ความลับของอายตนะ เป็นสิ่งที่ต้องเปิดเผย ตอนที่ ๑.

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 28 ก.ย. 2013
  • " ธรรมะ"
    ในฐานะวิทยาศาสตร์
    พุทธทาส อินฺทปญฺโญ
    ธรรมบรรยาย ประจำวันเสาร์
    ภาคอาสาฬหบูชา 2522
    ความลับของอายตนะ เป็นสิ่งที่ต้องเปิดเผย.
    สวนโมกขพลาราม
    11 สิงหาคม 2522

ความคิดเห็น • 19

  • @chutipt.2887
    @chutipt.2887 ปีที่แล้ว +2

    🙏 กราบ​นมัสการ​ ท่าน​พุทธ​ทาส​ ด้วย​ความเคารพ​อย่างยิ่ง​ 🙏
    ⚓ ขอ​ขอบคุณ​ ผู้​รวบรวม​ธรรม​บรรยาย​ ของ​ท่าน​พุทธ​ทาส​ เพื่อ​เป็น​ประโยชน์​แก่​ผู้​ใฝ่​ใน​ธรรม​ ⚓
    ⏲️ อาทิตย์​ 17 กรกฎาคม​ 2565​ (17​:04) ⏲️
    ⏲️ พฤหัสบดี​ 22 ธันวาคม​ 2565 (16:30) ⏲️

  • @nattakitmettajit1446
    @nattakitmettajit1446 ปีที่แล้ว

    ขอบคุณครับ

  • @user-hr3kq4jq8m
    @user-hr3kq4jq8m 3 ปีที่แล้ว

    อาทิตย์ ๔\๗\๖๔ กราบเท้าท่านอาจารย์พุทธทาส..........

  • @warisareeyawasarn4470
    @warisareeyawasarn4470 3 ปีที่แล้ว

    สาธุค่ะ

  • @kaesnattayap
    @kaesnattayap 3 ปีที่แล้ว

    สาธุ🙏🙏🙏

  • @narongsripakdee5815
    @narongsripakdee5815 4 ปีที่แล้ว

    สาธุธรรมครับ

  • @KatmaneeBlum
    @KatmaneeBlum 4 ปีที่แล้ว

    สาธุ สาธุ สาธุ

  • @phinyokhiaolamae
    @phinyokhiaolamae 2 ปีที่แล้ว

    อายตนะดับ ทุกข์ดับ อ.อริยเจ้าพระอรหันต์...

