2.ส่วนเรื่อง AEC มันกว้างกว่าที่คุณคิดเยอะครับ โชคดีที่ผมก็เคยเรียนมาด้านการค้าระหว่างประเทศด้วยพอดี มันมีมิติอื่นๆเยอะมาก ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ความมั่นคง จุดประสงค์หลักของ AEC คือ การสร้างอำนาจการต่อรองเพื่อปกป้องประเทศสมาชิกครับ (การค้า การลงทุน จะเป็นส่วนหนึ่งภายใต้กรอบนี้) เรื่อง AEC กับการนำเข้ารถยนต์หรือชิ้นส่วนทืี่ยกมา จริงๆมันไม่เกี่ยวกันเลยครับ AEC ก็ AEC เรื่องการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศก็อีกเรื่องหนึ่ง (เหมือนเรื่องครอบครัว กับเรื่องส่วนตัว) การคิดภาษีรถยนต์ก็แตกต่างกันไปตามประเภท ขนาด ฯลฯ ซึ่งตรงนี้ต้องนำมาพิจารณาใหม่ เหมือนความเร็วรถที่ถูกจับกันนั่นแหละครับ กฏหมาายหลายข้อล้าสมัยแล้ว (เอาแค่เรื่องข้อตกลงทางการค้าที่คุยกับญี่ปุ่น ทุกวันนี้ก็ยังไม่เดินหน้าเลยครับในหลายเรื่อง มีแต่หลักการในกระดาษสำหรับเรื่องรถยนต์ ทั้งที่ระบุไว้ว่าจะเริ่มภายในกี่ปี เรื่องนี้สมาคมผู้นำเข้ารถยนต์ก็ออกมาโวยวายเป็นระยะ)
3. ส่วนที่บอกว่าโรงงาน Suzuki ญี่ปุ่นผลิตไม่ทันขาย แล้วคุณบอกว่า ถึงต้องมีโรงงานที่ประเทศต่างๆ อันนี้ไม่ใช่นะครับ Suzuki ญี่ปุ่นสามารถผลิตได้เยอะมากนะครับ แต่เขาไม่ขยายการผลิตเพราะ order มันจะสูงในตอนแรก และลดลงฮวบในเดือนหลัง เรื่องนี้ Suzuki ญี่ปุ่นเขาออกมาให้ข่าวเอง มันเป็นเรื่อง operation management ส่วนของ production planning คนที่บริหารโรงงานจะทราบดี หลายๆเรื่องเราไม่ได้ลงรายละเอียดเพราะมันนอกประเด็นเกินไป (จริงๆนักข่าวส่วนใหญ่ก็ไม่สนใจข่าวทำนองนี้ แต่ผมสนใจธุรกิจอื่นๆของอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วย เลยจะศึกษาลงลึกในหลายๆเรื่อง เหมือนผมติดตามข่าวรถยนต์ แต่ถ้ามีเรื่อง telematics หรือพวก AI ผมก็จะอ่านด้วยเพราะสนใจหรือทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่ เป็นต้น)
4. การแก้ไขปัญหาเรื่องภาษีพวกนี้ต้องมองภาพรวม คือคนบริหารจากภาครัฐต้องมี vision ทำงานแบบบูรณาการ ไม่มองมิติเดียว เช่น เราไม่สามารถใช้ภาษีแบบนี้ไปได้อีก 10-15 ปี เพราะถึงตอนนั้น มันก็อาจจะไม่มีรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปขายแล้วก็ได้ หรือมีน้อยมาก supplier ก็ไปผลิตชิ้นส่วนแบตเตอรี่แทนหมด แล้วถามว่า เราจะเก็บภาษีสูงไปทำไมเมื่อไม่มีธุรกิจในประเทศทให้ต้องปกป้อง จริงๆเรื่องนี้มันมีเรื่องการอำนาจทุน การเมืองการปกครองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เมืองไทยมันจึงซับซ้อนไปอีก ถ้าอยากรู้เรื่องการเมืองในธุรกิจยานยนต์ต้องไปถามนายฝรั่งของ Nissan ดูครับ เขาอาจจะบอกอะไรได้เยอะ เพราะอัดอั้นกับอะไรหลายอย่างในเมืองไทย แต่เราก็คงไม่นำเสนอข่าวแนวนี้เช่นกัน
