ผมว่า Joel ก็มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นอยู่แล้วก็สามารถไว้ใจคนได้ครับถ้า Joel รู้จักคนนั้นในระดับนึง ตอนที่ Tess ตายนี้ Joel ก็เสียใจสุดๆเลยนะ เสียใจจนไม่อยากพูดถึง Tess อีกเลย ผมว่าการที่ Joel เห็นอกเห็นใจและมีจิตใจดีต่อคนใน Camp มันก็เป็นส่วนนึงของนิสัย Joel อยู่แล้วเพราะรู้จักกัน Joel แค่ไม่เห็นใจและไว้ใจแปลกหน้าเท่านั้น พูดง่ายๆคือ Joel แยกออกครับว่าควรใช้ความเห็นอกเห็นใจและไว้ใจตอนไหน แต่ภาคนี้อยู่ดีๆ Joel ไว้ใจคนที่ไม่ได้รู้จักกันแล้วก็ลืมสัญชาตญาณตัวเองที่ใช้มา 20 ปี ได้ง่ายๆ การที่จะเขียนให้ Joel ตายโดยมีนิสัยเก่าจากภาค 1 อาจจะยากไปละมั้ง เลยเขียนให้ลืมสัญชาตญาณแทน ง่ายดีไม่ต้องคิดบทเยอะ
มันเป็นเพราะผู้กำกับมันอยากให้ตัวละครหลักจบบทบาทให้ไวที่สุดเพื่อที่จะสร้างตัวละครใหม่ขึ้นมาให้มาแทนตัวละครหลักอย่างโจและเอลลี่ แต่บอกเลยแฟนคลับลุงโจอย่างผมไม่ปลื้มแน่นอน ต่อจะให้จบดีแค่ไหน ต่อให้แอบบี้จะน่าสงสารแค่ไหน แต่ the last of us มันคือการฆ่าล้างผลาญ เพื่อเอาชีวิตรอด คนเล่นเขาต้องการทีมแบบนี้ถ้าอยากดูล้างแค้นอภัยโทษผมไปดูหนังจีนดีดว่า
ไม่มองว่าเป็น Bad Writing หรือไม่ make sense อะไร แต่เป็นความคิดของคนในยุค dystopia ที่ตอบทุกอย่างด้วยความเห็นแก่ตัว(เฉพาะพวกเรา แต่ไม่กับพวกเขา) และความรุนแรง ผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดของทุกสถานการณ์เลยเป็นไปตามกลไกของโลก ไล่ฆ่ากันไม่จบสิ้น ส่วนคนที่มีความรักและความเมตตาเหมือนเราเกือบทั้งหมดแทบจะได้ทะยอยตายไปเกือบหมดแล้ว (ตามบันทึกตามทาง) สิ่งที่ค่อนข้างขัดใจและ dark มากเลยเกิดขึ้นกับทั้งสองภาค
ผมว่า Joel ก็มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นอยู่แล้วก็สามารถไว้ใจคนได้ครับถ้า Joel รู้จักคนนั้นในระดับนึง ตอนที่ Tess ตายนี้ Joel ก็เสียใจสุดๆเลยนะ เสียใจจนไม่อยากพูดถึง Tess อีกเลย ผมว่าการที่ Joel เห็นอกเห็นใจและมีจิตใจดีต่อคนใน Camp มันก็เป็นส่วนนึงของนิสัย Joel อยู่แล้วเพราะรู้จักกัน Joel แค่ไม่เห็นใจและไว้ใจแปลกหน้าเท่านั้น พูดง่ายๆคือ Joel แยกออกครับว่าควรใช้ความเห็นอกเห็นใจและไว้ใจตอนไหน
แต่ภาคนี้อยู่ดีๆ Joel ไว้ใจคนที่ไม่ได้รู้จักกันแล้วก็ลืมสัญชาตญาณตัวเองที่ใช้มา 20 ปี ได้ง่ายๆ การที่จะเขียนให้ Joel ตายโดยมีนิสัยเก่าจากภาค 1 อาจจะยากไปละมั้ง เลยเขียนให้ลืมสัญชาตญาณแทน ง่ายดีไม่ต้องคิดบทเยอะ
มีประโยคนึงที่ EllieพูดกับJesse ลอยๆ นอกคัตซีนที่พูดประมาณว่า
พวกนี้ (หมายถึง WLF ) มันไม่เหมือนพวกเรา Joelยังให้ความช่วยเหลือตอนเจอ Abby โดนโจมตี แต่ไอ้พวกนี้เจอใครมันฆ่าหมด
ตรงนี้บอกเรื่องราวของคนใน Jackson กับนิสัยที่เปลี่ยนไปของ Joelได้ดีมาก
และที่สำคัญ คนที่พูดชื่อจริงออกมาคือ ทอมมี่ แนะนำตัวกับแอปบี้ตอนหนีซอมบี้
ไปถึงแคมป์แล้วจะให้โกหกชื่อ ก็คงไม่ได้ ทอมมี่พลาดลุงโจซวย
@@ณัฐชภัทรเอี่ยมตั้ง ใช่ครับ ผมเห็นตัว โจยังถามคำตอบคำกับคนแปลกหน้า อยู่เสมอ แต่คนที่พูดเยอะและ หลุดข้อมูล จะเป็นทอมมี่
ทอมมี่ใช้สันติวิธี การแนะนำตัวเองก่อนถือเป็นมารยาทที่ดีครับเขาเชิญให้คนของกลุ่มแอ๊ปไปเติมเสบียงที่หมู่บ้านได้แสดงถึงความเป็นมิตร ทอมมี่ไม่ได้พลาดครับเขาไม่รู้เจตนาของคนกลุ่มนี้แต่แรก
มีใครคิดแบบนี้มั้ยว่าวัคซีนสำเร็จยังไง ก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี คือตอนนี้สับสนมาก
แจ๊กสันวิลล์เป็นเมืองเล็ก ที่มีทรัพยากรจำกัด ไม่เหมือนซีแอตเทิล ที่ยังมีตึกร้างให้เข้าไปเก็บของ ดังนั้นการที่เมืองเล็กๆจะอยู่ได้ ก็ต้องหาของมาเติม แล้วของเหล่านั้นจะมาจากไหน ก็มาจากเหล่านักเดินทางนี่แหละ จนสุดท้ายก็เกิดการเทรดของกับเหล่านักเดินทางขึ้น ทั้งหมดเพื่อให้เมืองอยู่รอดต่อไป
ผมเชื่อว่าโจตอนมาแรกๆก็คงมีตั้งแง่ มีระแวงบ้าง แต่พอเขาอยู่ในเมืองที่มีคนแปลกหน้าผ่านไปผ่านมา นานวันเข้ามันก็เริ่มเคยชิน พอเคยชินก็เห็นเป็นเรื่องปกติ ดูอย่างที่โจเองก็เอาของไปเทรดกาแฟกับเขาเหมือนกัน ดังนั้นพอโจเจอพวกแอ๊บบี้ ก็เลยมองว่าพวกนี้ก็นักเดินทางปกติ ที่เคยเจอมาตลอดสี่ปี ทำให้โจไม่ระวังเหมือนแต่ก่อน และโดนแอ๊บบี้กับพวกเล่นงานไป
ผมชอบคอมเม้นท์นี้✌️✌️✌️
@@kitisakwongsa5631 คือยุคผู้ติดเชื้อนี่ครับ และบางทีทุกคนต้องมีอาวุธแหละ ถ้าเกิดซอมบี้หลุดเข้ามาแล้วกันไม่ทัน อีกอย่างคนเราถ้าเกิดแบบเราช่วยกัน คงมีที่ปลอดภัยกว่านี้
@@kitisakwongsa5631 ผมมองว่า ในสถานการณ์นั้นโจกับทอมมี่ไม่ได้คิดหรอกว่าแอบบี้จะมีเพื่อนรออยู่ ที่เข้าไปช่วยก็เพราะเห็นตัวคนเดียว แต่ทีนี้ซอมบี้มาเยอะ แอบบี้เสนอว่ามีเพื่อนอยู่ใกล้ๆ ในเวลานั้นก็ต้องจำใจไป บทสทนาในฐานนั้น โจยังป้องกันตัวดีอยู่ครับแต่ทอมมี่ ดันพลาด แนะนำตัวเองแนะนำโจ นี้คือจุดเปลี่ยน แถมตอนคุยกับเมลอีก เมลแนะนำตัวก็จริงแต่ทอมมี่จะไม่แนะนำตัวกลับก็ได้แต่อย่างว่านิสัยทอมกับโจการระวังตัวต่างกันก็ตามนั้นละครับ ส่วนอาวุธทุกคนมีอยู่แล้วละครับยุคที่ต้องป้องกันตัวนิเน้อะเป็นผมก็พกแหละ
ต้องไม่ลืมว่าโจล เคยเป็นคนของโลกเก่า โลกใบปรกติธรรมดา หลังจากมาอยู่ที่แจ็คสัน เรามองว่า แจ็คสันค่อนข้างจำลองการใช้ชีวิตในโลกเก่าได้ค่อนข้างเกือบเหมือนเดิมเลย ไม่แปลกหรอกที่โจลจะค่อยๆกลับไปเป็นคนที่มีจิตใจดี มองโลกในแง่ที่ดีขึ้นอีกครั้ง
ขอพูดถึงตอนโจเอลถูกฆ่าหน่อย ครั้งแรกสุดที่แอบบี้ฆ่าโจเอล ทุกคนในห้องนั้น รวมถึงแอบบี้ไม่ได้จะปล่อยให้ใครรอดหรอก ถ้าโอเว่นไม่ห้ามไว้ ตัวเกมถึงต้องมาย้อนอธิบายซะยืดยาวว่าโอเว่นเป็นคนยังไง เพื่อมารองรับเหตุผลว่าทำไมเค้าถึงคิดห้ามทุกคนไม่ให้ฆ่าทั้งสองคนนั่นได้ เพราะฉะนั้นถ้าจะบอกว่า แอบบี้ปล่อยเอลลี่ไปทั้งสองครั้งนั้นไม่ใช่ เพราะครั้งแรก คนปล่อยคือโอเวน
