ธรรมชาติของความเป็นจริง : ควอนตัม vs พุทธศาสนา
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 4 พ.ย. 2023
- ค้นพบแนวคิดที่ท้าทายการคิดแบบเดิมๆ ของเราเกี่ยวกับความเป็นจริง
ตามหลักฟิสิกส์ควอนตัม อนุภาคต่างๆ ในธรรมชาติไม่ได้มีลักษณะที่แน่นอน แต่มีอยู่ในสถานะของความเป็นไปได้หลายๆ สถานะ จนกระทั่งถูกวัดหรือสังเกต เมื่อถูกวัดหรือสังเกตแล้ว อนุภาคจะปรากฏในสถานะหนึ่งสถานะเท่านั้น
#พุทธฟิสิกส์
#ฟิสิกส์ควอนตัม
#จิตสำนึก
#พระพุทธศาสนา
#ความว่างเปล่า
#ศักยภาพบริสุทธิ์
#quantummechanics
#reality
#consciousness
#buddhism
#emptiness
#potentiality - บันเทิง
ในศาสนาพุทธไม่มีคำว่าบังเอิญ ทุกสิ่งเป็นเหตุและผลกัน
หนังสือเล่มนึงมีคนเขียนจับมาชนกัน จริงๆไม่ได้เป็นเรื่องควอนตัม แต่การอธิบายจิต คนเขียนนำมาโยงกับควอนตัม โดยหากอ่านเฉยๆ ไม่ได้เรียนวิทย์หรือศึกษามาและขาดความเข้าใจแก่นพระธรรม มันก็จะไม่เข้าใจ พาเตลิดหลุดโลกไปใหญ่... เรื่องเล็กๆกลายเป็นเวอร์วัง
ถ้ายังไหว้ศาล ราหู ตั้งขอเซ่นไหว้ เน้นการสวด การขอพร รูปปั้น เทวดา พญานาค สักยันต์ ของขลังก็ยังอีกไกล ที่เข้าใจพระธรรม...
แค่พ้นหาอารมณ์ว่างก็จบแล้วครับ
พระฉันข้าววันละ 2 หรือ 1 มื้อและมีนักวิจัย
การกินข้าววันละ 1 มื้อหรือ 2 มื้อส่งผลดีต่อสุขภาพ
เขาก็บอกอยู่ว่า เป็น สมมุติฐาน
นั่งสมาธิ พอไปถึงจุดหนึ่งจะมีบางอย่างทะลวงเส้นเลือดเส้นเอ็น รู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย ตัวเบากระฉับกระเฉง ทำให้นึกนิยายจีนที่พูดถึงลมปราณ แถมมีแสงสว่างจร้าขยายออกไปจากใบหน้าเป็นรูปทรงกลม ต้องลองทำเองจึงจะรู้ หลักเลยอย่าอยากเห็นอะไร ตามรู้ลมหายใจที่เข้าออก ......
รู้อะไรเห็นอะไร จิตฟุ้งครับ พระพุทธเจ้าบอกอย่ายึดอะไร เพราะมันไม่ใช่และไม่มี ไม่ใช่ของเรา
แค่เริ่มต้นครับ ถ้าไปถึงจริงมันจะไม่รู้สึกว่าอะไรเป็นอะไร มันต้องไม่มีมโนภาพว่ามีแสงออกจากหน้า สรุปมันต้องไม่มีอะไรสักอย่างที่คำพูดใช้อธิบายได้
อาจารย์ผมเรียกระเบิดขันธ์ครับ 😊
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัตตัง ต้องพบประสบด้วยตนเองเท่านั้นถึงจะเข้าใจ
@@user-gf2oz2yl5m เกจิ บางคน พูดเหมือนที่เขาบอกนะแหละ ถ้าเรายังไม่เคย รึไปไม่ถึง ก็ไม่อาจทราบได้ ถามว่าผมนั่งไหม สมาธิ แต่ไอ้ชิบหาย สงบไม่พอ 15 วิ 555 สงสัยเป็นผลมาจาก ติดยามา 10 กว่าปี พึ่งตัดสินใจเลิก เด็ดขาด เข้าปีที่ 3 แล้ว ผมเลิกได้ เพราะอ่านไตรปิฏก ฝึก ขณิกะสมาธิด้วย ความอยากได้ อยากมี มันลดลงนะ ความอิจฉาด้วย โมโห หงุดหงิด ก็ลดลง ขนาดผมเหี้ยมาก่อน ยังเปลี่ยนได้ ผมเชื่อว่า ใคร ๆ ก็ทำได้ ยิ่งไม่ได้เหี้ยมาก่อนแบบผม ผมว่ารุดหน้าได้ไว
พุทธะคือผู้รู้แจ้ง แต่ศาสนิกอื่นหรือผู้ฟังด้วยอคติอาจไม่เข้าใจ ...แต่หากฟังด้วยความว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวตนก็จะลึกซึ้งยิ่งขึ้น และพอเข้าใจได้ เยี่ยมครับ👍
พุทธองค์ทรงค้นพบวิทยาศาตร์ทางนามธรรม
@@user-fr6yj8sj1oมันไม่ใช่นามธรรมครับ เป็นสิ่งที่มีอยู่จริงๆ
จะบอกให้ถอดสมองฟังงั้นหรอ😅😅😅
เราอย่าอวดอุตริว่า ศาสนาของข้านั้นเป็นผู้รู้แจ้งมากน้อยขนาดไหน แล้วอย่าไปวิพากษ์วิจารณ์ศาสนาอื่่น นี่คือคุณสมบัติของพุทธศาสนิกชนที่แท้จริงครับ
@@user-fr6yj8sj1oวิทยาศาสตร์ไม่มีนามธรรม
ทีมงานท่านผู้บรรยาย
คงทำงานหนักมากกว่าจะเรียบเรียงหลายอย่างมาประกอบกัน
เพื่ออธิบายให้ผู้คนรับฟัง เข้าใจในสิ่งที่ผู้บรรยายอยากสื่อสาร
ขอบคุณมากนะครับ
พระพุทธเจ้าทรงค้นพบตั้งนานแล้วแต่นักวิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้ทำให้ยังล้าหลังอยู่
ฉันขอตอบที่ว่า พิสูจน์ไม่ได้เพราะคนทั่วไปมองว่า
1. พุทธศาสตร์ เป็นแค่ ศาสนา เป็นความเชื่อ เป็นแค่ พิธีกรรมแค่นั้น เพราะมันเป็นเรื่องใกล้ตัว เรื่องเกี่ยวกับตัวเราคนเลยมองข้าม
2. สติปัญญาของคนเราในยุคนี้ไม่เพียงพอเลยมองว่าพุทธศาสตร์เป็นเรื่องปรัชญา
3. ไม่มองว่ามันเป็นวิทยาศาสตร์
แต่พุทธศาสตร์มันยังลึกเข้าไปอีกกว่านั้น
เพราะมันยังรวมเอา ทั้ง 3 ศาสตร์เข้าด้วยกันนั่นก็คือ
จิตวิทยา
สรีระวิทยา
ปรัชญา
นิเวศวิทยา
ถ้าศึกษาพุทธศาสตร์อย่างละเอียดและลึกซึ้งจะรู้ว่า มันลึกจริงๆๆ
@user-bb5ig1dj7j จริงค่ะ ลึกและหมดคำค้าน
ความรู้อื่นมีมากมายเหมือนใบไม้ในป่าใหญ่ แต่สิ่งที่พระพุทธเจ้ามอบให้ดั่งใบไม้หยิบมือ ใบไม้หยิบมือนี้แหละที่ทำให้มนุษย์เราหลุดพ้น
ใกล้แล้วสินะมนุษย์เอ่ย ถ้าเจ้ารู้ว่าสิ่งรอบตัวมันเป็นเพียงสิ่งสมมุติเท่านั้น ไม่ว่ารูป รส กลิ่น เสียง ถ้าเจ้ารู้ความจริงเกี่ยวกับมันอย่างแท้จริงแล้ว อย่างที่พระพุทธโคตมทั่นทำได้ อย่าหลงเชื่อว่าสิ่งที่เห็นนั้นเป็นอดีต แสงไม่ได้เป็นสะสารที่เร็วที่สุด แต่สิ่งที่เร็วที่สุกคือ จิต และการมองเห็น พวกเจ้าจะไปไหนมาได้ เพียง เสียววินาที ได้ทั้งกายหยาบ และกายละเอียด
วิทยาศาสตร์ ยังตามหลังพระพุทธเจ้า หลายพันปี
❤❤❤ใช่แล้วครับ ตัวเราเองก็เป็นแค่สสาร เมื่อสัมผัสกับสิ่งของอย่างอื่นก็เป็นการทำปฏิกิริยาของสสารกับสสาร ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่พึ่งพาอาศัยกันและกัน อย่างเข้าใจง่ายคือ สิ่งมีชีวิตต้องใช้อาหาร น้ำดื่ม ที่มาจากสสารอื่นเพื่อให้ตนเองอยู่รอดได้ ถ้าเสียชีวิตร่างกายก็จะสามารถเป็นอาหาร/ปุ๋ย ให้กับสสารและสิ่งมีชีวิตอื่นได้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นควานตัม ที่😮😮😮
คลิปช่องคุณเจ๋งมากๆครับ อยากให้ช่องโตไวๆ คงคุณภาพนี้ไว้น่ะครับ 🍻🌏
ไม่มีบังเอิญหรอก!!!
