ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
โห ชอบคำถามที่ถามกันมาก ดูใส่ความคิดสร้างสรรค์กันสุดๆ
หลักการพอเข้าใจ แต่การอธิบาย แบบงงๆ ติดๆคัดๆ
กดแล้ว
สัมนาวิชาการสนุกมาก! อะไรกันครับเนี้ย
ไอสไตน์ก็พยายามจนสิ้นชีวิตครับ
ทีมงานอาจารย์เก่งและอารมณ์ขัน..มหิดล น่าเรียนครับ
ผมว่าเป็นแนวทางด้านความคิดที่เราค้นหาใฝ่รู้จากการอ่านและศึกษาที่จะรวมความคิดกันได้เพื่อนำไปสู่แนวคิดใหม่ๆร่วมกันสร้างต่อๆไป
ขอบคุณครับที่ยังทำไห้เราที่ไม่ได้ศึกษามหาลัยเรายังได้รับชมท่านได้รับข้อมูลขอบคุณครับ
คลื่นความโน้มถ่วง____________________________________*/ดั้นเจี้ยน/คลื่นความโน้มถ่วง*...//....//....____________________________________*/หลั้กฐาน/คลื่นความโน้มถ่วง 4385 แท่ม**/เอ่กส่าร/คลื่นความโน้มถ่วง 248 ใบเบิ้ล**/หนั่งสือ/คลื่นความโน้มถ่วง 8 เล่ม*
สมาคํม____________________________________*/ดั้นเจี้ยน/สมาคํม*...//....//....//....____________________________________*/หลั้กฐาน/สมาคํม 4538641 แท่ม**/เอ่กส่าร/สมาคํม 6584 ใบเบิ้ล**/หนั่งสือ/สมาคํม 3542 เล่ม*
ฮาอาจารย์ ฟังไม่น่าเบื่อเลยค่ะ
เยี่ยมยอด เยี่ยมยอดจริงๆ ครับ
ฟังกี่ครั้งก็ไม่เข้าใจ แต่ชอบฟังมากเรื่องพวกนี้
มวลทั้งสองเท่ากันครับ มวลไดๆก็คือมวล อิๆ
ในอนาคต คลื่นความโน้มถ่วง เนีย เอามาทำอะไรได้บาง ให้เกิดประโยชน์กับโลกเรา รอดู
มาจากอนาคต มาอธิบายเรื่องรูหนอน
คลื่นแบ่งออกเป็น 3สมมุติฐานคือ:-1. คลื่นความโน้มถ่วงเกิดจากธรรมชาติของมวลหมุนรอบตัวเอง2. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเกิดจากประจุไฟฟ้าหรือ Electron & Proton3. คลื่นจิตและเจตสิกเกิดจาก Potential Quantum ซึ่งเป็นผลจากข้อมูลความเป็นจริงของจิตสำนึก4.
จะหาคลิปเสวนาทางฟิสิกสนุกๆแบบนี้อีกที่ไหนได้ครับ จะเอาไว้ปลูกฝังลูกแต่เยาว์วัย ดีกว่าให้ดูละครตบตีแย่ง ผช กับข่าวฆ่ากันที่ทางบ้านเมียบังคับให้ลูกผมดู
🙏🙏🙏 ผิดพลาดประการใดใดขออภัยน้ะคับ 🙏🙏🙏
คือมันยังไงครับ แค่พิสูจน์ได้ว่ามีอยู่จริง หรือ ค้นพบแล้วจะเอาไปทำอะไรต่อ
+JuninhoP19 เอาไปค้นหาสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นได้ครับ กล่าวง่ายๆปกติเราสามารถวิเคราะห์ดาราศาสตร์ได้จากแสงที่ดาวฤกษ์ปล่อยออกมา แสงถูดบดบังก็จะไม่สามารถมองเห็น แต่ต่อไปนี้เราจะศึกษาได้จากคลื่นแรงโน้มถ่วง ( จินตนาการคลื่นน้ำ)สิ่งหลักๆคือ สามารถวิเคราะห์การเกิด big bang ครั้งใหญ่ได้ครับอ่อแสงที่มองเห็น ถ้าจำไม่ผิดได้แค่ 3 ล้านล้านปีแสงครับ ถ้านานกว่าจะนั้นไจะไม่เห็นแสง ประมาณนี้บลาๆ มีอีกเยอะแยะครับ
JuninhoP19 อาจารเขาบอกนี่ครับว่า ทำอะไรต่อได้
ผมจินตนาการว่าแรงโน้มถ่วงอาจจะเป็นผลของการบีบอัดจากบางสิ่งก็ได้ครับ เหมือนเวลาเราดึงผืนผ้าให้ยืดออกก็จะมีแรงบีบอัดระหว่างช่องของเส้นด้าย ทีนี้สสารหรือก๊าซต่างๆก็ถูกบีบอัดรวมจนเป็นดวงดาว แล้วช่องว่างในกาลอวกาศก็จะเป็นตัวกำหนดว่าดาวดวงใหนจะมีมวลมากน้อยตามขนาดของช่องว่างในกาลอวกาศ ถ้าช่องนี้มีขนาดใหญ่ก็ทำให้มีสสารเข้าไปรวมมากขึ้น อันนี้ผมจินตนาการเอานะครับ
อยากได้หนังสือ!!
