เอาเงินใส่บาตรได้หรือไม่
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 28 ก.ย. 2024
- เอาเงินใส่บาตรได้หรือไม่ ตอบ..ผิดพระวินัยค่ะ อยากทำให้ถูกต้องเชิญชมคลิปนี้
เมื่อไม่นานมานี้ครูบิ๊กได้มีโอกาสอ่านบทความของท่านอาจารย์ทองย้อย แสงสินชัย ที่เขียนไว้เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2563 ท่านเตือนชาวพุทธว่า “การนำเงินใส่บาตรให้พระนั้น..ผิดพระวินัย” ค่ะ
การทำบุญด้วยเงินที่ถูกต้องที่สุดคือ การไปที่วัดและมอบเงินไว้ให้กับ “ไวยาวัจกร” ซึ่งก็บุคคลที่มีหน้าที่บริหารจัดการเงินทองให้พระ จากนั้นเราก็เขียน “ใบปาวารณา” ว่าได้ฝากเงินทำบุญไว้เป็นจำนวนเท่าไหร่ แล้วค่อยนำใบปาวารณานั้นไปมอบให้พระสงฆ์รูปนั้นได้รับทราบ หากท่านมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินนั้นก็ไปเบิกจากไวยาวัจกร หรือมอบหมายให้ไวยาวัจกรไปซื้อหามาให้ค่ะ
ท่านอาจารย์ทองย้อยเองก็เข้าใจดีว่า การกระทำดังกล่าวอาจจะยุ่งยาก ไม่สะดวกกับโยม ๆ ทั้งหลาย ท่านจึงเสนอวิธีการที่แยบยลและยังถูกต้องตามพระวินัยด้วย นั่นก็คือ “ระบบซองจดหมาย” นั่นเองค่ะ
วิธีการง่าย ๆ หากซองจดหมาย (หรือกล่อง หรือภาชนะอะไรก็ได้) ติดตัว ติดรถไว้ เขียนหน้าซองว่า “เงินทำบุญ” เมื่อสบเหตุที่อยากจะใส่บาตรพระด้วยเงินเมื่อไหร่...ก็ให้หยิบเงินนั้นมา จบอธิษฐานเสียให้เรียบร้อย แต่แทนที่จะนำไปใส่บาตรพระ ให้ใส่ลงในซองนั้นแทน อยากทำบุญอีกก็จบแล้วใส่ซองจดหมายนั้นลงไปอีก ทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งท่านสะดวกและมีเวลาไปที่วัดจริง ๆ ท่านก็นำเงินนั้นไปซื้อของจำเป็นถวายวัด/พระก็ได้ หรือนำปัจจัยนั้นไปถวายพระ/วัดโดยผ่านไวยาวัจกรให้ถูกต้องตามพระวินัย
วิธีนี้เรียกว่า “คลีน” สบายใจด้วยกันทั้งพระทั้งโยมนะคะ
อาจารย์ทองย้อยท่านยังได้ฝากข้อคิดสะกิดใจสำหรับผู้ที่นิยมถวายปัจจัยกับ “พระบวชใหม่” เพราะเข้าใจว่า ศีลของท่านบริสุทธิ์มาก ซึ่งก็จริงค่ะ แต่วินาทีที่ท่านรับปัจจัยจากโยมไป นั่นแหล่ะ...ศีลของท่านเศร้าหมองทันทีค่ะ
ช่วยกันทำบุญให้ถูกต้องกันเถอะค่ะ ไม่ได้ยากเกินไปหากเรามีศรัทธาที่จะสืบต่อพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนจริง ๆ
- เว็บไซต์ของครูบิ๊ก www.teacherbik.com
- Facebook fanpage : / dhammanista
- เชิญบรรยายติดต่อ Line ID : teacherbik
สมัก่อนพระจะมีโยมอุปฐาก จะต้องการอะไร ก็จะบอกกับโยมอุปฐาก แต่ปัจจุบันไม่มี จึงถวายเอง แต่ให้แต่ละครั้งไม่ต้องมาก โดยให้อธิฐานเป็นปัจจัย4
ถ้าไม่สบายใจก็ให้ไปบริจาคที่วัดโดยตรง ทางวัดมีคณะกรรมการดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายภายในวัด เช่น ค่าน้ำ-ค่าไฟ, ค่าก่อสร้าง, ค่าซ่อมแซมต่างๆ หรือหากทางวัดจำเป็นต้องใช้อะไรในโอกาศต่างไป เราก็สามาาถจัดหาสิ่งจำเป็นเหล่านั้นไปส่งให้ที่วัดโดยตรงก็ได้ค่ะ
