ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ถึงจะสอบเข้าม.กรมศิลปกร ไม่ได้ แต่ความสามารถของท่านอาจารย์ สันติ เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกได้เป็น ดร.สันติแล้ว ภูมิใจแทนคนไทยทั่วโลกเลยค่ะ
สาธุ!...รอชมรูปปั้นพระพุทธเจ้า 🙏
๑๐๔.รอยพระพุทธบาทคือสัญญลักษณ์แทนพระพุทธองค์ ความจริงคือพระสัจจธรรมคำสอนคือพระศาสดาองค์จริงครับ ขอให้ประสพผลสำเร็จครับ ขอให้กำลังใจครับ💖💖💖💖💖
พระเจ้าปเสนทิโกศล ในครั้งพุทธกาล พระองค์คือผู้ทรงให้ช่างแกะสลักพระพุทธรูปขึ้นเป็นครั้งแรก แกะสลักจากจากไม้แก่นจันทน์ครับ พระพุทธเจ้าคือบรรพบุรุษของคนไทยครับ คนเดียวกันครับ
บุญคุณพ่อกับแม่ต้องทดแทน
อาจารย์ สันติ สุดยอดครับ ขอให้ ทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ให้สำเร็จด้วยครับ
ผู้ใหญ่บ้านเราตอนเขาไม่ดังไม่เคยสนุนเด็กไทยพอต่างชาติสนุนอาจารย์ดังคนบ้านถึงเห็นค่านี่คือคนไทยพ่อมีค่าถึงเข้าหา
ต้องพิมพ์ว่า สนับสนุน
สิทธัตถะผมม้วนวนขวาทางเดียว เป็นลอนเหมือนรูปปั้นกรีก เมื่อท่านออกบวชท่านโกนหัวครับ
อาจารย์หล่อเท่เก่งเหมาะสมกับการเป็นตัวแทนคนไทยในสายตาของชาวโลก
จิตแจ่มใส ใจเบิกบาน คือพุทธะ
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา หลวงปู่มั่นท่านก็เห็นพระพุทธเจ้าแล้ว เดินตามสิ แต่ก็เข้าใจเจตนาท่านทั้งสองนะ และยินดีที่ท่านคิดท่านทำ ท่านคิดถูกทำถูก ที่พยายามจะหารูปนามมาให้เราท่านที่ศรัทธาและยังตัดรูปนามไม่ได้ไม่หมดได้รู้และนำสู่การปฏิบัติตามธรรมะของพระองค์เพื่อการหลุดพ้นต่อไป อย่าลืม ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตามที่ท่านกล่าวไว้อันเป็นจริงแล้ว
ชอบคำพูดอ.สันติที่ว่า...จงทำตัวเหมือนน้ำครึ่งแก้ว
เพื่อเปิดรับความรู้ใหม่ๆ ตลอดเวลาทัศนคติแบบนี้ถึงทำให้คนเก่ง ยิ่งเก่ง
แต่ผมเชื่อในศิลปะตามสกุลช่างนะครับ..ช่างชาติใดก็จะมีเอกลักษณ์ตามแบบอย่างของชาตินั้นเพื่อคงไว้ซึ่งแบบแผนของชนชาติของตนไว้..ไม่เชื่อลองสังเกตุ..แบบเส้นผมของรูปเดวิดกับรูปแบบเส้นพระเกศาของพระพุทธเจ้าในศิลปะคันฐราชดูสิครับ...แล้วในยุคสมัยนั้นรูปถ่ายก็ไม่มีเอกสารที่จะให้ค้นคว้าก็ไม่มี..ช่างในยุคนั้นจะปั้นหรือแกะสลักจากพระพุทธเจ้าจากข้อมูลอะไร...นอกจากนึกถึงเทพเจ้าของตน..มาผสมกับการนุ่งห่มแบบพระ(ซึ่งจริงๆแล้วการนุ่งห่มก็ยังมีความเป็นเทพเจ้าแบบกรีกโบราณ)..ยังมีอีกเรื่องที่อยากจะฝากไว้นะครับ..ความผสมปนเปนี้..ยังคงมีมาถึงในยุคปัจจุบันนี้สังเกตุได้จากพระพุทธรูปครับ มหานิกายในสยามสงฆ์ต้องครองผ้า3ผืนเป็นข้อบังคับพระพุทธองค์เป็นประมุขเวลาช่างปั้นก็จะปั้นตามศิลปะสกุลช่างของตน..ในสยามแต่เดิมก็ครบแหละครับ..สังเกตุได้ในทุกสกุลช่าง แต่จะมีแปลกๆออกมาในรูปแบบที่ไม่มีการครองผ้าซึ่งตรงนี้มันไปตรงกับพุทธในนิกายเชน..ของมหาวีระซึ่งอันนั้นเขาไม่นุ่งผ้าเลย ชาวพุทธเราก็เอามาผสมปนเปกันมานาน..จนแยกไม่ออกแล้วในทุกวันนี้..ผมเป็นอีกเสียงนึงครับที่ไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้าเป็นอินเดียรึเนปาลตามพวกฝรั่งบอก...แต่ไม่ใช่จะบอกว่าพระองค์เป็นคนไทยอะไรนะครับ...ผมเชื่อว่าพระองค์ทรงอยู่ในสุวรรณภูมิครับ ในสมัยนั้นน่าจะยังไม่มีการแบ่งแยกเป็นประเทศต่างๆอย่างในปัจจุบันจึงระบุไม่ได้ว่าเป็นประเทศอะไร..แล้วอีกอย่างคือ ในมุมของฝรั่งจะมองรวมไปหมดว่าเป็นชมพูทวีปคือรวมเอาสุวรรณภูมิรวมไปด้วยทั้งหมดหลายอย่างที่ถูกสร้างขึ้นมาในภายหลังเพื่อให้อินเดียเป็นมาตุภูมิแห่งพระพุทธศาสนาภายใต้การปกครองของอังกฤษซึ่งมีความต้องการจะแสดงแสนยานุภาพเหนือกว่าฝรั่งเศส
รินน้ำให้ตามลำดับใจ สุดยอดครับ
ให้ดูตามหนังสือหลวงพ่อฤาษีลิงดำนะครับ ท่านเห็นพระพุทธเจ้าหลายเสมอ ในคัมภีร์ก็บอกไว้ว่าท่านมีลักษณะมหาบุรุษ
sitthapromwas phornsaran ถูกอย่างที่ท่านว่าครับ คือพระพุทธเจ้ามีลักษณ์ความเป็นมหาบุรุษ จริงทำให้เกิดพระพุทธรูปปางต่างขึ้นมาบนโลกนี้ยังไงครับ...มหาบุรุษแบบความคิดของญี่ปุ่นเป็นแบบนี้ ของไทยเป็นอีกแบบหนึ่ง ของจีนหรือของชาติต่างที่นับถือพระพุทธศาสนาก็เป็นอีกแบบหนึ่ง ตามแต่แนวคิดของแต่ละประเทศ แต่ๆๆๆ...อ.สันติไม่ได้ต้องการแบบนั้น อ.สันติต้องการหาพระพักตร์พระพุทธเจ้าที่เป็นมนุษย์จริง มีเนื้อ มีหนัง มีอารามณ์ มีความรู้สึก ที่ใกล้เคียงกับความจริงให้มากที่สุด ซึ่งแน่นอนไม่ใช่การเดาสงเดช ไม่ใช่การคิดการจินตนาการขึ้นมา ไม่ใช่ปั้นตามความฝัน แต่จะปั้นตามความเป็นจริงที่มีหลักฐาน มีข้อมูลมาพิสุทธิได้จริง ซึ่งอดีตที่ผ่านมามีหลายๆประเทศที่พยายามทำเรื่องนี้ แต่ไม่สำเร็จ...ยังไงก็ช่วยกันเป็นกำลังใจให้อ.สันติและคุณเอริก้าด้วยนะครับ เราจะร่วมกันสร้างประวัติไปด้วยกันครับ
พระวิปัสนากรรมฐาน หรือ ผู้ที่นั่งสมาธิ เคยเห็นทั้งนั้น เปน. ดร.นะ แต่เหมือนจะคิดไม่ได้
ภาระกิจที่อจ.ตามหา อาจจะเห็นรึแฝงอะไรหลายๆอย่าง สิ่งที่ได้มาคือคำสอน การใช้ชีวิตของผู้คนแต่ล่ะศาสนา ความดีความชั่วของผู้คน
ขอบคุณทุกท่าน ที่ร่วมแชร์ และ เมนต์ครับ ติดตามเพจ ต่างก็ดี
สาธุ อ. สันติ
พระพุทธรูป สร้างขึ้น(ปั้นขึ้น)ในยุคของ"พญามิลินทร์"(พระเจ้าทราเมนเดอร์)ท่านเป็นโอรสของทหารเอกของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ มหาราช
ความเห็นส่วนตัว เข้าใจถึงความเจตนาดี แต่เจตนาดีพยายามจะให้พระพุทธเจ้าเป็นคนธรรมดาเพื่อจะให้เข้าถึง เป็นคนธรรมดาในด้านของความเป็นมนุษย์ ถูกส่วนหนึ่งแต่ไม่ทั้งหมด สมัยเมื่อ 2พันกว่าปีมาแล้ว จิตใจคนยังมีความบริสุทธิ์มากกว่าในปัจจุบัน ความอยากรู้ด้านปรัชญาศาสนา ความจริงของชีวิต จอตวิญาณ ธรรมชาติที่สมบูรณ์ ศาสนาฮินดูน่าจะเป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุด มีคนปฏิบัติทำสมาธิไม่กิน ไม่หายใจเอาหัวมุดดินได้เป็นเดือนๆ สมัยนี้ก็มีให้เห็นในประเทศอิน คำสอนพระพุทธเจ้า สัญลักษณ์คือกงล้อเกวียน ความหมายคือ ชีวิตจะวนเวียนและเป็นอยู่อย่างนี้ตลอดไป จิตก็เหมือนกันถ้าไม่มีการดับจิตที่เรียกว่านิพานก็จะต้องกลับมาเกิดใหม่วนเวียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถามว่าถ้าพระพุทธเจ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาจะรู้ได้ไหมว่าจิตต้องวนเวียนกลับมาเกิดใหม่ คำว่าตรัสรู้คือรู้ทุกอย่างไม่มีอะไรที่ไม่รู้ พระพุทธเจ้ามีคำถามมากมายก่อนตรัสรู้ พอท่านตรัสรู้ได้แล้ว ไม่มีอะไรที่ไม่รู้ และไม่เห็น ถามว่าคนธรรมดาทำได้ไหม พระสูตรบางพระสูตร ยังตอบไปถึงจักรวาน (ขอโทษถ้าสะกดผิด) กาแล็คซี่อื่นที่มีพระพุทธเจ้าองค์อื่นอยู่ด้วย มีคำพูดถึงมนุษย์ต่างดาวซึ่งเป็นศัพย์ที่เฉพาะในพระสูตรนั้น จริงๆ แล้ว พระพุทธเจ้ารู้เรื่องจักรวารและมนุษย์ต่างดาว แกปล็คซี่อื่นมาก่อนตั้งสองพันกว่าปีมาาแล้ว มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนฝึกจิตขั้นสูงที่สุด นิพานก็เช่นกันบอกว่าง่ายก็ง่ายบอกว่ายากก็ยาก ใครได้ฟังคิริมานนทสูตรจะเข้าใจ ฟังหลายๆ รอบแล้วจะหายสงสัย เรื่องที่เกิดขึ้นสมัยพระพุทธกาล ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องธรรมดา เหมือนเป็นเทวดาอย่างที่อ.เข้าใจ แต่ถ้าคนที่ฝึกจิตและเข้าใจ จะรู้ว่ามันเป็นไปได้และเป็นเรื่องธรรมดา ธรรมชาติ ที่ได้มาจากการฝึกจิตฝึกสมาธิ สรุป พระพุทธเจ้าเป็นคนธรรมดาถูกต้อง แต่สิ่งที่ท่านได้มาจากการตรัสรู้ทุกอย่าง คนสมัยนี้บอกมันเป็นนิยายแต่งขึ้น ซึ่งไม่ถูกสิ่งที่ไม่ได้รู้ไม่ได้เห็น ไม่ใช่ว่าจะไม่มี แต่ศาสนาพุทธถูกห้ามไว้ไม่ให้เอามาอวดกัน ทำสมาธิจิตถึงมาเองตามลำดับขั้นของจิต พอท่านตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าจิตท่านก็ไม่ได้มามุ่งที่ต้องปรงผม และลูกศิษย์ก็ไม่กล้าที่จะจับศรีษะอาจาย์ที่ถือว่าเป็นที่สูงสุด บารมีของพระองค์หลังจากตรัสรู้ผมท่านก็ขอดขึ้นไปเรื่อยๆ ก็มีเวลาปฏิบัติสมาธิเผยแพร่ศาสนา คือภาระกิจของพระองค์ ลูกศิษย์ที่ยังจิตไม่ถึงยังคงต้องปรงผมอยู่เพื่อเตือนตัวเองเสมอว่าไม่ให้ยึดติดกับผมและความสวยงาม ส่วนพระองค์ท่านไปขั้นที่ไม่ต้องมีอะไรต้องมาคอยต้องกังวลหรืออะไรที่ผูกหรือมัดแล้ว ไม่รู้อธิบายจะเข้าใจไหม คนที่บอกพระพุทธเจ้าไม่มีผมคือจริงในส่วนก่อนตรัสรู้ แต่หลังตรัสรู้ท่านก็ไม่ได้มาใส่ใจหรือยึดติดกับการปรงผม คนสมัยก่อนตัวใหญ่มาก ซึ่งวัดในธิเบศก็ได้มีการเก็บร่างคนที่ใหญ่มากไว้ในห้องที่เป็นความลับที่ไม่มีใครได้เห็น อ.