จุดต้องสงสัยใน ' Civil War ' และกรณีคนดูหลงประเด็น [ Viewfinder : วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด ]
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 16 เม.ย. 2024
- จุดต้องสงสัยใน ' Civil War ' และกรณีคนดูหลงประเด็น [ Viewfinder : วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด ]
ติดตามเรื่องราวของ Viewfinder ทาง
/ viewfinderfanpage
#CIVILWARTH #วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด #viewfinder - ภาพยนตร์และแอนิเมชัน
[Viewfinder Review] Civil War (รีวิว : วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด). th-cam.com/video/6pljJVMI-C8/w-d-xo.htmlsi=kju0CAxXfoqhCPoB
จ
สำหรับหนัง Civil War นี้ ผมมองว่าตัวอย่างมันไม่ได้ชวนให้เข้าใจผิดว่าเป็นหนังแอคชั่นเลยนะครับ เพราะมันมีหลายองค์ประกอบมากที่ทำให้ดูออกว่าไม่ใช่ ไม่ว่าจะเป็นในตัวอย่างก็ชัดเจนว่าพวกตัวเอกไม่ใช่ทหาร อเล็ก การ์แลนด์กำกับและเขียนบท แถมเป็นหนังค่ายA24 ผมเองยังเซอร์ไพรส์ด้วยซํ้าที่ในหนังมีฉากบู๊ยิงกันเยอะขนาดนั้น
ส่วนคนที่ผิดหวังเพราะคิดว่าออกแนวการเมืองไปเล่นประเด็นต้นเหตุของสงครามจนถึงจุดจบของสงคราม อันนี้ผมว่าพอเข้าใจได้นะ แต่ก็อีกนั่นแหละ ตามที่อเล็ก การ์แลนด์บอกว่าสิ่งที่จะเล่าในหนังเรื่องนี้มันจำเป็นต้องใช้นักข่าวมาเป็นตัวเดินเรื่องและเขาก็ใช้การเดินทางตรงนี้ถ่ายทอดสิ่งที่อยากเล่า โดยเป้าหมายของพวกตัวเอกในบทก็คือไปสัมภาษณ์ประธานาธิบดี ซึ่งมันจะเป็นข่าวใหม่ล่าสุด ถ้าตามเวลาในเรื่อง สงครามมันเกิดขึ้นไปแล้ว ถ้าจะไปทำข่าวเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นสงครามมันก็จะกลายเป็นข่าวเก่า ก็ไม่เข้ากับความเป็นนักข่าวอีก และพอไปถึงตัวประธานาธิบดี ภารกิจก็เสร็จสิ้น หนังก็จบ
ทั้งหมดทั้งมวลหากลองมาคิดดูดีๆ ทุกอย่างมันก็สมบูรณ์ในตัวหนังมันเองแล้วนะ
ชอบที่เราไม่รู้อะไรเลยนี่แหละ ทำให้รู้สึกว่าเราเป็นแค่คนตัวเล็กๆ แล้วก็เห็นโลกไปพร้อมกับตัวละคร
เลยยิ่งรู้สึกกลัวจริงๆ
ที่ผมสงสัยมากที่สุดคือ ทำไมกองกำลังฝั่งตะวันตก ถึงได้แค้นประธานาธิบดีมากขนาดนั้น คือสีหน้าท่าทางของทหารนี่ดูออกเลยว่าโกรธแค้นประธานาธิบดีมากๆ ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ก่อนจะทำการบุกเลยว่า ถ้าเจอหน้าเมื่อไหร่ก็ยิงทิ้งเลย ไม่ทำข้อตกลง ไม่ต้องให้ลงนามยอมแพ้ ไม่ฟังและไม่ถามอะไรทั้งนั้น เห็นปุ๊บฆ่าลย แต่ยังดีที่โจไปขอพาดหัวข่าวก่อน ก็เลยได้พูดทั้งหมด 5 คำก่อนตาย 😂
ไม่แน่ประธานาธิบดีอาจจะเป็นคนเปิดฉากสงครามก็ได้ครับ พวกทหารฝั่งตะวันตกถึงได้โกรธแค้นมากขนาดนั้
ดูมาเมื่อวาน ชอบมากค่ะ มันไม่ใช่แค่เรื่องของการเมือง แต่มันคือสิ่งที่สื่อ/ช่างภาพต้องมีในการรับมือกับสถานการณ์สงคราม สภาวะการทำอะไรไม่คิดเพียงนิดเดียวก็พาทั้งทีมสุ่มเสียงถึงตายได้ สภาวะความอยากทำอะไรตามใครเพียงเพราะยังไม่เคยเจออะไรหนักๆหน้างาน สภาวะความสามารถรับมือเรื่องของความรู้สึก เจ๋งมากๆๆๆค่ะ ไม่เสียใจที่ไปดูค่ะ ตอนแรกแอบไม่อยากไปดูเพราะแอบหน่ายหนังสงครามมีแต่ฉากตูมตามกัน
[Viewfinder Review] Civil War (รีวิว : วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด) th-cam.com/video/6pljJVMI-C8/w-d-xo.htmlsi=8AIO1jTnrY5BngXE
เป็นหนังที่เกินคาดสำหรับผมมาก ก่อนเข้าไปดูคิดว่าเป็นหนังการเมืองจ๋าเล่าเรื่องอุดมการณ์ แต่หลังจากดูจบมันคือหนัง post apocalyptic สเกลอเมริกาดีๆเรื่องหนึ่ง หนังไม่ lead อะไรเลย พาเราไปอยู่ในเหตุการณ์ เห็นเรื่องราวต่างๆพร้อมกับตัวละครโดยไม่ตัดสินอะไรทั้งนั้น แค่เจอแล้วก็ผ่านไป ลุ้นทั้งเรื่องว่าไอ้กลุ่มตัวละครจะพาเราไปเจออะไร ที่สำคัญภาพสวย ซาวด์ดี แต่แอบรำคาญยัยเจสซี่มากเหมือนพาเด็กมาทัศนศึกษาหลังโลกแตก