ครั้งที่สองคือ lev
มันเป็นเพราะผู้กำกับมันอยากให้ตัวละครหลักจบบทบาทให้ไวที่สุดเพื่อที่จะสร้างตัวละครใหม่ขึ้นมาให้มาแทนตัวละครหลักอย่างโจและเอลลี่ แต่บอกเลยแฟนคลับลุงโจอย่างผมไม่ปลื้มแน่นอน ต่อจะให้จบดีแค่ไหน ต่อให้แอบบี้จะน่าสงสารแค่ไหน แต่ the last of us มันคือการฆ่าล้างผลาญ เพื่อเอาชีวิตรอด คนเล่นเขาต้องการทีมแบบนี้ถ้าอยากดูล้างแค้นอภัยโทษผมไปดูหนังจีนดีดว่า
ไม่ใช่แบบนั้นครับก็คือเค้าจะให้โจเอลตายเพื่อให้เกมมันเดินหน้าทำให้มันมีเหตุผลในการเดินเนื้อเรื่อง แต่ผมเข้าใจคุณนะผมก็รักโจเหมือนกันผมดูฉากไม้กอล์ฟนี่จะร้องไห้ แต่มันเป็นไปแล้วมันมำอะไรไม่ได้หรอก ที่เราขัดใจกันมากที่สุดก็คือโจเอลไว้ใจคนอื่นง่ายไปทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้
คนเขียนบทฆ่าโจเอลตายโง่มากและเอลลี่ที่มีโอกาศแก้แค้นรอบ2ทำไม่ลงทั้งที่ฆ่าคนเป็นผักไปซักขนาดนั้นแท้ๆ เช่น ฆ่าผู้หญิงผิวสีอ้วก ฆ่าหมาแอบบี้อ้วก ป้องกันตัวจากคนท้องที่พยายามจะฆ่าเอลลี่อ้วก พอมาตอนจบปล่อยแอบบี้ ถ้าเป็นผมควักปืนยิงแอบบี้ตั้งแต่ตอนโดนมัดแล้วละครับ สำหรับผมไม่ค่อยสมเหตุสมผลซักเท่าไหร่ทั้งที่ฆ่าคนมาเยอะแล้วพึ่งอ้วกเนี่ยนะ โจเอลก็เตยบอกกับเอลลี่ว่าถ้ามีโอกาศรอบ 2 จะทำ แตาเอลลี่มีโอกาศรอบ 2 ไม่ทำเพราะคิดว่าโจเอลไม่ต้องการแบบนี้สุดท้ายนิ้วขาดเล่นกีต้าไม่ได้กลายเป็นขี้แพ้ไป (ถ้าเป็นคุณมีโอกาศรอบ2มาอยู่ตรงหน้าจะทำไหมครับ?)
ถ้ามองในมุมที่โจเอลเป็นตัวละครที่รัก(เข้าข้างโจ)ก็จะประมาณนี้ แต่ถ้ามองคนเขียนบทลองนึกถึงสภาพความเป็นจริง โจเอลเป็นชายคนหนึ่งในหมู่บ้านแจ็คสันที่เคยฆ่าคนมานับไม่ถ้วนไม่แปลกเลยที่จะมีคนมาตามล้างแค้น ทำไมเขาจะตายไม่ได้หละครับเขาเป็นคนมีเนื้อหนัง
@@รัชพงศ์-ฃ4ฬ เข้าใจว่าตายได้แต่ขอให้ตายแบบสมเป็นพระเอกภาคแรกหน่อยได้ไหมครับอันนี้ตายแบบคนเล่นไม่รู้สึกเลยครับแถมตายด้วยลูกของตัวประกอบจากภาคแรกที่เราไม่สนใจด้วยนะครับ(พ่อแอบบี้เป็นคนผิวสีนะถ้าเล่นภาคแรกมา)
@@skyworkzero1385 สมเหตุสมผลครับ เกมภาคแรกเกมเล่าผ่านตัวเอกคือโจเอลครับ ภาคสองเล่าผ่านตัวเอกทั้งสอง(เอลลี่ แอ๊บบี้) เกมสอนสัจธรรมชีวิตผ่านมุมมองของทั้งสองฝ่าย เราเห็นชัดเจนว่าโจเอลฆ่าหมอซึ่งเป็นเพียงคนเดียวที่ทำวัคซีนได้(แน่นอนว่าไม่ใช่ตัวประกอบ)เป็นจุดเริ่มต้นของบ่วงกรรม ความแค้นของตัวเอกทั้งสองไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นแต่กลับทำลายทุกสิ่ง ตอนจบของเกมสอนการให้อภัยเพื่อยุติบ่วงกรรมนี้ คนตายไปสบายแต่คนที่ยังอยู่รับรู้เรื่องราวทุกอย่าง จิตใจจะพังขนาดไหน ถ้าคุณไม่อินกับเนื้อเรื่องไม่เข้าใจ ความเป็นจริงผมก็ขอยอมแพ้
ทำไมฆ่าคนมาเยอะแต่เพิ่งมาสะเทือนใจตอนฆ่านอร่ากับเมลที่ท้อง?
เอลลี่รู้สึกแย่ที่สุดท้ายต้องลงมือทรมานนอร่าให้พูดค่ะไม่ใช่สะเทือนใจเพราะฆ่าเธอ เอลลี่เริ่มมองเห็นว่าตัวเองกำลังเปลี่ยนไป กำลังสูญเสียตัวตนไปเรื่อยๆเพราะความแค้น การฆ่าคนท้องเป็นประเด็นที่อ่อนไหวมากนะคะ ดีน่าเองก็ท้องอยู่ ยิ่งทำให้เอลลี่รู้สึกสะเทือนใจเข้าไปใหญ่ ตรงจุดนี้เกมทำมาได้สมเหตุสมผลมากแล้วค่ะ มันแสดงให้เห็นว่าเอลลี่ยังมีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่
ท้ายที่สุดเอลลี่ปล่อยวางได้เพราะมองเห็นตัวเธอเองกับโจเอล ผ่านแอ๊บบี้กับเลฟ และก็เห็นแล้วด้วยว่าทั้งหมดที่ทำลงไปมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลย มีแต่จะสูญเสียในทุกๆฝ่าย
@@mivayoru ถูกต้องครับ
ในเกมเองลลี่ก็มีพูดอยู่ครับ ว่าบางทีโจเอลก็ไปพบกลุ่มเร่ร่อนเพื่อเอาของไปแลกกัน เพราะเมืองเเจ็คสันเป็นเมืองๆที่ห่างกันเมืองใหญ่ๆ การที่จะหาของมันเลยยาก (ดูจากภาคเเรกเดินทางจนเปลี่ยนฤดูกันเลย) โจเอลอาจคิดว่าแอบบี้เป็นกลุ่มเร่ร่อนก็ได้เลยไปช่วยไว้ ส่วนที่ตามไปที่พัก มันสถานการณ์บังคับครับ ไม่ไปก็ไม่รอด รันเนอร์ตามเป็นกลุ่มขนาดนั้น ก็อย่างที่คลิปบอกครับอยู่มา 4 ปี (ไม่เเน่อาจจะนานกว่านั้นเกมเเค่ย้อน 4 ปีให้ดู) ในที่ๆเชื่อใจกันมา นิสัยก็ต้องเปลี่ยนไป ซึ่งต่างกันภาคเเรกที่อยู่กับเมืองที่ทหารดูเเลเเละยังขนของเถื่อนด้วย นิสัยเลยต้องระเเวงเป็นธรรมดา ในความคิดผม ถ้าไม่ยึดติดว่าโจเอลมันต้องรอด ผมว่าบทมันดีอยู่ครับ อีกอย่างถ้าเอลลี่ฆ่าเอบบี้ มันก็ต้องมีคนมาตามล่าฆ่าเอลลี่อีกทีเหมือนกัน พอฆ่่าได้ดีน่าก็ต้องไปเเก้นเเค้น ไม่จบไม่สิ้นมันก็เลย เกมมันเลยจบเเบบไม่ฆ่า เพราะต่างฝ่ายก็สูญเสียคนที่สำคัญไปทั้งคู่ เเฟร์ๆ
คนเขียนบทให้โจลเป็นแบบนั้น แต่ "แบบนั้น" นั่นแหละ ทำให้มันดูไม่เมคเซนส์ มันเป็น Bad Writing ของทีมเขียนบท ทำให้เกมนี้ออกมาบทโคตรแย่ แต่ละคนในเกมตัดสินใจได้ "โง่" ทุกตัว เพื่อให้เกิดสถานการณ์ต่างๆ (ชีวิตจริงๆมันก็โง่ได้นะ แต่มันต้องไม่โง่ทุกคนดิ)
โดนตามล่า มีโจทย์เพียบ มัน soft ได้ แต่มันไม่ควรเขียนให้โจลไว้ใจคนอื่น เพราะมันไม่เมคเซนส์
อันนี้ซื้อ ลองคิดโจเอลไม่ช่วยเอลลี้ออกมาสิ คนก้อจะบอกว่าโจเอลเลว ฉากจบคือนรกสำหรับคนดู
ไม่มองว่าเป็น Bad Writing หรือไม่ make sense อะไร
แต่เป็นความคิดของคนในยุค dystopia ที่ตอบทุกอย่างด้วยความเห็นแก่ตัว(เฉพาะพวกเรา แต่ไม่กับพวกเขา) และความรุนแรง
ผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดของทุกสถานการณ์เลยเป็นไปตามกลไกของโลก ไล่ฆ่ากันไม่จบสิ้น
ส่วนคนที่มีความรักและความเมตตาเหมือนเราเกือบทั้งหมดแทบจะได้ทะยอยตายไปเกือบหมดแล้ว (ตามบันทึกตามทาง)