โชคดีมากได้ไปเห็น คนสมัยก่อนสูงเหมือนยักษ์ มีอะไรหลายอย่างที่มันไม่ธรรมดาในยุคของเราแต่ยุคนั้นมันเป็นเรื่องธรรมดา จะเป็นยังไงก็แล้วแต่อย่าดึงความไม่ธรรมดาซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาในสมัยนั้น หรือเป็นเรื่องธรรมดาของจิตที่ถูกฝึกฝนไปจนถึงขั้นที่สามารถทำอะไรก็ได้ที่ดูแล้วมันเป็นไปได้เองธรรมดาของคนฝึกจิตขั้นสูง มันก็เป็นวิทยาศาสตร์อย่างหนึ่ง จะอย่างไรก็แล้วแต่ อย่าเอาความจริงที่พิเศษในสมัยนั้นพยายามดึงพระองค์ลงมาเป็นคนธรรมดาสมัยนี้ ความธรรมดามันต่างกัน อย่าให้ความจริงมันผิดเพี้ยน ไม่รู้จะอธิบายยังไงถึงจะเข้าใจ อยากเจอตัวอาจารย์จริงๆ น่าจะได้คุยกันยาว
สาธุขนลุกมาก
เห็นด้วยทุกประการ
รักทั้งสองคนครับทำเลยครับ
เป็นความคิดที่ดี แต่ปัญหาจะตามมา..ให้คนเถียงกันไม่จบ คิดง่าย ๆ ลองปั้นเขาทราย ไม่ให้เหมือนเขาค้อ...และปั้นเขาค้อไม่ให้เหมือนเขาทราย สิ จะพบคำตอบว่า ไม่มีวันที่จะเก็บรายละเอียดได้หมด ทั้งๆที่ตัวจริงยังอยู่...แล้วพุทธเจ้าล่ะ..คิดเอาเอง
พระพุทธเจ้าหนีจากความจริง ไป หาความจริง อัน หลุดพ้น แห่ง วีถีชีวิต หรือเปล่าค่ะ 🌎🙇♀️🌏🔕🙇♀️🔕🙇♀️♥️🙇♀️
รูปปั้น...เคารพที่แท้จริง คือ 1 ใน 300 เทวรูป... ในกะบะห์ที่นคร..เมกกะ ใน ศาสนาอิสลาม....ก่อนมีศาสดา...มูฮัมหมัด...โปรดใช้...จินตนาการ...นักการศึกษาศาสนาเปรียบเทียบ....ลองวิเคราะห์...มุมนี้ดูนะ..สาธุ.
พระพุทธท่านบรรลุแล้วกลายสภาพจากคนธรรมดาเป็นพระอรหันต์ สภาพรางกายก็เปลี่ยนตามด้วย มีรังสีออร่า6ชนิดปกคลุมกายอยู่ แล้วจะปั้นรูปพระพุทธเจ้าให้มีร่างกายเหมือนคนปกติได้อย่างไร นั่นก็เท่ากับว่าท่านไม่ใช่พระพุทธเจ้าท่านเป็นคนธรรมดาทั่วไปซึ่งมันก็ย้อนแย้งกันเอง ดังนั้นซ่างที่ปั้นเพื่อให้คนเคารพจึงใช้ลักษณะของนามธรรมมาแฝงให้เกิดเป็นรูปธรรมที่สัมผัสได้ในความเป็นพระพุทธเจ้าเมื่อกราบใหว้จะมีความรผุ้สึกว่าไม่ใช่ใหว้คนธรรมดาแต่เป็นการนอบน้อมต่อดวงจิตที่บริสุทธิ์ของพระองค์และน้อมนำธรรมะมาใช้ในการดำเนินชีวิต
เข้าใจความเป็นจริงได้เยี่ยมมาก...สำคัญที่..รูปกายและจิตบริสุทธ์ผ่านขั้นตอนการปฏิบัติมาอย่างไร..ขั้นตอน..การทำลายรูปหยาบเป็นกายละเอียด..จากละเอียดเป็น..กายบริสุทธ์..หรือเรียกว่า..กายประเสริฐ..มนุษย์ประเสริฐแล้วถูกเรียกขนานนามให้ว่า....พระพุทธเจ้า...
คำว่า..ปั้น...คือปั้นรูปที่ตัวเราเอง..เหตุใดรึ..ที่พระะุทธเจ้าตรัสสั่งให้ภิกษุทั้งหลายว่า..จงทำที่แห่งทุกข์เถิด..ที่สุดแห่งทุกข์คืออะไร..และทำไมทรงตรัสอย่างนั้น..ตรัสหลังจากภิกษุเหล่านั้นเข้าใจธรรมถูกต้องดีแล้ว..จึงให้ทำที่สุดแห่งทุกข์..ในขณะที่ปั้นตัวเราเอง..เวทนาแรงมาก..หนักมาก.เพราะระบบธรรมมันจะไล่ทำลายรูปหยาบไปจนถึงละเอียด..ในขณะที่ทำรอบจะมีกลิ่นเหม็นต่างๆออกมาจากกาย...ถึงรอบละเอียดจะมีกลื่นหอมออกมาหอม..นี่หอมมากๆ..หอมที่ไม่เคยได้กลิ่นที่ไหนมาก่อนในขณะนั้นจิตจะมีปิติเอิบอิ่มทั่วกาย...นี่เรียกว่าการปั้น...( ท่านผู้มีเมตตา..จงรักษาเนื้อตัวร่างกายให้ครบอาการ.32 นะครับเพราะเป็นสิ่งสำคัญมากๆในการปฏิบัติให้ถึงเป้าหมาย..ที่เรียกว่า..นิพพาน )
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นตถาคต
คนที่เห็นธรรม ผู้นั้นเห็นค่าของคน อ.สันติเก่งสุดๆๆๆๆ
ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา
คุณเอริก้าสวยมาก
ปี61แล้วรออยู่ครับ
แนะนำไปศึกษาพุทธวจน นะครับ วัดนาป่าพงครับ ลำลูกกา คลองสิบ อาการของมหาบุรุษ ที่พระพุทธเจ้าเพรียบพร้อม
พระไตรปิฏกมีแต่ที่วัดนาป่าพงเหรอ ?
การจะทำอะไรก็ตามถ้ากุศลเกิด อกุศลไม่เกิด ก็คงจะดีกว่าอยู่เฉย แม้จะไม่ตรงถูกตามความต้องการที่อยากให้ธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าท่านได้บอกสอนไว้ อย่างน้อยก็ทำให้คนกับมาสนใจ จนน่าจะมีคนคิดจะมาปฏิบัติจริงจัง จากการกระทำนี้บ้างไม่มากก็น้อย
สมเด็จพระบรมศาสดา พระอรหันตสัมมาพระ กัสสัมปัจเจักรพุทธเจ้า เป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระปฐมบรมธาตุพนมเอกาสัจจะ ภความหาศาตรัตนะเทวาธิราชศาตราปิยธิปปัตางไตรยโกนคมนกัสวะมหาโพธิสัตย์วรมาพระพุทธอริยะสันตติโคตรมุนีบุญตามีพระสมณศากยะบุญตราศรีวรวงค์านุวงค์ อรหัตตจอมเจ้าเกล้ามหาปัทมาวรธมทวารวดีศุโขทัยธรรมราชามหาจักรดิพรรดดิราช พระเสด็จ"พระศรีอารียเมตไตรย" คนไทยเกิดที่ไทยเป็น คนไทยเลือดแผ่นดิน ตรัสรู้เป็น อมตะธรรม เพราะรู้ว่า อินเดียเป๊นชื่อสมมุติเพื่อกันชาติอื่นเอาไปใช้ว่ามีสายเลือด เพราะศากยะหมายถึงร่างกาย ไม่มีใครไปอินเดียหรอก อินทร์ เดย์ แบบนี้คือ ผู้รู้ ว่าอักษรก็ภาษาไทยตรงๆ ไปทำตามอินเดียตอนไหน มีแต่ใช้ดูว่า นักบวชก็โม้คนคุยก็โม้ ที่ตรัสรู้ก็เพราะไม่โง้แบบภิกษุที่กราบไหว้บูชาแบบคนในอดีต เห็นพระภัทร สมเด็จสมธศรีศากยะปฏิธาปชาบดี มหาราชแห่ง กรุงรัตตนศรีศาสดารามสามไชยสุขอัฐถะมี ในโบสถ พระพุทธรูปคือ แม่ คือชื่อของแผ่นดืนฝน แผ่นดินแห่งคนไทยประเทศไทย
พุทธธรรมอยู่ในใจ จะหน้าแบบไหน ไม่สำคัญ คำสอนเท่านั้น ที่ไม่ เปลี่ยนแปลง ทันสมัยเสมอ (นี้ก็เป็นอีกหนึ่งสมัย ที่ผู้ศัทธา ตามหา ศาสดา เหมือนเมื่อ 2500 ปีที่แล้ว)
ถุยส์!......คำสอนอะไรที่ว่าทันสมัยอยู่เสมอ!......ตนนั้นแลเป็นที่พึ่งแห่งตนงั้นเหรอ อ้าวแล้วอย่างนี้มึงจะพึ่งพาการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งตัวแทนพวกมึงไปทำหน้าที่แทนมึงในสภาผู้แทนราษฎรดิ์หาเตี่ยมึงเหรอ?.......พระธรรมของพระพุทธเจ้ามันปรับรูปแบบหมดเลย ตั้งแต่พระธรรมวินัยพระภิกษุ อย่างการทำพิณทุ ผ้านี่ มึงรู้ไหมว่า ณ.ปัจจุบัน ธรรมวินัยอันนี้มันถูกนำมาปรับรูปแบบใช้กับอะไรบ้างในบ้านเมืองเราตอนนี้ แม่งแทบจะทุกๆอย่างตั้งสูติบัตร ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน คูมือทะเบียนรถ เอกสารสัญญาต่างๆนาๆ หลักฐานรายการบัญชีทรัพย์สินต่างๆนาๆ เหล่านี้จุดเริ่มต้นมาจากการบังคับให้พระภิกษุทำพิณทุผ้า อย่างมึงจะไปทำบัตรประชาชนใหม่ มึงต้องไปแสดงอาการสละบัตรประชาชนเก่า แล้วจึงขอทำบัตรประชาชนใหม่ ไม่ได้ต่างอะไรเลยกับการต่อบัตรประจำตัวประชาชน ธรรมของพระพุทธเจ้ามันทันสมัยจริงๆนั่นแหล่ะ แต่ถ้ามึงไม่เข้าใจตามมันไม่ทัน เหมือนตำรวจมันขอดูใบขับขี่พวกมึงก่อนจะแจ้งข้อหามึงนั่นแหล่ะ เพราะถ้ามึงไม่มีใบขับขี่ตามกฏหมาย(พระธรรมวินัย)ถือว่า มึงไม่รู้กฏหมายจึงทำผิดกฏหมาย เจตนารมณ์ของกฏหมายตั้งใจจะเอาผิดเฉพาะกับคนที่รู้กฏหมายแต่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฏหมายเท่านั้นเป็นสำคัญ ฉะนั้นการแสดงใบขับขี่จึงเป็นการแสดงว่ามึงเป็นผู้ที่รู้กฏหมายเพราะผ่านการทดสอบวัดความรู้มาแล้ว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาเอาผิดกับมึงได้เหมือนกันกับเวลาพระภิกษุปลงอาบัติทำไมต้องปลงอาบัติในวันพระ วันที่สวดปาฏิโมกข์ การสวดปาฏิโมกข์คือการสวดทบทวนกฏระเบียบพระ เป็นการแสดงว่ามึงเป็นผู้รู้กฏหมายพระแล้ว หลังจากนั้นเมื่อมึงทำผิดเค้าจึงปรับอาบัติมึงได้เพราะเจตนารมณ์ของปาฏิโมกข์มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการแสดงใบขับขี่ คือมึงรู้แล้วว่าเค้าห้ามอะไร แต่หากมึงละเมิดนั่นคือจงใจเจตนาฝ่าฝืนธรรมวินัยอันนั้น
🔔🙇♀️🔔เศียรปัญญา🔕🙇♀️🔕 ของ พระพุทธองค์ หรือ เปล่า ค่ะ ที่เป็นเส้นผมกลมๆๆๆ 🙇♀️♥️🙇♀️
🙏 ....💯%....🌺..🙏...