แอบชอบซีนสุดท้าย ทุกคนต่างทำหน้าที่ตัวเอง ไม่มีอีโมชันกับเหตุการณ์ใดๆทั้งนั้น ไม่ต้องใส่ใจอะไรเลยเรายิงไปมันยิงกลับอย่าไปคิดอะไรมากเราก็แค่เบี้ย ทุกคนต้องใช้ชีวิต ช๊อตจบตัดไปถ่ายยัยเจสซี่มีแสงสะท้อนเหมือนช๊อตเวลาถ่ายลี แม่งนี่มัน the new LEE ชัดๆ
คอมเม้นนี้ตรงใจ หลายคนอยากไปดูเหตุความขัดแย้ง อยากไปดูสงคราม อยากไปดูผู้ร้ายผู้ดี อยากไปดูคนถูกผิดด ซึ่งไม่ใช่ประเด็นที่เขาอยากนำเสนอ ไม่ชอบไม่สนุกอันนี้เข้าใจได้แต่ด่าว่าหนังห่วยคงต้องหัดแยกแยะหนังไม่ตรงจริตกับหนังก่วยแล้วหล่ะ
ผมว่าชื่อเรื่องในไทย มันทำให้คนหลงได้จริงๆนะ ชื่อเรื่อง " Civil War " ชื่อไทย " วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด " ชื่อมันเป็นชื่อหนังสงคราชัดๆ เอาชื่อหนังไปถามคนทั่วไปที่ไม่ได้ติดตามขาวสารวงการหนัง ผมเชื่อว่า 90% บอกว่าเป็นหนังสงคราม
จริงควรใช้คำว่า "วิบัติสมรภูมิสื่อมวลชนเดือด" :)
ผมว่าเจตนาคนตั้งชื่อในไทยมีเจตนาคล้ายๆ หลอกคนไทยเข้ามาดูหนังสงครามที่ทั้งเรื่องยิงกันสะบั้นหั่นแหลกแบบ Black hawk down อะไรแบบนั้น
ทำให้นึกถึงสมัยก่อนก็มีการตั้งชื่อหนังแบบ สวาท สวาท แต่พอเข้าดูไม่มีอะไรเลย555
โดยรวมผมว่า หนังทำออกมาได้ค่อนข้างดี แต่โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบตอนจบเท่าไร มันทำออกมาดูไม่ค่อยสมเหตุผล ในเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคร
ในเทรลเลอร์ที่ตัดมาเปนตัวอย่าง คือส่วนต้น และตอนท้ายของหนัง ส่วนระหว่างกลาง 1 ชม 10 นาที คือพูดสะส่วนมันส์ๆ ลง Trailer จนหมด ส่วนน่าเบื่อ หรือพูดเยอะ อยู่ในช่วงระหว่างตรงกลาง
ผมผิดหวัง ไม่ได้เพราะคาดหวังการบู๊ แต่คาดหวังการเล่าเรื่องที่มาของความแตกแยก การแบ่งฝ่ายเกิดขึ้นมาได้ยังไง มัน miss lead ตั้งแต่ trailer นะครับ
ผมเองก็อยากรู้แต่เข้าใจได้เพราะเน้นเล่าผ่านมุมมองนักข่าว จับเราใส่แบบทิ้งไว้เจอเหตุการณ์เอง ตอนหนังยังคิดอยู่เลยว่าจบแล้วยังไงต่อจากนี้
ใช่ คือไม่ได้คาดหวังบู๊ดุเดือด เหมือนกับหนังนักข่าวในเช๊ก แต่คือหนังควรมีสาระว่ามันเกิดอะไรขึ้นสักนิด ที่ไปที่มา ว่าเกิดอะไรยังไง ทำไมคนถึงโกรธ
มันไม่ใช่mislead เค้าแค่ไม่ได้เล่า
ผมมองว่าแค่รู้ว่าแตกกัน (ถ้าหนังไปได้ อนาคตอาจจะแฟลตแบคก่อนภาคนี้) บางอย่างไม่ต้องมานั่งเกริ่นก็ได้มั้ง รึอาจจะชินดูหนังที่ต้องเท้าความมากไปรึป่าวครับ
@@punteenurut6640 หนังเขาจะบอกว่ามันเกิดขึ้นแล้ว เมื่อมันเกิดขึ้นนี่คือสิ่งที่เราต้องเจอ จะเกิดเพราะอะไรยังงัยชั่งมัน เข้าใจคนที่ผิดหวังนะน้าเพราะอยากรู้เหตุความจัดแย้งหรืออยากดูฉากสงครามจัด ๆ
สำหรับผมไปดูมาเมื่อวานไม่หวังอะไรมากพอมีข้อมูลนิดหน่อยว่าหนังประมาณไหน แต่พอดูทำไมหนังสนุกมาก โดยเฉพาะฉากสงครามช่วงท้ายทำเอาหัวใจเต้นตุบๆดังๆอะดรีนาลีนหลั่งขั้นรุงแรงไปเลย สำหรับผมชอบตัวละครทุกตัว ผมให้ 9/10 ไปเลย
ดูเพลินๆดีครับ บรรยากาศกดดันก็กดดันได้ดี แต่ถ้าเดอะเบสเลยคือเสียงปืนเสียงระเบิดเร้าใจดีครับ
คนสร้างหนังเรื่องนี้จงใจให้คนดูหนังได้คิดและรับรู้ความรู้สึกว่าสงครามกลางเมืองมันเลวร้ายแค่ไหนผ่านมุมมองของนักข่าวภาคสนามที่ต้องตกอยู่ในสถานะการณ์จริง..
ไม่ได้มีเจตนาชี้นำทางการเมืองว่ามันมีที่มาของปัญหาจากอะไร..แต่อยากให้คนดูหนังได้คิดว่านี่ไหงผลลัพท์ของความจัดแย้งทางการเมือง...😅😅😅😮
แสดงว่ามีแนวคิดที่ฟลอริด้ากับแคลิฟลอเนียต้องการแยกตัวออกมาปกครองตัวเองใช่ไหมครับ เหตุใดถึงเป็นเช่นนั้นครับ
ตอนจบ เสียงปืนแน่นๆ ผมพอใจแล้ว
สวัสดีครับ😊
พูดถึงคนไทยเข้าใจผิดเกี่ยวกับหนังนี่ขอระบายหน่อยครีบ
ตอนไปดูเจอครอบครัวหนึ่งมานั่งข้างๆ แล้วลูกวัยรุ่นพูดไม่หยุด หัวเราะคิกคักกับฉากที่โคตรจะดาร์คเลย ตัวพ่อก็ไม่หยุดลูกแถมหัวเราะคิกคักตามอีก รู้เลยว่าอยากดูหนังแอคชั่นเบาสมอง พอเห็นแค่ระเบิดในตัวอย่างตู้มเดียวก็มาดูเลย แล้วพอดันไม่ตรงความคาดหวังตัวเองก็ทำตัวไร้วัฒนธรรมทันที ไม่สนุกจะเดินออกไปเลยก็ได้มั้ย หรือไม่อยากออกจากโรงก็หยุดลูกหน่อยก็ได้....
