ทะไลลามะ : พระธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 24 พ.ย. 2024
- ในวาระ 86 พรรษา ทะไลลามะ องค์ที่ 14 ร่วมรำลึกถึงพระองค์ท่านผ่านทัศนะของ ส. ศิวรักษ์ ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีมิได้นับถือพระธิเบตรูปนี้ หากต่อมาภายหลังมานับถือท่าน จนแปลชีวประวัติของทะไลลามะออกมาเป็นภาษาไทยเป็นเล่มแรก ในชื่อ "แผ่นดินและประชากรของข้าพเจ้า" ตั้งแต่ พ.ศ. 2506
ที่สำคัญ คือ บทเรียนจากทะไลลามะต่อชาวไทย ไม่ว่าจะเป็นพุทธศาสนิกชนหรือไม่ก็ตาม
#ศาสนา #วัชรยาน #ทะไลลามะ
-----------
สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ
/ @dhanadis
-----------
สนับสนุน พวกเรา "Dhanadis - ธนดิศ" (ทีมแอดมินเพจอาจารย์สุลักษณ์) ให้ทำคอนเทนต์สาระความรู้ทางประวัติศาสตร์จากมุขปาฐะของอาจารย์สุลักษณ์ ได้ที่
ธนาคาร : กรุงศรีอยุธยา
เลขบัญชี : 000-7-14030-0
ชื่อบัญชี : ธนากร ทองแดง
-----------
ผลิตโดย ธนดิศ (dhanadis.siam@gmail.com / 0898064081)
LINE: taotanagon
ผมเคยเห็นองค์ทะไลลามะในสารคดีธิเบตดินแดนหลังคาโลก สมัยนั้นแกเป็นหนุ่มรูปงามมาก
พระธรรมดา แต่ท่านไม่ธรรมดา ที่แน่ๆ ท่านใจดีแน่นอน ดูใจดีจัง แต่ละท่านใช่ญาณดี เห็นหน้าท่าน พลอยมีความสุขไปด้วย คงเพราะเห็นรอยยิ้มท่าน พระไม่เกี่ยวกับผ้าที่สวม ถ้าคนตาดี จะเห็นพระไม่สวมอะไรเลย ผมมองเห็นหลายองค์แล้ว
ขอให้องค์ท่านจงมีสุขภาพแข็งแรงค่ะ
โอม นมัส ศิวรักษ์
ผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
อุทิศตน ตั้งใจ ปฏิบัติ
แจ้งชัด ปริยัติ มุ่งอัตถธรรมา สาธุ ครับ.
อาของผม อาศัยอยู่มาเลเซีย นับถอองค์ทะไลลามะ 3 ปีที่แล้วอามากลับมาเยี่ยมบ้าน ผมมีโอกาสคุยกับอา เรื่องพุทธมหายาน ท่านบอกว่าท่านนับถื่อองค์ ทะไลเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งเลยครับ
โอม มะณิ ปัทเม ฮุม
พระผู้คุ้มครอง เมตตาผองสัตว์โลก
ผู้ปรกโปรด แผ่พระกรุณา มหาศาล
ผู้ทรงปัญญาดั่งมหาสมุทรสุดสายธาร
สมญา องค์ทะไลลามะ พระแท้...เอย.
สวัสดีครับ ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ครับ เป็นผู้นำของประชาชนทิเบต ดีๆจริงๆครับ
กราบขอบพระคุณท่านอ.สุลักษณ์สำหรับข้อคิดความรู้มุมมองพระทิเบตใหม่ค่ะจากป้าโรส
ขอบพระคุณท่านอาจารย์สุลักษณ์ ที่ถ่ายทอดให้พวกเราได้รับทราบและเข้าใจได้ง่ายครับ ขอเป็นกำลังใจให้ท่านอาจารย์ และทีมงานสร้างสรรค์สิ่งดีๆต่อไปครับ
อาจารย์ส.ข้อมูลเเน่น สมกับคำว่าปัญญาชนจริงๆ
ขอให้องค์ท่านจงมีสุขภาพแข็งแรง...🙏🙏🙏
สาธุอนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ
กราบขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะ ที่เล่าเรื่องมีคุณมาก ได้เปิดความรู้ความคิด ที่ยังไม่เคยรู้ให้ได้รู้ค่ะ
ขให้ได้กราบท่านสักครั้ง.สาทุ.สาทุ.
