Honda City e:hev VS Mazda 2 Diesel วัดจะๆ ไฮบริด VS ดีเซล ใครตัวจริงเรื่องความประหยัด
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 26 เม.ย. 2024
- ในยุค ราคาน้ำมันแพงแบบนี้ เราต่างมีคำถาม และ อยากหาทางออกในการใช้รถยนต์ ให้มีเงินมากพอสบายกระเป๋า ที่ผ่านมา เราอาจเคยได้ยินว่า รถไฮบริด ประหยัดน้ำมัน มากกว่า และ รถสันดาปนั้น จะไม่ ประหยัดน้ำมัน ทั้งที่ย้อนไป 10 ปีที่แล้ว เก๋งดีเซล นี่ขึ้นชื่อ ลือชามากๆ ก่อนจะเจอ เรื่อง โกงไอเสีย
วันนี้ ทีมงาน Ridebuster เราจึงท้าพิสูจน์ ด้วย 2 รถยนต์นั่งขนาดเล็กในยุคนี้ Honda City e:hev VS Mazda Diesel XD ที่มีราคาใกล้เคียงกัน จับต้องง่าย เราลองมาดูสิวา ถ้า ไฮบริด VS ดีเซล ใครจะประหยัดกว่ากัน ..
วันนี้ ทั้ง จอน และ พี่เดือน จะมา พาเพื่อนๆ ท้าพิสูจน์ ที่ทุกคน อาจจะต้องเซอร์ไพร์ส
รับชมในคลิป
00:00 เกริ่นนำ
01:28 เงื่อนไข และวิธีการ ทดสอบ
02:30 Cut Scene 1
03:46 ขับขี่นอกเมือง Honda City
10:17 ขับขี่นอกเมือง Mazda 2 Diesel
14:37 สรุปประหยัด นอกเมือง
17:42 ลองขับในเมือง
19:36 ขับในเมือง Mazda 2
23:33 สรุป - ภาพยนตร์และแอนิเมชัน
เคยใช้มาสด้า2 ขายแล้วมาใช้ city turbo ความคิดส่วนตัว มาสด้า2 ดีกว่า
ผมใช้ 2 ดีเซล มา 5 ปีละครับ คนซื้อมาใช้น้อยคนจะขับเดิมๆ เค้าเอามาตัด DPF อุด EGR ออก กันทั้งนั้น วิ่งทางไกล 500-700 กิโลเมตร เฉลี่ยแล้วโลละ 1 บาทเองครับ ขับความเร็ว 90-100 แต่ถ้าขับ 120 ตลอดทางก็ 1.4-1.5 บาท ต่อกิโลครับ ส่วนค่าบำรุงรักษาก็ไม่แพง รอบละ 2000 นิดๆ แต่รอบเลขคู่จะประมาน 3000 เพราะอาจมีพวกกรองเชื้อเพลิง + น้ำมันเกียร์ ถือว่าเป็นรถที่ดีคันนึงเลย เห็นคนขับได้โลละ 80 สตางค์ก็มี
ใช่ครับ
mazda ดีเซล มีปัญหาอะไรจุกจิกมั้ยครับ เพราะว่าเคยอ่านมา เขาก็ว่ากันว่ามีเรื่องน้ำดันหรือปั็มติ๊กอะไร พยายามหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจครับ สนใจตัวดีเซลของ Mazda มากครับ อยากได้ความคิดเห็นจากผู้ใช้จริงครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
@@nirutha ส่วนตัวนะครับ ถ้าซื้อมา แล้วใช้ไป 1-2 ปี แล้วนำไปตัดระบบ Egr ไม่ให้เอาเอาเสียวนกลับมาเข้าเครื่องใหม่ ตัด Dpf ตัวกรองเขม่าไอเสียออก ก็ขับได้ยาวๆครับ แล่วก็เปลี่ยนอุปกรณ์เสียตามระยะเช่น พวก แท่นเครื่อง สายพาน บูชปีนก ลูกปืนล้อ แบต ตามระยะเลยครับ
