ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
🙏อยากพ้นทุกข์ต้องปฎิบัติ : หลวงเยื้อน ขันติพโล👉th-cam.com/video/KiK0YlvFFPs/w-d-xo.html🙏ปกติของศีล : หลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล👉th-cam.com/video/d1BU-_yF8X8/w-d-xo.html
ย
ไ
ล
กราบ อนุโมทนา สาธุใน พระธรรมคำสอนครับ ข้าพเจ้าขอ นอบน้อมต่อพระสงฆ์ผู้เป็นสุปฏิบันโน ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ หลวงพ่อเยื้อน ขันติพโลครับ
น้อมอนุโมทนาสาธุ
น้อมกราบนมัสการสาธุเจ้าคะ
สาธุ สาธุ สาธุ ... ครับ
โมทนาสาธุๆๆ ผมฟังเข้าใจอยู่แต่ยังทำไม่ได้จึงขอพรหลวงพ่อช่วยผมด้วยครับ สาธุๆๆ
สาาาธุสาาธุสาธุ
@ หายใจเข้าลึกๆ ลมไปสุดตรงหน้าท้องตรงสะดือ แล้วจำไว้ตรงนั้น... มันไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เราก็ต้องเพียรพยายามฝึก / เอาจิตกับสติมาระลึกรู้อยู่ตรงนี้ให้มันแม่นๆ ได้นานๆ 5 นาที 10 นาทีขึ้นไป ต่อเนื่องกันไป มันจะรู้สึกจำตรงนั้นได้ชัดขึ้น ๆ แล้วจะรู้สึกได้ถึงความเยือกเย็น เบิกบาน / มันเย็นเพราะจิตมันตั้งมั่นอยู่ข้างในได้ดีแล้ว จิตมันไม่สนใจ ไม่ใส่ใจที่จะออกไปจำเรื่องข้างนอก ( สมาธิเกิด) ...... ความร้อนใจ , ความไม่สงบ เกิดจากจิตกับสติมันเปลี่ยนไปจำอยู่ข้างนอก (สมาธิดับ) ลมเข้าก็ระลึกรู้อยู่ที่หน้าท้องลมออกไม่ต้องตามมันออกมา / อย่างนี้เรียกว่าโอปนยิโก คือน้อมเอาจิตกับสติไปไว้ภายในกาย ไม่ให้มันว้อกแว้กส่งออกนอก / ที่เราไม่เห็นความเย็น ไม่เห็นความสงบ เพราะจิตกับสติมันไม่เคยตั้งมั่นอยู่ภายในได้นาน มันชอบหนีไปจำแต่สัญญาอารมณ์ที่เป็นเรื่องทางโลก ชอบหนีไปอยู่กับไฟไปอยู่กับของร้อน จะบริกรรมคำว่าพุทโธไปด้วยก็ได้ แต่ต้องให้จิตกับสติมันระลึกรู้ และจำอยู่บริเวณสะดือเอาไว้ให้ได้ / เมื่อจิตกับสติมันจำ และหยุดอยู่ตรงตำแหน่งนี้ได้นานๆ มันจะทำให้สัมผัสได้ถึงความสงบ / ที่ไม่สงบเพราะมันจำตำแหน่งนี้ไม่ได้นาน แล้วมันเปลี่ยนไปจำเรื่องราวในทางโลกแทน ถ้าจิตมันหยุดอยู่ภายในได้ ปัญหาต่างๆก็จะหมด ....มันทำให้จบกิจ / ความสุขก็จะเกิดขึ้น แต่ไม่ใช่ความสุขอันเกิดจากจิตอิงอาศัยรูปนามสมมุติในโลก , เมื่อจิตมันหยุด ความปล่อยวาง การสลัดรูปนามในโลกทิ้งไป ก็จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเสร็จสับอยู่ในตัวเอง จิตเราจริงๆมันคือความว่าง มันรู้ออกมาจากความว่าง / ถ้าจิตหรือธาตุรู้เคลื่อนออกจากความว่าง เปลี่ยนออกจากความว่าง มันก็จะไปรู้อยู่กับขันธ์ห้าทันที จิตบริสุทธิ์หรือธาตุรู้ หรือนิพพานธาตุ / มันจะรู้อยู่กับความว่าง มันไม่มีขันธ์ห้า ( ดังหลวงปู่ดุลย์ ท่านว่า จิตมี เหมือนไม่มี แต่ก็มีอยู่นั่นเอง / จิตเป็นนามธรรม ทำหน้าที่รู้อยู่ทุกวินาทีแต่มองไม่เห็นตัวมัน ) จิตที่บริสุทธิ์แล้ว( ธาตุรู้ ) มันรู้อยู่กับความว่าง (สุญญตา) ในความว่างไม่มีความรักชัง โกรธเกลียด / จึงไม่มีรูปนามสมมุติที่จะไปกลุ้มรุม เบียดเบียนครอบงำ เสียดแทงธาตุรู้ ใครอยากเห็นพระพุทธเจ้า , อยากนิพพานให้โอปนยิโก คือน้อมจิตเข้าไปข้างใน ความว่างสุญญตานี้ / ต้องให้จิตมันหยุดอยู่ข้างใน จนความว่างมันปรากฏขึ้นมาเองจึงจะถูกต้อง / ไม่ใช่ความว่างที่ไปสร้างขึ้นมาเองโดยการไปสะกดจิตไว้
โมทนาสาธุ แจ่มแจ้งมากครับหลวงพ่อ ผมเข้าใจตอนนี้เอง โมทนาครับสาธุๆๆ
ชอบฟังธรรมะของหลวงปู่มากค่ะ ตลกแต่แฝงแง่ธรรม ว่าแต่ทำไมโยมถึงกล้าเอาขรี้ใส่บาตรคะ ใจทำด้วยอะไร ตั้งใจฆ่าอีกต่อให้สงครามก็เถอะ เห้อ
ผมเข้าไปแล้วครับตอนตี3... ดิ่งๆๆๆไหลๆๆที่จุดนั้นผ่านเข้าไป.. แล้วสติแผ่ไปทั้งอณูของกายทั้งกาย..จิตส่งออกไม่ได้เลย.. แค่คิดจะส่งออกไปข้างนอกมันก้อดับ..ยังไม่ทราบเรื่องที่จะคิด..สุขๆๆๆหน่อ...บรรยายเป็นตัวอักษรไม่ได้เลยครับ.. ความสุขที่ไม่มีการปรุงแต่งเย็น เบาสบาย จิตยิ้ม จิตยิ้ม... ความสุขใดๆที่ผ่านมาไม่มีเทียบ..