อังคาร ๖\๗\๖๔ ได้รับความเข้าใจยิ่งขึ้น อ.สุ...
มองความสำคัญให้ลึก ซึ้ง แข็งแรงจ๊ะคุณตา
ขอบคุณครับอาจารย์
สาธุครับ..
ชอบฟังอาจารย์เล่าครับ
ありがとうございます。
อาจารย์เล่าเพลินมากค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ท่านอาจารย์ส.ศิวลักษณ์ความจำท่านดีมากอัจริยะจริงฯผมดูท่านบ่อยความรู้ท่านมาก
ปราชญ์ที่ยังมีชีวิต
อนุโมทนาสาธุครับ
น่าสนใจมากๆ ขอแชร์นะครับ ขอบคุณครับ
ยินดีมาก ๆ ครับ : )
อยากให้อาจารย์พูดถึงท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพทธโฆษาจารย์ (ปยุตโต) ครับ
สาธุพระลามะ.
ต้องเรียนรู้นะขอรบ ทุกท่านมีความหมายมากๆ ว่าทำไมมีความสำคัญอย่างไร ทำมาหากินมีใช้แบ่งปัน สนุกสนานลือลั้น นั้นแหละการใช้ชืวิต
ชื่อเสียงป่นปี้ หมดแล้ว เพราะความประมาท ขาดสติ ขี้เล่น ของตัวเอง
นี่แหละ พระวินัย จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
จริงค่ะ!
อาจารย์ ส. ใช่ไหมครับคุณตา อายุยืนมากมาก 90ปีแล้วใช่ไหมครับยังแข็งแรงอยู่เลยครับ ใด้ข่าวว่าเมียคุณตาดูแลคุณตาดีหาแต่ของดีๆมาบำรุงรักกันไปนานๆนะครับ
สั่งหนังสือได้ทางไหนบ้างค่ะ
ผมชอบคำสอนหลายๆ อย่างของพุทธ แต่เรื่องที่ผมไม่ค่อยเชื่อ คือ เรื่องกลับชาติมาเกิด เรื่องการเกิดนี่ ผมเชื่อว่า เกิดครั้งเดียว ตายครั้งเดียว
เห็ดที่ตายแล้วเชื้อยังมีอยู่ยังงอกได้
@@hujgddsgffjhvds2172 คนละความหมายกันครับ ผมหมายถึง ชีวิตจิตวิญญาณ มีหนึ่งเดียว เกิดมาแล้วดับไป แต่การเวียนว่ายตายเกิด เป็นเรื่องสิ่งมีชีวิตที่สืบพันธุ์ต่อไปผ่านสารพันธุกรรมตามธรรมชาติ ไม่ใช่วิญญาณเดิมกลับมาเกิดครับ
@@hujgddsgffjhvds2172 อีกต่าง เห็ด ก็คือเห็ด คนก็คือคน ลิงก็คือลิง ผมไม่เชื่อวิวัฒนาการของมนุษย์ว่าวิวัฒนาการมาจากลิง แค่มีพันธุกรรมหลายตัวที่คล้ายกันเท่านั้น
@@hujgddsgffjhvds2172 ตามที่ผมเรียนชีววิทยา เห็ดตายแล้ว แต่สปอร์ยังอยู่ สปอร์คือสารพันธุกรรมในการขยายพันธุ์ของเห็ดอยู่แล้ว คล้ายสเปิร์มของคน วิญาญของพ่อแม่ตายแล้ว แต่ สเปิร์มกับไข่ผสมกันขยายต่อไป เป็นอีกชีวิตหนึ่งครับ