ท่านจะเอาเงินจากไหนมาเสยค่าน้ำค่าไฟใครจะเป็นผู้เสียใท่านท่านเจ็บป่วยต้องนั่งรถก็ต้องเสียเงินชั่งมันเถอะถือว่าช่วยแบ่งภาระพระละกัน
สาธุค่ะ
เงินๆ ทองๆ ใครๆ ก็ อยากมีอยากได้ ทั้งนั้น .ผู้จะสนับสนุนศาสนาไม่ควรให้ทานนอกปัจจัยสี่ ถ้าให้เงิน มันอาจไปทำลายความเพียรที่ชอบ ของผู้เป็นภิกษุ.ผู้หวังความดับทุกข์..คิดแค่นี้ก็เห็นเหตุและผลแล้วครับ
ในสมัยนี้ พระต้องขึ้นรถ ลงเรือ ไปเรียนหนังสือหรือไปปฎิบัติศาสนกิจนะ คุณต้องเดินสายกลางกันนะครับ อีกอย่าง รถ เรือ อย่าเก็บตังค์พระสิ..คือเอาไปถวายกองกลางที่วัดก็ได้มั้งครับ..แต่ควรให้เป็น คชจ.ท่านบ้าง เพราะต้องมี คชจ.งัยครับ
เหรียญยังมี 2 ด้าน จะสรุปเลยก็จะลำบากท่านนะครับ
ใช่ค่ะพระท่านต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
รถรับจ้างเขาไม่รับพร
นะคะเขารับปัจจัยค่ะ
ความคิดล้าสมัยไปแล้วค่ะเพราะพระบางองค์ไม่ได้มีรถส่วนตัวจะไปไหนมาไหนก็ต้องใช้เงินไหนจะค่ารถ ค่าน้ำ ซื้อยารักษาโรค อย่าคิดกันเยอะเลยค่ะ ไม่ใช่ว่าจะทำบุญกันมากมายอะไรแค่1-2ร้อย ฟังแล้วปวดหัวทำไปเถอะค่ะทำไปแล้วใจเราเป็นสุขก็ทำไปเถอะค่ะ
ถูกต้องค่ะ
พระต้องใช้เงินในการชำระค่ารถในการเดินทาง..ไวยาวัจกรไม่ได้เดินทางไปด้วย..เมื่อห้ามพระจับเงิน...แล้วพระจะชำระค่าเดินทางได้อย่างไร
คลิปนี้มั่นบ้า มั่นทำลายพระสงฆ๊โดยตรง พระเดินทางไกล รถไม่ให้พระนั่งฟรี พระก็ไม่ใช่เหาะได้ ยามเจ็บไข้ ร้านยาก็ไม่ใช่ให้ฟรี
เป็นประโยชน์จริงๆค่ะ
พูดได้ดีมากๆ
ขอบพระคุณมากค่ะ
ตอนผมบวชอยู่ไม่เคยหยิบเงิน และไม่เคยใช้เงินเลยครับ
ไปบวชที่วัดไหน และบวชนานแค่ไหน
มันคนละยุคแล้วสมัยนี้ทุกอย่างต้องใช้เงินบางวัดเขาไม่มีเงินจะจ่ายให้ไปหาหมอ
เพราะมีญาติเตรียมให้พร้อมละซิ เช้าเตรียมอัดแน่นเลย
ประทานโทษ ท่านบวชกี่พรรษา
@@สุริยันโล่มณีรัตน์ 6 พรรษาครับผม
สวดหน้าเมรุ..ใส่หลายรอบมาก..ไม่สมควรแล้วเพราะทำให้พระโลภะได้
อาตมาขออนุโมทนาสาธุ
@@Kehloiu_12345 สาธุเจ้าค่ะ
ก็ดีนะทำบุญให้ทานแล้ว ยังหวังสิ่งตอบแทนอีก
หลวงพ่ออลงกรตก็ยังออกมาช่วยคน
สาธุค่ะ
มันก็ผิดวินัย ปาจิตตีนี้และ
แต่โยมชอบนะ วัดสะอาดดูดี
พระพุทธเจ้าท่านบัญญัติไว้ดีแล้วชอบแล้ว
สาธุจร้า
สาธุครับ
ใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้มันอยู่ที่พระจะเอาไปทำอะไรถ้าพระเอาเงินไปทำในสิ่งที่ดีก็ดีแต่จิตใจพระต้องอย่าเกิด
ความโลภในใจถ้าเกิดมันจะเป็นกิเลสอยากได้อีกเวลาไปบิณฑบาต
อีกครับครับ
ถ้าผืดมีกฐินผ้าป่าได้ไง
ถามหน่อยทุกวันนี้มีเวลารึป่าว
ทุกอย่างอยู่ที่ใจ เพราะเงิน.ซื้อ อะไรต่อมิอะไรก็ได้ แม้แต่อาหาร
ตถาคค...ลดละเลิกกิเลส...จะใส่ได้รึ
ผมถวายเงินสดกับมือหลวงพ่อไปหลายครั้งแล้ว ใส่ในบาตรก็หลายหน ใส่ในย่ามก็ยังเคย ทำไงดีหละทีนี้???