5. การเปลี่ยนโครงสร้างภาษีใหม่ อันนี้บริษัทรถยนต์ก็ต้องไปช่วยคุยหรือ update หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ผมก็เคยนำเข้าอุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่ที่ไม่เคยมีใครใช้มาก่อนในไทย ก็ต้องไปนั่งอธิบายเจ้าหน้าที่ศุลกากรครึ่งวัน ในที่สุดเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจเพราะไม่ใช่วิศวกร ก็ใช้วิธีเทียบเคียงเอา ซึ่งมันไม่ตรงนัก แบบว่าเก็บแพงเผื่อไว้ก่อน มีอะไรจะได้ปลอดภัย นี่คือช่องโหว่แค่จุดหนึ่ง ที่ผมมีประสบการณ์ตรง แต่ถามว่า ทำไมบริษัทรถยนต์ใหญ่ๆทำไมไม่ทำ? บางส่วนทำไปแล้ว บางส่วนกำลังจะทำ บางส่วนทำไม่ได้และเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีเรื่องการเมืองในอุตสาหกรรมนี้อยู่ กลับไปดูที่ตอบไว้ในข้อ 4 ครับ
แต่ชอบการสังเกตของคุณนะครับ ทำให้เราใส่ใจในรายละเอียดมากขึ้นในการทำข่าวต่อไป ขอบคุณครับ
All new ertigar. มายังรอยุ เรื่มจองได้ยังคับ
ซูซูกิเหมือนวิจัยการตลาดไทยไม่ดีเลย รุ่นนี้ลองมาดิ ผลิตขายไม่ทัน รถขับสี่ทรงสวยแบบนี้ ราคาไม่เกินเจ็ดแสน ถ้ามาเร็วขายดีกระจาย ดูอย่างคาริเบี้ยน กี่สิบปีละ ยังใช้กันอยู่เลย
รอต่อไป
นี่คือเหตุผลหลักในการถามกลับของผู้บริหารญี่ปุ่นว่า ทำไมถึงต้องมาลงทุนประกอบในอาเซียน ในเมื่อตลาดใหญ่อย่างอินโดนิเซีย ฟิลิปปินส์ สามารถทำราคาได้สมเหตุสมผลอยู่แล้ว เหลือก็แค่ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ จะมียอดขายมากแค่ไหนถ้าได้ AFTA จากการต้องลงทุนประกอบ
โคตริจฉาเลยว่ะ อยากได้มั้งโว้ยยยยยยยย
มาไทยถูกบวกภาษีอีก 80% ราคา 1.3-1.4 ล้านครับ
อิจฉา ปท ที่ได้ขับรถ ดีๆ ราคาไม่แพงมาก
แรงบิด จะเป็นยังไงนะ ถ้าแบบสวิฟละน่ากลัวเหนื่อยขับขึ้นเขา
คนไทยไม่ต้องดีใจจะได้ใช้รถราคาถูกหรอกเปิดตัวประเทศอื่นถูกหมดถ้ามาไทยยังไงก็เเพง
โดนใจ
มาไทยก็คงจะล้านกว่าอีกหละ ขนาดรถที่ผลิตในไทย ยังแพงล้านสองล้านลย นับประสาอะไรรถนำเข้า เวรกรรมประเทศไทย
มาไทยคงสตาร์ทอยู่ที่1.4ล้านเเน่ๆ
ไทย 1.3 ล้านครับ
@@nutnaravit2935 ราคาล้านนึงกะลังดีครับ ตีตลาดกระจุยเลย
1.3 ล้าน แล้วแต่ดีลเลอร์ใหนจะส่งครับไม่ได้มีทุกดีลเลอร์
ซูซูกิไทยขยับบ้างสิครับ
เห็นข่าวในไทยให้เปิดจองออนไลน์ ราคาล้านสี่ โอ้แม่เจ้า!!!!