สาธุสาธุคะ
สาธุค่ะ
ท่านทั้งหลายผู้ที่ฝึกฝนจิตจนเห็น กายนุปัสสนา จนแจ้งแล้ว จะเห็นจิต ที่เบาสบาย แต่จิตไม่ได้ว่าง จิตเพียง เกิดปัญญารู้เห็นตามความเป็นจริง จิตที่เข้าใจในเหตุในผลนั้นไม่ได้ว่างเหมือนกับอากาส แต่จิตนั้น ปล่อยวางแล้วในความเห็นผิดทั้งหลาย ท่านจึงเห็นสภาวะที่จิตไม่ได้ปรุงแต่งรูปนามขึ้นมา แต่จิตที่สงบอยู่ แปรเป็นธาตุรู้แทน เพราะเมื่อจิตไม่ได้ยึดติดในความเป็นตัวตนแล้ว รูป เวทนา สัญญา สัง และวิณญาณ จึงดับ เมื่อขันร์ ๕ดับความรู้แจ้งจึงปรากฎขึ้น จิตไม่ใช่ความว่าง แต่ จิตแปรสภาวะคือ ญาณหยั่งรู้แทนที่จิตที่มี อวิชชา เมื่อจิตเกิดญาณหยั่งรู้แล้ว จิตที่มี วิชา จึงหลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง แต่จิตยังไม่เข้านิพพานจิตต้องปล่อยวางธรรมทั้งหลายก่อน จิตจึงจะเข้าสู่นิพพานได้ และ ความบริสุทธิ์ของจิตจึงเกิดขึ้นคือ ไม่มีทุกข์ไม่มีสุขและไม่มีพอใจและพอใจไม่ยินดีไม่ยินร้ายในโลก ถอนอุทานขันร์ทั้ง ๕ออกสิ้นจนหมดเมื่อ อวิชชาดับสังขารทั้งหลายก็ดับลงไปด้วย เมื่อเหลือ ผู้รู้และผู้ถูกรู้อีกต่อไป จิตจึงเป็นอิสระกลับคืนสู่ธรรมชาติดั่งเดิม ที่ไม่มีการปรุงแต่ง ของบาป บุญกุศล เวรกรรม ขึ้นมาอีก เมื่อวิณญาณดับไป ภพชาติ ก็ไม่มีการ เกิดขึ้นมาอีก เพราะมีวิณญาณภพชาติจึงเกิดดังนี้แล 😊😊😊
ไม่เหลือผู้รู้และผู้ถูกรู้อีกต่อไป ปัญญาก็จะแปรสภาพไปเป็น ญาณหยั่งรู้ ดังนี้แลและเดินบนทาง มรรคผลมี องค์ ๘นั้นไปตลอดชีวติเพื่อรักษาจิตให้บริสุทธิ์อยู่ทุกขณะ ดังนี้แล เราเป็นผู้เห็นอมตธรรมแล้ว จึงอยากสอนธรรมที่ถูกต้อง แทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นการให้ธรรมทาน 😊😊😊 ที่สูงที่สุดในการให้ทั้งปวง ดังนี้
่นอ้มกราบหลวงตาเยือนเจ้าค่ะ
สาธุ ๆ โยม ภาวนา พุทโธ ๆ หายใบ ใจเบาวิ้ว และเวลา ภาวนา น้ำตาไหลออกมา จากโยม อินทธิลา มะเพชร แต่มีคน 3 คนชอบขัดขวงการปฏิบัติ ของโยม
สาธุครับ
กราบสาค่ะ
อนุโมทนาสาธุบุญกุศลธรรมสาธุ สาธุ สาธุอนุโมทามิครับ
สาธุ
น้อมกราบหลวงพ่อเจ้าค่ะ
กราบ สาธุ สาธุ สาธุ 17 มกราคม 256510.29 น.