คลื่นเเรงโน้มถ่วงผมว่าเกิดจากคลื่นกระเเทรกเเรงดึงดูดจิตนาการเเบบง่ายๆเวลาผู้หญิงเล่นฮูร่าฮูบ ถ้าจะหาคลื่นนีมันน่าเกิดตรงจุดศูนษ์กลางระหว่างกาเเล็กซี่ เเต่สาเหตุที่เกิดการชนกันระหว่างกาเเล็กซี่เพราะมันเเรงเหนี่ยวนำระหว่างดาวเลิก2ดวง จนกระถั่งทำให้เกิดหลุมขาวเเล้วยุมตัวลงกลายเป็นหลุมเเล้วเมื่อสสารเย็นตัวลงเเล้วจับกลุ่มก้อนกันจนทำให้เกิดรูปเเบบของดาวเพลาซ่า ถูกผิดขอคำชี้เเนะจากผู้รู้ด้วยนะครับผมลองคิดดูเล่นๆ😊😊😊😊😊
มึงจะถ่ายทำไมคนพูดมึงทำไมไม่ถ่ายเอาเนื้อหาไอ้โง่ กูไม่ได้อยากดูคนพูดกูอยากเรียนรู้ กูไม่แปลกใจทำไม่เมืองไทยมันไม่ไปใหนมาใหน
คิดเห็นผม สิ่ง1 เดียว แร่ธาตุ เดียวทั้งหมดแร่รวมทั้งหมดเป็นเดียว และ มีเขาเรียกว่า ปฏิกิริยา อยู่ เดียวกัน คือ ว่าสรุป สิ่งที่เป็น คว้อลตัม แร่ธาตุทั้งหมด ที่เป็นสาร ก๊าซ สิ่ง ๆ รวมอื่นๆ ซึ่งมีหมด ครอบทุกอย่างเป็นเดียวในตังเอง คือสิ่งนั้นเดียว และโดดเดียว อิสระ จากทุกสิ่งทั้งหมด และต้องมี ปฏิกิริยา มีอยู่ ในตัว เอง (สิ่ง ต้องมี กิริยา ) อยู่ ในสิ่งอยู่ ไม่สามารถ แยกจากกันได้ เปรียบ เทียบ เกลือ ซึ่ง เป้นสิ่ง รูป รึ่ รุปร่าง คือ สิ่ง กิริยา คือ เค็ม รสชาติ รึ่ กิริยาใน สิ่ง นั้นให้ผลมา ซึ่งมีทั้งหมด เช่นเดียว โดดเดียว เช่นกัน คือ เกลือ ไม่ สามารถแยก รสเค็ม ได้ กันแล้ว ซึ่มีรูปร่าง อยู่ กับ รสเค็ม นี่เอง และ แสงนั้น คือ รูป สิ่ง . และ กิริยา แตก นั้น คือกิริยาและ เปลี่ยนแปลง ทีเรียก กิริยา .. ซึ่งสรุปอีก ข้อ แสงกับ กิริยา อยุ่ รวมกัน คือ โน้ม ถ่วง โน้มคือ สิ่งๆ รึ่ทีเป้นรุปขึ้น รึ่ สาร รึ่ ธาตุ1เดียว เล็กคว้อลตัม เล็กสุด นั้นเรียกว่าโน้ม.. และ ถ่วง คือ กิริยาทีเป็น รึ่ แตก ออก รึ่ เปลี่ยนแปลง รึ่ ท่าทาง รึ่ กิริยา ทั้งหมด ดึ่ง . .. ดูด เดิน หิว เป้นต้น ซึ่งมี(คลื่น)ความถี่ รวม กับ ( แรง)แม่เหล็กไฟ้ฟ้า มารวมเดียวกัน เป้น1เดียว รวมเป็น (คลื่นแรง ) คือไฟ... (โน้ม-ถ่วง โน้ม คือ คลื่น และ ถ่วง คือ แรง เป้น โน้มถ่วง สรุปอีก พลัง คือ คลื่น และ งาน คือ แรง เรียกว่าพลังงาน คลื่น กับแรงเรียก พลังงาน โน้ม = ถ่วง คลื่น=ไฟ รึ่ คลื่นแสง รุปร่างแสง เปลี่ยน แปลง มัน สิ่งกับกิริยา จน มาก มีอะตอม ซึ่งมี สิ่งรูป อยุ่กับกิริยา อยุ่กัน รวมอะตอม จำนวน มาก มาประกอบให้มาก ถึงเกิด ขึ้น จน หมด ไปทีสุด สุดท้าย มีรูป รึ่ สิ่ง เล็กเดียว มีแสง มี กิริยา มี ซึ่ง หน้าที ส่งออก รับคืนมา หมด ด้วยคลื่นความถี่แม่เหล็กไฟ้ฟ้า มีจุดเกิด มีจุดดับ จบ ทีอธิบายครับ ผมคิด แบบนี้ คิดเห็นผม ถูกรึ่ ผิด ไม่รุ้ ทีทีคิด เห็นนั้น บ่ายๆๆ
คลื่นแรงโน้มถ่วงมีผลต่อเวลา หรือ มิติ ใดในจักรวาลหรือไม่
siamboy birdclub มี ต้องเรียกว่า โดนผลกระทบ
เข้าใจง่ายๆ เครื่องเร่งอนุภาคเป็นเครื่องมือรับสัญญาณ จากแรงกระทำจากจักรวาล แค่ทำงานและอ่านรับค่าเท่านั้น
Gravitation wave มันทำให้ space time บิดเบี้ยวไป แล้วทำไม ควาามเร็วของ photon ที่วิ่งในเครื่อง LIGO ถึงไม่บิดตามถ้ามันบิดตาม เราไม่น่าจะ detect ได้
neuromed chula เท่าที่ทราบในคลิปบอกอยู่นี่ครับว่ามันวัดได้อย่างไร ก็คงเบี้ยวแต่ไม่น่าจะมีผลกับเครื่องมือครับ
ก็เพราะมันยืดไง เครื่องถึงจับได้ไง
นาย
ทำไมไม่สร้าง อยู่บนอวกาศ ครับ น่าจะไม่มีรถบรรทุกลบกวน
คลื่นความโน้มถ่วงต่อไปในอนาคตเอามาใช้ได้ในเรื่อง คนปัจจุบันท่องอวกาศและจะใช้เวลาช้ากว่าคนบนโลกแต่เวลาที่กลับมาอาจจะช้ากว่าเวลาของโลกและเวลานี้บนโลกจะเร็วกว่าแต่ไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานเท่าไรนะคับ
จักรวาลของเรามันก็เหมือนมหาสมุทรอินฟินิตี้ในเรื่องคลื่น.
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เมื่อ 100 ปีที่แล้ว รู้ได้อย่างไรว่ามีคลื่นแรงโน้ถ่วง...รู้ด้วยปัญญาญาณจริงๆ โดยไม่มีเครื่องวัดอะไรเลย จนถึงวันนี้เมื่อโลก..มีเครื่องมือวัดแล้ว ถึงได้รู้เป็นรูปธรรมในทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ ถ้าเราเรียนตามตำรา เราก็เก่งตามตำราอย่างมากก็ออกมาเป็นอาจารย์ ไม่ใช่นักฟิสิกส์?? นักฟิสิกส์ต้องพยายามหาทางค้นพบกับทฤษฏีเปลี่ยนโลก ถึงจะเรียกว่านักฟิสิกส์ที่แท้จริง
PC SAL ใช่ครับเราเรียนตามตำรา เราก็เก่งตามตำราไม่เถียง แต่ถ้านักฟิสิกส์ตามที่ท่านว่า ถ้าไม่ได้เรียนตามตำรา จะคิดสูตรอะไรได้ จะแก้สมการอะไรได้ มันต้องเรียนตามตำราก่อนครับ แล้วค่อยคิดทฤษฎีออก ซึ่งมนุษย์ต้องมีความรู้พื้นฐานคุณต้องบวกเลขเป็นก่อนครับ และก็แก้สมการตามอย่างตำราเป็นก่อนครับ แล้วมาคิดและสามารถคิดออก ถึงจะได้รับการยอมรับ ในระดับต่างๆ ไม่ใช่ว่าจะนั่งสมาธิ แล้วบวกเลขได้เองโดยไม่ได้เรียน ถ้ามีมนุษย์แบบนั้นทำได้ คงเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ เพราะไฮน์สไตน์เองก็เรียนตามตำรา มาด้วยนะครับ ไม่ใช่จะนั่งสมาธิ เอาสูตรมาเขียนเป็นตำรา แต่เนื่องด้วยบุคคลนี้คิดต่างออกไป และใช้ความรู้ที่เรียนตามตำรา มาเพื่อคิดสูตร และทฤษฎีขึ้นมาได้
