ตรัง เรือนำเที่ยวพลิกคว่ำในทะเลตรัง ขณะกำลังกลับขึ้นฝั่ง ส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวเสียชีวิต 1 ราย

เกิดเหตุเรือหางยาวนำเที่ยวล่ม ในทะเลตรัง ห่างจากฝั่งประมาณ 2 กิโลเมตร หลังจากนำนักท่องเที่ยวชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จำนวน 11 รายเที่ยวทะเลตรัง โดยมีนายท้าย 1 ราย ลูกเรือ 1 ราย และไกด์อีก 1 รายโดยสารมาด้วย ระหว่างกำลังกลับขึ้นฝั่งนายท้ายเรือบอกเชือกบังคับเรือขาด ส่งผลทำให้เรือพลิกคว่ำมีผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยววัย 68 ปีเสียชีวิต ขณะเดียวกัน ผวจ.ตรัง รุดลงพื้นที่คาดเกิดจากการสำลักน้ำ ทั้งหมดสวมเสื้อชูชีพ เบื้องต้นอยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุที่แน่ชัด
เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. วันนี้ 4 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือหางยาวนำเที่ยวล่ม บริเวณร่องน้ำใกล้สะพานปากเมง พื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ขณะกลับจากท่องเที่ยวทะเลตรัง เพื่อจะมาขึ้นฝั่งที่บริเวณหน้าท่าเรือป้อมจ่าดำอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งภายในเรือมีนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 11 คน แบ่งเป็นผู้ใหญ่ประมาณ 7 คน และเด็กประมาณ 4 คน อีกทั้งยังมีนายท้ายเรือ 1 คน คนเรือ 1 คน ไกด์อีก 1 คน รวมทั้งหมดจำนวน 14 คน ทำให้นักท่องเที่ยวที่ทั้งหมดสวมเสื้อชูชีพ ลอยคออยู่ในทะเล
ขณะเดียวกันเรือสปีดโบ๊ทนำเที่ยวที่เห็นเหตุการณ์ให้การช่วยเหลือไว้ ก่อนจะทยอยนำผู้ประสบภัยขึ้นมาบนฝั่ง โดยมีทีมแพทย์พยาบาล รพ.สิเกา หน่วยกู้ภัยสว่างภักดีตรัง หน่วยกู้ชีพ อบต.ไม้ฝาด ให้การช่วยเหลือก่อนเร่งนำส่ง รพ.สิเกาอย่างเร่งด่วน ส่งผลทำให้ได้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติไทยจำนวน 1 ราย ทราบชื่อคือ นางอัจฉรา ตรีประเสริฐสกุล อายุ 68 ปี เป็นชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และยังมีผู้ได้บาดเจ็บจากการสำลักน้ำอีก 5 ราย เบื้องต้นทราบว่านักท่องเที่ยวทั้งหมดเป็นเครือญาติและคนสนิทกัน แบ่งเป็น 3 ครอบครัว
ต่อมาในเวลาประมาณ 19.50 น. วันเดียวกัน ที่ รพ.สิเกา จ.ตรัง นายทรงกรด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง พร้อมด้วย นายณหทัย สุนทรนนท์ ป้องกัน จ.ตรัง และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้เข้าเยี่ยมผู้ที่ประสบภัย สาเหตุมาจากการสำลักน้ำ ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่ รพ. จำนวน 5 ราย โดย 1 รายเป็นเด็กชายถูกนำตัวส่ง รพ.ตรัง
นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง กล่าวว่า ในนามของจังหวัดก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น เบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือหน่วยรักษาพยาบาลหรือโรงพยาบาลสิเกา ก็ได้ทำเต็มที่แล้ว ในส่วนของผู้เสียชีวิต 1 ราย ทางโรงพยาบาลสิเกาได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ก่อนจะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลประจำจังหวัด ซึ่งผู้เสียชีวิตรายนี้อาจจะสำลักน้ำ น้ำอาจจะเข้าปอดเยอะหน่อย ตอนที่ขึ้นมาก็ไม่รู้สึกตัวแล้ว ส่วนอีก 4-5 คนที่เหลืออาการพ้นขีดอันตราย แต่ยังต้องพักรักษาที่โรงพยาบาลสิเกาต่อ