พระะพุทธะ พระมหาศาสดาโลก #คือผู้รู้ ครับ
พระพุทธองค์นี่แหละ เป็นมนุษย์คนแรก ที่ค้นพบความเป็นไปของจักวาล
ไม่แปลกใจเลยในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ แต่แปลกใจว่า พระพุทธองค์ ทรงรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร มันซับซ้อนมาก เกินกว่าคนปกติทั่วไปจะเข้าใจได้ง่ายๆ ผ่านไป 2500 ปี ยังไม่มีไครสามารถมาหักล้างคำสอนพระองค์ได้เลย เหลือเชื่อจริงๆ
ไม่เห็นต้องงง ก็คนแต่งเรื่องนี้ขึ้นมาตอนยุคปัจจุบันนี่แหละ แต่งเพื่อให้เรื่องราวมันดูเหมือนพระพุทธเจ้าเป็นผู้มหัศจรรย์
@@yingying1316 เรื่องปาฏิหารย์ ไม่เกี่ยวเลย ในพระอภิธรรม ไม่มีเรื่องแบบนี้ มีแต่ทฤษฎีและหลักปฏิบัติ เรื่องที่แต่งขึ้น มีแต่ใยพุทธประวัติ คนที่ศึกษาจริงจังจะรู้
@@MegaWinyoo ผมโอเครกับคำตอบคุณนะ... และจากการศึกษาเชิงลึก สิตธัตถะ มีความอัศจรรย์ในคำพูดและคำสอนอยู่นะ เพียงแค่ว่า คำสอนและคำสั่งสำคัญๆ คนพุทธยุคหลังกลับไม่ให้ความสนใจ และมุงไปที่คำสั่งห้ามของ สิทธัตถะแทน คือ การยึดติด ชาวพุทธยุคหลัง เน้นไปยึดติดกับตัวบุคคลคือ สิทธัตถะ การยึดติดตรงนี้ มันเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงและตัด บางส่วนของคำสอน คัมภีร์พระไตรปิฏกจึงต่างออกไปจากต้นฉบับ การสังคายนา ว่า ด้วยเรื่อง ปรับเปลี่ยนคำสอนให้สอดคล้องกับยุคสมัย ผมไม่เข้าใจ ชาวพุทธทำสิ่งนี้ไปทำไมและเพื่ออะไร ถ้าคำสอนของสิทธัตถะที่คุณบอกว่าไม่มีใครสามารถหักล้างได้ และ คำสอนที่คุณหมายถึง คือ คำสอนไตรปิฏกปัจจุบัน ... ผมแย้งครับ ข้อที่จะเอามาหักล้างและตั้งคำถาม มันมีเพียบครับ แต่มันก็ใช่เรื่อง ที่ผมจะไปแสดงออกว่าผมตั้งใจแน่วแน่ที่จะมาถามสงสัย แล้วให้ชาวพุทธมาชี้แจง ... เพราะการชี้แจงมันจะมาในลักษณะทัศนคติความเชื่อ ของผู้อธิบายและชี้แจง ซึ่งขอเดาว่า เราไม่น่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ ทั้งสองฝ่าย แค่แวะมาทักทาย ... และ อยากบอกว่าคำสุดท้ายที่คุณทิ้งไว้ ทัศนคติของผมที่ผมเห็นคือ ไม่เห็นด้วยครับ และ ไม่ได้หมายความว่า ผมจะเข้ามาให้คุณท้าผมพิสูจน์ เพราะผมผ่านตรงนั้นมาไกลแล้วครับ ไม่จำเป็นที่ผมจะต้องไปทำซ้ำ ... ผมไม่ชอบเม้นท์ที่คุณแขวนเอาไว้ แต่ก็ชอบเม้นท์ที่คุณตอบ
@@yingying1316 คุณยังไม่ได้ศึกษาศาสนาพุทธให้ถึงแก่นแท้ มีอวิชชาคือความไม่รู้ ที่จริงแล้วพุทธศาสนา ไม่ได้สอนให้ต้องยึดติดตัวบุคคลใดๆทั้งสิ้น นอกจากยึดคำสอนธรรมมะ เป็นสรณะ ให้รู้ว่าทุกอย่างในจักลวาลนี้ ไม่เที่ยง มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นธรรมดา เพื่อให้ปล่อยวางและเข้าใจสิ่งที่มันมีจริงอยู่ในโลกนี้อยู่แล้ว
@@yingying1316 ศาสนาพุทธ สอนให้รู้ถึงเรื่องกรรม คือการกระทำ และผลของกรรม ก็คือผลของการกระทำ ไม่มีใครมาดลบันดาลให้เราเป็นแบบนั้นแบบนี้ ทุกอย่างมันอยู่ที่การกระทำของเราเป็นหลัก คิดดีก็ได้ผลของการคิดดี คิดชั่วก็ได้ผลของการคิดชั่ว ไม่ช้าก็เร็วได้รับผลแน่นอน
ตถาคต กล่าวถึงจักรวานอยู่ภายใต้
กฎๆเดียว คือ กฎอิทัปปัจจยตา
เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี
เพราะสิ่งนี้เกิด สิ่งนี้จึงเกิด
เพราะสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี
เพราะสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ
เป็นการอธิบายว่าทุกอย่างอาศัยกันและเกิดขึ้น
ก็เป็น ทฤษฏีที่สนุกนะที่ทำมา 😊 แต่คนที่รู้ พูดออกมาอายุสั้นแน่นขอให้โชคดีกับการค้นหากันต่อไปนะ หวังว่าคงหาเจอในสัก200ปีเป็นอย่างเร็ว😅
อนุภาค และ คลื่น คือสิ่งเดียวกัน แล้วแต่ว่า ตัว ตรวจจับ จะสั่งให้มันเป็นอะไร
นั่นคือหัวใจของพระพุทธศาสนา นั่นเอง
คือ เจตนา เป็น สิ่งที่มีพลังมหาศาล และ สร้างโลกนี้ขึ้นมาได้
ยอดเยี่ยมกระเทียมเจียว ขอบคุณที่สร้างสรรขี้นมาครับ 🎉🎉🎉❤
ไอสไตล์ยังยอมรับศาสนาพุทธเลยครับ
ข้าพเจ้าได้สดับฟังมาแล้วอย่างนี้ : จิต มโน วิญญาณ : "ก็ถ้าว่าบุคคลย่อมไม่คิดถึงสิ่งใดด้วย ย่อมไม่ดำริถึงสิ่งใดด้วย และย่อมไม่มีจิตฝังลงไปในสิ่งใดด้วย ในกาลใด ในกาลนั้น (ปัจจุบันธรรม) สิ่งนั้นย่อมไม่เป็นอารมณ์เพื่อการตั้งอยู่แห่งวิญญาณได้เลย เมื่ออารมณ์ไม่มี ความตั้งขึ้นเฉพาะแห่งวิญญาณย่อมไม่มี เมื่อวิญญาณนั้นไม่ตั้งขึ้นเฉพาะ ไม่เจริญงอกงามแล้ว เครื่องนำไปสู่ภพใหม่ย่อมไม่มี เมื่อเครื่องนำไปสู่ภพใหม่ไม่มี การมาการไปย่อมไม่มี เมื่อการมาการไปไม่มี การเคลื่อนและการบังเกิดย่อมไม่มี"
สูตรลัดสั่นๆ เกี่ยวกับ จิตมโนวิญญาณ ในพระไตรปิฎก พุทธวจน.
