วันกองทัพไทย มณฑลทหารบกที่12 ปราจีนบุรี จัดยิ่งใหญ่
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 17 ม.ค. 2024
- รวมข่าวปราจีนบุรีNews - ข่าว - วันกองทัพไทย มณฑลทหารบกที่12 ปราจีนบุรี (มทบ.12)จัดพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณธงชัยเฉลิมพลยิ่งใหญ่ จัดกำลังกองพันผสมสวนสนาม จำนวน 7 กองพัน ทหารหน่วยรบจากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล ร.2 รอ.) ทหารราบยานเกราะแห่งแรกของกองทัพไทย หน่วยรบหลักภาคตะวันออก หรือ “บูรพาพยัคฆ์” และ จากมณฑลทหารบกที่ 12 (มทบ.12) รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์นักรบผู้ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย ให้เป็นวันสำคัญที่กำลังพลในกองทัพไทยทุกนาย ได้ตระหนักถึงภาระหน้าที่อันสำคัญยิ่ง ที่จะต้องรักษาหวงแหน ปกป้องบ้านเมือง และสืบทอดเจตนารมณ์ เพื่อรักษาผืนแผ่นดินนี้ให้เป็นมรดกของลูกหลานไทยสืบไป
เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ 18 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรวมข่าวปราจีนบุรีNews รายงานบรรยากาศเนื่องในวันกองทัพไทย ที่สนามบินมณฑลทหารบกที่ 12 (มทบ.12) ค่ายจักรพงษ์ ค่ายทหารที่จัดการรบแบบยุโรปแห่งแรกของกองทัพไทย ต.ดงพระราม อ.เมืองปราจีนบุรี พลตรีไพรัช แก้วศรี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12 (ผบ.มทบ.12) เป็นประธานในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทย โดยมีนายพงษ์สิทธิ์ เนื่องจำนงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ,หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมพิธี
โดยในปีนี้ จัดทหารหน่วยรบจากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล ร.2 รอ.) ทหารราบยานเกราะแห่งแรกของกองทัพไทย หน่วยรบหลักภาคตะวันออก หรือ “บูรพาพยัคฆ์” และ จากมณฑลทหารบกที่ 12 (มทบ.12) จัดกำลังกองพันผสมสวนสนาม จำนวน 7 กองพัน ในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลและสวนสนาม ประจำปี 2567 ของหน่วยทหารในพื้นที่ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นข้าราชการบรรจุใหม่ ระดับนายทหารชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวน ตลอดจนทหารกองประจำการที่ยังไม่เคยร่วมพิธี
โดยหมู่เชิญธงเชิญธงชัยเฉลิมพลประจำที่เพื่อสวนสนามเข้าสู่พิธีสงฆ์ เมื่อเสร็จสิ้นแล้วผู้ร่วมพิธีทุกนาย พร้อมใจกันกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล จากนั้นเป็นพิธีสวนสนามตามลำดับ พร้อมกับการร่วมให้กำลังใจจากประชาชน ญาติ มิรทหารหาญ
และรับฟังสาร โอวาทของพลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด โดยมีใจความว่า ...ในโอกาสวันกองทัพไทย ประจำปี ๒๕๖๗ วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๗ เพื่อนทหารที่รักทุกท่าน
วันที่ ๑๘ มกราคมเป็นวันสำคัญยิ่งวันหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย เป็นวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงนำเหล่าทหารกล้า ประกอบมหาวีรกรรมอันกล้าหาญในการปกป้องรักษาเอกราชอธิปไตย นับว่าเป็นเหตุการณ์อันสำคัญยิ่งเป็นวันแห่งเกียรติยศ และความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติที่ได้ระลึกถึงเหล่าบรรพชนไทย ที่ได้สละชีวิตและเลือดเนื้อเป็นชาติพลี เพื่อความอยู่รอดและความมั่นคงปลอดภัยของบ้านเมือง อย่างยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบันอันเป็นแบบอย่างที่เรา เหล่าทหารทั้งหลายควรจักยึดถือสืบทอดเจตนารมณ์ดังกล่าวนี้สืบไป
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากองทัพไทย มีหน้าที่พิทักษ์ปกป้องรักษาชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ช่วยเหลือประชาชนพัฒนาและแก้ไขปัญหาของชาติ เพื่อให้ประชาชนอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ผมขอให้เพื่อนทหารทุกนายมีความภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติงานด้วยความอดทนเสียสละ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม สนับสนุนภารกิจของรัฐบาลในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของชาติ จนเป็นที่เชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน และขอให้เพื่อนทหารทุกท่านดำรงรักษาความดีนี้ไว้สืบไป
