ใครเจอวอนแจ้ง! 'จิงโจ้' หลุดสวนสัตว์เชียงใหม่ กระโดดออกถนนขึ้นดอยสุเทพ ก่อนหายเข้าป่า
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 28 พ.ค. 2024
- เชียงใหม่ เป็นงง!! จิงโจ้ กระโดดกลางถนนขึ้นดอยสุเทพ สวนสัตว์เชียงใหม่ รับหลุดระหว่าง จนท.เข้าไปความสะอาดกรง เร่งค้นหา ล่าสุดพบรอยเลือด คาดบาดเจ็บระหว่างหลบหนี ยกเลิกภารกิจค้นหาชั่วคราว
ช่วงเช้าวานนี้ (29 พ.ค.67) มีนักท่องเที่ยวที่กำลังขึ้นไปดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ โพสต์คลิปภาพนาทีที่เจอจิงโจ้ตัวหนึ่ง กำลังกระโดดไปตามถนนเส้นทางขึ้นดอยสุเทพ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ช่วงเลยวัดศรีโสดาพระอารามหลวง ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม เข้าไปในซอยข้างสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหว
จากการสอบถาม เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ทราบว่า เป็นจิงโจ้ที่หลุดออกจากส่วนจัดแสดงสัตว์ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ เมื่อเวลาประมาณ 07.50 น. เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมทีมสัตวแพทย์ ได้เร่งติดตามอย่างใกล้ชิด ในพื้นที่ป่าหลังสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหวเชียงใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเตลิดหมาที่ไล่เห่า วิ่งเข้าป่าไป โดยทางสวนสัตว์ประสานเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ระดมกำลังช่วยออกติดตามค้นหา เดินเท้าเข้าไปในป่าที่บริเวณด่าน 1 อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
ต่อมา นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมด้วยนายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ได้แถลงรายละเอียด ระบุว่า จิงโจ้แดงเพศเมีย อายุ 2 ปี หลุดออกจากส่วนจัดแสดงบริเวณคอกกักด้านหลัง โดยจิงโจ้เดินสวนทางกับพนักงานเลี้ยงที่กำลังจะเปิดประตูคอกกักเข้าไปทำความสะอาด หลังจากนั้นได้ออกประตูหลังคอกกักวิ่งกระโดดไปด้านหลังเข้าสู่ถนนด้านหน้าส่วนจัดแสดงบริเวณลิงไทย และโซนสัตว์ออสเตรเลีย
เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ได้ติดตามไปเป็นระยะๆ ทำการกั้นบริเวณไว้ แต่จิงโจ้แดงกระโดดและวิ่งออกนอกสวนสัตว์เชียงใหม่ แล้วไปเจอสุนัขไล่เห่า ทำให้จิงโจ้เตลิด วิ่งขึ้นดอยสุเทพ ไปตามถนนเข้าหมู่บ้านห้วยแก้ว ไปยังสถานีวัดความสั่นสะเทือน จังหวัดเชียงใหม่ กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ
ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ ระบุว่า ได้รายงานไปยังองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตามหาจิงโจ้แดงกลับคืนมาให้เร็วที่สุด พร้อมกับย้ำให้เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความละเอียดรอบคอบมากยิ่งขึ้น
ขณะที่สัตวแพทย์หญิง กรรณิกา จันทรังษี รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์วิจัยสุขภาพสัตว์ กล่าวว่า จิงโจ้แดงเป็นสัตว์ที่พละกำลังแข็งแรงมาก พลังกล้ามเนื้อค่อนข้างสูง กระโดดได้ไกลและไวมาก อีกทั้งจิงโจ้จะตื่นตกใจและเตลิดได้ง่าย ดังนั้นต้องใช้ความละมุนละม่อมในการจับตัว หากประชาชนพบเห็นจิงโจ้ที่หลุดไม่ แนะนำว่าไม่ควรวิ่งไล่ แต่ควรแจ้งเจ้าหน้าที่และทีมสัตวแพทย์ โดยเจ้าหน้าที่วางแผนจะยิงยาสลบ จะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด เพื่อไม่ให้จิงโจ้แดงเตลิด เพราะหากใช้วิธีอื่นอาจทำให้จิงโจ้แดงตื่นตระหนกตกใจ ซึ่งระบบร่างกายของจิงโจ้แดงจะใช้พละกำลังจากกล้ามเนื้อ หากเกิดอาการตื่นตระหนกตกใจมากๆ จะทำให้ใช้พละกำลังมาก จะทำให้กล้ามเนื้อสลาย ทำให้ไตและหัวใจทำงานหนัก อาจทำให้ระบบไตและหัวใจวายได้