ผมก็กำลังสนใจและศึกษาข้อมูลอยู่เลยครับผม ลังเล ระหว่าง 2 ตัวนี้เลยครับผม ผมเน้นประหยัดไม่เน้นซิ่งครับ ปกติก็ขับไม่ค่อยเกิน 70-90 อยู่แล้ว จะประหยัดดีมากๆ ไหมเอ่ยครับ
ประหยัดจนร้องขอชีวิต@@sonkjungwatloei
สภาพในเมือง จริงๆน่าจะลองในเมืองเช่น สีลม สุขุมวิท น่าจะดีกว่าครับ ทุกวันนี้ผมไปทำงานจากบ้านไปออฟฟิส 7กม. ใช้เวลา 45 นาที คันบีเอ็มผมได้ 5 กม./ลิตร อีกคัน HRV 2022 ผมได้ 16 กม./ลิตร
อยากให้ลองกระบะอีซูซุ1.9/วีโว่2.4รุ่นท๊อปทั้งคู่ครับ
ใช้ mazda 2 ดีเซล อยู่จริงๆ ผมว่ารถเขาเป็น minihybrid (แต่ใช้เฉพาะกับระบบไฟฟ้าในรถ) ปกติใช้ในเมือง(กทม)เฉลี่ยขับได้ 22-23 โลลิตร ประหยัดดีนะ
ออกมานานแต่ดีไซยังทันสมัยอยู่ สวยถูกใจครับ
นอกเมือง เรื่องประหยัดสู้ M2 Diesel ยากครับ ผมว่ามันแทบประหยัดสุดในรถสันดาปตอนแล้ว นอกจากจะเป็นในเมืองรถติดๆที่ Hybrid จะได้ความประหยัดขึ้นมาทันที แล้วก็ M2D อะไหล่ราคาแซ่บมาก ยังดีไม่ต้องมีระบบ Hybrid มายุ่ง
ถ้าพูดถึงรถเดิมๆโรงงาน เคยขับ 1.0 ธรรมดา City จะแรงกว่าหน่อยนะตอนกดเต็ม ส่วนช่วงล่าง M2D ทำมาดีมากจริงๆ
โดนใจเลย 2 ตัวนี้ ที่ลังเล😮😮
ประทับใจ ตัดสินใจจองฮอนด้าแล้ว กดติดตามให้เลยคะ
ชอบมาสด้าครับ
ที่รอคอย
ชอบมาสด้า2 หน้าตาสวยอนาคตไกล ประหยัดใช้ได้
มีใครคิดแบบผมมั่ง M2 ใช้โฉมเดิมมานานมากแต่ทำไมมันดูทันสมัยกว่า City เยอะเลย(หรือว่า H เจนนี้ตั้งใจวินเทจ) 5555
แค่เรื่องความประหยัด มาสด้ากินขาด ยิ่งราคามันดีเซลถูกกว่าเบนซินอีก ส่วนต่างก็ยิ่งห่างกัน
ใช้ mazda2 diesel ปี 17 ทำการอุดตัดจูนแล้ว ยืนยันอีกเสียงว่า มันประหยัดจริงๆครับ
รีวิวดีครับ ฮาดี ไม่น่าเบื่อ ได้ข้อมูลครบ ทำต่อไปครับ
ขอบคุณมากครับ
ผมมีมาสด้า 2 ดีเซล 5 คัน
ให้เซลส์ใช้งานวิ่งต่างจังหวัด
ยิ้มได้ทุกเดือน 😅 ใช้งานมา 6 ปีแล้ว
mazda ดีเซล มีปัญหาอะไรจุกจิกมั้ยครับ เพราะว่าเคยอ่านมา เขาก็ว่ากันว่ามีเรื่องน้ำดันหรือปั็มติ๊กอะไร พยายามหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจครับ สนใจตัวดีเซลของ Mazda มากครับ อยากได้ความคิดเห็นจากผู้ใช้จริงครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
@@nirutha หนีไป จากใจ
@@nirutha ถ้าตัดกรองเผาเขม่าหรือกรอง dpf อุด EGR และ remap จะประหยัดและแรงขึ้น ต้องลองหาข้อมูลเพิ่มเติมจากในช่อง feeliq mazda ครับ
