ประสบการณ์ของครูบาทุย มัคคสิทธิฌาน 04/06/67

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 12 พ.ย. 2024

ความคิดเห็น • 17

  • @นิษฐานันตา
    @นิษฐานันตา 5 หลายเดือนก่อน

    กราบนมัสการครูบาสาธุสาธุ🙏🙏

  • @ขวัญใจไทยสยาม
    @ขวัญใจไทยสยาม 5 หลายเดือนก่อน

    นมัสการเจ้าค่ะ

  • @อัจฉราเภาเจริญ-ต7ผ
    @อัจฉราเภาเจริญ-ต7ผ 5 หลายเดือนก่อน

    อนุโมทนาสาธุค่ะ

  • @แซมซั่นเด็กบ้านนา
    @แซมซั่นเด็กบ้านนา 5 หลายเดือนก่อน

    กราบสาธุครับ❤🙏🙏🙏

  • @Sittichok-ko9sg
    @Sittichok-ko9sg 5 หลายเดือนก่อน

    สาธุสาธุครับครูบา❤❤❤❤

  • @SarojYodying
    @SarojYodying 5 หลายเดือนก่อน

    กราบครูบาทุย

  • @ไพรวันแทรช-ฐ7ฑ
    @ไพรวันแทรช-ฐ7ฑ 5 หลายเดือนก่อน

    ❤สาธุสาธุ

  • @Sittichok-ko9sg
    @Sittichok-ko9sg 5 หลายเดือนก่อน

    สาธุสาธุครับครูบา❤❤❤❤

  • @ชัยพิสิฐขําเขียน-ฃ1ษ
    @ชัยพิสิฐขําเขียน-ฃ1ษ 5 หลายเดือนก่อน

    กราบสาธุๆๆครับ

  • @MrThai2fun
    @MrThai2fun 5 หลายเดือนก่อน +1

    พรหมจรรย์นี้ อันบุคคลย่อมประพฤติ เพื่อการละขาดซึ่งภพ
    สัตว์โลกนี้ เกิดความเดือดร้อนแล้ว มีผัสสะบังหน้า
    ย่อมกล่าวซึ่งโรค (ความเสียดแทง) นั้น โดยความเป็นตัวเป็นตน
    เขาสำคัญสิ่งใด โดยความเป็นประการใด แต่สิ่งนั้นย่อมเป็น (ตามที่เป็นจริง)
    โดยประการอื่นจากที่เขาสำคัญนั้น สัตว์โลกติดข้องอยู่ในภพ ถูกภพบังหน้าแล้ว
    มีภพโดยความเป็นอย่างอื่น (จากที่มันเป็นอยู่จริง) จึงได้เพลิดเพลินยิ่งนักในภพนั้น.
    เขาเพลิดเพลินยิ่งนักในสิ่งใด สิ่งนั้นเป็นภัย (ที่เขาไม่รู้จัก) :
    เขากลัวต่อสิ่งใด สิ่งนั้นก็เป็นทุกข์.
    พรหมจรรย์นี้ อันบุคคลย่อมประพฤติ ก็เพื่อการละขาดซึ่งภพ.
    สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด กล่าวความหลุดพ้นจากภพว่ามีได้เพราะภพ ;
    เรากล่าวว่า สมณะหรือพราหมณ์ทั้งปวงนั้น มิใช่ผู้หลุดพ้นจากภพ.
    ถึงแม้สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด กล่าวความออกไปได้จากภพว่า มีได้เพราะวิภพ (ไม่มีภพ) :
    เรากล่าวว่า สมณะหรือพราหมณ์ทั้งปวงนั้น ก็ยังสลัดภพออกไปไม่ได้.
    ก็ทุกข์นี้มีขึ้น เพราะอาศัยซึ่งอุปธิทั้งปวง.
    เพราะความสิ้นไปแห่งอุปาทานทั้งปวง ความเกิดขึ้นแห่งทุกข์จึงไม่มี.
    ท่านจงดูโลกนี้เถิด (จะเห็นว่า) สัตว์ทั้งหลายอัน
    อวิชชา (ความไม่รู้) หนาแน่นบังหนาแล้ว ;
    และว่าสัตว์ผู้ยินดีในภพอันเป็นแล้วนั้น ย่อมไม่เป็นผู้หลุดพ้นไป
    จากภพได้ ก็ภพทั้งหลายเหล่าหนึ่งเหล่าใด อันเป็นไปในที่หรือในเวลาทั้งปวง
    เพื่อความมีแห่งประโยชน์โดยประการทั้งปวง ;
    ภพทั้งหลายทั้งหมดนั้น ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา.
    เมื่อบุคคลเห็นอยู่ซึ่งข้อนั้น ด้วยปัญญาอันชอบตามที่เป็นจริงอย่างนี้อยู่ ;
    เขาย่อมละภวตัณหา(ความอยากมีอยากเป็น)ได้
    และไม่เพลิดเพลินวิภวตัณหา(ความไม่อยาก) ด้วย.
    ความดับเพราะความสำรอกไม่เหลือ (แห่งภพทั้งหลาย)
    เพราะความสิ้นไปแห่งตัณหาโดยประการทั้งปวง นั้นคือนิพพาน.
    ภพใหม่ย่อมไม่มีแก่ภิกษุนั้น ผู้ดับเย็นสนิทแล้วเพราะไม่มีความยึดมั่น.
    ภิกษุนั้น เป็นผู้ครอบงำมารได้แล้ว ชนะสงครามแล้ว
    ก้าวล่วงภพทั้งหลายทั้งปวงได้แล้วเป็นผู้คงที่ (คือไม่เปลี่ยนแปลงอีกต่อไป), ดังนี้ แล.
    อุ.ขุ. ๒๕ / ๑๒๑ / ๘๔.

  • @Naynay11-sk1qn
    @Naynay11-sk1qn 5 หลายเดือนก่อน

    สงสารธรรมยุตจริงๆทุยเอ้ย

  • @oppojoy7028
    @oppojoy7028 4 หลายเดือนก่อน

    จิตท่านไม่ปล่อยบารมีต่างๆก็คุ้มครองไม่ได้ ด้วยประการฉะนี้เอวัง

  • @taxifreeman
    @taxifreeman 5 หลายเดือนก่อน +1

    05:20

  • @แขกโฟน-ง3ฌ
    @แขกโฟน-ง3ฌ 5 หลายเดือนก่อน

    นมัสการครูบาทุยผมเคยมีประสบการณ์แบบท่านบรรยายยังรู้สึกใจหายทุกครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์นั้นๆขอบพระคุณมากๆครับ

  • @วสุกาญจน์วิหครัตน์
    @วสุกาญจน์วิหครัตน์ 5 หลายเดือนก่อน

    น้อมกราบนมัสการครูบาเจ้าค่ะขอน้อมกราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻

  • @taxifreeman
    @taxifreeman 5 หลายเดือนก่อน

    05:20