ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
เมื่อก่อนไม่เคยเชื่อเรื่องแบบเลยนี้นะ ตายแล้วก็คือจบ ไม่มีความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น แต่หลังจากที่แม่ผมเสียไปเมื่อสองเดือนก่อน แค่คิดว่าตลอดทั้งชีวิตที่เหลืออยู๋จะไม่มีวันได้เห็นหน้าคนที่ผมรักที่สุดอีกแล้วมันทำให้ผมเศร้ามาก กลายเป็นว่าตอนนี้สิ่งที่ผมหวังที่สุดเรื่องนึงคืออยากให้โลกฝั่งนั้นมีอยู่จริงๆ ไม่ว่าจะอีก 40 หรือ 50 ปี ผมก็รอได้ เพื่อจะได้คุยกับแม่อีก ดีกว่ามีชีวิตอยู่โดยที่ไม่มีความหวังเลย
สู้ๆนะคะ เราก็พึ่งเสียแม่ไป1 อาทิต แม่ไม่เคยมาหาเลยคะ นอนร้องไห้ทุกวัน😢
แรกๆผมเคยฝันถึงท่านนะครับ ว่ามาหา นานที3-4ครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่ฝั่นอีกเลยครับ
นี่ก๊พึ่งเสียแฟนจุดธูปบอกเขา สักวันจะไปหาขอให้ได้เจอ อยากบอกเขาว่าตอนเขาจากไปมี้รื่องมากมายเกิดขึ้น มีเรื่องที่จะคุยให้เขาฟังมากมายทุกวันนี้จุดธูปพูดกับรูปภาพและบอกว่าสักวันนึงถ้าโลกหน้ามีจริงเราคงได้เจอกันอีกครั้ง
@@YochanYoshi กรรมจะนำพาให้ได้เจอ กรรมสุดท้ายที่หมดวาละกรรมก็อาจไม่ได้เจอกันอีก ก็อย่ายึดติดและเสียดาย ถึงเวลานั้นเราจะจำอะไรไม่ได้เลย
เหมือนกันค่ะ ยายเราก็เพิ่งเสียไปเมื่อ 3 วีคก่อน เราก็อยากให้ชีวิตหลังความตายมีจริงมาก ๆ มะนเจ็บปวดเกินไปที่จะรับรู้ว่าการตายคือการหายไปตลอดกาล
ด้วยความสัตย์จริง อีพีนี้ทำให้เรานึกถึงคืนนั้นคืนที่เรานอนหลับอยู่บนเตียง แต่แฟนยังไม่หลับ นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างๆ แล้วเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น เราเห็นตัวเองนอนอยู่บนเตียง โดยมีแฟนเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างๆ ไม่สามารถขยับหรือพูดได้ ทำได้แค่มองจากมุมด้านบนลงมาไปเรื่อยๆความกลัว ความเสียดาย ความเสียใจพรั่งพรูออกมา เรื่องที่อยากทำ คงทำไม่ได้อีกแล้ว คำที่อยากพูด คงพูดไม่ได้อีกแล้ว คิดๆๆๆๆๆๆจนกระทั่งเหมือนมีความรู้สึกถึงลมหายใจลูกใหญ่ๆแล้วก็ตื่นขึ้นมา น้ำตาไหลอาบหน้าไม่หยุด กอดแฟนและร้องไห้อยู่อย่างนั้นหลังจากเหตุการณ์นั้นเราไปตรวจสลีปเทสและเราหยุดหายใจระหว่างนอนบ่อยอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะไหลตายด้วยความสัตย์จริง เรื่องนี้ทำให้เราใช้ชีวิตต่างออกไป เราเห็นคุณค่าต่อทุกสิ่งในทุกวินาทีถึงใครซักคนที่อ่านอยู่ทำสิ่งที่อยากทำ พูดสิ่งที่อยากพูดและใช้ชีวิตในแบบที่อยากใช้เถอะครับเราไม่รู้ว่านั่นคือ การเข้าใกล้ความตายหรือป่าว แต่เราอยากให้คุณโฟกัสกับสิ่งที่คุณอยากทำ และทำได้ในตอนนี้และสุดท้าย ขอให้มีความสุขกับชีวิตนะครับ
ร่างกายประกอบด้วยขันธ์5คือ รูป(ร่างกาย)เวทนา(อารมณ์)สัญญา(ความจำได้หมายรู้)สังขาร(การปรุงแต่งไปในอนาคต)วิญญาณ(การรับรู้)สัตว์ยึดติดวิญญาณ วิญญาณเข้าไปยึดขัณธ์ทั้ง4เป็นที่ตั้ง เวลานอนหลับวิญญานไม่รับรู้ในรูปก็ไปเกาะสัญญาบ้างสังขารบ้าง แล้วเวลาตายรูปดับ จิตมโนวิญญาณก็ยังจะหาทียึดเกาะในขันธ์ที่เหลืออยู่ จิตสุดท้ายไปเกาะที่ใดที่นั้นย่อมเป็นที่ตั้งอยู่ของวิญญาณ เมื่อมีภพย่อมมีชาติ เมื่อมีที่เกิดย่อมมีการเกิด กรรมคือผืนนา วิญญานคือเมล็ดพืช เมล็ดพืชตกลงไปในผืนนาที่นั้นย่อมเป็นที่ตั้งอยู่ของวิญญาณ สัตว์โลกเป็นไปตามกรรมทำกรรมอย่างไรรับผลของกรรมอย่างนั้น
จากศิษย์หลวงตาผู้ก้าวข้ามความตาย พระเจ้าถอดจิต
ขอบคุณepนี้นะครับพี่ธัญสรุปให้เข้าใจในแบบวิทยาศาสตร์เข้มข้น ส่วนเรื่องที่พี่เชอรี่นำมาดีกับผมมากเลยครับ คือผมกับแฟนประสบอุบัติเหตุเมื่อ8กันยายน(โดนคนหลับในชนจากด้านหลัง) ผมรอดครับแต่แฟนผมไม่ ถ้าเป็นอย่างงานวิจัยที่พี่เชอรี่นำมาก็ถือว่าเป็นการเดินทางต่อของคนที่จากไป ได้ฟังเรื่องที่นำมาก็สบายใจขึ้นเลยครับ(กลัวเรื่องวนเวียนที่เดิม) เพราะพี่เชอรี่เลือกบางข้อที่ฟังแล้วสบายใจมาเล่า ขอบคุณที่เหนื่อยในการหาเรื่องมาเล่านะครับ
ผมคิดมาตลอดว่าคนดำรงอยู่ได้ด้วยกายเนื้อ คือ สมอง ปอด หัวใจ ผีไม่มีทางดำรงอยู่ได้ ไม่มีวันเป็นไปได้.... แต่เชื่อมั้ยว่าผมได้เห็นผีเต็มๆสอวตาถึงขนาดนี้ผมก็ยังสงสัยเหมือนเดิมเรื่องชาติหน้าและชีวิตหลัวความตาย
เห็นไรมา หรอครับ เล่าหน่อย
@@Acasin ผีที่บ้านครับ
ถ้าตามแนวพุทธ เราแค่เปลี่ยนสถานะ แต่หลักจะเหลือจิตอยู่ ว่าจะไปเป็นอะไรต่อ เทวดา พรหม ผี สัตว์ มนุษย์ และจบคือไม่เป็นอะไรต่อ..คือหาทางออกได้แล้ว...
ของแบบนี้ถ้าตั้งธงไปแล้ว เปลี่ยนยาก ต่อให้มาเห็นก็ยังเปลี่ยนความเชื่อยาก
@@MTPB_ถ้าพูดเรื่องการปักธงในใจไปแล้วผมก็นึกเรื่องนึงขึ้นมาได้ คนเราเมื่อเชื่ออย่างหนึ่งไปแล้ว ว่ามันต้องเป็นอย่างนี้แน่ ไม่มีทางเป็นอย่างอื่น จิตจะเข้าไปยึดมั่นถือมั่น ก็จะเชื่อว่าทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างที่เราคิดสิ ใครคิดต่างจากเราก็แปลว่าเขาต้องผิด คนเรานี่ก็แปลก ไม่เคยมองอะไรโดยใจเป็นกลางเลย ถ้าจะเปลี่ยนความคิดหรือความเชื่อของตัวเอง มันก็ไปติดไอ้ตัวนึง ที่ชื่อว่ามานะ หรือความยึดถือในตัวในตน มันถึงออกจากทุกข์กันไม่ได้ซักที
ฟังดู ไม่เห็นมีข้อมูลเกี่ยวกับ "หลังความตาย" เลย มีแต่ก่อน ๆ จะข้ามเส้นความตาย เกือบ ๆ ตาย
ต่างชาติเขาก็สนใจกันมานานแล้ว ที่บ้านเราที่ดังๆก็น่าจะเป็นเรืองของอ.ไพศาล แสนไชย หรือจุไรท่องเที่ยวดวงดาว (เป็นเด็กผู้หญิงของแม่ไปเที่ยวตามดวงดาวต่างๆ)และก็มีอีกมากมายรวมถึงคนที่ผมรู้จักก็มี ซึ่งเป็นการใช้กายละเอียดออกมาจากกายหยาบ แต่ถ้าออกมาฝันหลวงปู่สดวัดปากน้ำเรียกว่ากายฝัน แต่ถ้าคนตายไปจริงๆ ผมเข้าใจตามที่ได้ยินมาว่าจะมีหลักใหญ่ๆอยู่ 3 อย่าง คือ 1.ใจใสสว่าง ไปดีมีความสุข เหมือนหลับและตื่นหรือมีขบานเหล่าบริวาลมารับ 2.ใจหมองมืดมิดไปอบายทันที 3.ใจไม่หมองไม่ใส ความดีความชั่วก้ำกึ่งกัน นึกอะไรไม่ออก ก็จะมีเจ้าหน้าที่มารับตัวไปรอยมบาลช่วยตัดสินต่อไป หรือถ้ายังไม่หมดอายุตาย ก็จะมีเรื่องของการที่ยังไม่ได้มาเกิดอีกเป็นรายๆไปข้อ 1 กับข้อ 2 ก็เหมือนกับความคุ้นเคยนิสัยของแต่ละคนคุ้นกับสิ่งใดมาตลอดชีวิต แต่ข้อ 3 นี้มักจะเกิดขึ้นกับคนอยู่จำนวนมาก เพราะวันแรกๆที่ตายมันก็ยังงงๆกันอยู่ว่าพูดกับใครๆก็ไม่รู้เรื่องไม่มีใครพูดด้วย บางทีก็นึกว่าตนเองหายป่วยแล้วกลับมาอยู่บ้านแล้ว ในคติของทางพุทธจึงมักจะทำบุญ 7 วันก่อนเผา เพราะในระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่มารับตัวไปใน 7 วัน พอวันที่ 3 4 ก็รู้ตัวแล้วว่าตัวเราได้ตายไปแล้ว เพราะเห็นร่างกายเราอยู่ที่วัดที่สวดกันหลายวันมาแล้ว เมื่อมีการทำบุญที่วัดตลอดทุกวัน จิตใจก็ผ่อนครายนึกถึงบุญเก่าๆได้แล้วปรึ้มสบายใจแจ่มใสดีแล้วเมื่อมีบุญมากพอก็กลับไปวิมานของตนที่รออยู่แล้วได้เลย ซึ่งในสมัยนี้ คนรุ่นใหม่ๆส่วนหนึ่งจะรีบจัดงานศพลดวันน้อยลงไม่ถึง 7 วันกันมากขึ้น ทำให้ผู้ตายในเค๊สที่ 3 ไม่ทันได้ปรึ้มใจกับบุญกุศลที่ญาติพี่น้องได้ทำกัน คือสวดศพกันไม่กี่วันก็เผาให้เสร็จๆกันไป เขาก็มางานที่วัดทุกวันเขาเห็นเขาได้ยินว่าเราพูดทำอะไรกันทั้งหมด สิ่งที่เขาต้องการคือความปรี้มใจสุขใจหมดห่วง 7 วันนี้จึงสำคัญ กับผู้คนทั่วๆไปแต่นั่นแหละทุกคนก็รู้กันเองในวันนั้น ความตายไม่แน่นอน ซึ่งคนตายก็ไม่ได้มาบอกเพราะไปแล้วเวลามันก็ต่างกันมาก
เคยจมน้ำคือ รู้ตัวแล้วว่าตายแน่ๆ มีภาพไหลมาจริงๆคะ เป็นภาพมาแบบเร็วๆ
ส่วนตัวเคยเจอเหตุการณ์เฉียดตาย(แต่ไม่ถูกระบุว่าตายแล้วฟื้นนะ) 2ครั้งค่ะ ***ครั้งแรกเมื่อ 14ปีก่อน รถแฉลบ..ภาพค่อยๆมืดแล้วมืดดับไปเลย....ละก็เห็นแสงสว่างสีขาว ตื่นขึ้นมายังไม่รู้สึกเจ็บเลย สักพักมันก็จะเจ็บ แต่งงมากค่ะตอนตื่นขึ้นมา เรารุ้สึกว่าเหมือนหลับไปแค่แป๊บเดียว แต่ฟาดไป 3วันแน่ะ**ครั้งที่ 2 โควิดติดสายพันธุ์เดลต้า (คิดว่าไม่รอดแน่ค่ะตอนนั้น) ทรมานมากค่ะปวดตามข้อทั้งตัว ละมีไข้สูง วันนั้นเวลาประมา 1ทุ่ม ก่อนจะหลับไปคือรุ้แค่ว่าทรมานจัง ไม่ไหวแล้ว ภาพมันก็ค่อยๆตัดไปช้าๆภาพค่อยๆแดง...ละค่อยๆมืดไป ดับสนิท ช่วงที่ไม่รุ้สึกตัวเดินงมในความมืดอะพยายามหาทางออกไม่เจอเลย..เดินจนเจอแสงสว่างแล้วก็ตื่นขึ้นมาในห้องมืดๆไม่ได้เปิดไฟ ...แล้วถามตัวเองว่าที่ไหน ที่นี่ที่ไหน 😂 แล้วก็นึกได้เองว่า อ่ออ โรงแรมที่เรามากักตัว หลังจากนั้นนานเป็นเดือนเรามักตกใจตื่นกลางดึกละลืมว่าตัวเองว่าเป็นใคร หรืออยุ่ที่ไหนตลอด สมองนี่สำคัญจริงๆเห็นด้วยกับแนวคิดพี่ธัญค่ะ สรุปว่าทุกครั้งที่จะฟื้น เราจะเห็นแสงสว่างเสมอค่ะ
สิ่งที่เรียกว่า ชีวิตหลังความตายมีแน่นอน แต่ถ้าใครไม่เชื่อก็ไม่เถียงครับ ไม่มีประโยชน์ เพราะถ้ามีมันก็มี หรือถ้าไม่มี มันก็จะไม่มี เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครบัญญัติขึ้นทั้งนั้นเราทำได้แค่เชื่อ หรือไม่เชื่อเท่านั้นเอง
ไม่เชื่อ ก็ทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม โลกจะได้น่าอยู่ขึ้นครับ
@@AtrociousRocket เคารพกฎหมายและเคารพในหลักมนุษยธรรมก็โอเคแล้วครับ มันเห็นเป็นรูปธรรมจับต้องได้
ถ้ารู้แจ้งเห็นจริงแล้ว ก็ไม่ต้องเชื่อ-ไม่เชื่อแบบเดียวกับที่ คาร์ลจุง ถูกถามว่าเชื่อในพระเจ้าหรือไม่. เขาก็ตอบว่า "ฉันไม่จำเป็นต้องเชื่อ ฉันรู้"
@@MTPB_กฏหมายบางครั้งก็ไม่ได้ครอบคลุมการผิดศีล อย่าง โกหก กฏหมายก็เอาผิดยาก
@ ว่ากันไปครับ