@@nirutha ที่ใช้มาไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ ตัด dpf ออก
@@ramair3430 เพราะว่าไรครับ
คอนเท้นมาถูกทางเลยครับ เรียลจัดๆ
ขอบคุณมากครับ
น้องน่ารัก
City สายพานแช่น้ำมันเครื่อง ยุ่ย เครื่องพัง จริงไหมครับ
ผมเคยคิดจะออก mazda 2 diesel พอไฟฟ้ามาเลยไปเอา netav
ผมขับ City Hybrid 2023 นอกเมือง 90-100 ได้ 23 โลลิตร ครับ
กินไม่ต่างจากพันเทอโบเท่าไร 18-19ความเร็ว100-120
มาสด้าสองดีเซลประหยัด เราอุดตัดจูนปิดดีพีเอฟ ได้30โลลิตร แบกขอบ 17/205/50 ขึ้นดอยปีนดอยสบายกำลังเหลือภูทับเบิกเขาค้อ ภนนหมายเลข3 ม่อนแจ่มลุยมาหมดแล้ว
ยืนยันอีกเสียงขับ 90-100 ไประยอง 580 กิโล น้ำมันครึ่งถังเองครับ 30 กิโลลิตร สบายๆ
ดีเซลยังไงก้อดีกว่าจะรวยจะจน/ก้อได้ส่วนลดน้ำมันเท่ากัน/เอารถที่ชอบนั้นแระดีที่สุด/หาเงินเพิ่มให้มากๆ/ถึงวันนั้นประหยัดก้อไม่ใช้ปัญหา/ไฮบริดจอดเล่นในเมืองรอโน้นรอนี้แบบไม่ดับเครื่องหรือรถติดมันจะประหยักกว่ามาก/
ดีเซลน้ำมันราคาถูกน่าจะประหยัดกว่านะ
ถ้าคนเคยขับมาสด้าตัวนี้ติดใจแน่นอนแต่ขัดใจเรื่องอะไหล่ บริการและราคาขัดกันจริงๆๆ
city e hev ถ้าขับไปซักระยะทำความคุ้นเคยกับรถใช้รีเจนให้เคยมือ นอกเมือง 27-30 km/lสบายๆ ครับ ทำได้ไม่ยาก ถ้าใช้ความเร็ว 110-120 นอกเมืองยังได้ 23-24 km/l ในเมืองอย่างอยุธยา ใช้ความเร็วไม่ได้ ผมทำได้ 27-28 km/l สบายๆ เลยครับ สำคัญคือต้องทำความคุ้นเคยกับรถซักระยะนึงครับ
ความประหยัดอาจพอๆกันครับ ผมก็ใช้ 2 ดีเซลอยู่ก็ได้ประมานนี้ 26-30 แต่ในเมืองไฮบริดประหยัดกว่าถ้ารถติดหนักๆ แต่พอชดเชยได้เพราะค่าน้ำมันดีเซลมันถูกกว่า
กำลังสนใจมาสด้า2ตัวดีเซล พอดีเลยคับ อยากหารถที่ตอบโจทย์กิโลละบาท ขับช่วง90-110
งั้นคันนี้ตอบโจทย์เลยครับ
ถ้าอนาคต มาสด้าสองดีเซลใส่ไฮบริดมาจะโคตรประหยัดกว่านี้ นี่ขนาดเครื่องเพียวๆยังโคตรประหยัด
มาสด้า2ดีเซลผมทำได้23_25กิโลลิตร
หาพรีอุส มือสองสภาพสมบูรณ์ๆหน่อย ไม่ซีเรียสว่ามันตกรุ่นหรือรถเก่านะ ผมมองว่ามันประหยัดกว่า ทั้งราคา อัตราการสิ้นเปลือง รวมถึงสมรรถนะ ถ้าใครได้ลองใช้แล้ว คุณจะรู้ว่ามันน่าใช้กว่าทั้งสองคันที่ว่ามา จากคนเคยใช้มาคับ
แต่ ระบบ แอด ว่า ณ วันนี้ ของฮอนด้า ดีกว่า โตโยต้า แล้วนะครับ
ชอบๆ
ง่ายๆถ้าใช้ในเมืองบ่อยก็ต้องไฮบริด แต่ถ้าวิ่งนอกเมืองประจำก็ต้องดีเซล