ทฤฏีไงครับ...คนคิดทฤฏีเปน1,000แต่รอการพิสุจน์ผิดหมด...เหลือแค่ของไอสไตน์ แต่100ปีที่แบ้วเทคโนโลยียังไม่เท่านี้...แค่นั้นเอง...เหมือนกับบอกว่าทฤฏีรอเวลาในการพิสุจน
สมเกียรติ มาเอียด ผมว่า ไอสไต เรียนตามตำราแต่ไม่ได้เชื่อตามตำรานะครับ เขาชอบเถียงอาจารย์ และตั้งคำถามเสมอ นักวิทยาศาส สมัยนั้น นับถือนิวตัน ดังเทพเจ้า แต่ไอสไตเขาไม่เชื่ออะไรง่ายๆ นอกจากจะพิสูตรด้วยตัวเอง เขาเชื่อ จะรู้จักรวาลด้วย คณิตศาส เขาจึงจินตนาการเสมอ เพราะความรู้ที่เรียนมามันขัดกับความคิดของเขา เขาจึงชอบจินตนาการ และคิดทรษฏีขึ้นมาและใช้คณิตศาสเป็นตัวหาคำตอบ และได้ตีพิมผลงานมากมายนั้นมาจากมันสมองเขาล้วนๆ และนำมาคำนวนได้แม่นยำละเอียดยิบ หลายๆคนไม่ค่อยจะยอมรับไอสไต ในสมัยนั้น ต่อมาจึงได้รู้ว่านิวตันคิดผิด ไอสไต เขาคิดได้ถูกต้องแม่นยำจนผ่านมา100ปีโลกยังตลึงกับผลงานของไอสไต
PC SAL รู้ได้จากที่เขาจินตนาการครับ และใช้คณิตศาส พิสูตรสมการ เพราะเขาเชื่อว่าจักรวาลมีเหตุผลครับ
ผมคิดว่าในสมัยก่อนการทำสิ่งต่างก้ต้องอาจจะลงที่กระดาษ
มีคณะมโนศิลป์ด้วยเหรอครับ น่าเรียนจัง
พี่ป๋องแป๋งมาด้วย
ผมไม่ค่อยเข้าใจแต่เคยรุ้สึกถึงแรง
ผมมีทฎษฎีมั่วๆของผมดั่งนี้ครับ1ทฎษฎีต่อเนื่องตัวตนคนเราจะมีชีวิตได้ก็ยามตื่นเท่านั้นการนอนหลับคือความตายชนิดหนึ่งสติสัมปะชัญญะหรือคลื่นสมองต้องทำงานอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา"ต้องปรับปรุงร่างกายมนุษย์ใหม่"2ทฎษฎีตัวตนพื้นฐาน การมีตัวตนของมนุษร์ที่มีจริงเปรียบเหมือนรถยี่ห้อหนึ่งถ้าเป็นรถยี่ห้อนั้นจริงๆต้องมีส่วนประกอบตรงตามมาตรฐานเปะๆถ้าไม่ใช้แสดงว่ารถนั้นป็นของปลอมตัวตนของมนุษร์ก็เช่นกันจริงๆแล้วในโลกนี้มีแบบแผนตัวตนที่ถูกต้องอยู่ถ้ามนุษทุกคนไม่มีองประกอบตามแบบแผนนี้แสดงว่าไม่ได้มีชีวิตอยู่จริงเป็นเพียงการดำรงอยู่หลอกๆเท่านั้น ผมมี6สมมุติฐานที่เป็นความหวังเล็กๆดังนี้1สมุติฐาน"คนนั่งรถทัวร์"ผมนอนคิดว่าความคิดของมนุษร์กว่าจะได้มาสักคำพูดหนึ่งใช้เวลา2วินาทีหรืออาจจะสั้นกว่านั้นแต่เวลาคุยโทรศัพหรือพูดผ่านทางเฟสบุคใช้เวลาสั้นกว่าหรือเท่าๆกันแถมอยู่ไกลอีกต่างหากแล้วมนุษมีตัวตนได้โดยการตระหนักรู้ในตนเองจะมีตัวตนอยู่จริงๆหรือวะแล้วก็ปิ้งขึ้นมาได้ความคิดว่าคนนั่งรถทัวถ้าเดินเท้าไปต้องเดินนานแน่ๆแต่ถ้านั่งรถใช้เวลาน้อยกว่าเหมือนความคิดกับการพูดนี้แหละถ้าผูกติดกับคลื่นพลังงานก็ได้ก็จะสามารถนำความคิดที่ช้ากว่าส่งถึงกันได้ 2"แรงอัดสะสม"ถึงแม้จะมีการดำรงอยู่ที่เร็วกว่าความคิดมนุษร์แต่ที่เร็วขนาดนั้นเพราะรวบรวมแรงตั้งแต่อดีตกาลคนับ3"ตอนตื่นนอน"มีคำถามว่าเวลาเราจะจำสูตรคูณทั้งชุด2ชุดได้ต้งใช้เวลาน่าจะ1นาทีแต่เวลาเราตืนมาเราจำข้อมูลรายละเอียดได้อย่างไรเป็นพันๆวันได้อย่างไรว่าเราอายุเท่านี้มีประสบการณ์แบบนึ้แล้วก็คิดเปรียบเทียบว่าความจำเราเหมืออิฐหลายๆก้อนถ้าหยิบใส่ทีละก้อนต้องใช้เวลาแต่ถ้าหยิบอิฐที้งหมดใส่ถุงก็จะประหยัดเวลาความจำในชีวิตก็เช่นกันถ้าย่อข้อมูลทั้งหมดมาใส่เป็นรหัสสมองรหัสเดียวก็จะมีตัวตนได้ทันที 4ถาม"ทำไมมีหลายสิ่งเร็วกว่าความคิด"ตอบเพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่เป็นมวลหรือพลังงานที่มีลักษณะเล็กกว่าจึงเคลือนที่ได้เร็วกว่ามากแถมยังมีแรงอัดสะสม(ในข้อ2)ด้วย 5"หลอมรวม"การจะพบตัวตนมาตรฐานในทฎษฎีของผมอาจจะต้องประยุกหาคำตอบนำจุดอ่อนจุดแข็งของวิทยาศาสตร์ศาสนาปรัญญามาบวดกันแล้วหาคำตอบให้ได้ครับ 6มาตรฐานนี้อาจมีมากกว่า1มาตรฐาน
น่าสนใจครับ ขอชื่อเฟสบุ๊กหน่อยครับ อยากเข้าใจทฎษฎีที่ว่า มากยิ่งขึ้นครับ
+ต่อให้สอง มีของกูก็วิ่งสิ่ ผมมีความจำเป็นที่จะเปิดเผยชื่อเฟสบุคไม่ได้ครับขอโทษมากๆนะครับ
+ต่อให้สอง มีของกูก็วิ่งสิ่ แนวคิด"อัตตาฟิสิก"(การหาตัวตนตนที่แท้ของคนเราโดยใช้ทักษะของหลักฟิสิก)อธิบายง่ายๆคือคนเราอาจไม่มีตัวตนอยู่จริงครับเปรียบเทียบง่ายๆถ้าเปรียบเทียบคือเทียนไขตอนจุดไฟดับไฟเราจะมองเห็นใช่ไหมครับแต่ถ้าเป็นหลอดไฟจะกระพริบติดดับติดดับ45ครั้งต่อวินาทีเราจะมองไม่ออกครับเราจะเห็นมันส่องแสงตลอดเวลาตอนที่เรามองอยู่และกดสวิตเปิดไฟนั้นอยู่(เชิญหาข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแสงหรือฟิสิกเกี่ยวกับแสงในกูเกิ้ลหรือหนังสือหรือผู้รู้ตามสบายครับ)ตัวตนของมนุษย์ก็เช่นกันมีแล้วไม่มีตลอดเวลาครับอ้อจริงๆแล้วไม่ว่าจะเป็นแสงหรือวัตถุหรือมนุษย์เป็นสิ่งเดียวกันครับโดยพื้นฐานครับเราเรียกสิ่งพื้นฐานนั้นในทางฟิสิกเรียกว่า"พลังสรรพสิ่งครับ"(เชิญหาหลักฐานในกูเกิ้ลหรือผู้รู้ตามสบาย)เขียนในกูเกิ้ลว่าทฎษฎีรวมทุกสิ่งครับเท่านี้ก่อนนะครับ