หมายเหตุ : อารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งวิญญาณขันธ์👻จิตวิญญาณเป็นธาตุรู้อารมณ์ฯ
@การให้ธรรมะชนะการให้ทั้งปวงฯ และการรับธรรมะก็ชนะการรับทั้งปวงเช่นเดียวกัน
#ฆราวาสก็บรรลุธรรมได้ #อริยสัจ #สัมมาสติ #มหาสติปัฏฐานสูตร #ฌานสูตร #จิตมโนวิญญาณ #พระพุทธศาสนา #เซน #เจโตวิมุติ #ปัญญาวิมุติ #จิตเหนือโลก #ปฏิจจสมุปบาท #หยุดคิดปรุงแต่งอย่างสิ้นเชิงฯ #ความคิดคืออวิชา #วิญญาณธาตุรู้อารมณ์ #อัตราเจตนาตัณหา #ผู้ไม่มีความหวั่นไหวและไม่ถือมั่น #เมื่อเราไม่มี #จิตหลุดพ้น
การเดินตามรอยพระพุทธองค์ เป็นผู้ที่ได้พบกัลยาณมิตรครับ สาธุครับ☺️
เข้าใจผิดเเล้วครับ มันไม่ได้เกิดจากความว่างเปล่า เพราะถ้ามันว่างเปล่าจริงมันจะต้องว่างเปล่าตลอดไป ผมเด็กสายวิทย์ครับ นักวิทยาศาสตร์หลายคนนะที่เชื่อเรื่องพระเจ้าคนพวกนี้ไม่ได้โง่ คนที่โง่คือคนที่คิดว่าความคิดตัวเองถูกที่สุด ความจริงทุกอย่างมันชัดเจนขอเเค่เราขยันศึกษา
@@sunflower-ny4we อย่างนั้นคุณยังโง่อยู่ที่คิดว่าความว่าคงจะอยู่ตลอดไป นั่นเป็นความคิดที่ว่าตัวเองคิดถูกเสมอ นอกจากพระพุทธเจ้าแล้วไม่มีคำสอนของอาจารย์ไหน
เป็นคำสอนที่ถูกต้องที่สุด ส่วนมากถ้าศึกษาไปจะเห็นความย้อนแย้งในตัวมันเอง อย่างเช่นที่คุณว่าคนที่คิดว่าตัวเองคิดถูกเสมอ นั่นก็รวมตัวคุณเข้าไปด้วย🤔
@@sunflower-ny4weคุณยังโง่อยู่เยอะเลย..ขอถามหน่อยว่าอะไรบ้างที่เป็นของจริง..รูปทั้งหลายนามทั้งหลายล้วนแต่เป็นอนัตตาทั้งนั้น..
@@sunflower-ny4we
แต่ก็มีนักวิทหลายคนนะคับ ที่ไม่ได้เชื่อเรื่องพระเจ้า
เพราะเขาพิสูทไม่ได้เลย
ว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างจริงๆหรอ
ความรู้แจ้งเห็นจริงในสภาวะธรรม จะเป็นปัจจัยที่ทำให้เราหลุดพ้น จากโลกสมมุตินี้ได้ และจิตวิญญาณดวงนี้
จะเป็นอิสระจากเครื่องร้อยรัด ที่ทำให้สัตว์ยังต้องวนเวียนอยู่ในวงจรเมทริกซ์ เวลาของจิตจะหยุดนิ่งและไร้กาลเวลา เราเรียกสิ่งนี้ว่า"นิพพาน"
ฟังตั้งนานไม่เข้าใจควานตงควานตั่ม เรียนมาน้อย แต่ฟังเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า เข้าใจสบายใจดีครับ😅😅 ขอบคุณ
พระพุทธองค์ ไม่ใช่นักฟิสิกส์โดยบังเอิญ พระองค์ทรงรอบรู้ แต่ทรงไม่พูด เพราะพระองค์ทรงเห็นว่า ไม่มีประโยชน์
สุดยอดครับ สนุกมาก และมันคือความจริงครับ🎉
ขอบคุณ
ขอบคุณ
ขอบคุณ
สาธุ ❤
สาธุ❤ สาธุค่ะ❤
ตื่นรู้อีกครั้ง ขอบคุณครับแอด😊😊😊
อยากแชร์ไว้ ตรงไหนสักแห่ง เอาตรงนี้เลยแล้วกัน
..... ตื่นรู้ เท่ากับ (=) ตรัสรู้ ....และทั้งหมดทั้งมวล คือ ความว่างเปล่า .... เพิ่งคิดได้ตอนฟังคลิปของช่อง 😊😊😊😊
ขอบคุณมากครับได้ความรู้ที่ดี จิตมโนวิญญาณคือสิ่งเดียวกัน คือธาตุรู้ เป็นนามธรรม ดวงหนึ่งเกิดขึ้นดวงหนึ่งดับไปตลอดวันตลอดคืน เป็นธาตุที่ไม่เที่ยง ไม่เป็นอมตะ แต่มีอยู่ทั่วเอกภพ เช่น เราอยู่กาแลคซี่อื่นหรือนอกกาแลคซี่ เราก็ยังมีอาการรู้ ตัวรู้นี้มีอยู่ในแต่ สังขตธรรม เท่านั้น คือมีธรรมชาติอาศัยซึ่งกันและกัน มีเกิดปรากฏ มีเสื่อมปรากฏ เมื่อตั้งอยู่ย่อมมีอาการอย่างอื่น ส่วนอสังขตธรรม หรือนิพพาน คือไม่ปรากฏการเกิด เสื่อมไม่ปรากฏ เมื่อตั้งอยู่ไม่มีอาการอย่างอื่น อสังขตธรรมนี้ ไม่ปรากฏสสารใดๆ นามก็ไม่ปรากฏ รูปก็ไม่ปรากฏ หลุมดำ ดาวเคราะห์ การแลคซี่ เอกภพ รังสี แสง เสียง คลื่นพลังงาน พระเจ้าก็ไม่ปรากฏ ตัวสร้างไม่ปรากฏ ตัวทำลายก็ไม่ปรากฏ เวลา อดีต อนาคตก็ไม่ปรากฏ นี้คืออสังขตธรรม คือจุดหมายสูงสุดของศาสนาพุทธ ถึงไม่ปรากฏสิ่งใดๆ แต่สิ่งๆนี้มีอยู่ (ต้องอาศัยปฏิบัติเพิ่มเติมจะเข้าใจถ่อยคำได้ลึกขึ้น)