สาธุเจ้าค่ะ
นอ้มกราบสาธุ
ข
น้อมกราบสาธุสาธุสาธึเจ้าคะหลวงพ่อ
น้อมจิตไปมีศีล สมาธิ.ปัญญาย่อมเห็นสังขารขันธ์ห้าตามความเป็นจริงคืออนัตตาถึงจะรู้จักสมมุติสัจจะแท้จริงส่วนจิตที่ถึงวิมุตติสัจจะคือโลกุตระธรรมจึงมึแต่ว่างโลกิยะคือสมุตติทั้งหมดจึงมีคำว่าสิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมีผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นตถาคตนี้เป็นคำแท้จริงเมื่อหลุดพ้นบ่วงมารคือชันธ์5แล้วจิตถึงนิพพานธาตุย่อมรู้ได้ว่าพ้นแล้วจากการเวียนว่ายตายเกิด
จิตมกมุนในกามกักขังแม่ชีสาวทีเป็นสารถีแต่นางไม่ยอมเรื่องเลยแดงจิตแบบนื้หรือว่าง จิตปองร้ายใส่ยาสังกับเด็กวัดจิตนี้หรือจิตว่าง จิตที่ไลเมตตาอุบาสกอุบาสิกาขอร้องให้ช่วยพระองค์ภาเพราะทุกคนรู้ร่วงหน้าว่าพระองค์จะมีภัยถึงให้ท่านหลับตาดูรู้แล้วเฉยเพราะว่าต้องให้แม่ชีสาวภาวนาร่วมกับบุบเพธรรมที่หลวงพ่อใสยาสังเขาเพื่อแก้ไขเกิดอาเพศสิ่งที่หลวงพ่อกับขณะคนชั้วได้สร้างไว้กับประเทศไทยบุบเพธรรมก็มีสัจจะรักษาศิลป์10ได้ขอให้เจ้าฟ้าหญิงปลอดภัยเขายืนยันแต่หลวงพ่อไม่ยอมจิตที่ขาดเมตตาจิตแบบนี้หรือ
ไม่เดือดร้อนกับคำใส่ร้าย นี่แหละจิตว่าง
🙇♀🙇♀🙇♀
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุ🙏🙏🙏
@ อยู่ในอิริยาบถทั่วไป ในรอบวัน / จิตก็ยังตั้งมั่นอยู่ภายใน อยู่กับความว่าง (สุญญตา ) จิตมีสุญญตาเป็นวิหารธรรม / จึงเกิดปิติ เบากาย เบาใจ เย็นใจ เบิกบานใจ , ไม่มีความทุกข์ คล้ายกับว่าความว่าง มันกลืนกินเราไปแล้ว มันไม่ค่อยคิดนึกไปถึงคนอื่น / รู้สึกเหมือนพระพุทธเจ้าท่านอยู่ตรงนั้น ซาบซึ้ง กราบเท่าไรก็ไม่สะใจ@ จิตที่เข้าไปตั้งมั่นในความว่างสุญญตาแล้ว / พยายามอยู่สี่ชั่วโมง ให้มันมาพิจารณากายหยาบ พิจารณาธาตุ 4 ว่าเป็นอนิจจังทุกขังอนัตตา มันก็ไม่ยอมออกมาพิจารณา และมีธรรมเอกโพลงออกมาว่า ธาตุสี่คือดินน้ำลมไฟ ไม่เกี่ยวกับจิต , ไม่มีดินน้ำลมไฟอยู่ในธาตุรู้ , ไม่มีกายหยาบของเราของเขาอยู่ในจิตบริสุทธิ์ / แค่มันรู้ออกมาจากความว่างเท่านั้นเอง พิจารณาทุกข์ ปรุงแต่งให้เกิดทุกข์ก็ไม่ได้ / เหมือนมันโดนล็อคไว้หมดเลย , รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็ไม่มีในจิตบริสุทธิ์ มันโดนล็อกหมด มันไม่ยอมพิจารณาขันธ์ห้าว่าเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาอีกเลย / นั่งภาวนาถึงตีสี่ จิตบริสุทธิ์ หรือรู้เด่น มันก็แน่วของมันอยู่ตลอด....สุดท้ายจิตมันหลุดพ้นออกจากขันธ์ห้า แล้วจิตมันพูดก้องขึ้นมาว่า " เราอิสระแล้ว ...เราไม่เป็นทาสของใครแล้ว....เราเป็นทาสของพระพุทธเจ้า....พระพุทธเจ้าเป็นนายของเรา "@ ในจิตบริสุทธิ์นั้นไม่มีคำพูดที่เป็นของโลกอยู่เลย (ไม่มีวาทะ ) , ในจิตบริสุทธิ์หรือรู้เด่นนี้ ไม่มีโลกอยู่เลย , ไม่มีรูปนามในส่วนอดีต อนาคตเข้ามาเกี่ยวข้อง / จึงเรียกว่าจิตถึงโลกุตตระแล้ว (จิตเหนือโลก) ถึงฝั่งนิพพานแล้ว ออกจากโลกียะภูมิได้แล้ว / ขั้นนี้จิตมันไม่เปลี่ยนแปลง กิเลสอาสวะมันไม่กำเริบอีก@ จิตที่หยุดอยู่กับความว่างแล้ว / ขันธ์ห้ามันจะไม่มาเกี่ยวกับจิตอีก@ วิปัสสนาสมาธิ / จิตบริสุทธิ์มันจะอยู่กับความว่าง / ถ้าจิตไปมีสมาธิตั้งมั่นอยู่กับสังขารแล้วมันก็จะไม่ว่าง@ จิตที่พัวพัน หมกมุ่นอยู่กับสังขาร มันก็เห็นแต่รูปนามเกิดดับอยู่อย่างนั้น / จิตถูกรูปนามครอบงำพาเวียนเกิดเวียนตายอยู่อย่างนั้น@ สังขาร มันร้อน มันเป็นไฟ / มันไม่เคยเมตตาใคร / จิตหรือธาตุรู้ไปอยู่กับมัน ก็ถูกมันเผาลนอยู่อย่างนั้น
สาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
การเข้าสุญญตาต้องเข้าด้วยวิปัสสนา..สามารถเข้าได้ครั้งเดียวคือครั้งแรก..ที่หลวงพ่อพูด..คือสุญญตาสมาธิเพียงแค่หลับตา...กิเลสที่เข้ามากระทบก็จะสลายไป..แต่ถ้ากรณีที่เข้าสุญญตาได้ตั้งแต่โสดาบันยังไงก็ต้องวิปัสสนาเพื่อให้กิเลสจางคลายเช่นอนุสัยและอาสวะทั้งหลาย🙏🙏🙏☯️
กราบสาธุๆๆ
กราบสาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
ฟังหลวงพ่อตลอดหลายๆรอบปิติเกิดสาธุๆๆๆขอน้อมบูชาธรรมใว้ในจิตในใจเจ้าค่ะ
ปิติอย่างเดียวคงไม่เพียงพอให้พ้นทุกข์ได้ สาธุครับ
ขอบพระคุณที่ท่านเมตตาบารมีนำทางแส่งสว่างให้ดวงจิตนี่พบทางกลับบ้านที่แท้จริง # สาธุ อนุโมธณา ทุกบุญ ด้วยเจ้าคะ
กราบ สาธุ ๆ ๆ ค่ะ
น้อมกราบ องค์หลวงพ่อเยื้อน..น้อมกราบสาธุๆๆธรรมะหลวงพ่อครับ..