สถิตร่าง สิบหาง ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ ว่างๆก็มาเพิ่มเติมอีกนะครับ ติดตามอยู่
+ต่อให้สอง มีของกูก็วิ่งสิ่ ผมอยากอธิบาย"ความตายสามระดับ"นะครับ1ความตายแบบสสารนิยมคือเชื่อว่าถ้าสมองตายหรือหัวใจหยุดเต้นหรือร่างกายสลายจะไม่มีวิญญานไม่มีโลกหลังความตายครับ2ความตายจากความต่อเนื่องของระสมองหรือหลับนั้นเองครับผมคิดถึงข้อนี้ได้เมื่อ9ปีที่แล้วและก็ทรมาณทุกครั้งที่นอนมาตลอดจนปีที่แล้วคิดได้ว่าถ้าอดนอนหนีการนอนหลับต้องตายตลอดการแน่ครับหลับมันยังตื่นได้ลองผิดลองถูกหาทางเปลี่ยนสิ่งไม่ดีเป็นดีได้แต่ถ้าหนีการนอนหลับต้องตายแบบสสารนิยมแน่คิดได้ค่อยนอนสบายหน่อยครับ3ตายกระทั่งตอนตื่นคืออย่างที่บอกครับคือมีแล้วไม่มีเท่านี้ก่อนนะครับ
เรียนถามผู้รู้ครับ ช่วยแชร์ แนวคิด หรือ ไอเดียหน่อย(1) เมื่อ คลื่นความโน้มถ่วงมีอัตราเร็วเท่าแสง มันประพฤติตัวเหมือนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า(ในเรื่องของอัตราเร็ว) แสดงว่าแท้ที่จริงแล้วคลื่นความโน้มถ่วงมันก็คือ กระแสของกราวิตรอนใช่ไหมครับ ?(2) เหตุไฉนคลื่นความโน้มถ่วง ซึ่งมีกำลังอ่อนมาก จึงสามารถเดินทางไปได้ ไกลมากๆ ดังเช่นการที่ กาแลคซี่ทางช้างเผือก และ กาแลคซี่เพื่อนบ้าน แอนโดเมดา รับรู้ถึง แรงดึงดูดที่กระทำต่อกัน ที่ระยะทาง 2ล้านปีแสง หรืออาจจะไกลกว่านั้น ในกลุ่ม Local group ของกาแลคซี่ (3)ในแรงที่เรารู้และเรียนมาทั้ง4แรง แรงโน้มถ่วงเป็นแรงแรกที่เรารู้เมื่อ300 กว่าปีก่อน โดยท่านเซอร์ไอแซค นิวตัน แต่ผมว่าแรงโน้มถ่วงโดยรวมมันยังเป็นปริศนาอยู่ ดังเช่นคำถามข้อที่(2) แต่ถ้าเราแทนแรงโน้มถ่วง ด้วยกาลอวกาศ มันก็ดูโอเคนะ แต่ถ้าเราตั้งข้อสังเกตว่า แท้จริงแล้ว แรงโน้มถ่วง หรือคลื่นความโน้มถ่วงมันก็คือ กระแสของกราวิตรอน(1) มันก็จะวกกลับมาว่าแรงโน้มถ่วงมันก็คือคลื่นบางอย่าง ที่ออกมาจากวัตถุที่มีมวล และเคลื่อนที่ไปได้ไกลมากๆ ดังนั้น เราควรจะมองแรงโน้มถ่วงเป็นการโค้งงอ ของกาลอวกาศ หรือ มองแรงโน้มถ่วงเป็น กระแสของอนุภาค กราวิตรอน ที่ออกมาจากมวล?
korn king NGC 224 ขอตอบข้อ 2 นะ ที่สัญยาณมันเบามากๆเพราะว่ามันเดินทางมาไกลมากถึง 1.3 พันล้านปีแสงจึงทำให้ความเข้มข้นลดลงตามระยะทาง
เพระ ใฃ้แขนคนละข้างกัน
ไปจำเขามาพูดให้เท่ๆถอกๆผิดๆถูกๆอีก เขาวิจัยมาอย่างดีก็เอาแต่หาที่วัดรอยเท้า คุณต้องเชิญเขามาพูด
,ขายส่งเครื่องบิน
คลื่นที่ว่านี้..เกิดจากหลุมดำรวมตัวกัน แค่นั้นเหรอ...ไม่มีสาเหตุอื่นเลยรึ
ถ้าที่ไหนมีสนามโน้มถ่วงก็สามารถเจอคลื่นนี้ได้หมดครับ แต่ถ้าจะให้ตรวจจับได้บนโลก ต้องเป็นคลื่นที่มีความถี่หรือพลังงานที่สูงมากครับ ดังนั้นคลื่นที่ตรวจได้ควรมาจากแหล่งที่สามารถสร้างสนามโน้มถ่วงที่สูงจากวัตถุที่มีมวลมหาศาล ซึ่งวัตถุที่ว่านี่การควรมาจากหลุมดำนั่นเองครับ แต่ก็มีการตรวจจับจากดาวอื่นได้เหมือนกันเช่น ดาวนิวตรอนทีนี้ที่ต้องเป็นหลุมดำรวมกันเพราะตอนรวมกันมันจะทำพีคของคลื่นที่สูงกว่าตอนก่อนหน้า ทำให้เรารู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นจากการวัดบนโลกที่ทำให้ข้อมูลเปลี่ยน สามารถจำแนกจากข้อมูลที่เขาวัดได้มาตามปกติกับตอนมีเหตุการณ์สำคัญได้ครับ แล้วค่อยใช้สมการสนามของไอน์สไตน์จำลองรูปแบบว่ามาจากเหตุการณ์แบบไหน
คนไทยควรวิจัยคิดค้นเองถึงจะมีโอกาซเป็นประเทศพัฒนาได้
การเสวนาทางวิทยาศาสตร์์แบบนี้ชอบมากครับ
อยากเข้าใจครับแต่ยังไงก็ยังไม่เข้าใจยุดี
ฟิสิกคือวิทยาศาสแขนงหนึ่งเน้นศึกษาเกี่ยวกับพลังงานและสสารซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างมีขึ้นมาได้เพราะพลังงานและสสารทั้งสิ้นเพราะฉะนั้นยิ่งฟิสิกพัตนาไปเท่าไหร่เราก็จะควบคุมพลังหรือความสามารถของทุกสิ่งทุกอย่างได้มากเท่านั้นเทคโนโลยีที่เราใช้กันก็คือการควบคุมพลังธรรมชาติมาประยุกเพื่ออำนวยความสะดวกของเรานั่นเอง
ขอบคุณอาจารย์ที่มาย่อยข้อมูลให้ฟังครับ
สักวันไทยจะมีสถานนีอวกาศเป็นของตัวเอง
ดีโฟน ดีโฟา ดีโฟน ดีโฟา คุณว่าประเทศเราเค้าจะสร้างสถานีอวกาศไว้ที่ไหน
โห ชอบคำถามที่ถามกันมาก ดูใส่ความคิดสร้างสรรค์กันสุดๆ
หลักการพอเข้าใจ แต่การอธิบาย แบบงงๆ ติดๆคัดๆ
กดแล้ว
สัมนาวิชาการสนุกมาก! อะไรกันครับเนี้ย
ไอสไตน์ก็พยายามจนสิ้นชีวิตครับ
ทีมงานอาจารย์เก่งและอารมณ์ขัน..มหิดล น่าเรียนครับ
ผมว่าเป็นแนวทางด้านความคิดที่เราค้นหาใฝ่รู้จากการอ่านและศึกษาที่จะรวมความคิดกันได้เพื่อนำไปสู่แนวคิดใหม่ๆร่วมกันสร้างต่อๆไป
ขอบคุณครับที่ยังทำไห้เราที่ไม่ได้ศึกษามหาลัยเรายังได้รับชมท่านได้รับข้อมูลขอบคุณครับ
คลื่นความโน้มถ่วง
____________________________________
*/ดั้นเจี้ยน/คลื่นความโน้มถ่วง*...//....//....