ถ้าเกิดในสมองเห็นภาพช่วงชีวิตที่ผ่านมา มันเป็นปกติของคุณสมบัติสมองของเราคับ แต่ผมก็เชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายนะคับ.... กรณีสมอง ย้อนให้เราเห็น คือธรรมชาติสิ่งมีชีวิตคับการต่อสู้ครั้งสุดท้าย นึกถึงสัตว์เลี้ยงนะคับเขาจะใช้ห้วงสุดท้ายที่ยังไหวกลับมาที่บ้านคับ
ขอแชรประสบการณ์ใกล้ความตายด้วยผมอายุ72แล้ว เมื่ออายุ13 ป่วยเป็นมาลาเรียถึงขั้นเกือบไม่รอด เพราะพ่อไม่เชื่อว่าผมป่วยจริง ไข้จับสั่นของมาลาเรียจะออกฤทธิ์เป็นระยะๆ ถ้าไม่ออกฤทธิ์จะเหมือนคนปกติ กินได้ เที่ยวได้ คุยสนุก เมื่อมันออกฤทธิ์จะนอนซมหนาวสั่นหมดเรี่ยวแรง ด้วยอาการนี้พ่อจึงเคี่ยวเข็ญให้ไปทำงานจะได้แข็งแรง จึงทำให้ผมป่วยกลับไปกลับมาไม่หายขาด จนกระทั่งชาวบ้านเห็นผมและขอร้องให้พ่อส่งไปรักษาที่หน่วยกำจัดมาลาเรีย ผมจึงรอดมาได้ช่วงที่เป็นไข้จับสั่นระยะรุนแรง ผมไม่สามารถควบคุมความคิดของตนเองได้เลย ทุกครั้งที่หลับจะเหมือนตกนรกทุกครั้ง เห็นแต่คนรูปร่างแปลกๆ และตัวผมเองก็เป็นเช่นนั้น หัวใหญ่ ตัวเล็ก มือเท่ากระด้ง พูดไม่ได้ เดินลำบาก แม้ผมจะพยายามหนีจากจุดนั้นเท่าไร ก็ไร้ผล แม้ตื่นแล้วภาพเหล่านั้นก็ยังตามหลอนนานเป็นชั่วโมง เกิดอาการกลัว ท้อแท้ อยากตายจริงๆให้มันพ้นจากความฝันร้ายๆนี้เสียทีนานหลายเดือนที่ป่วยซ้ำซ้อน ความฝันจะซ้ำๆอยู่อย่างนั้น จนเริ่มกินไม่ได้ ร่างกายซูบผมกระดูกโผล่โปนทั่วไป ช่วงที่ป่วยหนักมากๆเหมือนตกอยู่ในนรกก็ไม่ปาน ภาพหลอนนั้นวนเวียนอยู่ในหัว สายตาเริ่มมองไม่เห็นไม่มีเรื่องอื่นมาปนเลย ทั้งที่ช่วงวัยก่อนที่ยังไม่ป่วย ไม่เคยดูหนังสือหรือฟังเรื่องผีสางแต่อย่างใด ชอบดูทีวีเรื่องรถยนต์ เครื่องบินเป็นชีวิตจิตใจ แต่เรื่องที่ชอบกลับไม่เคยเวียนเข้ามาในขณะที่ป่วยแม้แต่น้อยหลังจากกินยาหน่วยกำจัดมาลาเรียอาการเริ่มดีขึ้น แต่ภาพหลอนในฝันตอนป่วยยังคงตามหลอนอยู่กว่าสองปี กว่าจะเบาบางไปจนเป็นปกติเรื่องชีวิตหลังความตายจะมีจริงหรือไม่ ไม่อาจพูดได้ แต่สิ่งที่ผมเป็นมาแล้วนั้น เหมือนมันเป็นวิกฤติชีวิตที่เฉียดความตายก็ได้ จึงได้เห็นนิมิตเช่นนั้นซ้ำๆโดยไม่มีเรื่องอื่นเข้ามาแทรกเลย
สิ่งที่เราตกตะกอนได้จากการลองอ่านมา เราว่าพวกชุดความรู้อะไรต่างๆของเราใช่ว่าจะเป็นแบบนั้นเสมอไปบางคำถามมีหลายคำตอบซึ่งคำตอบเหล่านั้นก็ไม่ได้ผิด ความรู้ความคิดในทุกๆเรื่องมันเพิ่มอยู่ตลอดเวลาอย่าง โอกาสที่จะเกิดเรื่องๆนึงมันน้อยมากแต่เมื่อมีโอกาสมันก็สามารถเกิดขึ้นมาได้เสมอ อย่างเบบี๋ที่เกิดมา แปลกดีที่แฝดเกิดมาพร้อมกันไข่ใบเดียวกันเลี้ยงมาเหมือนกันแต่ต่างกันทั้งที่เหมือนกันแสดงว่าไม่เหมือนกันแต่แรกในเรื่องของสิ่งที่ได้มาแต่กำเนิด การเลี้ยงดูอาจไม่ได้ส่งผลถึงขนาดนั้น ขอยกในเรื่องเพศละกันถ้าคนมันจะเป็นมันตึงเป็นจะยะจะไดมันตึงเป็น สรุปเลยเราไม่ควรมองมุมแคบอะว่าบางสิ่งมีอย่างงี้จึงเป็นแบบนี้ สุดท้ายนี้คือเราทุกคนเนี้ยเอาแน่เอานอนกับอะไรไม่ได้เลยด้วยว่าเหตุปัจจัยทุกอย่างมันเสริมๆกันมา สต.ชอบฟังพุทธประวัติของพี่โจ้
เผื่อมีใครมาอ่านต่อ อย่างเด็กตัวเล็กที่เขาไม่รู้จักความตายเนี้ยเขาจะกลัวมันมั้ย ตอบเลยว่าไม่เพราะเขาไม่รู้ไงว่า มันคืออะไรมีความหมายยังไง แต่หากพอโตมาหน่อยเขาก็จะเริ่มรู้ความหมายว่าเออนี้ การตายเนี้ยเป็นสิ่งที่เป็นอย่างนู้นอย่างงี้เขาก็จะเริ่มกลัวละ การที่กลัวความตายคือการที่เราได้ความคิดมารึเปล่า หรือ อาจเพราะเราเองกลัวในสิ่งที่เราไม่รู้ เรากลัวว่าสิ่งทุกอย่างอันเป็นที่รักของเราจะหายไป ทั้งที่เราไม่คิดเลยว่าทุกอย่างมันก็เป็นแบบนั้น มีแล้วก็หาย สรุปแล้วมันมีจริงๆหรือเปล่า ของที่ได้มาเวลาใช้มันมีอยู่จริงๆมั้ยเมื่อได้ของมาของนั้นก็หาย อาจจะกินไปแล้วใช้ไปแล้วพังไปแล้ว เทียบให้เห็นภาพ ทุกอย่างรอบตัวเราก็เหมือนกันมีแล้วก็ไม่มี ไม่มีแล้วก็มี
เรื่องเเบบนี้ รับรู้ได้เฉพาะตนครับมีหรือไม่มี ถึงวันนั้นเราจะได้คำตอบที่ถูกต้องเอง เเต่ระหว่างทางที่จะไปถึงเราจะทำเเเบบใดนั้น นั่นคือสิ่งที่เราต้องพิจารณาให้มาก
เรื่องนี้น่าจัดกับ Myth Universe เอามาทาบกับพุทธศาสนาแล้วดูน่าจะตรงกันดี ขันธ์5 จิตสุดท้าย มรณานุสติ ใกล้เคียงกันดี
แฟนเพิ่งเสียเพิ่งครบ100วัน รอให้เขามาหาทุกวัน แต่เขาไม่เคยมา 😢 คิดถึงเขาทุกวัน คุยกับเขาทุกวัน ว่าตอนนี้พี่อยู่ไหน คิดถึงกันบ้างไหม เป็นยังไงบ้าง แต่ทางบ้านก็บอกไม่ให้ถามถึงเขา ไม่งั้นเขาจะห่วง ไม่ไปไหน 😢
ชอบมากครับ พึ่งมาฟังครั้งแรกเพราะมีความคิดอยู่ดีๆกลัวความตาย
ฟังจบนี่ยืนขึ้นปรบมือเลย
เคยมีประสบการณ์คล้ายแบบนี้ แต่ไม่ได้ใกล้ตาย ครั้งแรก เหมือนฝันว่าลุกออกจากเตียง หันไปที่เตียงเห็นตัวเองนอนอยู่ แล้วเราเดินไปข้างล่าง เห็นแม่กำลังจัดของใส่ตู้เย็น มีผักต่างๆ มีถุงเฟรนฟรายส์วางข้างๆผัก หันไปมองนาฬิกา เห็นเป็น 7 โมงนิดๆ แล้วเราก็เดินกลับขึ้นห้องไปนอนต่อ ตื่นมา เปิดตู้เย็น เห็นมีถุงเฟรนช์ฟรายส์แช่ไว้จริงๆ (ปกติที่บ้านไม่ได้ซื้อเฟรนช์ฟรายส์บ่อยด้วย) รวมถึงมีผักตามที่เห็นเลย เลยเล่าให้แม่ฟัง แม่บอกว่าตรงหมดทุกอย่างเลย ตั้งแต่จุดที่วางของ และช่วงเวลา เหตุการณ์ที่สอง ช่วงนั้นอดนอนติดกัน 3 วัน ตอนน้้นอยูาหอพัก เหมือนฝันอีกแล้ว ว่าเราเดินออกจากห้อง เดินสวนกับเพื่อน เห็นเพื่อนเดินอุ้มตะกร้าผ้า เหมือนไปซักผ้ามา แล้วมันจะมีห้องว่างที่ยังไม่มีคนมาเช่า เราเดินเข้าไปในห้องนั้น เห็นคนแก่ เด็ก ผู้ใหญ่ ยืนล้อมเรา แล้วยิ้มแย้มต้อนรับ ตัดภาพมาที่โลกความจริง ตอนนั้นแม่โทรมาร้อยกว่าสาย ถึงขั้นให้ รปภ มาเคาะประตูรัวๆ 3 รอบ แต่เราไม่รู้สึกตัวเลย พอตื่นมา ด้วยความสงสัย เลยทักไปถามเพื่อนคนนั้นว่า เมื่อเช้าไปซักผ้าไหม และเพื่อนก็ไปซักจริงๆ เราเลยเดินไปส่องห้องนั้น คือที่หอนี้ ถ้าห้องไหนว่าง เขาจะไม่ล็อคกุญแจ และประตูก็จะเป็นกลอน ไม่ใช่ลูกบิด เขาก็จะใช้ลวดคล้องเอาไว้ กันลมตี ซึ่งวันนั้น ลวดมันวางอยู่บนพื้น แล้วประตูมันเปิดแง้มอยู่ เราไม่รู้ว่ามันคืออะไร มันเหมาะเจาะมากๆ มันแปลก จริงๆอยากได้คำตอบในเชิงวิทยาศาสตร์มากกว่าว่า สมองมนุษย์มันไปได้ถึงขั้นไหน เป็นเพราะโลกวิวัฒนาการสัญชาตญาณให้มาเป็นแบบนี้รึเปล่า เหมือนหมาที่ดมกลิ่นได้ดี หรือแมวที่ได้ยินเสียงดี อะไรงี้หรือเปล่า
คนละสภาวะกันครับ อาจจะ Lucid dream
แบบทุกอย่างทุกสิ่งที่มนุษย์เราคิดสร้างหาวิธี อธิบายมันอะ ต่อจะใช้เวลามากสักแค่ไหนเรื่องเหล่านี้มันก็ยังคงให้เราหาคำตอบมันเรื่อยๆเผลอๆคำตอบก็เพิ่มมาเรื่อยๆเหมือนกัน เห็นมีเรื่องนึงที่แม่เขาคลอดลูกมาแล้วลูกไม่มีDNAเขาทั้งๆที่เขาคลอดเองหมอมีหมอก็อยู่ในตอนนั้น แต่ยังดีลูกเขามีDNAของสามี
ตือเราว่านะความรู้ในๆทุกเรื่องอะตาเห็นใช่ว่ามี ไม่เห็นใช่ว่าไม่มีอะไรๆก็เป็นไปได้ทั้งนั้นทุกอย่างสรุปคือมันหาความแน่นอนไม่ได้เลย ความรู้พวกนี้เอาแน่เอานอนไม่ได้ อันที่แน่นอนสุดๆคือเรื่องตายนี้แหละ ว่างๆลองหาอ่านพุทธชาดก ดู ปลงใจไปเยอะ
เคยเป็นแบบคุณเลยค่ะ แต่เหตุนี้การณ์นี้ตอนจะไปเรียนตอนเช้า เรานอนไม่ตื่นแต่เราเห็นร่างเราโดนคนปลุกเอาไม้ใหญ่ๆมาตีเพื่อให้ตื่น ซึ่งเราเองไม่รู้สึกเจ็บใดๆ เห็นเขาแบกร่างเราไปโรงพยาบาลเขาเล่าให้ฟังว่า 3วันถึงฟื้นขึ้นมา คืออยู่บนเตียงโรงพยาบาลเรียบร้อย อยู่เป็นเดือน เป็นเทอม เพราะเขาจะหาสาเหตุ หมอถามใหญ่เลยเพราะไม่เคยเจอเคสแบบนี้ ทุกวันนี้ยังหาคำตอบไม่ได้เลยค่ะ
ความตายเป็นจุดจบของชีวิต หรือ ชีวิตคือความฝันของคนตาย
ชอบหัวข้อตอนนี้มากเลย การถกเถียงสนุกทั้งในคลิปทั้งในเม้นเลยค่ะ ไล่อ่านแทบไม่หวาดไม่ไหว สำหรับเรา ชอบประเด็นแพทเทิร์นสิ่งที่เห็นมาก เพราะเราชอบตำนานโลกหลังความตายในหลายๆ ที่ทั่วโลก แล้วก็สังเกตได้เลยว่าการที่วาดให้วิญญาณคนตายลอยเหนือร่างคือความเชื่อสากลมาก จะตำนานเทพที่ไหน เวลาวาดคนตาย คือต้องให้เห็นตอนคนตายลอยเหนือร่างให้ได้ ดีไม่ดีเทวดาที่ต้องมีปีกก็เพื่อแทนภาวะเห็นภาพมุมสูงของคนตายก็ได้
ฌานก็ทำได้นะ เอาจิตข้างนอกตัว ไม่จำเป็นต้องตาย จิตสุดจะออกตอนตาย ก่อนจะไปเกิดใหม่ตามข้อมูลที่บันทึกลงสัญญาความจำได้หมายรู้ ที่ผมนั่งสมาธิมา อยู่มันก็เห็นแม้แต่ตัวเอง
เคยมีหลายครั้งคิดเรื่องความตาย/กลัวตายเหมือนกัน สนุกมากครับ EP นี้
ประสบการณ์จริงส่วนตัว ไปนอนกระท่อมในป่าตอนกลางคืน ได้ยินเสียงคนเดินไปเดินมา ตรงปลายเท้ากับเดินมาข้างที่นอนเหมือนมาดูว่าเราเป็นใคร มานอนที่นี่ทำไม พอเอาไฟฉายส่องดูก็ไม่มีใคร พอปิดไฟฉายนอนคลุมโปง มาอีกแล้วจนใกล้สว่างถึงเงียบ แสดงว่าโลกหลังความตายมีจริง
ต้องไปศึกษาพุทธศาสนาค่ะ ได้คำตอบกระบวนการของชีวิตและหลังความตาย
เพิ่งดู Light shop จบบบบไม่ว่าที่ไหนก็เป็นโลกที่คนอยู่ ㅜㅜนึกถึง ep นี้เลยค่ะ
พึ่งเคยดูช่องนี้ครั้งแรก ชอบมากครับ
พระพุทธจ้าท่านบอก เรื่องจริงทั้งนั้นครับ
สนุกมากครับepนี้
26:33 ตอนเด็กๆผมป่วยบ่อย เวลานอนป่วยจะได้ยินเสียงไกลๆเหมือนอยู่ใกล้ๆ เป็นแบบนี้ประจำ แต่พอโตมาไม่เป็นแล้ว
ไม่เชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายและวิญญาณเหมือนกัน แต่เคยเห็นด้วยตาตัวเอง 2-3 ครั้ง ขนาดเห็นด้วยตาตัวเอง ยังแทบไม่เชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง
ถ้าจะยึดเอาแค่สิ่งที่มองเห็นได้จึงเรียกว่ามี แล้วสิ่งที่มองเห็นไม่ได้ จึงเรียกว่าไม่มี มันก็เป็นการตัดสินโลกนี้ง่ายเกินไปหน่อย ถ้าอย่างความสุขใจ ทุกข์ใจ ที่เกิดขึ้นมาในใจของคนคนหนึ่ง แล้วผมมองไม่เห็นความสุข ความทุกข์ที่อยู่ข้างในใจเขา จะสรุปได้ยังไงว่ามันไม่มี ถ้าจะพูดเรื่องความจริง ก็ไม่ควรเอาสิ่งที่ตนเองเชื่อหรือไม่เชื่อ มาพูดกัน เพราะสิ่งที่เชื่อ หรือไม่เชื่อ ในใจของคน บางครั้งมันก็ไม่ได้ตรงกับความเป็นจริง
