เทคนิคทางลัด ผู้เริ่มต้นฝึก *ผู้รู้* ภายใน 7 วัน เกิดปัญญาญาณ มีดวงตาเห็นธรรม ฝึก *รู้ภายในภายนอก*

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 12 เม.ย. 2024
  • คลิปนี้ จัดทำขึ้นโดยไม่ได้ตัดต่อ มีเนื้อหาบางส่วน พูดผิด คำพูดภาษาเป็นเพียงการสื่อสาร สมมุติ เท่านั้น ให้เพื่อนๆ ผู้ฟังมุ่นเน้น เจตนาการแบ่งปัน *เพื่อนำไปทดลองฝึกปฏิบัติ*
    การฝึกพิจารณาสภาวธรรมภายใน-ภายนอก เริ่มต้นเราจะต้องเห็นจิตแล้วเท่านั้น จิต คือ ผู้รู้ หรือจะเรียกว่า ใจ ที่รู้ภายใน ซึ่งหากเรายังไม่รู้สภาว ผู้รู้ เป็นแบบไหนก็ยากที่จะฝึก (ข้อความนี้มาจากครูบาอาจารย์)
    ฉะนั้น การเริ่มต้นฝึกเราต้องรู้ฐานของใจ คือ ผู้รู้ ผู้เห็น ฐานใจหรือจิตนี้ จะทำให้เราเห็นสภาวธรรมทั้งภายในภายนอกได้ชัดเจน (ฐานจิต หรือใจ เป็นเพียงชื่อสมมุติ ให้เราดูจากสภาวภายใน เนื่องจากชื่อเรียกไม่ว่าจะใช้ชื่ออะไรก็ตาม เป็นเพียงการสมมุติเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้ว จิตก็ดี ใจก็ดีเป็นเพียงสภาวะภายในต้องอาศัยการปฏิบัติเห็นแจ้งด้วยตนเองเท่านั้น)
    การฝึกครูบาอาจารย์จึงมุ่นเน้นให้ *เริ่มฝึกสติก่อน** เพื่อให้ *เห็นฐานของจิตหรือใจ* คือ ผู้รู้ ผู้เห็น ซึ่งเป็นส่วนที่รับรู้กิริยาอาการสภาวะต่างๆ หรือเป็นส่วนที่ รู้ ที่เราเรียกว่า ผู้รู้ เป็นการรู้สึกอยู่ภายใน
    หากเราเริ่มฝึกตรงนี้ การพัฒนาจิตจะไปอย่างรวดเร็วเป็นเรื่องภายใน มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น จะรู้เฉพาะตน
    สรุปแล้ว การฝึกจิต จุดเริ่มต้น คือ จะต้องเห็นจิตแท้ หรือ ธาตุรู้ ที่เราเรียกว่า "ผู้รู้" เพราะจิตที่รู้จะนำพาให้เราเห็นรูป และนามที่ชัด แยกธาตุแยกขันธ์ได้ สรุปตามแนวคำสอนของครูบาจารย์ท่านได้สอนไว้ ฐีติจิต ฐีติภูตัง จิตเดิมแท้
    จิตเดิมแท้และจิตสุดท้าย วันที่ตรัสรู้แล้ว พระพุทธองค์ทรงตรวจดูความเป็นมาของสิ่งทั้งปวง และทบทวนวิมุตติธรรม ทรงเห็นแจ้งว่า ดังนี้
    เพราะอวิชชามี จึงมีสังขาร (การปรุงแต่งทั้งปวง)
    เพราะสังขารมี จึงมีวิญญาณ (ธาตุรู้)
    เพราะวิญญาณมี จึงมีนามรูป (ใจกาย)
    เพราะนามรูปมี จึงมีสฬายตนะ (ระบบประสาทและมนัสรับรู้)
    เพราะสฬายตนะมี จึงมีผัสสะ (การกระทบกับสสารพลังงาน)
    เพราะผัสสะมี จึงมีเวทนา (ความรู้สึก)
    เพราะเวทนามี จึงมีตัณหา (ความอยากความไม่อยาก)