  • @user-mb7pw5kc6x
    @user-mb7pw5kc6x 10 ปีที่แล้ว +9

    อเหตุกจิต 3 ประการ
    1. ปัญจ ทวารวัชนจิต คือ กิริยาจิตที่แฝงอยู่ตาม อายตนะ หรือทวารทั้ง 5 มีดังนี้
    ตา ไปกระทบกับรูป เกิด จักษุวิญญาณ คือการเห็น จะห้ามไม่ให้ ตา เห็นรูปไม่ได้
    หู ไปกระทบเสียง เกิด โสตวิญญาณ คือการได้ยิน จะห้ามไม่ให้ หู ได้ยินเสียงไม่ได้
    จมูก ไปกระทบกับกลิ่น เกิด ฆานะวิญญาณ คือการได้กลิ่น จะห้ามไม่ให้ จมูก รับกลิ่นไม่ได้
    ลิ้น ไปกระทบกับรส เกิด ชิวหาวิญญาณ คือการได้รส จะห้ามไม่ให้ ลิ้น รับรู้รสไม่ได้
    กาย ไปกระทบกับโผฏฐัพพะ เกิด กายวิญญาณ คือการสัมผัส จะห้ามไม่ให้ กาย รับสัมผัสไม่ได้
    วิญญาณทั้ง 5 อย่างนี้ เป็นกิริยาที่แฝงอยู่ในกายตามทวาร ทำหน้าที่รับรู้สิ่งต่างๆ ที่มากระทบเป็นสภาวะแห่งธรรมชาติของมันเป็นอยู่เช่นนั้น
    ก็แต่ว่า เมื่อจิตอาศัยทวารทั้ง 5 เพื่อเชื่อมต่อรับรู้เหตุการณ์ภายนอกที่เข้ามากระทบ แล้วส่งไปยังสำนักงานจิตกลางเพื่อรับรู้ เราจะห้ามมิให้เกิด มี เป็นเช่นนั้น ย่อมกระทำไม่ได้
    การป้องกันทุกข์ที่จะเกิดจากทวารทั้ง 5 นั้น เราจะต้องสำรวมอินทรีย์ทั้ง 5 ไม่เพลิดเพลินในอายตนะเหล่านั้น หากจำเป็นต้องอาศัยอายตนะทั้ง 5 นั้น ประกอบการงานทางกาย ก็ควรจะกำหนดจิตให้ตั้งอยู่ในจิต เช่นเมื่อเห็นก็สักแต่ว่าเห็น ไม่คิดปรุง ได้ยินก็สักแต่ว่าได้ยิน ไม่คิดปรุง ดังนี้ เป็นต้น
    (ไม่คิดปรุงหมายความว่า ไม่ให้จิตเอนเอียงไปในความเห็นดีชั่ว)
    2. มโนทวารวัชนจิต คือ กิริยาจิตที่แฝงอยู่ที่มโนทวาร มีหน้าที่ผลิตความคิดนึกต่างๆ นานา คอยรับเหตุการณ์ภายในภายนอกมากระทบ จะดีหรือชั่วก็สะสมเอาไว้ จะห้ามจิตไม่ให้คิดในทุกๆ กรณีย่อมไม่ได้
    ก็แต่ว่าเมื่อจิตคิดปรุงไปในเรื่องราวใดๆ ถึงวัตถุ สิ่งของ บุคคลอย่างไร ก็ให้กำหนดรู้ว่าจิตคิดถึงเรื่องเหล่านั้น ก็สักแต่ว่าความคิด ไม่ใช่สัตว์บุคคล เราเขา ไม่ยึดถือวิจารณ์ความคิดเหล่านั้น
    ทำความเห็นให้เป็นปกติ ไม่ยึดถือความเห็นใดๆ ทั้งสิ้น จิตย่อมไม่ไหลตามกระแสอารมณ์เหล่านั้น ไม่เป็นทุกข์
    3. หสิตุปบาท คือ กิริยาที่จิตยิ้มเอง โดยปราศจากเจตนาที่จะยิ้ม หมายความว่าไม่อยากยิ้มมันก็ยิ้มของมันเอง กิริยาจิตอันนี้มีเฉพาะเหล่าพระอริยเจ้าเท่านั้น ในสามัญชนไม่มี
    สำหรับ อเหตุกจิต ข้อ 1 และ 2 มีเท่ากันในพระอริยเจ้าและในสามัญชน นักปฏิบัติธรรมทั้งหลาย เมื่อตั้งใจปฏิบัติตนออกจากกองทุกข์ควรพิจารณา อเหตุกจิต นี้ให้เข้าใจด้วย เพื่อความไม่ผิดพลาดในการบำเพ็ญปฏิบัติธรรม
    อเหตุกจิต นี้ นักปฏิบัติทั้งหลายควรทำความเข้าใจให้ได้ เพราะถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว เราจะพยายามบังคับสังขารไปหมด ซึ่งเป็นอันตรายต่อการปฏิบัติธรรมมาก เพราะความไม่เข้าใจใน อเหตุกจิต ข้อ 1 และ 2 นี้เอง