เกิดใหม่มีเปล่าไม่รู้แต่ตายอะมีจริง หนทางพ้นแล้วแห่งความตายก็มีอยู่จริงคืออริยมรรคมีองค์8คือหนทางพ้นแล้วซึ่งความตายคือนิพพานนั่นเอง
เคยจมน้ำครับ ไม่รู้สึกอะไรเลย รู้ตัวอีกทีอยู่บนฝั่งแล้ว
ลองพิมพ์เข้าไปในชื่อ พิมพวดี เรื่องนี้classic มากครับยากที่จะหาคำตอบ
น้ำเยอะไปคับ ถ้าได้แต่เนื้อๆหน้าจะดีกว่านี้คับ
ฟังเรื่องแบบนี้แล้วอยากฟังเรื่องมิติทับซ้อนมากเลยค่ะว่ามันมีอยู่จริงมั้ย คือเคยมีประสบการณ์แต่หาคำตอบไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่แปลกดีแบบมันเหนือความคาดหมาย อยากรู้ว่าในเชิงวิทยาศาสตร์จะมีคำอธิบายอะไร ว่าสิ่งที่ไม่มีอยู่แต่เราเห็น ณ ช่วงหนึ่งมันคืออะไร หรือเกี่ยวกับร่างกายอะไรของเราที่ทำให้เห็นสิ่งนั้นแตกต่างไปจากเดิม
ดร.เชอร์รี่ น่ารักจังเลยครับ🥺
เชื่อเรื่องแสงขาวจริงๆ เพราะเคยขึ้นไปซ่อมรอยรั่วใต้หลังคาแล้วโดนไฟดูด มีสติรู้ว่าโดนไปดูด ในหัวคิดถึงแต่พ่อแม่ ไม่กี่วิก็เห็นแสงขาววาบ จากนั้นก็ร่วงทะลุฝ้าเพดานลงมา สิ่งแรกที่ทำคือเรียกพ่อ ตอนนั้นไม่ตกใจ กรือเสียใจ มีแต่ความดีใจที่รอดชีวิต
เคยจะตกจากที่สูง เป็นเสี้ยววินาทีที่ภาพต่างๆมันไหลเข้ามาในหัวเยอะมากๆที่ปกติจำไม่ได้เลย เรื่องตอนอนุบาล ภาพพ่อแม่ตอนยังหนุ่มสาว ก่อนจะมีคนมาดึงแขนช่วยไว้ครับ
เกี่ยวกับภาพความทรงจำย้อนกลับทั้งหมดก่อนตาย ผมเคยได้ยินมาว่า สมองเราจะพยายามค้นหาทุกวิธีในการเอาชีวิตรอดจากประสบการณ์ความทรงจำของเราในสมองทั้งหมด จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นภาพเหตุการณ์จริงที่เราจำไม่ได้ แต่ความจริงมันอยู่ในส่วนลึกของสมองเรานั้นเอง
23:05 ถ้ากลุ่มตัวอย่างไม่เจอโลกหลังความตายที่น่ากลัวเลย ก็อาจสรุปได้ว่า เวลาที่มีชีวิตอยู่จะประพฤติดีหรือชั่ว ประสบการณ์ใกล้ตายก็ไม่น่ากลัวเหมือนกัน
ฟังสนุกมากเลยครับ แต่ขอเสริมว่า ถ้า EP นี้พี่เชอร์รี่เปิดมาด้วยนิยามของความตายก่อนเป็นอันดับแรกมันจะดีขึ้นไปอีกครับ เพราะอะไร เพราะในทางการแพทย์ ความตายมันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากครับ อย่างเช่นในยุคนี้ Brain death เรานับว่าสมองตายคือตาย ซึ่งเป็นคอนเซปที่พึ่งใช้กันมาในปี 1980 เองครับ แต่นักวิชาการหลายท่านก็เถียงว่า เอ้า แล้วเคสที่สมองตายเป็นเจ้าชายนิทราแต่สามารถเลี้ยงร่างกายด้วยเครื่องมือต่างๆได้ล่ะ หายใจไม่ได้ก็ใส่เครื่องช่วยหายใจ หัวใจยังเต้นอยู่ ใส่ท่ออาหาร แล้วอยู่แบบนี้ 20 ปี ปรากฏว่าฟื้น ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นว่านิยามของความตายมันซับซ้อนขึ้นไปอีก ถ้าได้ดิสคัสเรื่องนี้ก่อนมันจะเปิดมุมมองไปได้อีกไกลเลยครับ เพราะหลายเคสที่ Near death experiences มันเป็นเคสในห้องผ่าตัด ซึ่งเอาเข้าจริง มนุษย์เรายังไม่สามารถเข้าใจกลไกการสลบได้ 100% นะครับ เราหลับ แต่อย่าลืมว่าสมองไม่ได้หลับ หูก็ยังได้ยิน ผิวหนังยังรู้สึก sensation ทุกอย่างปกติ แค่ส่วนที่ควรจะรับรูปและจดจำมันถูกปิดไว้เท่านั้นเอง เพราะงั้นการจะจำเรื่องราวในห้องผ่าตัดได้เป็นเรื่องค่อนข้างคอมมอนครับ จริงๆแล้วพอพูดเรื่องยาสลบที่เราไม่เข้าใจกลไกมัน 100% อยากจะบอกว่ายังมีอีกหลายอย่างมากครับที่เราไม่เข้าใจ ยกตัวอย่างง่ายๆอย่างยา Paracetamol ลดไข้บ้านๆของเรา เอาเข้าจริงคือเราก็ยังไม่เข้าใจกลไกในการลดไข้ของมันเลยนะครับ 😂 โอเค พอล่ะ EP นี้สนุกมากครับ รอตอนต่อไป
แบบนั้นสมองน่าจะยังไม่ตาย100%นะครับ เพราะถ้าสมองตาย100% ไม่น่าจะเลี้ยงเซล์ได้ยี่สิบปี
จิตสำนึกออกจากร่างของประสบการณ์ใกล้ตายเกิดจากสมองหลั่งสาร DMT ครับ เป็นสารหลอนประสาทที่ร่างกายเราสร้างขึ้น พวกประสบการณ์ได้เจอกับคนรัก ได้พบความสงบ ความสุข สามารถปล่อยวางได้ก็มาจากสาร DMT เป็นประสบการณ์ Psychedelic ที่คนทั่วไปสามารถทดลองกับตัวเองได้
แต่เราเคยฟังช่องนึงของคุณหมอ บอกว่ามันเป็นอาการทางสมอง แบบประมาณว่าคนไข้คิดไปเองหรือหลอนไปเองอ่าค่ะ
บางเรื่องก็ไม่ใช่การมโน เคยฟังเรื่อง คนไข้แพ้ยาสลบ เลยตายไปพักหนึ่ง ความฝันระหว่างตายนั้น คือ ลอยไปเห็นสภาพแวดล้อมข้าง ๆ ที่ห้องในโรงพยาบาลว่าเป็นอย่างไร มีบ่อน้ำ มีต้นไม้อะไร ๆ พอฟื้นขึ้นมาไปสำรวจดูปรากฏว่าตรงกับความฝันในระหว่างที่ตาย หัวใจหยุดเต้นไปยังมีเคสที่ช่องหมอเฉพาะทางบาทเดียว คุณหมอท่านเล่าให้ฟังว่า คนไข้โคม่ารู้ถึงคำพูดของหมอคุยกับพยาบาลและซอสมะเขือเทศที่เลอะอยู่ที่เนกไทด์ของคุณหมอ ทั้ง ๆ ที่คนไข้นอนโคม่าอยู่ พอฟื้นมาทักคุณหมอก็ตรงตามนั้น
จริงๆมันสามารถอธิบายได้ทั้งสองแบบ อย่าง คนที่มีลางสังหรณ์ ลางสังหรณ์นั้นย่อมเกิดขึ้นในสมอง เพราะ ฉะนั้น หมอจะบอกว่า มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสมอง ก็ถูกแน่นอน แต่อะไรที่ทำให่เกิดลางสังหรณ์ขึ้นในสมองล่ะ คำอธิบายทางการแพทยืหลายอย่าง ก็เป็นเพียง ข้อสันนิษฐานทางการแพทย์เหมือนกันนะครับ
อันนี้เล่าให้ฟัง เคยจมน้ำในสระใหญ่ตอนอนุบาลเพราะโดนเพื่อนผลัก หมดสติ วิญญาณออกจากร่าง ตอนแรกจะเห็นแสงขาวแวบนึง หลังจากนั้น มายืนมองเห็นตัวเองโดยลากเข้าฝั่ง มองเห็นมาเซอร์ที่มาช่วย มองเห็นมาเซอร์อีกคนที่มา CPR จนวาร์ปตื่นขึ้นมา ทุกคนทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่แจ้งผู้ปกครอง จนเพื่อนเอาไปเล่าให้พ่อที่ทำงาน บ.เดียวกันฟัง พ่อถึงรู้เรื่อง
บางคนที่ทำสมาธิเก่งๆ ก็ออกจากร่างตัวเองได้แบบไม่ต้องใกล้ตาย ออกไปเที่ยวไกลๆ ได้ สมาธิระดับนั้นจะไม่หายใจแล้ว บางท่านว่า มันไปหายใจทางผิวหนังแทน
กายเนื้อยังหายใจอยู่ครับ แต่จิตไม่หายใจเพราะไม่ได้เอาปอดไปด้วย
เรื่องเด่น ๆ เกี่ยวกับเรื่องลี้ลับ อันดับหนึ่งผมให้เรื่อง พิมพวดี อันดับสองผมให้เรื่อง ครูบัวไข คับ
2เรื่องนี้ดังจริงครับ เรื่องพิมพวดีผมเคยอ่านหนังสือตอนประถมชื่อว่ากฏแห่งกรรม
25:45 ฟีลแบบ surviving mode activate
ชีวิตหลังความตายมีแน่นอนครับ
ชีวิตหลังความตาย มีจริงนะ Retrospect ไง
คนที่รู้คือคนที่ตายแล้วเท่านั้น
มีสิ ไม่มีก็แปลกละ ไม่มีก็คุ้มดิ จะทำไรก็ได้ ไม่มีกรรมไล่ตาม
ทำ อียิปต์ มัมมี่ ไง
ผมจำไม่ได้ครับ
ผมกลับคิดถ้าเชื่อว่าชีวิตหลังความตายมีจริงจะมีประโยชน์อะไร
ก็น่าคิดงั้น ความตายก็ไม่มีจริงน่ะสิเพียงแต่เหมือนแค่เราเปลี่ยนร่างไปเรื่อยๆ สิ่งอย่างรอบตัวสุดท้ายก็แค่ชั่วคราว เกิดดับ เกิดดับ วนๆไป
ถ้าชีวิตหลังความตายมีจริง คุณคิดว่า ผลกรรมบาปบุญจะมีจริงหรือไม่ เหมือนเรียนหนังสือ ถ้าเรารู้ว่าเรียนอล้วจะมีตัดเกรด มีเลื่อนชั้น กับเรียนไปเฉยๆไม่ได้อะไร เราจะตั้งใจเรียนแตกต่างกันหรือไม่
ผมอยากให้มีชีวิตหลังความตายจริงๆ แต่ตอนนี้ สามสิบกว่าแล้วก็ยังไม่เห็นผี หรือการมีอยู่ของชีวิตหลังความตาย คือการมีตัวตนในที่อื่นที่ไม่ใช่บนโลกนี้
ไม่เคยเห็นตอนลืมตา เคยแต่ตอนนั่งสมาธิบางครั้ง และเคยไปทิ้งขยะบนจอมปลวก อยู่สถานปฏิบัติธรรม แค่เศษอาหารกะจะให้มดแมงกินไป แต่กลางคืนนอนพอหลับตา เงาดำๆมาอยู่ข้างๆเลย เห็นตอนหลับตา เราก็สวดคาถาสั้นๆที่เราจะสวดป้องกันตัวเองตลอดเมื่ออาจมีอันตราย เงานั้นก็หายไป
ชีวิตหลังความตายมีแน่นอน
@@sieyanigth9682 บางคนอินทรีย์ยังอ่อน สติน้อย สมาธิน้อย ฟุ้งซ่านเยอะจะให้เห็นผี เห็นอะไรแบบนั้นยังยากเกินไป ลองพิสูจน์อย่างอื่นดูก่อน เช่นการรู้วาระจิตของนักปฏิบัติที่มีอินทรีย์แก่กล้า ผมเคยเจอครั้งนึงที่วัดสวนป่าไผ่ล้อม อ.ไทรโยค กาญจนบุรี เมื่อเกือบ 10 ปีมาแล้ว เป็นเจ้าอาวาส ไม่แน่ใจว่าทุกวันนี้ท่านยังอยู่มั้ย เชื่อว่าทั่วประเทศมีคนที่มีความสามารถนี้อยู่ไม่น้อยเลย เราคิดไรอยู่ท่านรู้หมด จะไปคุยกับท่านแค่คิดในใจก็พอ ไม่ต้องพูดออกมาก็ได้ นอกจากนี้ก็มี หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช วัดสวนสันติธรรม จ.ชลบุรี และยังมีลูกศิษย์ของท่านที่เก่งๆ ทั้งพระและฆราวาสอีกหลายคน ที่มีความสามารถนี้ คุณลองพิสูจน์เรื่องนี้จะยังง่ายกว่า เพราะไม่จำเป็นต้องอาศัยสติ สมาธิ อะไรเลยก็ได้ แค่หาคนที่มีความสามารถนี้ให้เจอ แล้วพาตัวเองเข้าไปสัมผัสรับรู้เอา ผมเจอมาแล้ว และยอมรับโดยดุษฎีว่า มีจริงๆ
เราสามารถไปเกิเใหม่ที่แกแลคซี่แอนโดนิมิด้าได้ไหม ถ้าบุญเราตรงกับคนที่นั่น😂
เรื่องเห็นแสงสว่างกลมๆเนี่ย เคยอ่านว่าเค้าให้เหตุผลว่าเป็นแสงไฟในห้องผ่าตัด
ดีเอ็มทีหลั่ง😅
และพวกเขาพำนักอยู่ในถ้ำของพวกเขาสามร้อยปี และเพิ่มอีกเก้าปี18 : 25
ผมยังไม่ตาย และไม่เคยเฉียดตาย แต่ผมเห็นตัวเองในมุม Top eyeview อย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งแรกตอนขับรถเร็วๆ ครั้งสองตอนเล่นเกมส์ และ ทุกอย่าง เคลื่อนไหวช้ามากๆจนแทบหยุดนิ่ง
เคยได้ยินนักแข่งรถคนนึง เล่าเหมือนกันว่า เขาจดจ่อ ในกิจกรรมนั้นๆมากๆ จนสมาธิเกิดนิ่ง ถึงระดับญาณโดยบังเอิญ แล้วก็หลุดออกมาเห็นตัวเอง ขับรถอยู่ในสนามแข่ง
มีจริงตามพระพุทธเจ้าบอกครับ