🙏🙏🙏😇😇😇
@ ถ้าน้อมจิตไปไว้ข้างในได้ / ข้างนอกคือสังขารทั้งหลายก็จะหายไปเอง@ ถ้าจิตออกไปอยู่กับสังขารทั้งหลาย คือจิตอยู่ข้างนอก สุญญตาก็จะหายไป @ ถ้าจิตไปจมแช่อยู่กับอายตนนะภายนอกหก / นั่งสมาธิหลายชั่วโมงมันก็หาข้างในไม่เจอ@ ก่อนตายหลวงปู่ดุลย์ท่านว่าจิตท่านไม่มีอารมณ์ จิตท่านมันรู้อยู่กับสุญญตา / มันไม่ได้ไปรู้อยู่กับอายตนะภายนอกหก / จึงหมดเชื้อ ที่จะทำให้กลับไปเกิดในโลกียะภูมิ
🙏🙏🙏น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุเจ้าค่ะ
🙏🙏🙏
@ จิตของเราจริงๆมันไม่มีตัวตน ไม่มีรูปลักษณ์สันฐาน/เป็นนามธรรมที่อยู่กับความว่าง , จิตมันไม่มีขันธ์ / มันรู้ออกมาจากความว่าง / ที่คิดได้นั้น มันออกไปข้างนอกแล้ว@ จิตหยุดอยู่ที่ท้องมันจึงจะว่างได้ / จิตว่าง มันก็มีแต่ความว่าง@ ธาตุรู้ หรือจิตพุทธะ /เป็นนามธรรมที่ไม่มีตัวตน/ หลวงปู่ดุลย์ท่านว่า " จิตมี เหมือนไม่มี แต่ก็มีอยู่นั่นเอง " จิตไม่มีรูปร่างให้เห็น แต่สัมผัสได้ว่ามันทำหน้าที่รู้อยู่ทุกวินาที มันบริกรรมทพุทโธอยู่ วินาทีต่อวินาที มันรู้อยู่ทุกกองลมเข้า ทุกกองลมออก
พระพุทธเจ้าสอนแบบนี้จริงๆรึ?
สาธุสาธุสาธุ.🙏
กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ
กราบสาธุครับ
กราบสาธุสาธุเจ้าค้าโยมนากราบสาธุบูชาธรรมอันประเสริฐสาธุ
น้อมสาธุในธรรมเจ้าคะสาธุ
กราบสาธุๆๆค่ะ
สาธุๆๆครับ
น้อมกราบสาธุครับ
น้อมกราบสาธุค่ะอนุโมทนาบุญค่ะสาธุๆๆ
น้อมกราบสาธุๆค่ะ🙏🙏🙏
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุในพระธรรมคำสอนด้วยเศียรเกล้าเจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุๆๆคะ
ขอน้อมกราบขอบพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูงสุดเจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุรับแล้วได้แล้วขอบพระคุณพระจ้าค่ะบันทึกการเข้าใจ
กราบอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุเจ้ค่ะได้ฟังแล้วมีความปิติจิตเบากายเบาเบาได้อย่างบอกไม่ถูก
ขอน้อมนำคำสอนของหลวงพ่อไว้ด้วยเศียรเกล้า🙏
แล้วก็หาเจอจนได้นี่แหละคือของจริงอยู่ตรงกลางระหว่างกายอยู่นิ่งๆเงียบๆอันนี้คือของแท้ไม่ต้องไปหาอะไรอีกแล้วกราบหลวงพ่อ
น้อมกราบสาธุในธรรมของหลวงปู่เจ้าค่ะ
กราบนมัสการหลวงพ่อเจ้าค่ะสาธุเจ้าค่ะ
🙏อยากพ้นทุกข์ต้องปฎิบัติ : หลวงเยื้อน ขันติพโล
👉th-cam.com/video/KiK0YlvFFPs/w-d-xo.html
🙏ปกติของศีล : หลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล
👉th-cam.com/video/d1BU-_yF8X8/w-d-xo.html
ย
ไ
ล
กราบ อนุโมทนา สาธุใน พระธรรมคำสอนครับ ข้าพเจ้าขอ นอบน้อมต่อพระสงฆ์ผู้เป็นสุปฏิบันโน ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ หลวงพ่อเยื้อน ขันติพโลครับ
น้อมอนุโมทนาสาธุ
น้อมกราบนมัสการสาธุเจ้าคะ
สาธุ สาธุ สาธุ ... ครับ
โมทนาสาธุๆๆ ผมฟังเข้าใจอยู่แต่ยังทำไม่ได้จึงขอพรหลวงพ่อช่วยผมด้วยครับ สาธุๆๆ
สาาาธุสาาธุสาธุ