ทำเหมือนเดิมนะดีแล้วพระจำเป็นต้องใช้เงิน ไม่มีอะไรที่บริการพระฟรี ทำตามกำลังเราครับเชื่อตัวเองดีกว่าครับ
เอามาใส่กระเป่าปมดีกว่าครับ
เราเคยใส่ตอนเด็กๆ เเม่ให้ใส่
สวัสดีคะ
เงิน ไม่ใช่ปัจจัยของสงฆ์ ปัจจัยคือ เครื่องนุ่งห่ม อาหาร ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค
แล้วพระใช้เงินไม่ได้ใช่ไหม แล้วมีคนถวายค่าเดินทางไหม เข้าห้องน้ำที่ต้องหยอด แล้วจะเข้ายังไง สายตาสั้นจะตัดแว่นตามาใส่เอาเงินที่ใหนจ่าย
@@mattagorn6105 ก่อนที่จะตั้งคำถามเช่นนี้ ควรที่จะศึกษาเรื่องพระพุทธศาสนาบ้าง ถึงจะไม่มากก็ใก้พอที่จะรู้เรื่องบ้าง ไม่ใช่นับถือศาสนาพุทธเพียงในบัตรประชาชน
ในเมืองคนใส่บาตรเยอะมากครับท่านฉันท์ไม่หมดนม มาม่า ไข่ จะมีร้านค้ามาขอซื้อต่อจากพระก็เปลี่ยนไปเป็นเงินอยู่ดี
พระอาจารย์ทองย้อยคือใครคะ
ใช่ เราก็ไม่รู้จัก
ถวายหลวงพ่อ อลงกรดวัดพระบาทน้ำพุได้บุญล้านเปอร์เซ็นค่ะ
ไม่มีใครมารับแทนพระได้
ถ้าไม่มีปัจจัยมาช่วยหนุน
คุณคงไม่เห็นความเจริญของศาสนาหรอก
ได้ทั้งนั้นคะ อยู่ที่ใจ
พระบางวัดท่านต้องเสียค่าน้ำค่าไฟเองนะ
ภิกษุในธรรมวินัยไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง
พระในกทม. ท่านก็ต้องใช้เงินหลายๆๆอย่างนะ ไปโรงพยาบาลๆก็เก็บค่ายาค่ารักษาโรค ค่ารถแท็กซี่ ค่าน้ำค่าไฟในวัด อาจเป็นบางวัดที่ต้องจ่าย ฯลฯ
ัรึรึธุ
พวกรู้เพียงครึ่งๆกลางๆก็แบบนี้แหละ ยกเอาแต่บริบทของอดีตสมัยมาตัดสินเท่านั้น ไม่ต้องให้ค่า กรุณาพิจรณาและให้ความสำคัญต่อบริบทสังคมปัจจุบันด้วย ถ้าถวายไม่ได้หรือเป็นบาปคงไม่มีทำกันหรอก
มันไม่ใช้สมัยพุทธกาลที่จะไปหาตามต้นไม้
@@chairatkhamlee765 ก็ไม่รู้จริงไงเลยทำตามๆกัน แข่งกันทำบาป ให้พระโลภ
พระสงฆ์ก็ต้องใช้ตังซื้อปัจจัยบางอย่างที่ขาดแคลน
ใช่
บางวัดไม่ใช่มีให้ทุกอย่าง
ผู้เอาเงินใส่บารตต้องตกนรกเพราะส่งแสริมให้คนเข้าไปใช้ผ้าเหลืองหากิน
@@DaDa-ik9fo แค่บางวัด ไม่ทุกวัด
พระที่ท่านไม่รับก็มีครับ
แถวโรงนมหนองโพธิ์
โพธาราม
พระสายป่าที่เคร่งครัด
อีกมากที่ไม่ยอมรับครับ
ผิดข้อไหนบอกให้ชัดเจนด้วยครับ..พระสมัยนี้ท่านต้องใช้เงินครับ
ถ้าผิดก็ให้ชาวไทยเลิกบวชสิครับในครั้งพุธการเขาก็มีการถวายข้าวของเงินทองอยู่นะครับ
มีผู้บรรยายธรรมบางท่าน สถานปฏิบัติธรรมบางแห่ง ชอบพูดทำนองต้องการให้ผู้ฟังมองพระในแง่ลบ แทนที่จะอธิบายว่าสมัยอดีตเป็นเช่นนี้ สาเหตุที่ตัดห้ามเป็นเช่นนี้ และในโลกปัจจุบันมีการยอมรับว่าให้ปฏิบัตเช่นนี้ได้ พูดให้รอบคอบครบถ้วนถึงเหตุถึงผลแบบนี้จึึงจะถูกต้อง แต่กลับมายกคัมภีร์แถมพูดทำนองให้ผู้ฟังเห็นว่าพระปัจจุบันไม่ดี ไม่ถูกต้อง หรืออยากให้คนเบื่่อพระแล้วกลับหันมาทำบุญบริจาคให้มูลนิธิของพวกตัวเองเช่นนั้นเหรอ ขนาดพระไปช่วยน้ำท่วมยังพูดแต่ฝ่ายเดียวคือฝ่ายที่มีมาในคัมภีร์ในอดีตสมัย ไม่พูดถึงปัจจุบันสมัยที่โลกแปรเปลี่ยนไป บทบาทของพระกับการช่วยเหลือสังคม
ถ้าให้เงินพระแล้วสิ่งที่จะเกิดคือ คนให้ตกนรกและพระที่รับก็ตกนรก ลองกลับไปเรียนนะเพราะเปนโทษอย่างแรงถ้าตักบาตรด้วยเงินโปรดอย่าทำเพราะเราจะตกนรกแน่นอน ลองกลับไปเรียนกับผู้รู้เช่น อ.เผดิม นะ
พระไตรปิฏกฉบับหลวง เล่นที่๒ วินัยปิฏก มหาวิภังค์ ภาคที่๒ หน้าที่ ๑๐๘-๑๑๐ ข้อที่ ๑๐๕ ครับ
………………..พระบัญญัติ
๓๗. ๘. อนึ่ง ภิกษุใด รับก็ดี ให้รับก็ดี ซึ่งทอง เงิน หรือยินดีทอง เงิน
อันเขาเก็บไว้ให้, เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์.
……………….