สิ่งที่ค่อนข้างขัดใจและ dark มากเลยเกิดขึ้นกับทั้งสองภาค
@@knowchrome 1.ตอนเจอโจลเอลก็ยิงแล้วถามถ้าเกิดเป็นโจลเอลคนละคนที่ตามหาละครับเท่ากับแอบบี้ก็ยิงผิดคนละสิครับ(อย่าลืมสิว่าโจลเอลในเนื้อเรื่องยังไม่บอกนามสกุลเลยนะครับ แอบบี้ก็ยิงไปเลยถ้าเกิดเป็นโจลเอลคนอื่นโดนนะครับ)
2.เอลลี้มีโอกาศรอบ2ไม่ทำ โจเอลก็เคยบอกอยู่ถ้ามีรอบสองจะทำ เท่ากับว่าคนเขียนบททำให้เอลลี่กลายเป็นขี้แพ้ไปเลยนะครับ
3.คนเขียนบทดันให้แอบบี้มาก(กะขายพวก SJW ทั้งที่รู้ว่าพวกนี้ไม่เคนสนับสนุนสิ่งที่มันดราม่าไปอยู่แล้วแต่ก็ยังจะทำ) กล้ามของแอบบี้มันต้องใช้โปรตีนเยอะมากเลยครับยิ่งอยู่ในโลกแบบนี้จะไปหาโปรตีนยังไงขนาดคนที่เล่นกล้ามยังบอกเลยว่า 4 ปี มีกล้ามแบบแอบบี้ไม่ได้หรอกครับ
@@skyworkzero1385 ตอบข้อ 1. นะครับ abby ทราบข้อมูว่า โจ มีน้องชายชื่อทอมมี ที่เป็นหัวหน้ากลุ่มหมู่บ้านแจ็คสันอยู่แล้วครับ การที่ abby มุ่งมาที่ หมู่บ้านแจ็คสันจึงไม่ได้มาแบบปูพรมไปตามหมู่บ้านต่างๆ แต่มุ่งตรงมาเพราะมีข้อมูลมาแล้ว ดังนั่น เมื่อ abby ได้ยินทอมมี่ แนะนำตัวว่าเป็นน้องชายของโจล จึงลงล็อคกับข้อมูลที่ abby และกลุ่มมีครับ
ถ้าจะให้มันเป็นแบบจริงๆ มันจะเถื่อนมากครับ เอลลี่คงตายตั้งแต่ปะทะครั้งแรกความฉลาดของคนจริงกับบอทในเกมมันต่างกันมากในความเป็นจริงการรบกันคงไม่มีใครโผล่ไปโต้งๆแบบนี้หรอก เพราะต้องการอรรถรส เขาทำแบบนี่ก็แจ่มแล้ว
โดยส่วนตัว ถ้าเราไม่เอา ความผูกพันที่มีกับตัวละครอย่างโจและเอลลี่เป็นที่ตั้ง เราถือว่าเกมนี้เป็นเกมที่ดีมากๆเกมนึงเลยนะ
เห็นด้วยครับ
แอบบี้น่าเบื่อน่าทำเป็น dlc มากกว่า
@@danglong7305 ถ้าอัคติไม่บังตาคุณ คุณจะเห็นครับว่า เกมเพลย์ฝั่งแอ๊บบี้นี่ของสนุกทั้งนั้น ทั้งการผจญภัยกับเลฟ ทั้ง Boss Fight ทอมมี่ กับ เอลลี่ นี่ก็ของดีทั้งนั้น เพราะเราเพิ่งได้รับรู้ว่าทอมมี่ กับ เอลลี่ โหดเก่ง ขนาดไหน แล้วความสัมพันธ์ของตัวละครอย่าง แอ๊บบี้ กับ เลฟ ทำออกมาได้ดีเลย ดีกว่า เอลลี่ กับ ดีน่าด้วย
อีกอย่าง คือ เกมนี้ไม่ต้องหั่น DLC หรอก ตัวเกมมันคุ้มอยู่แล้ว ย้ำนะ เกมนี้ 30 ชั่วโมงเต็ม!
@@PlayGaSeng จริงครับ เล่นเองกับมือเพิ่งจบ เล่นพาร์ท Abby นี่มันส์กว่าเอลลี่เลยนะ ได้เจอบอสด้วย และถ้าเปิดใจและเล่นจนอินกับความรู้สึกของเธอแล้ว จะรู้สึกฆ่าเธอไม่ลง เหมือนในตอนท้ายๆที่ต้องสู้กันเองเลยครับ มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ส่วนคนที่ไม่ยอมเปิดใจเล่นก็....ช่วยไม่ได้จริงๆครับ ให้คิดว่ามันห่วยต่อไปน่ะดีแล้ว
ใช่ๆ เห็นด้วย
วิเคราะห์โจเอลความคิดเห็นส่วนตัวครับ ส่วนฉากเรือทีมพัฒนาให้สัมภาษณ์ครับ
ความคิดผมที่โจ บอกชื่อตัวเองออกมาเพราะ ทอมมี่แนะนำตัวเองตอนช่วย แอบบี้ไปแล้วครับ ในนาทีนี้เลย th-cam.com/video/nFaE_AYEsrE/w-d-xo.html จะเห็นว่าแอบบี้ตะลึงที่ได้ยินชื่อโจ จากนั้นเป็นฉากในฐานแอบบี้ ในวีดิโอเดียวกัน th-cam.com/video/nFaE_AYEsrE/w-d-xo.html ทอมมี่จับมือแนะนำตัว แถมยังส่งต่อไปโจว่า "นี่พี่ฉันเอง" โจจึงต้องบอกไปว่าชื่อ"โจ"
ผมคิดว่า คนที่พลาดจริงๆ ไม่ใช่โจ แต่เป็นทอมมี่ ที่ไม่ระวังตัว ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่า โจมีโจทย์เยอะ
จากการที่โจ ถามคำตอบคำ เวลาสนทนากับคนแปลกหน้า ผมคิดว่าเค้ายังคงระวังตัวเองอยู่เสมอครับ
ที่โจเปลี่ยนไป เพราะโจมีเอลลี่เสมือนลูกมากกว่า จากการที่เดินทางด้วยกันมาใน part 1 และที่โจช่วยเอลลี่ในฉากจบ ไม่ใช่เพราะต้องการให้เอลลี่มีชีวิตอยู่เท่านั้น แต่เพราะโจคิดว่าเอลลี่คือลูกคนหนึ่ง จึงไม่อยากเสียเอลลี่ไป แล้วใน part2 ที่มีชุมชน เปนเมืองแล้ว ก็ทำให้โจกับเอลลี่อยู่กันอย่างสงบสุข และที่โจยังคงทำหน้าที่ลาดตะเวนอยู่ เพราะต้องการปกป้องเมือง โดยเฉพาะเอลลี่นั่นแหละ ซึ่งความเปนพ่อของโจเหนชัดที่สุดในฉากย้อนอดีตวันเกิดของเอลลี่
*ก่อนโดนฟาดตาย ผมว่าโจพุดว่า “ki....(kiddo)”คับ แอบบี้ก้ค้าง
*เหมือนโอเว่นที่พุดว่า “sh...peg (she pregnant)”คับ เอลลี่ก้จอฟ้า
ใช่ เราวนดูหลายรอบ น่าจะพูดว่า Kiddo
โถ่วเอ้ยลุงงงงงงง😭😭
ณัฐชภัทร เอี่ยมตั้ง ผมนี่จอฟ้า2ซีนเลยคับ
Kiddoแปลว่าอะไรหรอครับ เด็กอะไร
@@ws.safluk2325 *เดานะครับคือน่ามาจากคำว่า kid(เด็ก,หนู) นะคับ
คิดว่าต่างคนต่างความรู้สึกเลือกใช้การเรียกออกไปนะคับ babe,girl,kiddy,kid,....kiddo
-ถ้าออกลุงแมนๆห้าวๆบ้านเราหน่อย ก็คงเรียก “ไอหนู”จาก “หนูจ้ะ,,หนู,ลูก”
‼️เดานะครับ‼️‼️
การลดการ์ดลงของ Joel น่าจะเป็นวิถีชีวิตที่ต้องพึ่งพาคนอื่นในการอยู่รอดของหมู่บ้าน Jackson (ตามในบันทึกการลาดตระเวน) ไม่โหดเหมือนใน Boston ที่ต้องระแวงแทบทุกคนที่เข้ามา ผลของการกระทำที่ทำมาของ Joel เลยรอโอกาสและส่งผลในที่สุด แต่จะว่าไปคนที่ชอบตัดบทสนทนา พูดเฉพาะที่ตัวเองอยากพูดและมีความเห็นแก่ตัวแบบลึกๆ ของแกยังอยู่ครบ
สังเกต theme ของสองภาคนี่กลับกันอย่างประหลาดคือ พ่อที่สูญเสียลูกสาวจนต้องโหดร้ายกับโลกแต่สุดท้ายก็ได้เด็กผู้หญิงคนนึงที่กลับมาเติมเต็มชีวิต
กับลูกสาวที่สูญเสียพ่อจนโลกทั้งใบพังครืนมาหมด จนต้องดิ้นรนฝึกฝนเพื่อจะล้างแค้นจนต้องสูญเสียแทบทุกสิ่ง แต่สุดท้ายก็ได้ใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อปกป้องเด็กชายคนหนึ่ง
คนที่บอกว่าคนไทยไม่เกต เเต่ฝรั่งเกต คือ 5555 เบาได้เบานะอย่าดูถูกประเทศไทยให้มาก คนที่เป็นทั้งแฟนภาค1ตั้งเเต่เเรก เเละเเฟนหน้าใหม่ที่เข้ามาจะเล่นภาคสองส่วนใหญ่ไม่พอใจกันหมดทั้งโลกนั้นแหละ
ส่วนใหญ่? คนเล่นเอง? คนดูยูทูป?