🙏กราบพระโสดาบันครับผมรู้ว่าคุณเป็นอย่างต่ำคือโสดาบัน โดยที่ท่านกล่าวว่า"จิตเป็นธาตุรู้"ไม่ใช่เรื่องที่ปุถุชนจะเข้าใจ🙏
เข้าใจผิดเเล้วครับ มันไม่ได้เกิดจากความว่างเปล่า เพราะถ้ามันว่างเปล่าจริงมันจะต้องว่างเปล่าตลอดไป ผมเด็กสายวิทย์ครับ นักวิทยาศาสตร์หลายคนนะที่เชื่อเรื่องพระเจ้าคนพวกนี้ไม่ได้โง่ คนที่โง่คือคนที่คิดว่าความคิดตัวเองถูกที่สุด ความจริงทุกอย่างมันชัดเจนขอเเค่เราขยันศึกษา
@@sunflower-ny4we ผมกล่าวความว่างไว้ตรงไหน
@@sunflower-ny4we เข้าใจอะไรผิดหรือป่าวครับ ลองอ่านช้าๆดูนะครับ
@@chayanis229โทดครับ ผมตอบผิดเม้นครับ
พระพุทธเจ้า 🙏🙏🙏รู้จริง-รู้แจ้งจึง..รู้โลกตามความเป็นจริง "วิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าทุกสิ่งรอบตัวเราเป็นอณูของสภาพพลังงานที่ควบแน่นจากพลังงานจึง เกิดขึ้นชั่วคราว-ตั้งอยู่ก็ชั่วคราว-แล้วก็สลายคืนกลับไปเป็นอนัตตา" ว่าความจริงของโลกคืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตาพระพุทธเจ้ารู้ว่าจักรวาลมีหลายจักรวาลหลายโลก หลายสภาพชีวิต ในอนันตจักรวาล😊😊😊จึงไม่มีอะไรบังเอิญ
เจอปั้บตามตามเลยคะชอบสารคดีแนวนี้
ขอบคุณครับ คลิปนีี้ได้ความรู้มากเลยครับ
เนื้อหาดี 👍 แต่อยากให้พูดจับจังหวะเพื่อเน้นความหมายจะดีมากๆ🙏🙏
บรรลุธรรมรู้ได้เท่ากัน เหมือนกันด้วยเราัเป็นสัจจธรรม มีเพียงสิ่งเดียว ไม่มีสอง หายสงสัย(วิจิกิจฉา) ด้วยชีวิตของทุกคนเท่าเทียมกัน
วิทยาศาสตร์
เป็นไปเพื่อทางโลก
ให้หวังผลจากวัตถุ
เล็กไปก็มองไม่เห็น
ไกลไปก็ไปไม่ถึง
คนหายก็หาไม่เจอ
อยากได้อะไรก็ไม่สมหวังดังปรารถนา
ติดอยู่ภายใต้กฏของธรรมชาติ
เมื่อถึงเวลาต้องชดใช้กัน
ตายก็เกิดทันที
ชอบมากๆครับ แจ่มแจ้ง
สาระดีมาก อธิบายได้ดีครับ
ขอบคุณค่ะ น่าคิดๆ
ยอมรับว่าฟังไม่ค่อยเข้าใจ
แต่ชอบฟัง และสนุก กับเรื่องแนวนี้
.
#เด็กสายศิลป์
รอเรื่องนี้มานานมาก อ่านเกี่ยวกับควันตั้มอยู่
ขอบคุณมากค่ะ❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤
ขอบคุณคะๆๆ❤
เรืองของธรรมมะต้องพิสูจน์ด้วยตนเอง
เรื่องของวิทยาศาสตร์สามารถแสดงให้ชัดเจนด้วยเครื่องมือ
ผู้อื่นสามารถเข้าถึงได้ง่าย
ถ้าลองทำตามโดยไม่ต้องอาศัยความเชื่อนะเห็นผลเหมือนคำที่พุทธเจ้าบอกเลย ต่างจากศาสนาอื่นที่ต้องเลื่อเสียก่อน
ธรรมะก็คือวิทยาศาสตร์ของจักรวาล..ธรรมะก็คือกฏความจริงของธรรมชาตินั่นเอง..ธรรมะคือวิทยาศาสตร์..วิทยาศาสตร์คือธรรมะ..
เคยอ่านหนังสือเล่ม มีบทความเถียงกันว่า หากไม่มีมนุษย์ก็ไม่มีดวงจันทร์ ? ตอนนี้ผมได้คำตอบแล้ว ขอบคุณครับ
ขอบครับ ชอบมาก
ขอบคุณคับ🙏
ขอบคุณครับ ติดตามครับ
นิพพานน่าจะเป็นสสารมืดมากกว่า คือสภาพนิพพานไม่มีกว้าง ยาว ลึก สว่าง มืด (ไม่มีทุกอย่างที่อายตนะเราสัมผัสได้เลย) เชื่อมต่อกันทั่วไม่มีขอบเขต ดังนั้นไม่มีเวลา แม้จิต(วิญญาณ)จะไปคิดสิ่งใด(สัตตาหรือผู้ยึดติด) ก็ยึดจับได้หมด ดังนั้นนิพพาน(หมดอวิชชาแล้ว)หรือผู้ยึดติด(ยังมีอวิชชา) จึงละเอียดแทรกทุกที่ในตังเราถึงจักรวาล เหมือนสสารมืด ที่หาตัวตนไม่ได้แต่รู้ว่ามันมีอยู่และเป็นส่วนใหญ่ของระบบจักรวาลนี้
มั่วมาก 555
คุณไม่รู้อะไรเลยแล้วยังมั่วสุดๆอีกด้วย..อยากรู้เรื่องพระนิพพานนั้นแนะนำให้ฟังคิริมานนทสูตรครับแล้วคุณจะหายโง่เอง
คนอธิบาย ช่างอ่านได้คล่องมากๆ แต่จิตใจ ห่างไกล !