@ หายใจเข้าลึกๆ ลมไปสุดตรงหน้าท้องตรงสะดือ แล้วจำไว้ตรงนั้น... มันไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เราก็ต้องเพียรพยายามฝึก / เอาจิตกับสติมาระลึกรู้อยู่ตรงนี้ให้มันแม่นๆ ได้นานๆ 5 นาที 10 นาทีขึ้นไป ต่อเนื่องกันไป มันจะรู้สึกจำตรงนั้นได้ชัดขึ้น ๆ แล้วจะรู้สึกได้ถึงความเยือกเย็น เบิกบาน / มันเย็นเพราะจิตมันตั้งมั่นอยู่ข้างในได้ดีแล้ว จิตมันไม่สนใจ ไม่ใส่ใจที่จะออกไปจำเรื่องข้างนอก ( สมาธิเกิด) ...... ความร้อนใจ , ความไม่สงบ เกิดจากจิตกับสติมันเปลี่ยนไปจำอยู่ข้างนอก (สมาธิดับ)
ลมเข้าก็ระลึกรู้อยู่ที่หน้าท้องลมออกไม่ต้องตามมันออกมา / อย่างนี้เรียกว่าโอปนยิโก คือน้อมเอาจิตกับสติไปไว้ภายในกาย ไม่ให้มันว้อกแว้กส่งออกนอก / ที่เราไม่เห็นความเย็น ไม่เห็นความสงบ เพราะจิตกับสติมันไม่เคยตั้งมั่นอยู่ภายในได้นาน มันชอบหนีไปจำแต่สัญญาอารมณ์ที่เป็นเรื่องทางโลก ชอบหนีไปอยู่กับไฟไปอยู่กับของร้อน
จะบริกรรมคำว่าพุทโธไปด้วยก็ได้ แต่ต้องให้จิตกับสติมันระลึกรู้ และจำอยู่บริเวณสะดือเอาไว้ให้ได้ / เมื่อจิตกับสติมันจำ และหยุดอยู่ตรงตำแหน่งนี้ได้นานๆ มันจะทำให้สัมผัสได้ถึงความสงบ / ที่ไม่สงบเพราะมันจำตำแหน่งนี้ไม่ได้นาน แล้วมันเปลี่ยนไปจำเรื่องราวในทางโลกแทน
ถ้าจิตมันหยุดอยู่ภายในได้ ปัญหาต่างๆก็จะหมด ....มันทำให้จบกิจ / ความสุขก็จะเกิดขึ้น แต่ไม่ใช่ความสุขอันเกิดจากจิตอิงอาศัยรูปนามสมมุติในโลก , เมื่อจิตมันหยุด ความปล่อยวาง การสลัดรูปนามในโลกทิ้งไป ก็จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเสร็จสับอยู่ในตัวเอง
จิตเราจริงๆมันคือความว่าง มันรู้ออกมาจากความว่าง / ถ้าจิตหรือธาตุรู้เคลื่อนออกจากความว่าง เปลี่ยนออกจากความว่าง มันก็จะไปรู้อยู่กับขันธ์ห้าทันที
จิตบริสุทธิ์หรือธาตุรู้ หรือนิพพานธาตุ / มันจะรู้อยู่กับความว่าง มันไม่มีขันธ์ห้า ( ดังหลวงปู่ดุลย์ ท่านว่า จิตมี เหมือนไม่มี แต่ก็มีอยู่นั่นเอง / จิตเป็นนามธรรม ทำหน้าที่รู้อยู่ทุกวินาทีแต่มองไม่เห็นตัวมัน )
จิตที่บริสุทธิ์แล้ว( ธาตุรู้ ) มันรู้อยู่กับความว่าง (สุญญตา) ในความว่างไม่มีความรักชัง โกรธเกลียด / จึงไม่มีรูปนามสมมุติที่จะไปกลุ้มรุม เบียดเบียนครอบงำ เสียดแทงธาตุรู้
ใครอยากเห็นพระพุทธเจ้า , อยากนิพพานให้โอปนยิโก คือน้อมจิตเข้าไปข้างใน
ความว่างสุญญตานี้ / ต้องให้จิตมันหยุดอยู่ข้างใน จนความว่างมันปรากฏขึ้นมาเองจึงจะถูกต้อง / ไม่ใช่ความว่างที่ไปสร้างขึ้นมาเองโดยการไปสะกดจิตไว้
โมทนาสาธุ แจ่มแจ้งมากครับหลวงพ่อ ผมเข้าใจตอนนี้เอง โมทนาครับสาธุๆๆ
ชอบฟังธรรมะของหลวงปู่มากค่ะ ตลกแต่แฝงแง่ธรรม ว่าแต่ทำไมโยมถึงกล้าเอาขรี้ใส่บาตรคะ ใจทำด้วยอะไร ตั้งใจฆ่าอีกต่อให้สงครามก็เถอะ เห้อ
ผมเข้าไปแล้วครับตอนตี3... ดิ่งๆๆๆไหลๆๆที่จุดนั้นผ่านเข้าไป.. แล้วสติแผ่ไปทั้งอณูของกายทั้งกาย..จิตส่งออกไม่ได้เลย.. แค่คิดจะส่งออกไปข้างนอกมันก้อดับ..ยังไม่ทราบเรื่องที่จะคิด..สุขๆๆๆหน่อ...บรรยายเป็นตัวอักษรไม่ได้เลยครับ.. ความสุขที่ไม่มีการปรุงแต่งเย็น เบาสบาย จิตยิ้ม จิตยิ้ม... ความสุขใดๆที่ผ่านมาไม่มีเทียบ..