@@MindNUX จิตดวงเดิม แต่กายสังขารใหม่ แต่จิตในพุทธศาสนา ท่านเปรียบเหมือนการจุดเทียน แล้วจุดต่อกันไปเรื่อยๆจากหนึ่งกลายเป็นพัน ฯลฯ อาการนี้ท่านเรียกว่าสันตติ คือ ความสืบต่อ ถามว่า ไฟดวงใหม่กับดวงเก่า ใช่ไฟดวงเดียวกันหรือไม่ ตอบว่า ดวงเก่าก็ไม่ใช่ ดวงใหม่ก็ไม่เชิง เพราะมันอาศัยสืบต่อกันมา ผมเชื่อวิทย์แต่ก็ไม่ทั้งหมด ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เปลี่ยนไปเรื่อยและมักถูกแทนที่เมื่อมีทฤฏีใหม่ที่ดีกว่า หลายเรื่องนักวิทย์ยังพิสูจน์ไม่ได้ โดยเฉพาะ เรื่องจิต พวกเขาไม่เชื่อเรื่องที่ลี้ลับที่สัมผัสไม่ได้ แต่พวกเขาก็ยังกลัวอาถรรพเลข13 และไม่ผูกเนคไท้ ในวันปล่อยยานอวกาศ😄 มีแต่นักวิทยาศาสตร์ทั้งนั้นเลย ผิดพลาดประการใดขออภัยครับ
ปู่สอจัดสันฮู้จักฮาก่อไอ้
คนที่ว่า อ. เค้าคงไม่มองโลกกว้าง
สาธุ
อย่างหนึ่งที่เห็นเสมอๆ คือท่านจะยกมือไหว้ผู้คนใช้เป็นการทักทาย แต่พระสงฆ์ไทยบอกว่าแม้แต่พระเจ้าอยู่หัวยังยกไหว้ แสดงว่ากูใหญ่ไม่จำเป็นต้องไหว้ใครตอบ...นี่คือเรืาองจริง
พระพุทธองค์เคยไวใครไม
@@Nevermind_Smile อันนั้นถูกต้อง แต่พระสงฆ์สายเถรวาทจะถือตนเสมอ ใหญ่.. ทนง หยิ่ง ทำไมไม่คิดในแง่อื่น ผู้ที่น้อบน้อมถ่อมตนลดอัตตาคนเท่านั้น..สมควรแก่การคารวะตอบ ข้อนี้พระสอนเป็นประจำทำไมไม่สอนตนเองบ้างว่ะ
มันเป็นไปตามวินัยสงฆ์ของฝ่ายเถรวาทครับ ส่วนท่านดาไลลามะคงจะถือต่างกัน
@@ทวีศักดิ์รอบรู้-ซ9ฅ ไม่มีใครรู้หรอกว่าพุทธองค์ไหว้หรือไม่ เกือบส่มพันปีมาแล้ว..แต่ที่เห็นประจักสายตางค์ตไลลามะเป็นที่ยอมรับคนทั้งโลก เผยแผ่ธรรมะได้ไกลกว่าสายเถรวาทจอมหยิ่ง ทนงตน คนทั้งโลกอยากเป็นสาวกองค์ตไล...คุณมองเห็นอะไร!!
เป็นธรรมดาครับสำหรับพระในนิกายมหายาน วัชรยาน ที่จะทำความเคารพฆราวาส เพราะท่านถือว่าเป็นการเคารพพุทธาวะที่มีอยู่ในสรรพสัตว์
กราบขอบพระคุณความรู้ของอาจารย์อย่างมากค่ะ
พุทธแบบถืออัตตาตัวตน ก็พุทธศาสนาแบบไทย
👍👍👍🇹🇭🇹🇭🇹🇭🌹⛳️⛳️
พุทธศาสนา ไม่ได้สอนเพื่อนำปวงสัตว์ให้ไปเกิดใหม่เป็นเป้าหมาย!! แต่พระศาสดาบอกสอน "พุทธวจน"(ธรรมวินัย)เพื่อที่จะนำปวงสัตว์ไม่ต้องไปเกิดอีก...คือการให้ได้ อมตะธาตุ (นิพพาน) เป็นเป้าหมาย.