ธรรมะ คือ ธรรมชาติ พระพุทธเจ้าท่านเห็นสภาวะจริงๆๆๆของธรรมชาติ แล้วพบกันคะ....
ไหนครัปถอดรหัด แบบนี้ผมรู้หมดแล้ว
เอาเปลือกมาคุย อุตส่าห์หลงฟัง
55555 ไอ้พวกเถรใบลาน ไอ้พวกรู้เยอะใช่จะปฏิบัติได้ ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนั้นเหมือนมึงอ่ะ ดูจากคำเม้นกูว่ามึงรู้เยอะแต่ปฏิบัติตามไม่ได้ เผลอๆชอบชักเว่าด้วย
พระเจ้าไม่ใช่มนุษยและไม่มีอะไรที่เหมือนกับพระเจ้า และพระเจ้าไม่เหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่าง
คุณพุดอะไรพี่ดไปบางคำไหมครับ
ผมอึ่งในความคิดของอาจารย์พิเชฐครับ
แต่ก่อนผมก็ส่งใสเหมือนกันครับว่าพระพุทธองค์ท่านปลงผมหรือไม่ ?หรือว่าพระองค์ท่านไว้ผมอยู่องค์เดียวแล้วสั่งให้ทั้งภิกษุและภิกษุณีโกนผมทั้งหมด ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องนำหลักฐานมาแย้งกันและต้องเป็นหลักฐานที่เชื่อถือได้(ไม่เป็นสาวกภาษิตหรืออรรถกถา)ครั้งหนึ่งอัคคิกภารทวาชพราหมณ์ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเสด็จมาแต่ไกลทีเดียวครั้นแล้วได้ต่อว่าพระผู้มีพระภาคว่า "หยุดอยู่ที่นั่นแหละคนโล้น หยุดอยู่ที่นั่นแหละสมณะ หยุดอยู่ที่นั่นแหละคนถ่อย ฯ"(หลังจากนั้นก็โดนพระพุทธเจ้าสอนกลับไปว่าธรรมอะไรที่ทำให้บุคคลเป็นคนถ่อย)อ่านเพิ่มเติมได้ใน พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๕พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ หน้าที่ ๒๗๒ในครั้งพุทธกาล องคุลีมาลก็ยังเคยตะโกนว่า “สมณะโล้น (พระพุทธเจ้า) หยุดก่อน ๆ”และก็จะมีอีกหลายพระสูตรครับ ที่หลายคนเรียกพระพุทธองค์แบบนี้ ว่า สมณะโล้น ครั้งนั้นแล สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ครั้นบูชาไฟ บำเรอการบูชาไฟอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำสุนทริกา ครั้งนั้นแลสุนทริกภารทวาชพราหมณ์ครั้นบูชาไฟบำเรอไฟแล้วลุกขึ้นจากอาสนะ เหลียวดูทิศทั้งสี่โดยรอบด้วยคิดว่า ใครหนอแล ควรบริโภคเข้าปายาสที่เหลือนี้ สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ได้เห็นพระผู้มีพระภาคประทับนั่งทรงคลุมพระกายตลอดพระเศียรอยู่ที่โคนไม้แห่งหนึ่ง จึงถือเอาข้าวปายาสที่เหลือด้วยมือซ้าย ถือเต้าน้ำด้วยมือข้างขวา เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคได้ทรงเปิดพระเศียรออก เพราะเสียงฝีเท้าของสุนทริกภารทวาชพราหมณ์ ครั้งนั้น สุนทริกภารทวาชพราหมณ์คิดว่า ท่านผู้นี้เป็นคนโล้นๆดังนี้แล้ว ปรารถนาจะกลับจากที่นั้น ลำดับนั้น สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ดำริว่าแม้พราหมณ์บางพวกในโลกนี้ก็เป็นคนโล้น ผิฉะนั้นเราพึงเข้าไปถามถึงชาติ ทีนั้นแล สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ท่านมีชาติอย่างไร ฯพระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๕พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาตก็จะมีครั่งหนึ่งที่พราหมณ์มาขอเข้าเฝ้าพระพุทธ โดยในขณะนั้นมีพระพุทธเจ้าและมีภิกษุแวดล้อมอยู่ประมาณห้าร้อยรูปเวลาพราหมณ์เองก็ไม่รู่ว่าพระพุทธเจ้ารูปไหน(เท่าที่ดูจะสังเกตเห็นว่าถ้าพุทธเจ้าไว้ผมจริงพราหมณ์จะรู้ทันทีว่านั้นคือพระพุทธเจ้าเพราะความโดดเด่น) จึงต้องวานให้แถวนั้นพาไปหาถึงรู้ว่านี้คนนี้แหละคือพระพุทธเจ้ายังมีอีก:ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ นิคมชื่อว่า โขมทุสสะของเจ้าศากยะ ในแคว้นสักกะ ฯครั้งนั้นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงนุ่งแล้วทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังโขมทุสสนิคม ฯสมัยนั้น พราหมณ์และคฤหบดีชาวโขมทุสสนิคม ประชุมกันอยู่ในสภา ด้วยกรณียกิจบางอย่าง และฝนกำลังตกอยู่ประปราย ฯลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าไปยังสภานั้น ฯพราหมณ์และคฤหบดีชาวโขมทุสสนิคม ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเสด็จมาแต่ไกล ครั้นแล้วได้กล่าวคำนี้ว่า คนพวกไหนชื่อว่าสมณะโล้น และคนพวกไหนรู้จักธรรมของสภา ฯ[๗๒๕] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะพราหมณ์และคฤหบดีชาวโขมทุสสนิคด้วยพระคาถาว่า ในที่ใดไม่มีคนสงบ ที่นั้นไม่ชื่อว่าสภา คนเหล่าใดไม่กล่าวธรรมคนเหล่านั้นไม่ชื่อว่าคนสงบ คนสงบละราคะโทสะ และโมหะแล้วกล่าวธรรมอยู่ ฯเมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว พราหมณ์และคฤหบดีชาวโขมทุสสนิคมได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ท่านพระโคดม ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ท่านพระโคดมภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ท่านพระโคดมทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย เหมือนหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิดบอกทางให้แก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืด ด้วยหวังว่าคนมีจักษุจักเห็นรูปฉะนั้น พวกข้าพระองค์เหล่านี้ขอถึงท่านพระโคดมผู้เจริญกับพระธรรมและพระภิกษุสงฆ์เป็นสรณะ ขอท่านพระโคดมทรงจำพวกข้าพระองค์ว่า เป็นอุบาสกถึงพระรัตนตรัยว่าเป็นสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดังนี้ ฯ
พระคุณลักษณ์พิเศษ๑พระเกศา จะไม่งอกไม่ยาว และขดเป็นรูปก้นหอย ใครจะปลงผมท่านได้?๒พระเศียรที่นูนเกิด เกิดจากตอนบำเพ็ญทุกข์กิริยา มีลมดันให้นูนขึ้นจากการกำหนดตามแบบโยคี เกินวิสัยปกติธรรมดา ๓การจะยกประนมมือ แม้พระพุทธเจ้าด้วยกันก็ไม่มี ยกเว้นกับองค์ปฐม ๔การจะ ยิ้มหรือแย้มพระโอท จะให้เห็นไรฟันแทบไม่มี เป็นเพียงกริยาจิต ที่มีคุณธรรมพิเศษเกิดขึ้นเท่านั้นเป็นเหตุ ยุคเก่าต้องอาศัยพระพรหมมาอธิบายลักษณะ พาสร้างพระพุทธสิหิงค์
พระพุธธเจ้าเป็นชาวอเมรีกันหรอครับคุณสันตี่
รูปปั้นเสร็จหรือยังครับอยากเห็นเป็นบุญตา
ออยล์ บ้านนา น่าจะยังนะคับ ผมเข้าไปดูในช่องหนึงเห็นอาจารย์สันติ บอกว่าจะสร้างพระพุทธเจ้าสูงประมาณ19เมตร ผมว่าน่าจะใช้เวลานานมาก แต่ผมว่าตอนนี้เค้ามีแบบแล้วแหละว่าพระพุทธเจ้าหน้าตาประมาณไหน แต่แค่ยังไม่เปิดเผย แต่ผมรับลองเลยว่าอลังการงานสร้างแน่คับ
เมื่อไรจะมาอับเดทคับแจ้งว่าจะเปิดเผย ปี 61ปีนี้ 62 แล้วนะคับ..