คุณหมอจะปลอบคนไข้แล้วบอกว่าจิงก็ได้นะ แต่ส่วนตัวถ้าเจอหมอพูดงี้เราคงไม่โอเค ตายคือจบ กลายเป็นดิน เป้ฯก้อนโปรตีน นั่นคือธรรมชาติ ..แต่คือมันมีจุดให้แย้งเพียบ ไม่อยากให้คนเข้าใจผิดๆ เอาจริงมันมีการแย้งข้อมูลพวกนี้ทางวิทยาศาสตร์เพียบเลยนะ เราเคยฟังจาก witcast เค้าเอางานวิจัย ข้อโต้แย้งเรื่องพวกนี้ มีทุกข้อเลยค่ะ คล้ายที่พี่ทันเล่าตอนท้าย เสียดายวิทแคนลบคลิปพวกนั้นเพราะมีป๋องแป๋งที่มีประเด็น sh อยู่ในรายการด้วย เค้าเลยเอาคลิปออก แต่จะบอกว่า มันคือการเห็นผี คิดว่าตัวเองเห็นโลกหลังความตาย โดยสมองอะ มันไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งถ้าจะอ้างว่าเกิดขึ้นจริงมีจริง ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้อะ ว่ามันไม่ได้มาจากการทำงานของสมองที่ทำให้เห็นภาพพวกนั้น อย่างน้อยที่สุด ตอนเห็นภาพพวกนั้น ต้องมีการวัดคลื่นสมองอะ ว่าสมองส่วนไหนกำลังทำงานอยู่ เพื่อบอกได้บางส่วนว่ามันมาจากอะไร พูดง่ายๆคือทุกเรื่องที่หมอคนนี้ยกตัวอย่างขึ้นมา มันมีข้อที่โต้แย้งหักล้างทางวิทยาศาสตร์ได้หมดเลย ถ้าใครสนใจฟัง ลองเสิร์ชกูเกิลว่า witcast Spaghetti Monster ดูค่ะ เป็นตอนเดียวที่เหลืออยู่ อธิบายพวกเรื่องการเห็นผีในทางวิทยาศาสตร์ว่าทำไมมันไม่น่าเชื่อถือ แล้วก็มีใน TH-cam เป็น witcut สั้นตอนที่ 28 พูดเรื่อง god spot น่าจะเกี่ยวกับพวกเรื่องที่รุ้สึกตัวลอยอะ / ตอนที่ 11 พูดเรื่องลมหลับก็มีส่วนทำให้เห็นผีทางสมอง ..พวกนี้คือพอให้เห็นไอเดีย เพราะตอนเต็มๆ ที่มีพูดเรื่องพวกนี้มันลบไปแล้วอย่างที่บอกไป เสียดายมาก
ทุกอย่างมันต้องมีจิตที่รับรู้ครับ การไปโลกหลังความตายก็ไปด้วยจิต ไม่ใช่ไปทั้งศพ ลองนึกถึง การดูยูทูป คนในคลิปไม่ได้มาให้เราเห็นจริงๆ แต่มันเป็นการส่งข้อมูลมาทางคลื่น แล้วโทรศัพทธ์แปลวข้อมูลนั้นเป็นภาพที่หน้าจอ แสงกระทบหน้าจอมาเข้าตาเรา สมองแปลงข้อมูลจากแสงที่กระทบตา ถ้าเราไม่มีสมอง มันจะไม่มีอะไรเลย เพราะฉะนั้น การบอกว่ามันเป็นแค่สิ่งที่เกิดขึ้นในสมองแต่ไม่เคยมีอยู่จริงจะถือว่าถูกต้องไหมล่ะครับ ถ้าคุณได้มีโอกาสพบคนที่มีญาณ คุณจะเลิกสงสัยเรื่องนี้ครับ เพราะการรับรู้ด้วยจิตนั้นมีอยู่จริง เหมือน จะดูหนัง สมัยก่อนต้องมีม้วนมีแผ่น แต่ทุกวันนี้ดูจากเนต สมองคนก็เหมือนกัน มันสามารถรับรู้ทางเนตได้ในคนที่ฝึกจนเกิดญาณ
มีใครทำวิจัยเรื่อง MBTI มั้ยคะ ถ้ามีโอกาสซีซั่นหน้าา อยากลองฟังค่ะ😊😊
ถ้า ชีวิตหลังความตาย มีจริง คนยุคหินเก่า ที่ตายไป วิญญานเขา จะยังอยู่ไหม ถ้าวิญญานเขายังอยู่ สภาพวิญญานเขา จะปรับตัวเข้ากับ ยุคคอมพิวเตอร์สมัยนี้ได้ไหม เขาจะใช้มือถือเป็นไหม
ไม่น่าจะอยู่นะ เพราะเมื่อก่อนชุดความคิดเขาไม่น่าคิดเรื่องแบบนี้เอาเข้าจริงคนยุคนั้นเขาคิดอะไรง่ายๆไม่ได้คิดในแบบเยอะแยะแบบในปัจจุบัน สมมุติว่าเพื่อนเขาตาย เขาก็แค่คิดว่าเพื่อนเขาแค่หลับแบบไม่ตื่นสักพักร่างก็จะเริ่มมีแมลงหนอนส่งกลิ่นอะไรพวกนี้มาจึงค่อยนำไปทิ้ง พอหลังๆเริ่มมีชุดความคิดความเชื่อเขาก็เลยเริ่มคิดเรื่อง การฝั่งศพพวกพิธีอะไรพวกนี้ เขาน่าจะเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ง่ายอย่างการเกิดและการตาย เมื่อเกิดจึงฉลองเมื่อตายจึงอำลา
มีทฤษฎีแบบว่าพอตายปุ๊ปไปเกิดที่ต่างโลกแฟนตาซี โลกแห่งดาบและเวทมนตร์มั้ยครับ 😂😂 เบียวจัดๆ
ผมเคยเป็นลมหัวฟาดพื้นไป ยังจำภาพสีขาวได้ดี แต่จะเห็นผู้คนในนั้นด้วย คนใกล้ตัว ไม่รู้ว่าเป็นอาการอะไร 😂
@@Sandmanmanga เค้าพูดภาษาอังกฤษเหรอคะ มันจับคำไม่ออก
@@pememamyไม่ใช่ครับ เขาพูดเร็วเกินไปครับ และปากอาจจะตามความคิดที่จะพูดไม่ทันคำมันเลยรัวไปไม่ชัดเจนครับ แต่โดยรวมพี่ธัญพยายามอธิบายการทำงานของสมองให้เราคิดว่าสมองกำลังหลอกตัวเราอยู่ครับ ดร.ผู้หญิงเลยชมพี่ธัญว่าวันนี้ท๊อปฟอร์มเพราะพี่ธัญอธิบายเรื่องการทำงานของสมองมาหักล้างวิจัยที่ว่าโลกหลังความตายมีจริง ***ในตอนนั้นพี่ธัญอาจจะพูดว่า “สมองมันหลอกเราได้ว่าจะให้เราเห็นอะไร ถ้าจะตายสมองก็จะบอกเราว่า นี่ไงมึงจงเห็นสิ่งเหล่านี้ เพราะกูใส่ให้มึงมองไง” ***หลักจากนั้นแปปนึง ดร.หญิงก็ อ๋อออ ธัญวัฒน์ท๊อปฟอร์มนะเนี่ย
ทำไมต้องตั้งคำถาม. ทำไมยังสงสัย. คนที่ตายแล้วเกิด จำความได้แล้วมาเล่า คนที่ตายแล้วฟื้นแล้วมาเล่าให้ฟัง. มีจำนวนไม่น้อย. และมีทั่วโลก. ถ้าบอกว่า พวกเขารวมหัวกันโกหกคนทั้งโลก หรือว่าเป็นอุปาทานหมู่. ก็ไม่น่าใช่. ชีวิตหลังความตาย มีจริงครับ
อยากให้มีจริงๆจังเลยค่ะ 🥲
ตอนหลังธรรยวัช พูดว่าอะไร ฟัง 3 รอบยังไม่รู้เรื่องเลย ที่ผุ้หญิงบอกท๊อปฟอร์ม
เขาพูดเกี่ยวกับการทำงานสมอง ก่อนตาย สมองเราจะปลดลิมิตเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด ในเวลานั้นแหละที่ผู้ตายหรือกำลังจะตายโดนสมองหลอกจากเรื่องราวของความทรงจำและสิ่งที่รับรู้ได้ในช่วงเวลานั้นมาตีความให้เป็นภาพ ขอเสริมปัจจุบันมนุษย์เราสมองทำงานอยู่100%แต่การดิ้นรนของสมองก่อนตายนั้นอาจจะทรงพลังกว่า การที่เวลานั้นสมองเราปลดลิมิตเพิ่มขึ้นมาทำให้เราเหมือนยอดมนุษย์ในช่วงเวลาสั้นๆ การรับรู้ของเราจะละเอียดมาก บวกกับความรู้ความเข้าใจเดิมของเราทำให้สมองอาจตีความออกมาเป็นภาพให้เราเห็นและเราก็เข้าใจไปเองว่าวิญญาณเราลอยออกมาและเห็นภาพทั้งหมดในมุมสูง ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่ เราแค่โดนสมองหลอก ทำนองนั้นครับ
นาที ที่ 27.15-27.20 ได้ค่ะ ฟังไม่ออกจริงๆ
“(สมองบอกว่า…) นี่ไงมึงจงเห็นสีเหล่าเนี้ย เพราะกูสั่งให้มึงมองไง”
@@SalmonPodcast ขอบคุณมากๆค่ะ
แต่เนื้อหาดีมากๆค่ะ
ตายคือไม่มีชีวิต
@@maddog8030 ถ้ายังไม่ตายคือมีชีวิต แต่ว่าชีวิต ที่ว่ามี มันอยู่ตรงไหน? แล้วหน้าตามันเป็นยังไง? เอาชีวิตมาให้ดูหน่อย
อยากรู้ว่ามึงานวิจัยเรื่องนี้ไหม “แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่แข่งบุญวาสนา แข่งไม่ได้”? 😅
ต่อให้สมองมันทำงานดีกว่าเดิม มันก็ไม่ได้อธิบายเรื่อง top eye view อยู่ดี คุณหมอเขาทำ 5,000 เคส คุณถามเขาว่าจะ verify ได้ยังไง แต่พอเพื่อนคุณให้ความเห็น คุณเชื่อเลย ... งง
หมอคนนี้โคตรพุธท หน้าเอาพี่โจ้มาด้วยนนะ555😂😂😂 ถ้าพุทธจะบอกว่าจิตสุดท้ายก่อนต้าย
มรณาสันนวิถี ควรรู้ไว้ไม่เสียหาย อย่างไงทุกคนก็ต้องตาย ก็ควรต้องเตรียมตัวไว้ก่อน
คิดง่ายๆ ว่าคนบนโลกนี้ เคยเจอผี กี่คน แล้วมาเล่าประสบการตัวเอง ให้คนอื่นๆฟัง จากประชากรโลก เอาแค่ประเทศไทย 70 ล้าน คิดง่ายๆ 10 % เคยเจอผี มันคือคน 7 ล้านคน แล้วคิดว่า 7ล้านคนนี้ พร้อมใจกันแต่งเรื่อง...ผี ! เหรอ
ทำไมตอนนี้สั้นนนจังงง
หมอสรุปดีมากอ่ะ คาดไม่ถึงเลย
ถ้ามีชาตินี้ชาติเดียว ชาติก่อนไม่มี ทำไม ฝาแฝดที่มีเซลล์เหมือนกันแยกมาจากไข่ใบเดียวกัน ถึงมีนิสัยไม่เหมือนกัน แม้แต่แฝดสยามที่ตัวติดกัน เติบโตมาในสภาพแวดล้อมอย่างเดียวกัน พ่อแม่ก็รักเหมือนกันซื้อของให้ก็ซื้อให้อย่างเดียวกัน นิสัยถึงไม่เหมือนกัน ถ้าไม่ใช่เพราะมีอุปนิสัยที่สะสมมาจากชาติปางก่อนหลาย ๆ ชาติ เซลล์ฝาแฝด DNA อะไร ๆ ที่เป็นกายเนื้อ ก็เหมือนกัน ถูกเลี้ยงดูมาจากสภาพแวดล้อมเหมือนกัน ทำไมนิสัยไม่เหมือนกัน แฝดบางคู่นิสัยต่างกันอย่างเห็นได้ชัด คนหนึ่งเรียบร้อย อีกคนพูดมาก ซุกซน เซลล์เดียวกัน เลี้ยงดูเหมือน ๆ กัน น่าจะมีนิสัยคล้าย ๆ สิ นี่ทำไมนิสัยคนละขั้วเลย
น่าจะซัก 1 ชม. 555
เพิ่งจะถึงชีวิตหลังความตายเองเหรอ? เขาไปถึงกลับชาติมาเกิดใหม่ แล้วจำชาติก่อนได้ จนมีคนไปทำการพิสูจน์ไปตั้งหลายเคสแล้ว
ขอที่มาหน่อยครับ
@@Sandmanmanga ศ.นพ.เอียน สตีเวนสัน กับการศึกษาเรื่อง "ระลึกชาติ!"รายละเอียดคร่าวๆ ก็คือ นายแพทย์คนนี้ เขาทำการวิจัยเด็กก่อนวัยประถมเกี่ยวกับความทรงจำในอดีตชาติ มีข้อมูล และ การบันทึกจริง สัมภาษณ์จริงๆ โดยมีผลงานวิจัยมากกว่า 2000 ตัวอย่างและตีพิมพ์ผลงานในวารสารมากมายกว่า 200 ฉบับ
@@Sandmanmanga เอียน พรีทีแมน สตีเวนสัน (อังกฤษ: Ian Pretyman Stevenson, 31 ตุลาคม 1918 - 8 กุมภาพันธ์ 2007) เป็นจิตแพทย์ชาวอเมริกันผู้เกิดในแคนาดา เขาทำงานให้กับมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียสาขาแพทยศาสตร์เป็นเวลา 50 ปี เป็นหัวหน้าแผนกจิตเวชระหว่างปี 1957-1967 ได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์จิตเวชคาร์ลสันระหว่างปี 1967-2001 และเป็นศาสตราจารย์จิตเวชด้านวิจัยตั้งแต่ปี 2002 จนสิ้นอายุขัย
อิสลามได้บอกไว้หมดแล้ว ในคัมภีร์อัลกุรอ่าน แต่ยังไงก็เถอะ ผู้ปฎิเสธ ก็คือผู้ปฎิเสธ😊
ถ้าคนที่ไม่มีศาสนา ก็ไม่มีนรก กับ สวรรค์ สินะ
เคยโดนไฟช๊อตตอนเด็กแล้วภาพตอนพ่อกลับมาจากกทม.โผกอดเราเข้ามาเป็นฉาก
ที่บอกว่าไม่น่ากลัวเพราะเขากลับมาบอกคุณหมอไงครับ แล้วพวกที่กลับมาบอกไม่ได้ล่ะ คุณหมอรู้เหรอว่าเขาไปที่ไหนต่อ??? จิตเกิดและดับนับล้านๆครั้งต่อวินาที แต่เมื่อจิตสุดท้ายเกิดแต่จิตดวงต่อไปไม่มีแล้วจิตดวงนั้นจะไม่ดับ อ้าวแล้วทำไงล่ะทีนี้ จิตมันคือพลังงานซึ่งมีนดึงดูดกับพลังงานที่เหมือนกัน ก็เลยถูกดึงดูดไปหากลุ่มของพลังงานนั้น ที่เราสมมุติเรียกว่า นรก สวรรค์ อย่าลืมนะครับว่าเราอยู่ในจักรวาลที่เต็มไปด้วยแรงโน้มถ่วง ซึ่งม้นดึงดูดกันละกัน ถ้าไม่มีแรงนี้ก็ไม่มีจักรวาล เราทุกคนอยู่ภายใต้กฎเดียวกัน
ถ้ามีจริง วิญญาณคงล้นโลก 55
ไม่รู้ว่าเกี่ยวโยงกับศาสนาด้วยรึเปล่าตอนคุณหมอทดลอง
🤍
ผมเชื่อว่าวิญญาณมีคุณค่ามากกว่าแค่ส่วนหนึ่งของร่างกาย
โลกนี้ไม่มืคัยไหญ่เท่ากับพระพุธธะเจ้าคำสอนพระพุธธะเจ้าจะเลีนสุดรู้จรืงๆๆสุดๆๆตายไปแล้วมันขื่นกับจิตสุดท้ายคิดดีไปดีคิดไม่ดีลงอบายนรกเปตสัสเดละสารนั้นเองเป็นตนวินญานก็การคิดการปุงแต่งความรับรู้ด้วยจิตไจล่างกายนั้นเองละครับ
โลกหลังความตายไปแล้วนรกสวรรค์บาปบุญมือยู่จรืงทำดีได้ดีทำชั่วๆนรกจรืงๆนรก
งานวินักวิยาสาศส่วนมากๆๆเลยจะคิดว่านรกสวรรค์บาปบุญไม่มือยู่จรืงโลกนี้ไม่มืคัยรู้มากเท่าพระพุธธะเจ้าเลยนะครับนรกสวรรค์บาปบุญมืจรืงนะครับโลกหลังความตายมันขื่นกับเราคิดดีทำดีไม่ทำบาปกรรมตอนเป็นคนเป็นมนุษย์นะครับเชื่อเถาระนะ