    เพราะตัณหามี จึงมีอุปาทาน (การยึดถือ)
    เพราะอุปาทานมี จึงมีภพ (ความเป็นแบบต่าง ๆ)
    เพราะภพมี จึงมีชาติ (การอุบัติในความเป็นต่าง ๆ)
    เพราะชาติมี จึงมีชรามรณะ (ความเสื่อมความสลาย)
    เพราะชรามรณะมี จึงมีทุกข์ (ความทนได้ยาก) โทมนัส (ความเสียใจ) โสกะ (ความแห้งใจ) ปริเทวะ (ความร่ำไรรำพัน)
    เป็นอันว่า ทุกข์ทั้งปวงย่อมเกิดขึ้นเพราะกลไกการทำงานของอวิชชาตามกระบวนการนี้ (ปฏิจจสมุปบาทสายเกิด)
    เมื่อจะดับทุกข์ ก็ดับที่อวิชชาตัวต้นเหตุดั้งเดิม
    เพราะอวิชชาดับ สังขาร (การปรุงแต่งทั้งปวง) จึงดับ
    เพราะสังขารดับ วิญญาณ (ธาตุรู้) จึงดับ
    เพราะวิญญาณดับ นามรูป (ใจกาย) จึงดับ
    เพราะนามรูปดับ สฬายตนะ (ระบบประสาทและมนัสรับรู้) จึงดับ
    เพราะสฬายตนะดับ ผัสสะ (การกระทบกับสสารพลังงาน) จึงดับ
    เพราะผัสสะดับ เวทนา (ความรู้สึก) จึงดับ
    เพราะเวทนาดับ ตัณหา (ความอยากความไม่อยาก) จึงดับ
    เพราะตัณหาดับ อุปาทาน (การยึดถือ) จึงดับ
    เพราะอุปาทานดับ ภพ (ความเป็นแบบต่าง ๆ) จึงดับ
    เพราะภพดับ ชาติ (การอุบัติในความเป็นต่าง ๆ) จึงดับ
    เพราะชาติดับ ชรามรณะ (ความเสื่อมความสลาย) จึงดับ
    เพราะชรามรณะดับ ทุกข์ (ความทนได้ยาก) โทมนัส (ความเสียใจ) โสกะ (ความแห้งใจ) ปริเทวะ (ความร่ำไรรำพัน) จึงดับ
    เป็นอันว่า ทุกข์ทั้งปวงย่อมดับเพราะการดับอวิชชา (ปฏิจจสมุปบาทสายดับ)
    เมื่อดับอวิชชาขาดสูญ เรียกว่าวิมุตติ (หลุดพ้นจากอวิชชาและทุกข์ทั้งปวง)
    เมื่อวิมุตติแล้วจึงพบพุทธะ (รู้ตื่นเบิกบาน ณ อมตธาตุ) สภาวะใหม่ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน
    เป็นอันว่า
    จิตเดิมแท้ คือ อวิชชา
    จิตสุดท้าย คือ พุทธะ
    แต่หลายคนที่ยังปฏิบัติไม่สุด พอสำรวมอายตนะดี กลับไปที่ใจได้ ก็จะพบพลังและรู้มากมาย จึงเข้าใจผิดว่านั่นคือพุทธะ ยังไม่ใช่ นั่นเป็นเพียงนามแห่งดวงใจ
    ต้องทะลุใจไปอีก จึงพบวิญญาณธาตุแสงยิบรู้อยู่
    ทะลุวิญญาณไปอีก จึงพบสังขารกลไกการประกอบกัน
    ทะลุการปรุงประกอบทั้งหมดไปอีก จึงพบอวิชชา
    ทะลุ สลาย ดับอวิชชาไปอีก จึงพบพุทธะ
    พุทธะคือสภาวะอมตะ ที่ไม่แปรปรวน หลุดพ้นถาวร บรมสุขในบรมว่างนิรันดร
    หยุดคิด แล้วปฏิบัติให้สุด
    เมื่อพบของจริงแล้ว ความสงสัยทั้งปวงจะหายไปสิ้น
    ที่มาแหล่งข้อมูลข้อความ ธรรมกระจ่าง อาจารย์ไชย ณ พล