ผมเจอคนข้าง ๆ ทำเสียงเอี๊ดอ๊าดทั้งเรื่อง ไม่แน่ใจว่าบดรองเท้าหรือเสียงเก้าอี้
หนังสร้างให้คนดูมาตีความแนวหนังประกวด ตอนดูจบถึงมาตีความออกที่ ผกก จะสื่อ ทั้งช่วงอายุตัวละครที่แสดงมีความหมายหมด
พี่จีนไม่รีวิว fallout หรอครับ
Civil War The Begin ต้องมาแล้ว
เอาไป6.5พอครับดูมาเมื่อวาน ชอบเพลง ชอบมุมกล้องแต่เนื้อเรื่องไม่เท่าไหร่ครับ
อยากดูอะแต่ไม่มีเวลาเลย หวังว่าจะไม่ออกโรงก่อนนะ
ผมดูแล้วแอบผิดหวัง เพราะหวังกับหนังค่าย A24 ไว้สูงและคิดว่าหนังน่าจะสนุกกว่านี้ การเล่าเรื่องยืดเยื้อมาก มีคำถามในหัวตลอดว่าการรบเกิดจากอะไร แต่ก็มีแง่มุมของหนังที่น่าสนใจหลายอย่างคับ ผมอยากรู้ว่าเวลานักข่าวไปทำข่าวถ่ายภาพต้องอยู่ติดกับทหารแบบนั้นรึป่าวคับ เพราะมันดูเสี่ยงและอันตรายมาก
ผมก็เข้าใจแต่แรกนะว่ามันน่าจะเป็นหนังแนวการเมือง(Political) มากกว่าหนังบู้(Action) ผมอ่านเรื่องย่อก็คิดว่าน่าจะนำเสนอคล้ายเรื่อง The Bang Bang Club หรือเรื่อง 5 Day War ซึ่งเมื่อผมไปดูก็หนังออกไปในแนวทางนั้น #ซึ่งผมชอบนะ 😊😊😊
ผิดหวังครับไม่เหมือนที่คิด😂😢
หนังก็เป็นคอนเท้น มันก็แล้วแต่ว่าจะคลิกใคร แค่ไไม่คลิกผมเท่านั้นเอง
ผมว่า admin เป็นช่องที่วิเคราะห์ได้ตรงใจที่สุด
โดยเฉพาะที่บอกว่าทั่วโลกไม่ได้วิจารณ์ว่าไม่ตรงปก สงครามรบดุเดือดทั้งเรื่อง ไม่เหมือนคนไทย
ผมว่าหนังไม่ได้บอกโต้งๆว่าที่มายังไง ทำไมต้องไม่ยังโง้นยังนี้ แต่ให้เราเข้าใจเอง และคิดเอง
คนไทยเขาขาดทักษะนี้กันเยอะครับ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ
เทสในการเสพสื่อเลยเป็นแบบนี้ รายการที่เขาย่อยมาให้แล้วเลย เรตติ้งดีเป็นพิเศษ อย่างโหนกระแสงี้
ระวังหลับ
ต้นเหตุ เพราะไม่ยอมปล่อยวางอำนาจ
ในหนังเล่าอยู่ว่ายังจะเป็นต่อสมัยที่3
นับเป็นหนัง Road Movie ได้ไหมครับ เหอะๆๆ
ไม่กล้าพูดอะไรแล้วครับ ดูแค่หนังพอความคิดขอเก็บไว้คนเดียวดีกว่า หนักสนุกมากครับ
ผมว่านะจุดที่สื่อว่าหนังเรื่องนี้โดนวิจารณ์หนักในไทยที่ไม่ชอบกัน น่าจะช่วงตั้งแต่กลางจนท้ายแกฉายภาพน้อยไปหน่อยในมุมมองตัวละครควรยิบยกเรื่องราวที่ว่าสงครามประทุขึ้นมาเพื่อ?และแน่นอนว่าประเภทที่ต้องมีใครสักคนพูดมาเนี่ย นั่นคือหลุด คีเวิดสั้น มนุษยวิทยา ผมจะเรียกว่า วัตถจักรซ้ำ ที่หมายถึงสิ่งที่เกิดมาแล้วทั้งหมดของผู้มีอารยธรรมและ แต่สำหรับผมนะหนังสงครามสิ่งที่ขาดคือเจาะลึกรายละเอียดผลกระทบสังคม ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมเป็นอย่างน้อยก็ได้ อย่างชั่งภาพ ลี……เดี๋ยวบางคนบอกว่าเอ้า!ก็ต้นเรื่องไง มันก็ฉายให้เห็นแล้ว ผมหมายความคิดที่พวกเขาจะแอนตี้สงครามด้วยความรู้สึกหลากหลายซึ่งเราไม่ได้เห็นในหนังมากว่าเราเห็นแต่ทหารการรบเท่านั้น
ความเป็นจริง ปธน หนีไปนานแล้วครับ
A24เรื่องนี้ทำดีทำให้เราตั้งคำถามถึงสงครามโดยเฉพาะฉากที่น้องตกลงไปในลุมศพทำให้เห็นครับว่ามีเรื่องเหยียดสีผิวคนดำคนเอเชีย เข้ามาด้วย นักข่าวก็ไม่กลัวเลยเค้ายิงกันก็จะออกไปถ่ายเรื่อยๆ 😂
ผมไม่ได้หวังจะไปดูหนังนักข่าวอ่ะน้า 😢
สงสัยไม่ได้ทำการบ้านเบื้องต้นไปก่อน
แต่หนังไม่ได้แย่นะ ถ้ามีภาคต่อก็คงติดตาม
หนังเรื่องนี้สนุกนะ
ขนาดผมที่ไม่ใช่แฟนหนังแนวนี้ผมยังชอบเลย
จะให้ดีเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น
THE PHOTOGRAPHER :Civil War ดีกว่า
4.0 หนักตกเกรด ส่วนตัวก่อนเข้าโรงพอรู้อยู่เเล้วว่าไม่ใช่หนังสงครามเลยอยากรู้ว่าหนังจะเล่าเรื่องเเบบไหน พอดูเสร็จอะไรวะไม่จับต้นชนปลายเลยไม่อินกับตัวละครในเรื่องชอบตัวเดียวลุงอ้วน ฉากต้นเรื่องยิงกันก็ทำออกมาเหมือนเด็กเล่นกันไม่สมเหตุผล ไม่ผ่านมากหนังเรื่องนี้ 4เต็ม10 คะเเนน4นี้ได้จาก25นาทีสุดท้ายเเค่นั้น จบ
ให้คะแนนเรื่องนี้ไว้ที่ 8.5 😂😮ครับผม
มีสัตว์อยู่ 2 สายพันธุ์ที่ทำสงคราม ทำร้ายกันเอง มนุษย์ แล้วก็ลิงลพบุรี