Mazda ดิ ขับมัน ประหยัด ทนแน่นอนดีเซล
ผมใช้มาสด้า2 เบนซิน 1.5 ตัวก่อนสกายแอคทีฟ ได้ 15 กิโลต่อลิตร อีกคันโตต้า C-HR ไฮบริด ได้ ในเมือง 23-25 กิโลต่อลิตร นอกเมืองได้ 19-22 กิโลต่อลิตร รถและเครื่องC-HRใหญ่กว่าซิตี้
ตัวนี้ซดน้ำมันจริงครับ ทั้งๆที่ไม่แรงเท่า city กับ vios งงใจเลย
ประหยัด เครื่องแน่น นี่ยกให้มาสด้า แต่นั่งไม่สบายนะ
ช่วงล่างน้องๆรถยุโรปเลย แต่เสียอย่างเดียวห้องโดยสารแคบไปหน่อย
ผมว่าการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ดีเซลของมาสด้า2ดีเซล มีค่าใช้จ่ายระดับนึงเลยครับ
งั้นผมถามกลับว่า รถอะไรบ้าง ที่เป้นรถสันดาป ที่ไม่ต้องบำรุงรักษา ครับ
@@RideBuster ไม่มีครับขนาดรถไฟฟ้าก็มีค่าใช้จ่ายครับ
@@pomeuniekalanesie2156 ก็นั่นแหลครับ ดังนั้น รถยนต์ทุกแบบ ต่างมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ส่วนจะมาก น้อยก็คือ ประสิทธิภาพตัวรถครับ
ไฮบริดของ ซิตี้ ประหยัดมาก ขับแบบไม่สนประหยัดก็ได้ 20 โลขึ้น ขับแบบปั้นๆหน่อย 30 ก็ทำได้
Mazda 2 EV ถ้าทำมานะขายดีถล่ม ทลาย แน่ๆ🎉🎉
ถ้าขี่ในเมืองเป็นหลัก ขอเพิ่มตัวเลือก nissan cicks อีกคัน ถ้าแบต
nissan click ไม่มีครับ ท่านน่า จะจำ สับสน กับ ฮอนด้า ฮะ
Nissan *kicks หรือป่าวครับ
ลองคิดดูว่าถ้ามาสด้าเป็นไฮบริดอีกนี่ประหยัดสุดเลยมั้ง
ถ้าเป็น เบนซินhybrid อัตราสิ้นเปลืองก็คงพอๆกลับฮอนด้า toyota (คาดว่าใช้ระบบ hybrid toyota)
แต่ถ้าเป็น ดีเซลhybrid อัตราสิ้นเปลืองน่าจะดีขึ้น แต่ราคาแตะล้าน
ทั้งสองรุ่นประหยัดกว่าอีโคคาร์เย่อะเลย น่าอิจฉา
ผมใช้ตจว 25-28 โลลิตร Mazda2 ดีเซล ทางไกลมี 30โลลิตร ใข้มา 6 ปี เรื่องจริง
ยืนยันอีกเสียง 30 กิโลลิตร สบายๆ
เขาไปตัดDPF ไปอุด EGR กันที่ไหนคะ ราคาประมาณเท่าไหร่คะ
อันนี้ แนะนำ ลองไปถามในกลุ่ม มาสด้า 2 ใน Facebook ครับ น่าจะมีคำตอบ ครับ
@@RideBuster ขอบคุณค่ะ
เลือกยาก ชอบความเป็นhondaแต่ชอบสมรรถณะmazdaชอบเครื่องดีเซลhybridหน้าตาชอบhonda
ไฮบริดก่อโบราณ อิอิ
รถคันแรกค่ะเลือกค่ายไหนดีค้ะ
ถ้า คันแรก ฮอนด้า น่าจะดีกว่า ครับ
@@RideBusterทำไมต้องฮอนด้าครับ
@@mayusofmaeroh6593 งั้น แล้ว ทำไม ต้อง มาสด้า
กำลังฟังเพลินๆ ถึงกับลั่นพิธีกรบอก cityอีเห็บ 😅😅😅
แสดงว่า ตั้งใจฟังจริง