____________________________________
*/หลั้กฐาน/คลื่นความโน้มถ่วง 4385 แท่ม*
*/เอ่กส่าร/คลื่นความโน้มถ่วง 248 ใบเบิ้ล*
*/หนั่งสือ/คลื่นความโน้มถ่วง 8 เล่ม*
สมาคํม
____________________________________
*/ดั้นเจี้ยน/สมาคํม*...//....//....//....
____________________________________
*/หลั้กฐาน/สมาคํม 4538641 แท่ม*
*/เอ่กส่าร/สมาคํม 6584 ใบเบิ้ล*
*/หนั่งสือ/สมาคํม 3542 เล่ม*
ฮาอาจารย์ ฟังไม่น่าเบื่อเลยค่ะ
เยี่ยมยอด เยี่ยมยอดจริงๆ ครับ
ฟังกี่ครั้งก็ไม่เข้าใจ แต่ชอบฟังมากเรื่องพวกนี้
มวลทั้งสองเท่ากันครับ มวลไดๆก็คือมวล อิๆ
ในอนาคต คลื่นความโน้มถ่วง เนีย เอามาทำอะไรได้บาง ให้เกิดประโยชน์กับโลกเรา รอดู
มาจากอนาคต มาอธิบายเรื่องรูหนอน
คลื่นแบ่งออกเป็น 3สมมุติฐานคือ:-
1. คลื่นความโน้มถ่วงเกิดจากธรรมชาติของมวลหมุนรอบตัวเอง
2. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเกิดจากประจุไฟฟ้าหรือ Electron & Proton
3. คลื่นจิตและเจตสิกเกิดจาก Potential Quantum ซึ่งเป็นผลจากข้อมูลความเป็นจริงของจิตสำนึก
4.
จะหาคลิปเสวนาทางฟิสิกสนุกๆแบบนี้อีกที่ไหนได้ครับ จะเอาไว้ปลูกฝังลูกแต่เยาว์วัย ดีกว่าให้ดูละครตบตีแย่ง ผช กับข่าวฆ่ากันที่ทางบ้านเมียบังคับให้ลูกผมดู
🙏🙏🙏 ผิดพลาดประการใดใดขออภัยน้ะคับ 🙏🙏🙏
คือมันยังไงครับ แค่พิสูจน์ได้ว่ามีอยู่จริง หรือ ค้นพบแล้วจะเอาไปทำอะไรต่อ
+JuninhoP19 เอาไปค้นหาสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นได้ครับ กล่าวง่ายๆ
ปกติเราสามารถวิเคราะห์ดาราศาสตร์ได้จากแสงที่ดาวฤกษ์ปล่อยออกมา แสงถูดบดบังก็จะไม่สามารถมองเห็น แต่ต่อไปนี้เราจะศึกษาได้จากคลื่นแรงโน้มถ่วง ( จินตนาการคลื่นน้ำ)
สิ่งหลักๆคือ สามารถวิเคราะห์การเกิด big bang ครั้งใหญ่ได้ครับ
อ่อแสงที่มองเห็น ถ้าจำไม่ผิดได้แค่ 3 ล้านล้านปีแสงครับ ถ้านานกว่าจะนั้นไจะไม่เห็นแสง ประมาณนี้
บลาๆ มีอีกเยอะแยะครับ
JuninhoP19 อาจารเขาบอกนี่ครับว่า ทำอะไรต่อได้
ผมจินตนาการว่าแรงโน้มถ่วงอาจจะเป็นผลของการบีบอัดจากบางสิ่งก็ได้ครับ เหมือนเวลาเราดึงผืนผ้าให้ยืดออกก็จะมีแรงบีบอัดระหว่างช่องของเส้นด้าย ทีนี้สสารหรือก๊าซต่างๆก็ถูกบีบอัดรวมจนเป็นดวงดาว แล้วช่องว่างในกาลอวกาศก็จะเป็นตัวกำหนดว่าดาวดวงใหนจะมีมวลมากน้อยตามขนาดของช่องว่างในกาลอวกาศ ถ้าช่องนี้มีขนาดใหญ่ก็ทำให้มีสสารเข้าไปรวมมากขึ้น อันนี้ผมจินตนาการเอานะครับ
อยากได้หนังสือ!!
คลื่นเเรงโน้มถ่วงผมว่าเกิดจากคลื่นกระเเทรกเเรงดึงดูดจิตนาการเเบบง่ายๆเวลาผู้หญิงเล่นฮูร่าฮูบ ถ้าจะหาคลื่นนีมันน่าเกิดตรงจุดศูนษ์กลางระหว่างกาเเล็กซี่ เเต่สาเหตุที่เกิดการชนกันระหว่างกาเเล็กซี่เพราะมันเเรงเหนี่ยวนำระหว่างดาวเลิก2ดวง จนกระถั่งทำให้เกิดหลุมขาวเเล้วยุมตัวลงกลายเป็นหลุมเเล้วเมื่อสสารเย็นตัวลงเเล้วจับกลุ่มก้อนกันจนทำให้เกิดรูปเเบบของดาวเพลาซ่า ถูกผิดขอคำชี้เเนะจากผู้รู้ด้วยนะครับผมลองคิดดูเล่นๆ😊😊😊😊😊
มึงจะถ่ายทำไมคนพูดมึงทำไมไม่ถ่ายเอาเนื้อหาไอ้โง่ กูไม่ได้อยากดูคนพูดกูอยากเรียนรู้ กูไม่แปลกใจทำไม่เมืองไทยมันไม่ไปใหนมาใหน
คิดเห็นผม สิ่ง1 เดียว แร่ธาตุ เดียวทั้งหมดแร่รวมทั้งหมดเป็นเดียว และ มีเขาเรียกว่า ปฏิกิริยา อยู่ เดียวกัน คือ ว่าสรุป สิ่งที่เป็น คว้อลตัม แร่ธาตุทั้งหมด ที่เป็นสาร ก๊าซ สิ่ง ๆ รวมอื่นๆ ซึ่งมีหมด ครอบทุกอย่างเป็นเดียวในตังเอง คือสิ่งนั้นเดียว และโดดเดียว อิสระ จากทุกสิ่งทั้งหมด และต้องมี ปฏิกิริยา มีอยู่ ในตัว เอง (สิ่ง ต้องมี กิริยา ) อยู่ ในสิ่งอยู่ ไม่สามารถ แยกจากกันได้ เปรียบ เทียบ เกลือ ซึ่ง เป้นสิ่ง รูป รึ่ รุปร่าง คือ สิ่ง กิริยา คือ เค็ม รสชาติ รึ่ กิริยาใน สิ่ง นั้นให้ผลมา ซึ่งมีทั้งหมด เช่นเดียว โดดเดียว เช่นกัน คือ เกลือ ไม่ สามารถแยก รสเค็ม ได้ กันแล้ว ซึ่มีรูปร่าง อยู่ กับ รสเค็ม นี่เอง และ แสงนั้น คือ รูป สิ่ง . และ กิริยา แตก นั้น คือกิริยาและ เปลี่ยนแปลง ทีเรียก กิริยา .. ซึ่งสรุปอีก ข้อ แสงกับ กิริยา อยุ่ รวมกัน คือ โน้ม ถ่วง โน้มคือ สิ่งๆ รึ่ทีเป้นรุปขึ้น รึ่ สาร รึ่ ธาตุ1เดียว เล็กคว้อลตัม เล็กสุด นั้นเรียกว่าโน้ม.. และ ถ่วง คือ กิริยาทีเป็น รึ่ แตก ออก รึ่ เปลี่ยนแปลง รึ่ ท่าทาง รึ่ กิริยา ทั้งหมด ดึ่ง . .. ดูด เดิน หิว เป้นต้น ซึ่งมี(คลื่น)ความถี่ รวม กับ ( แรง)แม่เหล็กไฟ้ฟ้า มารวมเดียวกัน เป้น1เดียว รวมเป็น (คลื่นแรง ) คือไฟ.