ฉากบู๊ไม่เยอะ เเต่มาทีค่ดมัน เสียงคือดีย์ เเต่อยากให้เล่าเรื่องมันเกิดสงครามกลางเมืองได้ยังไงมากกว่านี้ เเต่รวมๆ 8/10 หนังมันทำออกมาไม่ใช่ทุกคนที่จะดูได้จิงๆ หนังมันดูยากพอตัว
อยากให้รีบลง netflix เร็วๆ จังครับ อยากเห็นความเห็นของคนในกลุ่มบางกลุ่ม
0/10 แน่นอนคับ คนกลุ่มนั้นมีแต่พวกเห่อหมอ ย
เอะอะจะให้หนังบู๊ ซู้กันๆอย่างเดียวเลยหรอครับ หนังมันก็ต้องมีหลากหลายมุมมองให้เล่าเรื่องได้เเล้วแต่ผู้กำกับเขาอยากเล่าผ่านเรื่องราวไหน อันนี้เขาอยากเล่าผ่านมุมมองของนักข่าว และตัวละครหลักก็เป็นนักข่าวทั้งหมดไม่มีตัวละครหลักที่เป็นทหารเลยสักตัว
ผมว่าหนังที่ไม่ต้องบู๊มันก็สนุกตื่นเต้นได้เหมือนกันนะครับผ่านการเล่าเรื่องที่คมคาย
เห็นด้วยครับอยากให้คนดูคิด สิคิด :) เห็นข้อเสียในมุมตัวเองในแง่ต่างๆ ของสงคราม
เรื่องตีความประธานาธิปดีก็ควรมองไปได้หลายประเทศครับ
เห็นด้วยมากๆเรื่องการเมืองประชานิยม ประเภทรักนักการเมืองยิ่งกว่าแฟนคลับ มีแต่ความเกลียดชังฝ่ายตรงข้าม หวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ในเมืองไทยอีกค่ะ เข็ดขยาดมาก ชอบหนังเรื่องนี้มาก ให้8.5/10
ในช่วงก่อนมีไทยรักไทย การเมืองไม่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แต่คนการเมืองมองว่าอยากจะให้ไทยเป็นการเมือง2ฝ่ายอย่างสหรัฐชัดเจน 4ปีไม่ดีเลือกใหม่ เพราะบ้านเรามีรับประหารตลอดและรับบาลไม่มีเสถียรภาพ ไม่สามารถบริหารประเทศเต็มที่ ผู้กำกับคงไม่เคยเจอสถานการณ์ถ้าการเมืองไม่มีแบ่งฝ่ายแล้วประเทศจะเป็นเช่นไร แต่นักวิชาการรัฐศาสตร์ไปดู Civil War แล้วชอบเขาน่าจะมองในมุมการนำเสนอข่าวอย่างที่นักข่าวควรจะเป็น
หนังนำเสนอบทบาทนักข่าวแค่นั้นเอง ให้ 5.5
หนังที่สะท้อนปัญหาเกี่ยวกับการเมืองการแบ่งพรรคแบ่งฝ่ายที่ต้องใช้การตีความโดยส่วนตัวผมมองว่าคนไทยเข้าใจเรื่องพวกนี้ยากหน่อย ต้นเหตุปัญหาทางการเมืองมาจากสื่อไหม ส่วนหนึ่งก็ใช่ สื่อคือเครื่องมือในการขยายเสียง แต่ปัญหาระดับสังคมหรือระดับประเทศจริงๆมันคือ คนจำนวนมากๆ ต่อให้สื่อจะเสี้ยมแค่ไหนถ้าคนคิดวิเคราะห์แยกแยะเป็นไม่หูเบาไม่เชื่ออะไรง่ายๆก็ไม่โดนหลอก สิ่งที่สะท้อนให้เห็นชัดในหลายๆประเทศที่มีปัญหาการเมืองแบบนี้คือ ผู้คนในประเทศโดนชักจูงจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลได้ง่ายโดยใช้สื่อเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงคนเหล่านั้น อีกสิ่งหนึ่งคือเหมือนจะเป็นสัญชาตญาณที่อยู่ในสายเลือดของโฮโมเซเปียนส์หรือมนุษย์คือ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม การหาจับกลุ่มรวมพรรครวมพวกคือเรื่องปกติ การแบ่งเผ่าแบ่งชนชั้นมีมาตั้งแต่ในอดีตตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม มนุษย์ถูกสอนให้จงรักภักดีต่อกลุ่มตัวเองหรือพวกตัวเอง มันเลยทำให้คนในสังคมปัจจุบันมักจะเล่นพรรคเล่นพวกตัวเอง พวกตัวเองถูก คนอื่นที่ไม่ใช่พวกตัวเองคือผิด โดยไม่สนว่าความจริงฝ่ายใดจะผิดฝ่ายใดจะถูก แค่เป็นฝ่ายตรงข้ามก็ถือว่าเป็นความผิดแล้ว ต่อให้เป็นฝ่ายตัวเองต่อให้ผิดก็ทำเป็นเมินมองข้ามมองไม่เห็น ไม่ใช่ในระดับนักการเมือง คนทำงาน โรงเรียน ออฟฟิศ ทุกสังคมมีแบบนี้เหมือนกันหมด ทุกวันนี้สื่อข่าวแหล่งข้อมูลออนไลน์มีมากมายไม่เหมือนอดีตที่ต้องผ่านหนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ที่อาจโดนควบคุมหรือบิดเบือนได้บ้าง ทุกวันนี้ข่าวจริงข่าวสดมีแบบเรียลไทม์ บางคนดูข่าวสดๆยังไม่เชื่อเลยว่ามันคือความจริงไม่เชื่อว่าพวกตัวเองผิด เพราะปัญหาทุกอย่างมันมาจากตัวบุคคลหลายๆคนที่เป็นแบบนี้มีอยู่เยอะมากในสังคม ต่อให้สื่อจะเสนอความจริง ลากไปดูความจริงสดๆตรงๆมันก็ไม่เชื่อ ชีวิตจริงมันไม่เหมือนตามหนังตามนิยายที่พอตัวละครรู้ความจริงแล้วจะกลับตัวกลับใจ ชีวิตจริงต่อให้รู้ความจริงก็มีแต่ดิ้นแถหาข้ออ้างแก้ตัว จะเห็นได้ชัดๆคือพฤติกรรมที่ถ้าพวกตัวเองผิดทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแต่พออีกฝ่ายผิดออกมาเหยียบซ้ำได้ทีขี่แพะไล่กันเลย
