ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
โยมถวายปัจจัยพระ.พระก็มอบปัจจัยให้วัดได้บุญต่อบุญ
เงินส่วนตัวได้ครับ เเต่เงินวัดไม่ได้
ถ้าถามว่านำออกมาได้ไหม?ก็ต้องตอบว่า.....ในเมื่อรับได้ ก็ต้องเอามาใช้ได้ตรงกันข้าม...คำสอนของพระพุทธเจ้า ท่านไม่ให้รับเงินมาไว้เป็นของส่วนตัว เว้นไว้แต่รับมาแล้วเอามาให้ไวยาวัจกรเก็บเพื่อเป็นทรัพย์สินส่วนรวม.....ฉะนั้น ถ้าปฏิบัติตามพระธรรมวินัยก็จะไม่มีเงินขณะลาสิกขาออกมา..... แต่ถ้าหากบวชเพื่อไปหาเงิน ทำไมจะเอาเงินออกมาไม่ได้
หลวงพ่อฤกษีลิงดำท่านกล่าวไว้ว่า ญาติโยมท่านให้พระตอนเป้นสงฆ์นี้คือเจตนาของผุ้ให้เพื่อให้ท่านครองเพศบรรพชิต เขามิได้มีเจตนาให้ ท่านเมือท่านสึกออกมาเป้นบุคคลธรรมดาข้อมุลเหล่านี้ไม่ควรให้คนธรรมดามาวิจารณ์เพราะเรื่องทางโลกต่างจากเรื่องทางธรรม ทางโลกก้ออ้างเรื่องกฎหมายเป้นตัวบัณญัติต้องตามกฎหมาย ขนาดเรื่องทางโลกยังเลี่ยงบาลี กันเลย จะเอามาตราฐานทางโลกมาคิดแบบทางธรรมมันคนละเรื่องกัน
ได้สิเพราะเงินที่ได้มาเป็นเงินบริสุทธิ์ จากกิจนิมนต์และได้รับจากปัจจัยที่โยมถวายให้เป็นปัจจัยสามารถสะสมเก็บได้เมื่อสึกออกไปสามารถเอาไปได้เพราะเป็นสิทธิ์ของตัวเองหรือสามารถให้กับพ่อแม่พี่น้องลูกหลานของเราก็ได้ไม่ผิด
ไม่ผิดครับ มันแล้วแต่บุคคลนั้นเอง เมื่อสึกจากพระไปแล้ว ยังเป็นของเรา แต่บางคนไม่เอาก็ได้ ทำบุญกุศลให้ต่อส่วนรวมได้ นอกจากเอาเงินวัดไป เท่านั้นแหละ! บาปไม่ดีแน่นอน
นี้มันเป็นความเห็นของญาติโยมจริงแล้วในพระวินัยพระพุทธเจ้าทรงบัติยัติเอาไว้ว่าภิกษุรับก็ดีให้ผู้อื่นรับก็ดีซึ่งเงินและทองทั้งรูปิยะและกะหาปะนะเป็นอาบัตินิสสัคคีปราจิตตีย์พระสงฆ์ที่ท่านเคารพต่อพระธรรมวินัยจริงๆนั้นท่านจะไม่รับเงินรับทองเลยนะพระจะรับเฉพาะปัจจัย๔เท่านั้นไม่ว่าสายธรรมยุดหรือมหานิกายก็รับเงินไม่ได้หรอกนะไม่ว่าจะรับมาด้วยกรณีใดๆก็ตาม
พอสึกออกมาก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไปเงินนั้นก็สามารถ ใช้ได้เหมือนคนปกติทั่วไป
ได้เอาไปซื้อข้าวกินใช้สอยตาม อัธยาศัยไม่มีใครจับ
สึกเเล้วไปอีกได้ไหม
อาวเงินมาเผาพระดีกว่าเอาข้าวมาเผาโยมะ
มันเป็นเงินที่ได้มาอย่างไร เขาถวายวัด หรือถวายให้ใช้ส่วนตัว