ส่วนพระภิกษุที่อ้างยุคสมัยนั้นคือ ๑.ไม่รู้จริงๆว่าผิด
๒.อ้างเผื่อความสะดวกสบาย หรือลาบสักการะของตนครับ
แบที่ ๑ พอเข้าใจอาจบวชใหม่ แบบที่๒ ะวกทำจนเป็นนิสัย พระเลว พวกโมฆะบุรุษ(บวชไปก็ว่างเปล่า)ครับ
ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วนะคะ ทุกอย่างต้องใช้เงิน
พระพุทธเจ้าตรัสว่า พระวินัยบางข้อ บางอย่างนานไปอาจไม่เข้ากับยุคและสมัย ก็ให้ยกเลิกเสียได้.เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พระมหากัสสปะทำสังคายนาพระวินัยได้บอกว่าพวกเราอย่ายกเลิกข้อห้ามเลยถ้าข้อห้ามนั้นไม่เข้ากับยุคสมัย ให้ผ่อนปรนไปตามยุคสมัยนั้นๆ
ทุกวันนี้มีแต่โลกสมมติค่ะ ไม่มีใครปฏิบัติได้ สังเกตโลก สังเกตุคนทุกวันนี้มีแต่ความวุ่นวาย เกิดจากคนเราผิดศีลผิดวินัย
ตรัสไว้ที่ไหน จากพระไตรปิฏกเล่มไหนหน้าไหนข้อที่เท่าไหร่?
?
เงินที่ญาติโยมสละทานมา เรียกว่า"เงินบุญ" ก็นำไปใช้ในทางที่เกิดบุญ เช่น พระหนุ่มเณรน้อย นำไปเป็นค่ารถ ค่าหนังสือ หรือ พระอาพาธนำไปซื้อยาเฉพาะทาง หรือนำไปเกื้อกูลแก่ผู้ด้อยโอกาส สัตว์ที่เจ็บไข้ได้ป่วย และก็ใช้ในทางที่เป็นกุศลอีกมากมาย..
แต่ผู้ใดใช้ผิดทาง ก็เป็นกรรมของผู้นั้น..
สาธุค่ะ
ทำบุญไม่เห็นจะต้องคิดมากเลยสายธรรมยุตก้อต้องใช้เงินเหมือนกันเป็นค่าพาหะในการเดินทางเวลาใส่ก้อก้อบอกท่านขอถวายเป็นค่าพาหะในการเดินทางจบ
ฉันใส่บาตรอาหารเกือบทุกวันพระ และใส่เงินด้วย เพราะคิดว่าบางทีท่านคงจำเป็น แต่ไม่มาก20-40 และมีครั้งหนึ่งฉันพาแมวไปหาหมอ และพบพระสงฆ์รูปหนึ่งท่านก็พาแมวไปหาหมอเช่นกัน และเห็นค่ารักษาแมวของพระรูปนั้นเป็นเงิน1,800บาทเห็นท่านยิบเงินออกมา มีแต่แบงค์20ทั้งนั้นเลย ท่านบอกกับฉันว่าเป็นเงินที่ญาติโยมใส่บาตรมาให้ฉันคิดว่ายุคสมัยมันเปลี่ยน บางสิ่งบางอย่างมันก็ต้องเปลี่ยนแปรไปบ้าง
สาธุค่ะ
เราก็ใส่บาตรด้วยเงินหรือดอกไม้ประจำ แต่ท่านจะหงายบาตรรับ หรือจะปิดบาตร เราก็วางบนฝาบาตร ไม่ได้ใส่ในบาตร ก็คิดว่าท่านจำเป็นต้องใช้ ค่าน้ำค่าไฟ
ต้องตามพระธรรมวินัยครับไม่คิดส่วนตัว
ถูกต้องครับ ถ้ามีเงินทองมากเกินไป แต่ถ้ามีไว้เพื่อดำรงชีพ ก็คงไม่ผิด พระวินัยกำหนดมาเมื่อกว่า 2,600 ปี ปัจจุบัน กับอดีตไม่เหมือนกันครับ อดีตกาล มีโยมอุปฐาก พระไปไหนก็จะมีโยม คอยดูแล ปัจจุบัน วัดไม่มีเหลือแล้วครับ พระบนเขา จะไปหาหมอในเมือง ต้องจ้างรถสองแถว ไม่มีใครมาทำกับข้าวให้ ถวายพระ โดยไม่คิดปัจจัย ปัจจุบันมีความจำเป็นต้องใช้ แต่เพื่อดำรงชีพ ลองไปศึกษามหาปเทส 4 ดูครับ
ใช่
ทำไม่ได้หรอกเห็นนิมนต์พระมาทำบุญบ้านก็ต้องถวายซองทุกที่แหละสวดงานศพก็ใส่ซองและชิ่งเป็นพระมียศก็ถวายปัจจัยเยอะมากมีการจำกัดด้วยไม่เห็นมีใครไม่ให้เงินเลย
เอาเงินใส่บาตรพระอยู่บ่อยๆ..
..ทำแล้วสบายใจเพราะเป็นเงินที่ได้มา
โดยสัมมาอาชีพที่สุจริต..ชีวิตมีความสุขตามอัตภาพ..ถ้าโลกหน้าจะตกนรก
ก็แล้วแต่...อายุ..วัณโณ.สุขัง.พะลัง.สาธุ..
