ภาพเก่าชาวอุบลราชธานี ชุดที่ 1 ระหว่างปี พ.ศ. 2479-2481
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 14 ก.ค. 2022
- *สวัสดีครับ บัญญัติ คำประภา เสนอ ภาพเก่าชาวอุบลราชธานี ชุดที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2479-2481 เชิญย้อนอดีตรับชมไปด้วยกัน ครับ...
อุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันเฉียงเหนือ หรือภาคอีสานของประเทศไทย มีประวัติศาสตร์มายาวนาน โดยมีหลักฐานทั้งประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่เก่าแก่ เช่น ภาพเขียนสีที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและสวยงามหลายแห่ง มีประเพณีที่สำคัญและขึ้นชื่อของจังหวัดคือ แห่เทียนพรรษา
-ปี พ.ศ. 2335 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช(รัชกาลที่ 1) โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ “พระประทุมสุรราช หรือท้าวคำผง บุตรเจ้าพระตา กับนางบุศดี” เป็น “พระประทุมวรราชสุริยวงศ์” ครองเมืองอุบลราชธานี พร้อมกับยกฐานะ “บ้านห้วยแจระแม” (ปัจจุบันคือ บริเวณบ้านท่าบ่อ) ขึ้นเป็น “เมืองอุบลราชธานี” เมื่อวันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม 2335 ตรงกับแรม 13 ค่ำ เดือน 8 ปีชวด จุลศักราช 1154 คริสต์ศักราช 1792
คำขวัญประจำจังหวัดอุบลราชธานี คือ “เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา
ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์”
ไปดูภาพเก่าชาวอุบลราชธานี ในอดีตกันครับ...
*คำอธิบายภาพเรียงตามลำดัง ดังนี้...
-ภาพที่ 1 บรรยากาศร้านค้าห้องแถวในตลาด ที่ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2479
-ภาพที่ 2 บรรยากาศร้านค้าห้องแถวในตลาด ที่ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2479
-ภาพที่ 3 ผู้หญิงนั่งต่ำหูกทอผ้าฝ้าย โดยมีลูกน้อยยืนอยู่ด้านข้าง ที่ บ้านห้วยทราย อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันบ้านห้วยทราย ต.สร้างนกทา อ.เมืองอำนาจเจริญ ขึ้นกับจังหวัดอำนาจเจริญ โดย อ.อำนาจเจริญ แยกตัวจากจังหวัดอุบลราชธานี มาจัดตั้งเป็นจังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2536 ตรงกับวันพุธ แรม 3 ค่ำ เดือน 12 ปีระกา
-ภาพที่ 4 ชายวัยกลางคน นุ่งผ้าไหมถือผ้าขาวม้า ด้านหลังเป็นรั้วไม้ธรรมชาติ ที่ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2481
-ภาพที่ 5 บ้านเรือนชาวบ้าน โดยมีเกวียนจอดอยู่หน้าบ้าน ที่ชุมชนในตัวเมือง อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2479
-ภาพที่ 6 รถยนต์สำรวจของคณะ ดร. โรเบิร์ต ลาริมอร์ เพนเดิลตัน(Dr. Robert Larimore Pendleton) นักวิทยาศาสตร์ทางดินและการเกษตร ชาวอเมริกัน เจ้าของภาพ ท่ามกลางป่าไม้ต้นน้อยใหญ่ ที่ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2481
-ภาพที่ 7 บรรยากาศบ้าน ที่ทำงาน รถยนต์ ถนนในตัวเมือง ที่ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2479
-ภาพที่ 8 สองตายาย และชายหนุ่มชาวบ้าน พร้อมกระสอบข้าว นั่งรอเรือ โดยสาร ที่ท่าเรือริมฝั่งแม่น้ำมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2479
-ภาพที่ 9 ชาวบ้าน กำลังเดินไปขึ้นเรือโดยสาร ที่ท่าเรือแม่น้ำมูล เส้นทางระหว่าง อ.พิบูลมังสาหาร ไปตัวจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2479
-ภาพที่ 10 ชาวบ้านกำลังเดินอยู่บนถนน ท่ามกลางป่าและต้นไม้สองข้างทาง ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ของตัวเมืองอุบลราชธานี เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2481
ขอบคุณที่ติดตามและรับชม โปรดติดตามตอนต่อไป สวัสดีครับ
*เครดิต ขอบคุณ...
ดร. โรเบิร์ต ลาริมอร์ เพนเดิลตัน(Dr. Robert Larimore Pendleton)
นักวิทยาศาสตร์ทางดินและการเกษตร ชาวอเมริกัน
University of Wisconsin-Milwaukee Libraries, ประเทศไทย 2479-2481
Wisuwat Buroot, เมืองไทยในอดีต, เว็บไซต์จังหวัดอุบลราชธานี
........................................................