ได้ครับ เมื่อรับมาจากญาติโยมแล้วเมื่อตอนเป็นพระภิกษุสามเณรได้ใช้หรือไม่ได้ใช้ ถ้าสึกออกมาเงินนั้นก็ยังเป็นของ เรา ถ้าเราไม่เอาเลยเมื่อสึกออกมาแล้ว โลกพายนอกจะอยู่ทำมาหากินได้ ก็ต้องใช้เงินอยู่ดี เพราะมันจำเป็นเลยใช้ได้ครับ. แต่ถ้าตอนบวช มีศิล คือ ห้ามจับต้องเงิน เพราะเงิน เป็นกิเลส เราจึงตั้งใจในการบวชเป็นอย่างดี พอสึกออกมา เป็นคนธรรมดาชาวบ้านทั่วไป เงินนั้นก็ยังมีค่าและจำเป็นในการอยู่ใช้มัน
แต่ผึดพระวินัย..เป็นโทษ
@@สะคราญเทศกิ่ม-ซ3ฌ คุณอธิบายให้ผมฟังหน่อยครับ ว่า เป็นโทษยังไงบ้าง 😏
@@สะคราญเทศกิ่ม-ซ3ฌ แค่ ผิดก็เขียนไม่ถูก 😅😅 เด็กมาเม้นหรือเปล่าเนี้ย
@@ภูริณัฐ-ฝ1ท พระวินัยมีว่า...ภิกษุในธรรมะวินัย..ไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง..ผู้ใดรับต้องปลง..โดยการสละทั้งหมด..แม้ให้ญาติก็ไม่ได้..ถ้าทำบ่อยๆเป็นการไม่ละอาย..เมื่อตายไป..จะไปเกิดในทุคติ
@@สะคราญเทศกิ่ม-ซ3ฌ อันนั้นเอาไว้สำหรับคนที่บวชด้วยความที่ว่า อยากสละซึ่งกิเลส เพราะอยากหลุดพ้น แต่ถ้า ยกตัวอย่างเช่น สามเณรที่บวชเรียนหนังสือ คือ ก็จำเป็นต้องใช่ปัจจัยเงิน เพื่อดำเนินการต่างๆ
สรุปตรงๆเลยไม่ต้องอ้อมไม่ต้องพุดไรมาก
ได้นะคะเพราะเป็นเงินยาทโยมเอามากินทานให้ถือเป็นเงินส่วนตัวส่วนเงินบริจากให้วัดโดยตรงถึงจะนำออกมาไม่ได้
ไช่ครับนับว่าคุณมีปัญญาครับ
ให้เป็นเงินส่วนตัว ก็จริงอยู่ แต่ก็ให้ในฐานะเป็นพระสงฆ์รูปหนึ่ง และสามารถใช้สอยได้ตามอัธยาศัย แต่..เมื่อสึกพระแล้ว ก็หมดสิทธิ์ใช้สอยทันที ต้องบริจาคเข้าวัดครับ เอาติดตัวมาไม่ได้ เปรียบเหมือนตอนเราเป็นพระ ก็สามารถฉันภัตตาหารกับสงฆ์ได้ตามปกติ แต่เมื่อสึก"เป็นฆราวาส"แล้ว ยังสามารถไปนั่งฉันร่วมกับพระได้หรือไม่ครับ? นั่นคือคำตอบปล.ถ้าจะพูดกันตรงๆตามธรรมวินัย ก็ผิดตั้งแต่ที่รับเงินแล้ว ป่วยการกล่าวไปใย ถึงการนำเงินติดตัวมา หลังการสึกนั่นเล่า
เราได้มาถวายให้พระหมดเลยค่ะ เราได้ศึกษาทางด้านพุทธศาสนาด้วยค่ะ
👍
มันผิดตั้งแต่รับเงินเข้ามาแล้ว ต้องประชุมสงฆ์จัดการ จะเอาไปทิ้ง หรือแลกสิ่งของเพื่อสงฆ์ สงฆ์เจ้าของเงินไม่ใมีส่วนในประโยชน์แห่งกิจกรรมที่สงฆ์ได้จัดกสรลงไป
โยมถวายปัจจัยพระ.