ทั้งนี้ วันที่ 18 มกราคมของทุกปี กำหนดให้เป็นวันกองทัพไทยและวันกองทัพบก เป็นวันรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์นักรบผู้ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย จึงกำหนดให้เป็นวันสำคัญที่กำลังพลในกองทัพไทยทุกนาย จะได้ตระหนักถึงภาระหน้าที่อันสำคัญยิ่ง ที่จะต้องรักษาหวงแหน ปกป้องบ้านเมือง และสืบทอดเจตนารมณ์ เพื่อรักษาผืนแผ่นดินนี้ให้เป็นมรดกของลูกหลานไทยสืบไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม สำหรับ จ.ปราจีนบุรี มีศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายในศาลมีอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรประดิษฐานไว้ให้ประชามาสักการะบูชาทุกวัน
โดยตั้งตรงข้ามค่ายพรหมโยธี กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล ร.2 รอ.) ค่ายทหารราบยานเกราะแห่งแรกของไทย ต.บ้านพระ อ.เมืองปราจีนบุรี ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประดิษฐานอยู่ ณ สี่แยกวงเวียนนเรศวรทางขึ้นเขาใหญ่
ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแห่งนี้ สมเด็จพระนเรศวรฯ พระองค์เคยใช้เป็นที่พัก เมื่อครั้งที่กรีฑาทัพจากกรุงศรีอยุธยา เพื่อไปปราบนักพระสัฏฐาแห่งเมืองละแวก กัมพูชา ระหว่างการเดินทางทัพได้หยุดพักทัพในเขตปราจีนบุรี
เมื่อ พ.ศ.2138 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเกณฑ์ชาวเมืองปราจีนบุรี, สระบุรี, นครนายก, และฉะเชิงเทรา ไปปราบนักพระสัฎฐา โอรสของพระบรมราชากัมพูชา (พระยาละแวก) ซึ่งโอรสองค์นี้เคยยกกำลังมาเกณฑ์ชาวเมืองดังกล่าวไปเป็นเชลย
สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงได้ยกตราทัพมาที่ค่ายทำนบปราจีนบุรี ( ค่ายนี้อยู่ในเขตแดนของปราจีนบุรี ซึ่งสันนิษฐานว่าคงจะอยู่ในพื้นที่อำเภอตาพระยา เพราะเมื่อก่อนเรียกทัพพระยา ) ด้วยเหตุนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี จึงได้สร้าง พระพุทธรูปของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไว้ที่ต้นทางถนนสุวรรณศรเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระองค์ท่าน
เมื่อ 25 มกราคม 2514 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ ทรงเสด็จมากระทำพิธีเปิดศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ ในปี พ.ศ.2519 ทางจังหวัดได้มอบให้ทหารเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบเพราะได้สร้างไว้ในเขตทหาร โดยภายในจะพบศาลพระบรมรูปฯ จำนวน 3 แห่งด้วยกัน
ได้แก่ ศาลหลักตรงกลางประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในท่าประทับยืน ส่วนสองศาลซ้ายและขวานั้น ประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในอิริยาบททรงหลั่งน้ำลงสู่แผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคาร (พระน้ำเต้าทองคำ) เพื่อประกาศอิสรภาพจากพม่า
มานิตย์ สนับบุญ081-5583238 / ปราจีนบุรี
สุดยอดมากๆค่ะ
❤
ณ ลานบินค่ายจักรพงษ์แห่งนี้ ครั้งหนึ่งในชีวิตเมื่อ 25 ม.ค.2525 เคยได้ร่วมสวนสนามเนื่องในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล
เมื่อครั้งเป็นพลทหารกองประจำการสังกัด ร.2 พัน.1 รอ. ผ่านมาแล้ว 42 ปียังมีความภาคภูมิใจไม่เคยลืมเลือนครับ
น่าจะเอารถถ้งปืนฝหญ่จรวดหลายลำกล้องขนมาโชวเยอะๆๆๆเหมือนกับเขมรซ
ซิครับเอาแต่ทหารมาเดินโชวไม่น่าเกรงขามเลย
ที่สวนสนามกองทัพบกจะเป็นทุกจังหวัดมันต้องมีศาลาทรงไทยนะจ๊ะนะจ๊ะ😅😅😅😅😅😅😅😅😅😅😅😅😅😅
เเล้ว1มนฑลทหารมีทหารกี่นายครับเเล้วมีหน่วยงานในสังกัดเหมือนกองพลมั้ยที่จะมี กรม มี กองพัน ในบังคับบัญชา
มทบ.เป็นหน่วยส่วนภูมิภาค กองพลเป็นส่วนกำลังรบ ทั้งสองหน่วยขึ้นตรงกับกองทัพภาค