    อเหตุกจิต ข้อ 3 เป็นกิริยาจิตที่ยิ้มเองโดยปราศจากเจตนาที่จะยิ้ม เกิดในจิตของเหล่าพระอริยเจ้าเท่านั้น ในสามัญชนไม่มี เพราะกิริยาจิตนี้เป็นผลของการเจริญจิตจนอยู่เหนือมายาสังขารได้แล้ว จิตไม่ต้องติดข้องในโลกมายา เพราะความรู้เท่าทันเหตุปัจจัยแห่งการปรุงแต่งได้แล้ว เป็นอิสระด้วยตัวมันเอง ถ้าจะกล่าวเพิ่มเติมอีกนั้น“จิตกับใจคือสิ่งสิ่งเดียวกัน ในทางพุทธศาสนานั้น” ก็เพราะการที่มนุษย์ทั้งหลายจะสามารถรับรู้ หรือมีความรู้สึก หรือมีอารมณ์ หรือมีความคิด หรืออื่นๆใดก็ตาม ต้องมีจิตใจหรือ วิญญาณ ประกอบอยู่ด้วย และในระบบการทำงานของร่างกาย ก็ย่อมหมายรวมเอาทุกส่วนของร่างกายทำงานร่วมกัน จึงจะเกิดการรับรู้ทางอายตนะทั้งหลาย ไม่ใช่เฉพาะว่ามีเพียง จิตใจ เพียงอย่างเดียว จึงควรต้องศึกษา อายตนะภายในและภายนอก ประกอบกัน ซึ่งจริงๆแล้ว มนุษย์ทุกคน มีตาต้องเห็นรูป เกิดเจริญตา ความสวยงาม เป็นสุข ไม่เจริญตาเป็น ไม่สวยงามเลย เป็นทุกข์ เมื่อหูได้ยินคำสรรเสริญ คำไพเราะต่างๆ เป็นสุข หูได้ยินคำนินทา เสียงที่ไม่ไพเราะ เป็นทุกข์ ต้องรับรส โดยชิวหาวิญญาณ เป็นตัวรู้อารมณ์ โดยพื้นฐานจากธรรมชาติ คือ เปรี้ยว หวาน เค็ม ขม เท่านั้น หวานจะอยู่ปลายลิ้น ขมอยู่โคนลิ้น อย่างนี้ กลิ่นรส (flavour): การรับรู้ทางประสาทสัมผัสโดยรวมที่เกิดขึ้นในระหว่างการทดสอบอาหาร ซึ่งจะเกิดขึ้นทั้งในโพรงปากและโพรงจมูก โดยที่จะเกิดจากระบบรับรสผ่านลิ้น และความรู้สึกเจ็บปวดหรือความรู้สึกระคายเคืองจากความเย็นหรือความเผ็ด เป็นต้น และเกิดจากระบบรับกลิ่นผ่านโพรงจมูก ตามลำดับ ร่างกายคนเรารับรู้กลิ่นต่างๆ ได้เพราะภายในเยื่อบุจมูกของเราจะมีเซลล์ประสาทรับกลิ่น ที่สามารถเปลี่ยนสารที่ทำให้เกิดกลิ่น เป็นกระแสประสาทแล้วก็ส่งต่อไปตามเส้นประสาทรับกลิ่น ผ่าน offactory bulb จากนั้นก็ส่งต่อไปยังสมองส่วน celebum ซึ่งจะแปลผลเป็นกลิ่นต่อไป แต่ทางศาสนาคือ ฆานะวิญญาณ เป็นตัวรู้อารมณ์ ถ้าไปในทางสุข ก็หอม ถ้าไปใสทางทุกข์ ก็เหม็น อย่าผลักใส จมูกมนุษย์สามารถรับรู้ได้ ซึ่งแสดงถึงสิ่งพื้นฐานในชีวิตที่ต้องรับรู้ โดยกลิ่นมากกว่า 10 ประเภท ได้แก่ 1 กลิ่นน้ำหอม 2 กลิ่นไม้สน กลิ่นยางไม้ 3 กลิ่นผลไม้ กลิ่นดอกไม้ต่างๆ 4 กลิ่นสะระแหน่ กลิ่นมิ้นท์ 5 กลิ่นของหวาน 6 กลิ่นเลมอน 7 กลิ่นป๊อปคอร์น 8 กลิ่นสารเคมี 9 กลิ่นฉุน 10 กลิ่นเน่า และอื่นๆอีก ถ้าฆานะวิญญาณสัมผัสได้ ส่วนกายนี้ ได้สัมผัสสิ่งที่พอใจ ลูบคล้ำ ถูกต้องตัว อากาศที่ไม่ร้อนไม่หนาว เป็นต้น ก็เกิดสุขและเคยชิน เอร็ดอร่อย ส่วนความไม่พอใจ ไม่ว่าเกิดจากการกระทบ ร้อน หนาว บาดแผลต่างร่างกายต่างๆ เป็นทุกข์ อีก ซึ่งเวทนานั้นเป็นของหลอกลวงอย่างนี้ ส่วนใจนั้นเป็นประธาน เป็นผู้สั่ง ผู้รู้ รู้ทุกข์ รู้สุข รู้ความไม่แน่ว่าจะทุกข์หรือจะสุข ยิ่งถ้าอยากหนีทุกข์ ย่อมเกิดทุกข์ขึ้นทุกที ต้องคืนสุขให้แก่ทุกข์ คืนบุญให้แก่บาป ย่อมไม่มีทุกข์ในโลก โดยเมื่อกระทบ(สัมผัส)แล้ว จะนรก จะสวรรค์ อยู่ที่ตรงนี้ เมื่อไม่เอาสุข ไม่เอาทุกข์ อวิชชาย่อมไม่เกิด ภพ ชาติ ย่อมหมดสิ้นไปด้วย เพราะ แท้จริงแล้วความทุกข์ก็ไม่มีในโลก..กายย่อมไม่มี วิญญาณย่อมไม่มี ทุกข์ก็เลยไม่มีในโลกนี้ด้วยเพราะไม่มีใคร อันเป็นตัวตนไปรับ ถ้าถามว่าตัวตนอย่างไร เช่น การยืนเดินนั่งนอน การอาศัยลม เป็นตัวขับเคลื่อน โดยจิตเป็นผู้สั่ง เมื่อลมเข้า ลมออกหมด ร่างกายก็แตกสลาย จิตก็เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ซึ่งน้ำที่มีอยู่ประมาณ 70 %ก็เสียหายเพราะ ไม่มีลมไหลเวียนได้ ส่วนไฟ ที่่เผาผลาญร่างกาย เมตาบอลิซึ่ม ไฟกระวนกระวาย ก็พร่อง ส่วนดินนั้นเมื่อ เผาแล้วก็เป็นเถ้าถ่านไปเสียอีก รวมไว้โดยอนุโลม ปฏิโลมในอาการ 32 ..เป็นเช่นนั้นเอง