พระก็มอบปัจจัยให้วัด
ได้บุญต่อบุญ
เงินส่วนตัวได้ครับ เเต่เงินวัดไม่ได้
ถ้าถามว่านำออกมาได้ไหม?
ก็ต้องตอบว่า.....ในเมื่อรับได้ ก็ต้องเอามาใช้ได้
ตรงกันข้าม...คำสอนของพระพุทธเจ้า ท่านไม่ให้รับเงินมาไว้เป็นของส่วนตัว เว้นไว้แต่รับมาแล้วเอามาให้ไวยาวัจกรเก็บเพื่อเป็นทรัพย์สินส่วนรวม.....ฉะนั้น ถ้าปฏิบัติตามพระธรรมวินัยก็จะไม่มีเงินขณะลาสิกขาออกมา..... แต่ถ้าหากบวชเพื่อไปหาเงิน ทำไมจะเอาเงินออกมาไม่ได้
หลวงพ่อฤกษีลิงดำท่านกล่าวไว้ว่า ญาติโยมท่านให้พระตอนเป้นสงฆ์นี้คือเจตนาของผุ้ให้เพื่อให้ท่านครองเพศบรรพชิต เขามิได้มีเจตนาให้ ท่านเมือท่านสึกออกมาเป้นบุคคลธรรมดา
ข้อมุลเหล่านี้ไม่ควรให้คนธรรมดามาวิจารณ์เพราะเรื่องทางโลกต่างจากเรื่องทางธรรม ทางโลกก้ออ้างเรื่องกฎหมายเป้นตัวบัณญัติต้องตามกฎหมาย ขนาดเรื่องทางโลกยังเลี่ยงบาลี กันเลย จะเอามาตราฐานทางโลกมาคิดแบบทางธรรมมันคนละเรื่องกัน
ได้สิเพราะเงินที่ได้มาเป็นเงินบริสุทธิ์ จากกิจนิมนต์และได้รับจากปัจจัยที่โยมถวายให้เป็นปัจจัยสามารถสะสมเก็บได้เมื่อสึกออกไปสามารถเอาไปได้เพราะเป็นสิทธิ์ของตัวเองหรือสามารถให้กับพ่อแม่พี่น้องลูกหลานของเราก็ได้ไม่ผิด
ไม่ผิดครับ มันแล้วแต่บุคคลนั้นเอง เมื่อสึกจากพระไปแล้ว ยังเป็นของเรา แต่บางคนไม่เอาก็ได้ ทำบุญกุศลให้ต่อส่วนรวมได้ นอกจากเอาเงินวัดไป เท่านั้นแหละ! บาปไม่ดีแน่นอน
นี้มันเป็นความเห็นของญาติโยมจริงแล้วในพระวินัยพระพุทธเจ้าทรงบัติยัติเอาไว้ว่าภิกษุรับก็ดีให้ผู้อื่นรับก็ดีซึ่งเงินและทองทั้งรูปิยะและกะหาปะนะเป็นอาบัตินิสสัคคีปราจิตตีย์พระสงฆ์ที่ท่านเคารพต่อพระธรรมวินัยจริงๆนั้นท่านจะไม่รับเงินรับทองเลยนะพระจะรับเฉพาะปัจจัย๔เท่านั้นไม่ว่าสายธรรมยุดหรือมหานิกายก็รับเงินไม่ได้หรอกนะไม่ว่าจะรับมาด้วยกรณีใดๆก็ตาม
พอสึกออกมาก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไป
เงินนั้นก็สามารถ ใช้ได้เหมือนคนปกติทั่วไป
ได้เอาไปซื้อข้าวกินใช้สอยตาม อัธยาศัยไม่มีใครจับ
สึกเเล้วไปอีกได้ไหม
อาวเงินมาเผาพระ
ดีกว่าเอาข้าวมาเผาโยมะ
มันเป็นเงินที่ได้มาอย่างไร เขาถวายวัด หรือถวายให้ใช้ส่วนตัว