ถ้าจะพูดถึงคนฝั่งคนไม่พอใจ
เเฟนภาค 1 มาต่อภาคสอง = ไม่โยนก็หักแผ่นเกม ด่าให้คนที่จะเป็นลูกค้าใหม่ถอย
เเฟนยูทูปจากภาค 1 = กลุ่มคนที่จะเข้ามาเป็นลูกค้าก็ถอย
เราๆอาจจะมานั่งเถียงกันว่าคนนั้นเป็นเเฟนฝั่งไหน แต่ในมุมผู้พัฒนาแล้ว ฝั่งไหนก็สำคัญหมดล่ะ เพราะกลุ่ม 1 จะเป็นแฟนบอยเดนตายรับประกันยอดขายให้เกมภาคใหม่ และกลุ่มสองอาจจะเข้ามาเป็นฐานลูกค้าใหม่ที่มาเพิ่มยอดขาย พวกรอเล่นเกมอย่างเราๆไม่ต้องมานั่งเถียงกันหรอก
แค่สรุปว่าส่วนใหญ่ก็น่าจะไม่ใช่แล้วล่ะครับ
เพราะการสรุปว่าคนที่ตะโกนด่าหรือสร้างวีรกรรมรุนแรงต่างๆ (หักแผ่นหรือไปรุมโหวต 0) ว่าเป็นส่วนใหญ่เป็นการวัดที่ค่อนข้างตื้นมากเกินไปหน่อย
แต่ก็เข้าใจได้ว่าการที่ naughty dog ทำโครงเรื่องแบบนี้มาก็ย่อมมีคนรับไม่ได้อยู่เยอะ ถ้าอยากดูว่าพอใจไหมอาจจะต้องโหวตผ่าน psn หรือไม่ก็รอดูยอดเกมรอบหน้าก็อาจจะวัดผลได้มากกว่านี้
ผมชอบนะ คนเขีบนบทโรคจิตดี
@@knowchrome มันค่อนข้างเกี่ยวกับผู้บริโภคครับ เขาซื้อแล้ว มันคือสิทธิของเขาครับ จะทำอะไรก็ได้ ตราบใดที่ไม่ได้ไปตามกราดยิง และด่าแบบเหยียดใส่ ซึ่งเขาเขียนบทเกมส์แบบนี้ เขาก็ต้องรับผลที่จะตามา
นี่แหล่ะคือการวิเคราะห์ เอาสิ่งเล็กๆน้อยๆ ที่เกมเขาทำไว้มาเชื่อมจะถูกจะผิดมันก็ถือเป็นอีกทฤษฎีที่มีความเป็นไปได้
ไม่มีการเอาอารมณ์มาประกอบแล้วสรุปรวมว่าเกมไม่ดี นี่แหล่ะคือการทำหน้าที่ดีของช่องเกม
ว่าละปกติอ่ะภาคแรก โจวจะเป็นคนขี้ระแวงมากระแวงสุดๆ ไม่เชื่อใครง่ายๆ แต่ภาคสองช่วยแอ็บบี้แท้ๆ กับเชื่อใจกันทั้งที่แค่พึ่งเจอสองนาที สุดท้ายโดนตีตาย ต่างคนต่างทำเรื่องเลว เอาจริงๆแอ็บบี้เป็นคนดีกว่าเอลลี่อีกครับ ภาคแรกตอนที่เราวิ่งไปฆ่าเจอรี่พ่อของแอ็บบี้ ภาคสองเราก็จะได้เล่นเป็นแอ็บบี้วิ่งไปในห้องผ่าตัด ก็เลยทำให้รู้ว่าทำไมแอ็บบี้ถึงแค้นภาค3ก็คงไม่ได้เล่นเอลลี่แล้งล่ะคงจะเป็นแอ็บบี้กับเด็กหัวโล้นแทนผมว่า
ผมคิดเสมอว่า Joel และ Ellie ไม่มีทางเหมือนเดิมได้อีกแล้วหลังจบภาค 1 และ Ellie กับ Abby ก็ไม่เหมือนเดิมแน่นอนหลังจบภาค 2 เหตุผลกลัวสปอยล์ แต่ถ้าฟังคนนึงพูดตอนเล่นเป็น Abby จะเข้าใจดี 555
[ SPOILED ]
นอกจากนี้อย่างไรก็ดี ผมคิดว่าต่อให้ Joel ไม่บอกว่าตอนชื่ออะไร แต่ Abby ก็รู้อยู่ดี เพราะเธอคงเคยเห็นภาพ Joel จากกล้องในโรงพยาบาลเซนต์แมรี่แหละครับ สำหรับพ่อแล้วลูกคือโลกทั้งใบ พ่อจะทรยศต่อคนทั้งโลกแต่จะไม่ทรยศลูกเด็ดขาด ความคิดอาจจะเห็นแก่ตัว แต่มันไม่ใช่เรื่องผิด เพราะคนเรามีจุดยืนต่างกันอยู่แล้วในแต่ละคน ณ วันนั้นผมเชื่อว่า Joel นั้นอย่างคุณอู๋บอกคือ เขามีความสุขและได้มอบความสุขที่เด็กคนนึงควรจะได้ให้ Ellie แล้ว ชีวิตจากนี้ก็คือกำไรแล้ว จะตายแกคงไม่เสียดาย แต่สิ่งที่น่าเศร้าคือไม่ใช่การตายของ Joel แต่คือ Ellie ที่ไม่ใช่เสียแค่ Joel แต่เธอเสียมรดกที่ Joel ได้มอบให้ไปตลอดกาล คงเหลือแต่ความทรงจำที่ดี พร้อมกับการติดค้างในใจที่มีต่อ Joel ที่ได้สะสางไปแล้วนั่นคือการปล่อย Abby ไป
สุดท้ายแล้ว Abby น่าสงสารที่สุดทั้งในชีวิตในเกมส์ ( เธอแทบจะสูญเสียความเป็นคนไปเลย ) และชีวิตจริง ( จากที่เธอถูกโจมตีทางอินเทอร์เน็ต )
โจมันไม่ได้บอกชื่อครับทอมมี่น้องมันที่บอก😁
@@bonsai9455 ส่วนตัวผมมองว่า Tommy นี่ไม่มีคุณสมบัติของผู้ใหญ่ที่ดีเลย ทำได้ยังไงไปบอกให้ลูกหลานไปสะสาง ทั้งที่เห็นอยู่แล้วว่าลูกหลานตนเองอยู่ในสภาวะทำใจ และมีความสุขอยู่ดีแล้ว ก็เพราะแบบนี้ถึงได้แยกกับเมียอยู่ชั่วคราว แถมยังมาทำให้ชีวิตลูกหลานพังพินาศอีกตอนจบ โอ้!!! สุดยอด ลุงแห่งปีเลยจริง ๆ
KdANGELO Lim บทมันไม่เมคเซ็นเลย ในโรงละครตอนทอมมี่คุยกับเจสซี่ ทอมมี่บอกว่าจะกลับแล้วนิ? คือแบบทอดใจแล้วอะ แต่อยุ่ดีๆผ่านมาประมาณ3ปี กลับมาชวนให้ไปอีกเฉยเลยทั้งที่เรื่องมันน่าจะจบแล้ว
แต่อย่างไรก็ดี สำหรับผมแล้วมันเป็นเกมส์ที่น่าจดจำและดีมาก ๆ สมการรอคอย รวมถึงเป็นการยกระดับมาตรฐานเกมส์ยุคหน้าให้สูงขึ้นไปอีก
ปล. ถึงจะน่าเสียดายนะ แต่ก็รู้สึกคิดถึง Joel อย่างบอกไม่ถูก 😂😂😂
@@KJ-lb4fg ทอมโดนยิงเกือบตายไม่ใช่เรื่องขำๆในวงเหล้านะครับ อุตส่าห์จะเลิกแล้วมาโดนแบบนี้เป็นใครก็แค้น
สมมุติว่า แอ๊บบี้ ร่วมมือกับโจโดยไม่รู้ว่าโจจริงๆคือใคร แล้วดำเนินเรื่องไปในทางเก็บความลับความเชื่อใจความผูกพันธ์ ของสองตัวละครนี้ แล้วมีแอ๊บบี้รู้ว่าโจคือใครในตอนสุดท้ายแล้วหักหลังโจ แบบนี้ก็น่าสนุก
บทเขียนมาแบบนี้ภาคต่อไปคงเอาabbyเป็นตัวหลักแทนแล้วล่ะ 😂
อยากรู้ความเป็นไปของ Lev เหมือนกัน
ตอนนี้ ellie เป็นไงค่อยว่ากัน
มารีนถามหมอว่าถ้าเป็นแอปบี้ จะผ่ามั้ย?
