ขอบคุณคุณหมอมาก ๆ ที่กรุณามาทำคลิปนี้นะคะ นอกจากอธิบายให้คนทั่วไปฟังแล้ว คนแบบเราก็มองเห็นตัวเองชัดขึ้นมากเลยค่ะ โดยเฉพาะ นาทีที่ 8:19 เวลาจะลาออก มีคนมาพูดว่า The grass is always greener on the other side of the hill. ทำให้เราทนค่ะ โชคดีที่ผ่านตรงนั้นมาได้ และพบว่า greener จริง ๆ จนทุกวันนี้ก็ไม่มีที่ไหนแย่เท่าที่นั่นเลยค่ะ
นอกจากอาจารย์จะเป็นคนเก่ง รอบรู้แล้ว อาจารย์ยังเป็นคนจิตใจดี เข้าอกเข้าใจผู้อื่น นับถืออาจารย์มากๆค่ะ ขอให้ประสบแต่สิ่งดีๆนะค้า 🫶🏻
เวลาชมลูกน้อง เราจะชมต่อหน้าคนอื่นค่ะ แต่เวลาว่า เราจะเรียกมาคุยส่วนตัว ... แต่ถ้าพูดจะว่าต่อหน้าจะไม่ระบุชื่อ แต่จะพูดโดยรวม
ใช่ครับนี่คือหลักการเป็นหัวหน้าที่ดี
เพราะคนรอบข้างในที่ทำงานมีผลมาก ๆ กับสภาวะที่ทำงาน ถ้าเขาได้รับคำชมที่ดีต่อหน้าคนอื่น effect คือเขาจะทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิม และรู้สึกสบายใจ
แต่กลับกันถ้าโดนติ โดนเตือน หรือโดนต่อว่า ต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน คนที่โดนจะกดดันตัวเองมากกว่าเดิม การทำงานดรอปลงไม่ได้ดีขึ้น วิตกกังวลไปหมด กลัวคนอื่นในที่ทำงานมองเขาไม่ดี
แม่เคยเป็นครั้งนึงเมื่อห้าปีก่อนค่ะ เคยเป็นตอนผ่าตัดมดลูกและรังใข่ใหม่ๆ เหมือนอยู่ตัวคนเดียวโดดเดี่ยวเดียวดาย ทำงานอะไรไม่ได้ยิ่งซืมเศร้า เจ็บแผลผ่าตัด เหนื่อยท้อแท้ และไม่มีใครเข้าใจเรา เหมือนเราไม่มีค่าไม่มีไฟไม่อยากตื่นขึ้นมามีชีวิตเลย แต่ได้เล่าให้หมอที่รักษาเขาให้ยาคลายเครียดมากินไม่ดีขึ้น เลยต้องรักษาด้วยยาต้านซืมเศร้า บัจจุบันหยุดยาได้แล้วหายแล้วค่ะ อ้อมีอีกทริคดีนึงจะแนะนำใครที่เป็นโรคนี้นะคะ แม่เลี้ยงแมวค่ะ แมวช่วยเราได้เยอะความน่ารักซุกซนช่วยให้เรามีความสุขได้ค่ะ😊ขอบคุน อาจารณ์หมอที่มาวิเคราะห์ให้ฟังค่ะ❤
เคยเสีย self esteem
มันแย่มากจริงๆค่ะ จนขับรถไม่ได้
กว่าจะกลับมาได้มันแย่มากจริงๆ
เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังเผชิญลูปค่ะ
จริงคุณหมอ เคยโทรสายฮอทไลน์ ติดยากมาก ประมาณครึ่ง ชม พอติดแล้วก็ไม่ช่วยอะไร รู้สึกเหมือนคนโง่ๆที่ไปพูดอะไรให้คนที่ไม่มีกะใจฟัง ได้ยินเสียงแล้วอยากถอนหายใจซ้ำๆ
ถ้าประสบการณ์ที่เจอมากับตัว คือ กลับบ้านร้องไห้ทุกวัน ไม่เกี่ยวกับหัวหน้าเกี่ยวกับพวกระบบงานและอะไรที่เปลี่ยนระบบเขาไม่ได้ อยากเสนอหรือพัฒนาให้ดีขึ้นเร็วขึ้นไม่ได้ มีอาการเป็นอย่างนี้อยู่แค่2สัปดาห์ จึงตัดสินใจลาออกเลย เพราะไม่สามารถอยู่แบบนี้ได้จริงๆ ทั้งๆที่เป็นองค์กรระดับนานาชาติที่ใฝ่ฝันที่จะทำมาทั้งชีวิต คนอื่นก็งง ก็ว่าแหละ แต่คนที่รับผลกระทบคือตัวเราเองไง จะพิสูจน์ตัวเองไปทำไมกัน จะทำร้ายตัวเองไปถึงไหน คุณต้องเอาชีวิตกลับมาให้อยู่ในมือของเรา ใครหรืออะไรไม่เห็นค่าเราหรือไม่เหมาะกับเราต้องตัดทิ้งก่อนที่จะลุกลามมากัดกินใจเรา จนเราไม่อยากจะตื่น หมดแรงหมดพลังหมดใจ
ไม่มีใครช่วยใครได้ นอกจากตัวเองเท่านั้น การตระหนักรู้ในตนเองสำคัญมาก เอาชีวิตคุณกลับมา ถ้าหาทางออกไม่ได้ ลองคุยกับนักจิตฯ วางแผนในสิ่งที่เรากลัว ทุกปัญหามีทางออกเสมอ
ที่ทำงานผม เพื่อนร่วมงานมีนิสัยชอบพูดกด พูดแล้วรู้สึกเราไม่มีค่า กินผักก็แซะ ผลงานทำมาก็ด้อยค่า ไม่ว่าจะทำอะไรก็รู้สึกไม่มีค่า ตอนนี้ออกมาแล้ว สบายใจขึ้นเยอะ รู้สึกตัดสินใจถูกมากๆ
ความรู้สึกตอนเป็นซึมเศร้า จากประสบการณ์ส่วนตัวค่ะ = รู้สึกเหมือนติดอยู่ในอุโมงค์คนเดียว ตอนกลางวันก็เหมือนเป็นตอนกลางคืนอยู่
เป็นกำลังใจให้นะครับ
12:45 ขนาดประกันกลุ่มของบริษัท สามารถเบิกหัตถการต่างๆได้หลายแสน แต่การรักษาทางสุขภาพจิตไม่ Cover เลยครับ ตลกมากๆ ยาสุขภาพจิตอะไรก็ Claim ไม่ได้เลย
เจอหัวหน้า toxic แค่ไหน สิ่งที่ผมทำคือไม่สนใจ โฟกัสเฉพาะทำงานตัวเองที่ไม่ผิดระเบียบขององค์กร และทำงานเพื่อครอบครัว รักตัวเอง เจอหัวหน้าแบบนี้ เราจะชนะเขาได้คือทำให้เขาเห็นว่าความ toxic ของเขาทำอะไรเราไม่ได้
ปัญหาของเภสัชกรท่านนี้หนักและซับซ้อนมาก คนนอกไม่เข้าใจเขาหรอกค่ะ... ขนาดดีเจชื่อดังยังไม่เลือกลาออกเลย แต่เลือกที่จะกระโดดตึกจบชีวิตตัวเองเช่นกัน... "การลาออก" ไม่ใช่คำตอบที่ง่ายสำหรับทุกคนค่ะ...
จริงๆการลาออกเป็นคำตอบที่ง่ายครับ แต่ในบางจังหวะ คนคิดไม่ออก
ดีเจเค้ามีปัญหาเรื่องงานแบบ toxic เหรอคะ
@@rit2025 บางครั้งการลาออกอาจดูเป็นทางออกที่ง่ายที่สุดค่ะ แต่เมื่อใครสักคนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเครียดสูง มันยากจริงๆ ที่จะหาทางเลือกหรือมองหาทางออกที่ดีได้ ในสถานการณ์แบบนั้น หลายคนอาจรู้สึกว่าถูกบีบคั้นมากจนไม่สามารถมองเห็นทางเลือกนี้เลยค่ะ...
@@nuireeves ดิฉันก็ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เขาตัดสินใจทำแบบนั้นนะคะ แต่จากที่ได้ทราบกันมาจากสื่อต่างๆ สาเหตุที่ทำให้ดีเจท่านนั้นตัดสินใจแบบนั้นอาจมีหลายปัจจัยที่ซับซ้อนเกินกว่าที่เราจะเข้าใจได้ทั้งหมดค่ะ อาจจะเป็นเรื่องสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ไม่ดีก็ได้ หรืออาจจะเป็นปัญหาอื่นๆที่เราไม่ทราบก็ได้ค่ะ...