ในอภิธรรมปิฏกแสดงเรื่องนี้ไว้ละเอียด
เมื่อก่อนไม่เคยเชื่อเรื่องแบบเลยนี้นะ ตายแล้วก็คือจบ ไม่มีความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น แต่หลังจากที่แม่ผมเสียไปเมื่อสองเดือนก่อน แค่คิดว่าตลอดทั้งชีวิตที่เหลืออยู๋จะไม่มีวันได้เห็นหน้าคนที่ผมรักที่สุดอีกแล้วมันทำให้ผมเศร้ามาก กลายเป็นว่าตอนนี้สิ่งที่ผมหวังที่สุดเรื่องนึงคืออยากให้โลกฝั่งนั้นมีอยู่จริงๆ ไม่ว่าจะอีก 40 หรือ 50 ปี ผมก็รอได้ เพื่อจะได้คุยกับแม่อีก ดีกว่ามีชีวิตอยู่โดยที่ไม่มีความหวังเลย
สู้ๆนะคะ เราก็พึ่งเสียแม่ไป1 อาทิต แม่ไม่เคยมาหาเลยคะ นอนร้องไห้ทุกวัน😢
แรกๆผมเคยฝันถึงท่านนะครับ ว่ามาหา นานที3-4ครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่ฝั่นอีกเลยครับ
นี่ก๊พึ่งเสียแฟนจุดธูปบอกเขา สักวันจะไปหาขอให้ได้เจอ อยากบอกเขาว่าตอนเขาจากไปมี้รื่องมากมายเกิดขึ้น มีเรื่องที่จะคุยให้เขาฟังมากมายทุกวันนี้จุดธูปพูดกับรูปภาพและบอกว่าสักวันนึงถ้าโลกหน้ามีจริงเราคงได้เจอกันอีกครั้ง
@@YochanYoshi กรรมจะนำพาให้ได้เจอ กรรมสุดท้ายที่หมดวาละกรรมก็อาจไม่ได้เจอกันอีก ก็อย่ายึดติดและเสียดาย ถึงเวลานั้นเราจะจำอะไรไม่ได้เลย
เหมือนกันค่ะ ยายเราก็เพิ่งเสียไปเมื่อ 3 วีคก่อน เราก็อยากให้ชีวิตหลังความตายมีจริงมาก ๆ มะนเจ็บปวดเกินไปที่จะรับรู้ว่าการตายคือการหายไปตลอดกาล
ด้วยความสัตย์จริง
อีพีนี้ทำให้เรานึกถึงคืนนั้น
คืนที่เรานอนหลับอยู่บนเตียง
แต่แฟนยังไม่หลับ นอนเล่นโทรศัพท์
อยู่ข้างๆ
แล้วเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น เราเห็นตัวเอง
นอนอยู่บนเตียง โดยมีแฟนเล่นโทรศัพท์
อยู่ข้างๆ ไม่สามารถขยับหรือพูดได้ ทำได้
แค่มองจากมุมด้านบนลงมาไปเรื่อยๆ
ความกลัว ความเสียดาย ความเสียใจ
พรั่งพรูออกมา เรื่องที่อยากทำ คงทำ
ไม่ได้อีกแล้ว คำที่อยากพูด คงพูดไม่ได้
อีกแล้ว คิดๆๆๆๆๆๆจนกระทั่งเหมือนมี
ความรู้สึกถึงลมหายใจลูกใหญ่ๆ
แล้วก็ตื่นขึ้นมา น้ำตาไหลอาบหน้า
ไม่หยุด กอดแฟนและร้องไห้อยู่อย่างนั้น
หลังจากเหตุการณ์นั้นเราไปตรวจสลีปเทส
และเราหยุดหายใจระหว่างนอนบ่อย
อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะไหลตาย
ด้วยความสัตย์จริง เรื่องนี้ทำให้เรา
ใช้ชีวิตต่างออกไป เราเห็นคุณค่าต่อ
ทุกสิ่งในทุกวินาที
ถึงใครซักคนที่อ่านอยู่
ทำสิ่งที่อยากทำ พูดสิ่งที่อยากพูด
และใช้ชีวิตในแบบที่อยากใช้เถอะครับ
เราไม่รู้ว่านั่นคือ การเข้าใกล้ความตาย
หรือป่าว แต่เราอยากให้คุณโฟกัสกับ
สิ่งที่คุณอยากทำ และทำได้ในตอนนี้
และสุดท้าย ขอให้มีความสุขกับชีวิตนะครับ
ร่างกายประกอบด้วยขันธ์5คือ รูป(ร่างกาย)เวทนา(อารมณ์)สัญญา(ความจำได้หมายรู้)สังขาร(การปรุงแต่งไปในอนาคต)วิญญาณ(การรับรู้)สัตว์ยึดติดวิญญาณ วิญญาณเข้าไปยึดขัณธ์ทั้ง4เป็นที่ตั้ง เวลานอนหลับวิญญานไม่รับรู้ในรูปก็ไปเกาะสัญญาบ้างสังขารบ้าง แล้วเวลาตายรูปดับ จิตมโนวิญญาณก็ยังจะหาทียึดเกาะในขันธ์ที่เหลืออยู่ จิตสุดท้ายไปเกาะที่ใดที่นั้นย่อมเป็นที่ตั้งอยู่ของวิญญาณ เมื่อมีภพย่อมมีชาติ เมื่อมีที่เกิดย่อมมีการเกิด กรรมคือผืนนา วิญญานคือเมล็ดพืช เมล็ดพืชตกลงไปในผืนนาที่นั้นย่อมเป็นที่ตั้งอยู่ของวิญญาณ สัตว์โลกเป็นไปตามกรรมทำกรรมอย่างไรรับผลของกรรมอย่างนั้น
จากศิษย์หลวงตาผู้ก้าวข้ามความตาย พระเจ้าถอดจิต
ขอบคุณepนี้นะครับ
พี่ธัญสรุปให้เข้าใจในแบบวิทยาศาสตร์เข้มข้น ส่วนเรื่องที่พี่เชอรี่นำมาดีกับผมมากเลยครับ คือผมกับแฟนประสบอุบัติเหตุเมื่อ8กันยายน(โดนคนหลับในชนจากด้านหลัง) ผมรอดครับแต่แฟนผมไม่ ถ้าเป็นอย่างงานวิจัยที่พี่เชอรี่นำมาก็ถือว่าเป็นการเดินทางต่อของคนที่จากไป ได้ฟังเรื่องที่นำมาก็สบายใจขึ้นเลยครับ(กลัวเรื่
องวนเวียนที่เดิม) เพราะพี่เชอรี่เลือกบางข้อที่ฟังแล้วสบายใจมาเล่า ขอบคุณที่เหนื่อยในการหาเรื่องมาเล่านะครับ
ผมคิดมาตลอดว่าคนดำรงอยู่ได้ด้วยกายเนื้อ คือ สมอง ปอด หัวใจ ผีไม่มีทางดำรงอยู่ได้ ไม่มีวันเป็นไปได้.... แต่เชื่อมั้ยว่าผมได้เห็นผีเต็มๆสอวตาถึงขนาดนี้ผมก็ยังสงสัยเหมือนเดิมเรื่องชาติหน้าและชีวิตหลัวความตาย
เห็นไรมา หรอครับ เล่าหน่อย
@@Acasin ผีที่บ้านครับ
ถ้าตามแนวพุทธ เราแค่เปลี่ยนสถานะ แต่หลักจะเหลือจิตอยู่ ว่าจะไปเป็นอะไรต่อ เทวดา พรหม ผี สัตว์ มนุษย์ และจบคือไม่เป็นอะไรต่อ..คือหาทางออกได้แล้ว...
ของแบบนี้ถ้าตั้งธงไปแล้ว เปลี่ยนยาก ต่อให้มาเห็นก็ยังเปลี่ยนความเชื่อยาก
@@MTPB_ถ้าพูดเรื่องการปักธงในใจไปแล้วผมก็นึกเรื่องนึงขึ้นมาได้
คนเราเมื่อเชื่ออย่างหนึ่งไปแล้ว ว่ามันต้องเป็นอย่างนี้แน่ ไม่มีทางเป็นอย่างอื่น จิตจะเข้าไปยึดมั่นถือมั่น ก็จะเชื่อว่าทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างที่เราคิดสิ ใครคิดต่างจากเราก็แปลว่าเขาต้องผิด
คนเรานี่ก็แปลก ไม่เคยมองอะไรโดยใจเป็นกลางเลย ถ้าจะเปลี่ยนความคิดหรือความเชื่อของตัวเอง มันก็ไปติดไอ้ตัวนึง ที่ชื่อว่ามานะ หรือความยึดถือในตัวในตน มันถึงออกจากทุกข์กันไม่ได้ซักที
ฟังดู ไม่เห็นมีข้อมูลเกี่ยวกับ "หลังความตาย" เลย มีแต่ก่อน ๆ จะข้ามเส้นความตาย เกือบ ๆ ตาย
ต่างชาติเขาก็สนใจกันมานานแล้ว ที่บ้านเราที่ดังๆก็น่าจะเป็นเรืองของอ.ไพศาล แสนไชย หรือจุไรท่องเที่ยวดวงดาว (เป็นเด็กผู้หญิงของแม่ไปเที่ยวตามดวงดาวต่างๆ)
และก็มีอีกมากมายรวมถึงคนที่ผมรู้จักก็มี ซึ่งเป็นการใช้กายละเอียดออกมาจากกายหยาบ แต่ถ้าออกมาฝันหลวงปู่สดวัดปากน้ำเรียกว่ากายฝัน แต่ถ้าคนตายไปจริงๆ ผมเข้าใจตามที่ได้ยินมาว่าจะมีหลักใหญ่ๆอยู่ 3 อย่าง คือ 1.ใจใสสว่าง ไปดีมีความสุข เหมือนหลับและตื่นหรือมีขบานเหล่าบริวาลมารับ 2.ใจหมองมืดมิดไปอบายทันที 3.ใจไม่หมองไม่ใส ความดีความชั่วก้ำกึ่งกัน นึกอะไรไม่ออก ก็จะมีเจ้าหน้าที่มารับตัวไปรอยมบาลช่วยตัดสินต่อไป หรือถ้ายังไม่หมดอายุตาย ก็จะมีเรื่องของการที่ยังไม่ได้มาเกิดอีกเป็นรายๆไป
ข้อ 1 กับข้อ 2 ก็เหมือนกับความคุ้นเคยนิสัยของแต่ละคนคุ้นกับสิ่งใดมาตลอดชีวิต แต่ข้อ 3 นี้มักจะเกิดขึ้นกับคนอยู่จำนวนมาก เพราะวันแรกๆที่ตายมันก็ยังงงๆกันอยู่ว่าพูดกับใครๆก็ไม่รู้เรื่องไม่มีใครพูดด้วย บางทีก็นึกว่าตนเองหายป่วยแล้วกลับมาอยู่บ้านแล้ว
ในคติของทางพุทธจึงมักจะทำบุญ 7 วันก่อนเผา เพราะในระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่มารับตัวไปใน 7 วัน พอวันที่ 3 4 ก็รู้ตัวแล้วว่าตัวเราได้ตายไปแล้ว เพราะเห็นร่างกายเราอยู่ที่วัดที่สวดกันหลายวันมาแล้ว เมื่อมีการทำบุญที่วัดตลอดทุกวัน จิตใจก็ผ่อนครายนึกถึงบุญเก่าๆได้แล้วปรึ้มสบายใจแจ่มใสดีแล้วเมื่อมีบุญมากพอก็กลับไปวิมานของตนที่รออยู่แล้วได้เลย ซึ่งในสมัยนี้ คนรุ่นใหม่ๆส่วนหนึ่งจะรีบจัดงานศพลดวันน้อยลงไม่ถึง 7 วันกันมากขึ้น ทำให้ผู้ตายในเค๊สที่ 3 ไม่ทันได้ปรึ้มใจกับบุญกุศลที่ญาติพี่น้องได้ทำกัน คือสวดศพกันไม่กี่วันก็เผาให้เสร็จๆกันไป เขาก็มางานที่วัดทุกวันเขาเห็นเขาได้ยินว่าเราพูดทำอะไรกันทั้งหมด สิ่งที่เขาต้องการคือความปรี้มใจสุขใจหมดห่วง 7 วันนี้จึงสำคัญ กับผู้คนทั่วๆไปแต่นั่นแหละทุกคนก็รู้กันเองในวันนั้น ความตายไม่แน่นอน ซึ่งคนตายก็ไม่ได้มาบอกเพราะไปแล้วเวลามันก็ต่างกันมาก
เคยจมน้ำคือ รู้ตัวแล้วว่าตายแน่ๆ
มีภาพไหลมาจริงๆคะ เป็นภาพมาแบบเร็วๆ
ส่วนตัวเคยเจอเหตุการณ์เฉียดตาย(แต่ไม่ถูกระบุว่าตายแล้วฟื้นนะ) 2ครั้งค่ะ ***ครั้งแรกเมื่อ 14ปีก่อน รถแฉลบ..ภาพค่อยๆมืดแล้วมืดดับไปเลย....ละก็เห็นแสงสว่างสีขาว ตื่นขึ้นมายังไม่รู้สึกเจ็บเลย สักพักมันก็จะเจ็บ แต่งงมากค่ะตอนตื่นขึ้นมา เรารุ้สึกว่าเหมือนหลับไปแค่แป๊บเดียว แต่ฟาดไป 3วันแน่ะ
**ครั้งที่ 2 โควิดติดสายพันธุ์เดลต้า (คิดว่าไม่รอดแน่ค่ะตอนนั้น) ทรมานมากค่ะปวดตามข้อทั้งตัว ละมีไข้สูง วันนั้นเวลาประมา 1ทุ่ม ก่อนจะหลับไปคือรุ้แค่ว่าทรมานจัง ไม่ไหวแล้ว ภาพมันก็ค่อยๆตัดไปช้าๆภาพค่อยๆแดง...ละค่อยๆมืดไป ดับสนิท ช่วงที่ไม่รุ้สึกตัวเดินงมในความมืดอะพยายามหาทางออกไม่เจอเลย..เดินจนเจอแสงสว่างแล้วก็ตื่นขึ้นมาในห้องมืดๆไม่ได้เปิดไฟ ...แล้วถามตัวเองว่าที่ไหน ที่นี่ที่ไหน 😂 แล้วก็นึกได้เองว่า อ่ออ โรงแรมที่เรามากักตัว หลังจากนั้นนานเป็นเดือนเรามักตกใจตื่นกลางดึกละลืมว่าตัวเองว่าเป็นใคร หรืออยุ่ที่ไหนตลอด สมองนี่สำคัญจริงๆเห็นด้วยกับแนวคิดพี่ธัญค่ะ สรุปว่าทุกครั้งที่จะฟื้น เราจะเห็นแสงสว่างเสมอค่ะ
สิ่งที่เรียกว่า ชีวิตหลังความตายมีแน่นอน แต่ถ้าใครไม่เชื่อก็ไม่เถียงครับ ไม่มีประโยชน์
เพราะถ้ามีมันก็มี หรือถ้าไม่มี มันก็จะไม่มี เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครบัญญัติขึ้นทั้งนั้น
เราทำได้แค่เชื่อ หรือไม่เชื่อเท่านั้นเอง
ไม่เชื่อ ก็ทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม โลกจะได้น่าอยู่ขึ้นครับ
@@AtrociousRocket เคารพกฎหมายและเคารพในหลักมนุษยธรรมก็โอเคแล้วครับ มันเห็นเป็นรูปธรรมจับต้องได้
ถ้ารู้แจ้งเห็นจริงแล้ว ก็ไม่ต้องเชื่อ-ไม่เชื่อ
แบบเดียวกับที่ คาร์ลจุง ถูกถามว่าเชื่อในพระเจ้าหรือไม่. เขาก็ตอบว่า "ฉันไม่จำเป็นต้องเชื่อ ฉันรู้"
@@MTPB_กฏหมายบางครั้งก็ไม่ได้ครอบคลุมการผิดศีล อย่าง โกหก กฏหมายก็เอาผิดยาก
@ ว่ากันไปครับ
ถ้าเกิดในสมองเห็นภาพช่วงชีวิตที่ผ่านมา มันเป็นปกติของคุณสมบัติสมองของเราคับ แต่ผมก็เชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายนะคับ.... กรณีสมอง ย้อนให้เราเห็น คือธรรมชาติสิ่งมีชีวิตคับการต่อสู้ครั้งสุดท้าย นึกถึงสัตว์เลี้ยงนะคับเขาจะใช้ห้วงสุดท้ายที่ยังไหวกลับมาที่บ้านคับ