หมอยังตอบไม่ได้เลย แต่ในใจใครๆก็รู้ว่าไม่ทำแน่นอน ถ้าจริงๆแล้วยังการันตีไม่ได้ ก็ไม่ควรผ่า เพราะโอกาสเดียวทำยา สำเร็จ 50/50 แต่เอลลี่ตาย 100% เด็กผู้หญิงคนนึงสมควรได้รับอะไรแบบนั้นหรอ แล้วฟังดีๆจากที่หมอพูดคือ ถ้าทำยาสำเร็จก็รักษาแค่พวกตัวเอง แต่เอาคำพูดว่าจะช่วยโลกมาอ้างให้คนอื่นเห็นด้วย คนที่รู้สึกสูญเสียที่สุดในเรื่องนี้คือเอลลี่เธอไม่ได้ผิดอะไรเลย เพียงเพราะเธอมีภูมิคุ้มกันเท่านั้นเอง
ปล. เหมือนในเอกสารที่โรงพยาบาล จะเขียนภาษาหมอไว้ประมานว่า เอลลี่มีเม็ดเลือดที่ไม่แข็งแรง มีโรคภูมิแพ้ ทำให้รับเชื้อเข้าไปแล้วกลายเป็นภูมิคุ้มกัน (ซูมอ่านคร่าวๆ+เดา)
ถ้าคิดๆ ก็คล้าย WAR Z นะ เชื้อจะไม่กลายพันธ์ในคนที่ร่างกายไม่แข็งแรง
ถ้าภาค3 เล่าเรื่องเอลลี่หาทางรักษาดีน่าเพราะพลาดท่าติดเชื้อ สุดท้ายเอลลี่ต้องสละตัวเองเพื่อช่วยดีน่า โดยมีแอปบี้ช่วยอีกทาง(เพราะแอปบี้อาจจะเข้าใจในสิ่งที่โจทำแล้ว เธอก็ฆ่าคนไม่เลือกเพราะช่วยเลฟเหมือนกัน)
แล้วถ้าให้ไฟล์ฟลายกลุ่มใหม่ไม่ใช่กลุ่มคนดีเป็นกลุ่มหาผลประโยชน์มาทำเรื่องครองอำนาจ
แล้วหมอก็ไม่น่าจะมีคนเดียว ให้มันจบแบบเอลลี่ตาย แล้วหลุมศพไปอยู่ข้างลุงโจดีกว่า กูจะร้องไห้แบบhappyหน่อย
มันคือจบ of us จริงๆ ไม่ต้องมีคนอื่นเลย
ถ้าจะให้เล่นเป็นตัวละครอื่น แต่ใช้ชื่อ of us มันไม่ได้ เอลลี่ยังไม่ตาย แล้วลุงโจก็ยังอยู่ในความทรงจำเอลลี่ตลอดเวลา
ขอให้ทำอะไรออกมาบอกหน่อยเถอะ โคตรค้างคา จบไม่ลง ถึงจะเข้าใจในสิ่งที่จะสื่อก็เถอะ กูสงสารเอลลี่😭😭😭😭
(ขออภัยถ้ามีคำหยาบ)
ณัฐชภัทร เอี่ยมตั้ง หมอค่อนข้างมั่นใจว่าทำได้ (จากผลการทดสอบในแล็ปจากเอกสาร) แต่ติดปัญหาเรื่องนั้นแหละครับ
ว่าการฆ่าเด็กคนหนึ่ง (หรือแม้กระทั่งลูกตัวเอง) นั่นคุ้มค่ากับความเป็นไปได้ของวัคซีนรึเปล่า?
แต่ Joel ได้พรากโอกาสทุกอย่างไปเพียงเพื่อรักษาเด็กคนหนึ่งที่ตัวเองเปรียบเสมือนลูกที่ตายไป ที่เอลลี่รับไม่ได้ที่สุดคือปฏิเสธความต้องการของเธอและโกหกเธอมาตลอด
ในโลกแบบนี้ผมมองว่าทุกคนพยายามหาเหตุผลให้กับตัวเองจะได้ไม่รู้สึกผิด แม้ว่าเหตุผลนั้นจะฟังดูเลวร้ายและเห็นแก่ตัวมากก็ตามที
มีใครคิดแบบนี้มั้ยว่าวัคซีนสำเร็จยังไง ก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี คือตอนนี้สับสนมาก
beji sarada แบบพฤติกรรมมนุษย์ในเกมนี้คือ มันทำให้เห็นขัดเจนระดับนึงเลยว่า ถึงวัคซีนจะสำเร็จและช่วยคนได้ประมาณนึงรวมมันจะมีคนมีภูมิมากขึ้น มันก็ไม่ได้ทำให้คนตายน้อยลงหรือแก้ปัญหาและช่วยโลกได้จริงๆ
@@knowchrome จริง ๆ มันมีเทปของมารีนในภาคหนึ่ง ที่มีคนเล่นแล้วเก็บได้ครบอะครับ เขาบอกรายละเอียดนะ ว่ามีคนที่เหมือนเอลลี่ แล้วตายไปหลายคนแล้ว ถึงจะบอกว่ารับประกันว่าทำได้ เอาอะไรมามั่นใจว่าทำได้ครับ นั่นลูกคุณ ไม่เหมือนลูกก็ลูกอะ หมอเขาถึงตอบไม่ได้ไง
มารีนถึงบอกว่า โจควรรู้เรื่องนี้ จริง ๆ ถ้าบอกโจก่อน ให้เอลลี่รู้ตัวก่อน มันอาจจะดีกว่านี้ โจอาจจะไม่ทำอะไรเลย แต่นี่ ไม่ทำ ซึ่งเราไม่รู้ผลลัพธ์ที่เอลลี่เกลี่ยกล่อมโจ เพราะมันไม่เกิดขึ้น
@@redfiled100 มันคือ 1% กับ 0% ในการผลิตเซรุ่มครับ เข้าใจอยู่ว่ามันค่อนข้างยากในการตัดสินใจ แต่ก็คงต้องใช้บริบทของ dystopia ด้วยว่าในโลกแบบนั้นการอยู่แบบไม่มีเซรุ่มมีผลเสียกับชุมชนแค่ไหน
ไม่ได้บอกว่าใครผิดหรือถูก (ซึ่งตัดสินไม่ได้อยู่แล้ว เราไม่ได้อยู่ในโลกที่ไม่มีขื่อมีแป มีเชื้อรากระจายไปทั่ว) แต่ทุกคนมีเหตุผลในการกระทำนั้นและทุกคนมีสิทธิจะเห็นแก่ตัว
แต่สิ่งหนึ่งที่คนเขียนบททำสำเร็จคือทุกครั้งที่เราได้เล่นฉาก flashback เราจะรู้สึกได้ถึงความคิดถึงโจเอลมากๆ และทุกครั้งที่เราเห็นพักพวกของแอ๊บบี้เราก็ยังคงคิดถึงโจเอลอยู่ มันทำให้อารมณ์ของเกมส์ดำเนินไปด้วยความรู้สึกเศร้าอยู่ตลอดเวลา ผลลัพธ์ที่เกิดจากการรับไม่ได้ของผู้เล่นเป็นหนึ่งในความเสียใจที่เกิดขึ้นจริง ความเจ็บปวดของพวกเรายังนับว่าน้อยกว่าความรู้สึกของเอลลี่หากเหตุการณ์นั้นมีอยู่ในชีวิตจริง ขนาดผมไม่เคยเล่นภาคแรกนะ ผมยังอินไปด้วยเลย
ความหมายแฝงมีหลายฉาก คนเข้าไม่ถึงเยอะ ฉากที่เด็ดที่สุดคือตอนที่เอลลี่บีบคอแอ็บบี้พอคิดถึงโจปุ๊บตัดสินใจปล่อยแอ็บบี้ไป วินาทีนั้นมีความหมายแฝง2ความหมาย นิ้วขาด2นิ้วก็ด้วย ตัวใครตัวมันครับ เสพงานได้เท่าไรก็เท่านั้นนะถึงจะไม่ได้เอ่ยออกมาตรงๆแต่สื่อได้ดีมาก ศิลปะก็แบบนั้นแหละ ถ้าเกมยังเสพไม่ได้ภาพวาดหมดสิทธิ์