สาธุสาธุคะ
สาธุค่ะ
ท่านทั้งหลายผู้ที่ฝึกฝนจิตจนเห็น กายนุปัสสนา จนแจ้งแล้ว จะเห็นจิต ที่เบาสบาย แต่จิตไม่ได้ว่าง จิตเพียง เกิดปัญญารู้เห็นตามความเป็นจริง จิตที่เข้าใจในเหตุในผลนั้นไม่ได้ว่างเหมือนกับอากาส แต่จิตนั้น
ปล่อยวางแล้วในความเห็นผิดทั้งหลาย ท่านจึงเห็นสภาวะที่จิตไม่ได้ปรุงแต่ง
รูปนามขึ้นมา แต่จิตที่สงบอยู่ แปรเป็นธาตุรู้แทน เพราะเมื่อจิตไม่ได้ยึดติดใน
ความเป็นตัวตนแล้ว รูป เวทนา สัญญา สัง และวิณญาณ จึงดับ เมื่อขันร์ ๕ดับความรู้แจ้งจึงปรากฎขึ้น จิตไม่ใช่ความว่าง แต่ จิตแปรสภาวะคือ ญาณหยั่งรู้แทนที่
จิตที่มี อวิชชา เมื่อจิตเกิดญาณหยั่งรู้แล้ว จิตที่มี วิชา จึงหลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง แต่จิตยังไม่เข้านิพพาน
จิตต้องปล่อยวางธรรมทั้งหลายก่อน จิตจึงจะเข้าสู่นิพพานได้ และ ความบริสุทธิ์ของจิตจึงเกิดขึ้น
คือ ไม่มีทุกข์ไม่มีสุขและไม่มีพอใจและพอใจไม่ยินดีไม่ยินร้ายในโลก ถอนอุทานขันร์ทั้ง ๕ออกสิ้นจนหมด
เมื่อ อวิชชาดับสังขารทั้งหลายก็ดับลงไปด้วย
เมื่อเหลือ ผู้รู้และผู้ถูกรู้อีกต่อไป จิตจึงเป็นอิสระกลับคืนสู่ธรรมชาติดั่งเดิม ที่ไม่มีการปรุงแต่ง ของบาป บุญกุศล เวรกรรม ขึ้นมาอีก เมื่อวิณญาณดับไป ภพชาติ ก็ไม่มีการ เกิดขึ้นมาอีก เพราะมีวิณญาณภพชาติจึงเกิด
ดังนี้แล 😊😊😊
ไม่เหลือผู้รู้และผู้ถูกรู้อีกต่อไป ปัญญาก็จะแปรสภาพไปเป็น ญาณหยั่งรู้ ดังนี้แล
และเดินบนทาง มรรคผล
มี องค์ ๘นั้นไปตลอดชีวติเพื่อรักษาจิตให้บริสุทธิ์อยู่ทุกขณะ ดังนี้แล เราเป็นผู้เห็นอมตธรรมแล้ว จึงอยากสอนธรรมที่ถูกต้อง แทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เป็นการให้ธรรมทาน 😊😊😊 ที่สูงที่สุดในการให้ทั้งปวง ดังนี้
่นอ้มกราบหลวงตาเยือนเจ้าค่ะ
สาธุ ๆ โยม ภาวนา พุทโธ ๆ หายใบ ใจเบาวิ้ว และเวลา ภาวนา น้ำตาไหลออกมา จากโยม อินทธิลา มะเพชร แต่มีคน 3 คนชอบขัดขวงการปฏิบัติ ของโยม
สาธุครับ
กราบสาค่ะ
อนุโมทนาสาธุบุญกุศลธรรมสาธุ สาธุ สาธุอนุโมทามิครับ
สาธุ
น้อมกราบหลวงพ่อเจ้าค่ะ
กราบ สาธุ สาธุ สาธุ
17 มกราคม 2565
10.29 น.