แล้วไวยาฯ มุบมิบเอาเงินนั้นไปล่ะจะทำอย่างไร แล้วในขขณะที่พระเดินทางแล้ว เจ็บป่วย จะทำอย่างไร
ให้เดินสายกลางครับพระยังกินนํ้ากินข้าวขึ้นรถข้าว
ขึ้นรถไปไหน
พระใน.. กทม.ท่านมีค่าใช้จา่ย.วัดท่านยุ่ลึก
ออกมาต้องจา้ง.มอไซร์ออกมา.วันละเป็นร้อย.เราใส่ทุกวัน.สงสารท่าน
ไม่ว่าเราจะทำบุญด้วยเงินหรือว่าสิ่งของหรืออะไรก็ได้ ทั้งที่ใจเราอยากจะทำ บริสุทธิ์ใจ มันก็คือบุญหมดล่ะครับ ฝากไว้ให้คิด
ท่านไม่ได้ห้ามไม่ให้ทำบุญด้วยเงิน แต่ท่านห้ามไม่ให้เอาเงินใส่บาตรพระ เพราะบาตรพระเอาไว้ใส่เฉพาะอาหารที่ฉันได้เท่านั้น และต้องเป็นอาหารที่พร้อมจะฉันได้ ไม่ต้องไปต้มแกง เพราะพระไม่สามารถหุงหาอาหารบริโภคเองได้ ผิดพระวินัยครับ เพราะฉะนั้นการใส่บาตรด้วยข้าวสารอาหารแห้งก็ไม่ถูกต้อง ความจริงพระก็ควรจะบอกกล่าวให้ญาติโยมได้ทราบ เพราะโยมก็ไม่รู้พระวินัยของสงฆ์
ขออนุญาตเล่าถึงประสบการณ์ที่เจอเมื่อข้าพเจ้าไปเที่ยวจังหวัดเลยพักหนึ่งคืนในตอนเช้ามีพระสามรูปเดินอุ้มบาตรผ่านมาข้าฯและเพื่อนจะพากันใส่บาตรด้วยเงินเนื่องจากไม่ได้เตรียมอาหารไว้พระรูปหนึ่งพูดว่า"อาตมาไม่รับปัจจัยพระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ให้รับเฉพาะอาหารเท่านั้นโยมเอาเงินไปใช้เลยเป็นบาปทั้งผู้ให้บาปทั้งผู้รับ"ตั้งแต่นั้นมาข้าฯก็ไม่ได้ใส่บาตรพระด้วยเงินอีกต่อไป
ทุกวันนี้เห็นแต่คนทำบุญใส่บาตร ใส่เงิน พระก็ไม่เห็นปฏิเสธ
ผิดจริงตามพระคัมภีร์ แต่ไม่ได้ร้ายแรง คอขาดบาดตายถึงขั้นต้องขาดจากควาามเป็นพระไปหรอก ถ้าอธิบายถึงเหตุถึงผลของวินัยข้อนี้ว่า ในอดีตสมัยเป็นเช่นนี้ ในบริบทปัจจุบันเป็นเช่นนี้ ข้อดี ข้อเสียให้รอบคอบคุมหลายๆด้าน ไม่ใช่จะว่าเพียงแค่นี้ ถ้าเป็นแบบนั้นก็แสดงว่ารู้เพียงแค่หลักพระวินัยที่จาารึกตามพระคัมภีร์เท่านั้น ส่วนเงื่อนไข กติกา ข้อยกเว้น ข้ออนุญาตไม่รู้เรื่องเลย
ลำบากใจจริง หมา20แมว30 เดือนนึง12000 ไม่เคยได้เงินจากส่วนกลางสงฆ์เพราะไม่มีส่วนของหมาแมว เงินได้จากกิจนิมนต์และบิณฑบาตร
ไวยาวัจกรแค่สมติขึ้นมาใหม่ในคั้งพุธการเขาก็ถวายกับพระเคยศึกษาอยู่บ้างครับ
ใส่บาตรหน้าบ้านทุกวันแล้วแบงค์20บาททุกครั้งเพราะคิดว่าพระต้องใช้เงินเวลาจำเป็นคะ
ใช่ค่ะพระท่านก็ต้องใช่เงินเหมือนกันและอีกอย่างทำงานกลางคืนตื่นไม่ทันเราก็จะไปหาทำตามวัดยริจาคใส่ตู้บ้างซื้ออาหารปลาบ้างแบบนี้ค่ะ
ไม่ตรงในระบบในนั้นอีกนิดเดียวใน2ข้างนั้นมีเเยกครับ
ถูกต้องค่ะ
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ สาธุ
ตอนผมบวชใหม่ออกมาจากโบสถ์คนใส่เงินในย่ามในบาตรหลักหมื่นผมไม่เอาสักบาทถวายต่อใหัวัดหมดเลยนะ หลายรูปวันนั้นรวย 5555
อนุโมทนาในการบวชของท่านในครั้งนั้นด้วยค่ะ
พวกรับตังแทนพระนี่แหละไว้ใจไม่ได้
การตัดสินพระธรรมวินัยต้องคำนึงถึงหลักของมหาปเทศ 4 ไม่เถียงครับ ในพระไตรปิฏกก็กล่าวไว้ แต่ก็มีข้อสนับสนุนให้ทำได้ ในครั้งพุทธกาลสามพันปีมาแล้ว โลกและสังคมแตกต่างกัน ถ้าไม่ถูกต้องชอบธรรมแล้ว ไม่นิยมกันทำหรอก บางอย่างไม่ถูกต้องในอดีต แต่ปัจจุบันยอมรับว่าถูก ประเด็นนี้ต้องพูดให้หมด ถ้าจะพูดเพียงครึ่งๆกลางแบบนี้ยังไม่สามารถมาตัดสินได้ ถ้าจะถวายแก่หมู่่ภิกษุสงฆ์ที่ไม่ได้ใช้ เช่น พระป่า พระกรรมฐาน แบบนี้ไม่ควรเพราะอาจนำภัยอันตรายมาสู่ท่านได้ ถ้าเป็นพระที่อยู่กับชาวบ้าน ก็ถวายได้ไม่ผิด เพราะมันจำเป็นต่อท่าน ถวายกับพวกพระป่าไม่ควร ควรถวายแก่พระที่อยู่ในบ้านในเมือง จะบอกว่ากรุงเทพเท่านั้นเป็นประเทศไทยจังหวัดอื่นไม่ใช่ แบบนี้ตอบไม่หมด ไม่ครบถ้วน