เกมนี้เขาสอนความเป็นจริงครับ การที่โจตายนั้นแสดงถึงว่า เขาเป็นชายคนหนึ่งเท่านั้นไม่ได้วิเศษอะไร โจฆ่าคนมาเยอะมีคนมาแก้แค้นเป็นธรรมดา และก็แสดงถึงความโหดร้ายของแรงอาฆาตแค้นซึ่งสุดท้ายก็ไม่ได้อะไรสูญเสียพังทลายหมด ในตอนจบสอนการให้อภัยเพื่อยุติบ่วงกรรมเรื่องราวความแค้น สุดท้ายแล้วตัวละครทั้งสองฝ่ายต้องชอกช้ำกับความสูญเสียทั้งหมด สิ่งที่เหลือคือหาความสุขหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีสติหรือไม่ก็บ้าไปเลย
เป็นไปได้ไหมที่จะมีภาค 3 ที่แอบบี้เดินทางตามหากลุ่ม fireflies
เอลลี่คือโลกทั้งใบของโจ
ภาค 2 ถ้าคนไม่ชอบก็เกลียดไปเลย
ผกก.อยากให้ตัวเกมส์สื่อไปถึงผู้เล่น " เรื่องความแค้น " ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะตัวบทได้ฆ่าตัวละครที่ผู้เล่นจากภาคแรกที่คนเล่นรักมากอย่างโจเอล มันเป็นการฆ่าแบบเลือดเย็น โหดร้าย แถมเป็นการกระทำต่อหน้าเอลลี่ (ผู้เล่น) และคนด่ากันทั้งโลกเลย
เจตนาของผกก.ต้องการจะสื่อว่าความแค้น ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย ไม่ว่าจะเป็นฝั่งแอบบี้ หรือ เอลลี่
เเม้แอบบี้จะฆ่าโจเอลไปแล้ว ก็ยังหาความสุขจริงๆไม่ได้ และต่อให้เอลลี่ฆ่าแอบบี้ สิ่งที่ค้างในใจก็ไม่มีวันเปลี่ยน
ตัวละครที่คิดได้ก่อนใครในภาคนี้เลยคือ โจเอล และโอเว่น เลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในโลกที่อารยะธรรมมนุษย์ล่มสลาย
ท้ายสุดแล้วแอบบี้ และเอลลี่ต่างก็ต้องปล่อยวางทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นและมีชีวิตอยู่ต่อไป
แต่ตัวบทที่ถ่ายทอดมาฝั่งแอบบี้มันดูมีความชอบธรรมเกินไปแทบจะยัดเยียดในช่วงเวลาสั้นๆ ผู้เล่นไม่มีใครอินบทน้ำเน่าแบบนั้น
ต่างจากภาคแรกที่เอลลี่ และโจเอลช่วยเหลือกันเเละกัน แม้ตอนจบจะเกิดประเด็นคำถามต่อผู้เล่นเกี่ยวกับการตัดสินใจของโจลเอล ที่เลือกช่วยชีวิตเอลลี่ กับช่วยชีวิตคนทั้งโลก
ซึ่งทุกคนต่างมีเหตุผลชอบธรรมที่จะเลือกคำตอบของตัวเอง ทั้งผู้เล่น คนเขียนบท และตัวละครเอง
อย่างที่โจเอลบอกไว้ตอนจบ ว่าหากพระเจ้าให้โอกาสครั้งที่ 2 กับเขา เขาก็จะเลือกช่วยเอลลี่เหมือนเดิม แต่มันเป็นสิ่งที่เอลลี่ต้องการรึเปล่า ?
หากเอลลี่ฆ่าแอบบี้เพื่อล้างแค้น มันจะเป็นสิ่งที่โจเอลต้องการรึเปล่า ? เขาอยากเห็นเอลลี่เติบโต และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไม่ใช่หรือ ?
บทเนื้อเรื่องใน TLOU part II ตัวละครทุกคนต่างก็มีเหตุผลเป็นของตนเอง
สำหรับผม มันเป็นเกมส์ที่ดีทีสุดเท่าที่มันจะเป็นได้เเล้ว แต่ถ้าเปรียบเทียบกับภาค แรกแล้ว ต้องยอมรับว่าคนเขียนบท ใจร้ายกับ 2 ตัวละครเก่าอย่างเอลลี่ และโจลเอลมากๆ
ถ้าเราได้รู้ว่าโจทำอะไรมาบ้างหลัง 20 ปีที่ลูกสาวโจตาย เราหน้าจะได้รู้ว่าโจทำอะไรไปบ้าง ซึ่งก็น่าจะมีแต่เรื่องร้ายๆอ่ะ
ภาคแรกเนื้อเรื่องดูสบายๆไปเลย พอเทียบกับภาค2 (ยังเล่นไม่ถึงตอนที่Joelบอกชื่อAbbyเลย 555😱)
ถ้าPart3มา พี่จะซื้อมั้ยครับ ^^
สุดท้ายเราก็ไม่ชอบแอ๊บบี้อยู่ดี พยายามยัดเยียดตัวนี้มาให้เล่นมากเกินไป ยิ่งฉากที่ต้องเล่นไปสู้กับเอลลี่แล้ว โคตรเกลียดคนสร้างเกมเลย ทำไมต้องทำแบบนี้
ผมมองดูเผลอๆ แอบบี้ มันคือ งูพิษ แต่โจเอลไม่รู้ว่า แอบบี้จ้องจะฆ่าโจเอลแล้ว แต่ละคนอดีต ไฟออร์ไฟล์ทั้งนั้นืไม่ว่าจะเป็น นอร่า เมล โอเว่น จอร์แดน
@@ghostfreedom3454 ทุกคนมีเหตุผลของตัวเองครับเรื่องนี้สอนให้รู้ว่ากรรมมีจริง
@@มาตาปาลญาณวุติวงส์ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ถ้าโจเอล ตายช่วงกลางๆหรือหลังๆเกมส์จะดีกว่านี้ ตายไวไปมันดูยังไงไม่รู้
จะมีพาร์ท3ปะคับ
คิดว่าจะมีภาคต่อไหม
ควรมีนะ ไม่ควรจะจบแบบนี้
มีแน่นอนครับ แต่อาจเป็นตัวละครอื่นแล้ว
ถ้าไม่เล่าเรื่องของเอลลี่ต่อ คงขายยากแล้วเราว่า
แต่บอกแค่ชื่อไม่ได้บอกนามสกุลนะครับถ้าเกิดไม่ใช่โจลเอลที่ตามหาแอบบี้ก็ยิงผิดคนนะสิครับเพราะคิดว่าคนนี้คือโจเอลที่ตามหา
@@skyworkzero1385 แอ๊บบี้มีข้อมูลว่าโจเอลมีน้องชายชื่อทอมมี่นะ
ถ้าตอนจบของภาคนี้คือ แอบบี้กลับไปรวมกลุ่มกับหิ่งห้อย ภาคหน้าอาจจะจะต้องเล่นเป็น แอบบี้ ออกตามหาตัวเอลลี่ เพื่อหาทางทำวัคซีนอีกแหงๆ (แม้ว่าพ่อแอบบี้จะตายไปแล้วก็ตาม) เล่นเป็นแอบบี้ก็ดีนะ อาวุธล้ำดี 🤣😂
จริงๆแล้วทอมมี่เป็นคนบอกชื่อโจเอลกับแอบบี้ก่อนนะตอนหนีฝูงรันเนอร์ ส่วนตัวคิดว่าถึงโจเอลจะไม่บอกชื่อตัวเองตอนที่อยู่กับกลุ่ม WLF ยังไงก็โดนอยู่ดี เพราะแอบบี้รู้แล้วว่าชื่ออะไร
ภาค3อยากให้โจเอลกลับมา😭😭
8:04 เดี๋ยวนะพี่
คนบอกชื่อก็คือทอมมี่น้องรัก 🫠
Good good. Let the hate and anger flows through you all. The cycles of revenge and anger and hatred consumes in humans minds given more powers to me.