สาธุเจ้าค่ะ
นอ้มกราบสาธุ
ข
น้อมกราบสาธุสาธุสาธึเจ้าคะหลวงพ่อ
น้อมจิตไปมีศีล สมาธิ.ปัญญา
ย่อมเห็นสังขารขันธ์ห้าตาม
ความเป็นจริงคืออนัตตาถึงจะรู้จักสมมุติสัจจะแท้จริง
ส่วนจิตที่ถึงวิมุตติสัจจะคือ
โลกุตระธรรมจึงมึแต่ว่าง
โลกิยะคือสมุตติทั้งหมด
จึงมีคำว่าสิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมี
ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็น
ตถาคตนี้เป็นคำแท้จริง
เมื่อหลุดพ้นบ่วงมารคือ
ชันธ์5แล้วจิตถึงนิพพาน
ธาตุย่อมรู้ได้ว่าพ้นแล้ว
จากการเวียนว่ายตายเกิด
จิตมกมุนในกามกักขังแม่ชีสาวทีเป็นสารถีแต่นางไม่ยอมเรื่องเลยแดงจิตแบบนื้หรือว่าง จิตปองร้ายใส่ยาสังกับเด็กวัดจิตนี้หรือจิตว่าง จิตที่ไลเมตตาอุบาสกอุบาสิกาขอร้องให้ช่วยพระองค์ภาเพราะทุกคนรู้ร่วงหน้าว่าพระองค์จะมีภัยถึงให้ท่านหลับตาดูรู้แล้วเฉยเพราะว่าต้องให้แม่ชีสาวภาวนาร่วมกับบุบเพธรรมที่หลวงพ่อใสยาสังเขาเพื่อแก้ไขเกิดอาเพศสิ่งที่หลวงพ่อกับขณะคนชั้วได้สร้างไว้กับประเทศไทย
บุบเพธรรมก็มีสัจจะรักษาศิลป์10ได้ขอให้เจ้าฟ้าหญิงปลอดภัยเขายืนยันแต่หลวงพ่อไม่ยอมจิตที่ขาดเมตตาจิตแบบนี้หรือ
ไม่เดือดร้อนกับคำใส่ร้าย นี่แหละจิตว่าง
🙇♀🙇♀🙇♀
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุ🙏🙏🙏
@ อยู่ในอิริยาบถทั่วไป ในรอบวัน / จิตก็ยังตั้งมั่นอยู่ภายใน อยู่กับความว่าง (สุญญตา ) จิตมีสุญญตาเป็นวิหารธรรม / จึงเกิดปิติ เบากาย เบาใจ เย็นใจ เบิกบานใจ , ไม่มีความทุกข์
คล้ายกับว่าความว่าง มันกลืนกินเราไปแล้ว มันไม่ค่อยคิดนึกไปถึงคนอื่น / รู้สึกเหมือนพระพุทธเจ้าท่านอยู่ตรงนั้น ซาบซึ้ง กราบเท่าไรก็ไม่สะใจ
@ จิตที่เข้าไปตั้งมั่นในความว่างสุญญตาแล้ว / พยายามอยู่สี่ชั่วโมง ให้มันมาพิจารณากายหยาบ พิจารณาธาตุ 4 ว่าเป็นอนิจจังทุกขังอนัตตา มันก็ไม่ยอมออกมาพิจารณา และมีธรรมเอกโพลงออกมาว่า ธาตุสี่คือดินน้ำลมไฟ ไม่เกี่ยวกับจิต , ไม่มีดินน้ำลมไฟอยู่ในธาตุรู้ , ไม่มีกายหยาบของเราของเขาอยู่ในจิตบริสุทธิ์ / แค่มันรู้ออกมาจากความว่างเท่านั้นเอง
พิจารณาทุกข์ ปรุงแต่งให้เกิดทุกข์ก็ไม่ได้ / เหมือนมันโดนล็อคไว้หมดเลย , รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็ไม่มีในจิตบริสุทธิ์ มันโดนล็อกหมด มันไม่ยอมพิจารณาขันธ์ห้าว่าเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาอีกเลย / นั่งภาวนาถึงตีสี่ จิตบริสุทธิ์ หรือรู้เด่น มันก็แน่วของมันอยู่ตลอด....สุดท้ายจิตมันหลุดพ้นออกจากขันธ์ห้า แล้วจิตมันพูดก้องขึ้นมาว่า " เราอิสระแล้ว ...เราไม่เป็นทาสของใครแล้ว....เราเป็นทาสของพระพุทธเจ้า....พระพุทธเจ้าเป็นนายของเรา "
@ ในจิตบริสุทธิ์นั้นไม่มีคำพูดที่เป็นของโลกอยู่เลย (ไม่มีวาทะ ) , ในจิตบริสุทธิ์หรือรู้เด่นนี้ ไม่มีโลกอยู่เลย , ไม่มีรูปนามในส่วนอดีต อนาคตเข้ามาเกี่ยวข้อง / จึงเรียกว่าจิตถึงโลกุตตระแล้ว (จิตเหนือโลก) ถึงฝั่งนิพพานแล้ว ออกจากโลกียะภูมิได้แล้ว / ขั้นนี้จิตมันไม่เปลี่ยนแปลง กิเลสอาสวะมันไม่กำเริบอีก
@ จิตที่หยุดอยู่กับความว่างแล้ว / ขันธ์ห้ามันจะไม่มาเกี่ยวกับจิตอีก
@ วิปัสสนาสมาธิ / จิตบริสุทธิ์มันจะอยู่กับความว่าง / ถ้าจิตไปมีสมาธิตั้งมั่นอยู่กับสังขารแล้วมันก็จะไม่ว่าง
@ จิตที่พัวพัน หมกมุ่นอยู่กับสังขาร มันก็เห็นแต่รูปนามเกิดดับอยู่อย่างนั้น / จิตถูกรูปนามครอบงำพาเวียนเกิดเวียนตายอยู่อย่างนั้น
@ สังขาร มันร้อน มันเป็นไฟ / มันไม่เคยเมตตาใคร / จิตหรือธาตุรู้ไปอยู่กับมัน ก็ถูกมันเผาลนอยู่อย่างนั้น
สาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
การเข้าสุญญตาต้องเข้าด้วยวิปัสสนา..