ที่แน่ๆ ฮอนด้ารักษ์โลกกว่าแน่นอน รวมทั้งเครื่องเบนซินที่มีความเป็นผู้ดีกว่ามากๆ
I-stop ใช้ไปไม่คุ้มค่าแบต แบตเสียเป็นว่าเล่นเลย ขึ้นรถปุบกดปิดเลย
ถ้า ใช่แบต ที่ ออกแบบมาเฉพาะ ระบบพวกนี้ไม่น่า มีปัญหาครับ
เฉลี่ยแล้ว 2 ปี 1 ลูก
Mazda 2 ดีเซล ถ้าใช้ในเมือง มีแนวโน้มจะมีปัญหา เช่นน้ำมันเครื่องเกิน พาเอาระบบเครื่องยนต์มีปัญหาจุกจิก หรือพังได้ โดยเฉพาะ dpf. ผมออกป้ายแดง วิ่งใน กทม ชานเมือง วันละร้อยกิโล ใช้แบบนี้ประมาณ เกือบหกเดือน น้ำมันเครื่องเกิน เริ่มมา โชคดีย้ายไปทำงานชลบุรี จากนั้นมาไม่มีเรื่องน้ำมันเครื่องเกิน แต่ต้องยอมรับอย่างนึง น้องคือที่สุดของความประหยัด ความแรงก็ได้ด้วย เป็นรถดีที่สุดรุ่นหนึ่งยุคนี้เลยทีเดียว
น้ำมันมันเกินมาจากไหนครับ
@@user-qs3pz7lu2cน้ำมันดีเซลนี้เหละมันเข้าไปผสมในเครื่องยนต์ เจอเยอะในเครื่องดีเซลของมาสด้าหลายๆรุ่น
@@user-qs3pz7lu2c ส่วนใหญ่มาจากรอบเดินเบาครับ รอบเดินเบามันจะเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ เจอรถติดหนัก ๆ รถจะใช้รอบเดินเบาเยอะเป็นส่วนใหญ่ น้ำมันที่เผาไหม้ไม่หมด มันก็จะใหลลงอ่างน้ำมันเครื่องครับ
@@fhai_15 เจอในเครื่องดีเซลทุกยี่ห้อ ครับ มันคือปัญหาหลักของเครื่องดีเซลครับ รถกระบะทุกยี่ห้อเจอปัญหานี้ทุกยี่ห้อครับถ้าไม่ดูแล ... แม้แต่เบ๊นซ์ หรือ บีเอ็ม หรือ ฯลฯ
แสดงว่าเป็นรถ ที่ต้องวิ่งไกลๆ จอดติดไฟแดงนานๆ น้องไม่ชอบใช่ไหมครับ
มาสด้าคือประหยัดจริง แต่ส่วนตัวชอบซืตี้มากกว่าชอบความกว้างและแรงกว่า
มาสด้า2 ดีเซลผมว่าก็แรงอยู่นะครับ แต่ภายในแคบจริง
@@norrasatboonlue1703 ถือว่าแรงกว่าตัวเบนซินเยอะครับ แต่ยังแรงไม่เท่าซิตี้1.0T เลย แต่มันประหยัดน้ำมันแบบสุดๆไปเลย
@@whatsupbiology5310 ซิตตี้เทอร์โบผมยังไม่เคยลอง แต่จากที่ขับ civic fc 1.8 ขึ้นเขาลงเขาผมว่ามันน่ากลัว เกียร์ไม่มีเอ็นจิ้นเบรคให้เลย ถ้าขึ้นเขาบ่อยมาสด้า2สนุกกว่า ต่อให้แรงกว่าก็ขับไม่สนุกครับ ถ้าจะบอกว่าเป็นเพราะฮอนด้าใช้เกียร์ CVT ผมบอกเลยไม่เกี่ยวที่เคยขับมา มิราจ แลนเซอร์ ก็ CVT แต่ทำเอ็นจิ้นเบรคได้ดีแล้วฉลาดมาก
@@whatsupbiology5310ผมเห็นเขาว่ากันว่ามาสด้าดีเชลแรงกว่า 1.0 ใครเคยใช้ไหมครับอยากทราบ
@@whatsupbiology5310 แรงไม่เท่า 1.0T แต่ไม่ต่างกันมากครับ ถ้าเทียบคะแนนความแรง 1.0T ให้ 10 mazda 2 diesel ให้ 9
มาสด้า ค่าบำรุง อะไหล่ แพง!