เพ็ญประภา คำประภา : รวบรวมข้อมูล
บัญญัติ คำประภา : สร้างสรรค์/นำเสนอ
ติดตามผลงานได้ที่ช่อง TH-cam : บัญญัติ คำประภา
ขอบคุณที่ติดตามและรับชมครับ
ภาพโดย ดร. โรเบิร์ต ลาริมอร์ เพนเดิลตัน (Dr. Robert Larimore Pendleton) นักวิทยาศาสตร์ทางดินและการเกษตร ชาวอเมริกัน ซึ่งเข้ามาปฏิบัติงาน ในฐานะที่ปรึกษาของกรมเกษตรและการประมง กระทรวงเกษตราธิการ. University of Wisconsin-Milwaukee Libraries, ประเทศไทย 2479-2481
นำมาเผยแพร่ : Wisuwat Buroot, เมืองไทยในอดีต
"... ขอบคุณ.. ค่ะ เจ้าของภาพ, เรื่องราวอุบลราชธานี.. ค่ะ ".. ****'..
สวัสดีค่ะเป็นคนอุบลค่ะเป็นคนพิบูลมังสาหารจ้าแต่ตอนนี้มาอยู่กรุงเทพตั้งแต่12ขวบคิดถึงอุบลจ้า
จัวหวัดอุลบราชธานีนน่าจะมีมาตั้งสมัยกรุงรัตนโกสิทร์ตอนต้นหรือเปล่ามิอาจทราบได้.แต่ที่แน่นอนชาวพื้นเมืองครอบคลุมพื้นที่จังหวัดทั้งหมอและมีบางส่วนแยกเป็นจังหวัดมีบ้างในชื่อจังหวัดตั้งใหม่.แต่ถือว่าเป็นสายเลือดชานิพันธุ์เดียวกัน.จากประเทศลาว.เราภูมิใจในเอกลักษณ์ชาวอุบลราชธานี.
ลูกหลานชาวอุบลพึ่งได้เห็นภาพในอดีต ขอขอบคุณมากๆครับ
ตัวข่อยอยู่เดชเด้อจ้า
เป็นบุญตาที่ได้เห็น
เป็นบุญตาที่ได้ชมภาพ
ในยุคนั้นครับ ขอบคุณ
ที่นำเสนอและลงให้ชม
ครับ
ดูแล้วนึกถึงอดีตเมื่อตอนยังเด็ก ดูไปดูมาคิดถึงแม่เฉยเลย 555 น้ำตาซึมนิดๆ คิดถึงพ่อกับแม่ แม่เสียผมอายุ 10 ขวบ พ่อเสีย ผมอายุ 16 ขวบ
ขอบคุณที่นำภาพหาดูยากมาให้ชม
คนเราเกิดที่ไหนก็รักบ้านเกิดกันทุกคนค่ะ
กดติดตามแล้วจ้า
ขอบคุณครับ
2480....น่าจะเป็นเทรนแฟชั่นแนวๆ เหมือนปัจจุบันนี้คัก..ผช.ใส่เสื้อไม่ชอบกัดกระดุม ผญ.ก็ใส่เสื้อมักกะแหล่ง...หรือผ้ารัดอก...ก็แฟชั่นในปัจจุบันดีๆนี้เอง....ป้าดแปลว่าเจริญมาแล้ว 70-90ปี.....สุดยอดครับ
ขอบพระคุณมากๆๆค่ะเป็นบุญเป็นที่ได้เห็นภาพค่ะ
ขอบคุณมากที่นำภาพเก่ามาให้ดูชอบมากจ้า
แม่ผมเดินทางมากับคาราวานจากปากเซก้อผ่านอุบลปี2480ตอนนั้นแม่อายุ6ปีครับ
🟡ภาพเก่าตั้งแต่ยังไม่ทันเกิด🐃🐃🐃
ป๊าดๆ พิบูลบ้านผมคือเปลี่ยนไปหลายคักแท้ เวลาขับรถพายายทวดเข้าพิบูลเคยได้ยินแต่ยายทวดเว้าให้ฟังว่าแถวนี้มีแต่ป่า กับทางเกวียน
ปี 2480 คนสนัยนั้น การแต่งตัวเรียบง่าย ผู้ชายจะนุ่งผ้าสโล่งใส่เสื้อหม้อฮ่อม ส่วนผู้หญิงนุ่งผ้าถุงผ้าขาวม้าคลาด อกหรือเสื้อคอกระเช้า เด็กน้อยอายุแปดขวบยังแก้ผ้าวิ่งเล่นอยู่เลยเด็กสิบขวบใส่กางเกงขากกชุบมะเกือผ้าขาวม้ามัดเอวไว้เพื่อไม่ให้กางเกงหลุดหญิงสาวใส่ผ้าถุงบางๆไม่ใส่กางเกงใน เดินผ่านกลิ่นสาวสาบสางบวกกับกลิ่นตัวเปรี้ยวๆชวนให้มองตาม ได้ยินคนเฒ่าคนแก่เล่าให้ฟังเวลาไปอาบน้ำบ่อผู้หญิงอยุสิบสองสิบสามแก้ผ้าอาบน้ำกัน ตอนค่ำเวลาหกโมงครึ่งทุกวันถ้าวันไหนเป็นคืนเดือนหงายเห็นหมดเลยโดยเฉพาะตรงหว่างขาสีดำๆ