ถ้าพูดถึงโครงสร้างของปัญหาการเมืองการปกครอง จริงๆตัวระบบมันไม่ได้มีปัญหาหรอก แต่มันมีปัญหาที่ตัวบุคคล สมัยก่อนทั่วโลกก็ใช้ระบบปกครองแบบกษัตริย์คือมีศูนย์กลางการปกครองเพียงหนึ่งเดียว ถ้าผู้นำดีประเทศก็เจริญ ถ้าผู้นำไม่ดีประเทศก็ล่ม(ยกตัวอย่าง สมัยตอนเสียกรุงศรีครั้งที่2) ต่อต้านอะไรไม่ได้นอกจากทำสงครามกลางเมืองเพื่อโค่นอำนาจและแย่งชิงอำนาจมา ปัจจุบันจึงไม่ใช้ระบบการปกครองแบบจะมีผู้นำผูกขาด ผู้นำพร้อมเปลี่ยนแปลงตามสมัยเลือกตั้ง ถ้าผู้นำไม่ดีเลือกตั้งครั้งถัดไปประชาชนก็ไม่เลือก เพื่อให้มีผู้นำคนใหม่ที่ดีเข้ามาพัฒนาประเทศ นี่คือการเมืองในอุดมคติตามระบอบการปกครองในปัจจุบันที่ควรจะเป็น แต่ตัวแปรคือผู้คนดันไม่ทำให้เป็นเช่นนั้น ต่อให้ผู้นำไม่ดีแต่เป็นพวกตัวเองเลือกตั้งครั้งถัดไปก็ยังเลือก ไม่มีวันยกอำนาจให้ฝ่ายอื่นเด็ดขาดไม่ว่าความจริงจะผิดจะถูกยังไง พวกตัวเองคือถูกต้องที่สุดเสมอ ถ้าพวกตัวเองไม่ชนะก็ใช้อำนาจอื่นยึดมาให้ได้ซึ่งอำนาจ มีแต่สงครามแย่งผลประโยชน์ของกลุ่มผู้มีอิทธิพล
พูดถึงตัวหนัง เคยเห็นคอมเม้นผ่านๆจริงๆเรื่อง Civil War มันจะอารมณ์คล้ายๆกับ the last of us คือการเดินทางของกลุ่มตัวละครไปพบเจอเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆระหว่างทาง ไม่ได้มีฉากแอ็คชั่นเยอะ เน้นรับเรื่องราวต่างๆและตีความไปกับมัน ตัวหนังจะมีอิทธิพลต่อการเมืองไหม ผมมองว่ามันก็ไม่ขนาดนั้น มันไม่สามารถทำให้คนดูซึมซับถึงขนาดออกมาแล้วจะเปลี่ยนความคิดพร้อมเปลี่ยนแปลงประเทศ มันเลยอยู่ตรงกลางระหว่างจะบันเทิงก็ไม่สุดจะตีความหมายเนื้อหาดีก็มีน้อยไป ถ้าทำเป็นซีรี่ย์แบบ the last of us ไม่แน่อาจจะมีกระแสตอบรับที่ดีกว่านี้ได้เล่าเรื่องราวแต่ละส่วนให้ละเอียดขึ้น อะไรที่ต้องใช้การตีความพยายามเข้าใจสถานการณ์ในเรื่องมันจะยัดรวมมาฉายแบบภาพยนตร์แล้วเข้าใจทั้งหมดน่าจะยาก แล้วคนไทยไม่ค่อยอินกับอะไรแบบนี้เลยไม่ค่อยได้รับความนิยมในไทยเท่าไหร่ ต่างจากอเมริกาการประท้วงการเรียกร้องการแบ่งบันมีหลายระดับตั้งแต่เหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติ เหยียดเพศ รวมไปถึงเหยียดฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ของไทยมีแค่อย่างสุดท้ายอย่างเดียว เหยียดเพศยังพอมีบ้างแต่ไม่เยอะ เหยียดผิวกับเหยียดเชื้อชาติไม่รุนแรงเท่าอเมริกาหรือประเทศฝั่งตะวันตก ความคิดที่ถ้าอยู่ร่วมกันไม่ได้ก็แบ่งแยกไปเลยจึงมีอยู่ทั่วไปในอเมริกา แบ่งโซนแบ่งพื้นที่ ของไทยยังไม่ขนาดนั้น
ตอนแรกผมนึกว่าหนังพยายามจะเล่าว่าชีวิตความเป็นอยู่ของคนทำสื่อในสนามรบในสงครามต้องเดินทางยังไงต้องเอาตัวรอดยังไง ดูเหมือนจะไม่ได้เน้นไปที่เรื่องนี้เยอะเท่าไหร่ หรือเล่าเรื่องจากมุมของสองฝ่ายว่าเป็นยังไง มันก็เหมือนเล่าอยู่ฝ่ายเดียวของตัวละครหลักในเรื่องที่พยายามจะนำเสนอความจริงหรือความเป็นกลางที่ยังไงก็ไม่มีสื่อไหนที่เป็นกลางได้100% ตราบใดที่ยังเป็นมนุษย์ยังเป็นคนมันมีความเอียนเอียงของความรู้สึกภายในจิตใจอยู่บ้าง เจตนาของผู้กำกับถือว่าโอเคนะครับที่จะพยายามสื่อความหมายในเรื่องเหล่านี้แต่ผมแอบรู้สึกว่ามันดันทำให้คนดูเข้าถึงตัวเนื้อหาหรือใจความที่อยากจะสื่อยากไปหน่อย ใครจะดูเน้นดูแบบไม่ต้องคิดอะไรเยอะ ดูเท่าที่ความบันเทิงที่เขาใส่ลงมาให้
พูดถึงหัวข้อ จุดที่คนดูหลงประเด็น อันนี้ผมไม่ได้เข้าข้างฝั่งคนสร้างและฝั่งคนดู วิเคราะห์อย่างเป็นกลาง ถ้าคนดูดูแล้วเข้าใจแบบนั้น นั่นแปลว่าตัวหนังมันทำมาให้เข้าใจแบบนั้น แต่เนื้อหาที่ผู้สร้างอยากจะสื่อให้เข้าใจจริงๆดันอยู่ลึกไปจนคนดูเขาเข้าไม่ถึงเอง ปัญหานี้มันมีอยู่สองอย่างคือ 1.เล่าดีถูกต้องแล้วแต่คนดูเข้าใจอีกอย่างเอง กับ 2.เล่าไม่ดีเองแต่คนดูเขาเข้าใจถูกต้องตามเรื่องที่เล่าแล้ว ปัญหาตรงนี้วัดได้ไม่ยากว่า สุดท้ายคนดูหนังเรื่องนี้ส่วนใหญ่เข้าใจตรงกับผู้สร้างเขาต้องการจะสื่อหรือเปล่า ถ้าส่วนใหญ่ดูแล้วเข้าใจตรงตามนั้นเข้าถึงเนื้อหาที่ต้องการจะสื่อก็จบไม่มีปัญหา ปัญหาคนที่ดูแล้วไม่เข้าใจคือปัญหาส่วนบุคคล แต่ถ้าคนดูส่วนใหญ่เขาเข้าใจอีกอย่างอันนี้ผู้สร้างต้องพิจารณาตัวเองว่าหนังที่สร้างหรือการโปรโมทอาจจะสื่อไปถึงอีกอย่างเองจริงๆ