จิต มนุษย์ยึดว่าเป็นของเราจริงๆแล้ว มันไม่ใช้ อย่ายึด มัน เราต้องอยุ่กับลมหายใจไปเรื่อยๆ เรียนรู้ลมหายใจ ความว่าเปล่าว
พระพุทธเจ้าพยายามบอกพวกเรามานานแล้วเรื่องความไม่มีอยู่จริงของสิ่งที่เราเห็นว่ามันมีอยู่
จริงๆแล้วที่เรารับรู้นั้นคือการสั่นสะเทือน ถ้าหยุดสั่นสะเทือนก็เหลือแต่ความว่างเปล่า อย่าลืมความจริงแล้วสิ่งเล้าภายนอก
จะไม่เกิดผลกับเราเลยถ้าเราไม่รับมันมาสั่นสะเทือนภายในของเรา เมื่อไม่สั่นสะเทือน และแล้วมันก็ว่างเปล่า เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าพยายามบอกพวกเรา ทุกอย่าขึ้นกับตัวเราไม่ใช่คนอื่น หยุดสร้างก็ว่างเปล่า☺️
เป็นธรรมที่คมและลึกซึ้งมากครับ..👍👍👍
ความบังเอิญ คงไม่ใช่แน่นอน รู้ความมาที่หลัง บอกว่า ท่านที่รู้ก่อน เป็นความบังเอิญ ของความรู้ที่เรารู้วันนี้ ฉลาดจริง !เนาะ
ขอบคุณครับ
สิ่งที่พุทธเจ้านำมาสอนเปรียบ เป็นแค่ใบไม้แค่กำมือเดียว เมื่อเทียบกับทั้งป่า ใบไม้กำมือเดียวที่ทำให้เใจไร้ทุกข์ เราไม่ต้องเรียนรู้ใบไม้ทั้งป่า แค่ใบไม้กำมือเดียวที่พุทธเจ้านำมาสอน ใจไร้ทุกข์ มีความสุขกับปัจจุบัน ไม่กังวล เรื่องอนาคต เรื่องในอดีต อยู่กับปัจจุบัน สงบ เย็น และเป็นประโยชน์
❤❤❤ยอดเยี่ยม
พระพุทธศาสนา คือ ศาสนา ที่ดี ที่สุดของ โลก นั่น คือ เรื่องจริง ที่ได้รับ การ ยกย่องสรรเสริญ ยอมรับ จาก คนชั้นสุง ต่าง ศาสนา ทั่วโลก และ ที่สำคัญ ที่สุด คือ อัลเบิร์ตไอสไตร์ นักวิทยาศาสตร์ เอกของโลก ชาวยิว ผู้มี มันสมอง อัจฉริยะ ที่สุดในโลก ยอมรับ พระพุทธศาสนา คือ ของจริง เขา เป็น ชาวยิว ยังยอมรับ ชาวยิว รู้จัก เปิดใจ ยอมรับความจริง ยอมรับว่า พุทธศาสนา คือ ศาสนา วิทยาศาสตร์ มหาศาสดาโลก. เขายอมรับความจริงได้ ทั้งนั้น เพราะมันคือเรื่องจริง ครับ🇹🇭🇮🇱🙏🙏🙏
ชอบมาก Wow! 🔥✨🍷🤟✨🍷✨🔥
ไม่บังเอิญค่ะ การสื่อสารและการแปลงสาส์นที่แตกต่างตามยุคสมัย ต้องศึกษาทั้งพุทธศาสนาและฟิสิกส์แบบองค์รวมทั้งหมดแล้วใช้จินตนาการถึงจะเข้าใจได้ ปัจจุบันกฎฟิสิกส์ยังพิสูจน์ทฤษฎีบางอย่างไม่ได้ แต่ก็รู้ว่ามีเพราะมีตัวแปรที่ไม่แน่นอนเกิดขึ้นแต่อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ไม่ละเอียดพอที่จะจับได้
คงมีแต่ผมมั๊ง ที่ยิ่งฟัง ยิ่งงง ยิ่งอธิบาย ยิ่งไม่เข้าใจ ยิ่งฟังคำอธิบายเปรียบเทียบ ยิ่งเห็นว่า ไม่มีอะไรที่เป็นความจริงในโลกของควอนตั้ม ควอนตั้มไม่สามารถอธิบายอะไรได้ และมนุษย์ก็สามารถคิดเอาเองได้ว่านี่คือควอนตั้ม ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดีหรือเลว มนุษย์ก็สามารถยืนยันว่านั่นคือควอนตั้ม สรุปตามความคิดที่ความฉลาดน้อยของผม อะไรที่เกิดขึ้น สามารถนับว่านั่นคือควอนตั้มได้
เยี่ยมครับ
พุทธ = วิทยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์ = พุทธ
ถูกต้องที่สุด
กว่าพระพุทธเจ้าจะค้นพบความจริงทางจิตวิญญาณ ก็ใช้เวลาค้นค้วาทดลองถึง 6.ปี เช่นเดียวกับการทดลองทางวิทยาศาสตร์
ชอบตอนจบมากเลยแอดพูดได้ดี
ชอบครับ
ดีมาก
ไม่มีความบังเอิญในพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าก็เห็นสิ่งนี้เป็นกฎอันเดียวกันในอดีตหลายแสนชาติของท่าน เหมือนหนึ่งชาตินี้ของเราจำได้หมดแล้วอีกหลายแสนชาติข้างหน้า เกิดใหม่เราก็ยังจำชาตินี้ได้ด้วยสติ สมาธิและปัญญา หรือจะเรียกเหมือนพุทธศาสนาว่า กฎแห่งกรรม ธรรมะ จิตว่าง ก็ได้😊
เริ่มออกจากสังคมตั้งแต่ 3ปี ที่แล้ว และปีนี้ได้ตัดจากทุกอย่างจนรู้สึกว่าชีวิตเคว้งมาก ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว เหงาเปล่าเปลี่ยวมาก ไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตต่อไป 😔🤍🕊
หาจากเหตุ และผลของวันนี้
เหตุที่เลือกตัด และผลที่เคว้งคว้าง
สุดครับ
ไม่น่าบังเอิญ การรู้ทั่วโลกธาตุนี้ แต่ไม่สามารถที่จะอธิบายให้คนในยุค 2500 ปี เข้าใจได้ ทรงตัดสินพระทัยแล้วตัดสินพระทัยอีกว่าจะสอนดีไหม แต่ทรงเห็นว่าบัวมีหลายเหล่าย่อมมีคนเข้าใจ ทั้งฟิสิก ชีวะ เคมี และกฎธรรมชาติจึงทรงเรียกรวมว่า "ธรรมมะ" ที่แปลว่า "ธรรมชาติ" สิ่งที่พระองค์สอนอยู่คือกำลังอธิบายการทำงานของธรรมชาติ ทั้งแบบนามธรรม และ รูปธรรม
เยี่ยมครับ..คุณเป็นนักปราชญ์ได้สบายๆเลย
ร่างกายและจิตใจ
ท่านสอนให้พิจารณา โดยความเป็นธาตุ ธาตุ4 ธาตุว่าง ธาตุรู้
ความว่างศูนย์ตา.ว่างเปล่าคือซากศพ🙇
❤ เห็น ❤รู้❤ต่างกัน❤เห็นแจ้ง..ใช่❤🎉🎉🎉🎉
ต้องไปศึกษาเรื่องจิตให้ดี วิถีจิต เจตสิกจิต อัญญาสมานเจตสิกจิต มหาปัฏฐาน สรรพจิตสาธารณะ กุศล อกุศลจิต มหัคตตาจิต ยุคลธรรม สมาธิจิต สติฯลฯ
การสื่อสารระหว่างวัตถุ จะเร็วกว่าแสงไม่ได้ครับ
ไม่มีอะไรมีความเร็วกว่าแสง
นี่คือกฏ
พุทธศาสตร์สามารถอธิบาย
วิทยาศาสตร์ได้.แต่ใครจะเข้าถึงจุดนี้ได้ ไอน์สไตน์ เคยกล่าวถึงศาสนา แห่งจักรวาล ที่เป็นวิทยาศาสตร์ที่สุด ก็คือพุทธศาสตร์
ถูกต้องที่สุด
ทุกสิ่งทุกอย่าง จะอิงอาศัยกัน จึงเกิดขึ้น
พุทธศาสนา
..