รบกวนขอคลิปแนะนำสำหรับคนที่เจอเรื่องประมาณนี้มาแล้ว และผ่านมาแล้วด้วยค่ะคุณหมอ
ตอนเรียนจบใหม่ๆ ทำงานที่แรก เจอหัวหน้าทำร้ายจิตใจหนักมาก ทำอะไรก็กลัวผิดไปหมด เครียดมากร้องไห้เกือบทุกวัน แต่ต้องทนหลายปี เพราะที่บ้าน เราเป็นรายได้คนเดียว
ตอนนี้ลาออกมาหลายปีแล้ว นึกถึงทีไรก็เสียใจมาก สงสารตัวเอง เหมือนเป็นแผลใจที่ไม่หายเลยค่ะ 😢
กอด ๆ นะคะ เข้าใจมาก ๆ เลย คุณเก่งมากนะคะที่ผ่านมาได้
@ ขอบคุณมากค่ะ 🥰
ผมมีเพื่อนเป็นโรคซึมเศร้า จะย้ำคิดเรื่องในอดีตที่มีแผลทางใจ หาหมอรักษา แต่ในที่สุดก็คิดฆ่าตัวตาย และก็ทำสำเร็จ เพื่อนอีกคนก็เป็นโรคซึมเศร้าเช่นกัน ร้องให้บ่อย ย้ำคิดย้ำทำ และคิดฆ่าตัวตาย แนะนำให้ไปหาจิตแพทย์ อาการดีขึ้นมาก
ขอบคุณอาจารย์หมอมากๆค่ะอ.จิตใจดีมากๆมองโลกด้วยความเมตตา
กราบขอบพระคุณค่ะคุณหมอ เห็นใจที่สุดในความกดดันที่เขาได้รับ สภาพจิตใจที่แย่ซึ่งได้รับแรงกดดันรอบด้านและไม่มีใครใส่ใจความผิดปกติของเพื่อน ไม่มีใครพร้อมรับฟัง จังหวะนั้นยากมากที่เขาจะครองสติมาทบทวนตรรกะ มาคิดยาว อดีต ปัจจุบัน อนาคต อย่างมีเหตุผลตามทฤษฎีหรอก ดังนั้นในสังคมเล็กๆที่เราทำงานร่วมกันอยู่ เราควรมีความช่างสังเกตใส่ใจทุกข์สุขกันบ้างตามสมควร ถือว่าประคับประคองกันไป ผิดถูกพูดกันดีๆได้ บรรยากาศการทำงานจะได้ผ่อนคลายลงบ้าง
ขอบคุณมากค่ะ ที่คุณหมอให้ข้อมูลในมุมที่ไม่ค่อยมีคนรู้ เป็นเรื่องจริงค่ะที่คนภายนอกที่ไม่เคยอยู่ในจุดนัันจะไม่มีทางรู้ไม่มีทางเข้าใจ เหมือนน้องโดนต้อนเข้ามุม โดดเดี่ยว ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เชื่อว่าเพื่อนร่วมงานเองก็เจอ แต่ไม่มีใครกล้าเปิดหน้าออกมาช่วย ทุกคนก็รักตัวกลัวเดือดร้อนกันทั้งนั้น
ผมขอแสดงความเห็นในฐานะของแฟนของน้องพยาบาลที่เพิ่งจบใหม่จากสถาบันที่จบมาแล้วต้องทำงานใช้ทุนให้กับรพ.ใหญ่ชื่อดังแห่งหนึ่งในกทม. อยากเอ่ยชื่อรพ.แต่กลัวว่าจะไม่สมควร
จริงๆเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับทุกองค์กร ซึ่งอาจส่งผลกระทบในระดับที่แตกต่างกัน แต่ควรหาวิธีปัองกันไม่ให้เกิดขึ้นในโรงพยาบาลเพราะเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการดูแลชีวิตสุขภาพของผู้ป่วย น้องพยาบาลที่จบใหม่ ต้องเจอกับปัญหาแบบนี้กันจนองค์กรทำให้เหมือนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เพราะเวลาปรึกษารุ่นพี่หรือปรึกษาหัวหน้าที่เป็นหัวหน้าคนที่ประเมินพยาบาลใหม่อีกทีก็ยังบอกให้ทนๆเอา จากที่จบใหม่ไฟแรง ทำให้ถอดใจburn out มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อวิชาชีพของตน จากวิธีปฏิบัติของหัวหน้าและกลุ่มรุ่นพี่ที่ปกป้องกันเอง ผิดพลาดอะไรก็โยนความผิดให้รุ่นน้อง ข่มขู่ กดดัน ให้ทำตามที่ต้องการทั้งที่บางทีก็ไม่ถูกต้อง เอาจริงๆรุ่นน้องจบใหม่มักมีความตั้งใจมากกว่ารุ่นพี่บางคนที่ต้องการทำงานเอาสบาย เอาเร็ว หรือมีความสะเพร่ามากเสียกว่าด้วยซ้ำ แต่ก็ยังชอบมาตำหนิว่ารุ่นน้องทำงานช้า การที่ยังใหม่กับระบบกับตัวงานขาดประสบการณ์จะให้ทำเร็วได้ยังไง มันเรื่องของชีวิตและสุขภาพคนเลยนะ ช้ารอบคอบไม่ผิดพลาด ถูกต้องกว่ามั้ย ด่าว่าจน ทำให้สูญเสียความมั่นใจ ส่งผลกับงาน แล้วพยาบาลจบใหม่ที่ต้องใช้ทุนก็ไม่มีทางเลือก เค้าให้ทำตรงไหนก็ต้องทำ จะขอย้ายวอร์ดก็ไม่ได้ จะลาออกไปทำที่อื่นก็ไม่ได้ แล้วยังข่มขู่ว่าจะประเมินให้ไม่ผ่าน ต้องออกจากงาน ให้หาเงินมาใช้หนี้จากทุนที่เรียน จริงๆองค์กรควรให้ความสำคัญกับการพิจารณาเลือกคนที่จะมาเป็นหัวหน้าที่มีอำนาจมาประเมินการทำงานของคนอื่น ให้มีวุฒิภาวะพอ ไม่ใช่แค่อาวุโสแค่อายุงาน แต่ไม่มีความเป็น leadership อย่างที่คุณหมอบอก แต่ถ้าเลือกยากไม่แน่ใจว่ามีคุณสมบัติจริงตามที่ต้องการ ก็ควรให้รุ่นน้องมีโอกาสได้รายงานประเมินคนที่มาประเมินเขากลับได้เหมือนกัน ให้รุ่นน้องได้มีโอกาสร้องเรียนรายงานความประพฤติว่าบุคคลนี้มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นหัวหน้าประเมินความสามารถคนอื่นได้ไหม ไม่ใช่บอกว่าให้รุ่นน้องทนๆเอา บอกว่าเทคนิคการสอนของรุ่นพี่แต่ละคนมันก็แตกต่างกัน เพราะนี่ไม่ใช่เทคนิคการสอนแต่นี่มันข่มขู่กดดันโยนความผิด แล้วถึงกับบอกว่าถ้าประเมินไม่ผ่านก็จะโดนไล่ออก ให้ไปหาเงินมาใช้ทุน มันส่งผลกำหนดอนาคตชีวิตของคนคนหนึ่งได้เลยนะ และที่เลวร้ายที่สุดอาจถึงกับต้องสูญเสียชีวิตเช่นกรณีนี้
ผมขอแสดงความเสียใจกับน้องเภสัชและครอบครัว มาณ.ที่นี้ด้วย อยากให้มีการปรับปรุงแก้ไขเรื่องนี้ในองค์กรโดยเฉพาะในวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับรพ.เพื่อไม่ให้ต้องสูญเสียบุคลากรที่สำคัญกับสังคมเช่นนี้อีก เพราะยังมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นประจำในทุกวันนี้ จากที่ได้รับรู้มา
ถูกโดดเดี่ยว เพื่อนๆไม่กล้าเข้ามาช่วย สิ้นหวัง ถูกด่า จนคิดว่าตัวเองไร้ความสามารถ ไปทำงานที่อื่น ก็คิดว่าตัวเองคงทำไม่ได้ ก็จบชีวิตตัวเอง
เคยไม่คิดจะลาออกเหมือนกัน ตอนแรกคิดว่าอยากสู้อยากเอาชนะ อยากพิสูจน์ตัวเอง ถ้าลาออกเลยเหมือนเราเป็นแบบที่คนอื่นบอกคือเป็นคนไม่มีความอดทน สรุปซึมเศร้า ตื่นมาแล้วอยากตายทุกวัน พอลาออกแล้วรู้สึกดีขึ้น แต่คนรอบข้างก็บอกทำไมไม่อดทน พอเห็นคุณเภสัชเลือกแบบนี้เลยเข้าใจมากๆเลยว่าการลาออก ไม่ใช่ทางเลือกที่เลือกได้ง่ายๆขนาดนั้น
แล้วพอเป็นซึมเศร้าไปทำงานอีกที เรารู้ล่ะไม่ไหว นายจ้างก็ด่าว่าทำนิสัยแบบนี้เด๋วผัวก็ทิ้งบ้างล่ะ ไปไหนก็อยู่ไม่ได้ ไม่มีใครที่ไหนดีกว่าเขาแล้ว นิสัยแบบนี้อยู่ที่ไหนไม่ได้หรอก ไม่รู้ว่าคุณเภสัชเจอคนที่ทำให้เขารู้สึกไม่มีค่าจนกลัวว่าทำงานที่ไหนก็ไม่ได้อีกแล้วหรือป่าว กลายเป็นมองตัวเองผิดเพี้ยนไปตามคำกล่าวของคนอื่น จนself imageพังทลาย
ส่วนตัวก็ดีลกับความรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ รังเกียจตัวเองจนอยากฆ่าตัวตายตลอดๆ มันแย่มากเลย
