การใส่ รากฟันเทียม เพื่อทดแทนฟันที่หายไป โดยอาจารย์ทันตแพทย์

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 1 ต.ค. 2024
  • รายการ smart guide พาคุณผู้ชมมาอยู่ที่ศูนย์ทันตกรรม Bangkok International Dental Center รัชดาภิเษก โดยวันนี้เรามีผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของการใส่ฟันและทันตกรรม รากเทียม มาแนะนำคุณผู้ชมครับ ผศ.รท.ทพ. ปรีดา พึ่งพาพงศ์ คุณหมอเป็นคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญ ในเรื่องของการใส่ฟันและทันตกรรม รากเทียมเป็นอย่างมากครับ เพราะว่าคุณหมอ เคยเป็นอาจารย์ประจำอยู่ที่มหาวิทยาลัย North Carolina at Chapel
    Hill ประเทศสหรัฐอเมริกา
    การทำทันตกรรมรากเทียม ก็คือการใส่ฟัน ทดแทนฟันที่หายไป ฟันที่หายไป ไม่ว่าจะผุ แตก หัก ทำให้ผู้ป่วยจะ
    ต้องสูญเสียฟันซี่นั้นไป การทำรากเทียม ก็เป็นวิธีการกรรมวิธีที่จะใส่ฟันเข้าไป โดยที่ใช้แท่งไทเทเนียม ใส่เข้า
    ไปในกระดูกและก็ทำครอบฟันขึ้นมา โดยไม่ต้องไปยุ่งกับซี่ข้างๆ เหมือนเป็นการใส่ฟันปลอม แต่ว่าเป็นฟัน ปลอมแบบถาวร ไม่มีการถอดเข้าถอดออกนั้นเอง คนไข้ที่มาทำรากฟันเทียมส่วนใหญ่คือคนที่สูญเสียฟันออก
    ไปเลย อาจจะหมายถึงการถอน ฟันผุแล้วถอนออกไป หรือการเกิดอุบัติเหตแล้วมีการสูญเสียฟัน การรักษาของเราก็จะใส่ฟันปลอม หรือเขาเรียกกันว่าใส่รากฟัน แล้วก็ใส่ฟันครอบลงไปแบบถาวร เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถใช้เคี้ยว ใช้พูดและก็ยิ้มเพื่อความสวยงาม มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ในส่วนของกระบวนการการใส่รากฟันก็ท่านจะต้องมาตรวจกับทันตแพทย์ก่อน โดยจะตรวจทางช่องปาก และก็ถ่ายภาพทางรังสี เพื่อที่จะตรวจว่าจำนวนฟันหายไปกี่ซี่ ฟันที่เหลือยังอยู่มีเท่าไหร่ มีช่องว่างพอไหม มีการเอกซเรย์ก่อน หลังจากนั้นเราก็จะส่งไปทำ CT Scan เป็นการเอกซเรย์ 3มิติ เพื่อที่จะวัดดูว่า มีเส้นประสาทอยู่ไหม มีไซนัสอยู่ไหม ทำฝังรากเทียมได้หรือป่าว เพราะงั้นก็ลองไปผ่านการ CT Scan เพื่อเห็นถึงรายละเอียดเจาะลึกมากขึ้นมีความถูกต้องแม่นยำ เราจะได้เลือกขนาดความยาว ขนาดของรากเทียมที่ถูกต้องเหมาะกับซี่ฟันนั้นๆ