ลองเลื่อนดูหลายๆคลิป
รู้ว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนรูปหล่อคนหล่อหน้าตาดียังไงก็หน้าตาแบบนั้นแหล่ะก็คงจะประมาณติ๊กผสมณเดชบวกมาริโอ้ออกทางแบบคีอานูรีฟนิดๆคงประมาณนั้น
จะอยากรู้ไปทำไมว่า พระพุทธเจ้า เป็นใคร รู้แต่ว่าพระองค์สอนให้ทำความดี ไม่ประพฤติชั่วก็พอแล้ว ปฏิบัติดีแล้วหรือยัง บารมีสูงแค่ไหนที่จะเผยแผ่พระพักษ์จริง เราเป็นมนุษย์เผยแผ่แค่ พระธรรมคำสอน น่าจะเพียงพอ. อย่าริอาจก้าวล่วงเลย
สุดยอดมากๆค่ะ👍👍👍❤❤🇹🇭🇹🇭🇩🇪🇩🇪🤗🤗🤗😄😄💓💓💓🌞🌞🌞❤❤👍👍
Samret Khruawaengmon +1👍🇩🇪
ให้ พระ เกจิ ดังๆ นั่งสมาธิ เข้า ชาญสมาบัติ ดูสิคับ มีหลาย องค์ ขนาด พระพุทธรุป อยุ่ใต้ดินยังเห็น555
จะให้พระองค์เป็นใครเล่าอย่ายุ่งกับพระองค์ดีกว่าเอาแค่รัชกาลทุกองค์ก็พอ_ก็ประวัติของพระองค์มีอยู่พระองค์คือเจ้าชายสละราชสมบัติมาบวชไปอ่านเอาซิหาไม่ได้หรอกฝรั่งเอ้ยหาพระเยซูเถอะหาง่ายกว่าผมไม่เข้าเลยไปเข้าคริตย์มีเมียคริตย์พุทธปลอมๆทำเพื่อศาสนาของเขานั้นแหละเขาทำได้ทุกอย่างเพื่อล้มพุทธ
Vipakun Ferngkasem มึงดูหนังเยอะไปแล้วสาสสสสส
@@user-oc7do2pe2y สมองอ้ายห่าสันติเหี๊ยย และอีตัวเมีย คริส มึงจะเหี๊ยยอะไรกับ พระ พุทธเจ้า ที่ เหนือกว่า พวกมึงหลายแสนล้านนนน บารมีมากวะห่าลากพวกมึงจะมาทำลายหรือวะ สัตว์
สักการะ'ศักยภาพ' สะกายะวง แปลว่า สะกา ลูกเต๋า วง .. กรุงกบิลภัจจ์ ศักยะวงศ์ โฆษบุตร 'รูปร่าง 'หน้าตา ' สำคัญ'ด้วยหรือ. คำษร คำสร คำศร.คำสอน .คำที่เขียนด้วย อักษรศาสตร์ 'คำสะระ คำศิริ' คำพูด และ อะเสวนาจะ พาลานัง บัณฑิตย์ทรานส์ นั้นจะ เสวนาฯ ปุชนีจะ ปุชนีญ่า นั้นจะ เสวนา'
พระพุทธเจ้าเป็นคนไทย และตรัสรู้ที่แผ่นดินไทย
อ้างว่าภรรยาเป็นนักจิตวิทยา มีความละเอียดอ่อน ต่อความรู้สึก แต่ทำไมจึงคิดจะเผย พระพักษ์จริง บารมีคุณสูงแค่ไหน ผมเคยชื่นชมคุณในด้านปฏิมากรรมที่สมจริง แต่สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ มันเป็นดาบสองคม ในด้านนึงเพียงแค่ อยากรู้พระพักษ์จริง. แต่ในอีกด้านถ้าคุณเผยออกมาแล้วได้อะไรที่ดีขึ้นหรือ ลองนึกภาพ เศียรพระพุทธรูป ที่เป็นของสะสมในสายตาต่างชาติ คนไทยก็รู้สึกแย่อยู่แล้วแต่ถ้า เศียรที่เปลี่ยนจากพระพุทธรูป เป็นเศียรพระพุทธเจ้าพระพักษ์จริงเท่ากับทำลาย ถึงแก่นแท้ของพระศาสนา ปัจจุบันท่านคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลุดพ้นจากมนุษย์แล้ว แต่จะปั้นท่านให้เป็นมนุษย์ อยากรู้จริงๆว่า คุณศรัทธา หรือแอบแฝงจ้องทำลาย ถ้าปั้นพระพักษ์จริงในถานะ เจ้าชายสิทธถะ ก่อนจะเป็นพระพุทธเจ้า ก็อีกเรื่องนึงแต่ไม่มีการกล่าวถึงเจ้าชายสิทธถะเลย แต่กลับจะปั้นพระพุทธให้เป็นมนุษย์ หากวันใด ต่างชาตินำพระเศียรที่มีพระพักษ์จริง ไปซื้อขายแทนเศียรพระพุทธรูป ศาสนาคงไม่เหลือ คุณจะรับผิดชอบไหวหรือ มันเป็นความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนของชาวไทยนักจิตวิทยาที่ดี จะไม่ทำแบบนี้ เพราะยังไม่ใช่คนไทยที่แท้่จริงมากกว่า.
ศิลปากร กรมสินประ "กลอน 'สิน' ศิลป์' ษิณ..
อยากรู้เรื่อง พระพุทธเจ้า แนะนำว่าต้อง ค้น พิสูจน์ " หารอยต่อตอนหลับกับตอนตื่นของตัวเอง ให้รู้ได้ทัน ตามรู้ทันได้ก่อน ว่าตื่น-หลับ ตอนไหน อย่างไร" เริ่มต้นตรงนี้ก่อน ที่เหลือมันแค่ขี้ปากต่อๆมา เชื่อเถอะอย่าหลอกชาวบ้านเลย พุทธลักษณะจะเอาใครมาเปรียบนั้นไม่มี จะพาตัววิปลาสหากบอกคนอื่นผิดๆ แม้เทวาก็ไม่อาจนำมาเปรียบได้
7:53 ผมเป็นขนหมอยงง
พระพุทธเจ้าเป็นคนไทย ตรัสรู้ ี่ที่ไทย กินอนาเขต พม่า มอญ ลาว ทุกวันนี้ รอยพระพุทธบาทก็อยู่ที่ไทย จะให้เชื่อที่นักล่าอนานิคม มารับรองอินเดีย เนปาล ศรีลังกา เป็นแดนพุทธนั้นคงไม่ถูก พุทธเจ้าเป็นบรรพบุรุษของไทย ลาลูแบ กูบอกอย่างนั้น ส่วนคนเนปาล จะเป็นใครที่มาบวชในพุทธศาสนาก็เรียกคนทุกคนว่า ศากยะหมดทุกคน
อินเดีย เนปาล สมัยพุทธภูมิ เป็นชมพูทวีป
@@user-xk9ei2fj4j คุณกับผมเกิดไม่ทันหรอก แต่คุณปฏิเสธความเชื่อนี้ไม่ได้ว่า เกิดจากประวัติศาสตร์ของนักล่าอาณานิคม สมัยนั้น มีอังกฤษฝรั่งเศสที่เขียนให้คนทั้งโลกอ่าน แต่คนไทยกลับเชื่อพวกคริต ที่รู้ดีศาสนาอื่น ลักษณะผู้คนอินเดียเนปาล การกินการอยู่ ไม่มีอะไรตรงกลับพระไตรปิฏก..เขากินแป้งจิ้มเครื่องเทศ มีอีกมากมายที่ไม่ตรง
กุรุ้สึกเบื่อคอมเมนต์วะ ทำตัวเปนพุทธแท้ ไม่อยากให้ยึดติด นั้นนี่โถ้ววว คนเก่งงถรุ้ย ถ้าพุทธแท้เขาจะนิ่งไม่อวดฉลาดหรอก รุปปั้นคืองานศิลปะเปนนามธรรมจับต้องได้ คนบ้างคนมันโง่ มันต้องอาศัย นามธรรมสิ่งที่มองเหนก่อนเพื่อเปนสื่อ ให้เขาศรัทธาไง
ถ้า คิดดีทำดีก็ทำเถอะ แต่ถ้าคิดแบบจังไร เหมือน ลัทธิอิสลาม ห่าลากมันคือเหี๊ยยยมากสะนะ
ความสำคัญไม่ใช่รูปลักษณ์ พระองค์ปรารถนาที่จะฝังรากลึกแห่งธรรมให้มวลมนุษย์ชาติได้สัมผัสได้ศึกษาร
ผมจะเล่าด้านเป็นจริงนะคับไม่มีผู้ใดในโลกนี้เคยเห็นพระพุทธเจ้าเรื่องเล่าที่จารึกไว้นั้นสมัยก่อนไม่มีกระดาษปากกาหรือเมจิกหรือบึกทุกคอมพิวเตอร์ก็ไม่มีผมว่าเรื่องราวทั้งหมดพึ่งจะมาเขียนขึ้นเมื่อไม่กี่ร้อยปีมานี่แหละแต่ก็เป็นเรื่องดีสอนไห้คนทำดี
งง..กับมึนเป็นเรื่องเดียวกันกรีกโบราณ ยุคโรมัน เขียนหนังสือว่าดภาพ เเละปั้นปฎิมากรรมเกิน2000ปีเเล้วหนูไปศึกษาดูประวัติศาสตร์ก่อนตอบน่าจะดี ประเทศไทยยังไม่มีเลยตอนนั้น น้าก็ยังไม่เกิดเเต่อาศัยเรียนมาศึกษาตอนต่อโทก็เริ่มเข้าใจเเต่ไม่สงสัยเหมือนพวกเขาเหล่านั้นเพราะรูปลักษณ์หน้าตาเป็นเพียงสัญญลักษณ์ที่เเสดงให้คนเรารู้เราเห็นเราเป็นเรามี เเต่เพียงสมมติ สุดท้ายมันก็เป็นดินน้ำลมไฟตามธรรมชาติเเต่สิ่งทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังค้นหาพบเจอนี่สิถือว่าสำคัญ เเละเป็นความจิงของโลกที่น่าค้นหา ไม่ได้ดับสิ้นสูญสลายตายไปตามรูปหรือตามกาลเวลายังจะดำรงคงอยู่อีกหลายยุคหลายสมัยส่งต่อกันจากรุ่นสู่รุ่นตราบเท่ามนุษย์ชาติยังมีหลงเหลืออยู่ในโลกใบนี้ นี่เเหละที่มาของธรรม หรือ...ธรรมชาติที่มีเพียง...หนึ่งมนุษย์ที่เข้าใจเเละหยั่งรู้อย่างเเตกฉานนำมาสู่การถ่ายทอดบอกเล่ากันไม่จบไม่สิ้นอันเป็นนิรันดร์
สนับสนุนตามความจริงมิใช่ออกมาจากหนังสือเพราะประสบการณ์มากกว่าศรัทาสัจจะดีกว่านี้คือสิ่งที่ทำให้เราเชื่อมั่นได้
แสดงว่าพ่อแม่ไม่ได้สอนให้นับถือตั้งแต่เด็กๆขนาดถามยังงงไช่พอต้องอ่านมาก่อนตอบแน่ๆที่จริงยังอีกมากที่พูดมันเหมือนการปกครองเท่านั้นพระองค์สอนให้ไม่จองเวรจองกรรมให้อโหสิอภัยไม่เบียดเบียนไม่ฆ่าให้เสียสละไม่เห็นแก่ตัว
พระพุทธเจ้าเป็นใครคนพุทธยังไม่ทราบกันอีกหรือเรียนกันมาทุกคนเดี๋ยวนี้มีอะไรแปลกๆแล้วมาถามทำมัยให้งงสองพันกว่าปีใครอวดรู้บ้างแค่ดำเนินรอยตามพระพุทธองค์ปฏิบัติตามให้ได้ซิได้เห็นพระองค์แน่ๆเห็นความดีของตัวเองที่เข้าถึงพระพุทธองค์ได้ได้เห็นแสงธรรมมะใช้ต้องผอมเพราะพระองค์อดทนทรมารร่างกาย
Vipakun Ferngkasem แล้วรู้หรอว่าหน้าตาท่านเป็นอย่างไร
Vipakun Ferngkasem อาจารย์ก็ทำตามคำสอนของพระองค์ ปฏิบัติธรรมพร้อมๆไปกับการหน้าหลักฐานข้อมูลด้วยตรับ
+Not Too ขอให้ดูไปใช้สติฟังการพูดควรนอบน้อมมีไหมการที่ว่าเอาพระห้อยที่เขาพูดเหมือนห้อยสิ่งของธรรมดาควรจะพูดว่าที่คนเราได้เอาพระมาแขวนคอด้วยความนับถือจะฟังดูว่าคนพูดนับถือแม้เวลาพูดก็ต้องรู้ว่ากำลังพูดถึงสิ่งที่เครพควรมีคำพูดนอบน้อมด้วย
ในคลิปนี้ คือจะสื่อถึงรูปร่าง หน้าตาพระพุทธเจ้าที่คุณพุทธรับรู้ เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าคือ1)รูปปั้น หรือ พระพุทธรูป ที่เสมือนจริง2)รูปปั้น หรือ พระพุทธรูป ที่อยู่ในจินตนาการ ----ซึ่งข้อนี้ เราเห็นจนชินตา แต่ละประเทศที่นับถือพุทธ ก็ปั้นออกมาในรายละเอียดที่แตกต่างกัน ตามจินตนาการ และคำบอกต่อๆกันมา
6ปีผ่านมาแล้วตอนดีปั้นเสร็จแล้วหรือยังต้องการทราบว่าประดิษฐานไว้ที่ใดจะไปนมัสการ
![ป่ะป๊าเลอา ชื่อ ??? [ดูคลิปเต็มหน้าช่อง] #Short | PANG ORNHIRA](http://i.ytimg.com/vi/ssxX0VkJCTo/mqdefault.jpg)