ด้านนายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่อุทยานฯ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ และตำรวจ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ได้มีปูพรมค้นหาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับใช้โดรนค้นหาร่วมกับชุดลาดตระเวนเดินเท้า รวมทั้งประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนและผู้นำชุมชน หากพบเห็นจิงโจ้ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เพราะเกรงว่าจิงโจ้อาจจะถูกสุนัขไล่กัด โดยช่วงเที่ยงวานนี้ (29 พ.ค.67) เจ้าหน้าที่ชุดติดตามรายงานว่า พบรอยเท้าของจิงโจ้ข้ามลำห้วย ห่างจากถนนที่พบในคลิปประมาณ 2 กิโลเมตร จึงจัดกำลังล้อมจุดดังกล่าวไว้ แต่จากการค้นหายังไม่พบ
จนกระทั่งช่วงค่ำวานนี้ เจ้าหน้าที่ชุดติดตาม พบร่องรอยของจิงโจ้ในป่าลึก ช่วงป่าห้วยช่างเคี่ยน โดยพบรอยเลือดขนาดประมาณ 15 เซนติเมตร และรอยเท้าของจิงโจ้บริเวณโขดหิน คาดว่าจิงโจ้ได้รับบาดเจ็บในช่วงที่ตกใจเพราะถูกสุนัขไล่เห่าและวิ่งเตลิดเข้าป่าไป ซึ่งถนนบริเวณนั้นเป็นรั้วลวดหนาม จึงคาดว่าน่าจะถูกรั้วลวดหนามบาด หรือไม่ก็บาดเจ็บเพราะถูกหนามต้นไม้หรือกิ่งไม้บาด ซึ่งคราบเลือดเริ่มแห้งแล้ว จิงโจ้น่าจะผ่านจุดที่พบรอยเลือดไปแล้วหลายชั่วโมง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดค้นหา ได้ปูพรมค้นหาทั้งภาคพื้นดินและโดรน ในบริเวณป่าห้วยช่างเคี่ยน รัศมี 1 ตารางกิโลเมตร แต่ยังไม่พบตัวจิงโจ้แดง โดยช่วงค่ำได้ยุติภารกิจค้นหาชั่วคราว เพราะมืดแล้วอาจจะเกิดอันตรายกับเจ้าหน้าที่ได้ โดยในวันนี้ (30 พ.ค.67) เวลา 8.00 น. เจ้าหน้าที่จะเริ่มปฏิบัติการค้นหาอีกครั้ง โดยจะขยายพื้นที่ ไปทางทิศเหนืออีก 1 ตารางกิโลเมตร
ปัจจุบันสวนสัตว์เชียงใหม่ มีจิงโจ้แดงทั้งหมด 23 ตัว เพศผู้ 3 ตัว เพศเมีย 15 ตัว และยังไม่ทราบเพศอีก 5 ตัวเนื่องจากยังเป็นลูกจิงโจ้ที่ยังไม่ได้สำรวจเพศ โดยสวนสัตว์เชียงใหม่ สามารถเพาะขยายพันธุ์ได้จำนวน 2-4 ตัวต่อปี
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : ch3plus.com/news/social/morni...
-------------------------
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 30 พฤษภาคม 2567
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : ch3plus.com/news/programs/mor...
facebook : / morningnewstv3
Twitter : / morningnewstv3
TH-cam : cutt.ly/MorningnewsTV3
Tiktok : / morningnewsch3
#3PlusNews #ข่าวช่อง3 #สรุยทธ #ไบรท์
ขอให้เจ้าจิงโจ้ปลอดภัยด้วยค่ะ🙏
ขำก๊ากตอนซ้อมจิงโจ้หลุด 😆
55555555555555+++
ขอให้องปลอดภัย
มีซ้อมจิงโจ้ด้วยขำเลยพอหลุดจริงที่ซ้อมมาใช้ไม่ได้เพราะไม่เหมือนกันกับที่ซ้อมเลย😂
ตายเรียบร้อยโรงเรียนจิงโจ้แล้ว
สงสารขอให้ปลอดภัยกลับมานะ 😢😢😢
ตายแล้ว
กลัวกลายเป็นลาบ นายพรานเยอะ
แจ้งใครครับ
ผอ. ออกสวิงกิ้งกับสมาชิก
ไม่มีผู้รับแจ้งครับ
ทำไปได้เนอะการซ้อมจับจิงโจหลุด🤣🤣🤣
สุดท้ายที่ซ้อมมาก็ไม่ประสบผลสำเร็จ😂
ซ่อมแผนยังกะเด็กเล่น🤣🤣🤣
โดนหมาจรจัดกัดตายแน่นอน ไม่น่ารอดหรอก ประเทศไทยหมาจรจัดเยอะมาก 😢
มันเป็นแผนของท่าน ผอ. หาเรื่องเบิกงบประมาณเพื่อใช้จ่ายเวลาเข้ากลุ่ม "สวิงกิ้ง" ... รึเปล่า...?
จิงโจ้ปกติต้องอยู่ออสเตรเลียรึป่าว???😤🤯😱🤫🤫🤫🤫🤫🤫🤫🤫🤫🤫
6:12 กูจะรั่ว
ปล่อยเค้าไปอยู่กับธรรมชาติหน้าจะดีมากถ้าไม่มีใครป่องร้ายมันนะ
อย่าเลยพี่ เดี่ยวไฟมาจะกลายเป็นแค่ซาก
ถ้าไม่มีป่ายูคาลิปตัสมันอยู่ไม่ได้😮
@@pitsayavong4533ผมไม่รู้นะว่ามันทานอาหารอะไรแต่ผมอยากให้มันเป็นอิสระแต่นั้น
เงินๆ ราคาแพงอยู่นะ จิงโจ้น่ะ 😅เจ้าของสวนสัตว์ร้องไห้แน่ถ้ามันหายไป
@@alexvilath8192 ปล่อยอิสระกับปล่อยไปตายมันคนละอย่างกันนะครับ นี่ไม่ใช่ถิ่นมันและอีกอย่างสัตว์พวกนี้ส่วนมากเกิดและโตในสวนสัตว์อยู่แล้ว ลองปล่อยออกไปสิติให้ไปปล่อยออสเตรเลียถิ่นมันก็ไม่รอด
อาหารสิงโต