เข้าใจความรู้สึกของคุณ @jmuse นะคะ ส่วนตัวเผชิญสภาวะแบบนี้เหมือนกันค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ💝 .....ส่วนตัวกว่าจะรู้จักโรคซึมเศร้าคือสามสิบต้นแล้ว แต่จริงๆย้อนกลับไปน่าจะเป็นซึมเศร้าตั้งแต่จบมาใหม่ๆ งานแรกที่เราทำคือบริษัทขายเครื่องมือแพทย์ เรารู้สึกว่าเรากดดัน มีเพื่อนร่วมงานบางคนนินทาเราในทางผิด แต่เราเก็บเงียบ แล้วเราก็ลาออกเลย ...แต่จริงๆเราก็รู้ตัวเสมอนะคะว่ามึอาการก่อนที่จะเริ่มทำงานอีก แต่ก็ยังไม่รู้ว่าคืออะไร เราสู้มาเงียบๆกับความคิดบางอย่างที่มันผุดขึ้นมาตลอด
พอเรารู้ว่าเราเป็นอะไร จริงๆก็แอบดีใจนะ อ้อ!!!ที่เราเป็นมันคือแบบนี้นี่เอง เราสู้กับซึมเศร้ามาเป็นสิบกว่าปีจริงๆ ช่วงหลังเริ่มรู้เท่าทัน .... แต่เราดื้อ!!ไม่ยอมรักษา ขนาดมีพี่ที่เป็นอาจารย์หมอแล้วก็สนิทกันแนะนำไปหาหมอ โน้มน้าวแล้วโน้มน้าวอีก เราก็ไม่ไปขนสองสามปีมาเนี้ยเค้าก็ทักinbox มาตลอด จนขนาดบอกว่า "น้องชายของเฮียจบจิตแพทย์มาแล้วนะ ...ตู๋ลองคุยมั๊ย???" เราก็ปฎิเสธ ***ไม่อยากให้ใครทำตามนะคะ รู้ว่าทำไม่ถูกที่ปฎิเสธแบบนี้ ดื้อแบบนี้ ดื้อได้ขนาดนี้
แต่ที่ไม่ไปเพราะรู้ตัวว่า ความคิดบางอย่างที่เราเคยมีเคยผุดในสมองมาบ่อยๆมันจาง-มันลดลงไปแล้วค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ จากความรู้สึกที่เข้าใจจากหัวใจจริงๆค่ะ💝
ไม่รู้ว่าจะใช้กับคุณได้ไหม เวลาเราเครียดหรือรู้สึกแย่กับตัวเอง เราจะกอดตัวเองแน่นๆ ตบไหล่ แล้วพูดว่าไม่เป็นไรนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่างน้อยเราก็ยังมึร่างนี้อยู่ อยู่เป็นเพื่อนกัน มือเรายังกอดตัวเองอยู่ เราจะเริ่มเล่าว่ามันเกิดเรื่องอะไรแย่ๆบ้างในวันนี้ เรารู้สึกยังไงบ้าง เล่าไปก็ตบไหล่ตัวเองไปเรื่อยๆ พอได้ฟ้องแล้วสักพักก็รู้สึกดีขึ้น เราจะปลอบใจตัวเองตบท้ายว่าไม่เป็นไร มันผ่านไปแล้ว คราวหน้าค่อยว่ากัน แล้วก็กอดตัวเองแน่นๆขอบคุณร่างนี้อีกครั้ง เราทำแล้วโอเคนะ ลองเอาไปทำดูก็ได้นะ เผื่อจะดี
เสียใจด้วยคะ น้องยังอนาคตไกล
คุณหมอพูดถูกมาก เป็นซึมเศร้าเหมือนโดนถูกขังด้วยความคิดของตัวเอง ต้องรักษาหาหมอถึงจะดีขึ้น ใช้ชีวิตได้ในสังคม ได้
เภสัชกรคนอื่นๆทนได้ เพราะเค้าไม่ป่วย
Depression ทนความกดดันได้น้อย
ถ้าอาการดีขึ้นแล้ว ก็ทนได้ดีขึ้น
ในแชทตำหนิ น้องไม่ค่อยเข้าเวร ขายเวรบ่อย เข้าใจคนซึมเศร้าทำงานต่อเนื่องยาก การลาออกไม่ใช่จุดจบ
คุณหมอพูดถูกค่ะ การสูญเสียความมั่นใจ ทำให้ขยับไปไหนไม่ได้ และคิดซ้ำวนไปมา กลับไม่ได้ไปไม่ถึงค่ะ
ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตจริงๆค่ะ เคสนี้ซับซ้อนแต่ควรเป็นบทเรียนกับระบบการทำงาน และการรับมือกับผู้ป่วยDepression ควรมีวิธีการดูแลที่เหมาะสม
ขอบคุณคุณหมอมาก ๆ ที่กรุณามาทำคลิปนี้นะคะ นอกจากอธิบายให้คนทั่วไปฟังแล้ว คนแบบเราก็มองเห็นตัวเองชัดขึ้นมากเลยค่ะ โดยเฉพาะ นาทีที่ 8:19 เวลาจะลาออก มีคนมาพูดว่า The grass is always greener on the other side of the hill. ทำให้เราทนค่ะ โชคดีที่ผ่านตรงนั้นมาได้ และพบว่า greener จริง ๆ จนทุกวันนี้ก็ไม่มีที่ไหนแย่เท่าที่นั่นเลยค่ะ
ขอบคุณคุณหมอค่ะ ที่วิเครทะห์เคสให้ฟัง เห็นใจน้องเภสัชกรมากคืะ
ขอบคุณค่ะอาจารย์ ที่อธิบายให้ฟัง น้องเค้าน่าสงสารมากเลย เสียดายอนาคต น่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้ น้องคงรับไม่ไหว
จากการกดดันของงาน
สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ
ขอบพระคุณที่มาวิเคราะห์ เรื่องนี้ ค่ะ🙏🖤🖤🖤
การวิจารณ์คนในด้านลบ..ให้กับคนทั้งกลุ่มได้รับรู้..เท่ากับเป็นการประจานคนๆ นั้นต่อสาธารณะ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณขององค์กร
ผมเห็นด้วยครับพี่ จากคนที่คุยกันดีๆ อยู่ๆไปลงไลน์กลุ่ม แทนที่จะคุยกับเราก่อน คุยกันดีๆก็ได้น่ะครับ
จริงเลยค่ะ และเหมือนในประโยคนึงในซีรีส์ที่บอกว่า “การทำร้ายจิตใจยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จนเขาคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่มีความสามารถพอ”
หัวหน้าที่ toxic โดยการด่า ทำให้เราสูญเสีย self esteem
Depression มัก oversensitive
ควรรับการรักษา
แล้วทุกอย่าฃจะดีขึ้น อึดขึ้น
เท่าที่เจอเอง
วันแรกหม่นหมอง พอให้ยากิน นัด 2 wk อาการดีขึ้นชัดเจน จากคิ้วผูกโบ เป็นยิ้มออก
จากมองโลกแง่ร้าย กลับมาปกติได้
นึกถึงภาพโฆษณายา tranxene เป็นภาพดอก tulip เหี่ยว คอตก
พอได้ยา เป็น tulip ตั้งตรง
รายนี้แปลกที่ไม่ได้รับการรักษา
ถ้าไม่อยากหาจิตแพทย์ ก็สามารถกินยาเอง
ถ้ากินยามีผลข้างเคียง เช่น
Fluoxetine กินแล้วอาจตื่นขึ้นมาเหงื่อแตก กินต่อไป อาการน้อยลฃ
หรือเปลี่ยนยาก็ได้
พี่สาวก็รู้ว่าซึมเศร้า
สามารถทำ test ได้
แต่ถ้านอกวงการแพทย์อาจไม่รู้
ขอบคุณที่เป็นอีกกระบอกเสียงนะคะ ฟังแล้วจุกอก ยังมีคนอีกมากที่ไม่เข้าใจหรือเข้าใจน้อยมาก เกี่ยวกับโรคซึมเศร้า บางทีการที่เราไปปรึกษาใครสักคน เรากลัวที่จะถูกมองไปอีกแบบ เช่น "อย่าไปเครียด" "คิดมากน่า" "เออมันก็อย่างนี้แหละ" เหมือนเราจะจัดการอะไรไม่ได้อย่างที่คุณหมอยกตัวอย่างจริงๆ
หมอคะ เคยถูกบังคับให้เซ็นใบลาออกเพราะทางบุคคลเพิ่งมาอ่านใบรับรองแพทย์ที่หนูส่งลา ไปพบคุณหมอตามนัดทุกเดือน ว่าหนูเป็นไบโพล่าห์ เมื่อ 6-7 ปีก่อนคนไทยขาดความเข้าใจในเรื่องโรคทางจิต ทำให้เค้าคิดว่าหนูจะกลายเป็นบ้าได้ เค้าให้หนูเข้าห้องประชุมแล้วบังคับให้เซ็น ถ้าไม่เซ็นไม่ให้ออกไป
จนถึงทุกวันนี้มันเป็นบาดแผลในใจที่เวลาจะไปสมัครงานที่ไหนก็จะกลัวไปหมด
ผ่านมา 7 ปี ยิ่งมาฟังเรื่องนี้ เข้าใจน้องเภสัชเลยค่ะ อยากจบกับตัวเองทุกวัน รู้สึกเป็นภาระคนรอบข้างมากค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์หมอแทน🙏😍
วันนี้ท่านมาคุยเรื่องการเสียชีวิตของเภสัชกร ท่านหนึ่ง เป็นคลิปที่สะเทือนใจมาก และมีที่บางคนคิดว่า ทำไมเลือกการจบชีวิต ตัวเอง แทนที่จะลาออก