ถึงจะสอบเข้าม.กรมศิลปกร ไม่ได้ แต่ความสามารถของท่านอาจารย์ สันติ เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกได้เป็น ดร.สันติแล้ว ภูมิใจแทนคนไทยทั่วโลกเลยค่ะ
สาธุ!...รอชมรูปปั้นพระพุทธเจ้า 🙏
๑๐๔.รอยพระพุทธบาทคือสัญญลักษณ์แทนพระพุทธองค์ ความจริงคือพระสัจจธรรมคำสอนคือพระศาสดาองค์จริงครับ ขอให้ประสพผลสำเร็จครับ ขอให้กำลังใจครับ💖💖💖💖💖
พระเจ้าปเสนทิโกศล ในครั้งพุทธกาล พระองค์คือผู้ทรงให้ช่างแกะสลักพระพุทธรูปขึ้นเป็นครั้งแรก แกะสลักจากจากไม้แก่นจันทน์ครับ พระพุทธเจ้าคือบรรพบุรุษของคนไทยครับ คนเดียวกันครับ
บุญคุณพ่อกับแม่ต้องทดแทน
อาจารย์ สันติ สุดยอดครับ ขอให้ ทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ให้สำเร็จด้วยครับ
ผู้ใหญ่บ้านเราตอนเขาไม่
ดังไม่เคยสนุนเด็กไทย
พอต่างชาติสนุนอาจารย์ดัง
คนบ้านถึงเห็นค่านี่คือคน
ไทยพ่อมีค่าถึงเข้าหา
ต้องพิมพ์ว่า สนับสนุน
สิทธัตถะผมม้วนวนขวาทางเดียว เป็นลอนเหมือนรูปปั้นกรีก เมื่อท่านออกบวชท่านโกนหัวครับ
อาจารย์หล่อเท่เก่งเหมาะสมกับการเป็นตัวแทนคนไทยในสายตาของชาวโลก
จิตแจ่มใส ใจเบิกบาน คือพุทธะ
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา หลวงปู่มั่นท่านก็เห็นพระพุทธเจ้าแล้ว เดินตามสิ แต่ก็เข้าใจเจตนาท่านทั้งสองนะ และยินดีที่ท่านคิดท่านทำ ท่านคิดถูกทำถูก ที่พยายามจะหารูปนามมาให้เราท่านที่ศรัทธาและยังตัดรูปนามไม่ได้ไม่หมดได้รู้และนำสู่การปฏิบัติตามธรรมะของพระองค์เพื่อการหลุดพ้นต่อไป อย่าลืม ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตามที่ท่านกล่าวไว้อันเป็นจริงแล้ว
ชอบคำพูดอ.สันติที่ว่า...จงทำตัวเหมือนน้ำครึ่งแก้ว
เพื่อเปิดรับความรู้ใหม่ๆ ตลอดเวลา
ทัศนคติแบบนี้ถึงทำให้คนเก่ง ยิ่งเก่ง
แต่ผมเชื่อในศิลปะตามสกุลช่างนะครับ..ช่างชาติใดก็จะมีเอกลักษณ์ตามแบบอย่างของชาตินั้นเพื่อคงไว้ซึ่งแบบแผนของชนชาติของตนไว้..ไม่เชื่อลองสังเกตุ..แบบเส้นผมของรูปเดวิดกับรูปแบบเส้นพระเกศาของพระพุทธเจ้าในศิลปะคันฐราชดูสิครับ...แล้วในยุคสมัยนั้นรูปถ่ายก็ไม่มีเอกสารที่จะให้ค้นคว้าก็ไม่มี..ช่างในยุคนั้นจะปั้นหรือแกะสลักจากพระพุทธเจ้าจากข้อมูลอะไร...นอกจากนึกถึงเทพเจ้าของตน..มาผสมกับการนุ่งห่มแบบพระ(ซึ่งจริงๆแล้วการนุ่งห่มก็ยังมีความเป็นเทพเจ้าแบบกรีกโบราณ)..ยังมีอีกเรื่องที่อยากจะฝากไว้นะครับ..ความผสมปนเปนี้..ยังคงมีมาถึงในยุคปัจจุบันนี้สังเกตุได้จากพระพุทธรูปครับ มหานิกายในสยามสงฆ์ต้องครองผ้า3ผืนเป็นข้อบังคับพระพุทธองค์เป็นประมุขเวลาช่างปั้นก็จะปั้นตามศิลปะสกุลช่างของตน..ในสยามแต่เดิมก็ครบแหละครับ..สังเกตุได้ในทุกสกุลช่าง แต่จะมีแปลกๆออกมาในรูปแบบที่ไม่มีการครองผ้าซึ่งตรงนี้มันไปตรงกับพุทธในนิกายเชน..ของมหาวีระซึ่งอันนั้นเขาไม่นุ่งผ้าเลย ชาวพุทธเราก็เอามาผสมปนเปกันมานาน..จนแยกไม่ออกแล้วในทุกวันนี้..ผมเป็นอีกเสียงนึงครับที่ไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้าเป็นอินเดียรึเนปาลตามพวกฝรั่งบอก...แต่ไม่ใช่จะบอกว่าพระองค์เป็นคนไทยอะไรนะครับ...ผมเชื่อว่าพระองค์ทรงอยู่ในสุวรรณภูมิครับ ในสมัยนั้นน่าจะยังไม่มีการแบ่งแยกเป็นประเทศต่างๆอย่างในปัจจุบันจึงระบุไม่ได้ว่าเป็นประเทศอะไร..แล้วอีกอย่างคือ ในมุมของฝรั่งจะมองรวมไปหมดว่าเป็นชมพูทวีปคือรวมเอาสุวรรณภูมิรวมไปด้วยทั้งหมดหลายอย่างที่ถูกสร้างขึ้นมาในภายหลังเพื่อให้อินเดียเป็นมาตุภูมิแห่งพระพุทธศาสนาภายใต้การปกครองของอังกฤษซึ่งมีความต้องการจะแสดงแสนยานุภาพเหนือกว่าฝรั่งเศส
รินน้ำให้ตามลำดับใจ สุดยอดครับ
ให้ดูตามหนังสือหลวงพ่อฤาษีลิงดำนะครับ ท่านเห็นพระพุทธเจ้าหลายเสมอ ในคัมภีร์ก็บอกไว้ว่าท่านมีลักษณะมหาบุรุษ
sitthapromwas phornsaran ถูกอย่างที่ท่านว่าครับ คือพระพุทธเจ้ามีลักษณ์ความเป็นมหาบุรุษ จริงทำให้เกิดพระพุทธรูปปางต่างขึ้นมาบนโลกนี้ยังไงครับ...มหาบุรุษแบบความคิดของญี่ปุ่นเป็นแบบนี้ ของไทยเป็นอีกแบบหนึ่ง ของจีนหรือของชาติต่างที่นับถือพระพุทธศาสนาก็เป็นอีกแบบหนึ่ง ตามแต่แนวคิดของแต่ละประเทศ แต่ๆๆๆ...อ.สันติไม่ได้ต้องการแบบนั้น อ.สันติต้องการหาพระพักตร์พระพุทธเจ้าที่เป็นมนุษย์จริง มีเนื้อ มีหนัง มีอารามณ์ มีความรู้สึก ที่ใกล้เคียงกับความจริงให้มากที่สุด ซึ่งแน่นอนไม่ใช่การเดาสงเดช ไม่ใช่การคิดการจินตนาการขึ้นมา ไม่ใช่ปั้นตามความฝัน แต่จะปั้นตามความเป็นจริงที่มีหลักฐาน มีข้อมูลมาพิสุทธิได้จริง ซึ่งอดีตที่ผ่านมามีหลายๆประเทศที่พยายามทำเรื่องนี้ แต่ไม่สำเร็จ...ยังไงก็ช่วยกันเป็นกำลังใจให้อ.สันติและคุณเอริก้าด้วยนะครับ เราจะร่วมกันสร้างประวัติไปด้วยกันครับ
พระวิปัสนากรรมฐาน หรือ ผู้ที่นั่งสมาธิ เคยเห็นทั้งนั้น เปน. ดร.นะ แต่เหมือนจะคิดไม่ได้
ภาระกิจที่อจ.ตามหา อาจจะเห็นรึแฝงอะไรหลายๆอย่าง สิ่งที่ได้มาคือคำสอน การใช้ชีวิตของผู้คนแต่ล่ะศาสนา ความดีความชั่วของผู้คน
ขอบคุณทุกท่าน ที่ร่วมแชร์ และ เมนต์ครับ
ติดตามเพจ ต่างก็ดี
สาธุ อ. สันติ
พระพุทธรูป สร้างขึ้น(ปั้นขึ้น)ในยุคของ"พญามิลินทร์"(พระเจ้าทราเมนเดอร์)ท่านเป็นโอรสของทหารเอกของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ มหาราช
ความเห็นส่วนตัว เข้าใจถึงความเจตนาดี แต่เจตนาดีพยายามจะให้พระพุทธเจ้าเป็นคนธรรมดาเพื่อจะให้เข้าถึง เป็นคนธรรมดาในด้านของความเป็นมนุษย์ ถูกส่วนหนึ่งแต่ไม่ทั้งหมด สมัยเมื่อ 2พันกว่าปีมาแล้ว จิตใจคนยังมีความบริสุทธิ์มากกว่าในปัจจุบัน ความอยากรู้ด้านปรัชญาศาสนา ความจริงของชีวิต จอตวิญาณ ธรรมชาติที่สมบูรณ์ ศาสนาฮินดูน่าจะเป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุด มีคนปฏิบัติทำสมาธิไม่กิน ไม่หายใจเอาหัวมุดดินได้เป็นเดือนๆ สมัยนี้ก็มีให้เห็นในประเทศอิน คำสอนพระพุทธเจ้า สัญลักษณ์คือกงล้อเกวียน ความหมายคือ ชีวิตจะวนเวียนและเป็นอยู่อย่างนี้ตลอดไป จิตก็เหมือนกันถ้าไม่มีการดับจิตที่เรียกว่านิพานก็จะต้องกลับมาเกิดใหม่วนเวียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถามว่าถ้าพระพุทธเจ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาจะรู้ได้ไหมว่าจิตต้องวนเวียนกลับมาเกิดใหม่ คำว่าตรัสรู้คือรู้ทุกอย่างไม่มีอะไรที่ไม่รู้ พระพุทธเจ้ามีคำถามมากมายก่อนตรัสรู้ พอท่านตรัสรู้ได้แล้ว ไม่มีอะไรที่ไม่รู้ และไม่เห็น ถามว่าคนธรรมดาทำได้ไหม พระสูตรบางพระสูตร ยังตอบไปถึงจักรวาน (ขอโทษถ้าสะกดผิด) กาแล็คซี่อื่นที่มีพระพุทธเจ้าองค์อื่นอยู่ด้วย มีคำพูดถึงมนุษย์ต่างดาวซึ่งเป็นศัพย์ที่เฉพาะในพระสูตรนั้น จริงๆ แล้ว พระพุทธเจ้ารู้เรื่องจักรวารและมนุษย์ต่างดาว แกปล็คซี่อื่นมาก่อนตั้งสองพันกว่าปีมาาแล้ว มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนฝึกจิตขั้นสูงที่สุด นิพานก็เช่นกันบอกว่าง่ายก็ง่ายบอกว่ายากก็ยาก ใครได้ฟังคิริมานนทสูตรจะเข้าใจ ฟังหลายๆ รอบแล้วจะหายสงสัย เรื่องที่เกิดขึ้นสมัยพระพุทธกาล ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องธรรมดา เหมือนเป็นเทวดาอย่างที่อ.เข้าใจ แต่ถ้าคนที่ฝึกจิตและเข้าใจ จะรู้ว่ามันเป็นไปได้และเป็นเรื่องธรรมดา ธรรมชาติ ที่ได้มาจากการฝึกจิตฝึกสมาธิ สรุป พระพุทธเจ้าเป็นคนธรรมดาถูกต้อง แต่สิ่งที่ท่านได้มาจากการตรัสรู้ทุกอย่าง คนสมัยนี้บอกมันเป็นนิยายแต่งขึ้น ซึ่งไม่ถูกสิ่งที่ไม่ได้รู้ไม่ได้เห็น ไม่ใช่ว่าจะไม่มี แต่ศาสนาพุทธถูกห้ามไว้ไม่ให้เอามาอวดกัน ทำสมาธิจิตถึงมาเองตามลำดับขั้นของจิต พอท่านตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าจิตท่านก็ไม่ได้มามุ่งที่ต้องปรงผม และลูกศิษย์ก็ไม่กล้าที่จะจับศรีษะอาจาย์ที่ถือว่าเป็นที่สูงสุด บารมีของพระองค์หลังจากตรัสรู้ผมท่านก็ขอดขึ้นไปเรื่อยๆ ก็มีเวลาปฏิบัติสมาธิเผยแพร่ศาสนา คือภาระกิจของพระองค์ ลูกศิษย์ที่ยังจิตไม่ถึงยังคงต้องปรงผมอยู่เพื่อเตือนตัวเองเสมอว่าไม่ให้ยึดติดกับผมและความสวยงาม ส่วนพระองค์ท่านไปขั้นที่ไม่ต้องมีอะไรต้องมาคอยต้องกังวลหรืออะไรที่ผูกหรือมัดแล้ว ไม่รู้อธิบายจะเข้าใจไหม คนที่บอกพระพุทธเจ้าไม่มีผมคือจริงในส่วนก่อนตรัสรู้ แต่หลังตรัสรู้ท่านก็ไม่ได้มาใส่ใจหรือยึดติดกับการปรงผม คนสมัยก่อนตัวใหญ่มาก ซึ่งวัดในธิเบศก็ได้มีการเก็บร่างคนที่ใหญ่มากไว้ในห้องที่เป็นความลับที่ไม่มีใครได้เห็น อ.