เบนซิน ไออีลูป DC DC รวมกัน สามหมื่นกว่า แปดปีพัง ส่วนดีเซล ดูน้ำดัน DPF จิปาถะ
ซิตี้ ไฮบริด แปดปี อินเวอร์เตอร์ แบต จะเท่าไหร่
ผมขายมาสด้า, โตต้าไฮบริด ไปอีวีแล้ว ประกันยาวๆ แค่อย่าใช้ให้พัง แล้วชิงขาย
ตอนขาย ev เห็น ราคารถ 4 ปี วิ่งไป ไม่ถึง แสน มีน้ำตาเล็ด เหมือนกันนะ
ใช้ CX5 ดีเซล ขับ 4 19.6Km/L แต่เจอน้ำดัน ซ่อมไป 25,000++ ผมยังคิดอยู่เลย ว่าคุ้มมั้ย😢
ส่วนตัวไปมาสด้า2แบบไม่ต้องคิดคัป
เพราะฮอนด้าก็คือฮอนด้า
ยังไงครับ ขอ เหตุผลหน่อย // แอด จอน
มาสด้า2น้องที่ออฟฟิศเข้าศูนย์สองสามเดือนที
@@GrahiLaejiรอบครบหมื่นปะครับ😂😂
@@GrahiLaejiโม้
@@GrahiLaejiเช็คระยะ เช็คสภาพรถปกติแหละครับ ผมก็ใช้ M2 เข้าศูนย์6เดือนที
น้องหลังรถนิ่งมากครับ ตั้ลลาก😂
Mazda อะไหล่แพงหายาก เข้าศูนย์ทีรอเป็นอาทิตย์เอาไปทำประการังเลย
สุดท้ายแล้วตอบยากว่าใครจะเซพเงินได้มากกว่ากันถึงแม้ตอนขับเทียบกันแบบนี้จะมีค่าน้ำมันใกล้ๆกันแต่ในระยะยาวฮอนด้าต้องมีเงินเตรียมไว้สำหรับแบตเสื่อมหรืออะไหล่ไฮบริดพัง แต่มาสด้าก็ใช่ว่าจะดีอะไหล่และค่าเช็คระยะแพงกว่าฮอนด้าแถมยังมีปัญหาเป็นบางคันด้วยเจอแจ็คพอตเข้าไปก็ซวย
เรืองแบบนี้ คงต้องพึ่ง ทางผู้ใช้แล้วครับ
ใช่ครับ คนขายก็ขายอย่างเดียวเหมือนขายฝันไปวันๆ
ถ้าได้ขับดีเซลแล้วจะติดใจครับเอาแค่นี้พอ 555 ทำอะไรไปได้เยอะเลยทั้งเทอโบ 1.9 รีแมฟ แต่ถ้าใช้แบบผู้หญิงไปฮอนด้าเถอะครับมันรถทำมาเพื่อสาวๆ สายตึงๆต้องดีเซล
แต่ดีเซล ก็ไม่ประหยัดน้ำมันเท่า กับไฮบริด ครับ
มาสด้า2 ดีเซล อุดตัดจูนแล้วดูแลแบบกะบะครับ แต่ไฮเบริดนี้ดูแลยากตรงนี้ล่ะ@@RideBuster
@@jetlee502 จริงๆ ตัวระบบ ไฮบริดก็แทบไม่ต้องดูแล อะไรเลยนะครับ เหมือนรถยนต์ไฟฟ้า แถม ตอนนี้ ผู้ผลิต มีรับประกันระบบไฮบริเยาวๆ บางราย 10 ปี เลย สบาย
แล้วถ้าหลัง 10 ปีไปแล้วจะเป็นไงบ้างหนอส่วนมากประเทศแถบโน่นใช้แล้วงัดเครื่องขายเชียงกง ตัวถังรีดมาผลิตใหม่ เพราะภาษีรถเก่าแพงมาก มองกลับมาบ้านเราถ้าต้องซ่อมรถไฮบริดที่อายุ 10 ปีไปแล้วต้องใช้เงินกี่บาทมันอาจจะไม่คุ้มจนต้องกลายเป็นเศษเหล็กก็ได้ครับแต่รถน้ำมันต่อให้เก่ามากๆก็ยังดัดแปลงพอใช้ต่อไปได้เรื่อยๆ @@RideBuster
พี่ผู้หญิงอธิบายดีครับ
ขอบคุณค่ะ
คาปา จะพาปวดหัวในอนาคต อันใกล้😅
ทุกอย่าง ต้อง มีการบำรุงรักษา จ้า