    และวัสดุที่ใช้ทำรากเทียมทำจากไทเทเนียม ซึ่งคุณสมบัติสำคัญของไทเทเนียมคือเข้ากับเนื้อเยื่อของทางช่องปากได้ ทางชีวภาพ เพราะฉนั้น การที่ร่างกายจะปฏิเสธหรือมีอาการแพ้ แทบจะไม่มี ณ ปัจจุบันนี้ไทเทเนียมเป็นวัสดุที่ดีที่สุด และมีการวิจัยยาวนานที่สุด ที่ให้ผลการรักษาที่แน่นอน ร่างกายก็จะไม่มีการปฏิเสธ ไม่มีการเกิดอาการแพ้ หรือว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในปากเราได้
    การดูแลรักษารากเทียม ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ โดยจะทำการแปรงฟัน ใช้ไหมคัดฟัน ได้ตามปกติ แล้วก็ตรวจพกับทันตแพทย์ทุก 6 เดือนนะครับ แตกต่างจากฟันปลอมแบบสมัยก่อนไหม ข้อดีของฟันปลอมถอดได้สมัยก่อน ซึ่งทำจากพลาสติก ทั้งชิ้นนี้เป็นพลาสติกแล้วก็มีตะขอลวด อันข้อดีก็คือการทำได้เร็ว 2-3วันก็เสร็จแล้ว และไม่เจ็บด้วย ข้อเสียก็คือว่าใช้เคี้ยวไม่ค่อยได้เพราะว่าเวลาเคี้ยวจะเจ็บ เพราะว่าฟันปลอมจะกดที่บริเวณเหงือก แล้วเวลาพูดเวลาคุยหรือหัวเราะ อาจจะหลุดออกมาได้คือส่วนใหญ่แล้วก็จะใส่เพื่อจะปิดช่องเฉยๆแต่ในแง่ของการเคี้ยวจริงๆเนี่ย ยังใช่ได้ไม่ดี เพราะฉนั้นฟันปลอมแบบโบราณอาจจะ ไม่เจ็บ ใส่ง่าย ทำง่าย แต่ว่าเวลาที่เราเคี้ยวหรือการใช้งานส่วนอื่นๆอาจจะไม่ดีเท่าการใส่รากเทียม
    นอกจากนั้นการทดแทนฟันที่หายไปยังมีอีกแบบคือสะพานฟันซึ่งทำบนฟันธรรมชาติที่เหลืออยู่ โดยใช้ฟันซี่ข้างๆ หัวท้ายกรอให้เป็นซี่เล็กลง แล้วก็ทำเป็นสะพานฟัน 3ซี่ติดกันสวมเข้าไปที่ 2ซี่ข้างๆข้อดีก็คือทำได้เร็ว
    แต่ข้อเสียก็คือเราต้องไปกรอเนื้อฟันข้างๆ เราสูญเสียตรงนั้นไป เราเสียดายมากๆ เพราะว่าการที่เราไปกรอเนี่ย ทำให้ความแข็งแรงของฟันเนี่ยลดน้อยลง ถ้าเกิดหัวหรือท้ายไม่แข็งแรงอาจจะมีโอกาสหักได้ ถ้าหัก จะต้องถอนเพิ่มแล้วก็จะต้องทำรากเทียมเพิ่มมากกว่า 1 ซี่เพราะฉนั้น ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือการทำรากเทียม
    สำหรับกลุ่มผู้ป่วย จะกลุ่มอายุเท่าไหร่ก็ได้ แต่ต้องอายุมากกว่า 20 ปี เพราะว่าในเด็กขากรรไกร กระดูกขากรรไกรยังเจริญไม่เต็มที่ยังมีการเจริญเติบโต ยังมีการเปลี่ยนรูปร่าง เปลี่ยนอะไร เพราะฉนั้นเราก็จะรอให้เจริญเต็มที่ก่อน ส่วนเพศได้ทั้งหมดครับ เพศชายเพศหญิงทำได้หมดส่วนในผู้สูงอายุ ถ้ามีสุขภาพแข็งแรงก็ทำได้
    ---
    Bangkok International Dental Center (BIDC)
    The Dental Professionals
    www.bangkokden...
    contact@bangkokdentalcenter.com
    Tel : +66 (2) 692 4433
    TH-cam Channel: bangkok dentist
    #BIDC #

ความคิดเห็น •