โชคดีมากได้ไปเห็น คนสมัยก่อนสูงเหมือนยักษ์ มีอะไรหลายอย่างที่มันไม่ธรรมดาในยุคของเราแต่ยุคนั้นมันเป็นเรื่องธรรมดา จะเป็นยังไงก็แล้วแต่อย่าดึงความไม่ธรรมดาซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาในสมัยนั้น หรือเป็นเรื่องธรรมดาของจิตที่ถูกฝึกฝนไปจนถึงขั้นที่สามารถทำอะไรก็ได้ที่ดูแล้วมันเป็นไปได้เองธรรมดาของคนฝึกจิตขั้นสูง มันก็เป็นวิทยาศาสตร์อย่างหนึ่ง จะอย่างไรก็แล้วแต่ อย่าเอาความจริงที่พิเศษในสมัยนั้นพยายามดึงพระองค์ลงมาเป็นคนธรรมดาสมัยนี้ ความธรรมดามันต่างกัน อย่าให้ความจริงมันผิดเพี้ยน ไม่รู้จะอธิบายยังไงถึงจะเข้าใจ อยากเจอตัวอาจารย์จริงๆ น่าจะได้คุยกันยาว
สาธุขนลุกมาก
เห็นด้วยทุกประการ
รักทั้งสองคนครับทำเลยครับ
เป็นความคิดที่ดี แต่ปัญหาจะตามมา..ให้คนเถียงกันไม่จบ คิดง่าย ๆ ลองปั้นเขาทราย ไม่ให้เหมือนเขาค้อ...และปั้นเขาค้อไม่ให้เหมือนเขาทราย สิ จะพบคำตอบว่า ไม่มีวันที่จะเก็บรายละเอียดได้หมด ทั้งๆที่ตัวจริงยังอยู่...แล้วพุทธเจ้าล่ะ..คิดเอาเอง
พระพุทธเจ้าหนีจากความจริง ไป หาความจริง อัน หลุดพ้น แห่ง วีถีชีวิต หรือเปล่าค่ะ 🌎🙇♀️🌏🔕🙇♀️🔕🙇♀️♥️🙇♀️
รูปปั้น...เคารพที่แท้จริง คือ 1 ใน 300 เทวรูป... ในกะบะห์ที่นคร..เมกกะ ใน ศาสนาอิสลาม....ก่อนมีศาสดา...มูฮัมหมัด...
โปรดใช้...จินตนาการ...นักการศึกษาศาสนาเปรียบเทียบ....ลองวิเคราะห์...มุมนี้ดูนะ..สาธุ.
พระพุทธท่านบรรลุแล้วกลายสภาพจากคนธรรมดาเป็นพระอรหันต์ สภาพรางกายก็เปลี่ยนตามด้วย มีรังสีออร่า6ชนิดปกคลุมกายอยู่ แล้วจะปั้นรูปพระพุทธเจ้าให้มีร่างกายเหมือนคนปกติได้อย่างไร นั่นก็เท่ากับว่าท่านไม่ใช่พระพุทธเจ้าท่านเป็นคนธรรมดาทั่วไปซึ่งมันก็ย้อนแย้งกันเอง ดังนั้นซ่างที่ปั้นเพื่อให้คนเคารพจึงใช้ลักษณะของนามธรรมมาแฝงให้เกิดเป็นรูปธรรมที่สัมผัสได้ในความเป็นพระพุทธเจ้าเมื่อกราบใหว้จะมีความรผุ้สึกว่าไม่ใช่ใหว้คนธรรมดาแต่เป็นการนอบน้อมต่อดวงจิตที่บริสุทธิ์ของพระองค์และน้อมนำธรรมะมาใช้ในการดำเนินชีวิต
เข้าใจความเป็นจริงได้เยี่ยมมาก
...สำคัญที่..รูปกายและจิตบริสุทธ์
ผ่านขั้นตอนการปฏิบัติมาอย่างไร
..ขั้นตอน..การทำลายรูปหยาบ
เป็นกายละเอียด..จากละเอียดเป็น..กายบริสุทธ์..หรือเรียกว่า..กายประเสริฐ..มนุษย์ประเสริฐ
แล้วถูกเรียกขนานนามให้ว่า
....พระพุทธเจ้า...
คำว่า..ปั้น...คือปั้นรูปที่ตัวเราเอง
..เหตุใดรึ..ที่พระะุทธเจ้าตรัสสั่ง
ให้ภิกษุทั้งหลายว่า..จงทำที่แห่งทุกข์เถิด..ที่สุดแห่งทุกข์คืออะไร..และทำไมทรงตรัสอย่างนั้น..ตรัสหลังจากภิกษุเหล่านั้นเข้าใจธรรมถูกต้องดีแล้ว..จึงให้ทำที่สุดแห่งทุกข์
..ในขณะที่ปั้นตัวเราเอง..เวทนาแรงมาก..หนักมาก.เพราะระบบธรรมมันจะไล่ทำลายรูปหยาบไปจนถึงละเอียด..ในขณะที่ทำรอบจะมีกลิ่นเหม็นต่างๆออกมาจากกาย...ถึงรอบละเอียดจะมีกลื่นหอมออกมา
หอม..นี่หอมมากๆ..หอมที่ไม่เคยได้กลิ่นที่ไหนมาก่อน
ในขณะนั้นจิตจะมีปิติเอิบอิ่มทั่วกาย
...นี่เรียกว่าการปั้น...( ท่านผู้มีเมตตา..จงรักษาเนื้อตัวร่างกายให้ครบอาการ.32 นะครับเพราะเป็นสิ่งสำคัญมากๆในการปฏิบัติให้ถึงเป้าหมาย..ที่เรียกว่า..
นิพพาน )
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นตถาคต
คนที่เห็นธรรม ผู้นั้นเห็นค่า
ของคน อ.สันติเก่งสุดๆๆๆๆ
ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา
คุณเอริก้าสวยมาก
ปี61แล้วรออยู่ครับ
แนะนำไปศึกษาพุทธวจน นะครับ วัดนาป่าพงครับ ลำลูกกา คลองสิบ อาการของมหาบุรุษ ที่พระพุทธเจ้าเพรียบพร้อม
พระไตรปิฏกมีแต่ที่วัดนาป่าพงเหรอ ?
การจะทำอะไรก็ตามถ้ากุศลเกิด อกุศลไม่เกิด ก็คงจะดีกว่าอยู่เฉย แม้จะไม่ตรงถูกตามความต้องการที่อยากให้ธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าท่านได้บอกสอนไว้ อย่างน้อยก็ทำให้คนกับมาสนใจ จนน่าจะมีคนคิดจะมาปฏิบัติจริงจัง จากการกระทำนี้บ้างไม่มากก็น้อย
สมเด็จพระบรมศาสดา พระอรหันตสัมมาพระ กัสสัมปัจเจักรพุทธเจ้า เป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระปฐมบรมธาตุพนมเอกาสัจจะ ภความหาศาตรัตนะเทวาธิราชศาตราปิยธิปปัตางไตรยโกนคมนกัสวะมหาโพธิสัตย์วรมาพระพุทธอริยะสันตติโคตรมุนีบุญตามีพระสมณศากยะบุญตราศรีวรวงค์านุวงค์ อรหัตตจอมเจ้าเกล้ามหาปัทมาวรธมทวารวดีศุโขทัยธรรมราชามหาจักรดิพรรดดิราช พระเสด็จ"พระศรีอารียเมตไตรย" คนไทยเกิดที่ไทยเป็น คนไทยเลือดแผ่นดิน ตรัสรู้เป็น อมตะธรรม เพราะรู้ว่า อินเดียเป๊นชื่อสมมุติเพื่อกันชาติอื่นเอาไปใช้ว่ามีสายเลือด เพราะศากยะหมายถึงร่างกาย ไม่มีใครไปอินเดียหรอก อินทร์ เดย์ แบบนี้คือ ผู้รู้ ว่าอักษรก็ภาษาไทยตรงๆ ไปทำตามอินเดียตอนไหน มีแต่ใช้ดูว่า นักบวชก็โม้คนคุยก็โม้ ที่ตรัสรู้ก็เพราะไม่โง้แบบภิกษุที่กราบไหว้บูชาแบบคนในอดีต เห็นพระภัทร สมเด็จสมธศรีศากยะปฏิธาปชาบดี มหาราชแห่ง กรุงรัตตนศรีศาสดารามสามไชยสุขอัฐถะมี ในโบสถ พระพุทธรูปคือ แม่ คือชื่อของแผ่นดืนฝน แผ่นดินแห่งคนไทยประเทศไทย
พุทธธรรมอยู่ในใจ จะหน้าแบบไหน ไม่สำคัญ คำสอนเท่านั้น ที่ไม่ เปลี่ยนแปลง ทันสมัยเสมอ (นี้ก็เป็นอีกหนึ่งสมัย ที่ผู้ศัทธา ตามหา ศาสดา เหมือนเมื่อ 2500 ปีที่แล้ว)
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นตถาคต
ถุยส์!......คำสอนอะไรที่ว่าทันสมัยอยู่เสมอ!......ตนนั้นแลเป็นที่พึ่งแห่งตนงั้นเหรอ อ้าวแล้วอย่างนี้มึงจะพึ่งพาการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งตัวแทนพวกมึงไปทำหน้าที่แทนมึงในสภาผู้แทนราษฎรดิ์หาเตี่ยมึงเหรอ?.......พระธรรมของพระพุทธเจ้ามันปรับรูปแบบหมดเลย ตั้งแต่พระธรรมวินัยพระภิกษุ อย่างการทำพิณทุ ผ้านี่ มึงรู้ไหมว่า ณ.ปัจจุบัน ธรรมวินัยอันนี้มันถูกนำมาปรับรูปแบบใช้กับอะไรบ้างในบ้านเมืองเราตอนนี้ แม่งแทบจะทุกๆอย่างตั้งสูติบัตร ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน คูมือทะเบียนรถ เอกสารสัญญาต่างๆนาๆ หลักฐานรายการบัญชีทรัพย์สินต่างๆนาๆ เหล่านี้จุดเริ่มต้นมาจากการบังคับให้พระภิกษุทำพิณทุผ้า อย่างมึงจะไปทำบัตรประชาชนใหม่ มึงต้องไปแสดงอาการสละบัตรประชาชนเก่า แล้วจึงขอทำบัตรประชาชนใหม่ ไม่ได้ต่างอะไรเลยกับการต่อบัตรประจำตัวประชาชน ธรรมของพระพุทธเจ้ามันทันสมัยจริงๆนั่นแหล่ะ แต่ถ้ามึงไม่เข้าใจตามมันไม่ทัน เหมือนตำรวจมันขอดูใบขับขี่พวกมึงก่อนจะแจ้งข้อหามึงนั่นแหล่ะ เพราะถ้ามึงไม่มีใบขับขี่ตามกฏหมาย(พระธรรมวินัย)ถือว่า มึงไม่รู้กฏหมายจึงทำผิดกฏหมาย เจตนารมณ์ของกฏหมายตั้งใจจะเอาผิดเฉพาะกับคนที่รู้กฏหมายแต่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฏหมายเท่านั้นเป็นสำคัญ ฉะนั้นการแสดงใบขับขี่จึงเป็นการแสดงว่ามึงเป็นผู้ที่รู้กฏหมายเพราะผ่านการทดสอบวัดความรู้มาแล้ว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาเอาผิดกับมึงได้เหมือนกันกับเวลาพระภิกษุปลงอาบัติทำไมต้องปลงอาบัติในวันพระ วันที่สวดปาฏิโมกข์ การสวดปาฏิโมกข์คือการสวดทบทวนกฏระเบียบพระ เป็นการแสดงว่ามึงเป็นผู้รู้กฏหมายพระแล้ว หลังจากนั้นเมื่อมึงทำผิดเค้าจึงปรับอาบัติมึงได้เพราะเจตนารมณ์ของปาฏิโมกข์มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการแสดงใบขับขี่ คือมึงรู้แล้วว่าเค้าห้ามอะไร แต่หากมึงละเมิดนั่นคือจงใจเจตนาฝ่าฝืนธรรมวินัยอันนั้น
🔔🙇♀️🔔เศียรปัญญา
🔕🙇♀️🔕 ของ พระพุทธองค์ หรือ เปล่า ค่ะ ที่เป็นเส้นผมกลมๆๆๆ 🙇♀️♥️🙇♀️
🙏 ....💯%....🌺..🙏...