ขอบคุณที่เล่าให้ฟังครับ
@@bunyat2009 นึกถึงตอนผมเป็นเด็กไปเลี้ยงควาย มีทั้งหญิงและชาย วันนั้นมีงานบุญผะเหวดกลางคืนมีหมอลำ ผู้สาวเลี้ยงควายดูหมอลำทั้งคืน กลางวันมาเลี้ยงควาย นอนหลับอยู่เถียงนา ผ้าถุงถลกขึ้นโดยไม่รู้สึกตัวเพื่อนชายรุ่นพี่เรียกผมมาดูของดีผมไม่รู้จะทำอย่างไรดีกำดินทรายมาโรยใส่เต่าดำเพราะมันเขี้ยว
คำพูด ไม่น่าศรัทธาพูดไม่รู้จักความเหมือนคนไม่รู้จักศิลห้า
ยังเป็น.ลม.เป็นแล้ง..ยุ.ครับ55
ภาพทั้งหมดคืออดีต จะย้อนไปได้แคนึกถวิลดูหลังจากผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วสำหรับคนเกิดยุคปี ๒๔๗๑ ถึง ๒๕๐๙ คาดว่ายังนึกถึงเป็นภาพที่เคยเห็นจริงที่เกิดขึ้นซึ่งยังไม่ลืมกัน ขอขอบคุณผู้ทำรายการนี้มาให้ชมและให้ความรู้ไว้นะครับ🙏❤️💕🎶
หนูเกิดที่อุดร อำเภอบ้านดุง
น่าสนใจมาก ค่ะ
ทำไมไม่มีอำเภอตระการพืชผลเลยล่ะครับคนตระการรอดูอยู่ครับ ตระการพืชผลก็เป็นอำเภอในจังหวัดอุบลเหมือนกันนะครับ แถมยังเป็นอำเภอใหญ่ด้วย
ขอบคุณครับ...อ.พิบูลดูๆแหลุช่วงนั้นเจริญกว่าอ. เดชอุดมน้ะ
คำขวัญยังไม่ครบครับ
“เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์ ฉลาดภูมิปัญญาท้องถิ่น ดินแดนอนุสาวรีย์คนดีศรีอุบล”
ขอบคุณครับ
ภาพที่หาดูยากเป็นความทรงจำจากอดีตที่คิดถึง
ชอบครับ
ขอขอบคุณท่านผู้ที่หาภาพเหล่านี้มาให้ได้ชมกัน
ขอบคุณเจ้าของเรื่อง
ยังไม่เกิดเลยเรา
มีแต่พิบูลบ้านเกิดเราเอง
ร่มรื่นเย็นสบายดีหนอสมัยนั้น.สมัยนี้ไม่มีแอร์/พัดลม นอนไม่ได้แน่ๆ5555
สมัยก่อนก็ร้อนแต่มันไม่มีข้อเปรียบเทียบ ระหว่างมีเครื่องช่วยให้เย็น เป็นแบบไหน คนสมัยนี้ติดสบาย พอเห็นภาพก็จะบอกอยู่สบายเรียบง่าย ขอบอก สมัยนี้ดีที่สุด จะกินอะไรก็ได้กิน เพียงแต่ไม่รู้จักพอในจิตใจ เห็นคนอื่นมีก็อยากมีตามต่างหาก
ถ้าโดยสารเรือจาก อ.พิบูลฯ ไปยังตัว จ.อุบลฯ ต้องใช้เวลาเดินทางนาน กี่ชั่วโมงครับ เพราะโดยปกติถ้าเป็นรถโดยสารประจำทางจะใช้เวลาโดยสารประมาณ 1 ชั่วโมง
ร้านค้ามีแต่ภาษาจีน ไม่แปลกใจ ตามย่านใจเมืองต่างๆแต่ละจังกวัดแต่ละอำเภอ จะเป็นย่านพ่อค้าคนจีนจนถึงปัจจุบัน เขาค้าขายเก่งจริงๆ
ชีวิตมนุษย์นี้สั้นนัก เคยถามตัวเองรึเปล่า ว่าอะไรคือเหตุผลของการมีชีวิตอยู่
ไช่ครับ.แล้วเราเกิดมาจากอะไร.ทำไมเราต้องเกิดมา.แล้วเราจะไปไหนต่อ
ของอนุญาตถามครับ ทำไมนามสกุลพี่ เหมือนนามสกุลยายผม
กาลเวลาผ่านไปเหลือไว้เพียงรูปถ่าย
มีเว็บโหลดไหมคับ
ตั้งแต่ผมยังไม่เกิดเลยครับสุดยอดมาก
ย้อนไปอีกคงไม่มีผ้านุ่ง
เป็น ,venich
อำเภอ.ยโสธร.อยู่ใหน.ไม่มีภาพให้ดูบ้าง