.. (โน้ม-ถ่วง โน้ม คือ คลื่น และ ถ่วง คือ แรง เป้น โน้มถ่วง สรุปอีก พลัง คือ คลื่น และ งาน คือ แรง เรียกว่าพลังงาน คลื่น กับแรงเรียก พลังงาน โน้ม = ถ่วง คลื่น=ไฟ รึ่ คลื่นแสง รุปร่างแสง เปลี่ยน แปลง มัน สิ่งกับกิริยา จน มาก มีอะตอม ซึ่งมี สิ่งรูป อยุ่กับกิริยา อยุ่กัน รวมอะตอม จำนวน มาก มาประกอบให้มาก ถึงเกิด ขึ้น จน หมด ไปทีสุด สุดท้าย มีรูป รึ่ สิ่ง เล็กเดียว มีแสง มี กิริยา มี ซึ่ง หน้าที ส่งออก รับคืนมา หมด ด้วยคลื่นความถี่แม่เหล็กไฟ้ฟ้า มีจุดเกิด มีจุดดับ จบ ทีอธิบายครับ ผมคิด แบบนี้ คิดเห็นผม ถูกรึ่ ผิด ไม่รุ้ ทีทีคิด เห็นนั้น บ่ายๆๆ
คลื่นแรงโน้มถ่วงมีผลต่อเวลา หรือ มิติ ใดในจักรวาลหรือไม่
siamboy birdclub มี ต้องเรียกว่า โดนผลกระทบ
เข้าใจง่ายๆ เครื่องเร่งอนุภาคเป็นเครื่องมือรับสัญญาณ จากแรงกระทำจากจักรวาล แค่ทำงานและอ่านรับค่าเท่านั้น
Gravitation wave มันทำให้ space time บิดเบี้ยวไป แล้วทำไม ควาามเร็วของ photon ที่วิ่งในเครื่อง LIGO ถึงไม่บิดตาม
ถ้ามันบิดตาม เราไม่น่าจะ detect ได้
neuromed chula เท่าที่ทราบในคลิปบอกอยู่นี่ครับว่ามันวัดได้อย่างไร ก็คงเบี้ยวแต่ไม่น่าจะมีผลกับเครื่องมือครับ
ก็เพราะมันยืดไง เครื่องถึงจับได้ไง
นาย
ทำไมไม่สร้าง อยู่บนอวกาศ ครับ น่าจะไม่มีรถบรรทุกลบกวน
คลื่นความโน้มถ่วงต่อไปในอนาคตเอามาใช้ได้ในเรื่อง คนปัจจุบันท่องอวกาศและจะใช้เวลาช้ากว่าคนบนโลกแต่เวลาที่กลับมาอาจจะช้ากว่าเวลาของโลกและเวลานี้บนโลกจะเร็วกว่าแต่ไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานเท่าไรนะคับ
จักรวาลของเรามันก็เหมือนมหาสมุทรอินฟินิตี้ในเรื่องคลื่น.
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เมื่อ 100 ปีที่แล้ว รู้ได้อย่างไรว่ามีคลื่นแรงโน้ถ่วง...รู้ด้วยปัญญาญาณจริงๆ โดยไม่มีเครื่องวัดอะไรเลย จนถึงวันนี้เมื่อโลก..มีเครื่องมือวัดแล้ว ถึงได้รู้เป็นรูปธรรมในทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ ถ้าเราเรียนตามตำรา เราก็เก่งตามตำราอย่างมากก็ออกมาเป็นอาจารย์ ไม่ใช่นักฟิสิกส์?? นักฟิสิกส์ต้องพยายามหาทางค้นพบกับทฤษฏีเปลี่ยนโลก ถึงจะเรียกว่านักฟิสิกส์ที่แท้จริง
PC SAL ใช่ครับเราเรียนตามตำรา เราก็เก่งตามตำราไม่เถียง แต่ถ้านักฟิสิกส์ตามที่ท่านว่า ถ้าไม่ได้เรียนตามตำรา จะคิดสูตรอะไรได้ จะแก้สมการอะไรได้ มันต้องเรียนตามตำราก่อนครับ แล้วค่อยคิดทฤษฎีออก ซึ่งมนุษย์ต้องมีความรู้พื้นฐานคุณต้องบวกเลขเป็นก่อนครับ และก็แก้สมการตามอย่างตำราเป็นก่อนครับ แล้วมาคิดและสามารถคิดออก ถึงจะได้รับการยอมรับ ในระดับต่างๆ ไม่ใช่ว่าจะนั่งสมาธิ แล้วบวกเลขได้เองโดยไม่ได้เรียน ถ้ามีมนุษย์แบบนั้นทำได้ คงเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ เพราะไฮน์สไตน์เองก็เรียนตามตำรา มาด้วยนะครับ ไม่ใช่จะนั่งสมาธิ เอาสูตรมาเขียนเป็นตำรา แต่เนื่องด้วยบุคคลนี้คิดต่างออกไป และใช้ความรู้ที่เรียนตามตำรา มาเพื่อคิดสูตร และทฤษฎีขึ้นมาได้
ทฤฏีไงครับ...คนคิดทฤฏีเปน1,000แต่รอการพิสุจน์ผิดหมด...เหลือแค่ของไอสไตน์ แต่100ปีที่แบ้วเทคโนโลยียังไม่เท่านี้...แค่นั้นเอง...เหมือนกับบอกว่าทฤฏีรอเวลาในการพิสุจน
สมเกียรติ มาเอียด ผมว่า ไอสไต เรียนตามตำราแต่ไม่ได้เชื่อตามตำรานะครับ เขาชอบเถียงอาจารย์ และตั้งคำถามเสมอ นักวิทยาศาส สมัยนั้น นับถือนิวตัน ดังเทพเจ้า แต่ไอสไตเขาไม่เชื่ออะไรง่ายๆ นอกจากจะพิสูตรด้วยตัวเอง เขาเชื่อ จะรู้จักรวาลด้วย คณิตศาส เขาจึงจินตนาการเสมอ เพราะความรู้ที่เรียนมามันขัดกับความคิดของเขา เขาจึงชอบจินตนาการ และคิดทรษฏีขึ้นมาและใช้คณิตศาสเป็นตัวหาคำตอบ และได้ตีพิมผลงานมากมายนั้นมาจากมันสมองเขาล้วนๆ และนำมาคำนวนได้แม่นยำละเอียดยิบ หลายๆคนไม่ค่อยจะยอมรับไอสไต ในสมัยนั้น ต่อมาจึงได้รู้ว่านิวตันคิดผิด ไอสไต เขาคิดได้ถูกต้องแม่นยำจนผ่านมา100ปีโลกยังตลึงกับผลงานของไอสไต
PC SAL รู้ได้จากที่เขาจินตนาการครับ และใช้คณิตศาส พิสูตรสมการ เพราะเขาเชื่อว่าจักรวาลมีเหตุผลครับ
ผมคิดว่าในสมัยก่อนการทำสิ่งต่างก้ต้องอาจจะลงที่กระดาษ
มีคณะมโนศิลป์ด้วยเหรอครับ น่าเรียนจัง
พี่ป๋องแป๋งมาด้วย
ผมไม่ค่อยเข้าใจแต่เคยรุ้สึกถึงแรง
