สายมูต้องมา ไหว้สาวัดโพธิ์ (1) มาดูให้รู้ แล้วมูให้ปัง :Vlog.52

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 23 ก.ย. 2024
  • วัดโพธิ์ Wat Pho หรือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เหตุที่เรียก วัดโพธิ์ เพราะในอดีตเชื่อว่าเป็นที่ตั้งของต้นพระศรีมหาโพธิ์ตั้งแต่สมัยอยุธยา สร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ได้มีการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาวัดนี้ขึ้นใหม่โดยทำการบูรณะของเดิม และทรงสร้างพระอุโบสถ พระระเบียง พระวิหารใหม่ จนแล้วเสร็จ เมื่อปี พ.ศ. 2344 โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาวาส แปลว่า ที่อยู่อันงามของพระพุทธเจ้า และถือว่าเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 เป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทยมีประมาณ 99 องค์ และประดับด้วยกระเบื้องเคลือบโบราณ ลวดลายดอกไม้สีสันสดใสสวยงาม วิจิตรตระการตา เราเริ่มต้นกันที่ซุ้มประตูทางเข้าวัด ก็จะเห็นซุ้มประตูยอดมงกุฎ The Crown Topped Entrance Gate ประดับกระเบื้องที่ตัดเป็นรูปกลีบดอกไม้เรียงกัน ลดหลั่นสีสันสดสวยงานกระเบื้องเครื่องถ้วยลวดลายสีสันต่าง ๆ นำมาตัดด้วยคีมเหล็กและเล็มจนมนเป็นกลีบดอกไม้ แล้วนำมาเรียงเป็นลวดลายดอกไม้ ประดับอยู่ตามพุทธสถานต่างๆ ซุ้มประตูเข้าเขตพุทธาวาส มีทั้งหมด 16 ประตู เกร็ดประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า งานสถาปัตยกรรมเครื่องยอดทรงมงกุฎนี้เป็นรูปแบบที่ รัชกาลที่ 3 ทรงพอพระราชหฤทัยเป็นพิเศษ เมื่อลอดซุ้มประตูทรงมงกุฎเข้าไปทุกประตู จะเห็นตุ๊กตารูปสลักศิลาหน้าตาเป็นจีน ตุ๊กตาศิลาจีน (Chinese Stone Statues) มือถือศาสตราวุธ ยืนเฝ้าด้านซ้ายขวาเรียกว่า “ลั่นถัน นายทวารบาล” ทำหน้าที่คอยเฝ้าระวังและป้องกันสิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้ามาในวัด จุดแรกที่จะไปคือ การสักการะ คือ ขออนุญาตเสด็จเตี่ยกรมหลวงเขตอุดมศักดิ์ก่อน ที่ศาลกรมหลวงชุมพร (วิหารคดสมอ) ศาลนี้ย้ายมาจากสนามม้านางเลิ้งและมาไว้ที่วัดโพธิ์จนถึงปัจจุบัน เป็นจุดสำคัญที่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนทีจะมีพิธีกรรมใด ๆ ต้องมาขออนุญาตเพื่อเป็นการเปิดทางให้สำเร็จลุล่วง ไม่มีปัญหาอุปสรรคใด ๆ โดยเตรียมดอกกุหลาบสีแดง 5 ดอก ธูป 5 ดอก มาสักการะ ขอพร เพื่อเปิดทางไปในการที่จะเดินทางไปจุดมงคลอื่น ๆ ที่วัดก็มีดอกบัว ธูป เทียน ให้นะคะ จุดที่ 2 พระพุทธชินราช Phra Buddha Chinnaraj หรือ พระพุทธเจ้าเทศนาพระธรรมจักร พระประธานพระวิหารทิศใต้เป็นพระพุทธรูป หน้าตักสี่ศอกห้านิ้ว รัชกาลที่ 1โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญมาจากกรุงเก่า ดังปรากฎความในจารึกว่า "พระพุทธรูปน่าตักสี่ศอกห้านิ้วเชิญมาแต่กรุงเก่าปฏิสังขรณ์เสร็จ แล้วประดิษฐานไว้ในพระวิหารทิศใต้ ถวายพระนามว่าพระพุทธิเจ้าเทศนาพระธรรมจักรมีพระปัญจะวักคีทั้งห้านั่งฟังพระธรรมเทศนาด้วย เป็นสัญลักษณ์ของวันอาสาฬหบูชา หมายถึง ความกตัญญู การบูชาพระคุณพ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ หรือผู้มีพระคุณอื่น ๆ เพื่อความเป็นสิริมงคล และจะนำพาพลังที่ดีมาเสริมชีวิตให้สัมฤทธิ์ผล จุดที่ 3 ฤาษีดัดตน The Body-contorted Hermits , Experts on Muscle Fatigue Relief (ต้นแบบการนวดวัดโพธิ์) บิดาแห่งการแพทย์ต้นแบบแห่งการนวดวัดโพธิ์ คนมักจะมาขอพรบูชาครู ขอพรเกี่ยวกับสุขภาพ ฤาษี มีทั้งหมด 80 ท่า 82 ตน สมัยรัชการที่ 3 ให้เอาเนื้อดีบุกกับสังกะสีผสมเข้าไปทำให้แข็งแรง เป็นจารึกของวัดโพธิ์ให้เป็นมหาวิทยาลัย หรือ University in the stone จุดที่ 4 สิงโตคาบแก้ว เป็นสิงโตของรัชกาลที่ 3 ซึ่ง คนปลุกเสกก็คือกรมพระปรมานุชิดชิโนรสเป็นคนปลุกเสก เป็นสัตว์มงคลจีน เป็นสิงโต มีคนขอพร สัมผัสให้มีพลังสุขภาพแข็งแรง ให้สัมผัสตรงกลาง แล้วขอพรจะได้รับพลังที่ดีไป พลังแข็งแรงไป จุดที่ 5 พระระเบียงคตชั้นนอก ระเบียงคตชั้นใน รัชกาลที่ 1 ให้อันเชิญมาจากหัวเมือง เช่น พิษณุโลก สุโขทัย สวรรค์โลก ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา ตอนที่มาจะเป็นซาก แล้วก็หล่อหลอมลำตัวขึ้นใหม่ให้มีขนาดเท่า ๆ กัน ประดิษฐานอยู่บริเวณรอบ ๆ เขตพระอุโบสถ พระระเบียงชั้นนอกมี 244 องค์ และพระระเบียงชั้นในมี 150 องค์ รวม 394 องค์ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ มีเนื้อสำริดมีพุทธลักษณะงดงามอร่ามตา ผู้ที่ได้เข้ามากราบขอพร จะทำให้ชีวิตพบเจอแต่ความสุข ความเจริญ จุดที่ 6 สางแปลง เป็นรูปปั้นสำริดที่มีหน้าเหมือนสิงห์ผสมมังกร หรือพญานาค ถือเป็นสัตว์มงคลที่ทำหน้าที่ยืนเฝ้าซุ้มประตูกำแพงแก้ว มีความเชื่อกันว่าถ้าใครอยากโชคดี เสริมสิริมงคลในชีวิต ให้มาสัมผัสกับรูปปั้นสางแปลง จุดที่ 7 กำแพงแก้ว ที่ล้อมรอบพระอุโบสถ มีภาพมงคลของจีน เป็นสัญลักษณ์มงคลของวัดโพธิ์ มีศิลปะ ไทย จีน ฝรั่ง ผสมกัน เป็นรูปภูเขา ต้นไม้ และรูปสัตว์ต่าง ๆ อย่างสวยงาม ถือเป็นสัญลักษณ์มงคลศักดิ์สิทธิ์ของวัดโพธิ์ จุดที่ 8 ท้าวจตุโลกบาล ที่พระปรางค์ที่มีชื่อเรียกเฉพาะว่า พระอัคฆีย์เจดีย์ มีเทวรูปท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ทิศ หล่อด้วยดีบุกลงรักปิดทองประดับกระจก ทิศเหนือคือ ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณ สร้างเป็นปางค์เทวดา ทำหน้าที่ปกครองยักษ์มีกายสีทอง มือขวาถือกระบองเป็นอาวุธ เชื่อกันว่าผู้ใดอยากแคล้วคลาด ปลอดภัย ทำมาค้าขายรุ่งเรือง โชคดี ให้มาขอพรค่ะ จุดที่ 9 พระอุโบสถ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 มีพระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ นามว่า พระพุทธเทวปฏิมากร Pha Buddha Deva Patimakorn ที่ฐานชุกชีก่อไว้ 3 ชั้น ชั้นที่ 1 บรรจุพระบรมอัฐิและพระราชสรีรังคารรัชกาลที่ 1 ไว้ ชั้นที่ 2 ระดิษฐานรูปพระอัครสาวกทั้งสององค์ฐานชุกชี ชั้นล่างสุดประดิษฐาน พระมหาสาวก 8 องค์ (พระอรหันต์ 8 ทิศ) 30 ปีต่อมารัชกาลที่ 3 ให้รื้อหลังเดิมและสร้างขึ้นมาใหม่ สร้างโดยพระองค์เจ้าคเนจรพระโอรส ต่อมารัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้นำพระบรมอัฐิของรัชกาลที่ 1 มาบรรจุไว้แล้วจึงโปรดฯ ให้ตราพระราชลัญจกรปทุมอุณาโลม อันเป็นตราประจำรัชกาลที่ 1 ประดิษฐานไว้บริเวณตำแหน่งที่บรรจุพระบรมอัฐิ ขอขอบคุณข้อมูล จากรายการมหัศจรรย์ วัดโพธิ์ ของสถานีโทรทัศน์ TNN2 เว๊ปไซต์ , atpho.com , อ.เป็นหนึ่ง วงษ์ภูดร #วัดโพธิ์ #มหัศจรรย์ #amazing #beautiful #กรมหลวงชุมพร #ฤาษีดัดตน #พระพุทธชินราช #สิงโตคาบแก้ว #ระเบียงคต #กำแพงแก้ว #สางแปลง #ท้าวจตุโลกบาล #พระพุทธเทวปฏิมากร #วัดประจำรัชกาลที่ 1

ความคิดเห็น • 2