แต่ปวงสัตว์ที่เกิดกันมา ย่อมมีกรรมเป็นของตน ย่อมมีอินทรีย์ที่แตกต่างกันแบ่าง อ่อนบ้าง แม้จะเกิดในคติมนุษย์เหมือนกันก็ตาม (เปรียบบัว๓เหล่า) จึงไม่สามารถเข้าถึงนิพพานได้ทุกคน เพราะความต่างของอินทรีย์๕ และโอกาสได้พบ-ไม่ได้พบ "พุทธวจน )" ของคนนั้นๆ
แต่การปฏิบัติธรรม(มรรค๘)ของมนุษย์ทุกความต่างแห่งอินทรีย์๕ นั้น อาจจะได้เป็นอริยบุคคลในขั้นต้นๆ ขั้นใดขั้นหนึ่ง ตั้งแต่โสดาบัน-สดมาคามี-อนาคามี) อยู่ที่ ได้พบพุทธวจน หรือไม่และประกอบด้วยความเพียรของแค่ละคน ถึงแม้บางคนจะต้องได้เกิดอีก ก็เพียงพอที่จะหลุดพ้นไปจากการเกิดในคติต่ำ(ทุคติ)คือ นรก-กำเนิดเดรัจฉาน-เปรตวิสัย๑๐๐%แล้ว
ส่วนอริยบุคคลขั้นต้นๆ ที่ยังมีกิเลสเชื้อเหลือ(ต้องเกิด) บ้างก็๗คราว บ้างก็๒-๓ คราว บ้างก็คราวเดียว ทั้งในคติมนุษย์บ้าง-เทวดาบ้าง สุดท้ายก็ได้อมตะ(นิพพาน)ไม่ต้องเกิดอีก(ถึงที่สุดแห่งทุกข์) ได้
รู้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องของตัวเองจริงครับท่านอาจารย์
โสสิ
ทำไมพระธิเบตถึงมีแฟนผู้หญิง เดินจับมือถือแขนกันได้
อันนั้นไม่ใช่พระครับ มันจะคล้ายๆเเต่ไม่ใช่ ท่านสึกออกมาแล้ว เเต่ยังปฎิบัติเเละมีเมียได้ ใส่สีเหมือนพระ เลยทำให้คนทั่วไปมองว่าเป็นพระ เราต้องศึกษาเพิ่มเติม เเยกให้ออก
พระทิเบตไม่เคยมีเมียได้ครับ ท่านถือมูลสรวาสติวาทวินัย ปาราชิก4เหมือนบ้านเรา ส่วนที่เห็นว่ามีภรรยาได้เป็นนักบวชที่เรียกว่างักปะ ซึ่งไม่ใช่พระครับ
เล่าถึงแม้วหน่อย
ไม่ได้อยู่ในสมอง
บาปกรรมมากๆๆ
โลกขาดเมตรา
ขึ้นพาดหัวมาก็มั่วละ ธรรมดาตรงไหน พระลามะตำแหน่งสูงสุดของธิเบตทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายสงฆ์เลยนะนั่น
ก็ท่านทะไลอ้างตนว่าเป็นเเค่พระธรรมดาครับ
อีกอย่างในเรื่องการเมืองคนที่มีอำนาจในธิเบตจะเป็นพวกพระเลขานะศึกษาดีๆทะไลมีอำนาจเเค่ผู้นำทางจิตวิญญาณตั้งเเต่สมัยมองโกลละไม่มีสิทธิ์ยุ่งการเมือง
พวกมีอำนาจจะเป็นอีกคณะหนึ่ง
ประมุขนำฝ่ายสงฆ์ของนิกายที่ทะไลลามะสังกัด(เกลุก)คือองค์กาเดรนตรีปะครับ ไม่ใช่ทะไลลามะ
อนุโมทนาสาธุครับ
ใครเป็นคนตั้งให้มันเป็นปราชญ์คอมหลงยุคพูดเพ้อเจ้อ
ตั้งรูปโปรไฟล์ให้เป็นก่อนมั้ยลุง
ผมครับเป็นคนตั้งมีปัญหาปะ
คิดว่าไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปแล้ว ที่ไหนได้ยังมีไดโนเสาร์อยุ่อีก1 น่าเวทนาจริงๆลุงเอ่ย
ขอให้ท่านสุขภาพแข็งแรงอายุยืนนานค่ะ
เอาตัวเองไปเปรียบกับพระพุทธเจ้าก็อย่างที่เห็น
ทั้งสองคนพึ่งพาอาศัยเงินตทุนตะวันตกเลี้ยงชีพเหมือนกัน