ขอแชรประสบการณ์ใกล้ความตายด้วย
ผมอายุ72แล้ว เมื่ออายุ13 ป่วยเป็นมาลาเรียถึงขั้นเกือบไม่รอด เพราะพ่อไม่เชื่อว่าผมป่วยจริง ไข้จับสั่นของมาลาเรียจะออกฤทธิ์เป็นระยะๆ ถ้าไม่ออกฤทธิ์จะเหมือนคนปกติ กินได้ เที่ยวได้ คุยสนุก เมื่อมันออกฤทธิ์จะนอนซมหนาวสั่นหมดเรี่ยวแรง ด้วยอาการนี้พ่อจึงเคี่ยวเข็ญให้ไปทำงานจะได้แข็งแรง จึงทำให้ผมป่วยกลับไปกลับมาไม่หายขาด จนกระทั่งชาวบ้านเห็นผมและขอร้องให้พ่อส่งไปรักษาที่หน่วยกำจัดมาลาเรีย ผมจึงรอดมาได้
ช่วงที่เป็นไข้จับสั่นระยะรุนแรง ผมไม่สามารถควบคุมความคิดของตนเองได้เลย ทุกครั้งที่หลับจะเหมือนตกนรกทุกครั้ง เห็นแต่คนรูปร่างแปลกๆ และตัวผมเองก็เป็นเช่นนั้น หัวใหญ่ ตัวเล็ก มือเท่ากระด้ง พูดไม่ได้ เดินลำบาก แม้ผมจะพยายามหนีจากจุดนั้นเท่าไร ก็ไร้ผล แม้ตื่นแล้วภาพเหล่านั้นก็ยังตามหลอนนานเป็นชั่วโมง เกิดอาการกลัว ท้อแท้ อยากตายจริงๆให้มันพ้นจากความฝันร้ายๆนี้เสียที
นานหลายเดือนที่ป่วยซ้ำซ้อน ความฝันจะซ้ำๆอยู่อย่างนั้น จนเริ่มกินไม่ได้ ร่างกายซูบผมกระดูกโผล่โปนทั่วไป ช่วงที่ป่วยหนักมากๆเหมือนตกอยู่ในนรกก็ไม่ปาน ภาพหลอนนั้นวนเวียนอยู่ในหัว สายตาเริ่มมองไม่เห็นไม่มีเรื่องอื่นมาปนเลย ทั้งที่ช่วงวัยก่อนที่ยังไม่ป่วย ไม่เคยดูหนังสือหรือฟังเรื่องผีสางแต่อย่างใด ชอบดูทีวีเรื่องรถยนต์ เครื่องบินเป็นชีวิตจิตใจ แต่เรื่องที่ชอบกลับไม่เคยเวียนเข้ามาในขณะที่ป่วยแม้แต่น้อย
หลังจากกินยาหน่วยกำจัดมาลาเรียอาการเริ่มดีขึ้น แต่ภาพหลอนในฝันตอนป่วยยังคงตามหลอนอยู่กว่าสองปี กว่าจะเบาบางไปจนเป็นปกติ
เรื่องชีวิตหลังความตายจะมีจริงหรือไม่ ไม่อาจพูดได้ แต่สิ่งที่ผมเป็นมาแล้วนั้น เหมือนมันเป็นวิกฤติชีวิตที่เฉียดความตายก็ได้ จึงได้เห็นนิมิตเช่นนั้นซ้ำๆโดยไม่มีเรื่องอื่นเข้ามาแทรกเลย
สิ่งที่เราตกตะกอนได้จากการลองอ่านมา เราว่าพวกชุดความรู้อะไรต่างๆของเราใช่ว่าจะเป็นแบบนั้นเสมอไปบางคำถามมีหลายคำตอบซึ่งคำตอบเหล่านั้นก็ไม่ได้ผิด ความรู้ความคิดในทุกๆเรื่องมันเพิ่มอยู่ตลอดเวลาอย่าง โอกาสที่จะเกิดเรื่องๆนึงมันน้อยมากแต่เมื่อมีโอกาสมันก็สามารถเกิดขึ้นมาได้เสมอ อย่างเบบี๋ที่เกิดมา แปลกดีที่แฝดเกิดมาพร้อมกันไข่ใบเดียวกันเลี้ยงมาเหมือนกันแต่ต่างกันทั้งที่เหมือนกันแสดงว่าไม่เหมือนกันแต่แรกในเรื่องของสิ่งที่ได้มาแต่กำเนิด การเลี้ยงดูอาจไม่ได้ส่งผลถึงขนาดนั้น ขอยกในเรื่องเพศละกันถ้าคนมันจะเป็นมันตึงเป็นจะยะจะไดมันตึงเป็น สรุปเลยเราไม่ควรมองมุมแคบอะว่าบางสิ่งมีอย่างงี้จึงเป็นแบบนี้ สุดท้ายนี้คือเราทุกคนเนี้ยเอาแน่เอานอนกับอะไรไม่ได้เลยด้วยว่าเหตุปัจจัยทุกอย่างมันเสริมๆกันมา
สต.ชอบฟังพุทธประวัติของพี่โจ้
เผื่อมีใครมาอ่านต่อ อย่างเด็กตัวเล็กที่เขาไม่รู้จักความตายเนี้ยเขาจะกลัวมันมั้ย ตอบเลยว่าไม่เพราะเขาไม่รู้ไงว่า มันคืออะไรมีความหมายยังไง แต่หากพอโตมาหน่อยเขาก็จะเริ่มรู้ความหมายว่าเออนี้ การตายเนี้ยเป็นสิ่งที่เป็นอย่างนู้นอย่างงี้เขาก็จะเริ่มกลัวละ
การที่กลัวความตายคือการที่เราได้ความคิดมารึเปล่า หรือ อาจเพราะเราเองกลัวในสิ่งที่เราไม่รู้ เรากลัวว่าสิ่งทุกอย่างอันเป็นที่รักของเราจะหายไป ทั้งที่เราไม่คิดเลยว่าทุกอย่างมันก็เป็นแบบนั้น มีแล้วก็หาย สรุปแล้วมันมีจริงๆหรือเปล่า ของที่ได้มาเวลาใช้มันมีอยู่จริงๆมั้ยเมื่อได้ของมาของนั้นก็หาย อาจจะกินไปแล้วใช้ไปแล้วพังไปแล้ว เทียบให้เห็นภาพ ทุกอย่างรอบตัวเราก็เหมือนกันมีแล้วก็ไม่มี ไม่มีแล้วก็มี
เรื่องเเบบนี้ รับรู้ได้เฉพาะตนครับ
มีหรือไม่มี ถึงวันนั้นเราจะได้คำตอบที่ถูกต้องเอง เเต่ระหว่างทางที่จะไปถึงเราจะทำเเเบบใดนั้น นั่นคือสิ่งที่เราต้องพิจารณาให้มาก
เรื่องนี้น่าจัดกับ Myth Universe เอามาทาบกับพุทธศาสนาแล้วดูน่าจะตรงกันดี ขันธ์5 จิตสุดท้าย มรณานุสติ ใกล้เคียงกันดี
แฟนเพิ่งเสียเพิ่งครบ100วัน รอให้เขามาหาทุกวัน แต่เขาไม่เคยมา 😢 คิดถึงเขาทุกวัน คุยกับเขาทุกวัน ว่าตอนนี้พี่อยู่ไหน คิดถึงกันบ้างไหม เป็นยังไงบ้าง แต่ทางบ้านก็บอกไม่ให้ถามถึงเขา ไม่งั้นเขาจะห่วง ไม่ไปไหน 😢
ชอบมากครับ พึ่งมาฟังครั้งแรก
เพราะมีความคิดอยู่ดีๆกลัวความตาย
ฟังจบนี่ยืนขึ้นปรบมือเลย
เคยมีประสบการณ์คล้ายแบบนี้ แต่ไม่ได้ใกล้ตาย
ครั้งแรก เหมือนฝันว่าลุกออกจากเตียง หันไปที่เตียงเห็นตัวเองนอนอยู่ แล้วเราเดินไปข้างล่าง เห็นแม่กำลังจัดของใส่ตู้เย็น มีผักต่างๆ มีถุงเฟรนฟรายส์วางข้างๆผัก หันไปมองนาฬิกา เห็นเป็น 7 โมงนิดๆ แล้วเราก็เดินกลับขึ้นห้องไปนอนต่อ ตื่นมา เปิดตู้เย็น เห็นมีถุงเฟรนช์ฟรายส์แช่ไว้จริงๆ (ปกติที่บ้านไม่ได้ซื้อเฟรนช์ฟรายส์บ่อยด้วย) รวมถึงมีผักตามที่เห็นเลย เลยเล่าให้แม่ฟัง แม่บอกว่าตรงหมดทุกอย่างเลย ตั้งแต่จุดที่วางของ และช่วงเวลา
เหตุการณ์ที่สอง ช่วงนั้นอดนอนติดกัน 3 วัน ตอนน้้นอยูาหอพัก เหมือนฝันอีกแล้ว ว่าเราเดินออกจากห้อง เดินสวนกับเพื่อน เห็นเพื่อนเดินอุ้มตะกร้าผ้า เหมือนไปซักผ้ามา แล้วมันจะมีห้องว่างที่ยังไม่มีคนมาเช่า เราเดินเข้าไปในห้องนั้น เห็นคนแก่ เด็ก ผู้ใหญ่ ยืนล้อมเรา แล้วยิ้มแย้มต้อนรับ ตัดภาพมาที่โลกความจริง ตอนนั้นแม่โทรมาร้อยกว่าสาย ถึงขั้นให้ รปภ มาเคาะประตูรัวๆ 3 รอบ แต่เราไม่รู้สึกตัวเลย พอตื่นมา ด้วยความสงสัย เลยทักไปถามเพื่อนคนนั้นว่า เมื่อเช้าไปซักผ้าไหม และเพื่อนก็ไปซักจริงๆ เราเลยเดินไปส่องห้องนั้น คือที่หอนี้ ถ้าห้องไหนว่าง เขาจะไม่ล็อคกุญแจ และประตูก็จะเป็นกลอน ไม่ใช่ลูกบิด เขาก็จะใช้ลวดคล้องเอาไว้ กันลมตี ซึ่งวันนั้น ลวดมันวางอยู่บนพื้น แล้วประตูมันเปิดแง้มอยู่
เราไม่รู้ว่ามันคืออะไร มันเหมาะเจาะมากๆ มันแปลก จริงๆอยากได้คำตอบในเชิงวิทยาศาสตร์มากกว่าว่า สมองมนุษย์มันไปได้ถึงขั้นไหน เป็นเพราะโลกวิวัฒนาการสัญชาตญาณให้มาเป็นแบบนี้รึเปล่า เหมือนหมาที่ดมกลิ่นได้ดี หรือแมวที่ได้ยินเสียงดี อะไรงี้หรือเปล่า
คนละสภาวะกันครับ อาจจะ Lucid dream
แบบทุกอย่างทุกสิ่งที่มนุษย์เราคิดสร้างหาวิธี อธิบายมันอะ ต่อจะใช้เวลามากสักแค่ไหนเรื่องเหล่านี้มันก็ยังคงให้เราหาคำตอบมันเรื่อยๆ
เผลอๆคำตอบก็เพิ่มมาเรื่อยๆเหมือนกัน เห็นมีเรื่องนึงที่แม่เขาคลอดลูกมาแล้วลูกไม่มีDNAเขาทั้งๆที่เขาคลอดเองหมอมีหมอก็อยู่ในตอนนั้น แต่ยังดีลูกเขามีDNAของสามี
ตือเราว่านะความรู้ในๆทุกเรื่องอะ
ตาเห็นใช่ว่ามี ไม่เห็นใช่ว่าไม่มี
อะไรๆก็เป็นไปได้ทั้งนั้นทุกอย่าง
สรุปคือมันหาความแน่นอนไม่ได้เลย ความรู้พวกนี้เอาแน่เอานอนไม่ได้ อันที่แน่นอนสุดๆคือเรื่องตายนี้แหละ ว่างๆลองหาอ่านพุทธชาดก ดู ปลงใจไปเยอะ
เคยเป็นแบบคุณเลยค่ะ แต่เหตุนี้การณ์นี้ตอนจะไปเรียนตอนเช้า เรานอนไม่ตื่นแต่เราเห็นร่างเราโดนคนปลุกเอาไม้ใหญ่ๆมาตีเพื่อให้ตื่น ซึ่งเราเองไม่รู้สึกเจ็บใดๆ เห็นเขาแบกร่างเราไปโรงพยาบาลเขาเล่าให้ฟังว่า 3วันถึงฟื้นขึ้นมา คืออยู่บนเตียงโรงพยาบาลเรียบร้อย อยู่เป็นเดือน เป็นเทอม เพราะเขาจะหาสาเหตุ หมอถามใหญ่เลยเพราะไม่เคยเจอเคสแบบนี้ ทุกวันนี้ยังหาคำตอบไม่ได้เลยค่ะ
ความตายเป็นจุดจบของชีวิต หรือ ชีวิตคือความฝันของคนตาย
ชอบหัวข้อตอนนี้มากเลย การถกเถียงสนุกทั้งในคลิปทั้งในเม้นเลยค่ะ ไล่อ่านแทบไม่หวาดไม่ไหว สำหรับเรา ชอบประเด็นแพทเทิร์นสิ่งที่เห็นมาก เพราะเราชอบตำนานโลกหลังความตายในหลายๆ ที่ทั่วโลก แล้วก็สังเกตได้เลยว่าการที่วาดให้วิญญาณคนตายลอยเหนือร่างคือความเชื่อสากลมาก จะตำนานเทพที่ไหน เวลาวาดคนตาย คือต้องให้เห็นตอนคนตายลอยเหนือร่างให้ได้ ดีไม่ดีเทวดาที่ต้องมีปีกก็เพื่อแทนภาวะเห็นภาพมุมสูงของคนตายก็ได้
ฌานก็ทำได้นะ เอาจิตข้างนอกตัว ไม่จำเป็นต้องตาย จิตสุดจะออกตอนตาย ก่อนจะไปเกิดใหม่ตามข้อมูลที่บันทึกลงสัญญาความจำได้หมายรู้ ที่ผมนั่งสมาธิมา อยู่มันก็เห็นแม้แต่ตัวเอง
เคยมีหลายครั้งคิดเรื่องความตาย/กลัวตายเหมือนกัน สนุกมากครับ EP นี้
ประสบการณ์จริงส่วนตัว ไปนอนกระท่อมในป่าตอนกลางคืน ได้ยินเสียงคนเดินไปเดินมา ตรงปลายเท้ากับเดินมาข้างที่นอนเหมือนมาดูว่าเราเป็นใคร มานอนที่นี่ทำไม พอเอาไฟฉายส่องดูก็ไม่มีใคร พอปิดไฟฉายนอนคลุมโปง มาอีกแล้วจนใกล้สว่างถึงเงียบ แสดงว่าโลกหลังความตายมีจริง
ต้องไปศึกษาพุทธศาสนาค่ะ ได้คำตอบกระบวนการของชีวิตและหลังความตาย
เพิ่งดู Light shop จบบบบ
ไม่ว่าที่ไหนก็เป็นโลกที่คนอยู่ ㅜㅜ
นึกถึง ep นี้เลยค่ะ
พึ่งเคยดูช่องนี้ครั้งแรก ชอบมากครับ
พระพุทธจ้าท่านบอก เรื่องจริงทั้งนั้นครับ
สนุกมากครับepนี้
26:33 ตอนเด็กๆผมป่วยบ่อย เวลานอนป่วยจะได้ยินเสียงไกลๆเหมือนอยู่ใกล้ๆ เป็นแบบนี้ประจำ แต่พอโตมาไม่เป็นแล้ว
ไม่เชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายและวิญญาณเหมือนกัน แต่เคยเห็นด้วยตาตัวเอง 2-3 ครั้ง ขนาดเห็นด้วยตาตัวเอง ยังแทบไม่เชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง
ถ้าจะยึดเอาแค่สิ่งที่มองเห็นได้จึงเรียกว่ามี แล้วสิ่งที่มองเห็นไม่ได้ จึงเรียกว่าไม่มี มันก็เป็นการตัดสินโลกนี้ง่ายเกินไปหน่อย
ถ้าอย่างความสุขใจ ทุกข์ใจ ที่เกิดขึ้นมาในใจของคนคนหนึ่ง แล้วผมมองไม่เห็นความสุข ความทุกข์ที่อยู่ข้างในใจเขา จะสรุปได้ยังไงว่ามันไม่มี
ถ้าจะพูดเรื่องความจริง ก็ไม่ควรเอาสิ่งที่ตนเองเชื่อหรือไม่เชื่อ มาพูดกัน เพราะสิ่งที่เชื่อ หรือไม่เชื่อ ในใจของคน บางครั้งมันก็ไม่ได้ตรงกับความเป็นจริง