ถ้าจะให้ตีความหนังว่าพยายามจะสื่อเกี่ยวกับ สื่อข่าวมีอิทธิพลต่อการเมืองยังไงหรือมากน้อยแค่ไหนสื่อคือจุดกำเนิดหรือเริ่มต้นของความแตกแยกทางการเมือง ผมว่าเขาน่าจะเขียนเรื่องออกมาอีกอย่าง ถ้าเป็นผม ผมเป็นคนสร้าง ผมจะเขียนชัดเจนไปเลยว่าเป็นเรื่องราวของ กลุ่มคนทำสื่อ2กลุ่ม ตัวเอกกับตัวร้าย ลงภาคสนามทำข่าวเกี่ยวกับปัญหาการเมืองในพื้นที่หรือสงครามกลางเมืองจริงๆ กลุ่มตัวร้ายอาจทำข่าวเหมือนกันแต่มีการบิดเบือนใส่สีตีไข่แล้วออกอากาศให้คนเข้าใจผิดเหมือนราดน้ำมันในกองไฟเกิดผลกระทบรุนแรงตามมามากมาย กลุ่มตัวเอกที่พยายามวางตัวเป็นกลางจึงต้องพยายามรวบรวมหลักฐานและความจริงต่างๆเพื่อนำเสนอให้คนเข้าใจอย่างถูกต้องไม่ได้ถูกสื่อบางกลุ่มบิดเบือนแล้วแสดงให้เห็นถึงโทษหรือผลกรรมที่กลุ่มตัวร้ายก่อน แบบนี้ผมว่ามันจะดูตอบโจทย์กับเนื้อหาที่พยายามจะบอกว่าสื่อมีอิทธิพลกับการเมือง พอมันเป็นเรื่องการเดินทางการทำภารกิจมันเลยดูไม่เหมือนหนังสงครามกลางเมือง แค่มีฉากหลังหรือเซ็ทติ้งว่ากลุ่มตัวละครนี้เดินทางในช่วงที่เกิดสถานการณ์สงครามกลางเมืองแค่นั้นเอง
พูดถึงหนังเกี่ยวกับสื่อหรือทำข่าวหรือด้านมืดของคนทำข่าวทำให้ผมนึกถึงหนังเรื่อง nightcrawler ที่ เจ็ค กิลเลนฮาล แสดง
การที่ชื่อหนังกับเนื้อหาภายในเรื่องอาจทำให้คนดูบางคนเข้าใจผิด ผมนึกถึงหนังเก่าเรื่องนึง war of the world ที่ทอมครูสแสดง คล้ายๆกันเลย ชื่อหนังนึกว่าจะแบบทำสงครามมันๆดุเดือด กลายเป็นหนังวิ่งหนีเอเลี่ยนบุกโลก อันนี้ก็น่าจะคล้ายๆกัน civil war คนดูบางคนคงนึกว่ามันต้องเป็นหนังสงครามหนังการเมือง แต่ภายในกลายเป็นหนังนักข่าวผจญภัย ผมมองว่าชื่อหนังน่าจะมีอิทธิพลต่อการทำให้คนดูคาดหวังและเข้าใจคนละอย่างกับที่ผู้สร้างต้องการจะสื่อได้เช่นกัน เหมือน annihilation ชื่อเรื่องเกี่ยวกับการทำลายล้าง แต่ข้างในดูแล้วมันทำลายล้างยังไงต้องตีความและทำความเข้าใจเองอีกที
ดูฉากเดียวก็คุ้มแล้วครับอย่าคาดหวังมากนัก
ไม่แบ่งฝ่ายทำได้สิ คุณก็แค่ยืนยันว่าทุกคน ทุกความเชื่อเป็นคนเท่ากัน มีกฎหมายปกป้องเท่ากัน ไม่มีกฎหมายที่ทำให้คนใดคนนึงเป็นอภิสิทธ์ชนวิจารณ์ไม่ได้ ด่าไม่ได้ กฎหมายคุ้มครองกว่าคนอื่น คุณกล้าทำมั้ยหล่ะ ทุกวันนี้ใครเรียกร้องแบบนี้จริงจังก็ติดคุก
เล่าเรื่องประเด็นความแตกแยกในเรื่องเบาบางมาก civil war แต่ความเคลื่อนไหวภาคประชาชนน้อยมาก
คนไทยพอเห็นว่าเป็นหนังสงคราม ก็คิดว่าต้องยิงภูเขาเผากระท่อม
ผิดที่โปรโมทโรงหนังของไทยนี้ละ ไปดูโฆษณาของเพจ โรงหนังต่างๆเถอะ ตัวทำเข้าใจผิดเลย
ไปหาข้อมูลมาจากไหนครับที่เฉพาะคนไทยที่เข้าใจผิด? TH-camr ต่างชาติหลายช่องออกมารีวิวสับเละกันโครมๆตอนนี้
ถ้าพี่จะนับแค่นักวิจารณ์หนังมืออาชีพ ผมว่ายุคนี้อย่าดีกว่าครับ นักวิจารณ์หนังของต่างประเทศยุคนี้ไม่ค่อยซื่อสัตย์เหมือนสมัยก่อนแล้ว โดนพวกสตูดิโอซื้อตัวไปหลายเจ้าแล้ว
จะเอาอะไรกับนักวิจารณ์มืออาชีพที่รีวิว caption marvel ว่าดีกันล่ะ
ขอใครสักคนเอาไอเดียไปทำต่อ รวยไม่รู้เรื่องเลยนะ
รู้ว่า บู๊น้อย
แต่ ขื่อหนัง ทำให้ อด ขาดหวัง ไม่ได้จริงๆ
หนังแทนไม่มี รายละเอียด อะไรเลย
เสียดายชื่อหนัง
การเมืองนี่ เอาแค่ซูเนโอเเกาะเข้าข้างใจแอนท์ตลอดเวลา นี่ก็เป็นการเมืองละ
(คนตอบนี่แหละหลงประเดน หนังแบบไม่มีการเมือง ก็เรียกว่าเป็นหนังการเมือง)
..เรื่องนี้ไม่มี ะไรแบบนั้น ใครทำอะไรที่ไหน อยู่ฝั่งไหน แทบไม่รู้เรื่องเลย จะไปถึงการเมืองยังไง ./ เรื่องนี้เป็นหนังนักข่าว 90% ที่เหลือแค่ภาพประกอบ..