ให้อะไรได้ก็ให้ ทำแบบสุดยอดเลย รักพระมากสวยงาม อาหาร ทุกอย่าง
พูดยากครับ หลวงตาก้อเป็นพระ แล้วทำมัย ไปหาหมอพระยังต้องเสียเงินครับ ขึ้นรถก้อเสีย
ใช่ค่ะไม่เถึยงว่าผิดวินัยเห็นที่ไหนถวายท่านก็มีต่าใช้จ่ายมีค่าน้ำค่าไฟฟ้า
ตีความพระวินัยผิด
คำว่าชาตรูปรชตะ = Gold, Silver, รวมถึง Jiwery อื่นๆ อีก
ส่วนปัจจัยหรือธนบัตร = กัปปิยะ แปลว่าของคู่ควร
ดังนั้นจึงไม่ผิดพระวินัย แต่พระภิกษุไม่ควรเก็บสะสมไว้มาก เพราะทั้งอันตรายจากโจรและความโลภคือกิเลสของตัวเอง
หากเป็น *กัปปิยะ* ย่อมไม่ผิด
หากผิดต้องเป็น *อกัปปิยะ*
นี่มัน สมัยให้แล้ว พิจารณาด้วย
เป็นกำลังใจให้ผู้ทำclipนะครับ พระวินัยบัญญัติไว้ชัดเจน ธรรมดาโลกครับสิ่งที่ถูกต้องมักไม่ถูกใจ(ไม่ถูกจริตกิเลสโยมๆทั่งหลาย😁)
ขอบพระคุณมากค่ะ สำหรับกำลังใจดี ๆ สาธุนะคะ
ถูกต้องครับ ภิกษุสมัยนี้ตะแบงวินัยกันมาก โยมก็ไม่รู้วินัย ภิกษุก็ไม่ค่อยรู้หรือแก้ไม่รู้วินัยสงฆ์
ภิกษุต้องไม่สะสมเงินทองเป็นการส่วนตัวเพราะเงินทอง และสีกาคืออสรพิษ หรือข้าสึกของภิกษุ ทำให้เกิดกิเลส ตัณหาตามมาโดยไม่รู้ตัว ภิกษุต้องสละเงินทองทันทีไม่นำเข้ามาสู่ตัว ภิกษุดำรงชีพด้วยการขอ คือออกบิณฑบาตหาเลี้ยงชีพ และรับสิ่งของพอเต็มบาตรแล้วกลับวัด ถวายภิกษุด้วยปัจจัยสี่เท่านั้น
นอกนั้นไปจัดการในส่วนรวมโดยไวยาวัจกร และคณะกรรมการวัด
ภิกษุเป็นผู้ละออกจากครัวเรือนเพื่อมาศึกษา ปฏิบัติธรรม และสั่งสอนธรรม มีหน้าที่หรือกิจ ตามกิจของสงฆ์ ตามพระธรรมวินัย เท่านั้น อย่าออกนอกพระธรรมวินัย อย่าตู่คำสอนของพระพุทธเจ้า ต้องรักษาพระสัทธรรมไว้ให้คงมั่น ยั่งยืน
ที่ทราบมาเงินวัดหายเยอะแยะเคยขึ้นรถกระเป๋ารถเมล์เก็บเงินพระเคยไปทานอาหารที่ร้านค้า พระ ต้องจ่ายค่าอาหารฟังและพูดไม่ออกเลยค่ะ
เณรต้องไปโรงเรียนต้องใช้เงินถ้าไม่รับเงินเณรจะไปเรียนได้ไงต้องจ่ายค่ารถ
สมัยนี้ต้องเว้นบ้างครับของฟรีไม่มี
ใส่เงิน ผิดพระวินัย แต่ได้กุศลหรือไม่ เพราะทุกวันนี้เห็นใช้แต่เงินสร้างโน่นนี่ หรือชำระหนี้ค่าน้ำค่าไฟ ฯลฯ หนือค่าเดินทางของพระ เป็นต้น
แถวบ้านผมก็ใส่เงินครับเพราะพระที่มายังเด็กยังต้องไปเรียนหนังสืออยู่และต้องใช้เงิน
พระคือคนที่ตัดจากกิเลสทั้งปวงคนที่บวชพระก็ต้องรู้ว่าจะต้องปฏิบัติตัวต่างจากคนทั่วไปอยู่แล้ว แต่ถ้าคิดว่ายังอยากใช้ชีวิตปรกติกินสามมื้อมีเงินทองใช้จ่ายตามสบายคือถ้ายังปฏิบัติตัวเหมือนชาวบ้านก็อย่าบวชเลยชาวบ้านเขาจะหมดศรัทธาเอา ทุกวันนี้ชาวบ้านจะยกมือไหว้พระยังต้องพินิจพิจารณาว่าพระปฏิบัติดีรึป่าวเพราะเขาไม่อยากกราบไหว้คนห่มเหลืองหาเงินเพื่อเก็บสะสมสรุปเงินคือชี้ให้คนเห็นว่าพระรูปไหนคือพระจริงพระปลอมเพราะถ้าพระยังสะสมทรัพย์กินสามมื้อมีโลภโกรธหลงก็อย่าบวชเลย และถ้าสำนักพระพุทธศาสนายังไม่แก้ไขเรื่องคัดคนมาบวชก็อย่าไปโทษชาวบ้านเลยที่เขาไม่อยากเข้าวัดและเสื่อมศรัทธาในนักบวช
