เขื่อนสียัด ฉะเชิงเทรา ที่นี่...มีแค่เขาแล้วก็เรา - I am Tripper เราคือนักเดินทาง
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 4 ธ.ค. 2019
- #เขื่อนสียัด #ฉะเชิงเทรา ที่นี่... มีแค่เขาแล้วก็เรา
เขื่อนสียัด
ภาพไม่สวยต้องขออภัยด้วยนะครับ... เนื่องจากกล้องมีปัญหา เลยใช่กล้องมือถือถ่ายแทน
ล้อหมุน8.30 จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ฉะเชิงเทราhh#เขื่อนสียัด #ฉะเชิงเทรา ที่นี่... มีแค่เขาแล้วก็เรา
เขื่อนสียัด ฉะเชิงเทรา
ภาพไม่สวยต้องขออภัยด้วยนะครับ... เนื่องจากกล้องมีปัญหา เลยใช่กล้องมือถือถ่ายแทน
ล้อหมุน8.30 จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ฉะเชิงเทรา อำเภอ ท่าตะเกียบ ฟังผ่านๆ กรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา มันดูใกล้มาก แปปเดียวก็คงถึง ถ้าไม่หลงทาง ไม่ติดฝน
แต่ใครจะไปรู้ว่า สิ่งที่มันดูง่ายๆ แต่กลับยากมากสำหรับการเดินทางครั้งนี้ เราเดินทางไปเส้น ลาดกระบัง เพื่อจะมุ่งหน้าเข้าบางปะกง แต่แล้วก็พบกลับปัญหาแรก เส้นที่เราจะไป กำลังทำทาง เลยไม่สามารถวิ่งผ่านได้ เราจึงต้องเบนเข็มทิศ ละวางแผนเส้นทางใหม่อีกครั้ง เราเลยหาร้านอาหารข้างทางกิน เพื่อตั้งสติอีกครั้ง จึงได้ข้อมูลการเดินทางใหม่ ให้วิ่งเส้นหลัง abac ไปบรรจบบางนา-ตราด และวิ่งเข้าบางประกง แต่แล้วสวรรค์ก็ให้เราติดฝนอีกครั้งที่ศาลาข้างทาง บางนา-ตราด เรายังไม่ออกกรุงเทพกันเลย เราเสียเวลาหลงอยู่กับตรงนี้ไป 2ชั่วโมง จนในที่สุด พวกเราเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง พร้อมกับอารมณ์ที่เฟลๆ แอบผิดหวังและด่าตัวเองตลอดเส้นทางที่เราหลง แต่ก็ช่างมัน ในความผิดพลาดและความโง่ของเรา มันก็ได้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ได้รับการช่วยเหลือจากคนข้างทาง การเดินทางครั้งนี้ เราแทบจะไม่ใช่GPS เราใช้ปากสอบถามคนพื้นที่สะมากกว่า จนสุดท้ายเรามาเริ่มต้นเส้นทางที่บางประกง และวิ่งเข้าอำเภอแปดริ้ว ออกไปอำเภอบ้่านโพธิ์ ตัดออกอำเภอแปลงยาว และมาจบที่อำเภอท่าตะเกียบ ฟังผ่านๆ มันก็แค่4อำเภอ คงไม่ไกล แต่ใครจะรู้ว่า เส้นที่เราวิ่งมาทั้งวัน ถนนเละมาก ฝนก็ตก ปั้มก็ไม่มี ฝนลงทีก็แวะจอดข้างทาง จอดบ้านคนอื่นบ้าง จอดยันโรงบาลของตำบล แต่ทุกคนก็ดูเป็นมิตร พร้อมให้ความช่วยเหลือ ไม่คิดเลย ที่นี้จะเป็นฉะเชิงเทรา เอาพวกเราเครียดเลย ว่าทำไมการเดินทางครั้งนี้มันดูยากเย็นสะเหลือเกิน และแล้วก็มาถึงที่หมาย เขื่อนสียัด หรือ สอนไลโฮมสเตย์ ใช้เวลาไปทั้งหมด 5ชั่วโมงครึ่ง โอ้ยยยย จะบ้าตาย มาถึงฝนก็ตก จนต้องเปลี่ยนแผนการนอนของเราใหม่ กลายเป็นขอเช่าโฮมสเตย์นอนแทน เพื่อต้องการที่จะมีพื้นที่ตากผ้า เก็บของ เพราะระหว่างทางที่มา เราเปียกฝนกันมาตลอดทาง
(ที่โฮมสเตย์ มีเครื่องดื่ม มาม่า ซอสปรุงรส และน้ำแข็งขาย นำแค่หมู เห็ด เป็ด ไก่ มาก็พอ และข้าวสาร)