ความคิดเห็น • 13

  • @user-dw4jy7ge7d
    @user-dw4jy7ge7d หลายเดือนก่อน +1

    อธิบายเข้าถึงใจมากคับอาจารย์

    • @Ami.Amornrat.psychologistTV
      @Ami.Amornrat.psychologistTV  หลายเดือนก่อน

      ขอบคุณสำหรับการแสดงความคิดเห็นคะ คลิปนี้ไม่ได้ตีดต่อ จะมีคำพูดผิดหลายคำคะ

  • @nunvaananun9038
    @nunvaananun9038 หลายเดือนก่อน +1

    ขอบคุณครับ​ สาธุๆๆ

    • @Ami.Amornrat.psychologistTV
      @Ami.Amornrat.psychologistTV  หลายเดือนก่อน

      ขอบคุณสำหรับการแสดงความคิดเห็นคะ

  • @user-qd3ru4eh2k
    @user-qd3ru4eh2k หลายเดือนก่อน +1

    ถ้าท่านมองเห็นความคิดของตัวเองก็ดีมากเลยครับ ลองเช็ค9ข้ออรหันต์ดูครับขาดข้อไหนรึเปล่าครับ ถ้าครบแล้วทำไปเรื่อยๆครับ ท่านจะพบสภาวะ แล้วค่อยมาตอบผมครับ ว่า เรือเมื่อข้ามแม่น้ำแล้วเราไม่จำเป็นต้องแบกมันไว้ หมายความว่าอย่างไรคะรับ

    • @Ami.Amornrat.psychologistTV
      @Ami.Amornrat.psychologistTV  หลายเดือนก่อน

      ขอบคุณสำหรับการแสดงความคิดเห็นคะ

  • @B.Thaichef
    @B.Thaichef หลายเดือนก่อน +1

    คนทุกวันนี้เก่งจัง เก่งกว่าคนสมัยก่อนมากมายมหาศาล คนสมัยก่อนใช้ความเพียรอย่างมากถึงมากที่สุด กว่าจะหยุด หรือจะสำรอก หรือกะเทาะกิเลศออกได้...ไม่ใช้ความมโนเหมือนคนทุกวันนี้..ดูนอกคือดูอะไร ไหนเล่ามาสิ ? แล้วดูในคือให้ดูอะไร ? ตูฟังมาเกือบจะจบคลิปยังไม่เข้าใจเลยว่าให้ดูอะไร..

    • @Ami.Amornrat.psychologistTV
      @Ami.Amornrat.psychologistTV  หลายเดือนก่อน

      ขอบคุณสำหรับการแสดงความคิดเห็นคะ

    • @Ami.Amornrat.psychologistTV
      @Ami.Amornrat.psychologistTV  หลายเดือนก่อน

      ขอบคุณสำหรับการแสดงความคิดเห็นคะ

  • @user-dw4jy7ge7d
    @user-dw4jy7ge7d หลายเดือนก่อน +1

    โมหะโทสะโลภะไม่ใช่โลหะคับอาจารย์

    • @Ami.Amornrat.psychologistTV
      @Ami.Amornrat.psychologistTV  หลายเดือนก่อน

      สวัสดีคะ ขอบคุณสำหรับการแสดงความคิดเห็น
      ขณะที่บันทึกพูดผิด แต่ไม่ได้แก้ไขตัดต่อคลิป ลงแบบนี้คะ อยากจะเห็นการแสดงความคิดเห็นคะ

  • @user-qd3ru4eh2k
    @user-qd3ru4eh2k หลายเดือนก่อน +1

    9ข้ออรหันต์ 1. เชื่อในการกระทำความดี ละเว้นความชั่วทั้งปวง คิดดี ทำดี พูดดี 2.ศีล๕ เว้นฆ่าสัตว์เว้นลักทรัพย์เว้นประพฤติผิดในกามเว้นการพูดปดเว้นดื่มสุราและสิ่งเสพติดทั้งหมด 3 พิจารณาความคิดที่เกิดขึ้นด้วยเหตุและผล 4. มีสติอยู่กับปัจจุบันที่กำลังกระทำอยู่ 5. ห้ามโกรธ 6. ห้ามพยาบาทแค้นเคืองให้อภัยและเมตตา 7. ตัดห่วงในชีวิตทั้งหมดถ้าตายตอนนี้ตั้งใจไปนิพพาน 8. ห้ามมีเพศสัมพันธ์ ระงับด้วยปัญญา 9. ทุกอย่างเป็นธรรมดา เฉยๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป สุขทุกข์ ยินดีเสียใจ พอใจไม่พอใจ อารมณ์ต่างๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วก็ผ่านไป สุดท้ายก็ เฉยๆ
    ตรวจสอบตัวท่านเองว่ามีครบรึยังครับ ถ้ามีอยู่แล้วแล้วปฏิบัติครบ ท่านจะพบสภาวะที่คิดอย่างไรก็ไม่ทุกข์ สุขภาพท่านจะแข็งแรงท่านจะไม่มีความเครียด ท่านจะอยู่กับปัจจุบัน

    • @Ami.Amornrat.psychologistTV
      @Ami.Amornrat.psychologistTV  หลายเดือนก่อน

      ขอบคุณสำหรับการแสดงความคิดเห็นคะ