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
พูดยาวไป อทิบายสั้นๆ ไม่ยาวมาก
เข้าใจง่ายๆ ยุคสมัยมันเปลี่ยน เรา
ทั้งหลายก้ควรเปลี่ยน ปรับ ให้สมดุลกัน บางอย่างพระท่าน พูดไม่ได้ บอกไม่ได้ พุดแล้วก้อาบัติออก
เพราะมันเป็นเรื่อง เงินๆทองๆ ทำตามสมควร ก้สมควร ครับ ทั้งพระ
ทั้งยม ไม่น่าเกลียดขนาดนั้น
ทุกๆอย่าง มันยุ่ที่จิตใจ กับ เจตนา
ท่านพิธีกรคะพระบางรูปมีเงินเดีอนดัวยคุะ
พูดอ้อมค้อมน้ำมากกว่าเนื้อหาสาระ
ขอบพระคุณที่ชี้แนะข้อบกพร่องค่ะ
อยู่อเมริกา การเดินทางไปวัดไกลจากบ้าน ทำอาหารก็เหลือเฟือ ฉันท์ไม่ไหว ทำก็ไม่สะดวกเหมือนไทย บางทีก็ใส่อาหารแห้ง ก็ใส่เงิน เพื่อความสะดวก แต่บนโบสถ์ มีตู้บริจาค เขียนว่าภัตราหาร , ค่าไฟ ค่าน้ำ ฯลฯ
ให้พระตมยาหม้อฉันรึให้พระเดี นไปหาหมอรึ
เดินสายกลาง และให้ปรับเข้ากับยุคสมัย ใครเข้าใจยังไงก็เข้าใจไป ไม่เลวร้ายถึงขั้นปราชิก 4
เคยใส่20 เพราะคิดว่า เป็นเงินของเรา และเมื่อเสียชีวิตไป เราก็ไปรับ คืน ใช้เป็นการเปิดทางให้เราเอง
สาธุค่ะ
พระจะรับเงินไม้ได้ มีจะบาปกรรม มากเลย
ขึ้นอยู่กับโยมเพราะโยมเป็นผู้อุปถัมภก์ หมายรวมถึงรัฐบาลด้วย พระราชาด้วย อย่างเช่นยศต่างๆ ที่พระมีก็มาจากโยม เงินนิตยภัตติก็มาจากรัฐบาล เรียนหนังสือก็เสียค่าเทอม แล้วโยมจะไปเสียค่าเทอมให้พระก็ไม่มีเวลา เพราะต้องทำมาหากิน กิเลสมีทุกคน ดีชั่วอยู่ที่ตัวเรา โลกใบนี้ล้วนสมมุติ ศรัทธาหรือไม่ศรัทธาอยู่ที่ตัวเรา เห็นพูดกันมามากแล้ว รัฐบาลถวายผ่านบัญชีธนาคาร สรุปแล้วก็ช่วยกันดูแลกันทั้งพระทั้งโยมนั่นแหละเอาพอเป็นไปได้
ท่านจะรับหรือไม่มันยู่ที่ท่านต่างหากบางท่านจำเป็นท่านต่องใช้
โยมพึ่งพระพระก้อพึ่งโยมยิ่งโควิดอาหารที่จะบิณฑบารตมาก้อได้น้อยยิ่งช่วงโควิดยิ่งแย่ใหญ่ค่านำ้ค่าไฟก้อต้องจ่าย
พระก็ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟสมัยพุทธกาลไม่มีน้ำไฟก็ไม่ต้องใช้จ่ายอะไร
วัดใกล้ๆบ้านที่สุด จะมีเจ้าหน้าที่วัดมาเก็บค่าน้ำค่าไฟกับพระสงฆ์ที่อาศัยอยู่ในวัดค่ะ พระป่วยท่านอยากไปหาหมอก็ไม่มีค่ารถค่ะ
บางคนไม่มีเวลา ก็ต้องใชเงิน ใส่บาตร
พระสามเณรโดยเฉพาะบ้านนอกต้องใช้เงิน ไม่ได้มีไวยาวัจกร จัดการให้ คนไม่เข้าใจวินัยที่แท้จริงมาพูดไปเรื่อยนะ
ไปใส่บาตรพระตอนเช้ากำลังเอาอาหารข้าวอาหารคาวหวานใส่ถุงเพื่อจะใส่ลงบาตรปรากฎว่าพระเอาบาตรหนีไม่ยอมรับของที่เราใส่จะเพราะพระเห็นว่าในถุงไม่มีเงินงงมากๆก็เลยถามพระว่าเอาบาตรหนีทำไมพระไม่ตอบก็เลยบอกว่าไม่มีเงินใช่ไหม
อยู่ที่ศรัทธาของตัวเรากับธรรมพุทธเจ้าเพราะทุกอย่างไม่มีสิ่งแน่นอน
หลักของพุทผิดแน้นอน
มันแก้ยากแล้วค่ะคุณ🙏🙏🙏
ไส่ได้ครับพระจะได้ใช้เงิน
เป็นพระก็ต้องใช่เงินครับ จำเป็นครับ สายวัดป่าเห็นสาวนใหญ่จะไม่แตะต้องเงิน จะเอาเป็นกองกลาง พระรูปไหนจำเป็นต้องใช้จ่ายจะมาเบิกเป็นการนั้นไปครับ
ปัญญาประเสริฐสุดในโลก ใช้เปนเกิดประโยชน์สุด
ส่วนใหญ่
พระรับ
ส่วนน้อย
หรือหาไม่เจอ
ที่จะไม่รับ
อย่ายึดติด
โยมสมัยนี้
ก้อไม่ตักบาตร
เยอะเหมือนสมัยก่อน
แต่โบราณ....