ในที่สุด... ฝนก็มีท่าทีที่จะเบาลง เราจึงตัดสินใจอีกครั้งว่า ไหนๆก็มาแล้วอะ ไม่ได้นอน ก็ขอเอาอาหารออกไปนั่งทำก็ยังดี ทำไปดูวิวไป คือวิวมันสวยมาก จึงไม่อยากพลาดความสวยนี้ไป ให้นึกภาพคล้ายๆกับเขื่อนเชี่ยวหลาน ระหว่างที่นั่งทำอาหาร รู้สึกโดนกดดันตลอดเวลาจากเจ้าถิ่นที่นั่น น้องๆมาคอยตั้งแต่เริ่มตั้งแคมป์ จนกินเสร็จก็ยังไม่ไปไหน แต่เอาเถอะ ไม่ได้แดกกูหรอก(เสียงหน้าค่อม) ถ้าให้ไป รับรองไม่พอกินแน่ ต่ำๆมี5ตัว🐕 นั่งกินกันจนอิ่มก็แยกย้ายเก็บของ เพราะพื้นที่พวกเรานั่ง น้ำซึมยันตูด ผ้ายางก็เอาไม่อยู่ เฮ้ออออ เที่ยวหน้าฝนมันไม่ง่ายเลยจริงๆ
มื้อดึก เราเปลี่ยนมานั่งกินกันหน้าโฮมสเตย์ ถึงแม้ความรู้สึกจะไม่เหมือนเมื่อกลางวัน แต่มันก็มีความสุขที่ได้นั่งกินกับคนข้างกายบนท่ามกลางบรรยากาศที่ดี ฝนปรอยๆ กินเสร็จสรรพก็เก็บของ ล้างจาน อาบน้ำ เตรียมพักผ่อน เหนื่อยกันมาทั้งวัน เพราะพรุ่งนี้ต้องรีบตื่นมารับบรรยากาศยามเช้า ชมแสงแรกของวัน
วันที่2
ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเฟลอีกครั้ง ฝนตกตั้งแต่เมื่อคืนยันเช้าของอีกวัน ทำให้อดดูความสวยของธรรมชาติและความตั้งอกตั้งใจของพวกเรา ที่จะตื่นมาดูแสงแรก แต่ก็เข้าใจนะ มาเที่ยวหน้าฝนมันต้องทำใจ จะให้สมหวังดั่งใจทุกอย่าง ก็คงเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นเอง เราต้องปรับตัวเข้าหาธรรมชาติ ไม่ใช่ให้ธรรมชาติ ปรับตัวเข้าหาเรา
ถึงเวลาต้องเช็คเอาท์ เดินทางกลับ กรุงเทพฯ แต่รอบนี้พวกเราถอดบทเรียนจากเมื่อวาน เลยทำให้ได้เส้นทางใหม่ เป็นเส้นทางที่คนพื้นที่ใช้กันประจำ มันง่ายมากเลยสำหรับตอนกลับ จากที่พักมาแปดริ้ว 2ชั่วโมงนิดๆ
เราใช้เส้น 304 วิ่งจากอำเภอท่าตะเกียบ เข้าอำเภอสนามขัยเขต-อำเภอพนมสารคาม-อำเภอราชสาสน์-
อำเภอบางคล้า และมาจบที่อำเภอแปดริ้ว(หลวงพ่อโสธร) และวิ่งเข้าเส้นมีนบุรี ยิงตรงเข้ากรุงเทพ สรุปเที่ยวฉะเชิงเทราครั้งนี้ เอาเราผ่านทุกอำเภอ เพื่อเธอคนเดียว เขื่อนสียัด สอนไลโฮมสเตย์
ข้อมูลการเดิน แบ่งเป็น2แบบนะครับ
1. โดยรถส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 304 ( กรุงเทพฯ - มีนบุรี ฉะเชิงเทรา )
เมื่อถึงแปดริ้ว (หลวงพ่อโสธร) ให้วิ่งไปทางอำเภอบางคล้า-ราชสาสน์-พนมสารคาม-สนามชัยเขต-ท่าตะเกียบ ระยะทาง 160 กิโลเมตร
2.รถสาธารณะ มีรถโดยสารปรับอากาศออกจากจากสถานีขนส่งสายเหนือ (ถนนกำแพงเพชร 2) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที (ใช้เส้นทางมอร์เตอร์เวย์) ตั้งแต่เวลา 05.20- 18.00 น. รถออกทุกครึ่งชั่วโมงวันธรรมดามีรถออกตั้งแต่เวลา 06.00-17.30 น. เสาร์-อาทิตย์ 06.00-18.00 น.
เมื่อมาถึงตัวเมือง ให้หารถตรงที่เราลง นั่งต่อมาที่ อำเภอ ท่าตะเกียบ มีรถบัสและรถตู้ รถจะมาส่งที่หน้าอำเภอ ท่าตะเกียบ ให้ลงหน้าอำเภอ แล้วนั่งวินเข้าไปที่ สอนไลโฮมสเตย์หรือเขื่อนสียัด ที่เดียวกัน
ค่าโดยสารรถวิน ไม่เกิน150 บาท ระยะทางจากหน้าอำเภอไปที่สอนไลโฮมสเตย์ ประมาณ 15-20 กิโล
เบอร์โทรที่สอนไลโฮมสเตย์ 089-813-3107
💲ค่าใช้จ่ายต่างๆทั้งทริป💰
-ค่าน้ำมัน ไป-กลับ ทั้งทริป 150บาท
-ค่าเครื่องดื่มต่างๆ 100บาท
-ค่าห้องพักโฮมสเตย์ 600บาท
-ค่าอาหารระหว่างทาง ทั้งไปและกลับ 200บาท
-ค่าอาหารทุกอย่างที่นำมาแคมป์ปิ้ง 1000บาท
💪ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ... แล้วเราจะได้ในสิ่งที่ไม่เคยได้👏 - บันเทิง