จบได้ดื้อๆมาก ไหนทหารบอกจะเจรจากับปธน.ยิงทิ้งเฉย
และที่มาของความแค้น
มันไม่ใช่หนังการเมืองครับ ไม่ใช่อะ จุดเริ่มต้นถ้าบอกหน่อยว่ามีฝ่ายไหนบ้าง จุดปะทุสงครามจากอะไร ถึงจะเป็นการเมือง แต่นี่มันเป็นหนังผลกระทบจากสงคราม จุดนั้นชัดเจนกว่ามาก
มันเข้าใจยากตรงไหน เค้าเล่าเรื่องนักข่าวสงคราม ไม่ใช่เล่าเรื่องสงคราม 9/10 ครับ หักตอนท้าย ลีไปไหน😅
ไม่การเมืองรึสำหรับผมมันการเมืองชัดๆการแบ่งประเทศมันไม่ใช่ตรงไหน เพียงแค่ไม่ได้โฟกัสที่พวกส.ส. ส.ว. ประธานาธิบดีเหมือนเรื่องอื่นๆ
แบบนี้ฟ้งตัวแทนจัดจำหน่ายกับ สคบ. ได้มั้ย 😂😂😂
ชื่อมั้ง นึกว่าจะแบบ avengers civil war 😂 🤣
สื่อไทย ตอนนี้เอียงค่อนข้างชัดเจนมาก เอาอารมย์ตัวเองลงในข่าวมากจนทุเรศ
"นักการเมือง" คือปัญหาอันดับ 1 ของประเทศไทย และอีกหลายๆประเทศ
ปธน.อยากอยู่ยาวววววววววววววววววว
ผมดูแล้ว ช่วงแรกค่อนข้างน่าเบื่อ แต่ก็ค่อยๆเพิ่มความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนไปพีคสุดตอนท้าย
ความรู้สึกโดยรวมค่อน
ข้างกลางๆ อยากรู้ที่มาที่ไปของสงครามนี้เหมือนกัน แต่ก็เข้าใจได้ว่า Setting เวลาของเหตุการณ์และตัวละครคืออยู่ในช่วงท้ายสงครามแล้ว
รายละเอียดต่างๆที่ใส่ไว้ เหมือนทำออกมาให้คนเมกันที่รู้ดู คนนอกที่ไม่รู้ก็อาจจะไม่เก็ตในตอนแรก ต้องไปหาข้อมูลเพื่มเอง
แต่สำหรับทุนสร้าง 50 ล้านดอล ผมว่ามันดูคุณภาพกว่าหนังทุนสร้าง 200-400+ ล้านดอลของบางค่ายนะครับ 😆
เสียดายที่ตรังไม่เข้า
ผมผิดหวังเพราะมันเหมือนหนังที่ถูกขึ้นมาให้กับคนดูที่ไม่มีประสบการณ์แบบนี้เลยจริงๆเหมือนทำออกมาให้คนหัดดูหนังแนวนี้และความไม่ สมเหตุสมผลหลายเรื่องโดยเฉพาะตอนจบทำให้ผมรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีไม่ได้เลยและมันไม่สามารถเล่าประเด็นอะไรได้ผมคิดว่าถ้าเขาไม่ใช้ชื่ออเมริกาหนังเรื่องคงไม่มีคนดูแน่ๆ
หนังชีวิตของนักข่าวสงครามแต่ ชื่อเรื่องผิด ต้องตั้งชื่อว่า นักข่าว สงครามกลางเมืองอเมริกา
ผมมีคำถามจะถามทุกคนครับถ้าใครรู้แล้วตอบได้จะขอบคุณมากๆครับ คำถามมีสปอยล์
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมสงสัยจุดยืนของทีมนักข่าวในเรื่องอ่ะ ตอนแรกเค้าจะไปสัมภาษณ์ประธานาธิบดี นั่นแปลว่าทีมนักข่าวนี้มีจุดยืนอยู่ฝั่งเดียวกับประธานาธิบดี แต่ทำไมตอนท้ายถึงไปเข้าร่วมกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่กำลังจะไปสังหารประธานาธิบดี แถม1ในทีมนักข่าวที่เป็นผู้ชายยังดูสะใจด้วยซ้ำตอนประธานาธิบดีถูกยิงตาย หรือผมพลาดอะไรไป
ส่วนตัวไม่รู้สีกว่าพวกนักข่าวจะอยู่ฝ่ายเดียวกับประธานาธิบดีเลยค่ะ ดูตั้งใจจะไปทำข่าวเพื่อเปิดเผยความจริงของประธานาธิบดีมากกว่าค่ะ เรียกว่าไปแฉก็ได้
@@salineekhemcharas4907 แสดงว่าในเรื่อง ประธานาธิบดีคือต้นเหตุของสงครามหรอครับ
ส่วนตัวผมคิดว่าไม่มีจุดยืนอะไรทั้งนั้นครับ ความเป็นความตายของกองกำลังฝ่ายไหนไม่สนใจให้แต่ได้ข่าวและคิดว่าคงชินกับเหตุการณ์ประมาณนี้พอสมควรจากซีนหัวเราะหลังจากจบงานและสะดุ้งนิดหน่อยตอนเอาผ้าคลุมหัว ตัวละครหลักแค่อยากสัมภาษณ์ประธานาธิบดีที่สื่อที่ไม่ใช่รัฐบาลไม่เคยสัมภาษณ์มานานตั้ง 14 เดือน เลยถ่อไปถึง DC เพื่อให้ได้ข่าว ใช้สิทธิ์การเป็นนักข่าวเข้าไปถ่ายเหตุการณ์ต่างๆ ทำข่าว หาข่าว ยิ่งซีนท้ายชัดมากต้องการคำพูดพาดหัวข่าวแค่นั้นแหละ
ดูแล้วครับ หนังมีบทพูดมากเกินไป และเดืนทางมากเกินไป ฉากยิงกันแบบระเบิดภูเขา เผากระท่อม มีน้อย สรุปไม่มันส์เหมือนที่หนังโปรโมต
>>ไม่สนุกอ้ะ ไม่มีที่มาที่ไป ต้นสายปลายเหตุ ไม่ได้หวังบทบู๊ ฉากแอคชั่นมันส์ๆ แต่หวังว่าจะเล่าถึงต้นเหตุแห่งสงคราม พล็อตเรื่องที่ขมวดปมใว้ แต่ผิดหวัง ดูไปหลับไป เอาไปแค่ 5.5/10 พอ 😒