เงิน..
คือปัจจัยสำคัญสุด
ยา.. อาหาร.. ค่ามือถือ
ค่าน้ำไฟ.. ทำบุญต่อบุญ
ให้พ่อแม่ที่ไม่มีใครเลี้ยง
ไม่ประสงค์ทำส่วนรวม
ต้องการถวายส่วนตัว
ไวยาวัจน์กร.. โกงพระโกงวัดก้อมี.. คงไม่.. ถวายบ่อยๆหรือมากๆ.. ให้.. ท่านหรอก
ถวายได้ก้อไม่เกินหลัก100
อย่ายึดติด.. ทำแล้ว
เราสบายใจก้อ.. "ทำ"
ตามสมควรครับยุคสมัยนี้ เงินคือของไม่บูดไม่เน่าครับ ก็อยู่ที่เจตนาที่พระจะไปใช้แบบไหน
ถูถต้อง
โย ปน ภิกฺขุ ชาตรูปรชตํ อุคฺคณฺเหยฺย วา อุคฺคณฺหาเปยฺย วา อุปนิกฺขิตฺตํ วา สาทิเยยฺย นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ ก็ภิกษุใด รับเองก็ดี ใช้ให้ผู้อื่นรับก็ดี ยินดีเงินและทองที่เขาเก็บไว้เพื่อตนก็ดี ภิกษุนั้นต้องนิสสัคคิยะ ปาจิตตีย์. ที่มาวินัยปิฏกเล่มที่๒
ขออนุญาติค่ะพระสมัยนี้งานศพยังเลือกคนจนคนรวยเลยค่ะ
นาบุญ..จิตมีกิเลส...เป็นนาบุญรึ..สุปฏิปันโน..อุชุปฏิปันโน....ญายะปฏิปันโน...สามีจิปฏิปันโน....อย่าอ้าง...ขัดง้ากับ...ตถาคต..รึ..ผิดจากผู้ไกลจากกิเลส
ตาปิ ยาว ภิกฺขุํ วา ปฏิชานาติ น วุฏฺฐาติ วา น เทเสติ วา ตาวเทว น ตโต ปรนฺติฯ อาบัติที่ภิกษุแกล้งต้องแล้ว แม้เหล่านั้น ย่อมทำอันตราย ตลอดเวลาที่ภิกษุผู้ต้องอาบัติปาราชิกแล้ว ยังปฏิญญาความเป็นภิกษุอยู่ ผู้ต้องครุกาบัติที่เหลือแล้ว(สังฆาทิเสส) ยังไม่อยู่กรรม ผู้ต้องลหุกาบัติแล้ว( ทุกกฏ, ปาจิตตีย์เป็นต้น)ยังไม่แสดงอาบัติเท่านั้น ต่อแต่นั้นไป หาทำอันตรายไม่. ที่มามังคลัตถทีปนีเล่มที่๑
เอาเงินใส่บาตร. (ผิดกฏ.จริง..) พระเจ้ามีเอาไว้ว่า.... ไม่ยีนดีกิน... ไม่ยีนดีเงินทอง... ไม่ยีนดีรวย.. (สระมดแล้ว)... (แต่เราอยากทำบุญ.... เท่านั้น...
ฟังพูดดูง่าย แต่ปฏิบัติไม่เห็นเหมือนพูด ทำบุญทุกอย่างก็ต้องถวายซองทั้งนั้น
ใช่ ทุกอย่างอยู่ที่เจตนาจริงๆ
เงินก็ไม่ใช่มาก ฝากไว้กับไวยา
อีกเห็นเงินพระก็จะตั้งตัวเป็น
เจ้าพ่อ เผลอๆ ทำตัวใหญ่กว่า
พระอีก มีเรื่องเป็นตัวอย่างมามาก
พระต้องเดินทางค่ะ ท่านก็ต้องใช้นะค่ะ
ได้พันเปอเช็นเพราะพะเป็นคนเขาตอ่งไช้เงินถ้าไม้ไส่เงินจะไม้มีคนบวดไปดูตามบา้นนอกแต่ละวัดมีพะกี่องเกิดชาตน้าก็จะมีเงินไช้สมัยพุทเจ้าไม้จำเป็นกับเงินแม้แต่ชาวบา้นเขาไม้ไช้เงินของทุกย่างปูกกินเอง
ไปวัดทำบุญ ญาติโยมไม่ได้ถาม พูดรายละเอียด มากมาย ขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่ ยกมือท่วมหัว อนุโมทนาสาธุ ค่ะ ขอบคุณ ค่ะ