เจอ Capacitor ของน้องสองเข้าไป 25,000 ฿ โชคดีที่ซื้อประกัน มาสด้า พรีเมี่ยม5ปีไว้ ตอนนี้ประกันหมดแล้ว เจออีกรอบคงจุกไม่ต่างกับ hybrid เปลี่ยนแบต อาจจะถูกกว่าแต่คงจะถี่กว่า
ปิดระบบหรือถอดออกได้ครับ
ประมาณ 500-1500
7 ปีแล้วครับก็ยังอยู่ดี
@@wiratwattanapunyasiri1176 ถ้า Capacitor เสียมันปิดระบบได้ครับไม่แพงมันมีผลแค่ idle stop ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยใช้กันอยู่แล้ว ส่วน hybrid ถ้าแบตเสียยังไงก็ต้องเปลี่ยนปิดระบบไม่ได้แล้วเกียร์ฮอนด้านี่ผมว่าก็ไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่ จากที่ใช้ civic fc
ฮอนด้าเท่านั้น
ทำไมที่ผมเจอมาไม่ค่อยประทับใจค่ายนี้เลย ตั้งแต่ตอนเด็กที่บ้านแม่ออก city type z ไว้ขับไปทำงานใกล้ๆแต่เวลาต้องขึ้นเขานี่ไม่มีกำลังเลยใช้ได้ไม่ถึง4ปีท่อไอเสียผุ เครื่องเสียงเดิมโรงงานแท้ๆฟิวขาดบ่อยมาก เก่ามาสีพองดูดีๆสนิมมาแผงประตูกรอบแตกหมดทั้ง4บานขนาดว่ารถใช้น้อย 10 ปีวิ่งไปแค่แสนกว่าโลน้ำมันเจอเครื่องเยิ้มอีก เปลี่ยนมาใช้มิราจตัวท็อปมีจอ gps จองช่วงเปิดตัวใช้มาก็10ปีกว่าแล้วเหมือนกันเลขไมล์ก็แสนต้นๆเหมือนกันปัญหาน้อยกว่าเยอะท่อไม่ผุจอgpsก็ยังใช้ได้ปกติแผงประตูก็ยังดีสนิมก็ยังไม่เจอขนาดว่าตอนรับรถยังบ่นๆว่ามันจะงกสีอะไรขนาดนั้นบางจุดไม่พ่นเลยเครื่องไม่มีเยิ้มแถมขึ้นเขามันยังดูมีแรงกว่า city type z 1.5 เกียร์กระปุก มาเจอรถแฟนอีก civic fc 1.8 เร่งแซงแต่ละทีถ้ารอบไม่ถึง4พันรถไม่พุ่งเลยเหยียบมากเกียร์ก็จะพังอีกแถมตอนลงเขาเอ็นจิ้นเบรคก็ไม่มีปล่อยเบรคนิดไหลเลย แร็คพวงมาลัยก็ขับไปเสียวไป หนังหัวเกียร์ก็ลอกง่ายเกิน ฝาท้ายเปิดมาเจอสนิมอีก
M 2 กีเซล ป้ายแดง ไม่มีขายเลยครับ อยากได้มาก
มีครับ แต่ต้องสั่งครับ
ไปสิงในกลุ่ม mazda เห็นราคาอะไหร่กับค่าบริการหนาวเลยครับ😂😂 ราคาคาปาซิเตอร์เป็นหมื่น😂
ตัดระบบทิ้งจบๆนี่จูนปิดหมดแล่ว
@@user-zb7qk4wj7f ตัวดีเซลจุกจิกไหมครับ อยากมีไว้ซักคันเอาไว้วิ่งประหยัดๆ ตอนนี้ขับ navara 11-12 โลลิตร หน้ามืดเลย😂
คาปา เค้าไม่เปลี่ยนกันครับ ปิดระบบ 1200 บาท ถอดออกไม่มีปัญหา แต่ก็ยังมีคนไม่ศึกษาไปเปลี่ยนอยู่
ถ้าไม่ใช้ระบบ istop ก็ถอดออกครับ รถผมก็ถอดออกไม่เคยชอบเลยระบบนี้
เดี๋ยวอีก 30-40 ปี mazda 2 diesel มันจะเป็นของเเรร์ เเล้วก็ไม่มีปั๊มให้เติมน้ำมัน555