ถ้าหนังที่เกี่ยวกับนักข่าว ผมชอบ The Spotlight คนข่าวคลั่ง 8.5/10 เลยเรื่องนี้ ที่มีครบ การสืบเสาะ เจาะลึก ค้นหาความจริงมาตีแผ่ให้สังคมรับรู้ นักแสดงก็ดี ไมเคิล คีตัน มาร์ก รัฟฟาโล ราเชล แม็คอดัม เนื้อเรื่องดีเลย เข้มข้น น่าติดตาม มีการทดสอบจิตใจว่า ความเชื่อความศรัทธาในคริสต์จักรนั้น จะมามีอิทธิพลอยู่เหนือความถูกต้อง เหนือกฏหมาย เหนือศีลธรรมได้หรือไม่??? 💯❤️🤟
แล้วทำไมภาพโฆษณาภาพยนต์ จึงทำออกมาเหมือนเป็นหนังสงครามแบบมหึมา...เหมือนหลอกคนดู
ดูแบบไม่เดา ไม่คาดหวังสนุกกว่า ทราบข้อมูลนิดหน่อยพอ คนดูคนไทยสมองเป็นเส้นตรงเกินไป ติดอยู่กับเรื่องแนวเดิมๆซื่อๆ
มีสัตว์อยู่ 2 สายพันธุ์ที่ทำสงคราม ทำร้ายกันเอง มนุษย์ แล้วก็ลิงลพบุรี
ไปดูมาแล้วครับ มันไม่ใช่หนังสงครามนบกัน แต่เป็นหนังการเดินทางของนักข่าวและการเอาตัวรอดจากเหตุวุ่นวายครับ
ไม่เเตกเเยกมีประเทศเดียวมั้งครับ เกาหลีเหนือ😂
ฉากทหารใส่แว่นแดง ภาพแท็กซี่ถามลอยมาเลย😂
เรื่องเดียวที่ดูแล้วไม่ชอบคือ
ใช้กล้องฟิมล์
ปกติยังหายาก แล้ว ภาวะสงคคามหาได้ไง
ดูไม่สมจริง สมเหตุสมพลเลย กล้องฟิล์มมันจะทันกินทันเหตุได้ยังไง? ถ่ายกลางคืนแสงน้อย, โฟกัส, มันบ่อได้
สงสัยคนไทยจะคาดหวังว่าจะเหมือน olympus has fallen หรือแม้กระทั่งเรื่อง White House Down
ทั้ง2เรื่องเกี่ยวกับผู้ก่อการร้ายึดทำเนียบขาวเพื่อสร้างสงครามโลกครั้งที่3ตัวเอกที่ทำงานทำเนียบขาวต้องหยุดยั้งไม่ให้แผนสำเสร็จ
สำหรับผม...สื่อนัยยะทางการเมืองอ่ะใช่ เเต่หนังการเมืองอ่ะ ไม่ใช่
สวัสดีครับ😊
คือบ้านเรา รอบสื่อ ให้คนที่ชอบแต่งตัวคล้ายทหาร มาเป็นมาสคอตเลยอะ แล้วนึกภาพดูสิ หนังเรื่องนี้พูดถึงสงครามกลางเมือง + มีมาสคอตทหาร แล้วในเรื่อง เล่าผ่านนักข่าว แล้วก็แถบจะเป็นงั้นทั้งเรื่อง ฉากบู้มีแค่ ท้ายเรื่องเท่านั้นเอง คนไทยจะไม่เข้าใจผิดได้ไง
ผมว่ามีการหวังผลที่ให้คนเข้าไปดู ครึ่งหนึ่งตั้งแต่ตัวอย่าง กับ ชื่อเรื่อง ทำไมไม่งั้น ตั้ง press civil war เข้าไปด้วยสิ เหมือนไม่ตั้งปก จะตั้งชื่อว่าสื่อมวลชนสงคราม ก็ว่ากันไป
อเล็กซ์ บอกว่าสื่อไม่เลือกข้าง แต่ในหนัง สื่อทำข่าว ถ่ายภาพอยู่ฝั่งกองกำลังตะวันตกตลอดเลย ส่วนเรื่องการเมืองเนี่ยไม่ได้ไปแตะมิติปรัชญาทางการเมืองเลย ส่วนตัวไม่มีปัญหากับการฉายภาพสงครามในมุมช่างภาพ นักข่าว แต่ปัญหาเรื่องนี้คือเหมือนไปดูเด็กเบียวถ่ายรูปเล่น มากกว่ารายละเอียดความเป็นมืออาชีพและไม่เป็นมืออาชีพอ่ะครับ
ก็ถูกของแกนี่ครับ ในหนังเรายังไม่เห็นบทความหรือแนวทางที่จะสื่ออกมาเลย เห็นแค่ไปถ่ายรูปในฝั่งกองกำลังตะวันตกก็ไม่ได้หมายความเข้าข้างนี่ครับ ถูกผิดเหมาะสมนักข่าวไม่ได้ชี้นำด้วยซ้ำ เขาต้องการแค่ทำข่าวดูจากซีนสุดท้ายที่ขอคำพาดหัว ต้องการแค่นั้น
ในหนังก็สื่ออยู่ตรงๆนะครับ ว่าที่สื่ออยู่ฝั่งตะวันตกก็เพราะว่าฝั่งตะวันออกเล่นทำทุกอย่างเป็นความลับไปหมด อ้างเพื่อความมั่นคง ความลับราชการ บลาๆๆ จนสื่อไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข้อเท็จจริงได้นอกจากสิ่งที่ออกแถลงผ่านทีวี นักข่าวอยากได้ข่าวก็ต้องให้กองทัพอีกฝั่งพาเข้าไปเท่านั้น ในขณะที่ฝั่งตะวันตกนั้น เป็นกันเองกว่ามาก กินเบียร์ สูบบุหรี่ ปาร์ตี้ด้วยกันได้ สื่ออยากทำอะไรก็ทำเลย อำนวยความสะดวกให้พร้อม หนังมันแค่จะสื่อว่า การเมืองฝั่งไหนที่ยึดโยงกับประชาชน และมีความโปร่งใส ไม่ปิดกั้นสื่อ มักจะชนะใจประชาชน และได้รับการสนับสนุนจากประชาชนจนได้เป็นผู้ชนะที่แท้จริงของสงครามเสมอ
มันแถไปเรื่อย ผมว่างบไม่พอทำเสกลใหญ่มากกว่า เอาชื่อ civil war มาหลอกคน
@@krittapobsupaphisut4401 ถ้าเป็นงั้นก็แสดงว่าเลือกข้างแล้วครับ แต่ผู้กำกับบอกว่าไม่เลือกข้าง แต่ไม่เป็นไร ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นผมคือมันรู้สึกไม่อินกับความรู้สึกนักข่าวอ่ะ นี่แบบว่าได้เรื่องเทคนิคภาพสวย มิติเสียงดีมาช่วยนะครับเลยคะแนนไม่ต่ำมาก สำหรับส่วนตัว
@@idplaylol4652 เหมือนหนังไม่ได้ทำไรเลยครับ นอกจากโชว์ล้างฟิล์ม 55555
คนแรก
จะไปดูวันนี้ครับ