    • @dbzgal7218
      @dbzgal7218 3 ปีที่แล้ว

      ดีๆๆ

  • @savitreeuparakul7888
    @savitreeuparakul7888 3 ปีที่แล้ว

    น้อมกราบหลวงพ่อที่ให้ได้ฟังธรรมฟังลึกซึ้งอย่างนี้ฟังแล้วเข้าใจตามดิฉันฟังบ่อยๆรู้สึกว่าท่านสอนได้ละเอียดมากต้องฟังซ้ำๆให้เข้าใจเท่านั้นจึงจะได้ประโยชน์อย่างมหาศาลเมื่อก่อนฟังไม่เข้าใจเลยค่ะแต่ก็รู้นะคะมีความสำคัญมากจึงย้อนฟังกลับไปกลับมาให้ละเอียดไม่มีพระคุณเจ้ารูปไหนแสดงในแนวนี้ได้ละเอียดเท่านี้อีกแล้วขอบคุณผู้นำคลิปมาลงขอให้ท่านสมปรารถนาทุกๆเรื่องติดตามฟังหลายคลิปมากมีประโยชน์มากมายค่ะ

  • @jiayouwangriendham8593
    @jiayouwangriendham8593 10 ปีที่แล้ว +3

    ฟังธรรมะของท่านเป็นประจำจนนำไปฝันถึงท่านอาจารย์เป็นครั้งที่ 3 แล้วค่ะ
    วันนี้ ฝันว่า เดินถือกระเป๋าซึ่งมีอาหาร ตั้งใจว่าจะเข้าไปถวาย ก้มลงกราบท่านได้เพียง 2 ครั้ง ท่านก็ลุกขึ้น แล้วเอามือเหมือนมาคลอบที่หัวของศิษย์ วินาทีต่อมา ศิษย์โง่ก็ตื่นทันที ถือเป็นฝันที่แปลก และทำนายฝันไปเองว่า ท่านอาจารย์มาให้กำลังใจในการฝึกปฏิบัติต่อไป อย่าได้ถอยค่ะ
    การเผยแผ่ธรรมะของท่านอาจารย์เป็นกุศลมหาศาล ขออนุโมทนา สาธุค่ะ

  • @somboonchumwichan
    @somboonchumwichan 9 หลายเดือนก่อน

    สังขตอายตนะ
    มี ๖ คู่
    อสังขตอายตนะ มี ๑
    = พระนิพพาน
    พ ๖ ๙ ๖๖

  • @user-tn5wy3yy8q
    @user-tn5wy3yy8q 3 ปีที่แล้ว

    ท่านอาจารย์​พุทธ​ทาส​ภิกขุ​

  • @marisa1999verjin
    @marisa1999verjin 10 ปีที่แล้ว +1

    พระ ที่เทศนา แบบ ชาตินี้ ที่มีประโยชน์ กับคนเป็นมีแต่ท่านพุทธทาส ท่านปัญญ ท่านพยอม... พระอื่นๆส่วนมากพูดว่าตายแล้วจะไปสวรรคนิพพาน ถ้าเป็นแบบนั้นศาสนาพุธ ก็เป็นศาสนาของคนตาย (ดับทุขให้คนตาย) เลยไม่จำเป็นสำหรับคนเป็น...คิด ดูซิ..จริงไหม ?

  • @user-yp7vu2xn4r
    @user-yp7vu2xn4r 4 ปีที่แล้ว +1

    สาธุๆๆเจ้าค่ะเป็นบุญเจ้าค่ะอยู่เยอร์มันนีจร้าขอให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุขเทอญนับแต่นี้ไปชอบฟังธรรมะท่านสอนมากค่ะหมดทุกข์ขอให้เป็นจริงด้วยเทอดโชคดีด้วยค่ะ