คนไทยใช้ของแพง คนมีอำนาจไม่กี่คนกำหนดภาษีขูดรีดประชาชน อ้างประชาธิปไตยแต่ตอนกำหนดภาษีประชาชนไม่ได้รับรู้่เลย ประเทศคอมมิวนิสต์ยังใช้รถราคาถูกกว่าเรา รัฐบาลเคยประกาสว่ารถอีโก้คาร์จะราคาถูก รถไฟฟ้าจะปลอดภาษีทุกอย่าง พอมีเข้าจริงๆ รถไฟฟ้ากลับแพงกว่ารถน้ำมัน ขดลวดกับแม่เหล็กเล็กๆน้อยๆจะแพงไปกว่าเครื่องยนต์ได้ไงกัน
Sad to hear that Thai people are losing the opportunity to own such a great car... I’m one of those waiting for this car to come yo Thailand 🇹🇭
ถ้ารุ่นท๊อปราคาเกิน 65 แสนบาท ก็ต้องคิดหนักหน่อย เพราะไทยรุ่งทรานฟอมอส์ ก็จะน่าสนใจกว่าเยอะครับ
ชอบอะชอบแบบtuck
แล้วคาลิเบี้ยนไม่ออกรุ่นใหม่เหรอครับ รถที่เหมาะกับไทยน่าจะเป็นคาลิเบี้ยนมากกว่าจิมนี่นะครับ
ไปขายอะไรในประเทศมีแผ่นดินไหวบ่อย น้ำท่วม
คือมันเป็นรถในสเปคเลย;
คลาสสิค สมบุกสมบัน กระทัดรัด และที่สำคัญทรงกล่อง/เหลี่ยมที่ดูกว้างขวางดีอะ
(ดูแค่ดีไซน์นะ สมรรถนะเครื่องดูไม่เป็น)
มาไทยน่าจะแพง ขนาดมีฐานผลิตรถหลายยี่ห้อในไทยเอง ยังแพง
ถ้าช่วงล่างยังเหมือนแคริเบี้ยนคนท้องควรหลีกเลี่ยงหาความนิ่มไม่เจอ
เชื่อว่าเกินล้าน ดูจาก swift eco car ยัง 7 แสน ค่ายนี้เค้าติสไม่แคร์ยอดขาย
ถ้ามาไทยราคานี้...บนดอยทุกดอยตอนปีใหม่..มีแต่jimny
รอประกอบอินโด
ทำไมรถดีๆ ไม่มาไทย แล้วที่ทำขายคนไทย ทำไมแพงกว่า ส่งออก...
มาไทยเป็นล้าน
อยากได่
สวย น่าใช้ อยากได้ แต่ล้านกว่าตามข่าวคงไม่ไหว ไปเล่นกระบะดีกว่าสีประตู เจ็ด แปด แสนก็ดีกว่าจ่ายล้าน
รอ
มาเถอะรอนานมากมาเถอะคร้าบทนใช้รถเก่าๆเน่าๆจนเงินที่เก็บไว้จะเน่าตามอยู่แล้วส่งสารผมเถอะเพื่อนๆเขากับมาบ้านปีใหม่กันมีรถใหม่ทุกคนพวกมันถ้าผมไม่เปลี่ยนรถสักที่วะ..ได้แต่บอกพวกมันไปว่า..กจะชื้อJimnyคันนี้เท่านั้น
จริงค่ะ รอเหมือนกัน
ถ้าผมเป็น suzuki จะตั้ง 6.9-7.8 แสน ถ้าต่ำกว่านี้ก็คง eco car แล้วเละ
เอาๆสีเหลือง
รถผลิตในไทยยังแพงกว่าเมืองนอก
รถแบบนี้ขับยังไงก็ไม่ตกยุคนะ พวกที่หน้าคลาสสิคแบบนี้
เลิกฝันได้เลยมาบ้านเรามา1.2ล้านครับ
ซูซูกิ ควรจับตลาดรถจี๊บเล็ก ถูกต้องแล้ว เพราะรถเก๋งขายแข่งสู้รถญี่ปุนยี่ห้ออื่นไม่
7 แสนกว่า. จัดคันนึงแน่นอน จากที่ไม่เคยมอง. ชอบๆ
udom jir มาไทยไม่ใช่ราคานี้นะอาจเป็นล้านนะคับ
@@CHANChan-wj6wm รุ้นานแล้ว ตั้งแต่ เปิดตัวแล้ว อันนี้ข่าวเก่า เล่นมาจะครึ่งปีแล้ว ที่มาคือนำเข้ามาก่อน ราคา ล้านสองนำเข้าจากญี่ปุ่น ถ้าเอาเข้าจากฟิลปปิน จะอยุ่ 7-8 แสน ถ้าผลิตไทย 6-7 แสน โอเคเข้า
630000,ได้ไหม้ถ้าได้ราคานี้มาเอาเงินผมได้เลยพี่
ถ้าแค่ 6 7แสน กลัวเก๋ง 1.5 จะขายออกยาก
@@thidee มันเกียรธรรมดาไม่มี ออฟไง ตัวเริ่มต้น รุ้จักเปล่า เดี่ยวนี้ เก่ง1.5 ชายไม่ค่อยออกแล้ว ดู vios ตายแล้วตอนนี้ ตายแบบไม่ได้ตั้งตัวเลย ตายแบบไม่มีใครจะเชื่อว่าตายได้ไง