สุดท้ายก็สุญตา
วิทยาศาตร์ยิ่งก้าวหน้ามากเท่าไหร่ จะยิ่งเข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้ามากขึ้น ควอนตัมค้นพบความลับของนามธรรมทั้งหลายของจักรวาล พระพุทธเจ้าเป็นนักวิทยาศาตร์แห่งจิตซึ่งละเอียดและลึกซึ้งกว่ามาก
ความบังเอิญไม่มีในโลก "ทุกอย่างเกิดจากเหตุปัจจัย"ครั้งหนึ่งในป่าพระพุทธเจ้ากำใบไม้ขึ้นมาแล้วพูดกับสาวก ว่า "สิ่งที่พระองค์บอก สอนนั้นเป็นเพียงแค่ใบไม้ในกำมือ แต่สิ่งที่พระองค์รู้เปรียบเหมือนใบไม้ในป่า"
พระพุทธเจ้าไม่ได้สนใจเรื่องวัตถุ แต่เน้นที่จิต แล้วเมื่อกว่า 2,600 ปี จะเอาอะไรไปพูด ไปบอกว่ามีอะไร เป็นอย่าง กับคนในสมัยนั้นได้อย่างไรครับ เช่นแค่จะบอกว่า "ในอนาคตจะมีหม้อหุงข้าวไฟฟ้า จะมีรถยนต์ ฯลฯ" จริงไหมครับ.
ทุกสรรพสิ่งล้วนไม่มีตัวตน nothingness เพราะไม่มีอะไรที่สามารถมีตัวตนได้ เป็นแค่จุดเล็กๆมารวมกันก่อให้เกิดสิ่งต่างๆ อันนีเข้าใจละ
แต่อยากรู้ว่า แล้วตัวที่ต้นกำเนิดแรกที่ทำให้เกิดการวนลูปแบบนี้มันเกิดขึ้นมายังไง แต่ก็นะเคยได้ยินมาว่า หาต้นชนปลายไม่ได้เพราะมันเยอะเกินไป พอหลุด/ดับไปแล้วจะยังไงต่อ
ถ้าเป็นคนเรียนอภิธรรมมาจะเข้าใจได้มากขึ้นเลย โดยเฉพาะเรื่องจิต
จิตคือธาตุรู้ เกิดกับตลอด จิตไม่เวียนว่ายตายเกิด สัตตานังเป็นผู้เวียนว่ายตายเกิด จิตเป็นนาม มีอยู่ทั่วเอกภพ มีทุกอนูของเอกภพ มนุษย์หนึ่งคนไม่ได้มีจิตเดียว เช่น เราตบมือ ตัวนี้จิตเกิดขึ้นมีอาการรู้ว่าตบมือ มือเราหยุดตบมือ จิตที่รู้ว่าตบมือได้ดับไปแล้ว แต่มีจิตที่เกิดใหม่คือจิตที่รู้ว่าหยุดตบมือเกิดขึ้น เป็นต้น จิตเป็นสิ่งเกิดดับตลอดเวลา ตลอดวันตลอดคืน
เมื่อตายจิตจะรู้อะไรต่อ ถ้าเห็นจิตเกิดดับตายแล้ว จิตจะไม่เกิดอีกไหม
@@user-xl5rn9ef2b ความเจริญงอกงามของจิตมีด้วยเหตุปัจจัยคือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร "การมา การไป จุติ อุบัติ ความเจริญงอกงามแห่งวิญญาณ เว้นจากรูป เวทนา สัญญา สังขาร ไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้" เมื่อตายไป จิตรู้(คิด)ถึงสิ่งใด สิ่งนั้นจะเป็นอารมณ์ที่ตั้งแห่งภพ 1จิตเปรียบเหมือนเมล็ดพืช 2พืนนาหรือกรรม เปรียบเสมือนภพ (รูป เวทนา สัญญา สังขาร) น้ำคืออำนาจความเพลิน เมื่อครบองค์ประกอบ จึงมีการจุติ อุบัติ เป็นสัตฯ ในภพภูมิใหม่
@@user-xl5rn9ef2b เหตุปัจจัยที่จิตจะไม่เกิดอีก เป็นกรณีของสัตฯอรหันตบุคคล เมื่อละสังขาร ความเพลินพอใจใน รูป เวทนา สัญญา สังขารนั้นไม่มีแล้ว เมื่อทำกาละ(ตาย) สัตฯไม่เพลิน ขันธ์5 เหตุปัจจัยให้เกิด จิต คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร การจุติ อุบัติ ในภพใหม่นั้นไม่มีอีกต่อไป นี้คือนิพพาน หรืออสังขตธรรม ....เหตุปัจจัยอะไรให้สัตเบื่อหน่ายคลายกำหนัดความเพลินพอใจในขันธ์จนไม่เหลือเชื้อที่ตั้งแห่งภพใหม่?