ผมมีทฎษฎีมั่วๆของผมดั่งนี้ครับ1ทฎษฎีต่อเนื่องตัวตนคนเราจะมีชีวิตได้ก็ยามตื่นเท่านั้นการนอนหลับคือความตายชนิดหนึ่งสติสัมปะชัญญะหรือคลื่นสมองต้องทำงานอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา"ต้องปรับปรุงร่างกายมนุษย์ใหม่"2ทฎษฎีตัวตนพื้นฐาน การมีตัวตนของมนุษร์ที่มีจริงเปรียบเหมือนรถยี่ห้อหนึ่งถ้าเป็นรถยี่ห้อนั้นจริงๆต้องมีส่วนประกอบตรงตามมาตรฐานเปะๆถ้าไม่ใช้แสดงว่ารถนั้นป็นของปลอมตัวตนของมนุษร์ก็เช่นกันจริงๆแล้วในโลกนี้มีแบบแผนตัวตนที่ถูกต้องอยู่ถ้ามนุษทุกคนไม่มีองประกอบตามแบบแผนนี้แสดงว่าไม่ได้มีชีวิตอยู่จริงเป็นเพียงการดำรงอยู่หลอกๆเท่านั้น ผมมี6สมมุติฐานที่เป็นความหวังเล็กๆดังนี้1สมุติฐาน"คนนั่งรถทัวร์"ผมนอนคิดว่าความคิดของมนุษร์กว่าจะได้มาสักคำพูดหนึ่งใช้เวลา2วินาทีหรืออาจจะสั้นกว่านั้นแต่เวลาคุยโทรศัพหรือพูดผ่านทางเฟสบุคใช้เวลาสั้นกว่าหรือเท่าๆกันแถมอยู่ไกลอีกต่างหากแล้วมนุษมีตัวตนได้โดยการตระหนักรู้ในตนเองจะมีตัวตนอยู่จริงๆหรือวะแล้วก็ปิ้งขึ้นมาได้ความคิดว่าคนนั่งรถทัวถ้าเดินเท้าไปต้องเดินนานแน่ๆแต่ถ้านั่งรถใช้เวลาน้อยกว่าเหมือนความคิดกับการพูดนี้แหละถ้าผูกติดกับคลื่นพลังงานก็ได้ก็จะสามารถนำความคิดที่ช้ากว่าส่งถึงกันได้ 2"แรงอัดสะสม"ถึงแม้จะมีการดำรงอยู่ที่เร็วกว่าความคิดมนุษร์แต่ที่เร็วขนาดนั้นเพราะรวบรวมแรงตั้งแต่อดีตกาลคนับ3"ตอนตื่นนอน"มีคำถามว่าเวลาเราจะจำสูตรคูณทั้งชุด2ชุดได้ต้งใช้เวลาน่าจะ1นาทีแต่เวลาเราตืนมาเราจำข้อมูลรายละเอียดได้อย่างไรเป็นพันๆวันได้อย่างไรว่าเราอายุเท่านี้มีประสบการณ์แบบนึ้แล้วก็คิดเปรียบเทียบว่าความจำเราเหมืออิฐหลายๆก้อนถ้าหยิบใส่ทีละก้อนต้องใช้เวลาแต่ถ้าหยิบอิฐที้งหมดใส่ถุงก็จะประหยัดเวลาความจำในชีวิตก็เช่นกันถ้าย่อข้อมูลทั้งหมดมาใส่เป็นรหัสสมองรหัสเดียวก็จะมีตัวตนได้ทันที 4ถาม"ทำไมมีหลายสิ่งเร็วกว่าความคิด"ตอบเพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่เป็นมวลหรือพลังงานที่มีลักษณะเล็กกว่าจึงเคลือนที่ได้เร็วกว่ามากแถมยังมีแรงอัดสะสม(ในข้อ2)ด้วย 5"หลอมรวม"การจะพบตัวตนมาตรฐานในทฎษฎีของผมอาจจะต้องประยุกหาคำตอบนำจุดอ่อนจุดแข็งของวิทยาศาสตร์ศาสนาปรัญญามาบวดกันแล้วหาคำตอบให้ได้ครับ 6มาตรฐานนี้อาจมีมากกว่า1มาตรฐาน
น่าสนใจครับ ขอชื่อเฟสบุ๊กหน่อยครับ อยากเข้าใจทฎษฎีที่ว่า มากยิ่งขึ้นครับ
+ต่อให้สอง มีของกูก็วิ่งสิ่ ผมมีความจำเป็นที่จะเปิดเผยชื่อเฟสบุคไม่ได้ครับขอโทษมากๆนะครับ
+ต่อให้สอง มีของกูก็วิ่งสิ่ แนวคิด"อัตตาฟิสิก"(การหาตัวตนตนที่แท้ของคนเราโดยใช้ทักษะของหลักฟิสิก)อธิบายง่ายๆคือคนเราอาจไม่มีตัวตนอยู่จริงครับเปรียบเทียบง่ายๆถ้าเปรียบเทียบคือเทียนไขตอนจุดไฟดับไฟเราจะมองเห็นใช่ไหมครับแต่ถ้าเป็นหลอดไฟจะกระพริบติดดับติดดับ45ครั้งต่อวินาทีเราจะมองไม่ออกครับเราจะเห็นมันส่องแสงตลอดเวลาตอนที่เรามองอยู่และกดสวิตเปิดไฟนั้นอยู่(เชิญหาข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแสงหรือฟิสิกเกี่ยวกับแสงในกูเกิ้ลหรือหนังสือหรือผู้รู้ตามสบายครับ)ตัวตนของมนุษย์ก็เช่นกันมีแล้วไม่มีตลอดเวลาครับอ้อจริงๆแล้วไม่ว่าจะเป็นแสงหรือวัตถุหรือมนุษย์เป็นสิ่งเดียวกันครับโดยพื้นฐานครับเราเรียกสิ่งพื้นฐานนั้นในทางฟิสิกเรียกว่า"พลังสรรพสิ่งครับ"(เชิญหาหลักฐานในกูเกิ้ลหรือผู้รู้ตามสบาย)เขียนในกูเกิ้ลว่าทฎษฎีรวมทุกสิ่งครับเท่านี้ก่อนนะครับ
สถิตร่าง สิบหาง ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ ว่างๆก็มาเพิ่มเติมอีกนะครับ ติดตามอยู่
+ต่อให้สอง มีของกูก็วิ่งสิ่ ผมอยากอธิบาย"ความตายสามระดับ"นะครับ1ความตายแบบสสารนิยมคือเชื่อว่าถ้าสมองตายหรือหัวใจหยุดเต้นหรือร่างกายสลายจะไม่มีวิญญานไม่มีโลกหลังความตายครับ2ความตายจากความต่อเนื่องของระสมองหรือหลับนั้นเองครับผมคิดถึงข้อนี้ได้เมื่อ9ปีที่แล้วและก็ทรมาณทุกครั้งที่นอนมาตลอดจนปีที่แล้วคิดได้ว่าถ้าอดนอนหนีการนอนหลับต้องตายตลอดการแน่ครับหลับมันยังตื่นได้ลองผิดลองถูกหาทางเปลี่ยนสิ่งไม่ดีเป็นดีได้แต่ถ้าหนีการนอนหลับต้องตายแบบสสารนิยมแน่คิดได้ค่อยนอนสบายหน่อยครับ3ตายกระทั่งตอนตื่นคืออย่างที่บอกครับคือมีแล้วไม่มีเท่านี้ก่อนนะครับ
เรียนถามผู้รู้ครับ ช่วยแชร์ แนวคิด หรือ ไอเดียหน่อย
(1) เมื่อ คลื่นความโน้มถ่วงมีอัตราเร็วเท่าแสง มันประพฤติตัวเหมือนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า(ในเรื่องของอัตราเร็ว) แสดงว่าแท้ที่จริงแล้วคลื่นความโน้มถ่วงมันก็คือ กระแสของกราวิตรอนใช่ไหมครับ ?