เกิดใหม่มีเปล่าไม่รู้แต่ตายอะมีจริง หนทางพ้นแล้วแห่งความตายก็มีอยู่จริงคืออริยมรรคมีองค์8คือหนทางพ้นแล้วซึ่งความตายคือนิพพานนั่นเอง
เคยจมน้ำครับ ไม่รู้สึกอะไรเลย รู้ตัวอีกทีอยู่บนฝั่งแล้ว
ลองพิมพ์เข้าไปในชื่อ พิมพวดี เรื่องนี้classic มากครับยากที่จะหาคำตอบ
น้ำเยอะไปคับ ถ้าได้แต่เนื้อๆหน้าจะดีกว่านี้คับ
ฟังเรื่องแบบนี้แล้วอยากฟังเรื่องมิติทับซ้อนมากเลยค่ะว่ามันมีอยู่จริงมั้ย คือเคยมีประสบการณ์แต่หาคำตอบไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่แปลกดีแบบมันเหนือความคาดหมาย อยากรู้ว่าในเชิงวิทยาศาสตร์จะมีคำอธิบายอะไร ว่าสิ่งที่ไม่มีอยู่แต่เราเห็น ณ ช่วงหนึ่งมันคืออะไร หรือเกี่ยวกับร่างกายอะไรของเราที่ทำให้เห็นสิ่งนั้นแตกต่างไปจากเดิม
ดร.เชอร์รี่ น่ารักจังเลยครับ🥺
เชื่อเรื่องแสงขาวจริงๆ เพราะเคยขึ้นไปซ่อมรอยรั่วใต้หลังคาแล้วโดนไฟดูด มีสติรู้ว่าโดนไปดูด ในหัวคิดถึงแต่พ่อแม่ ไม่กี่วิก็เห็นแสงขาววาบ จากนั้นก็ร่วงทะลุฝ้าเพดานลงมา สิ่งแรกที่ทำคือเรียกพ่อ ตอนนั้นไม่ตกใจ กรือเสียใจ มีแต่ความดีใจที่รอดชีวิต
เคยจะตกจากที่สูง เป็นเสี้ยววินาทีที่ภาพต่างๆมันไหลเข้ามาในหัวเยอะมากๆที่ปกติจำไม่ได้เลย เรื่องตอนอนุบาล ภาพพ่อแม่ตอนยังหนุ่มสาว ก่อนจะมีคนมาดึงแขนช่วยไว้ครับ
เกี่ยวกับภาพความทรงจำย้อนกลับทั้งหมดก่อนตาย ผมเคยได้ยินมาว่า สมองเราจะพยายามค้นหาทุกวิธีในการเอาชีวิตรอดจากประสบการณ์ความทรงจำของเราในสมองทั้งหมด จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นภาพเหตุการณ์จริงที่เราจำไม่ได้ แต่ความจริงมันอยู่ในส่วนลึกของสมองเรานั้นเอง
23:05 ถ้ากลุ่มตัวอย่างไม่เจอโลกหลังความตายที่น่ากลัวเลย ก็อาจสรุปได้ว่า เวลาที่มีชีวิตอยู่จะประพฤติดีหรือชั่ว ประสบการณ์ใกล้ตายก็ไม่น่ากลัวเหมือนกัน
ฟังสนุกมากเลยครับ แต่ขอเสริมว่า ถ้า EP นี้พี่เชอร์รี่เปิดมาด้วยนิยามของความตายก่อนเป็นอันดับแรกมันจะดีขึ้นไปอีกครับ เพราะอะไร เพราะในทางการแพทย์ ความตายมันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากครับ อย่างเช่นในยุคนี้ Brain death เรานับว่าสมองตายคือตาย ซึ่งเป็นคอนเซปที่พึ่งใช้กันมาในปี 1980 เองครับ แต่นักวิชาการหลายท่านก็เถียงว่า เอ้า แล้วเคสที่สมองตายเป็นเจ้าชายนิทราแต่สามารถเลี้ยงร่างกายด้วยเครื่องมือต่างๆได้ล่ะ หายใจไม่ได้ก็ใส่เครื่องช่วยหายใจ หัวใจยังเต้นอยู่ ใส่ท่ออาหาร แล้วอยู่แบบนี้ 20 ปี ปรากฏว่าฟื้น ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นว่านิยามของความตายมันซับซ้อนขึ้นไปอีก ถ้าได้ดิสคัสเรื่องนี้ก่อนมันจะเปิดมุมมองไปได้อีกไกลเลยครับ เพราะหลายเคสที่ Near death experiences มันเป็นเคสในห้องผ่าตัด ซึ่งเอาเข้าจริง มนุษย์เรายังไม่สามารถเข้าใจกลไกการสลบได้ 100% นะครับ เราหลับ แต่อย่าลืมว่าสมองไม่ได้หลับ หูก็ยังได้ยิน ผิวหนังยังรู้สึก sensation ทุกอย่างปกติ แค่ส่วนที่ควรจะรับรูปและจดจำมันถูกปิดไว้เท่านั้นเอง เพราะงั้นการจะจำเรื่องราวในห้องผ่าตัดได้เป็นเรื่องค่อนข้างคอมมอนครับ จริงๆแล้วพอพูดเรื่องยาสลบที่เราไม่เข้าใจกลไกมัน 100% อยากจะบอกว่ายังมีอีกหลายอย่างมากครับที่เราไม่เข้าใจ ยกตัวอย่างง่ายๆอย่างยา Paracetamol ลดไข้บ้านๆของเรา เอาเข้าจริงคือเราก็ยังไม่เข้าใจกลไกในการลดไข้ของมันเลยนะครับ 😂 โอเค พอล่ะ EP นี้สนุกมากครับ รอตอนต่อไป
แบบนั้นสมองน่าจะยังไม่ตาย100%นะครับ เพราะถ้าสมองตาย100% ไม่น่าจะเลี้ยงเซล์ได้ยี่สิบปี
จิตสำนึกออกจากร่างของประสบการณ์ใกล้ตายเกิดจากสมองหลั่งสาร DMT ครับ เป็นสารหลอนประสาทที่ร่างกายเราสร้างขึ้น พวกประสบการณ์ได้เจอกับคนรัก ได้พบความสงบ ความสุข สามารถปล่อยวางได้ก็มาจากสาร DMT เป็นประสบการณ์ Psychedelic ที่คนทั่วไปสามารถทดลองกับตัวเองได้
แต่เราเคยฟังช่องนึงของคุณหมอ บอกว่ามันเป็นอาการทางสมอง แบบประมาณว่าคนไข้คิดไปเองหรือหลอนไปเองอ่าค่ะ
บางเรื่องก็ไม่ใช่การมโน เคยฟังเรื่อง คนไข้แพ้ยาสลบ เลยตายไปพักหนึ่ง ความฝันระหว่างตายนั้น คือ ลอยไปเห็นสภาพแวดล้อมข้าง ๆ ที่ห้องในโรงพยาบาลว่าเป็นอย่างไร มีบ่อน้ำ มีต้นไม้อะไร ๆ พอฟื้นขึ้นมาไปสำรวจดูปรากฏว่าตรงกับความฝันในระหว่างที่ตาย หัวใจหยุดเต้นไป
ยังมีเคสที่ช่องหมอเฉพาะทางบาทเดียว คุณหมอท่านเล่าให้ฟังว่า คนไข้โคม่ารู้ถึงคำพูดของหมอคุยกับพยาบาลและซอสมะเขือเทศที่เลอะอยู่ที่เนกไทด์ของคุณหมอ ทั้ง ๆ ที่คนไข้นอนโคม่าอยู่ พอฟื้นมาทักคุณหมอก็ตรงตามนั้น
จริงๆมันสามารถอธิบายได้ทั้งสองแบบ อย่าง คนที่มีลางสังหรณ์ ลางสังหรณ์นั้นย่อมเกิดขึ้นในสมอง เพราะ ฉะนั้น หมอจะบอกว่า มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสมอง ก็ถูกแน่นอน แต่อะไรที่ทำให่เกิดลางสังหรณ์ขึ้นในสมองล่ะ คำอธิบายทางการแพทยืหลายอย่าง ก็เป็นเพียง ข้อสันนิษฐานทางการแพทย์เหมือนกันนะครับ
อันนี้เล่าให้ฟัง เคยจมน้ำในสระใหญ่ตอนอนุบาลเพราะโดนเพื่อนผลัก หมดสติ วิญญาณออกจากร่าง ตอนแรกจะเห็นแสงขาวแวบนึง หลังจากนั้น มายืนมองเห็นตัวเองโดยลากเข้าฝั่ง มองเห็นมาเซอร์ที่มาช่วย มองเห็นมาเซอร์อีกคนที่มา CPR จนวาร์ปตื่นขึ้นมา ทุกคนทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่แจ้งผู้ปกครอง จนเพื่อนเอาไปเล่าให้พ่อที่ทำงาน บ.เดียวกันฟัง พ่อถึงรู้เรื่อง
บางคนที่ทำสมาธิเก่งๆ ก็ออกจากร่างตัวเองได้แบบไม่ต้องใกล้ตาย ออกไปเที่ยวไกลๆ ได้
สมาธิระดับนั้นจะไม่หายใจแล้ว บางท่านว่า มันไปหายใจทางผิวหนังแทน
กายเนื้อยังหายใจอยู่ครับ แต่จิตไม่หายใจเพราะไม่ได้เอาปอดไปด้วย
เรื่องเด่น ๆ เกี่ยวกับเรื่องลี้ลับ อันดับหนึ่งผมให้เรื่อง พิมพวดี อันดับสองผมให้เรื่อง ครูบัวไข คับ
2เรื่องนี้ดังจริงครับ เรื่องพิมพวดีผมเคยอ่านหนังสือตอนประถมชื่อว่ากฏแห่งกรรม
25:45 ฟีลแบบ surviving mode activate
ชีวิตหลังความตายมีแน่นอนครับ
ชีวิตหลังความตาย มีจริงนะ Retrospect ไง
คนที่รู้คือคนที่ตายแล้วเท่านั้น
มีสิ ไม่มีก็แปลกละ ไม่มีก็คุ้มดิ จะทำไรก็ได้ ไม่มีกรรมไล่ตาม
ทำ อียิปต์ มัมมี่ ไง
ผมจำไม่ได้ครับ
ผมกลับคิดถ้าเชื่อว่าชีวิตหลังความตายมีจริงจะมีประโยชน์อะไร
ก็น่าคิดงั้น ความตายก็ไม่มีจริงน่ะสิ
เพียงแต่เหมือนแค่เราเปลี่ยนร่างไปเรื่อยๆ สิ่งอย่างรอบตัวสุดท้ายก็แค่ชั่วคราว เกิดดับ เกิดดับ วนๆไป
ถ้าชีวิตหลังความตายมีจริง คุณคิดว่า ผลกรรมบาปบุญจะมีจริงหรือไม่ เหมือนเรียนหนังสือ ถ้าเรารู้ว่าเรียนอล้วจะมีตัดเกรด มีเลื่อนชั้น กับเรียนไปเฉยๆไม่ได้อะไร เราจะตั้งใจเรียนแตกต่างกันหรือไม่
ผมอยากให้มีชีวิตหลังความตายจริงๆ แต่ตอนนี้ สามสิบกว่าแล้วก็ยังไม่เห็นผี หรือการมีอยู่ของชีวิตหลังความตาย คือการมีตัวตนในที่อื่นที่ไม่ใช่บนโลกนี้
ไม่เคยเห็นตอนลืมตา เคยแต่ตอนนั่งสมาธิบางครั้ง และเคยไปทิ้งขยะบนจอมปลวก อยู่สถานปฏิบัติธรรม แค่เศษอาหารกะจะให้มดแมงกินไป แต่กลางคืนนอนพอหลับตา เงาดำๆมาอยู่ข้างๆเลย เห็นตอนหลับตา เราก็สวดคาถาสั้นๆที่เราจะสวดป้องกันตัวเองตลอดเมื่ออาจมีอันตราย เงานั้นก็หายไป
ชีวิตหลังความตายมีแน่นอน
@@sieyanigth9682 บางคนอินทรีย์ยังอ่อน สติน้อย สมาธิน้อย ฟุ้งซ่านเยอะจะให้เห็นผี เห็นอะไรแบบนั้นยังยากเกินไป ลองพิสูจน์อย่างอื่นดูก่อน เช่นการรู้วาระจิตของนักปฏิบัติที่มีอินทรีย์แก่กล้า ผมเคยเจอครั้งนึงที่วัดสวนป่าไผ่ล้อม อ.ไทรโยค กาญจนบุรี เมื่อเกือบ 10 ปีมาแล้ว เป็นเจ้าอาวาส ไม่แน่ใจว่าทุกวันนี้ท่านยังอยู่มั้ย เชื่อว่าทั่วประเทศมีคนที่มีความสามารถนี้อยู่ไม่น้อยเลย เราคิดไรอยู่ท่านรู้หมด จะไปคุยกับท่านแค่คิดในใจก็พอ ไม่ต้องพูดออกมาก็ได้
นอกจากนี้ก็มี หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช วัดสวนสันติธรรม จ.ชลบุรี และยังมีลูกศิษย์ของท่านที่เก่งๆ ทั้งพระและฆราวาสอีกหลายคน ที่มีความสามารถนี้ คุณลองพิสูจน์เรื่องนี้จะยังง่ายกว่า เพราะไม่จำเป็นต้องอาศัยสติ สมาธิ อะไรเลยก็ได้ แค่หาคนที่มีความสามารถนี้ให้เจอ แล้วพาตัวเองเข้าไปสัมผัสรับรู้เอา ผมเจอมาแล้ว และยอมรับโดยดุษฎีว่า มีจริงๆ
เราสามารถไปเกิเใหม่ที่แกแลคซี่แอนโดนิมิด้าได้ไหม ถ้าบุญเราตรงกับคนที่นั่น😂
เรื่องเห็นแสงสว่างกลมๆเนี่ย เคยอ่านว่าเค้าให้เหตุผลว่าเป็นแสงไฟในห้องผ่าตัด
ดีเอ็มทีหลั่ง😅
และพวกเขาพำนักอยู่ในถ้ำของพวกเขาสามร้อยปี และเพิ่มอีกเก้าปี
18 : 25
ผมยังไม่ตาย และไม่เคยเฉียดตาย แต่ผมเห็นตัวเองในมุม Top eyeview อย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งแรกตอนขับรถเร็วๆ ครั้งสองตอนเล่นเกมส์ และ ทุกอย่าง เคลื่อนไหวช้ามากๆจนแทบหยุดนิ่ง
เคยได้ยินนักแข่งรถคนนึง เล่าเหมือนกันว่า
เขาจดจ่อ ในกิจกรรมนั้นๆมากๆ จนสมาธิเกิดนิ่ง ถึงระดับญาณโดยบังเอิญ แล้วก็หลุดออกมาเห็นตัวเอง ขับรถอยู่ในสนามแข่ง
มีจริงตามพระพุทธเจ้าบอกครับ