เมื่อใดที่จิตรู้ทุกข์เห็นทุกข์จนแจ้งแล้ว
จิตนั้นจะไม่อยากเกิดอีก เพราะรู้ว่าเกิดแล้วทุกข์😊
@@niranpharkphakorn4454 จิตรู้ไม่อยากเกิด ความไม่อยาก เป็นตัณหา ต้องมาเกิดอีก เพราะมีตัณหา จิตมันทำงานตลอด ให้เห็นแค่การทำงานของจิต เมื่อมันเกาะอารมณ์ใด ให้ดึงจิตมารู้ลมหายใจเข้าออก (อานาปานสติ) ทำแบบนี้เรื่อยๆ เกิดเป็นอนุสัยความเคยชิน จิตจึงเกิดความจางคลายในขันธ์ เมื่อตายจากโลกนี้ การเกิดในภพอื่นก็ไม่เกิดอีกต่อไป
สรุปความรู้คือสิ่งสำคัญ คนเราต้องศึกษาเรียนรู้ต่อไป ในทางพุทธหรือทางวิทย์ อย่าเชื่อจนกว่าจะพิสูจน์ให้สำเร็จ ปัตเจตตังเวทิติโพวินยูเหติ ส่วนทางวิทย์พิสูจสร้างเครื่องควอนตัม
เข้าใจผิดเเล้วครับ มันไม่ได้เกิดจากความว่างเปล่า เพราะถ้ามันว่างเปล่าจริงมันจะต้องว่างเปล่าตลอดไป ผมเด็กสายวิทย์ครับ นักวิทยาศาสตร์หลายคนนะที่เชื่อเรื่องพระเจ้าคนพวกนี้ไม่ได้โง่ คนที่โง่คือคนที่คิดว่าความคิดตัวเองถูกที่สุด ความจริงทุกอย่างมันชัดเจนขอเเค่เราขยันศึกษา
อันนี้บอกสำหรับคนที่หลุดมาอ่านก่อนนะครับว่าผมไม่ได้จะมาลบหลู่ความเชื่อทางพุทธศาสนาแต่อย่างใด ผมแค่จะมาซัดข้อมูลของควอนตัมฟิสิกส์จริงๆที่มันไม่ได้เอามาใส่มั่วๆเหมือนคลิปนี้ครับ บอกก่อนเลยว่าข้อมูลที่ผิดมานั้นมีเต็มไปหมดครับ แต่ผมจะมาซักแค่ที่ๆเห็นมาได้ชัดนะครับ
1. ควอนตัมฟิสิกส์คือฟิสิกส์ที่นำมาใช้กับปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในขนาดที่เล็กระดับอะตอม ดังนั้นหลายอย่างที่คลิปนำทฤษฎีควอนตัมเค้าไม่เอามาใช้กับวัตถุที่มนุษย์สัมผัสหรือรู้สึกได้เหมือนในคลิปครับ เราใช้ฟิสิกส์คลาสสิคกับของที่เราสัมผัสปกติและใช้ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปกับจักรวาลครับ
2. แสงกับอิเล็กตรอนเป็นคนละอย่างกันครับ คุณจะเอาผลการทดลองที่เกิดกับแสงคือโฟตรอนกับอิเล็กตรอนซึ่งเป็นอนุภาคมูลฐานคนละตัวมารวมกันไม่ได้นะครับ
3. ควอนตัมไม่สามารถอธิบายจิตสำนึกของคนได้เพราะมันไม่ได้เอามาอธิบายเกี่ยวกับมนุษย์ครับ ต้องเอาการทำงานของสมองมาอธิบายเกี่ยวกับจิตใต้สำนึกของมนุษย์ครับ
ผมขออธิบายแค่นี้นะครับ ใครหลุดมาอ่านแล้วจะมาถามหรือด่าก็เชิญเต็มที่ครับ
พุทธไม่ใช่ความเชื่อครับพุทธคือธรรมชาติคือความจริงความมีเหตุผลไม่งั้นทำไมถึงต้องมีกาลามสูตร 10
ผมหยุดอ่าน
และเข้าใจว่ามันยาก ที่จะอธิบาย ทุกๆสิ่ง ว่ามันคือ ธรรมชาติ มันคือสิ่งเดียวกัน การหยุดดู ว่าตัวเองไม่มีมันยังยากเลย
สุดท้ายแล้ว พวกเขาก็ยัง ไม่เข้าใจเหมือนเดิม
ความหมายในคลิปที่ควอนตัมอยากอธิบายคือ สสารทั้งหลายล้วนว่างเปล่า สิ่งที่เราสัมผัสใด้เกิดจากการรวมตัวกันของอะตอม ตรงกับพระพุทธศาสนาทีว่า สรรพสิ่งทั้งหลายล้วนเป็นอนัตตาไร้ตัวตนที่แท้จริงคือประกอบกันขึ้นจากเหตุและปัจจัย
@@user-nz7qh3oq4m อันนี้ผมจะอธิบายตามความรู้ที่มีนะครับ ไม่พอใจยังไงก็ขออภัยด้วยนะครับ ผมเข้าใจตามหลักพุทธศาสนาในเรื่องทุกสิ่งนั้นเกิดจากความว่างเปล่านะครับ พอจะเรียนมาบ้างไม่มากก็น้อยและเปิดฟังความคิดเห็นทั้งหมดครับ แต่ถ้าพูดในทางควอนตัมฟิสิกส์จริงๆคือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีความว่างเปล่าในจักรวาลนี้ ในจักรวาล4 มิติที่เราอยู่ อะตอมที่ในคลิปบอกว่ามีความว่างเปล่าแท้จริงมันเต็มไปด้วยคลื่นของอิเล็กตรอนวนรอบนิวเคลียสครับ ไม่มีช่องว่างอย่างที่ในคลิปพูด และถึงจะอยู่ในสถานะสูญญากาศมันก็มีคลื่นพลังงานของอนุภาคมูลฐานเต็มไปหมดครับ ผมไม่มีปัญหากับการที่จะเผยแพร่หลักคำสอนของพระพุทธองค์หรอกครับ แค่ไม่อยากจะให้บิดเบือนกฎฟิสิกส์เพื่อที่จะทำให้หลักคำสอนของพระพุทธองค์ดูน่าเชื่อถือขึ้น มันจะทำให้คนที่มีความรู้ในวิทยาศาสตร์ยิ่งไม่เชื่อเข้าไปใหญ่ครับ คำสอนของพระองค์มันดีโดยที่ไม่ต้องพึ่งปัจจัยภายนอกอย่างวิทยาศาสตร์ที่มันเป็นวัตถุที่มนุษย์สามารถสัมผัสหรือตรวจสอบได้หรอกครับ
ผมเชื่อว่าจิต และมนุษย์ คือเครื่องจักร ที่ไม่มีสิทธิ์คิดหรือทำอะไรเอง เป็นไปตามวัตถุดิบที่ถูกป้อนเข้าและส่งผลออกมาเป็นความคิด การพูด การกระทำ องค์ประกอบของมนุษย์ทั้งหมดคือเทคโนโลยีนวตกรรมที่ถูกพัฒนามาถึงจุดสูงสุดของจักรวาล จักรวาลที่เราอยู่เรียกว่า จักรวาลด้านปรากฏ แต่ยังมีจักรวาลด้านไม่ปรากฏที่เราสามารถเข้าถึงได้แต่ ไม่สามารถรับรู้ได้โดยสภาพมนุษย์ปกติ แต่พัฒนาให้เข้าถึงได้เหมือนเป็นโลกคู่ขนาน ผมเชื่อแบบนนี้มา20ปีแล้ว
สุดท้ายไม่มีอะไรที่ล้ำสมัยไปกว่าคำสอนของพระตถาคตอหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า อีกแล้ว เป็นที่สุดแห่งทุกศาสตร์ สามารถพิสูจน์ตามหลักเหตุผลได้ และสามารถนำไปประยุคเพื่อแตกแขนงความรู้วิทยาการอื่นๆได้อีกมากมาย
ลองไปเรียนวิชาของพุทธที่แท้จริงที่นี่ดูครับ มันอาจจะช่วยให้คุณถูกพัฒนา สู่ความจริงที่เป็นนิรันดร์
www.buvec.org/
ความรู้ยังผิดอยู่มากแต่ที่ยกย่องพระพุทธเจ้านั้นถูกที่สุดเลย..
ทริป 5-meo-dmt ช่วยได้มาก ถ้าใครอยากเข้าถึงสิ่งนี้ แบบเดียวกับที่ พระพุทธเจ้า ไปถึง แนะนำให้ไป 2เดือน ครั้ง
…
#ศาสนาพุทธ
พระธรรมคือพระพุทธ
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา
ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
หลักสำคัญของพระพุทธก็คือกฏแห่งกรรม
ให้หวังผลจากการกระทำ
อนัตตาจึงเป็นหัวใจของพระพุทธ
อริยสัจสี่ - อมตะธรรม
..✊..🌏🌈🌟ขอน้อม🙇♀️กราบ🙏🙏🙏สาธุ สาธุ สาธุค่ะ🧎♀️ *ปล.🙇♀️🙏ขอบคุณมากๆๆๆๆนะค่ะ👻⚰✌..🖐..