ทำไมทำเช่นนั้นมาฟังกัน
🌷คุณหมอ มาบอกเล่าด้วยเหตุผลต่างๆทางจิตวิทยา ของมนุษย์เรา ที่ ทำให้เราเข้าใจในตัวเค้ามากขึ้น
จากการกระทำนี้
มาฟังกันอันเป็นความรู้ที่ท่านมาวิเคราะห์ในหลายแง่มุม ต่อเนื่องมาจากคลิปที่ผ่านมา
🌷ถ้าคุณเกิดความเครียดสะสม และถูกกดดันในที่ทำงาน จากเจ้าหน้าที่ เจ้านายทอกสิกความเครียดทำ ให้ภูมิต้านทานต่ำป่วยง่าย
🌷เป็นแพนนิก
นอนไม่หลับกลัวพลาด ยิ่งพลาด
🌷กินอาหารไม่ตรงเวลา ช้าไปเร็วไปก็เกิดกรดไหลย้อนได้
ทำให้ การทำงาน
ผิดบ่อยถูกกดดัน ถูกว่าบ่อย เกิดซึมเศร้า ความคิดจึงผิดเพี้ยนไป โดนบ่นบ่อยสูญเสียความมั่นใจ เป็นเรื่องใหญ่ คิดว่าตัวเองไร้ความสามารถ ไม่กล้าออกไปกลัวเจอแบบนี้อีก การมีกลุ่มไลน์ว่ามาดุเตือนต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน อันนี้แย่จริง(การทำให้ คนอื่นรู้ เป็นกลุ่มใหญ่ ใจร้ายจัง)ถูกว่า แบบเปิดเผยให้รู้ทั้งหมด การกระทำนี้ไม่ควร) อย่างคุณหมอ
บอก เค้าจะหมดที่พึ่งที่ปรึกษา เลย ทุกคนในกลุ่มเหมือนว่าเค้าไปด้วยไม่กล้าออกรับแทน
เหตุผลอะไรต่างๆ ที่คุณหมอให้เหตุผลมานั้น มันใช่เลยค่ะมองทะลุปัญหา ที่เกิดขึ้นได้จริง ในหลายแง่มุมเลย เค้าคงอยู่ในภาวะ ที่ไปไหนไม่ได้ต้อง ยอมรับสภาพ ทุกวันๆ คงมีแต่หวาดระแวงว่าวันนี้จะโดนเรื่องอะไรอีก ยิ่งถ้าทางบ้าน บอกไม่ได้ หรือรายได้ มีทางเดียว ก็ต้องตัดสินใจจบ ชีวิตดีกว่าและด้วยการรับ ว่าตัวเอง ผิดเอง มีสปริตสูงมาก
🌷ชอบตรงที่ว่าการอยู่กับความเคยชินที่ถูกบ่นว่า ไม่ได้หมายความว่า คนถูกบ่น บ่อยๆจะดีขึ้นโดยปริยายคุณหมอเปรียบเทียยดีมากๆ
เหมือนเช่นเราอยู่กับฝุ่นp.m2.5จนชิน ไม่ได้หมายความว่าเราจะปลอดภัย หรือรอดพ้นจากโรคภัยที่เกิดจาก ฝุ่น
นี้
เด็กเจนนี้ คุณอยู่ตอนนี้ก็ต้องเจอ
ควรรับมือให้ได้
ทั้งสองฝ่าย การสอนคนต้องแตกต่างกันจริง เพราะต่างด้วยสติปัญญา ความพร้อมทางสังคม บ้าน ต้องเข้าใจเด็กแต่ละคนบางคนพูดครั้งเดียวเข้าใจบางคนต้องอธิบายขยายความยกตัวอย่างถึงจะเข้าใจ เช่นกันเจ้านายก็ต้องเข้าใจลูกน้องทุกคนว่า มีความสามารถแค่ไหน ควรให้คำปรึกษามากว่าด่าทอ ส่วนเรื่องยาเสพติดคุณหมอไม่ขอกล่าวเพราะไม่ทราบ ขอบคุณ หลักการที่กล่าวให้ฟังและ ลักษณะ ของคนทอกสิก ที่น่ากลัวจริงๆเมื่อมาใช้กับกลุ่มไลน์ เรื่องคงเป็นตัวอย่าง และเป็นประโยชน์ต่อสังคมการทำงานค่ะ🙏🌷❤️
สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ🎉🎉
ขอบพระคุณ content นี้ค่ะ 👍🙏🍀
เราก็รู้สึก low self esteem กับเพื่อนร่วมงานเอามากๆและ หัวหน้างานมาก
ยินดีกับยอดผู้ติดตาม FC6.77แสนคนค่ะ
🩵🩵🩵🩵🩵🩵
💜💜💜💜💜💜💜
❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️
🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀🚀
สวัสดีค่ะคุณหมอ ขอบคุณนะคะ ขอให้คุณหมอมีสุขภาพแข็งแรงค่ะ😊😍😍
เห็นคุณหมอเดินในซอยร่วม ผมขับรถผ่านอยากลงไปทักทายมากเลยครับ
ทักได้ครับ
คุณหมอพูดตรงกับที่หนูเคยคิดทุกอย่างเป๊ะเลยค่ะ หาคนเข้าใจแบบคุณหมอยากมาก ๆ ขอบคุณมากนะคะ จากใจผู้ป่วยซึมเศร้าด้วยสาเหตุหัวหน้างาน toxic ค่ะ
เสียใจกับข่าวนี้และเห็นใจผู้ตายนะ พยายามเข้าใจโรคซึมเศร้าแต่ขอแสดงความคิดเห็นในมุมผู้เข้ารับบริการ ถ้าโรคนี้มีส่วนส่งผลต่อการทำงานก่อให้เกิดความผิดพลาด(สมมุติ)ในการจ่ายยาหรืออื่นๆ ก็จะเสี่ยงทั้งคนที่เข้ารับบริการและองค์กร ส่วนที่เห็นใจนั้นก็เห็นใจจริงๆค่ะ ไม่อยากให้ใครเสียชีวิต อาชีพนี้ก็ดูดีมีอนาคตไกล
เราอบรมคนเป็นโรคซึมเศร้า 2วันหนึ่งคืนเขาก็กลับมาเป็นคนปกติโดยมีพลังในตัวและจิตใจจะเข้มแข็งขึ้นบางคนเอาความหลังจากจิตใต้สำนึกที่เก็บไว้มานานระบายออกแล้วบางคน20ปีเราถามจะวางแผนอะไรอีกไหมเราถามว่าอยากฆ่าคนอีกไหมอยากฆ่าตัวตายอีกไหมทุกคนส่ายหัวไม่เขาสู้ชีวิตต่อด้วยพลังของเขา เรายังคิดจะทำอีกคนติดยาก็เลิกได้มันอยู่ที่ใจ เพราะเขามีอารมณ์ผิดชั่วครู่
ตรงมากๆค่ะ ถ้าเป็นเสาหลักอยู่คนเดียว รู้สึกปรึกษาครอบครัวไปก็ไม่ทีประโยชน์😢
เข้าใจเลยน้องไม่เข้มแข็งพอ เจอแบบนี้รับไม่ได้ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวจริงๆ
จากประสบการณ์ที่คุณแม่เป็นโรคซึมเศร้าตั้งแต่เรายังเล็กๆเราต้องระวังตัวตลอดเวลาไม่ทำให้ท่านขัดใจเพราะจะฉุนเฉียวมากและนาน ไม่ชอบเข้าใกล้แม่ เวลาพี่น้องคนอื่นมีปัญหาเราจะโดนลูกหลงด้วย จนเป็นวัยรุ่นก็พยายามช่วยงานทุกอย่างทั้งหน้าร้านหลังร้านจนแม่บอกว่าไม่เหลืองานให้แม่ทำบ้างเหรอ ว่างๆก็นั่งคุยถามปัญหาแม่จะกลุ้มใจกินไม่ได้นอนไม่หลับ เราบอกว่าแม่ก็อย่าคิดมากสิแม่บอกว่าไม่ได้คิดมันมาเองมันเครียด ไปหาหมอตลอดแต่ก็ไม่กินยาเอามาเก็บไว้ไม่มีใครรู้ แม่เคยกินรวดเดียวเป็นหลายกำมือจนหลับไป 3 วันเอาไปล้างท้องที่รพ.รอดมาได้ด่าหมอใหญ่เลย แม่เล่าว่าคิดหาวิธีฆ่าตัวตายทุกวิธี นั่งรถก็นั่งหน้าสุด เคยคิดโดดตึก เคยเอาตะปูจิ้มเข้าไปในปลั๊กไฟไม่เป็นไรเลยเอาผ้าเปียกห่อปรากฏว่าแม่กระเด็นออกมา เราเลยบอกว่าแม่เป็นคนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้แม่หัวเราะใหญ่เลย ช่วงที่เราช่วยงานแม่สบายใจขึ้นมากอารมณ์ดีขึ้นยอมกินยากินข้าวได้อร่อย แต่ปัญหาหลายอย่างวนกลับมาในครอบครัว ถ้ามีเรื่องมากระทบจิตใจอาการก็กลับมาอีกถ้าหยุดยาเองก็ไม่ได้ กินยานอนหลับก็มีปัญหาถ่ายไม่ออกต้องกินยาระบาย โรคนี้น่าสงสารเพราะคนป่วยจะคิดว่าไม่มีทางออกต้องมีคนที่เอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิดและใช้เวลา สภาพแวดล้อมมีส่วนสำคัญยิ่ง การเดินหลงทางอยู่ในเขาวงกตมานานและไม่มีคนช่วยยิ่งแย่ ชีวิตย่อมมีหนทางไปเสมอ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนฝ่าฟันไปให้ได้ มีมืดแล้วเดี๋ยวฟ้าก็สว่าง❤❤❤❤ ภูมิต้านทานของแต่ละคนต่างกัน อย่าท้อถอยนะคะเหนื่อยนักก็พักก่อน ชีวิตคือการต่อสู้
เราก็เคยโดนด่า ใน chat line กลุ่ม