ซูซูกิ ไม่เคยจริงใจกับคนไทยเลย พอๆกับนิสสัน แค่มาขอส่วนแบ่งการตลาดได้สัก5-6%ก็พอใจแล้ว
ใช่คิดเหมือนผมเลย ทั้งมอไซด์ บิ๊กไบค์ ก็ไม่ค่อยขยับ
ว้าวเลย ราคาของเพื่อนบ้าน
ถ้ามาบ้านเราจริง หึหึ ภาษีเเม่งโหดสัส
ใช่ ๆ ขนาดรถกระป๋องบ้านเค้าราคา2-3แสนที่ราคาเปรียบเทียบราคาไทย พอเอาเข้ามาจรีงๆ ราคาโดดเลย โดยเฉพาะตระกูลรถไฟฟ้าทั้งหลาย รัฐคงจะเป็นไข่ขวา ปตท.ละมั้ง
โถ้....ที่ตั้งภาษีแพงๆ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ แค่ในประเทศบางรุ่นก็แพงกว่าต่างประเทศแล้ว
อยากได้ แต่ราคามาไทย 😓
6.6กำลังดี
เมืองไทยบวกไปอีกสองแสน
ทุกรุ่นราคาแพง
เข้ามาขายในไทยคงเหยียบล้าน
ถ้าราคานี้หันมองตัวอื่นดีกว่า
เครื่องยนต์...ตัวเลขออกมามันไม่ใช่อะครับ..นี้มันซิตี้คาร์....ขับสี่ ลุยๆหน่อย ต้องดีเซลรอบต่ำๆ...ซัก 100แรงม้า บวกลบนิดหน่อย แรงบิดสัก 250+ มันจะเข้ากับคอนเซป นะผมว่า.....คหสต
มาขายที่ไทยไม่ใช่ราคานี้แน่นอน
เกือบล้านแน่ๆ
เก็บภาษี วัดครึ่ง กรรมการครึ่ง เก็บน้อยกรรมการก็ได้น้อย จะเอาครึ่งนึงมันก็ชัดเกิน แบบนี้ล่ะดูเนียนดี
มาไทย4ล้านกว่า ทำเหมือนรวยแต่ชาวบ้านจน
อย่าไปให้ความสนใจมันมากก รับรองง ราคาไม่เเพงเเน่ ถ้าเรายิ่งสนในมัน เเม่งยิ่งกดราคาเรา เป้นทุกรุ่น
มาไทยไงก็แพง
เอามาขายเถอะ
ถ้าซูซูกิเอา lapin มาขายนะ eco car ทุกค่ายตายหมด
🌞🌵🐎🇹🇭✔️👍👍
จะมาแบบSuzukiมอเตอร์ไซค์ละเปล่า คือแบบค่ายคนบ้า
ต้องรักอย่างเดียว ถ้ามาแบบราคาเท่าAltisตัวล่างๆก็คงต้องเลิกคุยกัน
เหอะๆๆๆๆ
บวกภาษี ก็ไปล้านกว่าแล้ว
ไทย ล้าน6 กูถอดใจเลยแม่ง😏
ไทย ราคา 1.5 ล้าน
โดนภาษี 80% ราคานี้หันไปเน crv
แพง
แค่ 6.7 แสนชิบหายในตัวกูมีไม่ถึงหมื่นเลย
เป็นไงล่ะ 555 ล้านหก
รัฐคิดภาษีรถโคตรแพง คนไทยก็ต้องใช้รถเก่าแล้วก็สร้างมลภาวะ รัฐก็บอก ให้คนไทยอย่าใช้รถส่วนตัวให้ใช้รถสาธารณะซึ่งมีไม่เพียงพอ เก่า สกปรก ขับแบบนักเลง ค่าโดยสารก็แพงเมื่อเทียบกับรายได้ คุณภาพชีวิตคนไทยอยู่ที่ไหนวะ!!!
ภาษีนำเข้าก็โคตรเเพง ซื้อมาเเล้ว ก็ต้องจ่ายภาษีรายปีอีก ทะเบียน พรบ. รัฐบาล มึงจะเก็บเเพงไปถึงไหนว่ะ ปล่อยให้คนจนๆ เขาได้มีรถยนต์ขับ บางเถอะ เจ็บไข้ได้ป่วย จะได้มีรถไปหาหมอ ทุกวันนี้ เห็นพ่อเเม่ พาเด็กทารกนั่งมอไซค์ เห็นเเล้ว เวทนาจริงๆ
เคยเห็นจอดโชว์ที่เวียงจันท์เ็นเตอร์ลาวก็ราคาประมาณนี้ตัวท็อปสีเขียว
เอามาเกินล้านไปเอารถในประเทศคุ้มเกว่าหรืออยากได้คานแข็งราคานี้ไปเอาไทเกอร์วางคาน80ได้เต็ดหน้าหลังยังมเงินเหลืออีกถ้าเกินล้านเน่าคาโชว์รูมแน่
ประเทศไทยกะลากูแม่งรถแพงทุกรุ่นแพงที่สุดในโลกแต่แม่งผู้นำก็เหี้ยที่สุดในโลกเช่นกันชาวบ้านเลยใช้ของแพงกูอิจฉาประเทศอื่นจริงๆ