ธรรมะ คือ ธรรมชาติ พระพุทธเจ้าท่านเห็นสภาวะจริงๆๆๆของธรรมชาติ แล้วพบกันคะ....
ไหนครัปถอดรหัด แบบนี้ผมรู้หมดแล้ว
เอาเปลือกมาคุย อุตส่าห์หลงฟัง
55555 ไอ้พวกเถรใบลาน ไอ้พวกรู้เยอะใช่จะปฏิบัติได้ ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนั้นเหมือนมึงอ่ะ ดูจากคำเม้นกูว่ามึงรู้เยอะแต่ปฏิบัติตามไม่ได้ เผลอๆชอบชักเว่าด้วย
พระเจ้าไม่ใช่มนุษยและไม่มีอะไรที่เหมือนกับพระเจ้า และพระเจ้าไม่เหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่าง
คุณพุดอะไรพี่ดไปบางคำไหมครับ
ผมอึ่งในความคิดของอาจารย์พิเชฐครับ
แต่ก่อนผมก็ส่งใสเหมือนกันครับว่าพระพุทธองค์ท่านปลงผมหรือไม่ ?
หรือว่าพระองค์ท่านไว้ผมอยู่องค์เดียวแล้วสั่งให้ทั้งภิกษุและภิกษุณีโกนผมทั้งหมด
ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องนำหลักฐานมาแย้งกันและต้องเป็นหลักฐานที่เชื่อถือได้
(ไม่เป็นสาวกภาษิตหรืออรรถกถา)
ครั้งหนึ่งอัคคิกภารทวาชพราหมณ์ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเสด็จมาแต่ไกลทีเดียวครั้น
แล้วได้ต่อว่าพระผู้มีพระภาคว่า
"หยุดอยู่ที่นั่นแหละคนโล้น หยุดอยู่ที่นั่นแหละสมณะ หยุดอยู่ที่นั่นแหละคนถ่อย ฯ"
(หลังจากนั้นก็โดนพระพุทธเจ้าสอนกลับไปว่าธรรมอะไรที่ทำให้บุคคลเป็นคนถ่อย)
อ่านเพิ่มเติมได้ใน พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๕
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ หน้าที่ ๒๗๒
ในครั้งพุทธกาล องคุลีมาลก็ยังเคยตะโกนว่า “สมณะโล้น (พระพุทธเจ้า) หยุดก่อน ๆ”
และก็จะมีอีกหลายพระสูตรครับ ที่หลายคนเรียกพระพุทธองค์แบบนี้ ว่า สมณะโล้น
ครั้งนั้นแล สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ครั้นบูชาไฟ บำเรอการบูชาไฟอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำสุนทริกา
ครั้งนั้นแลสุนทริกภารทวาชพราหมณ์ครั้นบูชาไฟบำเรอไฟแล้วลุกขึ้นจากอาสนะ เหลียวดูทิศทั้งสี่
โดยรอบด้วยคิดว่า ใครหนอแล ควรบริโภคเข้าปายาสที่เหลือนี้ สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ได้เห็น
พระผู้มีพระภาคประทับนั่งทรงคลุมพระกายตลอดพระเศียรอยู่ที่โคนไม้แห่งหนึ่ง จึงถือเอาข้าว
ปายาสที่เหลือด้วยมือซ้าย ถือเต้าน้ำด้วยมือข้างขวา เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคได้ทรงเปิดพระเศียรออก เพราะเสียงฝีเท้าของสุนทริกภารทวาช
พราหมณ์ ครั้งนั้น สุนทริกภารทวาชพราหมณ์คิดว่า ท่านผู้นี้เป็นคนโล้นๆดังนี้แล้ว ปรารถนา
จะกลับจากที่นั้น ลำดับนั้น สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ดำริว่าแม้พราหมณ์บางพวกในโลกนี้ก็
เป็นคนโล้น ผิฉะนั้นเราพึงเข้าไปถามถึงชาติ ทีนั้นแล สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ได้เข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ท่านมีชาติอย่างไร ฯ
พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๕
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
ก็จะมีครั่งหนึ่งที่พราหมณ์มาขอเข้าเฝ้าพระพุทธ โดยในขณะนั้นมีพระพุทธเจ้าและมีภิกษุแวดล้อมอยู่ประมาณห้าร้อยรูป
เวลาพราหมณ์เองก็ไม่รู่ว่าพระพุทธเจ้ารูปไหน(เท่าที่ดูจะสังเกตเห็นว่าถ้าพุทธเจ้าไว้ผมจริงพราหมณ์จะรู้ทันทีว่านั้นคือ
พระพุทธเจ้าเพราะความโดดเด่น) จึงต้องวานให้แถวนั้นพาไปหาถึงรู้ว่านี้คนนี้แหละคือพระพุทธเจ้า
ยังมีอีก:
ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ นิคมชื่อว่า โขมทุสสะของเจ้าศากยะ ในแคว้นสักกะ ฯ
ครั้งนั้นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงนุ่งแล้วทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปบิณฑบาต
ยังโขมทุสสนิคม ฯ
สมัยนั้น พราหมณ์และคฤหบดีชาวโขมทุสสนิคม ประชุมกันอยู่ในสภา ด้วยกรณียกิจ
บางอย่าง และฝนกำลังตกอยู่ประปราย ฯ
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าไปยังสภานั้น ฯ
พราหมณ์และคฤหบดีชาวโขมทุสสนิคม ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเสด็จมาแต่ไกล ครั้นแล้ว
ได้กล่าวคำนี้ว่า คนพวกไหนชื่อว่าสมณะโล้น และคนพวกไหนรู้จักธรรมของสภา ฯ
[๗๒๕] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะพราหมณ์และคฤหบดีชาวโขมทุสสนิค
ด้วยพระคาถาว่า ในที่ใดไม่มีคนสงบ ที่นั้นไม่ชื่อว่าสภา คนเหล่าใดไม่กล่าวธรรม
คนเหล่านั้นไม่ชื่อว่าคนสงบ คนสงบละราคะโทสะ และโมหะแล้วกล่าวธรรมอยู่ ฯ
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว พราหมณ์และคฤหบดีชาวโขมทุสสนิคม
ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ท่านพระโคดม ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ท่านพระโคดม
ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ท่านพระโคดมทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย เหมือนหงาย
ของที่คว่ำ เปิดของที่ปิดบอกทางให้แก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืด ด้วยหวังว่าคนมี
จักษุจักเห็นรูปฉะนั้น พวกข้าพระองค์เหล่านี้ขอถึงท่านพระโคดมผู้เจริญกับพระธรรมและพระภิกษุ
สงฆ์เป็นสรณะ ขอท่านพระโคดมทรงจำพวกข้าพระองค์ว่า เป็นอุบาสกถึงพระรัตนตรัยว่าเป็น
สรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดังนี้ ฯ
พระคุณลักษณ์พิเศษ
๑พระเกศา จะไม่งอกไม่ยาว และขดเป็นรูปก้นหอย ใครจะปลงผมท่านได้?
๒พระเศียรที่นูนเกิด เกิดจากตอนบำเพ็ญทุกข์กิริยา มีลมดันให้นูนขึ้นจากการกำหนดตามแบบโยคี เกินวิสัยปกติธรรมดา
๓การจะยกประนมมือ แม้พระพุทธเจ้าด้วยกันก็ไม่มี ยกเว้นกับองค์ปฐม
๔การจะ ยิ้มหรือแย้มพระโอท จะให้เห็นไรฟันแทบไม่มี เป็นเพียงกริยาจิต ที่มีคุณธรรมพิเศษเกิดขึ้นเท่านั้นเป็นเหตุ ยุคเก่าต้องอาศัยพระพรหมมาอธิบายลักษณะ พาสร้างพระพุทธสิหิงค์
พระพุธธเจ้าเป็นชาวอเมรีกันหรอครับคุณสันตี่
รูปปั้นเสร็จหรือยังครับอยากเห็นเป็นบุญตา
ออยล์ บ้านนา น่าจะยังนะคับ ผมเข้าไปดูในช่องหนึงเห็นอาจารย์สันติ บอกว่าจะสร้างพระพุทธเจ้าสูงประมาณ19เมตร ผมว่าน่าจะใช้เวลานานมาก แต่ผมว่าตอนนี้เค้ามีแบบแล้วแหละว่าพระพุทธเจ้าหน้าตาประมาณไหน แต่แค่ยังไม่เปิดเผย แต่ผมรับลองเลยว่าอลังการงานสร้างแน่คับ
เมื่อไรจะมาอับเดทคับ
แจ้งว่าจะเปิดเผย ปี 61
ปีนี้ 62 แล้วนะคับ..