หัวหน้าบางคนก็เข้าข่าย Power Harassment แต่กรณีนี้ไม่อาจทราบได้ ถ้าน้องไม่ได้มีข้อบกพร่องอะไรมากขนาดนั้นน่าเห็นใจสุดๆเลยค่ะ คนที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์น่าจะพอประเมินได้ว่าน้องค่อนข้างมีปัญหาทาง mental ไม่น่า treat ลูกน้องแบบนี้เลย ขอแสดงความเสียใจกับน้องและครอบครัวด้วยค่ะ
นอนไม่หลับ กลัวทำงานแล้วโดนด่า การนอนหลับผิดปกติ สะสม
อาชีพอื่นๆก็มีความกดดันเช่นกัน ส่วนตัวผมคิดว่าเราต้องพัฒนาEQให้สัมพันธ์กับIQด้วย ❤
อาจารย์วิเคราะห์ได้ละเอียด ลึกซึ้งเหมือน psychiatrist เลยค่ะ 👍🏻👍🏻
เหตุผลที่ไม่ลาออกคิดเหมือนอาจารย์เช่นกันค่ะ การลาออกไม่ใช่เรื่องง่าย มีปัจจัยให้คิดหลายด้านค่ะ
สงสารน้องมากๆค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหมอค่ะ
โดนประชดบ่อยขนาดนี้ คนมันคิดจริงได้ค่ะ😢
ผมกำลังฟังหมอแบบตั้งใจครับ
สวัสดีค่ะคุณหมอ❤
ตามความรู้สึกส่วนตัว คนเราสามารถตักเตือนกันได้ แต่ต้องทำให้อีกฝ่ายมีความรู้สึกเตือนในฐานะพี่เตือนน้อง เพือนเตือนเดือนเพื่อประโยชน์อะไรสักอย่าง ควรคุยกันเป็นการส่วนตัวอธิบายถึงเหตุและผลให้อีกฝ่ายมีความรู้สึกว่านั่นคือความหวังดี ต้องฟังคลิปของอาจารย์ที่เคยแนะนำว่าจะเตือนใครก็อย่า toxic มีประโยชน์มากสำหรับองค์กร 🙏🙏
เข้าใจคนที่เป็นซึมเศร้าเพราะเป็นอยู่เหมือนกันค่ะ คุยกับใครก็ไม่ได้ ไม่มีคนเข้าใจ บางทีคำพูดแบบไม่คิดทำให้ดิ่งได้เลยค่ะ การสู้กับการมีชีวิตอยู่มันยากมากนะคะ มันรวนไปหมดทั้งตัวทั้งใจเหมือนที่คุณหมอบอกนั้นแหละค่ะ การจบชีวิตคือทางออกที่คนเป็นโรคนี้จะคิดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแม้แต่ตัวเราเองในช่วงนี้มันบอกไม่ถูกค่ะ มันเบื่อ มันเคว้งคว้าง เหมือนอยู่คนเดียวในโลก สมองมันเป็นของมันเอง 😢
ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ...ขอให้ผ่านพ้นไปได้🎉🎉🎉
สงสารน้อง
ข่าวหนึ่งนานมากแล้วครอบครัวบอกให้อดทน น้องจบชีวิตด้วยการโดดตึก
เด๋วนี้จิตแพทย์เยอะมาก นพ.ที่เคยทำงานมีจิตแพทย์เยอะครึ่งนึฃของอายุกรรม
มีหมอเรียนจิตเวชเยอะขึ้น
รพ.เอกชนที่ทำงาน
คนไข้หมอจิตเวชเยอะมาก ต้องอยู่เกินเวลา
สวัสดีค่ะ คุณหมอ❤
ใช่เลยคะคุณหมอ
โดยเฉพาะคนที่อายุเยอะ ออกแล้วใครจะรับ
ออกแล้ววงการมันแคบ ใครจะรับ ตามไปพูดต่ออีก
แล้วเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ก็ต้องทนอยู่เพื่อลูก
นายที่ดิฉันเพิ่งปรึกษามา บอกว่า ตัวเองมันโลกหมุนรอบตัวเอง ทำงานแย่ ทั้งที่ตัวเองได้รางวัลระดับองค์กร
มันติดอยู่ที่อายุ ส่งไปแล้วเงียบ คงเพราะอายุ
##นานพูดว่า พี่เชื่อว่าเธอไปอยู่ที่อื่นก็เจอแบบเดิม
สรุปคือ ปรับปรุงตัว##
มันใช่เหรอคะ ที่ถูกเพื่อนร่วมงานบูลลี่ เมินเฉย
และดิฉันเคยเจอ นายเรียกไปด่าทุกวันเป็นเวลา 5ปี จนซึมเศร้าเพิ่มขึ้น
หัวหน้าคนนั้นยังกระทำเดิมๆๆกับที่ทำงานใหม่ และภูมิใจกับการกระทำของตัวเอง
บอกว่า พี่เคยแรงกว่านี้นะ ถึงขั้นร้องไห้ทุกวัน
มันคือ ความภูมิใจของนายที่กระทำกับลูกน้อง
มันช่างทำร้ายคนๆหนึ่งโดยไม่สำนึก
ขอบคุณคำแนะนำคุณหมอ
คุณหมอคะ เพื่อนหนูป่วย (คาดว่าอาจจะเป็นซึมเศร้า มีความคิดอยากหลับไปเลย ไม่ต้องตื่นมาอีก) แต่เขาไม่ยอมไปหาหมอเลย เขามีความคิดว่าหมอไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้ หนูจะช่วยเพื่อนได้ยังไงบ้างคะ คืออยากให้เขาไปหาหมอจริงๆ ครอบครัวเขาก็ไม่ได้สังเกตเลยค่ะว่าเขาป่วย/มีปัญหา เขามักจะน้อยใจที่เพื่อนไม่สนใจ ไม่สังเกตว่าเขามีปัญหา อยากให้เพื่อนโทรหาบ่อยๆ แต่จริงๆ เพื่อนๆ ในกลุ่มรับรู้ปัญหาและพยายามกันมากๆ แล้วค่ะ มันมีวิธีโน้มน้าวยังไงให้เขาไปหาหมอได้บ้างคะ เขาไม่โอเคเลยค่ะเวลาบอกให้เขาไปหาหมอนะ เดี๋ยวไปเป็นเพื่อน เขาคิดว่าเพื่อนจะช่วยเขาได้มากกว่าหมอ ซึ่งไม่จริงเลยค่ะ T^T
ต้องรับฟัง และอย่าให้ความเห็นอะไรจนกว่าเขาจะถามเพื่อสร้างความไว้ใจก่อน พอเขาไว้ใจเขาจะเล่าเรื่องต่างๆให้เราฟังมากขึ้น ตอนนั้นเราค่อยเสนอให้เขาไปรักษา โดยเราเสนอตัวไปเป็นเพื่อนเขาครับ
@@DrTany ขอบคุณมากค่ะอ.
เคยเจอหัวหน้าแย่ๆ ตำหนิกลางไลน์กลุ่มเหมือนกันค่ะ ซึ่งจริงๆ เค้าลืมเองว่าเราเขียนใบลาแล้ว คิดว่าเราโดดงานไปธุระ พูดว่าเรากลางกลุ่มเลย การป่วยจิตเวช ยากที่คนไม่เคยเป็นจะเข้าใจ กว่าจะลุกจากหลุมดำนั้นมาได้ มันทรมานมาก
คนส่วนใหญ่เป็นหัวหน้าแล้วบ้าอำนาจ ไม่ได้สนลูกน้อง
กรณีนี้ผมสงสัยว่าจะทะเลาะกันหนักขนาดตุยเลยหรือ
เห็นด้วยครับการตุยคือทางออกของเรื่องนี้
อยากให้เมืองไทยตระหนักเรื่องโรคซึมเศร้าให้มากกว่านี้
งานนี้ผมว่าหัวหน้าเค้าหาทางออกให้น้องเค้าดีละแต่ควรเรียกไป
ด่าหรือคุยส่วนตัวไม่ใช่คุยในแชทรวม
การทำงานผิดพลาดหัวหน้าก็ต้อวรับผิดชอบ
ในแชทมีการด่าว่า คุณไม่ถามเรื่องแพ้ยาของผู้ป้วยหรือ
ผมว่าหนักนะงานด้อยคุณภาพแล้ว หัวหน้าจะทราบไหมจะน้องป่วยเพราะหัวหน้าไม่เคยคุยส่วนตัว แต่ผมให้สถานะลูกน้องเค้าปกติ มีปัญหาก็แนะทางออกให้
แต่เรื่องนี้ครอบครัวทราบว่าน้องป่วยผมว่าแย่กว่าหัวหน้าอีกทีนิ่งเฉย
วิเคราะห์ดี สมกับเป็นครู
สวัสดีครับอาจารย์ ผมมีญาติที่ฆ่าตัวตายสองครั้ง เราควรเคารพเขาที่จากไปแล้ว
เภสัชเค้าซึมเศร้านานแล้ว จากพี่สาว post
และขายเวรบ่อย คงเพราะป่วยซึมเศร้า
ชัดเจนคือคำว่าไม่อยากลุกจากเตียง เป็นอาการซึมเศร้า
จากการฟังจิดแพทย์บ่อยๆ เพราะโรคนี้เพิ่มเยอะมากในยุคนี้
วันก่อนเจอเด็กมหาลัย
ช่วงสอบ
มาด้วย anxiety หลายคน
บางคน depression หลายคน
คนนึงบอกว่ากินยาซึมเศร้า
อีกคนนอนไม่หลับ กินยา amitryp พอดีไม่มีเวลาคุย
นัดมาเจอเพื่อดูว่ากินทำไม กินนานเท่าไร จะหยุดได้มั้ย
เพราะกินแค่ 10 mg
กะว่าจะให้ทำ test โรคซึมเศร้า
มีรุ่นน้องเป็นซึมเศร้า เค้าบอกว่าตื่นไม่ไหวจริงๆ ช่วงที่มีอาการคือลาป่วยบ่อย ไปพบจิตแพทย์ก็อาการดีขึ้น แต่ท้ายสุดก็ลาออกจากงานแม้ว่าที่ทำงานจะไม่ toxic แต่เค้าก็กดดันตัวเอง