คุณหมอจะปลอบคนไข้แล้วบอกว่าจิงก็ได้นะ แต่ส่วนตัวถ้าเจอหมอพูดงี้เราคงไม่โอเค ตายคือจบ กลายเป็นดิน เป้ฯก้อนโปรตีน นั่นคือธรรมชาติ ..แต่คือมันมีจุดให้แย้งเพียบ ไม่อยากให้คนเข้าใจผิดๆ เอาจริงมันมีการแย้งข้อมูลพวกนี้ทางวิทยาศาสตร์เพียบเลยนะ เราเคยฟังจาก witcast เค้าเอางานวิจัย ข้อโต้แย้งเรื่องพวกนี้ มีทุกข้อเลยค่ะ คล้ายที่พี่ทันเล่าตอนท้าย เสียดายวิทแคนลบคลิปพวกนั้นเพราะมีป๋องแป๋งที่มีประเด็น sh อยู่ในรายการด้วย เค้าเลยเอาคลิปออก แต่จะบอกว่า มันคือการเห็นผี คิดว่าตัวเองเห็นโลกหลังความตาย โดยสมองอะ มันไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งถ้าจะอ้างว่าเกิดขึ้นจริงมีจริง ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้อะ ว่ามันไม่ได้มาจากการทำงานของสมองที่ทำให้เห็นภาพพวกนั้น อย่างน้อยที่สุด ตอนเห็นภาพพวกนั้น ต้องมีการวัดคลื่นสมองอะ ว่าสมองส่วนไหนกำลังทำงานอยู่ เพื่อบอกได้บางส่วนว่ามันมาจากอะไร พูดง่ายๆคือทุกเรื่องที่หมอคนนี้ยกตัวอย่างขึ้นมา มันมีข้อที่โต้แย้งหักล้างทางวิทยาศาสตร์ได้หมดเลย ถ้าใครสนใจฟัง ลองเสิร์ชกูเกิลว่า witcast Spaghetti Monster ดูค่ะ เป็นตอนเดียวที่เหลืออยู่ อธิบายพวกเรื่องการเห็นผีในทางวิทยาศาสตร์ว่าทำไมมันไม่น่าเชื่อถือ แล้วก็มีใน TH-cam เป็น witcut สั้นตอนที่ 28 พูดเรื่อง god spot น่าจะเกี่ยวกับพวกเรื่องที่รุ้สึกตัวลอยอะ / ตอนที่ 11 พูดเรื่องลมหลับก็มีส่วนทำให้เห็นผีทางสมอง ..พวกนี้คือพอให้เห็นไอเดีย เพราะตอนเต็มๆ ที่มีพูดเรื่องพวกนี้มันลบไปแล้วอย่างที่บอกไป เสียดายมาก
ทุกอย่างมันต้องมีจิตที่รับรู้ครับ การไปโลกหลังความตายก็ไปด้วยจิต ไม่ใช่ไปทั้งศพ ลองนึกถึง การดูยูทูป คนในคลิปไม่ได้มาให้เราเห็นจริงๆ แต่มันเป็นการส่งข้อมูลมาทางคลื่น แล้วโทรศัพทธ์แปลวข้อมูลนั้นเป็นภาพที่หน้าจอ แสงกระทบหน้าจอมาเข้าตาเรา สมองแปลงข้อมูลจากแสงที่กระทบตา ถ้าเราไม่มีสมอง มันจะไม่มีอะไรเลย เพราะฉะนั้น การบอกว่ามันเป็นแค่สิ่งที่เกิดขึ้นในสมองแต่ไม่เคยมีอยู่จริงจะถือว่าถูกต้องไหมล่ะครับ ถ้าคุณได้มีโอกาสพบคนที่มีญาณ คุณจะเลิกสงสัยเรื่องนี้ครับ เพราะการรับรู้ด้วยจิตนั้นมีอยู่จริง
เหมือน จะดูหนัง สมัยก่อนต้องมีม้วนมีแผ่น แต่ทุกวันนี้ดูจากเนต สมองคนก็เหมือนกัน มันสามารถรับรู้ทางเนตได้ในคนที่ฝึกจนเกิดญาณ
มีใครทำวิจัยเรื่อง MBTI มั้ยคะ ถ้ามีโอกาสซีซั่นหน้าา อยากลองฟังค่ะ😊😊
ถ้า ชีวิตหลังความตาย มีจริง คนยุคหินเก่า ที่ตายไป วิญญานเขา จะยังอยู่ไหม ถ้าวิญญานเขายังอยู่ สภาพวิญญานเขา จะปรับตัวเข้ากับ ยุคคอมพิวเตอร์สมัยนี้ได้ไหม เขาจะใช้มือถือเป็นไหม
ไม่น่าจะอยู่นะ เพราะเมื่อก่อนชุดความคิดเขาไม่น่าคิดเรื่องแบบนี้เอาเข้าจริงคนยุคนั้นเขาคิดอะไรง่ายๆไม่ได้คิดในแบบเยอะแยะแบบในปัจจุบัน สมมุติว่าเพื่อนเขาตาย เขาก็แค่คิดว่าเพื่อนเขาแค่หลับแบบไม่ตื่นสักพักร่างก็จะเริ่มมีแมลงหนอนส่งกลิ่นอะไรพวกนี้มาจึงค่อยนำไปทิ้ง พอหลังๆเริ่มมีชุดความคิดความเชื่อเขาก็เลยเริ่มคิดเรื่อง การฝั่งศพพวกพิธีอะไรพวกนี้ เขาน่าจะเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ง่ายอย่างการเกิดและการตาย เมื่อเกิดจึงฉลองเมื่อตายจึงอำลา
มีทฤษฎีแบบว่าพอตายปุ๊ปไปเกิดที่ต่างโลกแฟนตาซี โลกแห่งดาบและเวทมนตร์มั้ยครับ 😂😂 เบียวจัดๆ
ผมเคยเป็นลมหัวฟาดพื้นไป ยังจำภาพสีขาวได้ดี แต่จะเห็นผู้คนในนั้นด้วย คนใกล้ตัว ไม่รู้ว่าเป็นอาการอะไร 😂
@@Sandmanmanga เค้าพูดภาษาอังกฤษเหรอคะ มันจับคำไม่ออก
@@pememamyไม่ใช่ครับ เขาพูดเร็วเกินไปครับ และปากอาจจะตามความคิดที่จะพูดไม่ทันคำมันเลยรัวไปไม่ชัดเจนครับ แต่โดยรวมพี่ธัญพยายามอธิบายการทำงานของสมองให้เราคิดว่าสมองกำลังหลอกตัวเราอยู่ครับ ดร.ผู้หญิงเลยชมพี่ธัญว่าวันนี้ท๊อปฟอร์มเพราะพี่ธัญอธิบายเรื่องการทำงานของสมองมาหักล้างวิจัยที่ว่าโลกหลังความตายมีจริง
***ในตอนนั้นพี่ธัญอาจจะพูดว่า “สมองมันหลอกเราได้ว่าจะให้เราเห็นอะไร ถ้าจะตายสมองก็จะบอกเราว่า นี่ไงมึงจงเห็นสิ่งเหล่านี้ เพราะกูใส่ให้มึงมองไง” ***
หลักจากนั้นแปปนึง ดร.หญิงก็ อ๋อออ ธัญวัฒน์ท๊อปฟอร์มนะเนี่ย
ทำไมต้องตั้งคำถาม. ทำไมยังสงสัย. คนที่ตายแล้วเกิด จำความได้แล้วมาเล่า คนที่ตายแล้วฟื้นแล้วมาเล่าให้ฟัง. มีจำนวนไม่น้อย. และมีทั่วโลก. ถ้าบอกว่า พวกเขารวมหัวกันโกหกคนทั้งโลก หรือว่าเป็นอุปาทานหมู่. ก็ไม่น่าใช่. ชีวิตหลังความตาย มีจริงครับ
อยากให้มีจริงๆจังเลยค่ะ 🥲
ตอนหลังธรรยวัช พูดว่าอะไร ฟัง 3 รอบยังไม่รู้เรื่องเลย ที่ผุ้หญิงบอกท๊อปฟอร์ม
เขาพูดเกี่ยวกับการทำงานสมอง ก่อนตาย สมองเราจะปลดลิมิตเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด ในเวลานั้นแหละที่ผู้ตายหรือกำลังจะตายโดนสมองหลอกจากเรื่องราวของความทรงจำและสิ่งที่รับรู้ได้ในช่วงเวลานั้นมาตีความให้เป็นภาพ ขอเสริมปัจจุบันมนุษย์เราสมองทำงานอยู่100%แต่การดิ้นรนของสมองก่อนตายนั้นอาจจะทรงพลังกว่า การที่เวลานั้นสมองเราปลดลิมิตเพิ่มขึ้นมาทำให้เราเหมือนยอดมนุษย์ในช่วงเวลาสั้นๆ การรับรู้ของเราจะละเอียดมาก บวกกับความรู้ความเข้าใจเดิมของเราทำให้สมองอาจตีความออกมาเป็นภาพให้เราเห็นและเราก็เข้าใจไปเองว่าวิญญาณเราลอยออกมาและเห็นภาพทั้งหมดในมุมสูง ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่ เราแค่โดนสมองหลอก ทำนองนั้นครับ
นาที ที่ 27.15-27.20 ได้ค่ะ ฟังไม่ออกจริงๆ
“(สมองบอกว่า…) นี่ไงมึงจงเห็นสีเหล่าเนี้ย เพราะกูสั่งให้มึงมองไง”
@@SalmonPodcast ขอบคุณมากๆค่ะ
แต่เนื้อหาดีมากๆค่ะ
ตายคือไม่มีชีวิต
@@maddog8030 ถ้ายังไม่ตายคือมีชีวิต
แต่ว่าชีวิต ที่ว่ามี มันอยู่ตรงไหน? แล้วหน้าตามันเป็นยังไง? เอาชีวิตมาให้ดูหน่อย
อยากรู้ว่ามึงานวิจัยเรื่องนี้ไหม “แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่แข่งบุญวาสนา แข่งไม่ได้”? 😅
ต่อให้สมองมันทำงานดีกว่าเดิม มันก็ไม่ได้อธิบายเรื่อง top eye view อยู่ดี คุณหมอเขาทำ 5,000 เคส คุณถามเขาว่าจะ verify ได้ยังไง แต่พอเพื่อนคุณให้ความเห็น คุณเชื่อเลย ... งง
หมอคนนี้โคตรพุธท หน้าเอาพี่โจ้มาด้วยนนะ555😂😂😂 ถ้าพุทธจะบอกว่าจิตสุดท้ายก่อนต้าย
มรณาสันนวิถี ควรรู้ไว้ไม่เสียหาย อย่างไงทุกคนก็ต้องตาย ก็ควรต้องเตรียมตัวไว้ก่อน
คิดง่ายๆ ว่าคนบนโลกนี้ เคยเจอผี กี่คน แล้วมาเล่าประสบการตัวเอง ให้คนอื่นๆฟัง จากประชากรโลก เอาแค่ประเทศไทย 70 ล้าน คิดง่ายๆ 10 % เคยเจอผี มันคือคน 7 ล้านคน แล้วคิดว่า 7ล้านคนนี้ พร้อมใจกันแต่งเรื่อง...ผี ! เหรอ
ทำไมตอนนี้สั้นนนจังงง
หมอสรุปดีมากอ่ะ คาดไม่ถึงเลย
ถ้ามีชาตินี้ชาติเดียว ชาติก่อนไม่มี ทำไม ฝาแฝดที่มีเซลล์เหมือนกันแยกมาจากไข่ใบเดียวกัน ถึงมีนิสัยไม่เหมือนกัน แม้แต่แฝดสยามที่ตัวติดกัน เติบโตมาในสภาพแวดล้อมอย่างเดียวกัน พ่อแม่ก็รักเหมือนกันซื้อของให้ก็ซื้อให้อย่างเดียวกัน นิสัยถึงไม่เหมือนกัน ถ้าไม่ใช่เพราะมีอุปนิสัยที่สะสมมาจากชาติปางก่อนหลาย ๆ ชาติ เซลล์ฝาแฝด DNA อะไร ๆ ที่เป็นกายเนื้อ ก็เหมือนกัน ถูกเลี้ยงดูมาจากสภาพแวดล้อมเหมือนกัน ทำไมนิสัยไม่เหมือนกัน แฝดบางคู่นิสัยต่างกันอย่างเห็นได้ชัด คนหนึ่งเรียบร้อย อีกคนพูดมาก ซุกซน เซลล์เดียวกัน เลี้ยงดูเหมือน ๆ กัน น่าจะมีนิสัยคล้าย ๆ สิ นี่ทำไมนิสัยคนละขั้วเลย
น่าจะซัก 1 ชม. 555
เพิ่งจะถึงชีวิตหลังความตายเองเหรอ? เขาไปถึงกลับชาติมาเกิดใหม่ แล้วจำชาติก่อนได้ จนมีคนไปทำการพิสูจน์ไปตั้งหลายเคสแล้ว
ขอที่มาหน่อยครับ
@@Sandmanmanga ศ.นพ.เอียน สตีเวนสัน กับการศึกษาเรื่อง "ระลึกชาติ!"
รายละเอียดคร่าวๆ ก็คือ นายแพทย์คนนี้ เขาทำการวิจัยเด็กก่อนวัยประถมเกี่ยวกับความทรงจำในอดีตชาติ มีข้อมูล และ การบันทึกจริง สัมภาษณ์จริงๆ โดยมีผลงานวิจัยมากกว่า 2000 ตัวอย่างและตีพิมพ์ผลงานในวารสารมากมายกว่า 200 ฉบับ
@@Sandmanmanga เอียน พรีทีแมน สตีเวนสัน (อังกฤษ: Ian Pretyman Stevenson, 31 ตุลาคม 1918 - 8 กุมภาพันธ์ 2007) เป็นจิตแพทย์ชาวอเมริกันผู้เกิดในแคนาดา เขาทำงานให้กับมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียสาขาแพทยศาสตร์เป็นเวลา 50 ปี เป็นหัวหน้าแผนกจิตเวชระหว่างปี 1957-1967 ได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์จิตเวชคาร์ลสันระหว่างปี 1967-2001 และเป็นศาสตราจารย์จิตเวชด้านวิจัยตั้งแต่ปี 2002 จนสิ้นอายุขัย
อิสลามได้บอกไว้หมดแล้ว ในคัมภีร์อัลกุรอ่าน แต่ยังไงก็เถอะ ผู้ปฎิเสธ ก็คือผู้ปฎิเสธ😊
ถ้าคนที่ไม่มีศาสนา ก็ไม่มีนรก กับ สวรรค์ สินะ
เคยโดนไฟช๊อตตอนเด็กแล้วภาพตอนพ่อกลับมาจากกทม.โผกอดเราเข้ามาเป็นฉาก
ที่บอกว่าไม่น่ากลัวเพราะเขากลับมาบอกคุณหมอไงครับ แล้วพวกที่กลับมาบอกไม่ได้ล่ะ คุณหมอรู้เหรอว่าเขาไปที่ไหนต่อ??? จิตเกิดและดับนับล้านๆครั้งต่อวินาที แต่เมื่อจิตสุดท้ายเกิดแต่จิตดวงต่อไปไม่มีแล้วจิตดวงนั้นจะไม่ดับ อ้าวแล้วทำไงล่ะทีนี้ จิตมันคือพลังงานซึ่งมีนดึงดูดกับพลังงานที่เหมือนกัน ก็เลยถูกดึงดูดไปหากลุ่มของพลังงานนั้น ที่เราสมมุติเรียกว่า นรก สวรรค์ อย่าลืมนะครับว่าเราอยู่ในจักรวาลที่เต็มไปด้วยแรงโน้มถ่วง ซึ่งม้นดึงดูดกันละกัน ถ้าไม่มีแรงนี้ก็ไม่มีจักรวาล เราทุกคนอยู่ภายใต้กฎเดียวกัน
ถ้ามีจริง วิญญาณคงล้นโลก 55
ไม่รู้ว่าเกี่ยวโยงกับศาสนาด้วยรึเปล่าตอนคุณหมอทดลอง
🤍
ผมเชื่อว่าวิญญาณมีคุณค่ามากกว่าแค่ส่วนหนึ่งของร่างกาย
โลกนี้ไม่มืคัยไหญ่เท่ากับพระพุธธะเจ้าคำสอนพระพุธธะเจ้าจะเลีนสุดรู้จรืงๆๆสุดๆๆตายไปแล้วมันขื่นกับจิตสุดท้ายคิดดีไปดีคิดไม่ดีลงอบายนรกเปตสัสเดละสารนั้นเองเป็นตนวินญานก็การคิดการปุงแต่งความรับรู้ด้วยจิตไจล่างกายนั้นเองละครับ
โลกหลังความตายไปแล้วนรกสวรรค์บาปบุญมือยู่จรืงทำดีได้ดีทำชั่วๆนรกจรืงๆนรก
งานวินักวิยาสาศส่วนมากๆๆเลยจะคิดว่านรกสวรรค์บาปบุญไม่มือยู่จรืงโลกนี้ไม่มืคัยรู้มากเท่าพระพุธธะเจ้าเลยนะครับนรกสวรรค์บาปบุญมืจรืงนะครับโลกหลังความตายมันขื่นกับเราคิดดีทำดีไม่ทำบาปกรรมตอนเป็นคนเป็นมนุษย์นะครับเชื่อเถาระนะ
ในอภิธรรมปิฏกแสดงเรื่องนี้ไว้ละเอียด