ลองเลื่อนดูหลายๆคลิป
รู้ว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนรูปหล่อคนหล่อหน้าตาดียังไงก็หน้าตาแบบนั้นแหล่ะก็คงจะประมาณติ๊กผสมณเดชบวกมาริโอ้ออกทางแบบคีอานูรีฟนิดๆคงประมาณนั้น
จะอยากรู้ไปทำไมว่า พระพุทธเจ้า เป็นใคร รู้แต่ว่าพระองค์สอนให้ทำความดี ไม่ประพฤติชั่วก็พอแล้ว ปฏิบัติดีแล้วหรือยัง บารมีสูงแค่ไหนที่จะเผยแผ่พระพักษ์
จริง เราเป็นมนุษย์เผยแผ่แค่ พระธรรมคำสอน น่าจะเพียงพอ. อย่าริอาจก้าวล่วงเลย
สุดยอดมากๆค่ะ👍👍👍❤❤🇹🇭🇹🇭🇩🇪🇩🇪🤗🤗🤗😄😄💓💓💓🌞🌞🌞❤❤👍👍
Samret Khruawaengmon +1👍🇩🇪
ให้ พระ เกจิ ดังๆ นั่งสมาธิ เข้า ชาญสมาบัติ ดูสิคับ มีหลาย องค์ ขนาด พระพุทธรุป อยุ่ใต้ดินยังเห็น555
จะให้พระองค์เป็นใครเล่าอย่ายุ่งกับพระองค์ดีกว่าเอาแค่รัชกาลทุกองค์ก็พอ_ก็ประวัติของพระองค์มีอยู่พระองค์คือเจ้าชายสละราชสมบัติมาบวชไปอ่านเอาซิหาไม่ได้หรอกฝรั่งเอ้ยหาพระเยซูเถอะหาง่ายกว่าผมไม่เข้าเลยไปเข้าคริตย์มีเมียคริตย์พุทธปลอมๆทำเพื่อศาสนาของเขานั้นแหละเขาทำได้ทุกอย่างเพื่อล้มพุทธ
Vipakun Ferngkasem มึงดูหนังเยอะไปแล้วสาสสสสส
@@user-oc7do2pe2y สมองอ้ายห่าสันติเหี๊ยย และอีตัวเมีย คริส มึงจะเหี๊ยยอะไรกับ พระ พุทธเจ้า ที่ เหนือกว่า พวกมึงหลายแสนล้านนนน บารมีมากวะห่าลากพวกมึงจะมาทำลายหรือวะ สัตว์
สักการะ'ศักยภาพ' สะกายะวง แปลว่า สะกา ลูกเต๋า วง .. กรุงกบิลภัจจ์ ศักยะวงศ์ โฆษบุตร 'รูปร่าง 'หน้าตา ' สำคัญ'ด้วยหรือ. คำษร คำสร คำศร.คำสอน .คำที่เขียนด้วย อักษรศาสตร์ 'คำสะระ คำศิริ' คำพูด และ อะเสวนาจะ พาลานัง บัณฑิตย์ทรานส์ นั้นจะ เสวนาฯ ปุชนีจะ ปุชนีญ่า นั้นจะ เสวนา'
พระพุทธเจ้าเป็นคนไทย และตรัสรู้ที่แผ่นดินไทย
อ้างว่าภรรยาเป็นนักจิตวิทยา มีความละเอียดอ่อน ต่อความรู้สึก แต่ทำไมจึงคิดจะเผย พระพักษ์จริง บารมีคุณสูงแค่ไหน ผมเคยชื่นชมคุณในด้าน
ปฏิมากรรมที่สมจริง แต่สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ มันเป็นดาบ
สองคม ในด้านนึงเพียงแค่ อยากรู้พระพักษ์จริง. แต่ในอีกด้านถ้าคุณเผยออกมาแล้วได้อะไรที่ดีขึ้นหรือ ลองนึกภาพ เศียรพระพุทธรูป ที่เป็นของสะสมในสายตาต่างชาติ คนไทยก็รู้สึกแย่อยู่แล้ว
แต่ถ้า เศียรที่เปลี่ยนจากพระพุทธรูป เป็นเศียรพระพุทธเจ้าพระพักษ์จริง
เท่ากับทำลาย ถึงแก่นแท้ของพระศาสนา ปัจจุบันท่านคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลุดพ้นจากมนุษย์แล้ว แต่จะปั้นท่านให้เป็นมนุษย์ อยากรู้จริงๆว่า คุณศรัทธา หรือแอบแฝงจ้องทำลาย ถ้าปั้นพระพักษ์จริงในถานะ เจ้าชายสิทธถะ ก่อนจะเป็นพระพุทธเจ้า ก็อีกเรื่องนึง
แต่ไม่มีการกล่าวถึงเจ้าชายสิทธถะเลย แต่กลับจะปั้นพระพุทธให้เป็นมนุษย์ หากวันใด ต่างชาตินำพระเศียรที่มีพระพักษ์จริง ไปซื้อขายแทนเศียรพระพุทธรูป ศาสนาคงไม่เหลือ คุณจะรับผิดชอบไหวหรือ มันเป็นความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนของชาวไทย
นักจิตวิทยาที่ดี จะไม่ทำแบบนี้ เพราะยังไม่ใช่คนไทยที่แท้่จริงมากกว่า.
ศิลปากร กรมสินประ "กลอน 'สิน' ศิลป์' ษิณ..
อยากรู้เรื่อง พระพุทธเจ้า แนะนำว่าต้อง ค้น พิสูจน์ " หารอยต่อตอนหลับกับตอนตื่นของตัวเอง ให้รู้ได้ทัน ตามรู้ทันได้ก่อน ว่าตื่น-หลับ ตอนไหน อย่างไร" เริ่มต้นตรงนี้ก่อน ที่เหลือมันแค่ขี้ปากต่อๆมา เชื่อเถอะอย่าหลอกชาวบ้านเลย พุทธลักษณะจะเอาใครมาเปรียบนั้นไม่มี จะพาตัววิปลาสหากบอกคนอื่นผิดๆ แม้เทวาก็ไม่อาจนำมาเปรียบได้
7:53 ผมเป็นขนหมอยงง
พระพุทธเจ้าเป็นคนไทย ตรัสรู้ ี่ที่ไทย กินอนาเขต พม่า มอญ ลาว ทุกวันนี้ รอยพระพุทธบาทก็อยู่ที่ไทย จะให้เชื่อที่นักล่าอนานิคม มารับรองอินเดีย เนปาล ศรีลังกา เป็นแดนพุทธนั้นคงไม่ถูก พุทธเจ้าเป็นบรรพบุรุษของไทย ลาลูแบ กูบอกอย่างนั้น ส่วนคนเนปาล จะเป็นใครที่มาบวชในพุทธศาสนาก็เรียกคนทุกคนว่า ศากยะหมดทุกคน
อินเดีย เนปาล สมัยพุทธภูมิ เป็นชมพูทวีป
@@user-xk9ei2fj4j คุณกับผมเกิดไม่ทันหรอก แต่คุณปฏิเสธความเชื่อนี้ไม่ได้ว่า เกิดจากประวัติศาสตร์ของนักล่าอาณานิคม สมัยนั้น มีอังกฤษฝรั่งเศสที่เขียนให้คนทั้งโลกอ่าน แต่คนไทยกลับเชื่อพวกคริต ที่รู้ดีศาสนาอื่น ลักษณะผู้คนอินเดียเนปาล การกินการอยู่ ไม่มีอะไรตรงกลับพระไตรปิฏก..เขากินแป้งจิ้มเครื่องเทศ มีอีกมากมายที่ไม่ตรง
กุรุ้สึกเบื่อคอมเมนต์วะ ทำตัวเปนพุทธแท้ ไม่อยากให้ยึดติด นั้นนี่โถ้ววว คนเก่งงถรุ้ย ถ้าพุทธแท้เขาจะนิ่งไม่อวดฉลาดหรอก รุปปั้นคืองานศิลปะเปนนามธรรมจับต้องได้ คนบ้างคนมันโง่ มันต้องอาศัย นามธรรมสิ่งที่มองเหนก่อนเพื่อเปนสื่อ ให้เขาศรัทธาไง
ถ้า คิดดีทำดีก็ทำเถอะ แต่ถ้าคิดแบบจังไร เหมือน ลัทธิอิสลาม ห่าลากมันคือเหี๊ยยยมากสะนะ
ความสำคัญไม่ใช่รูปลักษณ์ พระองค์ปรารถนาที่จะฝังรากลึกแห่งธรรมให้มวลมนุษย์ชาติได้สัมผัสได้ศึกษาร
ผมจะเล่าด้านเป็นจริงนะคับ
ไม่มีผู้ใดในโลกนี้เคยเห็นพระพุทธเจ้าเรื่องเล่าที่จารึกไว้นั้นสมัยก่อนไม่มีกระดาษปากกาหรือเมจิกหรือบึกทุกคอมพิวเตอร์ก็ไม่มีผมว่าเรื่องราวทั้งหมดพึ่งจะมาเขียนขึ้นเมื่อไม่กี่ร้อยปีมานี่แหละแต่ก็เป็นเรื่องดีสอนไห้คนทำดี
งง..กับมึนเป็นเรื่องเดียวกันกรีกโบราณ ยุคโรมัน เขียนหนังสือว่าดภาพ เเละปั้นปฎิมากรรมเกิน2000ปีเเล้วหนูไปศึกษาดูประวัติศาสตร์ก่อนตอบน่าจะดี ประเทศไทยยังไม่มีเลยตอนนั้น น้าก็ยังไม่เกิดเเต่อาศัยเรียนมาศึกษาตอนต่อโทก็เริ่มเข้าใจเเต่ไม่สงสัยเหมือนพวกเขาเหล่านั้นเพราะรูปลักษณ์หน้าตาเป็นเพียงสัญญลักษณ์ที่เเสดงให้คนเรารู้
เราเห็นเราเป็นเรามี เเต่เพียงสมมติ สุดท้ายมันก็เป็นดินน้ำลมไฟตามธรรมชาติเเต่สิ่งทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังค้นหาพบเจอนี่สิถือว่าสำคัญ เเละเป็นความจิงของโลกที่น่าค้นหา ไม่ได้ดับสิ้นสูญสลายตายไปตามรูปหรือตามกาลเวลายังจะดำรงคงอยู่อีกหลายยุคหลายสมัยส่งต่อกันจากรุ่นสู่รุ่นตราบเท่ามนุษย์ชาติยังมีหลงเหลืออยู่ในโลกใบนี้ นี่เเหละที่มาของธรรม หรือ...ธรรมชาติที่มีเพียง...หนึ่งมนุษย์ที่เข้าใจเเละหยั่งรู้อย่างเเตกฉานนำมาสู่การถ่ายทอดบอกเล่ากันไม่จบไม่สิ้นอันเป็นนิรันดร์
สนับสนุนตามความจริงมิใช่ออกมาจากหนังสือเพราะประสบการณ์มากกว่าศรัทาสัจจะดีกว่านี้คือสิ่งที่ทำให้เราเชื่อมั่นได้
แสดงว่าพ่อแม่ไม่ได้สอนให้นับถือตั้งแต่เด็กๆขนาดถามยังงงไช่พอต้องอ่านมาก่อนตอบแน่ๆที่จริงยังอีกมากที่พูดมันเหมือนการปกครองเท่านั้นพระองค์สอนให้ไม่จองเวรจองกรรมให้อโหสิอภัยไม่เบียดเบียนไม่ฆ่าให้เสียสละไม่เห็นแก่ตัว
พระพุทธเจ้าเป็นใครคนพุทธยังไม่ทราบกันอีกหรือเรียนกันมาทุกคนเดี๋ยวนี้มีอะไรแปลกๆแล้วมาถามทำมัยให้งงสองพันกว่าปีใครอวดรู้บ้างแค่ดำเนินรอยตามพระพุทธองค์ปฏิบัติตามให้ได้ซิได้เห็นพระองค์แน่ๆเห็นความดีของตัวเองที่เข้าถึงพระพุทธองค์ได้ได้เห็นแสงธรรมมะใช้ต้องผอมเพราะพระองค์อดทนทรมารร่างกาย
Vipakun Ferngkasem แล้วรู้หรอว่าหน้าตาท่านเป็นอย่างไร
Vipakun Ferngkasem อาจารย์ก็ทำตามคำสอนของพระองค์ ปฏิบัติธรรมพร้อมๆไปกับการหน้าหลักฐานข้อมูลด้วยตรับ
+Not Too ขอให้ดูไปใช้สติฟังการพูดควรนอบน้อมมีไหมการที่ว่าเอาพระห้อยที่เขาพูดเหมือนห้อยสิ่งของธรรมดาควรจะพูดว่าที่คนเราได้เอาพระมาแขวนคอด้วยความนับถือจะฟังดูว่าคนพูดนับถือแม้เวลาพูดก็ต้องรู้ว่ากำลังพูดถึงสิ่งที่เครพควรมีคำพูดนอบน้อมด้วย
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นตถาคต
ในคลิปนี้ คือจะสื่อถึงรูปร่าง หน้าตาพระพุทธเจ้า
ที่คุณพุทธรับรู้ เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าคือ
1)รูปปั้น หรือ พระพุทธรูป ที่เสมือนจริง
2)รูปปั้น หรือ พระพุทธรูป ที่อยู่ในจินตนาการ ----ซึ่งข้อนี้ เราเห็นจนชินตา แต่ละประเทศที่นับถือพุทธ ก็ปั้นออกมาในรายละเอียดที่แตกต่างกัน ตามจินตนาการ และคำบอกต่อๆกันมา
6ปีผ่านมาแล้วตอนดีปั้นเสร็จแล้วหรือยังต้องการทราบว่าประดิษฐานไว้ที่ใดจะไปนมัสการ