ได้ครับ เมื่อรับมาจากญาติโยมแล้วเมื่อตอนเป็นพระภิกษุสามเณรได้ใช้หรือไม่ได้ใช้ ถ้าสึกออกมาเงินนั้นก็ยังเป็นของ เรา ถ้าเราไม่เอาเลยเมื่อสึกออกมาแล้ว โลกพายนอกจะอยู่ทำมาหากินได้ ก็ต้องใช้เงินอยู่ดี เพราะมันจำเป็นเลยใช้ได้ครับ. แต่ถ้าตอนบวช มีศิล คือ ห้ามจับต้องเงิน เพราะเงิน เป็นกิเลส เราจึงตั้งใจในการบวชเป็นอย่างดี พอสึกออกมา เป็นคนธรรมดาชาวบ้านทั่วไป เงินนั้นก็ยังมีค่าและจำเป็นในการอยู่ใช้มัน
แต่ผึดพระวินัย..เป็นโทษ
@@สะคราญเทศกิ่ม-ซ3ฌ คุณอธิบายให้ผมฟังหน่อยครับ ว่า เป็นโทษยังไงบ้าง 😏
@@สะคราญเทศกิ่ม-ซ3ฌ แค่ ผิดก็เขียนไม่ถูก 😅😅 เด็กมาเม้นหรือเปล่าเนี้ย
@@ภูริณัฐ-ฝ1ท พระวินัยมีว่า...ภิกษุในธรรมะวินัย..ไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง..ผู้ใดรับต้องปลง..โดยการสละทั้งหมด..แม้ให้ญาติก็ไม่ได้..ถ้าทำบ่อยๆเป็นการไม่ละอาย..เมื่อตายไป..จะไปเกิดในทุคติ
@@สะคราญเทศกิ่ม-ซ3ฌ อันนั้นเอาไว้สำหรับคนที่บวชด้วยความที่ว่า อยากสละซึ่งกิเลส เพราะอยากหลุดพ้น แต่ถ้า ยกตัวอย่างเช่น สามเณรที่บวชเรียนหนังสือ คือ ก็จำเป็นต้องใช่ปัจจัยเงิน เพื่อดำเนินการต่างๆ
สรุปตรงๆเลยไม่ต้องอ้อมไม่ต้องพุดไรมาก
ได้นะคะเพราะเป็นเงินยาทโยมเอามากินทานให้ถือเป็นเงินส่วนตัวส่วนเงินบริจากให้วัดโดยตรงถึงจะนำออกมาไม่ได้
ไช่ครับนับว่าคุณมีปัญญาครับ
ให้เป็นเงินส่วนตัว ก็จริงอยู่ แต่ก็ให้ในฐานะเป็นพระสงฆ์รูปหนึ่ง และสามารถใช้สอยได้ตามอัธยาศัย แต่..เมื่อสึกพระแล้ว ก็หมดสิทธิ์ใช้สอยทันที ต้องบริจาคเข้าวัดครับ เอาติดตัวมาไม่ได้ เปรียบเหมือนตอนเราเป็นพระ ก็สามารถฉันภัตตาหารกับสงฆ์ได้ตามปกติ แต่เมื่อสึก"เป็นฆราวาส"แล้ว ยังสามารถไปนั่งฉันร่วมกับพระได้หรือไม่ครับ? นั่นคือคำตอบ
ปล.ถ้าจะพูดกันตรงๆตามธรรมวินัย ก็ผิดตั้งแต่ที่รับเงินแล้ว ป่วยการกล่าวไปใย ถึงการนำเงินติดตัวมา หลังการสึกนั่นเล่า
เราได้มาถวายให้พระหมดเลยค่ะ เราได้ศึกษาทางด้านพุทธศาสนาด้วยค่ะ
👍
มันผิดตั้งแต่รับเงินเข้ามาแล้ว ต้องประชุมสงฆ์จัดการ จะเอาไปทิ้ง หรือแลกสิ่งของเพื่อสงฆ์ สงฆ์เจ้าของเงินไม่ใมีส่วนในประโยชน์แห่งกิจกรรมที่สงฆ์ได้จัดกสรลงไป