ประวัติการถวายผ้าอาบน้ำฝน การได้ถวายน้ำฝนได้รับอานิสงส์มาก
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 8 ก.พ. 2025
- การถวายผ้าอาบน้ำฝน หรือที่เรียกว่า ผ้าวัสสิกสาฎก คือ ผ้าสำหรับใช้นุ่งในเวลาอาบน้ำฝน หรืออาบน้ำทั่วไป เรียกกันว่าผ้าอาบน้ำฝนและเรียกกันสั้น ๆ ว่า “ผ้าอาบ” แต่เดิมนั้นพระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษุสงฆ์ทรงไว้แต่ผ้า 3 ผืน ที่เรียกว่า ไตรจีวร คือ สังฆาฏิ จีวร และสบง เท่านั้น ยังหาได้ทรงอนุญาตให้ใช้ผ้าอาบน้ำฝนไม่ เมื่อเวลาฝนตกภิกษุบางรูปปราถนาจะอาบน้ำฝนไม่มีผ้าผืนอื่นจะผลัดนุ่งอาบก็เปลือยกายอาบน้ำฝน
ครั้งหนึ่ง นางวิสาขามหาอุบาสิกาใช้ให้นางทาสีไปยังอาราม นางทาสีเมื่อไปถึงอารามเห็นภิกษุเปลือยกายอาบน้ำฝนก็เข้าใจว่าเป็นพวกอาชีวก (ชีเปลือย) จึงกลับมาบอกนางวิสาขาว่า ไม่มีภิกษุในอารามเลย มีแต่อาชีวกนอกพระศาสนานางวิสาขาจึงได้เข้าเฝ้าพระบรมศาสดาทูลขอต่อพระพุทธเจ้าเพื่อจะถวายผ้าสำหรับผลัดอาบน้ำฝนแก่ภิกษุทั้งหลายพระพุทธเจ้าก็ทรงอนุญาตให้ภิกษุทั้งหลายรับผ้าอาบน้ำฝนได้แต่นั้นมา
#ผู้ถวายผ้าอาบน้ำฝนย่อมได้อานิสงส์ดังนี้
นางวิสาขาได้ทูลถามพระบรมศาสนาถึงอานิสงส์ของการถวายผ้าอาบน้ำฝนแก่พระภิกษุสงส์จะมีอานิสงส์เช่นใด พระบรมศาสดาตรัสเทศนาว่า ดูกรนางวิสาขา ถ้าบุคคลใดมีจิตศรัทธานำผ้าอาบน้ำฝนมาถวายแก่พระภิกษุในพุทธศาสดาจะมีผลานิสงส์เป็นอเนกประการ แล้วพระองค์ทรงนำอดีตนิทานมาแสดงต่อไปว่า ในศาสนาพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น
มีหญิงเข็ญใจคนหนึ่งมีนามว่าอมัยทาสี อยู่มาวันหนึ่งนางอมัยทาสีได้เห็นคนทั้งหลาย นำผ้ากาสาวพัตรไปสู่สำนักภิกษุสงฆ์ให้เป็นทานโดยกระทำให้เป็นผ้าอาบน้ำฝน นางอมัยทาสีก็มีศรัทธาอยากจะทำบุญกับเขาบ้าง นางก็คิดว่าจะทำอย่างไรดีหนอ ที่เราจะได้ทำบุญในคราวนี้บ้าง พิจารณาผ้าที่จะให้ทานก็ไม่มี รีบไปหามารดา แล้วบอกความจำนงของตนให้มารดา มารดาก็ตอบว่า เราจะเอามาแต่ที่ไหน เราก็เป็นทาสเขาอยู่ นางอมัยทาสี เมื่อได้ยินดังนั้นน้ำตาก็ไหลด้วยความเสียใจ มารดาของนางก็มีจิตสงสาร จึงแนะนำให้นางอมัยทาสีไปขึ้นค่าตัวกับนาย นางได้รับคำแนะนำเช่นนั้นแล้วก็มีความยินดีจึงรีบไปหานายของนาง ฝ่ายเศรษฐีผู้เป็นนายก็ปฏิเสธไม่ยอมให้นางอมัยทาสีขึ้นค่าตัว นางไม่มีความสบายใจ นางจึงมาคิดว่าเมื่อชาติก่อนนี้เราไม่ทำบุญให้ทาน มาชาตินี้เราจึงได้ตกระกำลำบาก ถึงเวลาจะทำบุญกับเขาบ้าง ก็ไม่มีสิ่งของที่จะทำบุญ คราวนี้จะเป็นตายอย่างไรจะต้องขอทำบุญให้ได้ในครั้งนี้
ด้วยจิตศรัทธาแรงกล้านางอมัยทาสี นางได้ทนความอับอาบขายหน้า ได้สละผ้านุ่งห่มแล้วนำใบไม้มาเย็บกลัดพอปกปิดบรรเทาความอายแล้วเอาผ้าซักฟอกให้หมดความสกปรกแล้วนำดอกไม้ธูปเทียนพร้อมด้วยผ้าไปสู่ธรรมศาลา ถวายผ้าอาบน้ำฝนนั้นในวันแรม 8 ค่ำ เดือน 7 ก่อนเข้าพรรษาพร้อมกับมหาชนทั้งหลาย แล้วตั้งความปรารถนาว่า "ด้วยอานิสงส์ที่ตนได้กระทำบุญในคราวครั้งนี้ ขึ้นชื่อว่าความยากจนเข็ญใจไร้ทรัพย์อย่าได้มีในชาติต่อ ๆ ไปจนถึงพระนิพพาน และขอให้พบพระศาสนาพระศรีอริยเมตไตรย์ เมื่อคำปรารถนาของนางจบลงแล้วเทวดาทั้งหลายก็ซ้องสาธุการสนั่นหวั่นไหว ด้วยอานิสงส์ของนางอมัยทาสีทำบุญในคราวครั้งนั้น อยู่มาได้ 7 วัน พระเจ้าพันธุมหาราช ได้เสด็จไปพบนางกำลังหาบฟืนมาในระหว่างทางก็เกิดความปฏิพัทธ์รักใคร่ในตัวนางมากเป็นอย่างมาก จึงตรัสปราศรัยไต่ถามความตลอดแล้ว จึงยกนางขึ้นราชรถนำเข้าไปสู่พระนครอภิเษกนางให้อยู่ในตำแหน่งอัครมเหสี ครั้นทำลายขันธ์แล้วนางได้ไปเกิดบนสวรรค์มีวิมานทองสูง 15 โยชน์มีนางฟ้าเป็นบริวาร 3 พัน ครั้นเสวยทิพย์สมบัติแล้วจนในชาติสุดท้ายนางจะได้เกิดในศาสนาพระศรีอริยเมตไตรย์ได้บรรลุธรรมพิเศษดังนี้แล พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนาจบลงแล้วชนทั้งหลายก็ได้ดวงตาเห็นธรรมส่วนนางวิสาขาก็ตั้งอยู่ในพระรัตนตรัยนั้นแล
#ผ้าอาบน้ำฝน #ผ้าวัสสิกสาฎก #เข้าพรรษา