วางการ์ด เพราะใช้ชีวิต สบายขึ้น โจ😢😢😭😭
ตอนแรกโคตรเกลียด Abby เลย แต่พอได้รู้เนื้อเรื่องฝั่ง Abby แล้วก็เริ่มผูกพันธ์กับนาง นางไม่ได้ชั่วแต่แรก แต่มันเป็นเพราะความแค้น ก็ Joel ไปฆ่าพ่อแท้ๆของนาง ลองเป็นเราเราก็แค้น พอเห็นนางช่วยเหลือ Yara กับ Lev แบบสุดชีวิตนี่ได้ใจเราเต็มๆเลย นางปล่อยวางความแค้นที่เพื่อนโดนฆ่าได้ก็เพราะ Lev เลย
บอกเลยเกมนี้ทุกคนสีเทาๆ ไม่มีใครขาวสะอาดและดำสนิท ตัดสินใครไปด้านเดียวเต็มที่ไม่ได้เลย
เกมนี้เป็นเกมที่กล้าเขียนเนื้อเรื่องให้เห็นเหรียญ 2 ด้าน
// จริงๆก็มีเรื่องที่อยากด่าหลายเรื่องนะ เพราะมีหลายเรื่องที่มันตัดสินใจแบบไม่สมเหตุสมผลอะไรเลย เช่น Joel ที่เชื่อใจคนง่ายชิบหาย, WLF ที่เอาคนท้องมาออกสนามแนวหน้าแบบงงๆ
โจเปลี่ยนไปเพราะฌอนครับ 😁
ผมชอบนะเนื้อเรื่องเเบบนี้ทำให้นึกถึง ซีรีย์เกมออฟโทรล ไม่ได้ชอบที่ตัวเอกตายหรอก เเต่มันทำให้บทมีมิติ หลายๆอย่าง ผมคนนึงที่ดูหนังมาเยอะๆมากๆ จึงพอเข้าใจที่ผกกจะสื่อได้ เอาจริงๆ ถ้าไม่เคยดูเกมออฟโทรลมาก่อน จะช็อคกว่านี้เยอะมากๆ เรื่องการฆ่าตัวละครที่ตัวเองรักเนี่ย
ปล.ทุกคนเเทบจะเป็นสีเทาๆ เหมือนเกมออฟโทรล
คนที่รักตายหมดนิ้วที่เล่น
กีต้าก็เสียนี้แหละที่ผมไม่ชอบ
บทนี้มันฆ่าเอลลี่ให้ตายทั้งเป็น
ตอนจบมีค้างคาอีกว่าเอลลี่จะไปไหน
😭
ปูเพื่อ ตัวละครแอ้บบี้มากๆ ต้นเกมก็เรือแอ้บบี้ ฉากเรือขึ้นหาด ก็แอ้บบี้ ผมว่า สู้ทำกับเรื่องราวของเอลลี่ดีกว่า
เกลียดตรงยัดเยียดว่าอะอี่แอ้บบี้นี่คนดีนะคือแบบFuckอะไรวะนะ
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าทำไมถึงบอกชื่อหรอกครับ เอาแค่ทำไมอยู่ดีๆถึงเข้าไปช่วยกลุ่มคนแปลกหน้าดีกว่าแค่นั้นไม่พอ ยังจะตามเขากลับไปที่พักอีก กลุ่มคนเป็นสิบอาวุธพร้อมแถมมาป้วนเปี้ยนแถวกลุ่มตัวเอง ไว้ใจได้ยังไง? ในโลกที่เป็นยุคแบบนั้น
-
คือตัวเกมมันเขียนบทมาแย่ แถมยังกำกับแย่อีกตัวบทไม่เมคเซ้น แถมดำเนินเรื่องก็ห่วยมีแต่ความยัดเยียดเต็มไปหมด พอเล่นไปก็จะรู้สึกงงกับการกระทำตัวละครที่เราไม่สามารถเข้าได้ว่าทำไมต้องทำแบบนั้น ต่างกับภาคแรกที่เราเข้าใจทุกการกระทำจากตัวละครที่เราบังคับ แม้มันจะเป็นเรื่องที่ผิดก็เถอะ
ในเกมเองลลี่ก็มีพูดอยู่ครับ ว่าบางทีโจเอลก็ไปพบกลุ่มเร่ร่อนเพื่อเอาของไปแลกกัน เพราะเมืองเเจ็คสันเป็นเมืองๆที่ห่างกันเมืองใหญ่ๆ การที่จะหาของมันเลยยาก (ดูจากภาคเเรกเดินทางจนเปลี่ยนฤดูกันเลย) โจเอลอาจคิดว่าแอบบี้เป็นกลุ่มเร่ร่อนก็ได้เลยไปช่วยไว้ ส่วนที่ตามไปที่พัก มันสถานการณ์บังคับครับ ไม่ไปก็ไม่รอด รันเนอร์ตามเป็นกลุ่มขนาดนั้น ก็อย่างที่คลิปบอกครับอยู่มา 4 ปี (ไม่เเน่อาจจะนานกว่านั้นเกมเเค่ย้อน 4 ปีให้ดู) ในที่ๆเชื่อใจกันมา นิสัยก็ต้องเปลี่ยนไป ซึ่งต่างกันภาคเเรกที่อยู่กับเมืองที่ทหารดูเเลเเละยังขนของเถื่อนด้วย นิสัยเลยต้องระเเวงเป็นธรรมดา ในความคิดผม ถ้าไม่ยึดติดว่าโจเอลมันต้องรอด ผมว่าบทมันดีอยู่ครับ อีกอย่างถ้าเอลลี่ฆ่าเอบบี้ มันก็ต้องมีคนมาตามล่าฆ่าเอลลี่อีกทีเหมือนกัน พอฆ่่าได้ดีน่าก็ต้องเเก้นเเค้นไม่จบไม่สิ้นมันก็เลย เกมมันเลยจบเเบบไม่ฆ่า เพราะต่างฝ่ายก็สูญเสียคนที่สำคัญไปทั้งคู่ เเฟร์ๆ
@@shirahimeerror9807 เข้าใจครับว่า 4 ปีเปลี่ยนกันได้แต่ตัวเกมมันไม่ทำให้ผู้เล่นอินไปกับสิ่งที่เล่าได้ครับว่าโจล์จะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ผมถึงบอกว่าการดำเนินเรื่องและการกำกับมันแย่ครับ มันยังมีอีกหลายวิธีที่จะแสดงให้ผู้เล่นเข้าใจไปกับตัวละครได้ครับ และส่วนที่บอก สถานการณ์บังคับ เอาจริงๆมันเมคเซ้นหรอครับที่จะตามคนกลุ่มนั้นไปจริงๆ หมายถึงไปถึงที่พักของกลุ่มเขาเลยอะนะ? ผมถึงบอกว่าตัวบทมันยัดเยียดมากเกินไป จนไม่ไหลลื่นไปกับตัวเกม
-
ผมไม่ได้ยึดติดเลยว่าโจล์ต้องรอด ผมเดาได้ตั้งแต่มันปล่อย Trailer แรกแล้วว่าโจล์ตายแน่ๆ เพราะตัวผู้กำกับเองก็บอกเราอยู่ว่าเราจะได้เล่นเอลลี่เป็นหลัก(อันนี้ก็หลอก เกือบครึ่งก็ไม่ใช่เอลลี่) และสุดท้ายมันไม่มีอะไรแฟร์เลยครับ การกระทำของตัวละครมันวายป่วงมาก เอลลี่บทจะโหดก็โหดเกินจำเป็น บางบทที่ควรจะปะทุก็ดันเย็นอย่างกับน้ำแข็ง แอ็บบี้ก็เด๋วขึ้นเด๋วลง แลกชีวิตเพื่อนทั้งหมู่บ้านเพราะความสงสารต่อเด็กที่พึ่งจะรู้จัก
-
สุดท้ายผมเข้าใจนะว่าตัวเกมมันพยายามให้เราอินกับแอ็บบี้ว่าสุดท้ายแอบบี้ก็เหมือนโจล์กับเอลลี่ ทำให้ตัวแอ็บบี้ได้เข้าใจมากขึ้น เข้าใจว่าทำไมโจล์และเอลลี่ถึงทำแบบนั้น แต่คือมันไม่อินเท่าภาคแรกครับแค่นั้นเอง
ถ้าอ่านบันทึกการลาดตระเวนจะพบว่าเหตุการณ์ที่เจอนั้นทั้ง Joel และ Tommy ไม่เคยเจอมาก่อนในรอบ 4 ปี (Joel น่าจะเจอมาล่าสุดคือใน Pittsburgh)
ปกติคือฆ่า runner, clicker หรือแม้กระทั่ง bloater ไม่ถึงสิบแล้วก็กลับ ไม่เจอดงที่วิ่งมาเป็นร้อยแบบนั้น
การหนีไปอยู่ในบ้านที่มีปราการ คนและอาวุธครบมือน่าจะเป็นทางรอดที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น และเหตุการณ์นั้นจะไม่อะไรเลยถ้าไม่เจอโจทก์เก่าของ Joel ทั้งกลุ่ม
แอบบี้ยิงโจลเอลทั้งที่ไม่รู้นามสกุลเลยครับถ้าเกิดยิงผิดคนขึ้นมาจริงๆละก็แอบบี้จะกลายเป็นคนผิดเต็มๆเลยและแถมต้องมารักษาคนที่ถูกยิงให้อีกด้วยนะครับ
ตอนตาย โจ พูดว่า ขอโทษ เอลลี่
น้องเอลไม่ได้กลับไป Jackson หรอ?