หนึ่งในประเด็นของเรื่องคือ " การขอแลกเวร" บ่อยครั้ง
การทำงานร.พ.รัฐ อาจต่างกับเอกชนในเรืองของ" เวรกลางคืน" รึเปล่าคะ?!😮😮
น่าจะเวรfix แล้วผู้ตายมักจะชอบขายเวรกระทันหัน แต่ขายได้ ดันไปข้ามหน้าการmanageของหัวหน้า ก็เป็นประเด็น
แต่ที่ขายเวรก็เพราะเค้าไม่อยากเจอหัวหน้า ไม่อยากตื่นมาทำงานจึงขายเวร
ผมเลือกไม่คอมเม้นท์เข้าข้างใครเลยเพราะไม่รู้รายละเอียดข้อเท็จจริงทั้งหมด แต่ก็แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตด้วยครับ
มันคือวิธีต่อสู้ของเขา มันอาจจะทำให้คนtoxic พวกนี้ได้ตระหนักขึ้นได้บ้าง หรือถึงเขาไม่ตระหนักสังคมจะลงโทษคนอย่างพวกม.. การเสียสละของน้องทำให้ผู้คนตระหนักมากขึ้น...you win
ถ้าหลังชนฝาแล้ว จะรู้ว่าใครก็ช่วยไม่ได้ เค้าจบปัญหาเพราะคิดว่า ตัวเองเป็นจุดเริ่มต้น จึงปิดสวิตช์ตัวเองเพราะกลัวรบกวนคนอื่น
พูดตรงๆ ว่าไม่อยากร่วมงานกับคนเป็นซึมเศร้าเลย
🙏
บางคนกร้าวร้าวต่อตนกดดัน บางคนทำร้ายตนเอง
the limbo of people not being responsible for their own trauma and using their toxic mouth freely, legally; hurting innocents :,(
ผมคิดว่าประชดไปเลยหรือเปล่า น่าจะใจเย็นแล้วกลับบ้านไม่ต้องไปทำงาน ออกไปเลย
อยากให้คนที่ไม่ฟัง ไม่ยอมรับคนอื่น ไม่เห้นอกเห้นใจผุ้อื่น หันมาฟังบ้าง ***แต่คนกลุ่มนี้ ก้มีน้อยคนจะเข้ามาฟัง ล้วนมองเรื่องของผู้อื่นเป้นเรื่องไม่มีสาระ
❤❤❤❤❤❤❤❤
สวัสดีค่ะ อาจารย์หมอ 🙏🏻🧸🫁🩺🎈✨
น้องเภสัชกรที่เลือกที่จะจบชีวิตตัวเองนั้น น้องก็ได้บอกตามตรงไปแล้วว่ายังไม่ต้องการลาออก หรือไม่พร้อมจะลาออก … แต่น้องถูกหัวหน้ากดดันให้ออก เพราะถ้าไม่ลาออกเอง ก็จะโดนไล่ออกให้เสียประวัติ
แล้วการที่หัวหน้าตำหนิน้องเขาลงในไลน์กลุ่มเนี่ย มันคือการประจานเขานะคะ แทนที่จำคุยกันเป็นการส่วนตัวก็ได้หนิ แบบนี้เพื่อนร่วมงานเห็นกันหมด และคิดว่าคงไม่มีใครกล้าขัดการสนทนาด้วย เพราะตอนนั้นดูเหมือนจะมีการตำหนิน้องในเรื่องของงานด้วยเหมือนจะว่าน้องทำเกินหน้าที่… เราอ่านแล้วรู้สึกว่าหัวหน้าค่อนข้างจะเจ้าอารมณ์และไม่ค่อยจะรับฟังน้อง เราว่าตรงจุดนี้แหละค่ะ ที่ทำให้น้องรู้สึกว่าไม่มีทางเลือก เลยเลือกที่จะจบชีวิต
… แต่เราอยากบอกว่าคนรอบข้างสำคัญมากนะคะ เพราะตอนนั้นถ้าเขามีเพื่อนให้คำปรึกษา มีคนรักคอยกอดและปลอบใจ เขาจะอาจจะรอดพ้นจากวิกฤตนั้นๆได้
… แต่บางคนอาจจะดูไม่ออก ว่าคำพูดของหัวหน้านั้นมันแฝงไปด้วยความกดดัน เลยคิดว่าเขาไม่ได้ผิดอะไรเพียงเพราะหัวหน้าไม่ได้ใช้คำพูดหยาบคาย แต่มันคือ “ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ” ค่ะ
… เภสัชกร เป็นบุคลากรสำคัญไม่ต่างไปจากแพทย์และพยาบาลค่ะ
แพทย์ /หมอ … มีหน้าสำคัญในการวินิจฉัยโรค และสั่งตัวยา
พยาบาล… มีหน้าที่สำคัญเปรียบเหมือนผู้ช่วยแพทย์ และทำหัตถการ การรักษา
และเภสัชกร… ไม่ได้มีหน้าที่แค่จัดยาตามสั่งของแพทย์เท่านั้น แต่ยังต้องอธิบายตัวยาต่างๆให้คนไข้เข้าใจในการรับประทานยาให้ถูกต้อง ถูกขนาด ในสายตาของเรา เภสัชกรคือผู้ที่มีความรู้เรื่องยาไม่ต่างจากหมอเลยค่ะ
*** การถูกกดดันให้ลาออก ดูเหมือนจะมีอยู่ในทุกๆองค์กร สมัยก่อนเราไปสมัครงาน ก็ต้องไปที่สำนักงานใหญ่ แต่พอเราได้เข้าไปทำงานจริงๆ พนง.ประจำสาขาแต่ละที่ ดูเหมือนจะต้องจัดการคนกันเอง รุ่นพี่ที่อยู่ประจำมาก่อนมักไม่พอใจที่เราต้องเข้ามาทำที่สาขานี้เลยต้องย้ายไปที่สาขาอื่นที่เขาไม่ค่อยมีคน เพราะดูเหมือนบริษัทจะรับสมัครพนง.แค่เพื่อกินแป๊ะเจี๊ยะหัวละ 3000.ค่ะ
กัญชาอันตรายมากคับถ้าคนไม่เคยอย่าไปยุ่งคับผมเคยเครียดๆแล้วอยากลองกัญชาเพื่อจะลองคลายเครียดซื้อมาลองครั้งเดียวร่างกายสมองเพี้ยนไปหมดรักษาโรงบาลจิตเวชเป็นปีเลยคับกว่าจะหายดีแต่ตอนี้สบายดีแล้วคับ
หัวหน้าเขาก็แนะนำถูก ถ้าไม่พร้อมทำงานในระบบนี้ก็ย้าย หรือไปทำธุรกิจส่วนตัว เขาก็จำเป็นต้องใช้คนที่ทำงานในระบบของเขาได้ คนทำงานเอาเงินเดือนก็ถือว่าเป็นมืออาชีพแล้ว ลาออก เปลี่ยนงาน ย้ายแผนก หรือร้องเรียนหัวหน้าก็เป็นเรื่องปกติ หัวหน้าที่ไหนจะมีเวลามานั่งโอ๋ลูกน้อง ต่อไป ตอนสมัครงานคงต้องให้หมอตรวจก่อนว่าเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่
ทำไมน้องเภสัชกรถึงจบชีวิตตัวเอง แทนที่จะลาออก
สวัสดีครับ
หลังจากที่ผมลงคลิปซึ่งสะเทือนใจคลิปหนึ่งไปนะครับนั่นก็คือคลิปของคุณเภสัชกรที่โรงพยาบาลพระรามเก้าท่านหนึ่งทำการจบชีวิตตัวเองเนื่องด้วยว่าไม่สามารถทนต่อสภาวะที่ทำงานซึ่งมันเป็นพิษได้นะครับโดยเฉพาะกรณีของความสัมพันธ์ระหว่างเขาแล้วก็หัวหน้าของเขานะครับ ก็ได้มีคอมเมนต์เข้ามาหลากหลายเลยนะครับ แล้วก็มีคอมเมนต์ ของคนกลุ่มหนึ่งนะครับบอกว่าทำไมถึงเลือกที่จะจบชีวิตตัวเอง ทำไมไม่เลือกที่จะลาออกมาล่ะ ไม่คิดถึงคนที่อยู่เบื้องหลังบ้างเหรอทั้งครอบครัวทั้งเพื่อนทั้งคนรักทำไมเราถึงทิ้งเขาไปได้ ทำไมเราไม่เลือกทางเลือกที่มันเห็นชัดๆว่าออกมาแล้วมันจะดีกว่านะครับ ผมเห็นคอมเมนต์แบบนี้แล้วก็ใจนึงผมคิดว่าฟังดูแล้วเหมือนเป็นการดูถูกผู้ตาย แต่ว่าอีกมุมนึงก็เข้าใจว่าเขาอาจจะไม่รู้จริงๆก็ได้ว่าทำไมถึงมีความคิดแบบนั้นขึ้นมาได้นะครับ ผมก็เลยอยากจะเอาเหตุผลพวกนี้มาเล่าให้ทุกคนฟังว่าเวลาคนเราเจอสภาวะที่ทำงานเป็นพิษ อยู่กับคนที่ต้อง Toxic มากๆแบบนี้เป็นระยะเวลานานเหตุผลกลใดที่ทำให้คนๆนึงเลือกที่จะจบชีวิตแทนที่จะเดินถอยออกมานะครับ ก็ลองไปฟังกันดูนะครับ
พบกับผมนะครับ นายแพทย์ธนีย์ ธนียวัน เป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เชี่ยวชาญโรคปอด การปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ
1️⃣
สิ่งนี้ผมอยากจะอธิบายทุกคนทราบไว้หมดเลยนะครับ