สามารถเข้าได้ครั้งเดียวคือครั้งแรก..
ที่หลวงพ่อพูด..คือสุญญตาสมาธิเพียงแค่หลับตา...กิเลสที่เข้ามากระทบก็จะสลายไป..
แต่ถ้ากรณีที่เข้าสุญญตาได้ตั้งแต่โสดาบันยังไงก็ต้องวิปัสสนาเพื่อให้กิเลสจางคลายเช่นอนุสัยและอาสวะทั้งหลาย
🙏🙏🙏☯️
กราบสาธุๆๆ
กราบสาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
ฟังหลวงพ่อตลอดหลายๆรอบปิติเกิดสาธุๆๆๆขอน้อมบูชาธรรมใว้ในจิตในใจเจ้าค่ะ
ปิติอย่างเดียวคงไม่เพียงพอให้พ้นทุกข์ได้
สาธุครับ
ขอบพระคุณที่ท่านเมตตาบารมีนำทางแส่งสว่างให้ดวงจิตนี่พบทางกลับบ้านที่แท้จริง # สาธุ อนุโมธณา ทุกบุญ ด้วยเจ้าคะ
กราบ สาธุ ๆ ๆ ค่ะ
น้อมกราบ องค์หลวงพ่อเยื้อน..น้อมกราบสาธุๆๆธรรมะหลวงพ่อครับ..
🙏🙏🙏😇😇😇
@ ถ้าน้อมจิตไปไว้ข้างในได้ / ข้างนอกคือสังขารทั้งหลายก็จะหายไปเอง
@ ถ้าจิตออกไปอยู่กับสังขารทั้งหลาย คือจิตอยู่ข้างนอก สุญญตาก็จะหายไป
@ ถ้าจิตไปจมแช่อยู่กับอายตนนะภายนอกหก / นั่งสมาธิหลายชั่วโมงมันก็หาข้างในไม่เจอ
@ ก่อนตายหลวงปู่ดุลย์ท่านว่าจิตท่านไม่มีอารมณ์ จิตท่านมันรู้อยู่กับสุญญตา / มันไม่ได้ไปรู้อยู่กับอายตนะภายนอกหก / จึงหมดเชื้อ ที่จะทำให้กลับไปเกิดในโลกียะภูมิ
🙏🙏🙏น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุเจ้าค่ะ
🙏🙏🙏
@ จิตของเราจริงๆมันไม่มีตัวตน ไม่มีรูปลักษณ์สันฐาน/เป็นนามธรรมที่อยู่กับความว่าง , จิตมันไม่มีขันธ์ / มันรู้ออกมาจากความว่าง / ที่คิดได้นั้น มันออกไปข้างนอกแล้ว
@ จิตหยุดอยู่ที่ท้องมันจึงจะว่างได้ / จิตว่าง มันก็มีแต่ความว่าง
@ ธาตุรู้ หรือจิตพุทธะ /เป็นนามธรรมที่ไม่มีตัวตน/ หลวงปู่ดุลย์ท่านว่า " จิตมี เหมือนไม่มี แต่ก็มีอยู่นั่นเอง "
จิตไม่มีรูปร่างให้เห็น แต่สัมผัสได้ว่ามันทำหน้าที่รู้อยู่ทุกวินาที มันบริกรรมทพุทโธอยู่ วินาทีต่อวินาที มันรู้อยู่ทุกกองลมเข้า ทุกกองลมออก
พระพุทธเจ้าสอนแบบนี้จริงๆรึ?
สาธุสาธุสาธุ.🙏
กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ
สาธุ
กราบสาธุครับ
กราบสาธุสาธุเจ้าค้าโยมนากราบสาธุบูชาธรรมอันประเสริฐสาธุ
🙏🙏🙏
น้อมสาธุในธรรมเจ้าคะสาธุ
กราบสาธุๆๆค่ะ
สาธุ
สาธุๆๆครับ
น้อมกราบสาธุครับ
น้อมกราบสาธุค่ะอนุโมทนาบุญค่ะสาธุๆๆ
🙏🙏🙏
น้อมกราบสาธุๆค่ะ🙏🙏🙏
🙏🙏🙏
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุในพระธรรมคำสอนด้วยเศียรเกล้าเจ้าค่ะ
🙏🙏🙏
น้อมกราบสาธุๆๆคะ
ขอน้อมกราบขอบพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูงสุดเจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุรับแล้วได้แล้วขอบพระคุณพระจ้าค่ะบันทึกการเข้าใจ
กราบอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุเจ้ค่ะได้ฟังแล้วมีความปิติจิตเบากายเบาเบาได้อย่างบอกไม่ถูก
ขอน้อมนำคำสอนของหลวงพ่อไว้ด้วยเศียรเกล้า🙏
แล้วก็หาเจอจนได้นี่แหละคือของจริงอยู่ตรงกลางระหว่างกายอยู่นิ่งๆเงียบๆอันนี้คือของแท้ไม่ต้องไปหาอะไรอีกแล้วกราบหลวงพ่อ
น้อมกราบสาธุในธรรมของหลวงปู่เจ้าค่ะ
กราบนมัสการหลวงพ่อเจ้าค่ะสาธุเจ้าค่ะ