ดีเซลไม่มีทางแรร์ รถบรรทุกรถกระบะ รถสันดาปยังจะมีอีกนานในส่วนรถพวกนี้ เผลอๆตลอดไป
รถไฟฟ้าแทนรถดีเซลยากมาก เพราะตลาดกลุ่มนี้ใหญ่มาก มันไม่ได้มีแค่รถเก๋ง
@@bicjabicja2780 ขอบคุณข้อมูลครับ
@@bicjabicja2780 ผมก็ยังไม่ไว้ใจรถไฟฟ้านะ มันชอบมีข่าวว่าไฟไหม้เเบต ขับไปก็ระเเวงว่าจะไฟไหม้ไฟ ไม่มีความสุขหลอก
เครื่องจักรการเกษตรยังเป็นดีเซลอยู่ครับ ยังไงน้ำมันดีเซลก็ยากที่หายไปจากปั้ม ระบบไฟฟ้าก็ไม่ตอบโจทย์ ยากครับที่จะหาอะไรมาทดแทน
อีก 5 ปี ราคาใครแข็งกว่ากัน
คนซื้อมือ2คุ้มกว่า
City ราคาไม่ค่อยตกแรงอยุ่แล้ว คนรอเยอะ
มาสด้า2 ตัวดีเซล ราคามือสองแข็งอยู่นะครับ
mazda 2 ดีเซล มีคนรอช้อนหน้าอยู่ ขนาดที่อู่จีบลูกค้า ถ้าขาย ขายให้อู่ อู่จะหาลูกค้าเอง
มือสองไม่น่าซื้อทั้งคู่/ถ้าพอมีกำลังเอาของใหม่ดีกว่า/ของที่ขายมาเป็นมือสองมันคือของที่ไม่อยากใช้แล้วเจ้าของคิดแล้วไม่คุ้มซ่อมและบำรุงรักษา
ใช้ M2 ดีเซล 2016 อยู่คับ
ก่อนอุดตัดจูนได้ 22 km/l
หลังหมดประกัน อุดตัดจูนแล้ว ได้ 24 km/l
เป็นคนขับแบบตะบี้ตะบัน เพราะรถแรง คล่องตัวมาก
ถ้าเท้าเบา เขาได้กัน 30km/l++ ก็แยะคับ อ่ออีกอย่างน้ำมันดีเซล ถูกกว่า
ขอบคุณ สำหรับ คอมเม้นท์ครับ
ขับไม่เกิน 100 ไม่ต่ำกว่า 80 ผมทำได้ครับ 31km./l ปี16เหมือนกัน อุด ตัด จูน เหมือนกัน วิ่งนอกเมือง/รอบนอก ประหยัดมากๆ
อธิบายละเอียดเกิน ไม่ค่อยเข้าใจ
วนฟังหลายรอบ ได้ครับ
h ทำไม่เสียงห้องโดยสาร ดัง
เป็นเทคโนโลยี นำเสียงภายนอกไปเก็บไว้ภายในห้องโดยสารครับ
พูดตรงๆเลยก็คือ มาสด้าวัสดุภายในดีกว่าและออกแบบการซับเสียงได้ดีกว่า (ยกเเว้นตอนฝนตกนะครับหลังคาดังเหมือนสังกะสีเลย)
@@kornrawitsansri6053ติดแผ่นแดมป์เสียง
ดังจริงวิ่ง 100 นิ่งๆ civic fc เสียงลมเสียงยางดังกว่า mazda 2 diesel อีก
@@Homeless888เดี๋ยว เทคโนโลยีนี้ ไม่น่าจะดีนะ 555
เห็นรถน้ำมันเถียงกันเรื่องประหยัด รถevมองบน
Ev มองบน แต่ ก็ อย่าประมาทำค่าไฟ ขึ้นตลอด และ ระวัง อย่าแบตพังนะ บันเทิง แค่ หนูแทะ ก็กุมขมับแล้วครับ
@@RideBuster บ.ประกันภัยมองล่าง 😅
มาสด้าโคตรแคบ
แคบจริง ถ้าใช้รถนั่งหลายๆคนไม่เหมาะ ถ้าใช้ นั่ง 1-2 คน โอเค
ความจริงเบสิกทั้งสองคัน การเลี้ยงรอบเครื่องยนต์เป็นวิธีที่ทำให้ประหยัดทั่งคู่ ส่วนตัวมองว่าHONDAน่าขับกว่าได้ความทันสมัยไฮเทคกว่า