ไม่ใช่โดยบังเอิญ พระองค์รู้แจ้งเห็นจริง รู้จริงต่างหาก
นักปรัชญาก่อนหน้ายุคพระพุทธเจ้าก็คิดแบบแนวฟิสิกส์ควอนตัมนะ คือ หลักเหตุผลของพระพุทธเจ้านั้นยอดเยี่ยมที่สุดในทุกศาสนา แต่เรื่องอื่น ๆ รู้สึกว่าอวยกันมากเกินไป รวมถึงเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ด้วย โดยสรุปแล้วจิตสำนึกหรือ consciousness ของคนหลายยุคหลายสมัยค่อนข้างสัมผัสได้ถึงสภาวะที่แท้จริงของจักรวาล เพราะพวกเราทุกคนเชื่อมโยงอยู่กับสิ่งนี้ และอาจแชร์จิตสำนึกร่วมกันด้วยก็ได้ ดังนั้นไม่มีเรื่องของจิตใครตรัสรู้มากกว่าใคร มีเพียงแค่ แต่ละคนมีบทบาทคนละอย่างก็เท่านั้น ซึ่งการทำร้ายผู้อื่นก็เหมือนทำร้ายตนเองเป็นต้น และเมื่อศึกษาไปลึก ๆ ก็เหมือนจะไม่มีเรื่อง นรก สวรรค์ อีกด้วย คนที่เจอนรกหรือสวรรค์ตอนที่ตายแล้วฟื้นมาเล่า ก็เหมือนกับจิตของตนเองสร้างขึ้นมามากกว่า ยิ่งเชื่อเรื่องนี้เยอะ โอกาสเจอนรกก็ยิ่งสูง สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้คนอยากทำความดีก็คือ ความสามารถในการเรียนรู้ มากกว่ากลัวเรื่องนรก เพราะบางทีกลัวก็จริง แต่มันอดไม่ได้ เลยยอมทำชั่ว แต่ถ้าเป็นคนที่มีการเรียนรู้และพัฒนามาตลอด ไม่จำเป็นต้องอดทนอดกลั้นเลย มันไม่อยากทำเอง เพราะรู้อะไรควรทำอะไรไม่ควรทำตามหลักเหตุผล และมีตรรกะที่ดี แต่ปัญหาของสังคมส่วนใหญ่ก็คือ การไปเน้นสอนที่ความเชื่อ แต่ไม่เน้นสอนให้ฝึกคิดมีตรรกะ จนทำให้เกิดตรรกะที่ประหลาด ๆ ขึ้นมา แล้วการทำชั่วมันก็ตามมา ด้วยความไม่รู้ หรือความเข้าใจผิดใด ๆ ก็แล้วแต่ การที่พระพุทธเจ้าสอนให้ใช้หลักเหตุผล และหลักที่ไม่ให้หลงไปกับการเชื่อ มันก็เหมือนบ่งบอกกลาย ๆ นะ ว่าเมื่อถึงยุคแห่งปัญญา ไม่จำเป็นต้องมีศาสนาอีก บางประเทศคนมีความคิดมีตรรกะสูง สวัสดิการสังคมก็ดี มีการระบการศึกษาและการเมืองที่ดี ก็ไม่ได้คิดว่าต้องนับถือศาสนาไหน สังคมก็สงบสุขดี ไม่มีโจรผู้ร้าย ไม่มีการฆาตกรรม ไม่มีคอรัปชัน หรือถ้าจะมีก็น้อยมาก เทรนด์แบบนี้มันชัดเจนมาก จนเรียกว่าเป็น fact สำหรับเราเลย
เห็นด้วยเลยครับ ผมถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่า ถ้าทำชั่วจะตกนรก (ผู้ใหญ่ใช้ความกลัวในการสอนผม) ซึ่งผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ผมอยากให้สอนผมบนความเป็นจริงมากกว่า (ใจเขา ใจเรา)
@@AnoNymous-it8viใช่ครับตรงเลยเรื่อง ใจเขาใจเรา
สังคมที่ไม่มีศีลธรรมและเมตตาธรรมมันจะสงบสุขมิได้เลย..ฉะนั้นคนโง่จึงไม่รู้ตัวเอง
การพิสูจน์ศาสนาพุทธ จะต้องพืสูจน์ด้วยการไม่คิด ถ้าคุณห้ามความคิดได้คุณก็จะพิสูจน์ได้ แต่ถ้าคุณยิ่งคิดก็จะยิ่งห่างไกลจากการพิสูจน์
#ความบังเอิญไม่มีในโลก พุทธเจ้าทา่นตรัสใว้
🎉ซาร์ -หลู้ -เต้🎉....SALUTE....
แด่...สุขขะภาพฯ
เที่ยงตรงเหนือกาลเวลาฯ ..NOON NIRANDON.
สิ่งที่เราเห็น แต่สรรพสิ่งบนโลกใบนี้อาจจะไม่ได้เห็นเหมือนเรา
🙏🙏🙏
ไม่มีเรื่องบังเอิญครับ แค่พระพุทธเจ้าท่านสื่อออกมาอีกมุมมองนึง ที่ไม่ได้เรียกว่า ฟิสิกส์ ก็แค่นั้ย
เวลา คือ จำนวน ที่จำนวน อาศัย พลังงาน เพื่อ ให้ เวลา เป็นไปตาม รูปแบบ ที่กำหนด
หมายเหตุ : เวลา คือ รูปธรรม
จำนวน คือ รูปธรรม
พลังงาน คือ รูปธรรม
อาศัย , เพื่อ , ให้ , เป็น , ไป , คือ นามธรรม คือ พลังงาน ไป , เป็น , ให้ เพื่อ , อาศัย นามธรรม คือ เวลา อาศัย , เพื่อ , ให้ , เป็น , ไป , คือ นามธรรม คือ พลังงาน ไป , เป็น , ให้ เพื่อ , อาศัย นามธรรม คือ จำนวน อาศัย , เพื่อ , ให้ , เป็น , ไป , คือ นามธรรม คือ พลังงาน ไป , เป็น , ให้ เพื่อ , อาศัย
สมาธิ เพิ่มความจำ เพิ่มความไว เพิ่มความแม่นยำลดข้อผิดพลาด แทงทลุเกือบทุกปัญหา แก้ไขปัญหาได้อย่างต่อเนื่อง เพิ่มการตื่นตัวขยัน เพิ่มความสุขสงบใจครับ.
ศีล 5 ขึ้นไปคือฝ่ายแสงอหิงสา ไม่เบียดเบียน.
ละเมิดศีล 5 คือฝ่ายมืดหิงสา เบียดเบียน.
Metavers = จักรวาลนฤมิต
Multivers = จักรวาลคู่ขนาน
Metahuman = มนุษย์เสมือน
ไม่เกี่ยวกันเลย แล้วยังเอาคำต่างประเทศมาแปลไทยอีก
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือสุดยอดค่ะ จากการที่ได้ฟัง รูป 28 รูป ซึ่งการเกิดของรูปต่างเป็นสิ่งมหัศจรรย์มากที่พระองค์ได้ตรัสสอน
ความว่างเปล่าสร้างตัวเองจนมีตัวตนขึ้นมาได้? มืดบอดอย่างถึงที่สุดจริงๆ
ถึงกับต้องกด"ติดตาม"