🌀ข้อแรก ถ้าคุณอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่มันเครียดตลอดเวลานะครับโดยเฉพาะทางด้านของการงานซึ่งมีความกดดันมาก งานเภสัชกรนี่กดดันมากๆเลยนะครับ ผมก็ต้องขอยืนยันอีกเสียงนึงนะครับว่าเภสัชกรเป็นอาชีพที่มีความสำคัญมากๆแล้วก็หลายครั้งมักจะถูกลืมไปด้วยซ้ำนะครับซึ่งผมก็ไม่อยากจะให้คนลืม สำหรับผมเรื่องของยาที่เก่งขึ้นมาได้เพราะว่าเภสัชกรสอนนะครับไม่ใช่อาจารย์แพทย์นะ ผมเรียนจากเภสัชกรแล้วก็ตอนมาทำงานเรื่องยาต่างๆที่ผมรู้ขึ้นมาเยอะทุกอย่างก็มาจากเภสัชกรในทีมของผมทั้งนั้นเลย ดังนั้นก็ต้องบอกว่าเป็นงานที่มีความสำคัญมากๆนะครับเผลอๆจะมากกว่าแพทย์ซะด้วยซ้ำไปในบางมุมนะครับ แล้วพออยู่ในสภาวแวดล้อมที่มีความเครียดสูงขนาดนี้ เจอเจ้าหน้าที่หรือเจ้านายที่มีความท็อกซิกมากๆก็จะเกิดความเครียดสะสมเรื้อรัง พอเครียดมากๆสิ่งที่เกิดขึ้นก็จะมีทั้งร่างกายและจิตใจครับ ความเครียดนี้มันทำให้ภูมิต้านทานต่ำด้วยส่วนนึงนะครับก็จะป่วยง่าย กินข้าวอาจจะไม่ตรงเวลาทำให้มีกรดไหลย้อนตามมา หรือบางคนก็ต้องรีบกินกรดไหลย้อนก็มาได้ง่าย บางคนนอนไม่หลับเป็นแพนิคกลัวว่าจะทำงานแล้วโดนด่ากลัวว่าจะพลาด ยิ่งกลัวว่าจะพลาดมันก็จะพลาดเพิ่มมากขึ้นนะครับ พลาดเพิ่มมากขึ้นยิ่งเจอหัวหน้าท็อกซิกก็ยิ่งโดนด่าเพิ่มมากขึ้นเป็นวงเวียนอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆนะครับ แล้วถึงจุดนึงการนอนหลับก็จะผิดปกติ ร่างกายก็จะไม่ปกติ ก็จะทำให้หน้าที่การงานทำได้แย่ลงกว่าเดิมก็จะโดนบ่นโดนด่าจากหัวหน้าที่ท็อกซิกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆสะสมจนวันนึงอาจจะกลายไปเป็นโรคซึมเศร้า ทีนี้เวลาเกิดโรคซึมเศร้า ขึ้นมาแล้วมันจะทำให้สารเคมีในสมองไม่สมดุลแล้วทำให้วิธีในการมองโลกของคนพวกนี้ผิดเพี้ยนไปหมดเลย เราจะเรียกว่า Distorted Thought คือความคิดมันบิดเบี้ยว แทนที่เราจะมีตรรกะว่าแบบนี้แล้วก็ถอยออกมาสิ คนพวกนี้จะมองว่าตัวเองไม่มีทางออกเหมือนโดนขังนะครับ เหมือนโดน Entrapped นะครับโดนกักขังไว้ในห้องๆหนึ่งออกไปไหนไม่ได้เลย ทางซ้ายก็ไม่ได้ ทางขวาก็ไม่ได้ ประตูให้เราเดินออกไปมันไม่มี เราจะหนีจากสภาวะนี้หนีก็หนีไม่ได้ คิดไปถึงขั้นว่าการลาออกมันก็ไม่ใช่ทางออก เขาคิดไปถึงขั้นนั้นเลยนะครับ คิดไปถึงขั้นว่าทางออกทางเดียวที่จะเหลืออยู่ก็คือการจบชีวิตนะครับ เขามองด้วยความคิดที่มันผิดเพี้ยนไปจากเดิมเพราะว่าโรคซึมเศร้านะครับอันนี้เป็นสิ่งหนึ่งซึ่งเกิดขึ้น
2️⃣
🌀แต่ก็ไม่ใช่แค่นี้ครับการที่เขามีปัญหาหัวหน้าที่ท็อกซิกมากๆแล้วด่าเขาอยู่เรื่อยๆนะครับสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาอีกอย่างหนึ่งก็คือเขาจะสูญเสียความมั่นใจ สูญเสีย Self-Esteem ไป เวลาสูญเสียความมั่นใจไปแล้วเกิดอะไรขึ้น?
➡️สูญเสียความมั่นใจมันเป็นเรื่องใหญ่มากเลยนะครับมันแปลว่าต่อให้เขาคิดว่าเขาอยากจะลาออก การที่เขาจะไปสมัครงานที่อื่นมันก็ทำไม่ได้
เขาจะรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่มั่นใจในฝีมือของตัวเองแล้วว่านี่ฉันทำงานมาตั้งนานทำยังไงก็ไม่เคยถูกเลย ทำแล้วก็โดนด่าตลอดเวลา ถ้าฉันไปสมัครงานที่อื่นก็คงโดนอย่างเดียวกันมั่งนั่นแหละ แล้วถึงไปก็ไม่สามารถไปได้รอด ก็เลยทำให้ทางเลือกทางนี้ยิ่งริบหรี่ลงเรื่อยๆ ยิ่งห่างไกล ทำให้เขายิ่งไม่ค่อยคิดถึงการลาออกนะครับ มันเหมือนปิดทางตัวเองไปเลย แล้วก็ไม่ใช่แค่นี้ครับเวลาคุณโดนด่าผมเห็นในแชทไลน์ที่เขาออกมานะครับมีการพูดที่อยู่ในกลุ่มไม่ใช่หัวหน้าเรียกไปพูดเป็นกรณีเดียวๆตัวต่อตัวแต่พูดในแชทไลน์เป็นกลุ่มคือทุกคนเห็นหมดเลย สิ่งๆนี้มันจะทำให้เกิดภาวะหนึ่งซึ่งก็คือภาวะโดดเดี่ยวหรือ Isolation นะครับคนที่โดนจะรู้สึกโดดเดี่ยวเพราะว่าเพื่อนทุกคนก็ไม่มีใครช่วยปกป้องตัว เองในไลน์นะครับ การไม่ปกป้อง การไม่พูดขึ้นมา ไม่พูดค้านหัวหน้าก็เหมือนการยอมรับกลายๆ การยอมรับกลายๆในที่นี้ก็เหมือนกับว่าเพื่อนทั้งหมดของคุณในกลุ่มนั้นกำลังด่าคุณอยู่ด้วย มันก็ยิ่งทำให้คุณไม่กล้าไปปรึกษาใครเลยครับเพราะว่าถ้าปรึกษาคนที่เขาเห็นด้วยกับหัวหน้าเขาจะรับฟังคุณเหรอครับ ก็ยิ่งไม่รับฟังถูกไหมครับ พอยิ่งไม่รับฟังทีนี้ก็ไม่มีทางออกเริ่มมืดเข้าไปเรื่อยๆการจะไปไหนก็ไปไม่ไหวเราไม่มีความมั่นใจอีกต่อไปแล้ว และบางทีนะครับมันวนไปจนถึงขั้นที่คุณคิดว่าเรื่องที่มันเกิดขึ้นกับเรานี้มันเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนคุณทน ทนไปจนกระทั่งรู้สึกว่ามันกลายไปเป็นเรื่องปกติของชีวิตแล้ว มันเกิดภาวะ Normalization คือเราคิดว่าเรื่องที่มันผิดเพี้ยนทั้งหมดนี้ที่มันไม่ดีมันท็อกซิกนี้เป็นเรื่องปกติ
3️⃣
ก็คล้ายๆกับประเทศไทยเราตอนนี้คุณอยู่กับ PM 2.5 มาจนกระทั่งคุณรู้สึกว่ามันก็ไม่มีอะไร มันก็แค่ PM 2.5 คุณจะพูดอะไรมากมายนักหนาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็อยู่กันมาเรื่อยๆก็ไม่เห็นมันเป็นอะไรนี่นา อันนั้นไม่ได้นะครับคือ PM 2.5 มันอันตราย ก็คุณชินกับมันไม่ได้แปลว่าอันตรายของมันลดลงแต่อย่างใดเลย การที่คุณชินกับสภาวะแวดล้อมเป็นพิษ กับพฤติกรรมของหัวหน้าที่เป็นพิษมันก็ไม่ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นมาหรือพัฒนาทางหน้าจิตใจขึ้นมาแต่อย่างใด แต่ปัญหาคือพอคุณรู้สึกว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องปกติแล้วคุณโดนด่าอยู่เรื่อยๆคุณจะรู้สึกอย่างหนึ่งเลยว่าสิ่งที่เราทำมันน่าจะผิดแล้วแหละ ฉันน่ะสมควรโดนแล้วที่หัวหน้ามาด่า สมควรโดนด่าแล้วนะครับคิดว่าเราสมควรคือ Deserved to be blamed ก็คือเราสมควรที่จะโดนด่าโดนว่าจากหัวหน้าที่ท็อกซิกแบบนี้ พอเกิดความรู้สึกว่าโดนด่าโดนว่ามันเป็นเรื่องที่สม ควรคุณก็จะคิดว่าตัวคณเองเป็นคนที่ไร้ความสามารถ ต่ำต้อย โดนเพื่อนทิ้ง เพื่อนก็เห็นด้วยกับหัวหน้า ตัวเรานั้นไม่มีความสามารถอะไรจริงๆ มืดแปดได้เลยไปทางไหนก็ไม่ได้ จะไปงานใหม่ก็ไม่กล้าแล้วเพราะว่าความสามารถของเรานั้นเรารู้สึกว่ามันก็ไม่พอ ไม่พอก็เหลือทางเดียวครับก็คือจะต้องจบชีวิตตัวเอง มันถอยออกไปไม่ได้เพราะคิดว่า ในคำว่า Normalization คือปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ท็อกซิกแบบนี้ที่ทำงานแบบนี้นะครับคิดว่าเดี๋ยวไปที่อื่นก็เจอเหมือนกัน คนพวกนี้จะคิดแบบนี้ ไปที่อื่นก็เจอเหมือนกัน พอเจอเหมือนกันเสร็จแล้วเป็นไงล่ะคราวนี้ก็ไม่กล้าไปที่อื่น และซ้ำร้ายกว่านั้นบางทีโดยเฉพาะในหมู่เภสัชกรม แพทย์ พยาบาล หรือคนที่ต้องทำงานในระบบสาธารณสุขจะมีความกลัวอย่างหนึ่งที่มันมาพร้อมๆกับความรับผิดชอบที่สูงนั่นก็คือกลัวที่เราจะต้องทิ้งงานของเราให้เพื่อนเราทำมากขึ้น กลัวที่เราจะต้องทิ้งงานของเราให้กับคนไข้ที่เขาต้องการเรานะครับ ถึงแม้ว่าคนภายนอกมองเข้ามาก็บอกว่า “ก็คุณทำงานไม่ได้คุณก็ออกไปสิ” คือถ้าคุณอยู่งานมันก็ยิ่งออกมาไม่ดี ออกมาไม่ดีก็น่าจะเป็นโทษ
