กิเลสไม่มีวันออกพรรษา - ครูบาแหวง

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 5 ม.ค. 2025

ความคิดเห็น •

  • @หนทางการไถ่บาป
    @หนทางการไถ่บาป ปีที่แล้ว +1

    กราบสาธุได้รับประโยชน์ตรงนี้มหาศาลเลยครับสาธุๆ

  • @บัวพาไชยโคตร์-ฅ6ล
    @บัวพาไชยโคตร์-ฅ6ล ปีที่แล้ว +1

    (5 )
    ❤ จิตหนึ่ง หรือธาตุรู้ หรือนิพพานธาตุ หรืออมตะธาตุ ที่เป็นอิสระ ปลอดภัยจากการครอบงำของสมมุติในสามแดนโลกธาตุแล้ว / มันรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง(สรรพสิ่ง ) ที่เข้ามากระทบ ในทุกปัจจุบันขณะ แต่มันวางหมด / สติปัญญาอัตโนมัติมันวาง ไม่ใช่เราวาง
    ❤ ที่ว่าจิตเกิดดับนั้น / หมายถึงจิตที่มันหลงเป็นไปไหลไปตามสมมุติ ประกอบอยู่กับสมมุติ , มีตัณหาสามเป็นเครื่องผูกล่ามพันธนาการ / บางทีเรียกจิตอวิชชา จิตสังขาร จิตเจตสิก จิตวิญญาณ / จิตประเภทนี้จะบันทึกซ้อนๆ กันไว้อยู่ในสัญญา กลายเป็นภพชาติต่างๆในโลกียะภูมิ
    ❤ ภูมิ คือที่อยู่ของจิต / ถ้าจิตตั้งอยู่กับสมมุติตัวใดตัวหนึ่ง โดยมีตัณหาเป็นเครื่องผูกล่าม / เรียกจิตอวิชชา ที่ต้องไปเกิดในโลกียะภูมิ / ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ว่า " โลกมีตัณหาสามเป็นเครื่องนำจิตไป ผลักไสจิตไป "
    ถ้าจิตหนึ่ง เป็นอิสระแล้ว / ก็อยู่ในโลกุตรภูมิ หรือนิพพาน คืออยู่ในตำแหน่งที่ความทุกข์หยั่งลงไม่ถึง

  • @บัวพาไชยโคตร์-ฅ6ล
    @บัวพาไชยโคตร์-ฅ6ล ปีที่แล้ว +1

    (2 )
    ❤ เจริญสติจนชำนาญ , ฝึกสติปัฏฐานสี่ เพื่อละไตรลักษณ์ไปพร้อมกัน / ต่อไปมันก็จะพัฒนาเป็นสติปัญญาอัตโนมัติ คือมันเริ่มปฏิวัติตัว ไปในทางของมรรคแปด / จิตมันวางความคิด วางความกังวล , วางเวทนาสาม วางตัณหาสาม , รู้ลมวางลม รู้รูปวางรูป / กลายเป็นจิตหนึ่งขึ้นมา (เอโกธัมโม) ขั้นนี้มีสติปัญาอัตโนมัติ แยกรูป แยกนาม สลัดกิเลสอาสวะได้ด้วยตัวของมันเอง.....จิตมันเห็นชอบ(มีสัมมาทิฏฐิ) , จิตมันดำริชอบ ด้วยตัวของมันเอง(สัมมาสังกัปปะ )โดยไม่มีเราเข้าไปแทรกแซง