(2) เหตุไฉนคลื่นความโน้มถ่วง ซึ่งมีกำลังอ่อนมาก จึงสามารถเดินทางไปได้ ไกลมากๆ ดังเช่นการที่ กาแลคซี่ทางช้างเผือก และ กาแลคซี่เพื่อนบ้าน แอนโดเมดา รับรู้ถึง แรงดึงดูดที่กระทำต่อกัน ที่ระยะทาง 2ล้านปีแสง หรืออาจจะไกลกว่านั้น ในกลุ่ม Local group ของกาแลคซี่
(3)ในแรงที่เรารู้และเรียนมาทั้ง4แรง แรงโน้มถ่วงเป็นแรงแรกที่เรารู้เมื่อ300 กว่าปีก่อน โดยท่านเซอร์ไอแซค นิวตัน แต่ผมว่าแรงโน้มถ่วงโดยรวมมันยังเป็นปริศนาอยู่ ดังเช่นคำถามข้อที่(2) แต่ถ้าเราแทนแรงโน้มถ่วง ด้วยกาลอวกาศ มันก็ดูโอเคนะ แต่ถ้าเราตั้งข้อสังเกตว่า แท้จริงแล้ว แรงโน้มถ่วง หรือคลื่นความโน้มถ่วงมันก็คือ กระแสของกราวิตรอน(1) มันก็จะวกกลับมาว่าแรงโน้มถ่วงมันก็คือคลื่นบางอย่าง ที่ออกมาจากวัตถุที่มีมวล และเคลื่อนที่ไปได้ไกลมากๆ ดังนั้น เราควรจะมองแรงโน้มถ่วงเป็นการโค้งงอ ของกาลอวกาศ หรือ มองแรงโน้มถ่วงเป็น กระแสของอนุภาค กราวิตรอน ที่ออกมาจากมวล?
korn king NGC 224 ขอตอบข้อ 2 นะ ที่สัญยาณมันเบามากๆเพราะว่ามันเดินทางมาไกลมากถึง 1.3 พันล้านปีแสงจึงทำให้ความเข้มข้นลดลงตามระยะทาง
เพระ ใฃ้แขนคนละข้างกัน
ไปจำเขามาพูดให้เท่ๆถอกๆผิดๆถูกๆอีก เขาวิจัยมาอย่างดีก็เอาแต่หาที่วัดรอยเท้า คุณต้องเชิญเขามาพูด
,ขายส่งเครื่องบิน
คลื่นที่ว่านี้..เกิดจากหลุมดำรวมตัวกัน แค่นั้นเหรอ...ไม่มีสาเหตุอื่นเลยรึ
ถ้าที่ไหนมีสนามโน้มถ่วงก็สามารถเจอคลื่นนี้ได้หมดครับ แต่ถ้าจะให้ตรวจจับได้บนโลก ต้องเป็นคลื่นที่มีความถี่หรือพลังงานที่สูงมากครับ ดังนั้นคลื่นที่ตรวจได้ควรมาจากแหล่งที่สามารถสร้างสนามโน้มถ่วงที่สูงจากวัตถุที่มีมวลมหาศาล ซึ่งวัตถุที่ว่านี่การควรมาจากหลุมดำนั่นเองครับ แต่ก็มีการตรวจจับจากดาวอื่นได้เหมือนกันเช่น ดาวนิวตรอน
ทีนี้ที่ต้องเป็นหลุมดำรวมกันเพราะตอนรวมกันมันจะทำพีคของคลื่นที่สูงกว่าตอนก่อนหน้า ทำให้เรารู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นจากการวัดบนโลกที่ทำให้ข้อมูลเปลี่ยน สามารถจำแนกจากข้อมูลที่เขาวัดได้มาตามปกติกับตอนมีเหตุการณ์สำคัญได้ครับ แล้วค่อยใช้สมการสนามของไอน์สไตน์จำลองรูปแบบว่ามาจากเหตุการณ์แบบไหน
คนไทยควรวิจัยคิดค้นเองถึงจะมีโอกาซเป็นประเทศพัฒนาได้
การเสวนาทางวิทยาศาสตร์์แบบนี้ชอบมากครับ
อยากเข้าใจครับแต่ยังไงก็ยังไม่เข้าใจยุดี
ฟิสิกคือวิทยาศาสแขนงหนึ่งเน้นศึกษาเกี่ยวกับพลังงานและสสารซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างมีขึ้นมาได้เพราะพลังงานและสสารทั้งสิ้นเพราะฉะนั้นยิ่งฟิสิกพัตนาไปเท่าไหร่เราก็จะควบคุมพลังหรือความสามารถของทุกสิ่งทุกอย่างได้มากเท่านั้นเทคโนโลยีที่เราใช้กันก็คือการควบคุมพลังธรรมชาติมาประยุกเพื่ออำนวยความสะดวกของเรานั่นเอง
ขอบคุณอาจารย์ที่มาย่อยข้อมูลให้ฟังครับ
สักวันไทยจะมีสถานนีอวกาศเป็นของตัวเอง
ดีโฟน ดีโฟา ดีโฟน ดีโฟา คุณว่าประเทศเราเค้าจะสร้างสถานีอวกาศไว้ที่ไหน