แล้วดีน่าหายไปใหนอ่ะ
ผู้พัฒนาเค้ารู้ว่าพวกเราๆรักตัวละครไหนมากที่สุดเรารักเอลลี่ โจ พอๆกัน และเค้าก็เล่นจุดที่ทำให้เราเจ็บปวดมากที่สุดคือโจเอล แบบโคตรเจ็บอะผมยอมใจคนเขียนบทเลยกล้าเขียนให้คนด่าแต่เรื่องเล่นกับความรู้สึกนี่ผมยอมเลยมันเจ็บจริงๆ ปล.ที่ผู้เล่นด่าๆกันก็คือโจเอลตายง่ายเกินไปทั้งๆที่โจเอลเป็นคนที่ไม่ไว้ใจใครเลยเป็นคนที่รอบคอบมาก โจเอลคงไว้ใจใครมากขึ้นเลยทำให้มีจบแบบนี้ถ้าก่อนตายโจไม่ตามแอบบี้ไปผมว่ายังไงก็รอดเพราะแอบบี้มีคนเดียว ผมยอมใจคนเขียนบทเลยจริงๆทำเอาผมกลับมาดูกี่ครั้งก็รู้สึกหดหู่ เศร้าหมอง มีใครคิดถึงโจเอลแบบผมบ้าง😭😭😭
ที่จริงทอมมี่เป็นคนพูด โจลไม่ได้บอกซักคำแอบบี้แม่งยิงเลย
ชวิน เสาวิจิตร ทั้งสองรอบ (รอบแรกบอกชื่อให้ด้วย)
แอบบี้ยิงทั้งที่ยังไม่รู้นามสกุลของโจลเอลเลยครับถ้าเกิดยิงคนชื่อเหมือนโจลเอลขึ้นมาและมารู้ทีหลังว่ายิงผิดคนนี่บันเทิงเลยนะครับ55+
ก่อนมาหมู่บ้านแจ็คสัน abby รู้ข้อมูลมาแล้วครับ ว่า โจล มีน้องชายชื่อทอมมี แค่ไม่แน่ใจว่าโจลจะอยู่ในหมู่บ้านมั๊ยแค่นั้น เป็นคราวซวยของโจลและทอมมีที่ดันอยู่ที่เดียวกันครับ ที่อยู่ที่เดียวกันเวลาเดียวกัน
Skywork Zero Let's Play ทั้งกลุ่มรู้ข้อมูลทั้งทอมมี่และโจเอล และหมู่บ้านที่ตั้งครบถ้วน
การที่ทอมมี่แนะนำชื่อตัวเอง พี่ชาย หมู่บ้านครบต่อหน้าโจทก์ (อดีต flyflies ทั้งบ้าน) ก็ถือว่าเป็นความซวยในซวยของโจเอล
ส่วนตัวเราคิดว่า บางคนยึดติดกับตัวละครโจเกินไป บางคนเห็นแค่ฉากโจตายก็บอกว่าเกมห่วยแล้ว ผมก็เล่นภาคหนึ่งมา ความผูกพันมันมี พอเห็นโจตายมันก็สะเทือนใจมากอยู่เหมือนกัน ส่วนตัวผมคิดว่าบทมันเหมือนซีรี่ย์เรื่องนึงเลย มันมีทุกอย่างอยู่ในเกมนี้ ทั้งน่าเบื่อ ทั้งสนุก ทั้งเศร้า ผมเล่นจบแล้ว ผมรู้สึกประทับใจการเขียนบทมาก ไม่ว่าคนอื่นจะบอกยังไง เกมนี้ควรได้รางวัลครับ
ม่าาาาายอ่ะ
Dd Mo จ้าาา ไม่ก็ไม่จ้าา
ผมว่าโจรู้อยู่แล้วว่าต้องมีคนมาตามล่า(เพราะฆ่าไปทั่ว)
ทำไมต้องให้เอลลี่นิ้วขาดด้วย
แค่นี้แหละที่อยากบ่น นอกนั้นก็พอรับได้
เอาจริงๆ ถ้าเกมส์นี้ตัวละครเป็นกลุ่มอื่น
คงไม่มีคนบ่นเยอะแบบนี้หรอก ผมว่าน่ะ
ภาคต่อขอเป็นกลุ่มอื่นที่ไม่เกี่ยวกับโจเอลหรือเอลลี่หรือแอปบี้เลยก็ดี มีแต่คนพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องโจเอลและเอลลี่เต็มไปหมด
หรือถ้าจะเอาตัวละครเก่าก็เอามาแบบเป็นแขกรับเชิญแบบมาสั้นๆก็พอแล้วจากไป
อาจมีนัยยะสำคัญตอนนเล่นกีต้าร์ครับ เพราะนิ่วขาดก้จับคอร์ดไม่ได้เหมือนเดิม เเละกีต้าร์มีผลต่อความรู้สึกของเอลลี่มากเพราะมันทำให้นึกถึงโจ
มันคือสัญลักษณ์ว่าการไม่ให้อภัย รังแต่จะพยายามแก้แค้นจะค่อยๆ พรากทุกสิ่งที่ตัวเองรักไปเรื่อยไม่รู้จบ
เริ่มจาก Joel, ชีวิตในเมืองและทุกคน, การนอนหลับ, Jesse, Dina และ JJ, จนสุดท้ายคือนิ้วตัวเองที่สามารถเล่นเพลงที่เชื่อมกลับไปหา Joel ได้
(สามารถเอาไปเปรียบ Abby ที่เสียพ่อและเพื่อนทุกคนแต่ได้ Lev กับความหวังในตอนท้าย หรือ Tommy ที่เสียแทบทุกอย่างเพราะอารมณ์ของตัวเอง)
เกมนี้ไม่ใช่ happy ending เหมือนเรื่องอื่นๆ เท่าไหร่
คนเขียนบทให้นิ้วขาดเพราะจะได้เยาะเย้ยเอลลี่ไงครับ เพราะคนเขียนบทไม่ชอบโจลเอลกับเอลลี่นะครับ
@@skyworkzero1385 ปัญญาอ่อน
ที่นิสัยโจวเปลี่ยนไปเพื่อที่จะได้ยัดความเป็นเฟมมินิสเข้ามามากกว่า โลกดีขึ้นเพราะพลังกล้าม ผญ.
Character Ellie end story Lou 2 Abby main character Lou 3 don't have Ellie
ให้เอลลี่ไปหาลุงบิลน่าจะมัน
เสียงแอดเหมือนช่องจารย์เรดไรนั้นเลย😆
คนเดียวกัน
ทอมมี่ไม่ใช่หรอเป็นคนบอกชื่อ
ทอมมี่แค่บอกว่า ผมทอมมี่และ นั่นพี่ชายผม แล้ว โจล ก็บอกชื่อ ตัวเองแล้วอิแอปบี้ก็ยิงเลย
@@mr-bookz2728 ทอมมี่บอกชื่อตัวเองแล้วบอกชื่อพี่ายต่อไปดูแล้วฟังดีๆนะ
Pitak Yodsarn รอบแรกบอกทั้งชื่อตัวเองและชื่อพี่กับแค่ Abby ครับ
แล้วก็แนะนำตัวเองแล้วให้ Joel แนะนำชื่อตัวเองท่ามกลางอดีต flyflies อีกที
กลับไปดูอีกรอบใช่ว่ะ รอบแรกทอมมีมันบอกชื่อพี่ชายกับแอ๊บบี้ พอไปถึงกลุ่มแนะนำตัวอีกครั้งโจเอลจึงบอกชื่อตัวเอง อีแอ๊บบี้มันก็เลยยิงแบบไม่ให้ตั้งตัว
@@ซาโนริเมารัก ครับๆ
ว้าววววว
ผมเล่นเเล้วมันเศร้าใจมาก
Jo ตาย คา ไม้กอง
😪
มั่ว
หลังจากเล่นจบ
เอลลี่เป็นคนร้าย
แอปบี้ไว้ชีวิตตั้งสองครั้ง
แต่ก็ยังจะฆ่าแอปบี้สุดท้ายทำไมถึงไม่ฆ่า
ผมรักตัวละคร แอปบี้
แต่เกลียด เอลลี่