4️⃣
แต่แน่นอนคือคุณอาจจะคิดตื้นเขินไปนิดนึงนะครับเพราะว่าคนที่เขาอยู่ในสภาวะแวดล้อมแบบนั้นจริงๆเขาไม่ได้คิดแบบนั้นนะครับ เขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้คนไข้ที่เขาดูแลอยู่ดีนะครับ เป็นเภสัชกรก็ต้องดูแลคนไข้ให้ดีไม่พลาดแต่เขาก็มีความกลัวตรงนี้ว่าถ้าเขาออกไปใครจะมาทำแทนเขา เพื่อนก็ต้องมาทำงานหนักเพิ่มมากขึ้น งานมันก็หนักอยู่แล้วถูกไหมครับก็อาจจะแย่ลงก็กลัวไม่กล้าออกนะครับ หรือบางทีก็กลัวว่าถ้าออกแล้วจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาหัวหน้าอาจจะมีการขู่อะไรขึ้นมาหรือเปล่าว่าถ้าเกิด ว่าฉันออกแล้วหัวหน้าคนนี้ไปบอกคนอื่นว่าเขาจะไปช่วยคุยให้ก็จริงแหละแต่ว่าเบื้องหลังเรารู้ลึกๆเรากลัวว่าเขาอาจจะไปบ่นอะไรกับเพื่อนเขาที่เขารู้จักให้เขาไม่รับเรา หรือให้เขามีการเล่นแง่เล่นงอนกับเรานะครับต่อไปงานของเราก็อาจจะมีปัญหาเราก็กลัวในส่วนนี้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม หรือบางทีเป็นปัญหาที่ครอบครัวครับเพราะว่านี่อย่าลืมนะครับเรายังไม่ได้พูดถึงปัญหาครอบครัวของน้องเภสัชกรคนนี้เลยนะครับ ไม่แน่นะครับที่บ้านเขาอาจจะไม่สามารถช่วยเหลือเภสัชกรท่านนี้ได้ใน เรื่องของรายได้ต่างๆแล้วถ้านี่เป็นรายได้เพียงรายได้เดียวของน้องเพสัชกรคนนี้การที่จะออกไปไหนเขาก็ต้องคิดให้ดีๆก่อนนะครับเพราะว่าถ้าออกไปแล้วครอบครัวก็ลำบากเพิ่มมากขึ้น ตัวเขาก็ไม่มีเงินส่งตัวเองที่จะทำให้มีชีวิตรอดเป็นปกติสุขอยู่ได้นะครับ แล้วออกไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นก็มีปัญหาตามมา เขาไม่มีที่จะไป เขากลัวว่าที่ที่เขาจะไปนั้นมันก็จะเป็นท็อกซิกเหมือนเดิม เขากลัวว่าออกไปแล้วคนไข้หรือว่าเวรของเขาที่เขาทิ้งไว้จะทำยังไง เขากลัวว่าครอบครัวเขาจะมีปัญหากับเขา ถึงแม้ว่าบางคนอาจจะบอกว่าครอบครัวจริงๆก็อาจจะมีเงินที่อาจจะสามารถช่วยเหลือน้องคนนี้ได้ ปัญหามันอยู่ที่นี่ครับ น้องคนนี้เขากล้าที่จะเอาเรื่องนี้ไปบอกครอบครัวแค่ไหน เพราะว่าถ้าเกิดคุณฟังผมมาตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้จะรู้สึกว่าปัญหาเรื่องท็อกซิกที่มันเป็นมากสะสมมันอาจจะทำให้คนๆนึงสูญเสียความมั่นใจใช่ไหมครับ สูญเสียความมั่นใจก็อาจจะคิด ว่าถ้าตัวเองไปทำแบบนี้ทำผิดทำพลาดโดนด่ามันสมควรอยู่แล้ว ถ้าสมควรอยู่แล้วก็ไม่สมควรที่จะเอาเรื่องพวกนี้ไปให้ครอบครัวเขารับรู้ ให้มันไปหนักอกหนักใจคนในครอบครัว ก็ยิ่งไม่ยอมพูดเข้าไปใหญ่ ยิ่งคิดว่าคนผิดคือตัวเองไม่ใช่สิ่งแวดล้อม ไม่ใช่เจ้านาย ไม่ใช่ใครก็แล้วแต่ แต่เป็นตัวเอง ดังที่คุณจะเห็นในข้อความสุดท้ายที่น้องเขาเขียนให้กับเจ้านายของเขานะครับ เขาบอกไว้เลยว่าตัวเขาเองผิดเองที่เกิดมาแล้วต้องตื่นไปทำงานแล้วเขาไม่อยากจะไปทำงานกับหัวหน้าแบบนี้นะครับ เขาไม่ได้ว่าไม่ได้ด่าที่หัวหน้าแต่เขาด่าที่ตัวเอง ดังนั้นตรงนี้เป็นประโยชน์ที่ค่อนข้างชัดเจนมากเลยนะครับว่าเขาว่าตัวเองนะครับ
5️⃣
นี่แหละมันก็เลยเป็นสิ่งซึ่งผมคิดว่ามันมีความซับซ้อนมากกว่าที่คนภายนอกเขาเห็นนะครับ แล้วเราก็จะต้องพิจารณาให้ครบทุกแง่ทุกมุมด้วย พวกนี้ก็คือสาเหตุหลักๆเลยนะครับ
🌀แล้วนอกเหนือจากนี้ประเทศไทยของเราก็ยังคงเป็นประเทศซึ่งการไปปรึกษาทางด้านจิตเวชถือเป็นตราบาปต่อจิตใจเราอาจจะไม่กล้าไปพบจิตแพทย์ หรือบางทีการไปพบจิตแพทย์ก็ไม่ใช่ราคาถูกโดยเฉพาะถ้าไปเอกชน ถ้าไปทางรัฐบาลก็ต้องรอคิวนานนะครับคุณมีปัญหาเร่งด่วนตอนนี้คุณอยากจะเจอหมอตอนนี้ก็ต้องเอกชนเท่านั้นถูกไหมครับ แล้วการเจอเอกชนแน่นอนว่าราคาแพงคุณอาจจะยิ่งมีปัญหาทางด้านการเงินมากไปกว่าเดิมแล้วก็คิดว่าฉันควรจะต้องลองพยายามทำอะไรด้วยตัวเองแต่มันทำไม่ได้ ที่สำคัญผมก็ได้ยินมาว่าสายฮอตไลน์ต่างๆนะครับ 1323 ที่โทรไปเรื่องของฮอตไลน์ทางด้านสุขภาพจิตก็ยากที่จะโทรติด โทรติดก็อาจจะมีคนคุยที่ไม่ได้ประโยชน์อะไรขนาดนั้น ซึ่งตรงนี้คงจะต้องเป็นทางด้านของกระทรวงสาธารณสุขหรือกรมสุขภาพจิตเข้าไปดูแลว่าเราจะมีวิธีการอะไรที่ทำให้มันดีได้มากกว่านี้นะครับเพราะว่าผมมั่นใจได้เลยว่าจะต้องมีคนโทรไปหลายคนนะครับแล้วก็อาจจะได้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันมา อาจจะมีคนบางคนได้ประสบการณ์ที่ดี แต่ก็แน่นอนว่าจะต้องมีคนบางคนที่ได้ประสบการณ์ที่ไม่ดีเพราะว่าเท่าที่ผมอ่านคอมเมนต์ดูหลายๆคอมเมนต์ก็เคยมีคนที่เขาโทรไปแล้วจริงๆเหมือนกันแต่ว่าโทรไม่ติดบ้าง โทรหลายครั้งแล้วก็ไม่มีคนรับ โทรแล้วก็ได้ประสบการณ์ที่มันไม่เห็นจะช่วยอะไรเลยขึ้นมา แล้วสุดท้ายก็ต้องไปพยายามหาหมอที่ดูแลตัวเองในโรงพยาบาลเอกชนซึ่งก็เสียตังค์เพิ่มมากขึ้นอีกนะครับ ตรงนี้ก็ต้องฝากเรื่องไปทางผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยนะครับ
แล้วเด็กไม่ได้ปรึกษาปัญหากับครอบครัวเลยหรือ ทำมั้ยคิดทำร้ายตัวเองดูข่าวแล้วเกิดความเศร้ามากๆสังคมสมัยนี้มันโหดร้ายจัง
เลือกได้ผมก็ไม่อยากเกิดมาหรอกชีวิตมันเหนื่อยกินขี้ปี้นอนเช้าไปทำงานชีวิตวนลูปอยู่แบบนี้
ขอบคุณคุณหมอที่วิเคราะห์ทําให้เราได้เห็นสถานการณ์ได้เข้าใจเพื่อนร่วมงานในสังคม🙏