  • @ffst6193
    @ffst6193 ปีที่แล้ว

    นอบน้อมจิตกราบ สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ

  • @บัวพาไชยโคตร์-ฅ6ล
    @บัวพาไชยโคตร์-ฅ6ล ปีที่แล้ว +1

    (4 )
    ❤ ไม่ได้ยึดสิ่งถูกรู้(ความรู้)ว่าเป็นเรา , ไม่ได้ยึดธาตุรู้ (การรู้ )ว่าเป็นเรา แม้ธาตุรู้ก็ไม่ได้ยึดตัวมันเอง (อุปาทานดับสนิท) ไม่มีความอยากรู้อยู่ในธาตุรู้ มันรู้ของมันได้เอง (ตัณหาดับสนิท )....ระลึกชาติได้ เห็นนิมิตต่างๆ ก็ไม่ติดไม่ข้อง ทราบแล้ว เข้าใจแล้วผ่านไปๆๆๆ...รู้ลมก็ไม่ได้ยึดลม...รู้สบาย แต่ก็ไม่ได้ยึด / มีแต่การรู้ ที่ปล่อยผ่านหมด สลัดคืนหมด จึงส่งผลให้เกิดความหลุดพ้น (วิมุติ , ความพ้นทุกข์ , นิพพาน )

  • @บัวพาไชยโคตร์-ฅ6ล
    @บัวพาไชยโคตร์-ฅ6ล ปีที่แล้ว +1

    (3 )
    ❤ หายใจเข้ารู้...หายใจออกรู้ / ไม่ต้องอยากได้นิพพาน ...ไม่ต้องอยากให้บรรลุธรรมไวๆ....ให้มันสงบเอง อย่าไปอยากเร่งรัดให้มันสงบไวๆ...มันเป็นเรื่องที่เร่งรัดไม่ได้
    อย่าไปยุ่งกับอดีต อนาคต / ปัจจุบัน ให้จิตมันอยู่กับลม / ต่อไปความสุขุมเยือกเย็นสงบใจ ก็จะเกิดขึ้นมา / เอาความสงบมาเป็นเครื่องอยู่ของจิต จิตมีความสงบเป็นวิหารธรรม , มีความสงบหล่อเลี้ยงจิต / จิตที่ตั้งมันอยู่กับความสงบ ต่อไปก็จะพัฒนา ไปเป็นสติปัญญาอัตโนมัติ คือเห็น และทิ้งขันธ์ห้าเองของมัน , มีปิติ สุข เกิดขึ้นมาหล่อเลี้ยง ให้รู้สึกสบายกาย สบายใจเด่นขึ้นๆ , ความนึกคิดไปในสัญญาอารมณ์จะน้อยลง , ความคิดไปในอารมณ์โลภ โกรธ หลง (มโนกรรมสาม) ก็จะน้อยลงๆ / ความกังวล ความสงสัย ลดลงๆ
    ❤ จิตที่ตั้งมั่นในลมได้ดีแล้ว / มันจึงจะเห็นรูปนามเกิดดับๆๆๆ / แล้วจะเหลือแต่รู้เด่นที่มันเป็นอิสระ ที่สุข ทุกข์ สงสัย กังวล ยินดี ยินร้าย เข้ามาครอบงำเสียดแทงไม่ได้ / กลายเป็นธาตุรู้ ที่ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่เราเขา ไม่ใช่เทวดา ไม่ใช่พระพรหม ....ไม่ยึดถือรูปนามสมมุติ ที่มีอยู่ในสามแดนโลกธาตุ / แม้ความนึกคิดปรุงแต่ผ่านมากระทบ ก็ผ่านไปๆๆๆไม่ได้สำคัญมั่นหมาย

  • @Ihavenofeeling0
    @Ihavenofeeling0 ปีที่แล้ว

    กราบสาธุค่ะ

  • @บัวพาไชยโคตร์-ฅ6ล

    (1 )
    ❤ ปริยัติ ก็คือทฤษฎี / เรียนจบพระไตรปิฎก ก็เท่ากับได้แผนที่แล้ว....ไม่ใช่ได้แผนที่แล้วโมเมว่าจบกิจน่ะ / ส่วนฝึกสมถะ , ฝึกวิปัสสนา ก็คือได้เริ่มออกเดินทางแล้ว เพื่อจะให้ถึงเป้าหมาย ที่ได้ระบุไว้ในแผนที่
    ❤ ฝึกสมถะ หรือการเจริญสติ ก็เพื่อแก้ไขความคิดวิตกกังวล ไปในเรื่องทางโลก...เพื่อให้ความวิตกกังวล มันสงบระงับลง.......รู้เด่นอยู่ในลมหายใจเข้า หายใจออก